ความมืดมิดในโกดังร้างไม่ได้ทำให้ คิมหันต์ รู้สึกหดหู่อย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นความมืดที่จุดประกายความแค้นในใจของเขาให้ลุกโชนยิ่งกว่าเดิม คิมหันต์ที่หลบหนีการจับกุมของตำรวจได้ในวันนั้นกำลังนั่งอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่ย่ำแย่ เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ และดวงตาที่แดงก่ำราวกับคนบ้า
"ณลิน...ปอร์เช่...พวกแกต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกแกทำกับฉัน!" คิมหันต์พึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและเต็มไปด้วยความเกลียดชัง "ฉันจะทำให้พวกแกต้องเจ็บปวด...เจ็บปวดมากกว่าที่ฉันเคยเจ็บปวด!"
คิมหันต์หยิบโทรศัพท์มือถือที่เปื้อนเลือดของเขาขึ้นมา แล้วกดโทรออกไปหา พิม
"พิม...เธอต้องช่วยฉัน" คิมหันต์พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
"พี่คิมหันต์คะ! พี่กำลังอยู่ที่ไหน? พิมเป็นห่วงพี่นะคะ" พิมตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"ไม่ต้องมาเสแสร้ง! ฉันไม่ได้ต้องการความสงสารจากเธอ! ฉันต้องการให้เธอช่วยฉัน!" คิมหันต์ตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง "ฉันต้องการให้เธอไปฆ่าณลินกับปอร์เช่!"
คำพูดของคิมหันต์ทำให้พิมถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้กับเธอได้
"พี่คิมหันต์...พี่มันบ้าไปแล้วเหรอคะ!? พิมไม่มีทางทำแบบนั้นได้หรอก!" พิมตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตกใจ
"เธอต้องทำ! ถ้าเธอไม่ทำ...ฉันจะบอกตำรวจว่าเธอก็มีส่วนรู้เห็นในการลักพาตัวณลินด้วย! และเธอก็จะต้องติดคุกไปตลอดชีวิต!" คิมหันต์พูดพร้อมกับหัวเราะในลำคอ
คำพูดของคิมหันต์ทำให้พิมถึงกับตัวสั่นด้วยความกลัว เธอรู้ดีว่าคิมหันต์ไม่ได้โกหก และเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากที่จะทำตามคำสั่งของเขา
"ก็ได้ค่ะ...พิมจะช่วยพี่...แต่พี่ต้องสัญญากับพิมนะ...ว่าพี่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พิมต้องการ" พิมพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
คิมหันต์ยิ้มออกมา "ได้สิ...ฉันจะให้เธอได้ทุกอย่าง...แต่ตอนนี้...เรามาเริ่มต้นแผนการของเรากันเลยดีกว่า..."
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ณลิน และ ปอร์เช่ กำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุข ณลินกำลังดูแลปอร์เช่ที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ณลินทำอาหารให้เขาทานทุกมื้อ ดูแลเขาในทุกเรื่อง และทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงเหมือนเดิม
"ปอร์เช่คะ...คุณทานเยอะๆ นะคะ...จะได้มีแรงเร็วๆ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
ปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมมีความสุขมากเลยครับ...ริน...ผมอยากจะให้เวลาของเราเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต"
ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันก็จะอยู่กับคุณตลอดไปค่ะ...ปอร์เช่...ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณไปไหน"
ในขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของณลินก็ดังขึ้น ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอคือ พิม ณลินลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจกดรับสายด้วยความระมัดระวัง
"พิม...เธอมีอะไร?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่สงบ
"พี่รินคะ...พิมอยากจะขอโทษพี่ค่ะ...พิมไม่คิดว่าเรื่องมันจะบานปลายขนาดนี้" พิมตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
คำพูดของพิมทำให้ณลินถึงกับประหลาดใจ "พิม...เธอพูดอะไรของเธอ?"
"พี่รินคะ...พี่ต้องระวังพี่คิมหันต์ไว้นะคะ...เขากำลังวางแผนที่จะฆ่าพี่กับพี่ปอร์เช่" พิมพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
คำพูดของพิมทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าคิมหันต์จะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้
"พิม...เธอพูดจริงเหรอ?" ณลินถามอย่างร้อนรน
"พิมพูดจริงค่ะ...และพิมก็รู้ว่าเขากำลังวางแผนที่จะทำอะไร...เขาจะฆ่าพี่กับพี่ปอร์เช่ในงานแต่งงานของพวกพี่" พิมพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือที่สุดในชีวิต
คำพูดของพิมทำให้ณลินถึงกับตัวสั่นด้วยความโกรธแค้นและความกลัว ปอร์เช่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ณลินเห็นดังนั้นก็รีบแย่งโทรศัพท์มาพูดทันที
"พิม...เธอพูดอะไรของเธอ!? คิมหันต์มันกำลังจะทำอะไร?" ปอร์เช่ถามอย่างร้อนรน
"พี่ปอร์เช่คะ...พิมขอโทษจริงๆ นะคะ...พิมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว...เขาบังคับให้พิมทำแบบนี้...เขาบอกว่าถ้าพิมไม่ทำ...เขาจะบอกตำรวจว่าพิมมีส่วนรู้เห็นในการลักพาตัวพี่รินด้วย" พิมตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
คำพูดของพิมทำให้ปอร์เช่ถึงกับอึ้งไป เขาไม่คิดว่าคิมหันต์จะกล้าใช้พิมเป็นเครื่องมือในการทำร้ายพวกเขา
"พิม...เธอต้องบอกฉันมาเดี๋ยวนี้...ว่าคิมหันต์มันกำลังวางแผนที่จะทำอะไร?" ปอร์เช่ถามอย่างร้อนรน
"เขา...เขาจะวางระเบิดในงานแต่งงานของพวกพี่ค่ะ...เขาจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลงไปพร้อมกับชีวิตของพวกพี่" พิมพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
คำพูดของพิมทำให้ปอร์เช่และณลินถึงกับเงียบไป พวกเขาไม่คิดว่าคิมหันต์จะคลุ้มคลั่งได้ถึงขนาดนี้ ปอร์เช่พยายามที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย
ในขณะนั้นเอง พิมก็วางสายไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ปอร์เช่และณลินนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความกลัว ความโกรธแค้น และความเสียใจในสิ่งที่คิมหันต์ทำลงไป
หลังจากเหตุการณ์นั้น ณลินและปอร์เช่ก็ตัดสินใจที่จะเลื่อนงานแต่งงานออกไปก่อน พวกเขารู้ดีว่าคิมหันต์กำลังวางแผนที่จะทำอะไรบางอย่าง และพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้จนกว่าพวกเขาจะจัดการกับคิมหันต์ได้
"ปอร์เช่คะ...เราจะทำยังไงดี?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
ปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "เราจะทำในสิ่งที่มันคาดไม่ถึงครับ...เราจะทำให้มันได้เรียนรู้ว่า...การเล่นกับไฟ...มันอันตรายแค่ไหน"
ณลินยิ้มออกมา "คุณพูดถูกค่ะปอร์เช่...เราจะใช้ความรักของเราเป็นอาวุธ...และเราจะใช้มัน...เพื่อทำลายพวกเขาให้สิ้นซาก"
ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "เรามาเริ่มต้นแผนการของเรากันเลยนะครับ..."
ปอร์เช่ใช้เครือข่ายของเขาในการตามหาคิมหันต์ และณลินก็ใช้ความสามารถของเธอในการรวบรวมหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคิมหันต์และพิม พวกเขาร่วมมือกันในการสร้างกับดักที่ซับซ้อนที่สุดเพื่อที่จะจับคิมหันต์ให้ได้
ในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ ก็กำลังวางแผนที่จะวางระเบิดในงานแถลงข่าวของปอร์เช่ เขาคิดว่านั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำลายปอร์เช่ให้สิ้นซาก
ในวันงานแถลงข่าว คิมหันต์แอบเข้ามาในห้องแถลงข่าวแล้ววางระเบิดไว้ใต้เวที เขาหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ "แกคิดว่าแกจะฉลาดกว่าฉันงั้นเหรอปอร์เช่!? แกคิดผิดแล้ว! ฉันจะทำให้แกกับณลินต้องตายไปพร้อมๆ กันในงานนี้!"
ในขณะนั้นเอง ปอร์เช่ที่กำลังเดินขึ้นมาบนเวทีก็หยุดชะงัก เขาเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดปกติใต้เวที ปอร์เช่มองไปที่ณลินที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา แล้วเขาก็ยิ้มให้เธอ
"ริน...ผมรักเธอนะครับ...รักที่สุดในโลก" ปอร์เช่พึมพำด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด
คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับน้ำตาคลอเบ้า เธอไม่เข้าใจว่าเขากำลังหมายถึงอะไร
ปอร์เช่หันไปหาทุกคนในห้องแถลงข่าว แล้วตะโกนสุดเสียง "ทุกคนรีบหนีออกจากห้องนี้เดี๋ยวนี้!"
ทุกคนในห้องแถลงข่าวถึงกับอึ้งไป พวกเขามองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจ ปอร์เช่ไม่รอช้าที่จะวิ่งเข้าไปใต้เวที แล้วรีบถอดระเบิดออกจากใต้เวทีทันที
ระเบิดทำงานแล้ว! ปอร์เช่พยายามที่จะวิ่งหนีออกจากห้องแถลงข่าว แต่เขาก็ไม่ทันเวลา ระเบิดทำงานแล้ว และทุกสิ่งทุกอย่างก็พังทลายลงไปพร้อมกับชีวิตของปอร์เช่...
ข่าวการจับกุม คิมหันต์ และเครือข่ายมาเฟียที่นำโดย เฮียเกา แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการธุรกิจและสังคมออนไลน์ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์และทุกสำนักข่าวต่างพาดหัวข่าวใหญ่ถึงจุดจบของชายผู้บ้าคลั่งที่พยายามทำร้าย ณลินและ ปอร์เช่ ณลินและปอร์เช่ที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านของพวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความโล่งอก ความดีใจ และความเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น"ในที่สุด...เขาก็ได้รับผลกรรมในสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วนะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ใช่ครับ...ริน...แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้เลย"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ณลินมองไปที่ปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "คุณรู้สึกสงสารเขาเหรอคะ?""ผมไม่ได้สงสารเขาหรอก...ผมแค่รู้สึกเสียใจ...เสียใจที่คนคนหนึ่ง...ต้องจมอยู่กับความแค้นและความอิจฉาริษยาจนชีวิตของเขาต้องพังทลายลงไปแบบนี้" ปอร์เช่พูดพร้อมกับมองไปที่ณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน "ริน...ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนเขา...เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะครั
ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและร่างของลูกน้องที่นอนจมกองเลือด ปอร์เช่ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือของเขากำปืนไว้แน่น ราวกับจะส่งความแค้นทั้งหมดไปที่ คิมหันต์ และ เฮียเกา"ปอร์เช่! แกยังไม่ตายงั้นเหรอ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ผมไม่ได้ตายหรอกครับ...คุณคิมหันต์...ผมแค่แกล้งทำเป็นตาย...เพื่อที่จะได้ล่อให้แกออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปอร์เช่พูดเลยแม้แต่น้อย"โกหก! แกกำลังโกหกฉัน!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงในขณะนั้นเอง เฮียเกา ก็เดินเข้ามาหาปอร์เช่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมันเลว! เลวที่สุด!"ปอร์เช่หัวเราะในลำคอ "ผมไม่ได้เลวหรอกครับ...เฮียเกา...ผมแค่ทำให้พวกคุณได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง"คำพูดของปอร์เช่ทำให้เฮียเกาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่ปอร์เช่พูดคื
ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ ที่โรงพยาบาลจนอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว ในขณะที่ปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะจัดการกับ คิมหันต์ และ เฮียเกา ให้สิ้นซากในค่ำคืนหนึ่ง ปอร์เช่ได้ให้ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นหมอพาเขาไปยังที่ซ่อนของพวกตัวร้าย ลูกน้องของปอร์เช่ได้สลับตัวเขาและปลอมตัวเป็นปอร์เช่ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ปอร์เช่กำลังจะไปที่ไหนรถยนต์คันหรูของปอร์เช่ได้ขับมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ชายในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้ปอร์เช่ ปอร์เช่เดินออกมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แกแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นี่?" ปอร์เช่ถามชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แน่ใจครับ...บอส...พวกมันอยู่ที่นี่กันหมดเลย"ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ดี...เราไปจัดการพวกมันกันเถอะ"ปอร์เช่และลูกน้องของเขาเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโกดังไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปที่ไหนในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ และ เฮียเกา กำลังนั่งดื่มเบียร
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของปอร์เช่ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ณลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับอย่างสงบ เธอรู้สึกได้ถึงความรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอคะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมตื่นมานานแล้ว...ผมแค่อยากมองหน้าเธอในตอนที่เธอกำลังหลับ"ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันมีความสุขมากเลยค่ะปอร์เช่""ผมเองก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ...ริน" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก "ริน...ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี "เรื่องอะไรคะ?""ผมจะให้ลูกน้องของผมปล่อยข่าวออกไปว่าอาการของผมแย่ลง...และผมก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ปอร์เช่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คิมหันต์กับเฮียเกาออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้"ปอร์เช่! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไป!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ผมรู้ครับ..
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธ