ในห้องทำงานที่เงียบสงบ ณลิน และ ปอร์เช่ นั่งอยู่ด้วยกันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด หลังจากที่ณลินได้รับโทรศัพท์จากทนายความที่แจ้งว่าคิมหันต์และพิมกำลังวางแผนที่จะฟ้องร้องเธอเรื่องการทำร้ายร่างกายและข่มขู่
"ฉันไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะกล้าทำแบบนี้อีก" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ "ในเมื่อหลักฐานทุกอย่างก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าใครเป็นคนผิด"
ปอร์เช่เอื้อมมือมาจับมือของเธอไว้แน่น "ผมรู้ครับ...แต่เราจะปล่อยให้พวกเขาทำแบบนี้กับเราไม่ได้"
"แล้วเราจะทำยังไงดีคะ?" ณลินถามอย่างร้อนรน
"เราจะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ว่า...การโกหก...มันต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง" ปอร์เช่พูดพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "เราจะใช้หลักฐานที่เรามีทั้งหมด...เพื่อทำลายพวกเขาให้สิ้นซาก"
คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะวางแผนการไว้ได้รวดเร็วและรัดกุมขนาดนี้
"คุณ...คุณวางแผนไว้แล้วเหรอคะ?" ณลินถามอย่างประหลาดใจ
"ใช่ครับ...ตั้งแต่ที่ผมรู้ว่าเธอมีปัญหา...ผมก็เตรียมการไว้แล้ว" ปอร์เช่พูดด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "เราจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่า...ใครกันแน่ที่เป็นผู้ร้ายที่แท้จริง"
คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับน้ำตาคลอเบ้า เธอรู้สึกได้ถึงความรักและความห่วงใยที่เขามีให้เธอ เธอไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตนี้เธอจะได้พบกับผู้ชายที่ดีขนาดนี้
"ขอบคุณนะคะปอร์เช่...ขอบคุณจริงๆ" ณลินพึมพำด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
ปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ...ผมจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ...ริน"
เพียงไม่นานนัก การสู้คดีระหว่างณลินและพิมก็เริ่มต้นขึ้น ทนายความของพิมนำหลักฐานต่างๆ มาแสดงต่อศาล ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายที่พิมมีรอยช้ำบนแขน หรือพยานที่ยืนยันว่าณลินเคยพูดจาข่มขู่พิมในงานเลี้ยง แต่หลักฐานเหล่านั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะเอาผิดณลินได้
ในขณะที่การสู้คดียังคงดำเนินต่อไป คิมหันต์ที่จมอยู่กับความแค้นก็เริ่มวางแผนการที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม เขาตัดสินใจที่จะใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการทำลายชื่อเสียงของณลินและปอร์เช่ให้ถึงที่สุด
คิมหันต์ใช้บัญชีปลอมในการสร้างกระแสข่าวที่กล่าวหาว่าณลินเป็นผู้หญิงที่ไม่ดี ที่คอยแต่จะหลอกลวงผู้ชายรวยๆ เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย และปอร์เช่ก็เป็นแค่ผู้ชายโง่ๆ ที่หลงเชื่อในคำโกหกของณลิน
ข่าวเหล่านี้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งประเทศอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างพากันเชื่อในสิ่งที่คิมหันต์สร้างขึ้น และต่างพากันด่าทอณลินและปอร์เช่ในโลกโซเชียล
"ปอร์เช่คะ...เราจะปล่อยให้พวกเขาทำแบบนี้กับเราไม่ได้นะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ
ปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ผมรู้ครับ...แต่เราจะใจเย็นๆ นะครับ...เราจะรอให้พวกเขาตายใจก่อน...แล้วเราก็จะจัดการพวกเขาอย่างเด็ดขาด"
ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม และเธอก็พร้อมที่จะทำตามแผนการของเขาทุกอย่าง
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ข่าวที่คิมหันต์สร้างขึ้นก็เงียบหายไป ณลินและปอร์เช่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้คนต่างเริ่มลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง การสู้คดีระหว่างณลินและพิมก็มาถึงจุดสิ้นสุด
ในวันตัดสินคดี พิมเดินเข้ามาในศาลด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เธอเชื่อว่าเธอจะต้องชนะคดีนี้อย่างแน่นอน แต่เมื่อเธอได้เห็นณลินเดินเข้ามาในศาลด้วยสีหน้าที่สงบและมั่นคง เธอก็รู้สึกถึงความประหลาดใจเล็กน้อย
การพิจารณาคดีเริ่มต้นขึ้น ทนายความของพิมนำหลักฐานต่างๆ มาแสดงต่อศาลอีกครั้ง แต่เมื่อถึงตาของปอร์เช่ เขาได้ลุกขึ้นยืนแล้วขอให้ศาลพิจารณาหลักฐานบางอย่างที่เขาได้เตรียมมา
"ท่านผู้พิพากษาครับ...ผมมีหลักฐานที่ยืนยันว่าคำให้การของพยานที่กล่าวหาคุณณลินนั้นเป็นเท็จ...และผมก็มีหลักฐานที่ยืนยันว่าคุณพิมกับคุณคิมหันต์นั้นร่วมมือกันในการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของคุณณลินและผม" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
คำพูดของปอร์เช่ทำให้ทุกคนในห้องพิจารณาคดีถึงกับอึ้งไป โดยเฉพาะพิมที่ถึงกับหน้าซีดเผือดไปถนัดตา
ปอร์เช่เปิดวิดีโอคลิปหนึ่งให้ศาลพิจารณา ในคลิปนั้นคือภาพที่พิมกำลังพูดคุยกับคิมหันต์ถึงแผนการในการทำลายชื่อเสียงของณลินและปอร์เช่ ทุกคำพูด ทุกการกระทำของพวกเขานั้นถูกบันทึกไว้หมดแล้ว
พิมถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ "ไม่จริง! วิดีโอนี้เป็นของปลอม!" พิมพยายามจะปฏิเสธ
แต่ในขณะนั้นเอง ทนายความของปอร์เช่ก็ได้ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า "วิดีโอนี้ถูกบันทึกมาจากกล้องวงจรปิดในห้องนอนของคุณพิมเอง...ซึ่งคุณปอร์เช่ได้ติดกล้องวงจรปิดนี้ไว้ตั้งแต่ที่คุณพิมเข้ามาอยู่ในบ้านของคุณณลินแล้วครับ"
คำพูดของทนายความทำให้พิมถึงกับพูดไม่ออก เธอไม่คิดว่าปอร์เช่จะวางแผนการไว้ได้รัดกุมขนาดนี้ เธอไม่คิดว่าปอร์เช่จะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับเธอ
"คุณพิมครับ...ผมมีหลักฐานที่ยืนยันว่าคุณพยายามจะทำลายชื่อเสียงของณลิน...และผมก็มีหลักฐานที่ยืนยันว่าคุณพยายามจะใส่ร้ายณลิน...คุณยังจะยืนยันคำให้การของคุณอีกไหมครับ?" ปอร์เช่ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
พิมถึงกับทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นด้วยความสิ้นหวัง เธอรู้ดีว่าเธอได้แพ้แล้ว และอนาคตที่เธอเคยฝันไว้ก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ข่าวการจับกุม คิมหันต์ และเครือข่ายมาเฟียที่นำโดย เฮียเกา แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการธุรกิจและสังคมออนไลน์ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์และทุกสำนักข่าวต่างพาดหัวข่าวใหญ่ถึงจุดจบของชายผู้บ้าคลั่งที่พยายามทำร้าย ณลินและ ปอร์เช่ ณลินและปอร์เช่ที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านของพวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความโล่งอก ความดีใจ และความเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น"ในที่สุด...เขาก็ได้รับผลกรรมในสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วนะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ใช่ครับ...ริน...แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้เลย"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ณลินมองไปที่ปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "คุณรู้สึกสงสารเขาเหรอคะ?""ผมไม่ได้สงสารเขาหรอก...ผมแค่รู้สึกเสียใจ...เสียใจที่คนคนหนึ่ง...ต้องจมอยู่กับความแค้นและความอิจฉาริษยาจนชีวิตของเขาต้องพังทลายลงไปแบบนี้" ปอร์เช่พูดพร้อมกับมองไปที่ณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน "ริน...ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนเขา...เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะครั
ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและร่างของลูกน้องที่นอนจมกองเลือด ปอร์เช่ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือของเขากำปืนไว้แน่น ราวกับจะส่งความแค้นทั้งหมดไปที่ คิมหันต์ และ เฮียเกา"ปอร์เช่! แกยังไม่ตายงั้นเหรอ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ผมไม่ได้ตายหรอกครับ...คุณคิมหันต์...ผมแค่แกล้งทำเป็นตาย...เพื่อที่จะได้ล่อให้แกออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปอร์เช่พูดเลยแม้แต่น้อย"โกหก! แกกำลังโกหกฉัน!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงในขณะนั้นเอง เฮียเกา ก็เดินเข้ามาหาปอร์เช่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมันเลว! เลวที่สุด!"ปอร์เช่หัวเราะในลำคอ "ผมไม่ได้เลวหรอกครับ...เฮียเกา...ผมแค่ทำให้พวกคุณได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง"คำพูดของปอร์เช่ทำให้เฮียเกาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่ปอร์เช่พูดคื
ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ ที่โรงพยาบาลจนอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว ในขณะที่ปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะจัดการกับ คิมหันต์ และ เฮียเกา ให้สิ้นซากในค่ำคืนหนึ่ง ปอร์เช่ได้ให้ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นหมอพาเขาไปยังที่ซ่อนของพวกตัวร้าย ลูกน้องของปอร์เช่ได้สลับตัวเขาและปลอมตัวเป็นปอร์เช่ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ปอร์เช่กำลังจะไปที่ไหนรถยนต์คันหรูของปอร์เช่ได้ขับมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ชายในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้ปอร์เช่ ปอร์เช่เดินออกมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แกแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นี่?" ปอร์เช่ถามชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แน่ใจครับ...บอส...พวกมันอยู่ที่นี่กันหมดเลย"ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ดี...เราไปจัดการพวกมันกันเถอะ"ปอร์เช่และลูกน้องของเขาเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโกดังไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปที่ไหนในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ และ เฮียเกา กำลังนั่งดื่มเบียร
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของปอร์เช่ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ณลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับอย่างสงบ เธอรู้สึกได้ถึงความรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอคะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมตื่นมานานแล้ว...ผมแค่อยากมองหน้าเธอในตอนที่เธอกำลังหลับ"ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันมีความสุขมากเลยค่ะปอร์เช่""ผมเองก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ...ริน" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก "ริน...ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี "เรื่องอะไรคะ?""ผมจะให้ลูกน้องของผมปล่อยข่าวออกไปว่าอาการของผมแย่ลง...และผมก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ปอร์เช่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คิมหันต์กับเฮียเกาออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้"ปอร์เช่! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไป!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ผมรู้ครับ..
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธ