หลังจากที่เห็นว่าพระชายาหวังหยู่ได้สติและไม่มีอาการผิดปกติอะไร ทางด้านหมอหลวงก็ยอมให้องค์รัชทายาทหลี่หยางพาองค์ชายหวังหยู่พระชายากลับพระตำหนักได้
เมื่อหลี่หยางพาหวังหยู่มาส่งถึงห้องบรรทมในพระตำหนัก เขาก็ให้พระชายาพักผ่อนส่วนตัวเองจะออกไปทำธุระกับองครักษ์ หลังจากองค์รัชทายาทหลี่หยางออกจากห้องไป วายุในร่างของหวังหยู่ยังรู้สึกขอบคุณองค์รัชทายาทในใจที่ไม่ปล่อยให้เขากลับมาคนเดียว ไม่อย่างนั้นมีหวังเขามาไม่ถูกและหลงทางเป็นแน่ ถ้ามีคนเห็นก็ไม่รู้จะตอบว่ายังไง วายุเริ่มรู้สึกได้ถึงความอ่อนล้าทั้งจากร่างกายและจิตใจ เขายังไม่สามารถที่จะทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้เต็มที่ แต่ก็รู้ว่าต้องเล่นบทบาทนี้ต่อไปอย่างแนบเนียนที่สุดเพื่อความปลอดภัยของตนเอง
เมื่อเขาพยายามรวบรวมสติและสำรวจสภาพร่างกายของตัวเอง วายุมีความรู้สึกไม่สบายตัวจากการสวมใส่ชุดคลุมหนา ๆ ที่เต็มไปด้วยความหรูหรานั้นและตั้งแต่ตื่นฟี้นขึ้นมาเขายังไม่ได้อาบน้ำเลยทำให้เขาตัดสินใจที่จะอาบน้ำเพื่อผ่อนคลาย ร่างบอบบางเดินวนหาห้องน้ำก็ไม่เจอที่ที่จะสามารถอาบน้ำได้ แล้วเขาต้องทำยังไงดี วายุได้แต่เดินวนไปมาในห้องคนเดียว
“พระชายา ท่านต้องการสิ่งใดหรือเปล่าเพคะ” เสียงหญิงสาวดังอยู่หน้าห้อง วายุคิดว่าน่าจะเป็นสาวรับใช้หรือนางกำนัลเป็นแน่
“เอ่อ ข้าเพียงแต่ต้องการที่จะอาบน้ำ” วายุตอบออกไปเสียงเบาให้พอได้ยิน
“รอสักครู่นะเพคะ เดี๋ยวเสี่ยวจินจะจัดเตรียมให้” นางกำนัลตอบกลับมา วายุจึงได้กลับมานั่งรอที่เตียงอย่างใจเย็น
รอไม่นานนัก นางกำนัลหลายคนก็เข้ามาภายในห้อง พร้อมกับอ่างไม้ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำอุ่น พวกเธอเตรียมการสำหรับการอาบน้ำของพระชายาหวังหยู่ที่วายุสวมบทบาทอยู่
วายุในคราบหวังหยู่มองนางกำนัลหลายต่อหลายคนที่พากันเตรียมน้ำให้เขาที่จริงเขาอยากที่จะเข้าไปช่วยมากเพราะมีแต่ผู้หญิง แต่ถ้าเขาเข้าไปช่วยมีหวังโดนจับได้แน่เลย
“น้ำอุ่นได้ที่แล้วเพคะพระชายา เชิญพระชายาเพคะ” เสียงนางกำนัลเข้ามาตามวายุให้ไปอาบน้ำ
วายุยืนมองดูอ่างไม้ขนาดใหญ่ด้วยความตื่นเต้นและความแปลกใจ นี่คือครั้งแรกที่เขาจะได้สัมผัสกับการอาบน้ำแบบจีนโบราณ ซึ่งแตกต่างจากการอาบน้ำในชีวิตประจำวันของเขาอย่างสิ้นเชิง
อ่างน้ำไม้ที่ตั้งอยู่กลางห้องถูกเติมน้ำอุ่นจนเกือบเต็ม มีกลีบกุหลาบลอยอยู่เต็มผืนน้ำ สาวใช้คนหนึ่งเดินถือขวดเล็กๆเข้ามาด้วย ดูแล้วน่าจะเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นดอกไม้และสมุนไพร นางกำนัลวางลงในน้ำเพื่อเพิ่มความหอมและผ่อนคลาย วายุพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เขาพยักหน้าเบา ๆ ให้กับสาวใช้ที่มองดูอย่างเป็นห่วง
“พระชายา น้ำอุ่นพร้อมแล้วเพคะ” หนึ่งในนางกำนัลกล่าวกับวายุพลางยิ้มแย้มอย่างสุภาพ
“พวกเจ้าออกไปก่อน เดี๋ยวข้าจัดการเอง” วายุบอกกับนางกำนัลทั้งหลาย เขาก็รู้สึกอายเหมือนกันที่ต้องมาแก้ผ้าให้ใครก็ไม่รู้ดู ถึงแม้จะเป็นร่างกายของหวังหยู่ก็เถอะ ก่อนที่จะออกไปนางกำนัลก็ปลดผ้าซึ่งใช้เป็นผ้าม่านลงมาบังให้กับพระชายา
หลังจากที่วายุบอกกับนางกำนัลเสร็จ เขาก็พยายามปั้นหน้านิ่งพยายามที่จะไม่อายทำให้เหมือนเป็นเรื่องปกติขณะค่อยๆ ถอดชุดคลุมออกอย่างงงๆ เขายังคงรู้สึกแปลกแยกกับร่างกายของตัวเองที่บอบบางกว่าเดิมมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาต้องอยู่ในร่างงดงามของหวังหยู่นี้ชั่วคราว เขาต้องดูแลร่างนี้ให้ดี ก่อนที่จะก้าวลงสู่อ่างน้ำอุ่นอย่างช้า ๆ
ทันทีที่ร่างของเขาจมลงในน้ำอุ่น ความรู้สึกผ่อนคลายก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้และสมุนไพรช่วยให้จิตใจของเขาผ่อนคลายลง แม้จะยังคงสับสนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การอาบน้ำในแบบจีนโบราณนี้ก็ทำให้เขารู้สึกสงบได้บ้าง
ในขณะที่วายุลงแช่อยู่ในอ่างน้ำและหลับตาลง นางกำนัลคนหนึ่งเข้ามาพร้อมกับผ้าขนหนูที่ทำจากผ้าลินินเนื้อดี เพื่อทำความสะอาดร่างกายอย่างนุ่มนวล เธอค่อย ๆ ชำระล้างผิวกายให้กับเขาตามธรรมเนียมการดูแลพระชายาในราชสำนัก การสัมผัสของนางทำเขาวายุถึงกับสะดุ้งโหยงเพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาถูเนื้อถูตัวให้ขนาดนี้ ดีนะที่มีกลีบดอกกุหลาบลอยน้ำปิดบังส่วนสงวนของเขาอยู่
“พระชายา ท่านดูเงียบสงบกว่าปกติ ท่านมีสิ่งใดให้ข้ารับใช้ดูแลเพิ่มเติมหรือไม่เพคะ” นางกำนัลอีกคนถามขึ้นมาอย่างสุภาพ ขณะที่เธอเริ่มล้างผมยาวสลวยของวายุ
วายุสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามนั้น ในใจของเขายังเต็มไปด้วยความกังวลที่กลัวว่าจะตอบผิดพลาด แต่เขารู้ดีว่าการรักษาท่าทีเงียบขรึมและสุภาพอ่อนโยนแบบหวังหยู่คงเป็นทางรอดเดียวที่ทำให้เขาไม่ถูกสงสัย
“ข้า เอ่อ ไม่เป็นไร ข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว” วายุตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามเลียนแบบท่าทีสงบที่คิดว่าองค์ชายหวังหยู่น่าจะเป็นแบบนี้
หลังจากการอาบน้ำเสร็จสิ้น วายุก็รู้สึกถึงความผ่อนคลายและความสบายตัว แม้ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับเขา แต่ก็ทำให้เขาได้โอกาสพักผ่อนจากความเครียดที่ถาโถมเข้ามา ถึงตอนออกจากอ่างแล้วเขาจะออกยังไงถึงจะไม่โป้
“พวกเจ้าออกไปก่อนไป เดี๋ยวข้าขอเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้แห้งก่อน” วายุสั่งนางกำนัล ก่อนที่จะรับผ้าที่คิดว่าเป็นผ้าสำหรับเช็ดตัวจากนางมาถือไว้เอง
เมื่อออกจากอ่างน้ำและเช็ดตัวให้แห้งแล้ว นางกำนัลทั้งหลายก็เข้าช่วยทาน้ำมันบำรุงผิวพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเขาเป็นชุดคลุมไหมเนื้อละเอียดสีอ่อนที่เหมาะสำหรับพักผ่อนในค่ำคืน วายุได้แต่ทำตามสิ่งที่นางกำนัลจัดเตรียมให้ โดยพยายามควบคุมท่าทีให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ดีนะที่ไม่ให้แต่งตัวเองไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องใส่ชิ้นไหนก่อนหลังดี
หลังจากการอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย นางกำนัลก็พาพระชายามาที่ห้องนอน ขณะที่วายุนอนลงบนเตียงนุ่ม ๆ เขาหลับตาลงและหายใจลึก แม้ความจริงที่เกิดขึ้นจะยังคงตามหลอกหลอนเขา แต่การอาบน้ำในค่ำคืนนี้ก็ทำให้เขารู้สึกสงบลงได้บ้าง แต่ยังต้องมีเรื่องราวอื่นยังคงรอคอยเขาในวันพรุ่งนี้ เขาต้องสวมบทบาทเป็นพระชายาในราชสำนักโบราณนี้ไปอีกนานแค่ไหนหรือต้องเป็นตลอดไป วายุคิดก่อนที่จะหลับไป
หลังจากที่วายุ ได้ปักลายหงส์เสร็จสิ้น เขารู้สึกพอใจเล็กน้อยที่สามารถพิสูจน์ตัวเองว่างานแบบนี้เขาก็สามารถทำมันได้ดีเช่นกัน แม้จะยังไม่ได้โชว์ให้หลี่หยางได้เห็น แต่เขาคิดว่าถ้าคนปากร้ายอย่างองค์รัชทายาทหลี่หยางเห็นเขาต้องเริ่มมองเขาในมุมที่แตกต่างออกไปแน่นอน แม้เพียงเล็กน้อยก็ตามแต่ไม่นานหลังจากนั้น ข่าวการฝึกวิทยายุทธขององค์รัชทายาทหลี่หยางก็แพร่สะพัดไปทั่วตำหนัก หลี่หยางเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นนักรบผู้มีฝีมือทางวิทยายุทธที่เก่งกาจและแข็งแกร่ง เขามักจะใช้เวลาฝึกฝนตนเองอย่างหนักเพื่อให้ร่างกายและจิตใจอยู่ในสภาพที่พร้อมเสมอสำหรับการต่อสู้และการปกครองแคว้นวันนี้เช่นกัน องค์รัชทายาทหลี่หยางกำลังฝึกวิทยายุทธอยู่ที่ลานฝึกภายในตำหนัก ในชุดฝึกสีดำที่แนบเนื้อ ชายหนุ่มร่างสูงสง่ากำลังเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ ดาบในมือของเขาฟาดฟันอากาศด้วยความชำนาญ ทุกท่วงท่าดูสง่างามและทรงพลัง จนทำให้เหล่าทหารและราชองครักษ์ที่เฝ้าดูต้องชื่นชมในความสามารถขององค์รัชทายาทขณะที่การฝึกฝนดำเนินไป หลี่หยางก็หันไปบอกให้คนรับใช้คนหนึ่งไปตามพระชายาหวังหยู่มาพบที่ลานฝึก เขาต้องการให้พระชายาของเขามาดูการฝึกวิทย
หลังจากที่เห็นพระชายาหวังหยู่ปักได้เพียงเล็กน้อย องค์รัชทายาทหลี่หยางก็ยกมือขึ้นหยุดเขา “พอเถอะ ข้าไม่อยากดูเจ้าทรมานกับงานที่เจ้าทำไม่ได้ เห็นแล้วมันน่าสมเพช” เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน สายตายังคงเต็มไปด้วยความเย็นชาและไม่สนใจ“จำไว้ พระชายา... ถ้าเจ้าไม่สามารถยืนเคียงข้างข้าในฐานะคู่สมรสที่เข้มแข็ง เจ้าก็คงเป็นได้แค่พระชายาที่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมือนสตรีที่อ่อนแอเท่านั้น” องค์รัชทายาทหลี่หยางพูดจบก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งวายุให้นั่งอยู่กับความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความอับอายและความเจ็บปวดหลังจากหลี่หยางออกไป วายุจ้องมองผ้าปักในมือด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย แม้เขาจะเข้าใจว่าเป็นเพียงการแกล้ง แต่คำพูดเหล่านั้นก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกลดคุณค่าลง เขาไม่ใช่หวังหยู่ไม่รู้ว่าถ้าเป็นหวังหยู่ตัวจริงยังอยู่และได้ยินแบบนี้แล้วจะเสียใจจนเลิกรักองค์ชายปากร้าย นิสัยเย็นชา มีดีแค่หน้าตาแบบนี้ได้หรือไม่ อาจจะถึงขั้นเลิกรักไปเลยก็ได้ แต่นี่เป็นวายุเป็นนายแพทย์ศัลยกรรมมือหนึ่งในโลกปัจจุบันที่มีแต่คนยกย่อง และการต้องเล่นบทนี้ทำให้เขาต้องแบกรับความเจ็บปวดและความกดดันที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้วายุถอนหายใจ
หลังจากที่ความลับเรื่องผักถูกเปิดเผยในมื้ออาหาร หลี่หยางเดินออกจากห้องด้วยความไม่พอใจ ทิ้งให้วายุรู้สึกสับสนและเสียใจ วายุรู้ว่าหลี่หยางไม่ชอบการถูกบังคับและรู้สึกว่าถูกล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว เขาจึงต้องการที่จะขอโทษอย่างจริงใจ แต่ก็รู้ว่าสถานการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย“เราแค่หวังดี แต่กลับทำให้เขาโกรธจนได้” วายุคิดในใจ เขาไม่เคยเจอใครที่แข็งกระด้างและปิดกั้นตัวเองเช่นนี้มาก่อน ยิ่งเป็นคนที่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันยิ่งทำให้การสื่อสารนั้นลำบาก ในที่สุด วายุตัดสินใจเดินไปที่ตำหนักขององค์รัชทายาทหลี่หยางเพื่อขอโทษ เขารู้ว่าถ้าไม่รีบเคลียร์เรื่องนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะยิ่งตึงเครียดและแย่ยิ่งไปอีก ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเลยเมื่อมาถึงตำหนักขององค์รัชทายาท วายุยืนลังเลอยู่หน้าประตูชั่วขณะก่อนจะสูดหายใจลึกและเคาะประตู“องค์รัชทายาท ข้าเอง...หวังหยู่” วายุเอ่ยเสียงเบา ท่าทางที่ไม่มั่นใจเท่าไรนัก ทำให้ดูเหมือนเป็นคนละคนกับหวังหยู่ที่แข็งแกร่งอย่างที่หลี่หยางคุ้นเคยเสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นก่อนที่ประตูจะถูกเปิด หลี่หยางยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยสายตาที่เย็นชา ใบหน้าขององค์รัชทายาทเต็มไป
หลังจากมื้อเช้าที่เต็มไปด้วยความอึดอัด ด้วยความที่เป็นหมอ วายุในร่างของหวังหยู่ ก็เริ่มคิดหาวิธีที่จะช่วยเรื่องสุขภาพของหลี่หยาง แม้หลี่หยางจะไม่สนใจการกินผักและดูแข็งแรงจากภายนอก แต่ในฐานะหมอ วายุรู้ดีว่าการที่หลี่หยางไม่ยอมกินผักนาน ๆ ย่อมส่งผลต่อร่างกายแน่นอนและเขาก็ได้ยินข่าวลือจากสาวใช้บางคนว่าองค์รัชทายาทหลี่หยางมักจะมีปัญหาเรื่องท้องผูกอยู่บ่อย ๆ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยเมื่อพิจารณาจากการที่ไม่กินผักเลย วายุรู้ว่าเขาไม่สามารถบังคับให้หลี่หยางกินผักได้โดยตรง ดังนั้นเขาจึงต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้รัชทายาทกินผักโดยไม่รู้ตัวหลังจากคิดอยู่สักพัก วายุก็เกิดไอเดียเขาจะเข้าครัวเอง และสั่งให้แม่ครัวดัดแปลงอาหาร โดยใส่ผักในจานอาหารของหลี่หยางอย่างแนบเนียน ด้วยวิธีนี้ หลี่หยางจะได้กินผักโดยไม่รู้ตัว และไม่สามารถปฏิเสธได้ช่วงสายวัน วายุตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องครัวของวัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เขาไม่เคยเข้ามามาก่อน แต่เขาก็ต้องทำให้ทุกอย่างดูเป็นปกติที่สุด เขาเข้ามาพร้อมกับคำขอที่ฟังดูไม่ผิดสังเกต“ข้ามีเรื่องอยากให้ช่วย” วายุกล่าวเบา ๆ ขณะเดินเข้าหาซั่งซูหรือพ่อครัวใหญ่ของวัง ซึ่งเป็นผู้ด
เช้าวันใหม่มาเยือน แสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้องหออันสงบ ร่างของวายุในร่างของหวังหยู่ ค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้นจากการนอนหลับที่ตึงเครียดตลอดทั้งคืน เขาเพิ่งลืมตาขึ้นมาก็รู้สึกถึงความอุ่นและหนักแน่นของอะไรบางอย่างที่อยู่ใกล้ตัวทันทีที่ดวงตาของเขาปรับเข้ากับแสงจ้า เขาก็พบว่าตัวเองนอนกอดก่ายอยู่บนอกของหลี่หยาง องค์รัชทายาทผู้สง่างาม หน้าอกที่แกร่งและอบอุ่นของหลี่หยางเป็นสิ่งแรกที่วายุสัมผัสได้ เสียงการเต้นของหัวใจเขาดังอยู่ในหูของวายุ และที่แย่ที่สุดคือ หลี่หยางยังคงนอนอยู่ข้างเขาโดยที่เขาเองเอนกายซบอยู่บนตัวอีกฝ่าย“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” วายุคิดอย่างตื่นตระหนก หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงและเร็วขึ้น ร่างกายของเขาแข็งทื่อราวกับถูกตรึงไว้กับที่ เขาไม่รู้ว่าตัวเองเผลอขยับมาอยู่ในท่านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีกท่ามกลางความอึดอัดนั้น วายุเริ่มพยายามขยับตัวออกจากหลี่หยางโดยไม่ให้เขารู้ตัว แต่ก็ไม่ทัน…หลี่หยางรู้สึกตัวและเปิดตาขึ้นทันที เขามองลงมาที่ร่างของหวังหยู่ที่นอนอยู่บนอกของเขาด้วยความไม่พอใจ ดวงตาคมกริบของเขาแสดงถึงความตกใจเล็กน้อย แต่ก็กลับกล
ค่ำคืนนั้น หลังจากที่วายุในร่างของพระชายาหวังหยู่ อาบน้ำและพักผ่อนบนเตียงหรูหรา เขาพยายามจะนอนหลับเพื่อให้สมองได้พักจากความสับสนและความกดดันที่ต้องรับมือมาตลอดวัน แต่จิตใจของเขายังคงวุ่นวายไม่สงบ ยิ่งเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ความรู้สึกว่าทุกอย่างเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้เริ่มถาโถมเข้ามา“เราต้องเล่นบทนี้ต่อไปอย่างไร” วายุคิดในใจ เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่หวังหยู่ และการอยู่ในราชสำนักจีนโบราณเช่นนี้อาจจะเต็มไปด้วยพิธีกรรมและธรรมเนียมที่เขาไม่รู้จัก หากเขาเผลอทำอะไรผิดพลาด นั่นอาจหมายถึงความหายนะ ต่อชีวิตของเขาเองในขณะที่วายุกำลังครุ่นคิด เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นก็ดังขึ้นจากประตูห้อง พร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่า สวมเสื้อคลุมยาวลายมังกรทองที่มีอำนาจอันน่าเกรงขามองค์รัชทายาทหลี่หยางก้าวเข้ามาในห้องนอนด้วยท่าทางสงบและมั่นคง ดวงตาคมกริบของเขาจ้องตรงมาที่วายุ ซึ่งตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงของหวังหยู่ หัวใจของวายุเต้นแรงขึ้นทันทีอย่างไม่สามารถควบคุมได้“ทำไมเขาถึงมาที่นี่” วายุถามตัวเองในใจ แม้จะรู้ดีว่าในฐานะพระชายาขององค์รัชทายาท หน้าที่ของเขาอาจจะหมายถึงการแบ่งปันห้องนอน แต่ค