ท่ามกลางความมืดมิดของห้องทำงาน คิมหันต์ นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำตัวใหญ่ด้วยสภาพที่ย่ำแย่ เสื้อเชิ้ตของเขาถูกปลดกระดุมออกจนเผยให้เห็นแผงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง เส้นผมที่ยุ่งเหยิงและหนวดเคราที่ไม่ได้โกนมาหลายวันทำให้เขาดูเหมือนคนไร้บ้านมากกว่านักธุรกิจหนุ่มไฟแรง โทรศัพท์มือถือในมือของเขาสั่นสะเทือนตามแรงกำแน่นของเขา ดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังภาพข่าวบนหน้าจอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาพของ ณลิน และ ปอร์เช่ ที่กำลังหัวเราะอย่างมีความสุขในงานเลี้ยงการกุศล และข่าวพาดหัวตัวหนาที่ประกาศความสำเร็จของปอร์เช่ในการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดโลก
ความเจ็บปวดและความแค้นที่อัดแน่นอยู่ในอกทำให้เขาแทบจะคลั่ง เขาพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง "แก...แกแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน...ฉันจะไม่ยอมให้แกมีความสุข!" ก๊อกๆ! เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออก พิม เดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว ดวงตาของเธอบวมช้ำจากการร้องไห้มาทั้งคืน เธอเห็นคิมหันต์ในสภาพที่ย่ำแย่ก็รู้สึกสงสารอย่างสุดหัวใจ พิมไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปกอดคิมหันต์จากด้านหลัง "พี่คิมหันต์คะ...พิมขอโทษนะคะ...พิมไม่คิดว่าเรื่องมันจะบานปลายขนาดนี้" พิมพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ คิมหันต์สะบัดแขนของพิมออกอย่างแรงจนเธอล้มลงไปนั่งกับพื้น "ไปให้พ้นหน้าฉัน! ทุกอย่างมันเป็นเพราะแก! ถ้าไม่ใช่เพราะแก ณลินก็คงไม่ทิ้งฉันไป! บริษัทของฉันก็คงไม่ล้มละลาย!" คำพูดของคิมหันต์เหมือนคมมีดที่กรีดแทงเข้ากลางใจของพิม น้ำตาของเธอไหลอาบแก้มด้วยความเจ็บปวด "ไม่จริง! พี่คิมหันต์กำลังโทษพิมเหรอคะ? พิมทำทุกอย่างก็เพื่อพี่นะคะ! พิมรักพี่! พิมทำทุกอย่างก็เพื่อให้พี่ได้อยู่กับคนที่คู่ควรอย่างพิม!" "คู่ควร!?" คิมหันต์หัวเราะเยาะ "แกคิดว่าแกคู่ควรกับฉันงั้นเหรอ? แกมันก็แค่ผู้หญิงไร้ค่าที่ฉันเอาไว้แก้เบื่อเท่านั้นแหละ! ณลินต่างหากที่คู่ควรกับฉัน! ณลินต่างหากที่สามารถทำให้ฉันเป็นใหญ่ได้!" คำพูดของคิมหันต์ทำให้พิมถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้กับเธอได้ พิมพยายามลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "พี่คิมหันต์...พี่มันเลว! เลวที่สุด! พิมจะไม่มีวันให้อภัยพี่!" พิมวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้คิมหันต์นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความเจ็บปวด ความโกรธแค้น และความเสียใจในสิ่งที่เขาทำลงไป ในขณะเดียวกันนั้นเอง ณลิน และ ปอร์เช่ กำลังนั่งอยู่ที่ระเบียงห้องพักส่วนตัวของปอร์เช่ ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ณลินสวมชุดคลุมอาบน้ำสีขาวตัวใหญ่ของปอร์เช่ เธอนั่งซบอยู่บนไหล่ของเขาด้วยท่าทางที่ดูผ่อนคลายและมีความสุข "ฉันไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะมีความสุขได้ขนาดนี้" ณลินพึมพำด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ผมดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอนะริน... ต่อจากนี้ไป... ผมจะทำให้รอยยิ้มของเธอเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำลายได้" คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับน้ำตาคลอเบ้า เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก "ฉันรักคุณค่ะปอร์เช่...ฉันรักคุณ" ปอร์เช่ยิ้มออกมา "ผมเองก็รักเธอครับ...ริน...ผมรักเธอ" หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้จูบกันอย่างดูดดื่ม การจูบของพวกเขาไม่ใช่แค่การแสดงความรัก แต่เป็นการเยียวยาบาดแผลที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ณลินรู้สึกได้ถึงความรักที่ปอร์เช่มีให้เธอ ความรักที่บริสุทธิ์และจริงใจจนเธอแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เมื่อจูบกันได้สักพัก ปอร์เช่ก็ผละออกจากเธอเล็กน้อย "ริน...เราจะทำยังไงกับคิมหันต์และพิมดี?" ณลินยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "เราจะทำลายพวกเขา...ด้วยวิธีที่พวกเขาเคยทำกับเรา" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "ฉันจะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ว่า...การเล่นกับไฟ...มันอันตรายแค่ไหน" ปอร์เช่พยักหน้าเล็กน้อย "ผมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ...ริน...เรามาเริ่มต้นแผนการของเรากันเลยนะครับ" เพียงไม่นานนัก แผนการของณลินและปอร์เช่ก็เริ่มต้นขึ้น ณลินใช้ความสามารถและความเฉียบขาดของเธอในการจัดการเรื่องธุรกิจของคิมหันต์ ส่วนปอร์เช่ก็ใช้เครือข่ายสื่อของเขาในการสร้างกระแสข่าวที่จะทำให้คิมหันต์และพิมต้องอับอายขายหน้าไปทั่วทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันนั้นเอง พิม ที่ถูกคิมหันต์ไล่ออกจากห้องก็เดินกลับมาที่บ้านของเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความผิดหวังในตัวคิมหันต์ เธอเปิดดูโทรศัพท์มือถือของเธอ และก็เห็นข่าวที่ถูกแชร์ไปทั่วทั้งประเทศ ภาพที่ปรากฏในข่าวคือภาพที่เธอและคิมหันต์กำลังนั่งอยู่ด้วยกันในร้านอาหารหรูหรา ภาพที่คิมหันต์กำลังจับมือของเธอใต้โต๊ะ และภาพที่เขากำลังจูบเธอในที่ลับตา...และข่าวทั้งหมดก็มาจากเพจข่าวของปอร์เช่เอง พิมถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าปอร์เช่จะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ ความโกรธแค้นในใจของเธอพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง เธอรู้ดีว่าชื่อเสียงของเธอได้ถูกทำลายลงไปแล้ว และอนาคตที่เธอเคยฝันไว้ก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว "พี่ริน...พี่ปอร์เช่...พวกพี่ต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกพี่ทำกับพิม!" พิมตะโกนลั่นห้องด้วยความคลั่ง พิมไม่รอช้าที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรออกไปหา ทนายความ ของครอบครัวเธอ "คุณทนายคะ...พิมอยากจะขอให้คุณช่วยพิมหน่อยค่ะ" พิมพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "พิมอยากจะฟ้องร้องพี่ริน...ข้อหาทำร้ายร่างกายและข่มขู่"ข่าวการจับกุม คิมหันต์ และเครือข่ายมาเฟียที่นำโดย เฮียเกา แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการธุรกิจและสังคมออนไลน์ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์และทุกสำนักข่าวต่างพาดหัวข่าวใหญ่ถึงจุดจบของชายผู้บ้าคลั่งที่พยายามทำร้าย ณลินและ ปอร์เช่ ณลินและปอร์เช่ที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านของพวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความโล่งอก ความดีใจ และความเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น"ในที่สุด...เขาก็ได้รับผลกรรมในสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วนะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ใช่ครับ...ริน...แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้เลย"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ณลินมองไปที่ปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "คุณรู้สึกสงสารเขาเหรอคะ?""ผมไม่ได้สงสารเขาหรอก...ผมแค่รู้สึกเสียใจ...เสียใจที่คนคนหนึ่ง...ต้องจมอยู่กับความแค้นและความอิจฉาริษยาจนชีวิตของเขาต้องพังทลายลงไปแบบนี้" ปอร์เช่พูดพร้อมกับมองไปที่ณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน "ริน...ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนเขา...เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะครั
ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและร่างของลูกน้องที่นอนจมกองเลือด ปอร์เช่ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือของเขากำปืนไว้แน่น ราวกับจะส่งความแค้นทั้งหมดไปที่ คิมหันต์ และ เฮียเกา"ปอร์เช่! แกยังไม่ตายงั้นเหรอ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ผมไม่ได้ตายหรอกครับ...คุณคิมหันต์...ผมแค่แกล้งทำเป็นตาย...เพื่อที่จะได้ล่อให้แกออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปอร์เช่พูดเลยแม้แต่น้อย"โกหก! แกกำลังโกหกฉัน!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงในขณะนั้นเอง เฮียเกา ก็เดินเข้ามาหาปอร์เช่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมันเลว! เลวที่สุด!"ปอร์เช่หัวเราะในลำคอ "ผมไม่ได้เลวหรอกครับ...เฮียเกา...ผมแค่ทำให้พวกคุณได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง"คำพูดของปอร์เช่ทำให้เฮียเกาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่ปอร์เช่พูดคื
ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ ที่โรงพยาบาลจนอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว ในขณะที่ปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะจัดการกับ คิมหันต์ และ เฮียเกา ให้สิ้นซากในค่ำคืนหนึ่ง ปอร์เช่ได้ให้ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นหมอพาเขาไปยังที่ซ่อนของพวกตัวร้าย ลูกน้องของปอร์เช่ได้สลับตัวเขาและปลอมตัวเป็นปอร์เช่ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ปอร์เช่กำลังจะไปที่ไหนรถยนต์คันหรูของปอร์เช่ได้ขับมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ชายในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้ปอร์เช่ ปอร์เช่เดินออกมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แกแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นี่?" ปอร์เช่ถามชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แน่ใจครับ...บอส...พวกมันอยู่ที่นี่กันหมดเลย"ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ดี...เราไปจัดการพวกมันกันเถอะ"ปอร์เช่และลูกน้องของเขาเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโกดังไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปที่ไหนในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ และ เฮียเกา กำลังนั่งดื่มเบียร
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของปอร์เช่ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ณลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับอย่างสงบ เธอรู้สึกได้ถึงความรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอคะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมตื่นมานานแล้ว...ผมแค่อยากมองหน้าเธอในตอนที่เธอกำลังหลับ"ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันมีความสุขมากเลยค่ะปอร์เช่""ผมเองก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ...ริน" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก "ริน...ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี "เรื่องอะไรคะ?""ผมจะให้ลูกน้องของผมปล่อยข่าวออกไปว่าอาการของผมแย่ลง...และผมก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ปอร์เช่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คิมหันต์กับเฮียเกาออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้"ปอร์เช่! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไป!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ผมรู้ครับ..
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธ