Войтиตอนที่ 6 เย็นชา
“คุณหนูเจ้าคะท่านให้เบี้ยข้ามาเกินเจ้าค่ะ”
“เอาไปเถอะ ข้าอยากช่วยพวกท่าน 3 คนพี่น้อง”
“ขอบน้ำใจท่านมากเจ้าคะ เช่นนั้นถือว่าเป็นการตอบแทนข้าจะให้น้องรองของข้าเดินถือไข่ไปส่งท่านนะเจ้าคะ หากว่ายังไม่กลับก็ให้น้องชายของข้าดูแลท่านจนกว่าท่านจะกลับเรือนถือเป็นการตอบแทนที่ท่านให้เบี้ยมาเกินเจ้าค่ะ นี่เซียวจ้านดูแลคุณหนูให้ดีเข้าใจหรือไม่ นี่เอาไว้ซื้ออะไรกิน”เซี่ยวซือดันกายน้องชายไปด้านหน้าใกล้ชิดก่อนจะกอดคอเซียวหลงเดินหนีไปโบกมือด้านหลังให้น้องรองโชคดี
"ข้ามีนามว่ามู่เสี่ยวเอ๋อร์ เป็นบุตรสาวเพียงผู้เดียวของใต้เท้ามู่ เจ้ามีชื่อแซ่ว่าอันใด”
“ท่านมิต้องรู้จักชื่อแซ่ขอหรอกขอรับ ไม่มีเรื่องอันใดที่เราต้องพบเจอกันอีก ท่านจะไปที่ใดต่อหรือจะกลับเรือนข้าจะเดินไปส่งตามที่ท่านพี่ของข้าสั่งเอาไว้” เซียวจ้านเย็นชาตอบออกไปเสียงเรียบไร้ไมตรีแต่กลับถูกอกถูกใจเสี่ยวเอ๋อร์จนนางเคล้นหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ข้าต้องการไปที่ร้านขายผ้า เจ้าบอกว่าท่านพี่ของเจ้าสั่งให้ส่งข้าถึงเรือนเช่นนั้นต้องไปกับข้าจนกว่าข้าจะทำธุระเสร็จสินะ เว่ยซีเจ้าไปซื้อของตามที่ท่านแม่สั่งและกลับเรือนก่อนข้าได้เลยมิต้องเป็นห่วงยามนี้ข้ามีผู้คุ้มกันแล้ว”
“คุณหนูจะดีหรือเจ้าคะ ชายผู้นี้ใช่ว่าเรารู้จักจะเป็นคนดีหรือไม่ก็ไม่รู้ ข้ากลัวว่าเขาจะคิดมิดีมิร้ายเจ้าค่ะ หากท่านใต้เท้ารู้เรื่องนี้มีหวังข้าถูกลงโทษแน่ ๆ ”
“ข้ารับรองจะไม่เกิดเรื่องอย่างนั้นแน่นอน เพราะข้าไม่เคยทำร้ายผู้ใดมาก่อนและไม่คิดร้าย ร่างกายของแม่นางผู้นี้แม้ส่วนเดียวข้าก็ไม่แตะต้อง” เซียวจ้านย้ำกับสาวใช้ของเสี่ยวเอ๋อร์เมื่อเห็นสายตาที่มองมาด้วยความระแวงและไม่ไว้วางใจ เมื่อได้ยินอย่างนั้นนางจึงยอมเดินไปคนละทางกับเสี่ยวเอ๋อร์ ร่างบางเดินนำเขาไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงร้านขายผ้า นางจึงเรียกให้เขาเดินเข้าไปข้างในด้วยกันโดยอ้างว่าตอนนี้ไม่มีสาวใช้
“เจ้าเข้ามาข้างในกับข้าด้วยกันสิ ข้าต้องการซื้อผ้ากลับเรือน ข้าชอบสีนี้ช่วยหยิบมาเทียบกับร่างกายของข้าทีว่าสีเหมาะกับข้าหรือไม่?” เซียวจ้านอยากกลับเรือนเร็ว ๆ จึงไม่ขัดคำสั่งของนางรีบทำตามที่นางต้องการ เขาค่อย ๆ หยิบผ้าที่นางต้องการมาเทียบกับร่างกายของนาง ทว่าเมื่อนั้นเองนางกลับถลาเข้ามาใกล้ชิดจนได้กลิ่นกายลมหายใจของนางใกล้ ๆ ตน มือบางแตะลงที่หน้าอกของเขาช้า ๆ ก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูงโปร่งพรางยิ้มหวาน
“เจ้านี่นะ.. แม้ใบหน้าจะเย็นชาไร้ความรู้แต่ร่างกายของเจ้ากลับบึกบึนจนข้าหลงใหล จะไม่บอกข้าจริง ๆ หรือว่าเจ้ามีนามว่าอันใดกัน ข้าเห็นพี่สาวของเจ้าครอบครัวของเจ้าคงไม่ค่อยมีอันจะกิน อยากให้ครอบครัวตนเองอยู่อย่างสุขสบายหรือไม่ ข้างกายของข้ายังไม่มีคนคอยคุ้มกัน หากเจ้าสนใจข้าจะบอกเรื่องนี้กับท่านพ่อให้รับเจ้าเข้ามาคอยคุ้มกันข้า เมื่อนั้นเจ้าก็ไม่ต้องดิ้นรนให้ชาวบ้านต่อว่าด่าทออีกต่อไป และข้าจะให้ท่านพ่อมอบเบี้ยให้แก่เจ้าไปจุนเจือเลี้ยงดูพี่สาวของเจ้ากับน้องชายของเจ้า ”
“ขอปฏิเสธขอรับ และอย่ามาแตะต้องตัวของข้าตามอำเภอใจ ”เซียวจ้านปฏิเสธเสียงแข็งปัดมือของเสี่ยวเอ๋อร์ออกจากกายของตนถอยหลังห่างจากกายของนางมาสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่าง สิ่งนั้นยิ่งทำให้เสี่ยวเอ๋อร์ ขบขันออกมา
“เจ้านี่ช่างกล้าจริง ๆ ไม่รู้หรือว่าข้าเป็นสตรีเช่นไร ในละแวกนี้ไม่มีผู้ใดไม่รู้จักข้า หากสิ่งใดที่ข้าต้องการอยากได้ข้าจะต้องได้มันมาครอบครอง เฮ้อ!! ผ้าผืนนี้ไม่สวยเลย เถ้าแก่วันนี้มีผ้าไหมเข้ามาใหม่หรือไม่”
“คุณหนูมู่เสี่ยวเอ๋อร์ ข้าเตรียมผ้าไว้ให้ท่านแล้วขอรับเชิญด้านนี้ รอบนี้ได้มาจากเมืองถิงชิง ท่านจะน่าชอบใจน่าดู”
‘สตรีนางนี้ยากจะเข้าใจและรับมือ หากเป็นไปได้ข้าจะหลบหลีกไม่พบเจอนางอีก เพราะข้าเห็นมานักต่อนัก หากใกล้ชิดมีความรู้สึกกับสตรีที่สูงส่งกว่าตนเองจะทำให้ข้าพบเจอกับเรื่องอันตรายหรือแม้แต่ความตาย’ เซียวจ้านคิดในใจเดินตามหลังเสี่ยวเอ๋อร์ไปดูผ้า เขาเว้นระยะห่างอย่างชัดเจน จนไปส่งเสี่ยวเอ๋อร์ถึงเรือน เรือนตระกูลมู่ใหญ่โตอย่างที่เขาคิดเอาไว้สตรีนางนี้มิได้สนใจเขาอย่างที่นางบอก นางอาจจะแค่เห็นคนจน ๆ จึงอยากกลั่นแกล้งเพื่อให้รับโทษเป็นเรื่องที่เขามักจะได้ยินจากชาวบ้านเรื่องที่ขุนนางรังแกบ่าวรับใช้เฆี่ยนตีจนตายเหมือนเป็นความสนุกหนึ่งของคนชั้นสูงเขาจะไม่มีทางหลวมตัวเข้าไปใกล้สตรีที่ดูโหดร้ายนี้อีกแน่
“ยามนี้ข้ามาส่งท่านถึงเรือนแล้วขอตัวกลับนะขอรับหวังว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก” เซียวจ้านเอ่ยจบเดินหันหลังก้าวเท้าออกไปอย่างไม่เหลียวหลังอีกเลย เสี่ยวเอ๋อร์ยืนกอดอกจ้องมองแผ่นหลังของบุรุษทนงตนผู้นี้“ไม่หรอก ข้าจะต้องพบเจ้าอีกบ่อย ๆ แน่ ๆ ไม่ใช่โชคชะตาที่ลิขิตแต่จะเป็นข้าเองที่ลิขิตให้เจ้ามาพบเจอข้า” นางเป็นสตรีที่มีความมุ่งมั่น แม้ว่าท่านพ่อเคยให้นางพบเจอบุตรชายของใต้เท้าเรือนอื่น แต่นางมิได้ชอบพอคนพวกนั้นเลย ยิ่งให้นางแต่งเพื่อหนุนนำอำนาจนางยิ่งไม่ชอบใจ นางเป็นสตรีดื้อจะไม่ยอมแต่งกับคนที่นางไม่ได้ชอบใจแน่นอน และตอนนี้นางเจอแล้วบุรุษที่นางต้องการใช้ชีวิตอยู่ด้วย เสี่ยวเอ๋อร์เดินเข้าเรือนเรียกบ่าวรับใช้ให้ไปสืบเรื่องครอบครัวที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน การเป็นอยู่และใช้ชีวิตของพวกเขาเป็นมาเช่นไร และชื่อแซ่ว่าอันใด
ตอนที่ 43 ใจอ่อนตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว เซียวจ้านเห็นสีหน้าแววตาของเหวินโม่หลานแม้เขาไม่ได้แสดงออกมามากนักแต่ก็ปกปิดเซียวจ้านมิได้ว่าเขาเศร้าและเสียใจเพียงใดคนที่ฟื้นคืนกลับมามิใช่สตรีที่เขารัก หลังจากคุยกับเซี่ยวซือเสร็จเซียวจ้านให้พี่สาวนอนพักผ่อนก่อนที่ตนจะเดินออกมาที่หน้าเรือนเห็นโม่หลานจ้องมองไปยังเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอย“ท่านจะทำอย่างไรต่อไปขอรับ ข้าเข้าใจความรู้สึกท่านดี ข้าเองก็ไม่ต่างจากท่านสักนิดแม้ว่าคนที่กลับมาจะเป็นพี่สาวตัวจริงของข้าแต่ข้าก็อยากให้พี่สาวคนนั้นกลับมาเช่นเดียวกัน เฮ้อ ! ชีวิตคนเราช่างน่าเศร้านะขอรับ มาให้พบเจอผูกพันและจากลาแม้ว่าจะจากลากันเมื่อไหร่ก็ต้องถึงคงวันจากลาอยู่ดี อากาศเย็น ๆ อย่างนี้เราไปดื่มสุราให้ร่างกายอบอุ่นกันเถอะขอรับ” “นั่นสินะ มาให้ผูกพันและยังไม่ได้ร่ำลาด้วยซ้ำ เอาสิข้าเองก็อยากดื่มสุราเช่นเดียวกัน” ทั้งสองเดินทางไปที่โรงเตี๊ยมในหมู่บ้านดื่มสุรากันอย่างเศร้าใจเมื่อเริ่มเมาทั้งสองก็เอ่ยถึงเซี่ยวซือด้วยความคิดถึง“เฮ้อ ! ข้าคิดว่าเมาแล้วจะเลิกคิดถึงแต่ไม่เลย ยิ่งข้าดื่มเข้าไปมากเท่าไหร่ข้ายิ่งเห็นใบหน้าของนางชัดเจน ข้าคิดถึงเจ้าเหล
ตอนที่ 42 ท่านพี่ตัวจริง“ท่านพี่ไม่ใช่คนของโลกนี้ ท่านพี่มาจากที่อื่นขอรับ ” เซียวจ้านได้เล่าเรื่องทั้งหมดของเซี่ยวซือให้โม่หลานได้รับรู้ ตอนนี้เขารู้ความจริงหมดทุกอย่างราวกับโลกหยุดหมุน มองไปทางใดเคว้งคว้างไปหมด อากาศที่หนาวเหน็บยังหนาวไม่เท่าหัวใจของเขายามนี้ หวนย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมาและจำคำถามที่นางถามเขาออกมาได้ ว่าวันหนึ่งนางไม่เหมือนเดิมเขาจะยังรักอยู่มั้ย ตอนนี้สติของโม่หลานไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาเดินผ่าหิมะที่ตกลงมาอย่างโหมกระหน่ำ ไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมายเพราะยอมรับความจริงไม่ได้เขาเสียใจปวดร้าวทั้งหัวใจ ไม่ใช่แต่เขารักนางไม่ได้แต่เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่านางคือใครและอยู่ที่ใด สู้ตายจากกันไปยังดีกว่ารู้ความจริงเรื่องนี้ “ทำไม ทำไมต้องเกิดเรื่องบ้า ๆ นี่ขึ้นด้วย จริงสิตอนนี้ข้าจะมาเสียใจจนไม่ได้สติเช่นนี้ไม่ได้ ข้าจะต้องตามหาหมอที่เก่งที่สุด ใช่แล้วหมอหลวงต้องรักษานางได้แน่ ๆ ” เมื่อคิดได้อย่างนั้นโม่หลานรีบเดินทางกลับเรือนของเขาเพื่อให้เจิงหลงไปตามหมอหลวงที่วังหลวงมารักษาเซี่ยวซือ ตอนนั้นเองเขาได้พบกับลี่เหมยเอ๋อที่กำลังมาหาเขาที่เรือนพอดี นางไม่ใช่คู่หมั้
ตอนที่ 41 ข้าไม่ต้องการเช่นนี้ หลังจากที่ลี่เหมยเอ๋อกลับไปเซี่ยวซือกลับห้องคิดทบทวนทุกอย่างและเสียใจที่ตนเองรักคนที่มีเจ้าของ นางไม่อยากให้เขามาตกต่ำอยู่กับนางที่นี่หากสตรีนางนั้นเอ่ยความจริง นางจะเป็นคนเดินออกไปจากโม่หลานเอง ก๊อก ๆ เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้ง เซี่ยวซือหันขวับไปมอง พบสาวใช้คนเดิมเดินเข้ามา“มีอะไรอีกอย่างนั้นหรือ ? หรือว่าสตรีคนเมื่อครู่นี้นางกลับมา”“มิใช่เจ้าค่ะ มีคุณชายตัวน้อยมาที่นี่บอกว่าเขาคือคุณชายน้อยจางเซียวหลงเจ้าค่ะ”เซียวซือได้ยินลุกขึ้นพรวดวิ่งออกไปหาน้องชายทันที ไม่คิดเลยว่าเขาจะกลับมาเร็วขนาดนี้ แต่ก้มาในช่วงที่นางต้องการเช่นเดียวกัน “เซียวหลงเจ้ากลับมาไม่เห็นแจ้งข้าล่วงหน้า ข้าจะได้ไปรับเจ้า”“ข้าอยากเดินทางกลับมาด้วยตนเองขอรับ ก่อนมาที่นี่ข้าไปหาพี่เซียวจ้านมาแล้ว ที่นี่กว้างใหญ่จริง ๆ ขอรับ ”“เจ้าไปแจ้งพ่อครัวทำซุปร้อน ๆ มาต้อนรับคุณชายน้อยจางเซียวหลงและให้สาวใช้ไปจัดเตรียมห้องให้เขาด้วย” “เจ้าค่ะคุณหนู” สาวใช้ก้มโค้งรับคำสั่งของเจ้านาย“เจ้าเดินทางมาคงหนาวมาก ๆ สินะนั่งลงตรงนี้ก่อนเดี๋ยวข้าจะไปเอาผ้าห่มมาห่มกายให้เจ้าจะได้คลายความหนาว”
ตอนที่ 40 มีพบต้องมีจาก“เจ้าจะเศร้าทำไมกัน ข้าไม่ได้ต้องบอกเจ้าแล้วให้เจ้าเศร้าแบบนี้เสียหน่อย ที่ข้ามาวันนี้มิใช่ว่าข้ามาลา เพียงแต่ข้าคิดถึงเจ้าท่านนั้น แต่ถึงแม้ว่าข้าจะไปในวันใด ตอนนี้ข้าก็หมดห่วงแล้ว เซียวจ้านมีครอบครัวที่ดี ส่วนเจ้าก็ได้เรียนมีความรู้ติดตัว ดีไม่ใช่หรือหากวันใดข้าจากพวกเจ้าไปพี่สาวตัวจริงของพวกเจ้าก็กลับมา ” เซียวหลงกัดริมฝีปากกอดเซี่ยวซือแน่นน้ำตาไหลรินอาบแก้มใจหายอย่างบอกไม่ถูก “แม้ว่าข้าจะรักพี่สาวของข้า แต่ท่านก็เป็นพี่สาวของข้าเช่นเดียวกัน ข้ารักท่านนะขอรับ”“เด็กน้อยเจ้านี่นะยังขี้แยไม่เลิกจริง ๆ หากวันหนึ่งข้าจากไปจริง ๆ พวกเจ้าอย่าโศกเศร้าเสียใจเลยให้คิดถึงวันเวลาที่เรามีความทรงจำดี ๆ ต่อกัน และจำคำสอนของข้าเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาหรือหนทางเอาตัวรอด ข้าเชื่อพวกเจ้าจะเติบโตและใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี” เซี่ยวซือลูบศีรษะของเซียวหลงเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มแสนเศร้ามิใช่นางไม่เสียใจและเสียดายหากต้องกลับไปจริง ๆ แต่นี่เป็นสิ่งที่นางไม่สามารถเลือกได้เลย เซียวจ้านเห็นเช่นนั้นเข้าไปกอดทั้งสองกลมเกรียว พูดคุยกันอยู่พักใหญ่จนถึงเวลาแยกจาก เซี่ยวซือไม่ลืม
ตอนที่39 กลับเรือน สองเท้าหยุดชะงักไม่กล้าจะเดินต่อทุกอย่างเบื้องหน้าราวกับความฝันจนคิดถึงน้อง ๆ ทั้งสองหากสองคนนั้นมาด้วยคงดีใจไม่น้อย“ตกใจสินะ ไม่ต้องเกร็งต่อจากนี้ทุกคนที่นี่ล้วนเป็นสาวใช้ของเจ้า ไม่ว่าเจ้าต้องการอันใดเพียงแค่เรียกใช้พวกนางทุกคนก็ทำให้เจ้าทุกอย่าง มาเถอะข้าจะพาเจ้าเดินดูรอบ ๆ เรือน ส่วนพวกเจ้าไปทำงานของพวกเจ้าได้แล้ว ต่อจากนี้ต้องดูแลคุณหนูจางเซี่ยวซือให้เป็นอย่างดี หากผู้ใดไม่เชื่อฟังข้าจะจัดการอย่างไร้ความปราณีและความเมตตา“ขอรับ/เจ้าค่ะ” ทุกคนต่างแยกย้าย โม่หลานพาเซี่ยวซือเดินรอบ ๆ เรือน เรือนหลังนี้กว้างใหญ่เกินไปสำหรับนาง แม้จะมีสาวใช้มากมาย จู่ ๆ นางกลับใจหายขึ้นมา“เป็นอะไรไปทำไมสีหน้าถึงดูไม่ดีเช่นนั้น”“ข้าแค่คิดว่าที่นี่กว้างใหญ่เกินไปสำหรับข้า ไม่ว่าจะมองไปที่ใดข้าไม่คุ้นชินเลยสักนิด ”“ที่นี่คือบ้านของเจ้า เจ้าคือเจ้าของที่นี่ ข้าเข้าใจว่าเจ้าอาจจะเหงาเพราะไม่มีน้องชายมาอยู่ด้วย แต่ไม่นานเกินรอข้าจะมาอยู่ที่นี่กับเจ้าแน่ ๆ เอาไว้รอให้ข้าสะสางเรื่องของข้าเสร็จเมื่อไหร่ เรามาแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่นี่มีบุตรสัก 3-4 คนเจ้าจะได้ไม่เหงา ดีหรื
ตอนที่ 38 เปิดใจเรือนของเซี่ยวซือ ตื่นเช้ามาวันนี้นางเตรียมอาหารสำหรับสามคนเสร็จแล้วกำลังเดินไปที่ร้านขายของหน้าเรือน ตอนนั้นเองเห็นเสี่ยวเอ๋อร์นางปัดกวาดเช็ดถูร้านอย่างขมักขะเม้นจนนางแปลกใจ “เสี่ยวเอ๋อร์เจ้าทำงานพวกนี้เป็นด้วยอย่างนั้นหรือ ไม่เห็นต้องทำเลยข้ามิได้บังคับให้เจ้าต้องทำงานเสียหน่อย ตอนนี้เจ้าคอยดูแลเซียวจ้านก็พอแล้ว”“ข้าไม่อยากให้ตนเองเป็นภาระให้พี่เซี่ยวซือเจ้าคะ แม้ว่าข้าไม่เคยทำงานแต่ก็ใช่ว่าจะเรียนรู้มิได้ จะให้ข้านั่งกินนอนกินเหมือนตอนเป็นคุณหนูมู่เสี่ยวเอ๋อร์ได้อย่างไร”“เช่นนั้นก็ดี จริงสิข้ามีเรื่องหนึ่งจะบอกเจ้ากับเซียวจ้าน หลังจากที่เหวินโม่หลานกลับมาเขาจะพาเราทุกคนเดินทางไปที่เรือนตระกูลจาง พวกของใช้ทุกอย่างคงต้องขนไปด้วย คิดแล้วก็ใจหายข้าไม่อยากทิ้งที่นี่ไปเลย ที่นี่คือเรือนที่ข้ารักและผูกพัน ไหนจะแม่ไก่เต็มเล้าไหนจะผักที่กำลังเติบโต อีกอย่างร้านค้าของข้าที่เปิดอยู่ที่นี่กำลังไปได้ด้วยดีแถมยังมีอีกคนที่ข้าเป็นห่วงคือชิงชิงกับท่านยายของนาง หากเราเดินทางไปอยู่ที่เรือนตระกูลจางอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งนางคงกลับไปใช้ชีวิตอด ๆ อยาก ๆ เช่นเดิม ข้าไม่อยากจะทิ้งนางไปเ







