/ รักโบราณ / ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้ / แอบบำรุงร่างกายคนในครอบครัว

공유

แอบบำรุงร่างกายคนในครอบครัว

작가: 橙花
last update 최신 업데이트: 2025-02-25 13:44:23

หลายวันต่อมา จูฉิงอันตื่นแต่เช้ามืดก่อนที่ท้องฟ้าจะสว่าง นางเตรียมตะกร้า เชือก และมีดเล็กๆ อย่างเงียบเชียบที่สุด ร่างบางก้าวออกจากบ้านด้วยฝีเท้าที่ระมัดระวัง นางไม่อยากให้แม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่ที่อยู่เรือนใหญ่รับรู้ถึงสิ่งที่นางทำ

“ถ้าพวกเขารู้ว่าข้าหาเงินได้...ทุกอย่างที่ข้าเหนื่อยยากคงต้องตกเป็นของพวกเขา” นางคิดในใจ ขณะเดินลัดเลาะเส้นทางเล็กๆ ที่นำไปสู่ป่าลึก

ในป่าที่เงียบสงบ จูฉิงอันยังคงใช้ความรู้ในภพก่อนอย่างชำนาญ เก็บสมุนไพร เห็ดป่า และผลไม้ที่มีมูลค่า แต่ครั้งนี้นางไม่เก็บมามากจนเกินไป

“หากข้าเก็บของกลับไปมากเกิน อาจเป็นที่สงสัยได้” นางพึมพำกับตัวเอง นางเลือกเก็บเฉพาะของที่สามารถนำไปขายได้ราคาและมีน้ำหนักเบา เพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกต

บางครั้ง นางแวะริมลำธารเพื่อดื่มน้ำจากแหล่งน้ำใสสะอาด และใช้เวลาสั้นๆ ตรวจสอบความสมบูรณ์ของต้นไม้และพื้นที่ใกล้เคียง

หลังจากเก็บของป่าจนพอใจ นางมุ่งหน้าไปอำเภอไห่ตงด้วยเส้นทางที่เงียบสงบและไม่พลุกพล่าน นางเลือกเดินตามทางที่ร่างเดิมของนางเคยจำได้ เพื่อลดโอกาสพบเจอผู้คน

เมื่อถึงตลาดในอำเภอ นางขายของป่าเหล่านั้นให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่เคยพบกันก่อนหน้า ด้วยท่าทางที่เป็นมิตรและราคาที่เหมาะสม นางสามารถขายของป่าได้ในราคาดี

“เด็กคนนี้เก่งนะ เก็บของป่าคุณภาพดีมาขายได้ทุกวัน” พ่อค้าคนหนึ่งพูดชม ขณะจ่ายเงินให้นาง

จูฉิงอันเพียงแค่ยิ้มรับ แต่ไม่ได้พูดคุยมากนัก นางไม่อยากให้ใครจำตัวตนของนางได้มากเกินไป

หลังจากได้เงินจากการขายของป่า นางรีบซื้อข้าวสาร เนื้อสัตว์ และผักสด โดยเลือกซื้อในปริมาณพอเหมาะ นางรู้ว่าหากนำของกลับไปมากเกินไป แม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่อาจสังเกตเห็นความผิดปกติ

เมื่อกลับถึงบ้านในช่วงเย็น นางเลือกที่จะหลบเข้าทางหลังบ้านเพื่อไม่ให้ใครเห็นว่าตะกร้าของนางมีอะไรอยู่บ้าง

“วันนี้เหนื่อยหน่อย แต่ก็คุ้มค่า” นางบอกกับตัวเอง ขณะจัดเก็บอาหารและเสบียงอย่างเงียบๆ

ในทุกๆ วัน จูฉิงอันต้องใช้ชีวิตเหมือนเดินอยู่บนเชือกเส้นบางๆ ระหว่างความลับและการเปิดเผย นางรู้ดีว่าแม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่เป็นคนละโมบและโหดร้าย หากพวกเขารู้ว่านางสามารถหาเงินและอาหารมาได้เอง ทุกสิ่งที่นางเหนื่อยยากหามาคงถูกพวกเขายึดไปจนหมด 

ทุกเช้ามืด ก่อนที่ใครในเรือนใหญ่จะตื่น จูฉิงอันจะลุกจากที่นอนอย่างเงียบเชียบ นางเตรียมตะกร้าและเครื่องมือที่ใช้เก็บของป่าล่วงหน้าในคืนก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงดังที่อาจปลุกคนในบ้าน

นางเลือกใช้เส้นทางด้านหลังบ้านที่รกร้างและไม่มีใครผ่านไปมา เพราะรู้ดีว่าหากเดินผ่านเรือนใหญ่ แม่เฒ่าจูหรือจูฉางไห่อาจมองเห็นและตั้งคำถาม นางเดินออกจากบ้านด้วยฝีเท้าที่เบาราวกับแมว และไม่เคยลืมที่จะปิดประตูอย่างระมัดระวัง

เมื่อกลับมาจากป่า ตะกร้าของนางมักเต็มไปด้วยสมุนไพร เห็ดป่า และผลไม้ต่างๆ นางจะเดินอ้อมไปยังด้านหลังบ้านและซ่อนตะกร้าในที่ที่แม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่ไม่มีทางหาเจอ เช่น ในพุ่มไม้หนา หรือใต้หลังคาดินที่แตกแล้ววางซ้อนกัน

หลังจากนั้น นางจะทยอยนำของเข้าไปในบ้านทีละเล็กทีละน้อย เพื่อไม่ให้ดูเป็นที่ผิดสังเกต ทุกอย่างที่นางนำกลับมาจะถูกจัดเก็บอย่างมิดชิด โดยเฉพาะอาหารดีๆ อย่างเนื้อสัตว์และข้าวสาร

จูฉิงอันรู้ว่าหากครอบครัวของนางกินอาหารดีเกินไปจนผิดปกติ แม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่อาจสังเกตเห็น นางจึงวางแผนการใช้ทรัพยากรอย่างรอบคอบ อาหารบางส่วนจะถูกปรุงอย่างเรียบง่ายเพื่อไม่ให้มีกลิ่นหอมจนดึงดูดความสนใจ

ในบางวัน นางกับหลินอ้ายจะทำทีว่ากินเพียงผักธรรมดา แต่ความจริงแล้วเนื้อและข้าวดีๆ ถูกแบ่งซ่อนไว้ในส่วนอื่นเพื่อบำรุงร่างกายของจูฉางหยูและน้องชายทั้งสอง

จูฉิงอันพยายามไม่ปรากฏตัวในบริเวณเรือนใหญ่หากไม่จำเป็น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่แม่เฒ่าจูและจูฉางไห่มักเดินตรวจตรา นางเลือกทำงานที่บ้านหรือในบริเวณที่มีร่มเงา เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า

ในบางครั้ง หากต้องพบพวกเขา นางจะแสร้งทำเป็นอ่อนแอและป่วยหนักเพื่อไม่ให้พวกเขาสงสัยในความสามารถของนาง

เสียงฝีเท้าหนักๆ หรือเสียงพูดดังของแม่เฒ่าจูและจูฉางไห่ทำให้นางต้องตื่นตัวอยู่เสมอ หากพวกเขาเข้าใกล้ นางจะรีบเก็บทุกอย่างที่อาจเป็นหลักฐานว่าครอบครัวรองมีอะไรดีไปกว่าที่พวกเขารู้

แม้แต่การพูดคุยในครอบครัว นางก็เตือนแม่และน้องชายว่าอย่าพูดถึงของที่นางนำมาในที่ที่พวกเขาอาจได้ยิน

แม้ว่าการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังจะเป็นเรื่องเหนื่อยล้า แต่นางกลับไม่เคยท้อถอย ความรักที่นางมีต่อครอบครัวและความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ

“ข้าจะไม่ยอมให้พวกเขาทำลายสิ่งที่ข้าสร้างขึ้นมาอีกต่อไป” นางคิดในใจทุกครั้งที่รู้สึกหวาดกลัว

ทุกคืนก่อนเข้านอน นางจะตรวจสอบอาหารและสิ่งของที่สะสมไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างยังอยู่ครบและไม่มีใครล่วงรู้ถึงความลับนี้

“วันหนึ่ง...ข้าจะพาทุกคนออกจากที่นี่ และเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป” นางพูดกับตัวเองในใจ พร้อมทั้งสัญญาว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องครอบครัวจากเงื้อมมือของแม่เฒ่าจูกับจูฉางไห่

หลายวันผ่านไป หลังจากที่จูฉิงอันเริ่มนำอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมาบำรุงให้ครอบครัว จูฉางหยูที่เดิมทีร่างกายซูบผอมและเต็มไปด้วยบาดแผลจากการถูกทำร้ายและการล่าสัตว์ก็เริ่มมีอาการดีขึ้นทีละน้อย 

ทุกวัน จูฉิงอันจะเลือกส่วนที่ดีที่สุดจากสิ่งที่นางหาได้ ไม่ว่าจะเป็นปลาสดจากลำธาร เนื้อสัตว์คุณภาพดี หรือสมุนไพรที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายมาปรุงอาหารให้บิดาของนาง

“ท่านพ่อควรกินเนื้อต้มกับสมุนไพรนี้ก่อน ร่างกายจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น” นางพูดพลางตักซุปใส่ถ้วยเล็กๆ แล้วยื่นให้จูฉางหยู

กลิ่นหอมอ่อนๆ ของซุปสมุนไพรผสมกับเนื้อทำให้จูฉางหยูรู้สึกดีขึ้นทันทีหลังจากดื่มคำแรก แม้ว่าเขาจะยังพูดไม่ได้มากเพราะบาดแผล แต่สายตาที่เปล่งประกายขึ้นบ่งบอกว่าเขารับรู้ถึงความรักและความตั้งใจของลูกสาว

ร่างกายของจูฉางหยูที่เคยอ่อนล้าเริ่มมีแรงมากขึ้น เขาสามารถลุกขึ้นนั่งเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาหลินอ้ายหรือจูฉิงหยางช่วยพยุง แม้จะยังเดินไม่ได้ แต่สีหน้าของเขาดูสดใสขึ้น

“ท่านพ่อ วันนี้ดูดีขึ้นมากเลยเจ้าค่ะ” จูฉิงอันกล่าวพลางยิ้มบางๆ ขณะเช็ดเหงื่อให้เขา

“ก็เพราะเจ้ามิใช่หรือ? ลูกข้า” จูฉางหยูตอบเบาๆ น้ำเสียงแฝงความรู้สึกขอบคุณ

ไม่เพียงแต่อาหารที่ช่วยให้ร่างกายของจูฉางหยูดีขึ้น แต่กำลังใจจากครอบครัว โดยเฉพาะจูฉิงอันที่คอยอยู่เคียงข้างและดูแลเขาไม่ขาดสาย ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เขามีกำลังใจต่อสู้กับความเจ็บปวด

ในบางวัน จูฉิงอันจะเล่าเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นางพบเจอในป่า หรือบอกเล่าถึงแผนการทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น

“ข้าสัญญา ท่านพ่อ...ไม่นาน ครอบครัวเราจะต้องหลุดพ้นจากความทุกข์นี้” นางพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   แคว้นหมิงเจริญรุ่งเรือง

    หลังจากต่างคนต่างอวดเรื่องของขวัญกันได้อีกพักใหญ่ หวางกงกงก็เชิญทุกคนไปร่วมรับประทานอาหารก่อนจะแลกของขวัญกันและมอบซองแดงให้เด็กๆ ที่ต่างเล่นเครื่องเล่นกันจนเหงื่อเต็มตัวไปหมดฮ่องเต้ยังขอบคุณหยูฉิงอันด้วยที่สร้างเครื่องเล่นเหล่านี้ขึ้นมา เพราะองค์ชายน้อยก็มักจะได้มาเล่นเครื่องเล่นที่นี่อยู่บ่อย ๆ เช่นกัน“นี่เป็นเรื่องที่หม่อมฉันสมควรทำอยู่แล้วเพคะ หากฝ่าบาทต้องการแบบให้กับช่างหลวงสร้างขึ้นมาก็บอกหม่อมฉันได้นะเพคะ”“ตกลง ๆ ขอบใจเจ้ามากที่ไม่เคยหวงแหนความรู้เลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา หากไม่มีเจ้าสักคน แคว้นหมิงคงไม่สามารถพัฒนาได้ถึงขั้นนี้”“ฝ่าบาทชมเกินไปแล้วเพคะ เป็นเพราะความร่วมมือของทุกคนในแคว้นต่างหากที่ทำให้แคว้นของเราพัฒนาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้”“เฮ้อ เจ้านี่นะ ไม่เคยคิดที่จะเอาความดีความชอบแม้สักนิด เอาล่ะ ๆ เราทานอาหารกันก่อนดีกว่า เด็ก ๆ คงจะหิวกันแล้วล่ะ”

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ราชวงศ์เข้าร่วม

    วันปีใหม่เช้าวันนี้จวนหยูวุ่นวายไปด้วยบ่าวไพร่ที่กำลังจัดเตรียมงานเลี้ยงปีใหม่ที่จะมีแขกเริ่มมาในยามซื่อของวัน องค์หญิงหมิงจูกับหยูฉิงเฉิงเองก็กำลังแต่งตัวให้กับลูกชายและลูกสาวของพวกเขาอยู่ เสื้อผ้าต่าง ๆ ล้วนมาจากในวังที่ฮองเฮาสั่งคนตัดให้กับหลาน ๆ ของพระองค์อย่างน่ารักหลินอ้ายกับหยูฉางหยูก็แต่งตัวด้วยชุดที่ดีที่สุดเพื่อต้อนรับปีใหม่เช่นกัน ส่วนลูกชายคนเล็กก็กำลังจัดการบุตรชายทั้งสองกับฮูหยินน้อยที่เรือนอีกหลัง สำหรับหยูจิ่นเซิงและเฉียนหลานนั้นก็แต่งตัวกันเต็มที่เพื่อให้สมกับวันปีใหม่ ยังไม่รวมซองแดงที่พวกเขาจะแจกให้ลูกหลานอีกไม่น้อยด้วย พวกเขาคาดเดาว่าวันนี้จะต้องเป็นงานที่ทุกคนสนุกกันมากแน่ ยิ่งหยูฉิงอันส่งของเล่นเด็กมาไว้ที่จวนหยูจำนวนไม่น้อยสำหรับให้หลาน ๆ เล่นตอนที่โตกว่านี้ด้วยแล้ว พวกเขายิ่งรักหลานสาวคนนี้มากขึ้นทุกที นางไม่เคยหวงสิ่งของใดเลย มีแต่มอบให้กับน้องชายทั้งสองและครอบครัวด้านจวนกั๋วกงก็วุ่นวายไม่แพ้กัน กว่าที่พี่เลี้ยงจะไล่จับเหล่าคุณชายน้อย ค

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ครอบครัวรวมตัวปีใหม่

    ที่ชายแดนตะวันตก หลังจากลูกของหยูฉิงหยางคลอดแล้ว ท่านพ่อตาได้ตั้งชื่อบุตรชายทั้งสองให้เขาว่า หยูอันเหิงและหยูอันไห่ เพราะหยูฉิงหยางอยากให้ในชื่อบุตรชายของเขามีชื่อพี่สาวอยู่ด้วย เขาสำนึกในบุญคุญของพี่สาวเสมอที่พาครอบครัวค้าขายจนได้เข้าเรียนและรับราชการในราชสำนักได้อย่างทุกวันนี้อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงวันปีใหม่ แม่ทัพใหญ่ซวงอี้จึงชวนทุกคนกลับไปฉลองปีใหม่ที่เมืองหลวง เพราะเขาเดินทางมาอยู่ชายแดนตะวันตกได้เกือบสามเดือนแล้ว หยูฉิงหยางจึงไปขอลาราชการกับแม่ทัพชายแดนตะวันตกตามมารยาท ก่อนจะส่งม้าเร็วเดินทางไปถวายฎีกาเรื่องการพาครอบครัวไปรวมตัวกันในวันปีใหม่ที่ใกล้จะถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ม้าเร็วเดินทางไปถึงเมืองหลวงโดยใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือน เมื่อฮ่องเต้ได้รับฎีกาของหยูฉิงหยางแล้ว พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้เขาพาครอบครัวกลับมาได้ ความจริงปีนี้พระองค์คิดที่จะจัดงานเลี้ยงปีใหม่ให้กับเหล่าขุนนางเหมือนทุกปี เพียงแต่พอคิดได้ว่าการจัดงานบ่อยครั้งก็เสียเงินในคลังไปไม่น้อย ซึ่งพระองค์ยังคงอยากใช้เงินเหล่านั้นในการพัฒนาแคว้นม

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   เห่อหลานคนใหม่

    จดหมายของหยูจิ่นเซิงไปถึงจวนแม่ทัพที่ชายแดนตะวันตกในอีกหนึ่งเดือนต่อมา หยูฉิงหยางที่กำลังดูแลภรรยาที่กำลังท้องแฝดเช่นเดียวกับพี่ชายรีบนำจดหมายมาตอบพร้อมให้คนนำของฝากที่ท่านแม่ฝากมาให้เขากับฮูหยินไปเก็บไว้ในคลังเสบียงเสียก่อน“ท่านพี่ เหตุใดท่านแม่จึงส่งของกินมาเสียเยอะแยะเช่นนี้เล่า”“ฮ่า ฮ่า ท่านคงกลัวว่าเจ้าจะไม่ได้กินอาหารดี ๆ น่ะสิ ท่านแม่คงเป็นห่วงลูกของเรานั่นแหละน้องหญิง เจ้าเองก็บำรุงเยอะ ๆ เล่า จะได้คลอดง่าย ๆ เหลืออีกไม่กี่เดือน เจ้าก็จะคลอดเด็ก ๆ ออกมาแล้วนะ”“ข้ากินจนจะอ้วนเป็นหมูแล้วนะท่านพี่ หากท่านไม่ชอบที่ข้าอ้วนจะทำอย่างไร”“เจ้าก็คิดมากเกินไปน้องหญิง พี่มีหรือจะไม่ชอบเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะรูปร่างเปลี่ยนไปอย่างไร เจ้าก็ยังเป็นที่รักของพี่ตลอดไปนั่นแหละ ทีหลังอย่าคิดมากรู้ไหม”หยูฉิงหยางกอดภรรยารักเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างแสนรัก เขารู้ดีว่านางคงกลัวว่าเขาจะมีหญิงอื่นกระมัง

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   น้องสะใภ้ท้องแล้ว

    หนึ่งเดือนต่อมา จดหมายจากหยูฉิงหยางส่งมาบอกทุกคนว่าสะใภ้เล็กท้องแล้ว ทำให้ทุกคนดีใจมาก ส่วนองค์หญิงหมิงจูนั้น ยังไม่มีใครกล้าสอบถามอะไรในเรื่องนี้ แต่เหล่าผู้อาวุโสต่างสอบถามหยูฉิงเฉิงแทน“อาเฉิง เหตุใดสะใภ้ใหญ่ไม่ท้องเสียทีเล่า”“เฮ้อ ข้าก็ไม่รู้ขอรับท่านปู่ แต่ข้าก็ขยันขันแข็งทุกวันนะขอรับ”“แล้วช่วงนี้ดูเหมือนนางจะดูมีน้ำมีนวลและน้ำหนักขึ้นบ้างหรือไม่เล่า”“ท่านย่าเดาได้เหมือนตาเห็นเลยขอรับ ข้าสังเกตว่านางดูเหมือนจะอ้วนขึ้นนิดหน่อยและท้องของนางก็ป่องออกมาเล็กน้อยด้วยนะขอรับ”“เช่นนั้นประเดี๋ยวให้พ่อบ้านไปเรียกหมอมาตรวจสักหน่อย นางอาจท้องแล้วไม่รู้ตัวก็ได้ เหมือนพี่ใหญ่เจ้าที่กว่าจะรู้ว่าท้องสองก็ตอนสามเดือนแล้ว”“ขอรับ หากมีข่าวดีเหมือนน้องสามก็คงดี เด็ก ๆ จะได้เกิดไล่เลี่ยกัน”หย

  • ย้อนเวลามาเป็นแม่ค้าผลไม้   ราชบุตรเขยได้จวนใหม่

    หลังจากหยูฉิงเฉิงได้รับตำแหน่งใหม่เป็นผู้ตรวจการพิเศษ เขาก็ยังคงเข้าไปทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับแผนการพัฒนาบ้านเมืองที่เคยเสนอต่อฝ่าบาทไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมหาเสนาบดีเซี่ยยังคงรายงานการทำงานของขุนนางที่ถูกส่งออกไปให้กับเขารับทราบ เพื่อที่หยูฉิงเฉิงจะได้วางแผนการเดินทางไปตรวจงานได้ในภายหลังด้านองค์หญิงหมิงจูพอเป็นสะใภ้ตระกูลหยูแล้ว พระองค์ยังคงเข้าวังไปเยี่ยมเสด็จแม่อยู่บ่อย ๆ เนื่องจากที่จวนหยูไม่มีสิ่งใดให้นางทำบ้างเลย ครั้นจะให้นางไปนั่งปักผ้ากับท่านย่าและแม่สามีนางก็ไม่ค่อยชอบนัก ปกตินางชอบเล่นพิณและวาดรูปมากกว่า แต่ก็กลัวว่าเสียงพิณจะไปรบกวนการทำงานของท่านย่าและแม่สามีของนางเข้า นางจึงมาเล่นที่วังให้เสด็จแม่ฟังแทนเฉียนหลานกับหลินอ้ายนั้นพอรู้อยู่บ้างว่าองค์หญิงน่าจะอึดอัดและเหงาที่ต้องอยู่จวนโดยไม่มีสิ่งใดทำ พระองค์จึงได้เสด็จเข้าวังบ่อย ๆ เมื่อหยูฉิงเฉิงกลับจวนมาแล้วทราบเรื่องเข้า เขาจึงคุยกับองค์หญิงในคืนวันหนึ่ง“น้องหญิง เจ้าเบื่อหน่ายที่ต้องอยู่จวนนี้หรือ”

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status