เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินและปอร์เช่นั่งอยู่ภายในห้องทำงานส่วนตัวของปอร์เช่ ซึ่งเป็นห้องที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวที่สุด ณลินในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวของปอร์เช่ที่ตัวใหญ่กว่าเธอเล็กน้อยทำให้เธอดูอ่อนโยนและน่าทะนุถนอม แต่ในดวงตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและแข็งแกร่ง
"ปอร์เช่...ฉันคิดว่าเราต้องจัดการกับคิมหันต์และพิมให้ถึงที่สุดแล้วนะคะ" ณลินเปิดบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ...ริน...แต่เราจะไม่ใช้กำลังหรอกนะ" "แล้วเราจะทำยังไงคะ?" ณลินถามอย่างสงสัย "เราจะทำลายพวกเขา...ด้วยวิธีที่พวกเขาเคยทำกับเรา" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "เราจะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ว่า...การเล่นกับไฟ...มันอันตรายแค่ไหน" ณลินยิ้มออกมา "ฉันชอบความคิดของคุณค่ะ...แล้วเราจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี?" "เราจะเริ่มต้นจากเรื่องธุรกิจก่อนครับ" ปอร์เช่พูดพร้อมกับหยิบเอกสารบางอย่างขึ้นมา "ผมได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่คิมหันต์ใช้ชื่อเธอในการเซ็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม...และผมก็เตรียมแผนการที่จะทำให้บริษัทของเขาต้องล้มละลายแล้วครับ" คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะเตรียมการไว้ได้รวดเร็วและรัดกุมขนาดนี้ "คุณ...คุณทำเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่ประหลาดใจ "ตั้งแต่ที่ผมรู้ว่าเธอมีปัญหาครับ...ผมไม่อยากให้เธอต้องเจ็บปวดคนเดียวอีกต่อไปแล้ว" ปอร์เช่พูดด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "แล้วก็ยังมีเรื่องของพิมอีกนะครับ" ณลินขมวดคิ้ว "เรื่องของพิม?" "ใช่ครับ...พิม..." ปอร์เช่พูดพร้อมกับเปิดคอมพิวเตอร์ให้ณลินดู "ผมได้แอบติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องนอนของเธอไว้ครับ...และในนั้นก็มีหลักฐานทุกอย่างที่บอกว่าเธอกับคิมหันต์มีความสัมพันธ์กัน" ณลินเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "คุณ...คุณทำแบบนี้ได้ยังไง?" "ผมมีวิธีของผมครับ...ริน" ปอร์เช่ยิ้มมุมปาก "แต่ผมก็ไม่ได้อยากจะใช้มันหรอกนะ...ถ้าเธอไม่อนุญาต" "ฉันอนุญาตค่ะ!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาด "เราจะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ว่า...การทำร้ายคนอื่นมันต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง" ปอร์เช่พยักหน้า "ดีครับ...งั้นเรามาเริ่มต้นแผนการของเรากันเลยนะครับ" เพียงไม่นานนัก แผนการของณลินและปอร์เช่ก็เริ่มต้นขึ้น ณลินใช้ความสามารถและความเฉียบขาดของเธอในการจัดการเรื่องธุรกิจของคิมหันต์ ส่วนปอร์เช่ก็ใช้เครือข่ายสื่อของเขาในการสร้างกระแสข่าวที่จะทำให้คิมหันต์และพิมต้องอับอายขายหน้าไปทั่วทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศของเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากธนาคาร "คุณคิมหันต์ครับ...ตอนนี้เงินในบัญชีของบริษัทของคุณกำลังถูกอายัดนะครับ" เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "อะไรนะ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างตกใจ "อายัดได้ยังไง!? บริษัทของฉันกำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์นะ!" "ผมไม่ทราบครับ...คุณณลินเป็นคนสั่งให้เราอายัดนะครับ" เจ้าหน้าที่ธนาคารตอบ คำตอบของเจ้าหน้าที่ธนาคารทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่คิดว่าณลินจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ คิมหันต์รีบวางสายแล้วโทรไปหาณลินทันที "ณลิน! เธอทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง!?" คิมหันต์ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ "ฉันทำอะไรเหรอคะ?" ณลินตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "ฉันก็แค่เอาคืนในสิ่งที่พี่เคยทำกับฉันเท่านั้นเอง" "เธอ...เธอหมายความว่ายังไง!?" คิมหันต์ถามอย่างตกใจ "พี่จำได้ไหมว่าพี่เคยใช้ชื่อฉันในการเซ็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม...ฉันก็แค่ไปเอาเงินที่พี่โกงไปจากฉันกลับคืนมา...และฉันก็บอกให้ธนาคารอายัดบัญชีของบริษัทพี่...เพื่อให้พี่ได้เรียนรู้ว่า...การโกงคนอื่น...มันต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาด คำพูดของณลินทำให้คิมหันต์ถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่คิดว่าณลินจะฉลาดและรวบรวมหลักฐานไว้ได้ถึงขนาดนี้ "ณลิน...เธอจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ! เราเคยรักกันไม่ใช่เหรอ!?" คิมหันต์พยายามจะอ้อนวอน "เราเคยรักกันเหรอ?" ณลินหัวเราะในลำคอ "ฉันจำได้แค่ว่าฉันเคยโง่เขลาที่รักผู้ชายอย่างพี่...แต่ตอนนี้...ฉันฉลาดขึ้นแล้ว...และฉันก็รักผู้ชายที่ดีกว่าพี่หลายเท่า" คำพูดของณลินทำให้คิมหันต์ถึงกับหน้าซีดเผือดไปถนัดตา เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่เธอพูดคือความจริงทุกประการ คิมหันต์รีบวางสายจากณลินทันที และในขณะนั้นเอง เขาก็ได้รับโทรศัพท์จาก พิม "พี่คิมหันต์คะ! พี่เห็นข่าวในโซเชียลมีเดียหรือยังคะ!?" พิมถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ข่าวอะไรอีก!?" คิมหันต์ตะคอกอย่างหงุดหงิด "ข่าว...ข่าวว่าพิมกับพี่คิมหันต์มีความสัมพันธ์กัน...และข่าวว่าพิมพยายามจะแย่งพี่คิมหันต์ไปจากพี่ริน...ทุกคนกำลังด่าพิมกันทั้งประเทศเลยค่ะ!" พิมพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว คิมหันต์ไม่รอช้าที่จะเปิดดูโทรศัพท์มือถือของเขา และเขาก็เห็นข่าวที่ถูกแชร์ไปทั่วทั้งประเทศ ภาพที่ปรากฏในข่าวคือภาพที่เขาและพิมกำลังนั่งอยู่ด้วยกันในร้านอาหารหรูหรา ภาพที่เขากำลังจับมือของเธอใต้โต๊ะ และภาพที่เขากำลังจูบเธอในที่ลับตา...และข่าวทั้งหมดก็มาจากเพจข่าวของปอร์เช่เอง คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่คิดว่าปอร์เช่จะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ ความโกรธแค้นในใจของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง เขารู้ดีว่าความฝันที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ของเขาได้พังทลายลงไปแล้ว และชื่อเสียงของเขาก็ไม่เหลืออะไรอีกต่อไปแล้ว "ไอ้ปอร์เช่! แกกับณลิน! แกต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกแกทำกับฉัน!" คิมหันต์ตะโกนลั่นห้องด้วยความคลั่ง ในขณะนั้นเอง ปอร์เช่ที่กำลังนั่งมองดูข่าวอยู่ข้างๆ ณลินก็ยิ้มออกมา "ผมคิดว่าตอนนี้พวกเขาคงจะได้รับบทเรียนที่แสนเจ็บปวดไปแล้วนะครับ...ริน" ณลินยิ้มออกมาอย่างสดใส "ฉันคิดว่า...นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นแหละค่ะปอร์เช่...เราจะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ว่า...การทำร้ายคนอื่น...มันต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง..." คำพูดของณลินทำให้ปอร์เช่ถึงกับยิ้มกว้าง เขากอดเธอไว้แน่นด้วยความรักและความภูมิใจในตัวเธอ "ผมพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอครับ...ริน...ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ตาม"ข่าวการจับกุม คิมหันต์ และเครือข่ายมาเฟียที่นำโดย เฮียเกา แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการธุรกิจและสังคมออนไลน์ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์และทุกสำนักข่าวต่างพาดหัวข่าวใหญ่ถึงจุดจบของชายผู้บ้าคลั่งที่พยายามทำร้าย ณลินและ ปอร์เช่ ณลินและปอร์เช่ที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านของพวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความโล่งอก ความดีใจ และความเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น"ในที่สุด...เขาก็ได้รับผลกรรมในสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วนะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ใช่ครับ...ริน...แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้เลย"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ณลินมองไปที่ปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "คุณรู้สึกสงสารเขาเหรอคะ?""ผมไม่ได้สงสารเขาหรอก...ผมแค่รู้สึกเสียใจ...เสียใจที่คนคนหนึ่ง...ต้องจมอยู่กับความแค้นและความอิจฉาริษยาจนชีวิตของเขาต้องพังทลายลงไปแบบนี้" ปอร์เช่พูดพร้อมกับมองไปที่ณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน "ริน...ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนเขา...เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะครั
ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและร่างของลูกน้องที่นอนจมกองเลือด ปอร์เช่ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือของเขากำปืนไว้แน่น ราวกับจะส่งความแค้นทั้งหมดไปที่ คิมหันต์ และ เฮียเกา"ปอร์เช่! แกยังไม่ตายงั้นเหรอ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ผมไม่ได้ตายหรอกครับ...คุณคิมหันต์...ผมแค่แกล้งทำเป็นตาย...เพื่อที่จะได้ล่อให้แกออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปอร์เช่พูดเลยแม้แต่น้อย"โกหก! แกกำลังโกหกฉัน!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงในขณะนั้นเอง เฮียเกา ก็เดินเข้ามาหาปอร์เช่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมันเลว! เลวที่สุด!"ปอร์เช่หัวเราะในลำคอ "ผมไม่ได้เลวหรอกครับ...เฮียเกา...ผมแค่ทำให้พวกคุณได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง"คำพูดของปอร์เช่ทำให้เฮียเกาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่ปอร์เช่พูดคื
ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ ที่โรงพยาบาลจนอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว ในขณะที่ปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะจัดการกับ คิมหันต์ และ เฮียเกา ให้สิ้นซากในค่ำคืนหนึ่ง ปอร์เช่ได้ให้ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นหมอพาเขาไปยังที่ซ่อนของพวกตัวร้าย ลูกน้องของปอร์เช่ได้สลับตัวเขาและปลอมตัวเป็นปอร์เช่ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ปอร์เช่กำลังจะไปที่ไหนรถยนต์คันหรูของปอร์เช่ได้ขับมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ชายในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้ปอร์เช่ ปอร์เช่เดินออกมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แกแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นี่?" ปอร์เช่ถามชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แน่ใจครับ...บอส...พวกมันอยู่ที่นี่กันหมดเลย"ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ดี...เราไปจัดการพวกมันกันเถอะ"ปอร์เช่และลูกน้องของเขาเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโกดังไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปที่ไหนในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ และ เฮียเกา กำลังนั่งดื่มเบียร
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของปอร์เช่ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ณลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับอย่างสงบ เธอรู้สึกได้ถึงความรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอคะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมตื่นมานานแล้ว...ผมแค่อยากมองหน้าเธอในตอนที่เธอกำลังหลับ"ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันมีความสุขมากเลยค่ะปอร์เช่""ผมเองก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ...ริน" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก "ริน...ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี "เรื่องอะไรคะ?""ผมจะให้ลูกน้องของผมปล่อยข่าวออกไปว่าอาการของผมแย่ลง...และผมก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ปอร์เช่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คิมหันต์กับเฮียเกาออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้"ปอร์เช่! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไป!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ผมรู้ครับ..
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธ