Share

ตอนที่5 กลับ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-09 10:57:07

“องค์หญิงเจ้าขาค่อยๆ เดินเจ้าค่ะเดี๋ยวจะล้ม”

ซูเอ่อพยุงมีมี่ขึ้นบนเกี้ยวหลังใหญ่อย่างเอาใจ

“ไม่เป็นไรน่าข้าเดินเองได้”

ชักเริ่มอึดอัดแล้วตั้งแต่เช้ามา ที่เจ้าลู่เหวินนำเนื้อแพะภูเขาย่างมาให้เพื่อเอาใจ อ๋องเฉวียนให้คนนำบิดากับมารดาของซวีหลินมากล่าวลาถึงในห้องมีมี่ก็หวานอมขมกลืน ยอมกินหมั่นโถวที่ทำจากแป้งเปล่าๆ ดีกว่าต้องกินเนื้อแพะภูเขาที่ ไม่เคยกินสักครั้งนั่น ยอมตีหน้าเศร้าพูดจาอำลาบิดากับมารดาของซวีหลินอย่างจำใจดีที่ดูซีรีส์มาเยอะก็พอจะถูไถไปได้

ก็นะคนเป็นแม่ก็ห่วงเหลือเกินกอดลาครั้งแล้วครั้งเล่ามีมี่อึดอัดจะแย่ พอถึงเวลาออกมาข้างนอกนี่ค่อยโล่งหน่อยก็ดันมาถูกซูเอ่อพยุงราวกับคนพิการ

“ข้าเดินเองได้ น่า” ก้าวขาขึ้นไปบนเกี้ยวแต่ทว่าพลาด เหอะ

“โอ๊ย” คนร่างสูงในอาภรณ์สีดำ ดูดุดันและน่าเกรงขาม คนดาร์กๆ รับไว้ได้ทันภายใต้หน้ากากนั่นมีใบหน้าหล่อเหลาที่เย็นชา

จ้องใบหน้างามตาไม่กะพริบตาสบตามีมี่หลบตาเสีย

นี่มันบทล้มทับหรือบทเข้าพระเข้านางชัดๆ หรือว่าเรื่องนี้เปลี่ยนนางร้ายอย่าบอกนะว่ามีมี่ถูกวางตัวเป็นนางร้ายแทนบุตรีขุนนางกรมคลัง เสวียนอี้คนนั้น

“เห็นไหมเจ้าค่ะบอกแล้วว่ามันสูงเกินไปก้าวขาลำบาก”

ซูเอ่อกล่าวดังๆ ทำลาย บทเข้าพระเข้านางได้ทัน หรือเรียกอีกอย่างว่าขัดจังหวะ ลู่เหวินรีบนำแท่นรองพื้นมาวาง วัวหายแล้วล้อมคอก

“องค์หญิงเชิญเหยียบ”

อ๋องหรงส่ายหน้าหลุบตามองพื้น

“ไม่ทันแล้ว” ส่งมีมี่ขึ้นบนเกี้ยวด้วยตัวเอง แล้วพาตัวเองขึ้นไปนั่งตรงกันข้ามจ้องหน้ามีมี่ไม่ให้คาดสายตา ขยับหน้ากากไปมาขึ้นลง แต่ไม่เคยคาดสายตาจริงๆ

“ท่านไม่ขี่ม้าไปหรือ” มีมี่อดถามไม่ได้

“ข้าไม่ชอบขี่ม้าและไม่เคยขี่ม้ามานี่ก็มากับเกี้ยว ไม่เคยต้องลำบากไปขี่ม้า” มิน่าเล่าเกี้ยวถึงหลังใหญ่ขนาดนี้ตอนแรกคิดว่าจะได้นั่งตีพุงให้ซูเอ่อนวดสบายๆ สองคนในเกี้ยวที่ไหนได้ต้องมานั่งเกี้ยวกับคนหน้าเฉย ต้องคอยหลบสายตาพิฆาตของอ๋องหน้านิ่งนี่ไปอีกนานแค่ไหน

“ไกลไหมจากนี่ไปจนถึง วังหลวง”

“200ลี้”

มีมี่อ้าปากค้าง สองร้อยลี้ก็100กิโลเมตร เดินเท้าแล้วแบกเกี้ยวจะต้องใช้เวลาเดินทางกี่วันกัน

“แล้วท่านไม่คิดจะฝึกขี่ม้าบ้างหรือ”

“ไม่นะ ไม่เคยคิดจะขี่ นั่งบนเกี้ยวสบายกว่าเยอะ”

มีมี่ทำสีหน้าว่าไม่อยากจะเชื่อ คนอะไรหล่อก็หล่อ มาดนี่เหมือนกับพระเอกแต่ขี่ม้าไม่เป็น นี่เองกระมังที่เขาบอกว่าไม่ได้เรื่องสักอย่าง

มีมี่ยิ้มเจื่อนๆ

“อืมข้าได้ยินว่าเผ่าเอ่อถัวอาศัยในทุ่งหญ้าเชี่ยวชาญการล่าสัตว์ เจ้าก็คงขี่ม้าเก่งลงไปขี่ม้าก็ได้นะถ้าเจ้าอยากจะไปข้าจะให้ลู่เหวินเตรียมม้าให้เจ้า”

ทำใจดีใครจะไป ขี่มง ขี่ม้าอะไรอย่าว่าแต่ขี่ม้าเลยเข้าใกล้ม้ามีมี่ยังไม่อยากทำ

“ขะข้าไม่เคยขี่ม้า”

“อืมคงจะจริง เจ้าเป็นถึงองค์หญิงเห็นแล้วว่าบิดามารดาของเจ้าเอาใจเจ้าเพียงใดรักราวกับไข่ในหินคงไม่ให้เจ้าไปทำอะไรแบบนี้” ทำไมเข้าใจอะไรง่ายๆ แบบนี้ฟะ

“ใช่ๆๆๆๆ”

เผลอยิ้มสดใส ไม่ต้องหาคำแก้ตัวในเมื่ออีกคนคิดไปเอง

“แล้วมาบอกให้ข้าไปขี่ม้าทำไมหรือว่าเจ้าอยากจะฝึกขี่ม้า”

ส่ายหน้าไปมา จะให้บอกว่าอยากจะไล่ท่านนั่นล่ะไปให้พ้นหูพ้นตาก็ไม่กล้าพูด

“หยุดเกี้ยวววววว”

มีมี่เลิกคิ้วสูงอ๋องหรงเป่ยหลางคว้าข้อมือมีมี่มากำไว้พาเดินลงไปจากเกี้ยวที่หยุดแล้ว

ลู่เหวินรีบวิ่งมา

“นายหญิงของเจ้าอยากจะลองฝึกขี่ม้า”

“พ่อบุญธรรมท่านจะฝึกองค์หญิงขี่ม้าหรือ แหมพ่อบุญธรรมท่านยอมขี่ม้าหลังจากที่ไม่เคยขี่ตั้งนานเพื่อองค์หญิงเลยหรือ”

มีมี่อ้าปากค้างอย่าบอกนะว่า

จินตนาการไปถึงหลังมาสีขาวหรือสีดำที่มีอ๋องหรงนั่งซ้อนท้าย มือกุมมือของมีมี่จับบังเหียนม้า แผ่นหลังแนบอกอุ่น เอวถูกรั้งให้แนบชิดเอวแกร่งของอีกฝ่าย ภาพที่จินตนาการช่างงดงามบนทุ่งหญ้าสีเขียวขจี

“หุบปากไปตรียมม้ามา จะยากอะไรแค่ขี่ม้าง่ายนิดเดียว”

ลู่เหวินยิ้มกว้าง

“ขอรับง่ายนิดเดียว”

“ดีไปนำมาม้าแล้วก็หาใครสักคนที่เก่งเรื่องขี่ม้ามาช่วยฝึกให้นางด้วย”

“ซอเอินเจ้ามานี่ เจ้าหมอนี่ขี่ม้าเก่งที่สุดแล้วขอรับ” ลู่เหวินภูมิใจนำเสนอ

เจ้าซอเอินที่ว่าร่างกายสูงใหญ่ราวกับยักษ์ดวงหน้าสีดำทะมึน ผมเผ้ารุงรัง ตาขวางจนน่ากลัว อ๋องหรงหันไปยิ้มเสียอีกทาง

“ม่ายยยยยไม่เอา ข้าไม่ขี่ ไม่ได้อยากฝึกขี่ม้า พอเสียทีรีบๆ ไปให้ถึงวังหลวงเถอะนี่พวกท่านคิดว่ามาประภาสป่าหรือว่ามาเดินเล่นหรือไง”

มีมี่ก้าวขึ้นไปบนเกี้ยว

ลู่เหวินเกาหัวแกรกๆ

“ตกลงเอาไหมขอรับ”

อ๋องหรงยิ้มน้อยๆ ลู่เหวินเผลอยิ้มตามเพราะนานแค่ไหนแล้วที่ไม่เห็นพ่อบุญธรรมของเขายิ้ม

“ทำให้ตัวร้ายยิ้มได้ได้เพิ่ม1โอกาสพลังพิเศษ

“เตรียมรอไว้ให้ข้าเข้าไปเกลี้ยกล่อมนางก่อนดีไหม” ลู่เหวินพยักหน้าขึ้นลง

“พ่อบุญธรรมท่านนี่สุดยอด ลู่เหวินนับถือชอบรังแกคนไม่มีทางสู้จริงๆ”

อ๋องหรงหุบยิ้ม ใช้มือเบิ๊ดกระโหลกลู่เหวินเบาๆ

“ข้าแค่ทดสอบนาง องค์หญิงเอ่ถัวแต่ขี่ม้าไม่เป็น คิดว่าข้าเชื่อหรือ”

เดินขึ้นนั่งบนเกี้ยวยกมือกอดอกหน้าตานิ่ง มีมี่หันไปมองทิวทัศน์สองข้างทางเสีย

“คนอะไร กวน-ีนเป็นบ้า”

บ่นพึมพำ เกี้ยวยังคงเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ มีมี่เผลอหลับใหลเพราะเกี้ยวโยกไปมาคล้ายเปล

แล้วฝันไป หนังสือนิยายเรื่อง…สยบหัวใจอ๋องวายร้ายหน้านิ่ง… นี่บัดนี้กลับถูกแผดเผาโดยเปลวเพลิงสีแดงลุกโชติช่วง มีมี่พยายามดับไฟที่ไหม้หนังสือนิยายเล่มโปรด แต่ไม่สำเร็จ

“เอาแต่อ่านนิยายไม่สนใจการเรียนหมกมุ่นอยู่แต่พระเอกซีรีส์เมื่อไหร่แกจะโตสักที” เสียงพ่อที่ดังเหมือนยืนอยู่ใกล้ๆ ตรงนั้น มีมี่ปาดน้ำตา เมื่อรู้ว่าคนที่เผาหนังสือนิยายของมีมี่ก็คือพ่อนั่นเอง

ไม่ได้โต้ตอบอะไรเอาแต่ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้แบบไม่มีเสียงแม้แต่สะอื้นยังไม่กล้าทำ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ย้อนเวลาไปเป็นหมอดู   ตอนที่14ข้าพอใจแล้ว

    ลู่เหวินก้มหน้ายิ้ม เมื่อเห็นอ๋องหรงถอนหายใจยาวหนึ่งชั่วยามนางทนรออย่างอดทนเพื่ออะไรมีหรือเขาจะไม่รู้โต๊ะอาหารที่ศาลาริมน้ำสาวใช้ยกอาหารคาวหวานมาวางไว้ เสวียนอี้ช่วยจัดอาหารลงจานอย่างไม่ถือตัวว่าเป็นคุณหนู“ลู่เหวินไปรอรับ องค์หญิงเก้า” เสวียนอี้อ้าปากค้างอ๋องหรงที่เอามือไพล่หลังมองไปที่ประตูทางเข้าตำหนักเอ่ยปากเสียงเข้ม เสวียนอี้หูผึ่ง“ไม่แน่อาจไม่มาขอรับ”ลู่เหวินพูดอ้อมแอ้ม“ไม่มาแล้วนางจะกินที่ไหน ห้องเครื่องไม่ยกเครื่องเสวย ข้าถามไถ่ก็อ้างเรื่องที่นางเป็นชนเผ่ากลัวว่าทำเครื่องเสวยไปแล้วจะไม่ถูกปาก ช่างเป็นข้ออ้างที่ฟังขึ้นเหลือเกิน แค่นางไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นสนมก็ถึงกับอดข้าว”“ขอรับ ลูกจะไปรอรับหากไม่มาจะไปตามขอรับ”“มาแล้วๆๆๆ มาแล้วรอนานไหมข้ามาแล้ว ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องกังวลไม่ต้องกังวลข้ามาแล้ว”หนีบเอาหีบเงินกับหีบทองเข้ามา ลู่เหวินจะรับเอาก็เบี่ยงตัวหลบ“ไม่ไม่ต้องๆ ข้าถือเองได้”“นั่นคืออะไร” อ๋องหรงเอ่ยปากถาม"เงินกับทองของข้าที่นำติดตัวมาจากเอ่อถัวอย่างไรเล่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีเท่านี้” อ๋องหรงส่ายหน้าไปมากำลังคิดว่าทำไมเขาที่จับตาตลอดถึงไม่เห็นว่ามีมี่เอาเงินทองเหล่านี้ขึ้นเ

  • ย้อนเวลาไปเป็นหมอดู   ตอนที่13ดูดวงกันหรือยังวันนี้

    “เจ้าค่ะ แต่พูดก็พูดองค์หญิงถูกพามาที่นี่ก็เพื่อการนี้เจ้าค่ะมาถวายตัวองค์หญิงต้องทำใจเจ้าค่ะ แต่ที่น่าแปลกใจคือซูเอ่อไม่คิดว่าองค์หญิงจะมีเวทย์หยั่งรู้ที่เป็นภัยต่อคนอื่น เช่นนี้ฝ่าบาทเองก็คงไม่รู้หากฝ่าบาทรู้ก็คงไม่ให้องค์หญิงมาที่นี่ให้เสียเวลา” มีมี่ยิ้ม“ไม่ใช่เพื่อการนี้แต่เพื่อช่วยมวลมนุษยชาติ เจ้าเข้าใจไหมซูเอ่อ ต่อไปช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนอื่นได้รู้ว่าข้ามีหน้าที่ทำนายทายทักอนาคตของผู้คนดีไหมการที่เข้ามาอยู่ที่นี่จะได้ไม่สูญเปล่าข้าแบ่งให้เจ้า 20เปอร์เซ็นต์เลยเอ้า”ซูเอ่ออ้าปากค้าง ธุรกิจกำลังเริ่มต้นและไปได้ดี“ซูเอ่อจะได้ส่วนแบ่งหรือเจ้าค่ะ” ดวงตาแวววาว“แน่นอน ต่อจากนี้ก็จะยื้อเรื่องของฝ่าบาทได้อีกสักพักไม่ให้เขามากวนใจข้าแต่ระหว่างนี้อะไรก็ไม่แน่นอน เงินทองแน่นอนที่สุด ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อทำนายดวงให้กับผู้คนในวังหลวงเพื่อแนะแนวทางและช่วยหาทางออกจากเรื่องที่ไม่อาจตัดสินใจหรือแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เราสองคนมาทำธุรกิจร่วมกัน ตกลงไหม”เรื่องราวต่อจากนี้มีมี่อ่านมาหมดล่ะบอกไปก็เหมือนสปอยส์ต่อจากนี้เรื่องราวสปอยส์เหล่านี้จะกลายเป็นเงินทอง“ตกลงเจ้าค่ะ” มีมี่ยิ้ม จะร่วงหรือรอดก็ต

  • ย้อนเวลาไปเป็นหมอดู   ตอนที่12เราจะกอบโกย

    “เจ้าค่ะ แต่พูดก็พูดองค์หญิงถูกพามาที่นี่ก็เพื่อการนี้เจ้าค่ะมาถวายตัวองค์หญิงต้องทำใจเจ้าค่ะ แต่ที่น่าแปลกใจคือซูเอ่อไม่คิดว่าองค์หญิงจะมีเวทย์หยั่งรู้ที่เป็นภัยต่อคนอื่น เช่นนี้ฝ่าบาทเองก็คงไม่รู้หากฝ่าบาทรู้ก็คงไม่ให้องค์หญิงมาที่นี่ให้เสียเวลา” มีมี่ยิ้ม“ไม่ใช่เพื่อการนี้แต่เพื่อช่วยมวลมนุษยชาติ เจ้าเข้าใจไหมซูเอ่อ ต่อไปช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนอื่นได้รู้ว่าข้ามีหน้าที่ทำนายทายทักอนาคตของผู้คนดีไหมการที่เข้ามาอยู่ที่นี่จะได้ไม่สูญเปล่าข้าแบ่งให้เจ้า 20เปอร์เซ็นต์เลยเอ้า”ซูเอ่ออ้าปากค้าง ธุรกิจกำลังเริ่มต้นและไปได้ดี“ซูเอ่อจะได้ส่วนแบ่งหรือเจ้าค่ะ” ดวงตาแวววาว“แน่นอน ต่อจากนี้ก็จะยื้อเรื่องของฝ่าบาทได้อีกสักพักไม่ให้เขามากวนใจข้าแต่ระหว่างนี้อะไรก็ไม่แน่นอน เงินทองแน่นอนที่สุด ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อทำนายดวงให้กับผู้คนในวังหลวงเพื่อแนะแนวทางและช่วยหาทางออกจากเรื่องที่ไม่อาจตัดสินใจหรือแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เราสองคนมาทำธุรกิจร่วมกัน ตกลงไหม”เรื่องราวต่อจากนี้มีมี่อ่านมาหมดล่ะบอกไปก็เหมือนสปอยส์ต่อจากนี้เรื่องราวสปอยส์เหล่านี้จะกลายเป็นเงินทอง“ตกลงเจ้าค่ะ” มีมี่ยิ้ม จะร่วงหรือรอดก็ต

  • ย้อนเวลาไปเป็นหมอดู   ตอนที่11เลือดไหลออกจากทวารทั้ง8

    “เรื่องเวทย์หยั่งรู้คงแพร่ออกไปทั่ววังหลวงแล้วฝ่าบาทจะต้องบังคับให้องค์หญิงสะกดเวทย์ไว้แน่ๆ เจ้าค่ะ” มีมี่ถอนหายใจรอบที่ร้อยห้องทรงอักษร“อย่างนั้นหรือนาง นางมีเวทย์ประหลาดอย่างนั้นหรือ เจ้าเคยได้ยินไหมอ๋องหรง” ฉีก้านพูดจบก็คีบเครื่องเสวยใส่ปากเคี้ยวงับๆ อย่างอารมณ์ดี อวี่หนิงคีบเนื้อกุ้งที่แกะวางให้อย่างเอาใจ“ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ” น้ำเสียงเรียบเฉย“อือประหลาดจริง มันก็จริงอยู่เจ้าไม่เคยเข้าใกล้นางนี่เจ้าสิบสอง เลยไม่รู้ว่านางมีเวทย์ประหลาดแบบนี้”ลู่เหวินหันไปอมยิ้มเสียอีกทางจะไม่เคยอย่างไรยามที่องค์หญิงเก้าจะแทงท่านอ๋องท่านอ๋องก็ลากองค์หญิงเข้าไปแทงคืน ไม่สิ เมื่อสองคืนที่ผ่านมาก็ไม่รู้ได้แทงกันหรือเปล่าจะเรียกว่าใกล้หรืออะไรดี“พ่ะย่ะค่ะ” ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ“แล้วข้าควรทำอย่างไร”“ฝ่าบาทเพฮะก็ควรจะเข้าไปพูดคุยกับพระสนมก่อนดีไหมเพฮะ”“พระสนมอะไรกัน นางยังไม่ยอมถวายตัวเสด็จพ่อก็จะแต่งตั้งนางแล้วหรือ รอให้นางถวายตัวก่อนค่อยเรียกนางว่าพระสนม แบบนี้เสด็จพ่อก็ขาดทุนสิ” คนที่ไม่อยากให้ใครมาแย่งความรักจากพ่อไปอวี่หนิงขัดขึ้นขันทีอาวุโสยิ้มเจื่อนๆ“เพฮะไม่พระสนม เพฮะต่อไปไม่กล้าเรียกแล้วเพฮะ

  • ย้อนเวลาไปเป็นหมอดู   ตอนที่10เวทย์หยั่งรู้

    ไม่มีในบท นิยายเรื่องนั้นอ๋องหรงไม่ได้มาส่งใครไม่มีใครตามมาด้วยเพียงแค่กลับวังหลวงใกล้ชิดองค์หญิงสามโดยมีฝ่าบาทและเสวียนอี้คอยขัดขวางแสดงว่ามีมี่ถูกเพิ่มบทเข้ามาแน่ๆแล้วฉานเป็นตัวอะไรวะ“ได้ได้ได้ ฉันจะดูแลตัวเองท่านเองก็ระวังตัวต่อจากนี้จะต้องพบเจออุปสรรคมากหน่อยแต่อย่ายอมแพ้นะ..สู้สู้ อืมลืมบอกไปหากมีอะไรที่ไม่เข้าใจหรือหาทางออกไม่ได้ก็มาปรึกษาได้นะข้าช่วยได้จริงๆ นะ”ในฐานะคนคุ้นเคยมีมี่อดที่จะรู้สึกใจหายไม่ได้แค่ไม่กี่วันที่ใช้เวลาเดินทางร่วมกันมารู้สึกว่าอ๋องหรงคนนี้มีบางอย่างที่แบกไว้หนักอึ้งทีเดียว“ข้าไม่มีอะไรให้เจ้าช่วย เพราะข้าช่วยอะไรเจ้าไม่ได้”เหลือบตามองขันทีอาวุโสที่ถือพานเดินมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ต้อนรับองค์หญิงเก้าซวี่หลินเข้าสู่ตำหนักเหมยฮวา…..เตรียมการถวายตัววววว” มีมี่ยืนตัวแข็งทื่อ นี่มันเรื่องอะไรกัน เดิมคิดว่านี่คือวิกฤติของอ๋องหรงแต่ตอนนี้เป็นวิกฤติของมีมี่ไปเสียแล้ว ถวายตัวอะไรกันใครจะถวายตัวฉันไม่ใช่องค์หญิงเก้าแต่จะปฏิเสธอย่างไรได้เสื้อผ้าหน้าผมก็องค์หญิงเก้าซวี่หลินทั้งหมดหันมองอ๋องหรงสบตาคมที่เฉยชานั้น เหมือนจะขอร้องให้ช่วย แต่กลับถูกนางกำนัลกับขันทีล็อ

  • ย้อนเวลาไปเป็นหมอดู   ตอนที่9แย่แล้ว

    “อือ”สะดุ้งเฮือกเมื่อพบว่าในผ้าห่มมีร่างอุ่นๆ ของใครในนั้นอีกทั้งมือเหนียวราวกับหนวดปลาหมึกกอดรัดเขาไว้แน่นผงกศีรษะมองหน้าก็รู้ว่านี่คือมีมี่ นางมานอนที่นี่ได้อย่างไร“มูมู่มาให้กอดหน่อยจะหนีไปไหน”มีมี่เองก็ครึ่งหลับครึ่งตื่นคิดว่ากำลังกอดแมว อ๋องหรงแกะมือเหนียวออกแต่ไม่สำเร็จ“หือ กอดนิดกอดหน่อยทำเป็นโมโห พรุ่งนี้ไม่ต้องกินเปียกเลยนะ” บนงึมงำอ๋องหรงเป่ยหรางใจเต้นตึกตัก จะว่าไปคืนนั้นจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำแต่ทำไมพอโดนนางกอดอ้อมกอดอบอุ่นนี้กลับรู้สึกแปลกๆ ใจก็เต้นไม่เป็นท่า ก็เขาไม่เคยแนบชิดหญิงใดมาก่อนต่างหาก แค่เพียงรอว่าสักวันได้ได้เผยความในใจกับองค์หญิงสามอวี่หนิง“ได้รับ1โอกาสพลังพิเศษ ทำให้ตัวร้ายใจสั่นอีกแล้วเย้ๆๆๆๆ”“นอนๆๆๆ ฉันง่วงแล้ว”ยกมือเกาที่คอให้อ๋องหรงตาก็ไม่ลืมอีกคนอยากจะปัดมือออกแต่พอเห็นดวงตาดำขลับที่หลับตาพลิ้มเคี้ยวปากจั๊บๆ ก็เลยสงสารไม่อยากปลุกปล่อยให้มี่มี่นอนกอดแบบนั้นมันก็รู้สึกดีไปอีกแบบ หากไม่รวมอาการใจเต้นตึกตักที่เป็นอยู่ริมฝีปากแห้งผากและรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่เขาเป็นบุรุษ ไม่สิจะเห็นแก่ตัวมากไปแล้วนางเป็นหญิงนี่จะมาทำแบบนี้นาง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status