แม้ใครจะมองว่าเป็นเพียง ‘ดอกดิน’ ไร้ค่า แต่เธอจะไม่ด้อยค่าสำหรับตัวเอง ชีวิตของ ‘หล้า’ ไม่ต่างจาก ‘ดอกดิน’ ที่ไร้ค่า แต่เธอเลือกที่จะยึดมั่นในการทำความดีและไม่มองว่าตัวเองด้อยค่า เธอเลือกที่จะรักตัวเองและไม่ทำให้ตัวเองตกต่ำไปตามหนทางอบายมุขและสิ่งยั่วเย้ายวนใจ เพราะชีวิตคือสิ่งที่เธอลิขิตเอง
View Moreดอกไม้สีม่วงอมแดงมีเกสรสีเหลืองดูแตกต่างไปจากดอกไม้ในกระถางนับสิบที่วางเรียงรายกันอยู่บริเวณด้านนอกของระเบียงบ้าน สีที่ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และลักษณะคล้ายรูปถ้วยคว่ำที่เขามักจะคิดว่าดอกไม้แบบนี้น่าจะเป็นดอกไม้จากป่าลึก หรือไม่ก็อาจเป็นดอกไม้จากในวรรณคดีที่มีเพียงในจินตนาการ หรืออาจเป็นเพราะดอกไม้ชนิดนี้ไม่มีใบ ไม่มีกิ่งก้าน ลักษณะลำต้นตรงขึ้นมาจากพื้นดิน ก่อนจะออกดอกเบ่งบานอวดความงดงามตามธรรมชาติที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครให้ชาวโลกได้ประจักษ์ว่า ความงามฉายชัดและยังเบ่งบานได้แม้จะไม่มีกิ่งใบคอยพยุงหรือโอบอุ้มเลยมีอยู่จริง
ริมฝีปากนั้นคลี่ยิ้มละไมก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ดอกเดี่ยว ดวงตาคมเข้มทอดมองแสงไฟสลัวที่เล็ดลอดออกมาจากม่านลูกไม้สีขาวของหน้าต่างห้องนอนด้านบน สลับกับมองสิ่งที่เขาโอบอุ้มไว้อย่างแสนรัก
.
.
“ฮือ...ฮือ...”
เสียงร้องไห้ที่ดังติดต่อกันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำยันค่อนดึกทำให้คนที่นอนกระสับกระส่ายอยู่ในมุ้งสีเทาเก่าจนเกือบจะขาดใกล้จะหมดความอดทนเข้าไปทุกที ชายผ้าห่มทั้งสองข้างถูกดึงขึ้นมาคลุมปิดใบหูด้วยหวังว่าเสียงนั้นจะเล็ดลอดเข้าไปไม่ได้ แต่ผิดคาดเพราะยิ่งพยายามจะปิดเท่าไรก็ยิ่งเหมือนเสียงนั้นจะดังอื้ออึงอยู่ภายในหัวมากขึ้น และมันทำให้เธอหมดความอดทนในที่สุด
“โว้ย! อีหล้า! หยุดร้องซะที กูจะหมดความอดทนกับมึงแล้วนะ กูจะหลับจะนอน มึงจะคร่ำครวญหาสวรรค์วิมานอะไร แม่ง! จะร้องหาโคตรพ่อโคตรแม่ของมึงรึไง อีนี่! วอนซะแล้ว มึงรีบมานอนเลยนะ ก่อนที่กูจะหมดความอดทน อีหล้า! กูบอกให้หยุดร้อง! มึงจะมานอนไหม! หรือจะให้กูเอามึงไปมัดกับเสาไฟ จะมานอนไหม! อีนี่! จะลองดีกับกูใช่ไหม!”
เด็กหญิงวัยประมาณหกขวบสะดุ้งสุดตัวเพราะคำด่าทอและเสียงแหลมใส่อารมณ์นั้น ไม่ต่างอะไรจากเสียงของพญามัจจุราชที่กำลังตวาดเหล่าดวงวิญญาณที่เธอเคยเห็นในละครทีวีที่ร้านค้าหน้าปากซอยเข้าตลาด เพราะยายมักจะใช้ให้เธอไปซื้อกะปิ น้ำปลา และเครื่องครัวจิปาถะอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งเด็กหญิงก็มักจะถูกลากกลับพร้อมกับก้านมะยมที่ประเคนใส่น่องเล็กไม่ยั้ง เหตุเพราะดูทีวีเพลินจนลืมของที่ยายสั่งซื้อ
ดวงตาบอบช้ำเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัวเต็มที่ ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาส่ายไปมาแรงๆ จนผมหน้าม้าสะบัดตามแรงขยับ เพราะสถานที่ที่น้าสาวกล่าวถึงนั้นไม่ต่างจากที่สิงสถิตของเหล่าผีร้ายที่คอยหลอกหลอนและข่มขวัญเด็กให้ขวัญกระเจิง เสาไฟฟ้าต้นสูงใหญ่หน้าบ้านที่ทางการเพิ่งมาติดตั้งแทนเสาไม้ที่เก่าคร่ำคร่าตามอายุของตลาดเก่าในชุมชนเป็นสิ่งที่สร้างความหวาดผวาแก่เด็กในซอยที่สุด
ในยามค่ำคืนสายลมพัดเอื่อย มีเพียงแสงสลัวจากหลอดไฟเก่าๆ ที่ไม่สามารถส่องแสงสว่างนำทางแก่ผู้สัญจรไปมาได้เท่าที่ควร ช่วงดึกที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดผ่านเข้าออกในถนนส่วนบุคคลนี้ กลับมีร่างน้อยถูกจับมัดตรึงไว้กับเสาไฟ ความทรงจำอันน่าหวาดผวาเกิดขึ้นเพียงเพราะเด็กหญิงบังอาจร้องไห้คร่ำครวญหาพ่อแม่ในยามดึก ซึ่งจะแปลกอะไรกับเด็กหญิงตัวน้อยที่ขาดทั้งพ่อและแม่ เพราะที่พักพิงอย่างดีที่สุดสำหรับเด็กน้อยตาดำๆ ก็คืออ้อมอกของแม่
“โอ๊ย! น้าลมอย่าทำหล้า หล้ากลัวแล้ว อย่าทำ...หล้าขอโทษ อย่าทำหล้าเลย ฮือ...หล้ากลัว น้าลมหล้ากลัวแล้ว น้าลม ฮือ...อย่าทำหล้า อย่า...น้าลม ฮือ...”
เด็กหญิงพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากเงื้อมมือมัจจุราชที่ยื่นออกจากมุ้งเก่าสีมอมาคว้าตัวเธอไว้ เมื่อไม่สามารถทำได้ จึงเปลี่ยนเป็นพนมมืออ้อนวอนทั้งน้ำตา
“มึงอยากร้องนักใช่ไหม งั้นมึงไปร้องให้พอ ร้องอย่าหยุดนะมึง! กูจะดูสิว่าวิญญาณพ่อวิญญาณแม่มึงมันจะมาหาไหม ถ้ามันรักอีลูกไร้ค่าอย่างมึงมันก็ต้องกลับมา ไม่ใช่ไปอยู่กับฝรั่งแล้วไม่เอามึง แม่มึงทิ้งแล้วยังจะไม่เจียมตัว มานี่เลยมึง อีหล้า!”
คนพูดใช้น้ำเสียงดุเข้มเกินความเป็นจริง เพียงแค่พี่สาวหายสาบสูญผู้เป็นน้องสาวก็ไม่น่าจะโกรธแค้นและทารุณหลานสาวได้มากขนาดนี้ แต่ลมรำเพยก็ทำ ไม่มีอะไรที่เธอจะทำกับ ‘มัตติกา หรือ หล้า’ หลานสาวตัวน้อยของเธอไม่ได้ มือแข็งปานคีมเหล็กบีบกระชับที่ต้นแขนเล็กก่อนจะออกแรงกระชากโดยไม่กลัวสักนิดว่าท่อนแขนน้อยๆ นั้นจะหลุดติดมือออกมาหรือไม่
“น้าลมอย่าว่าแม่ แม่รักหล้า แม่ไม่ได้ทิ้งหล้า โอ๊ย! น้าลมหล้าเจ็บ! น้าลม ปล่อยหล้านะ ฮือ...แม่จ๋า...พ่อจ๋า... ยาย...ยายจ๋าช่วยหล้าด้วย ยาย...ฮือ...”
เสียงด่าทอด้วยแรงอารมณ์สลับกับเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวของเด็กหญิงทำให้ร่างท้วมที่พยายามข่มใจนอนอยู่อีกฟากหนึ่งของบ้านไม้หลังเท่ารูหนูต้องลืมตาขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ ดวงตาฝ้าฟางคล้ายจะมีน้ำเลี้ยงคลออยู่ในนั้น นางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นนั่ง แม้ไม่อยากยุ่งเกี่ยวแต่ก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้ ไม่เช่นนั้นวันพรุ่งนี้คงต้องคอยตอบคำถามชาวบ้านร้านตลาดอีกตามเคย และดีไม่ดีข้าวของจะพลอยขายไม่ออกไปด้วย
กลิการ้องครวญครางอย่างลืมอายเมื่อเธอถูกจับให้นอนตะแคงข้าง ท่อนขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นสูงพร้อมกับความแกร่งที่แทรกลงมา ทั้งหนักแน่นและรุนแรงอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน ไม่ว่าเธอจะร้องครวญครางแค่ไหนเขาก็ไม่หยุด เขายังคงทำต่อราวกับว่าสื่อได้ถึงหัวใจว่าเธอต้องการอีกและก็ต้องการอีกมากยิ่งขึ้น “ดีเหลือเกินค่ะ คุณขา...” “ดีไหมครับคุณนางเอก” “ดีค่ะ ดีที่สุด อืม...” “ชอบไหมครับ” “ชอบค่ะ ดวงชอบ อืม...ดวงชอบ...” แรงกอดรัดอย่างรุนแรงเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วเขาก็จำไม่ได้ แต่เธอก็ยังสามารถทำได้อีกอย่างไม่มีทีท่าว่าจะถอย และเขาเองก็จะไม่ยอมถอยเช่นกัน “พอก่อนค่ะพอก่อน...” เสียงร้องว่าพอก่อน แต่เมื่อเขาล้มตัวลงนอนและจับเธอพลิกขึ้นด้านบน กลิกาก็ไม่รอช้าที่จะประจำตำแหน่งซึ่ง มันไม่ได้พอตามปากเธอว่าเลยสักนิด สะโพกผายที่กดกระหน่ำลงมาบนแก่นกายที่ยังคงร้อนแรง เธอทั้งบดเบียดและคลึงเคล้นราวกับคนที่เก็บกดมานานแสนนานและไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มจะพอตามพูด มีแต่จะยิ่งมากขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ “คุณขา...กรี๊ดดดด...”
แขนสองข้างของเธอถูกล็อกไว้กับที่นอนหนานุ่มติดสปริง ในขณะที่ต้นขาเปล่าเปลือยที่เปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างถูกบางสิ่งแทรกกลางอย่างถือวิสาสะ ก่อนที่ริมฝีปากจาบจ้วงร้อนแรงแทรกซึมไปด้วยกลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์บางเบาจะฉกวาบลงมาอย่างตะกรุมตะกราม กลิกาชะงักเมื่อความรุนแรงและความกักขฬะที่ผู้ชายแปลกหน้ากำลังทำกับเธอมันคือความต้องการอย่างสุดกู่ในเวลานี้ อารมณ์ที่ต้องทนสะกดเก็บเพราะเล้าโลมศิรชัชไม่สำเร็จ เมื่อมาเจอน้ำบ่อหน้าที่เธอแค่มองตาเขาเธอก็รู้ว่ามันคงจะร้อนแรงและอร่อยลิ้นอย่างสุด ยิ่งคิดว่าเขา ‘แปลกหน้า’ ‘ไม่รู้จัก’ อารมณ์แห่งความต้องการและกำลังได้สิ่งแปลกใหม่มาเติมเต็มยิ่งยากที่จะระงับไว้ได้อีก ริมฝีปากร้อนแรงบดขยี้กันและกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้ว่าหมอกจะชะงักไปชั่วครู่กับการตอบโต้ของกลิกา เธอไม่เพียงไม่ดิ้นรนผลักไสอย่างที่ควรจะเป็น แต่เธอกลับเป็นฝ่ายรุกเร้าและสร้างความร้อนแรงให้เขาอย่างถึงใจไม่แพ้กัน ฝ่ามือหยาบใหญ่จึงทำหน้าที่อย่างธรรมชาติจัดสรรในทันที อกอวบอิ่มถูกคลึงเคล้นด้วยความหนักหน่วง ความรุนแรงคงเป็นสิ่งที่เธอต้องการในเวลานี้ ยิ่งแรงเขายิ่งได้ยินเสียงครวญครา
“กรี๊ด...อีติ๊ก้า! กล้าดียังไงมาเรียกกูแบบนี้ อีบ้า! กรี๊ด...” “ภีมค่ะ พี่แชมป์ ติ๊ก้าขอเวลานอกนิดนึงนะคะ” มัตติกายิ้มเพียงนิดเมื่อเห็นภีมพยักหน้างุนงงและเห็นแววตาเปี่ยมไปด้วยความรักจากศิรชัชส่งตรงมาให้ เพราะรู้ว่านั่นคือกำลังใจในสิ่งที่เธอจะทำ “ใครกันแน่ที่หาผัวไม่ได้ ใครกันแน่ที่แย่งผัวคนอื่น แล้วอีบ้า อีหน้าด้านที่มันกล้ามอมยาผู้ชายนี่มันชื่อว่าอะไรนะ อ้อ...ชื่อว่า กลิกา อีกาเอ๋ย อีดวง...เดี๋ยวจะสงเคราะห์โทร. บอกนักข่าวให้รีบมาทำข่าวอีผีเปรตขอส่วนบุญนะคะ เผื่อจะมีใครใจดีแจกยาแก้คันเฉพาะที่ให้น่ะค่ะ เอาสักโหลละกันนะ เผื่อเอาไว้ใช้วันหน้าด้วย เวลาคันมาแล้วหาอะไรเกาไม่ได้จะได้ใช้ยาประทังไปก่อน ดีไหมคะ” บทละครเรื่องใหม่ที่เธอเพิ่งอ่านไปเพียงไม่กี่ตอนถูกนำมาใช้ได้อย่างถูกเวล่ำเวลา มัตติกายิ้มที่มุมปากอย่างเป็นต่อ ถ้าเธอรู้ว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น สาบานได้ว่าเธอจะทำการบ้านจะอ่านต่อจนจบ เพื่อจะได้ใช้แง่มุมของบทประพันธ์มารับมือกับผู้หญิงอย่างกลิกาให้ถึงพริกถึงขิงไม่แพ้กัน “กรี๊ด...อีบ้า! อีติ๊ก้า! กรี๊ด...” ภีมและม
ฝ่ามือที่ลูบไล้อยู่บนร่างกายของเขามันไม่ต่างจากเหล็กร้อนๆ ที่กำลังนาบแนบลงบนเนื้อ เพราะทุกที่ที่เธอสัมผัส ทุกที่ที่เธอพยายามปลุกเร้า มันกำลังสร้างความเจ็บปวดให้เขาอย่างสุดที่จะทานทนได้ ฝ่ามือหนาพยายามอย่างยากยิ่งที่จะผลักไสเธอให้พ้นไปจากร่าง แต่ก็ดูเหมือนว่ายิ่งผลักไสหรือออกแรงให้มากเพียงใดก็ดูราวว่าเรี่ยวแรงนั้นกลับจะดึงดันตวัดเธอเข้าหามากยิ่งขึ้น เขาอยากไปให้พ้นจากที่นี่แต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่รู้ว่ากลิกาจะเตลิดไปถึงไหนหากไม่ได้ในสิ่งที่เธอต้องการ สิ่งที่เขาทำได้คือควรเก็บไม้เก็บมือตัวเองให้พ้นไปจากเรือนร่างนี้ และซุกร่างลงแนบกับพื้นเพื่อป้องกันการสัมผัสแตะต้อง แต่กลิกาไม่เพียงไม่ให้ความร่วมมือ เธอกลับยิ่งพยายามปลุกเร้าเขา “แชมป์ขา...ดวงรักแชมป์นะคะ...แชมป์...ดวงอยากเป็นของแชมป์...อยากให้แชมป์กอด...อยากให้แชมป์จูบ...อยากให้แชมป์...รัก! รักดวงแรงๆ แรงเท่าที่แชมป์ต้องการ นะคะ...ได้โปรด...ได้โปรดรักดวงนะคะแชมป์ขา..” กลิกานาบเรือนร่างเปล่าเปลือยที่เนื้อตัวพร่างพราวไปด้วยหยาดน้ำลงกับแผ่นหลังของเขา ใช้ทรวงอวบอิ่มถูไถไปมาบนแผ่นหลังเพื่อกระตุ้นอารมณ์ แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น
กลิกากรีดร้องและพยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากรัศมีของสายน้ำเย็นเฉียบที่ศิรชัชจับเธอนั่งลง ก่อนจะเปิดฝักบัวแรงสุดพร้อมกับฉีดใส่เธอไม่ยั้ง “ดวงอดทนหน่อยนะ มันจะดีขึ้น เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เราต้องอดทน” ศิรชัชข่มความตึงเครียดที่มีผลต่อสติยับยั้งชั่งใจของเขาให้ลดน้อยลงทุกที แต่เขาก็ต้องทำ เพราะเขาไม่อยากได้ชื่อว่า ‘กินเพื่อน’ เขาไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกลิกาเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น แม้จะต้องเห็นเธอทุรนทุรายอยู่ท่ามกลางสายน้ำที่เขาฉีดเข้าใส่ก็ตาม ก่อนจะเลี่ยงมาที่ตู้เย็นและเปิดขวดน้ำที่มีอยู่สองขวดกรอกลงคอจนหมด เพราะเขาต้องเร่งให้ปวดปัสสาวะเพื่อเอาสารกระตุ้นพวกนั้นออกมาให้หมด ไม่เช่นนั้นจะเป็นเขาเสียเองที่ทนไม่ได้ แต่ก็ดูว่าสิ่งที่ทำไปมันจะไร้ประโยชน์ ความต้องการที่ถูกจุดขึ้นอย่างเต็มที่ไม่มีทีท่าว่าจะหมดลงไปเลย เพราะเรือนร่างเปล่าเปลือยของกลิกาพร้อมดวงตาท้าทายและฝ่ามือที่ลูบไล้ไปทั้งร่าง มันกำลังกระตุ้นความต้องการของเขาจนแทบจะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว.. ห้องพักรายวันยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ตั้งอยู่ริมทางเพื่อรอคอยลูกค้าขาจร ขาประจำ หรือลูกค้าท
“แชมป์! ดวง! ทำอะไรกัน นี่มันไม่ใช่สถานที่...” เสียงผู้กำกับแจ๊คร้องลั่นเมื่อเห็นว่านักข่าวกำลังพุ่งเป้ามาทางนี้ แต่เมื่อเห็นกิริยาที่ศิรชัชโอบประคองกลิกา คำพูดต่อว่าจึงต้องหยุดไป “พี่แจ๊ค! มาช่วยผมเร็ว ดวงเขาเมาน่ะครับ” “อ้าว! พี่ก็นึกว่า...แต่เมาอะไรล่ะเนี่ย เห็นดื่มไปแก้วเดียวเท่านั้น” แจ๊คขมวดคิ้วครุ่นคิดเพราะอาการของกลิกาไม่น่าจะใช่คนที่เพิ่งรับเอาแอลกอฮอล์เข้าไปเพียงน้อยนิด รวมทั้งรอยยิ้มเล็กๆ ที่ผุดวาบคลุกเคล้าอยู่กับแผงอกของศิรชัชก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าการเมาครั้งนี้คงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน “มานี่แชมป์ พี่พาไปเองดีกว่า แชมป์อยู่ที่นี่แหละ” เขาคงต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม ดีกว่าปล่อยให้มันลุกลามและโหมกระหน่ำมอดไหม้ตามใจคนที่ปรารถนา และแม้เขาอาจจะคิดผิด แต่ก็คงดีกว่าที่คิดถูกแล้วยังปล่อยให้ไฟลุกโชนอย่างไม่คิดจะเข้าไปช่วยดับ ทั้งที่สามารถทำได้ “ผมพาไปเองดีกว่าครับ พี่แจ๊คอยู่ที่นี่ตอบคำถามนักข่าวให้ผมดีกว่า ให้ดวงเขานอนพักสักครู่ก็คงจะดีขึ้น” ศิรชัชตวัดร่างอวบอิ่มของกลิกาขึ้นแนบอก ก่อนจะพาเดินลงบันไดไปยังห้องพักรับรองด้านหลังโด
“อย่างนั้นข่าวที่ว่าคุณแชมป์กำลังซุ่มปลูกต้นรักกับน้องสาวพระเอกนี่เป็นความจริงหรือเปล่าคะ” คำถามทะลุกลางปล้องไม่ไว้หน้านางเอกสาวที่พยายามสร้างกระแสเมื่อครู่สร้างรอยยิ้มกรุ้มกริ่มบนใบหน้าพระเอกของเรื่อง รอยยิ้มปรากฏราวกับว่านี่คือสิ่งที่รอคอย แต่ก่อนที่เขาจะตอบ “แหม ถามแบบนี้ไม่เกรงใจคุณภีมเลยนะคะ ดวงว่าคำถามนี้ไว้รอถามคุณภีมเขาดีกว่า คู่ขวัญคู่ใหม่ด้วยละ งั้นดวงกับแชมป์ขอตัวไปพบพี่จ๋าก่อนนะคะ เดี๋ยวมาสนุกกันใหม่ ตามสบายเลยนะคะทุกคน” ศิรชัชถูกกลิกาลากไปอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ ดวงตาคมเข้มยังคงจับจ้องที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของนักข่าวสาวร่างกะทัดรัด และสัญญาณมือที่เธอทำท่าว่าจะโทร. หาก็ทำให้เขาอมยิ้มพร้อมพยักหน้าว่าเข้าใจ บรรยากาศงานปิดกล้องละครพร้อมทั้งเลี้ยงขอบคุณนักข่าวสายบันเทิงที่ช่วยทำข่าวและโพรโมตละครเรื่องใหม่เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ผู้จัด ผู้กำกับ ทีมงาน ดารานักแสดง และนักข่าวหลายสำนักต่างกินเต้นดื่มกันเต็มที่ ปาร์ตี้สนุกอันสุดเหวี่ยงคงมีเพียงเขาคนเดียวที่อารมณ์เสียอย่างสุดๆ ทั้งจากเรื่องที่กลิกาให้สัมภาษณ์ และจากภาพที่เห็นอยู่ด
“ติ๊ก้านี่เขาดังจริงๆ นะครับ พี่จ๋านี่ตาถึงมากเลยนะครับที่ดันน้องดังจนได้” “ดันบ้าอะไรล่ะแจ๊ค นี่ถ้าไม่เกรงใจนังจุ้งตั้งแต่แรก พี่ก็ไม่กล้ารับหรอก เด็กใหม่ไม่ค่อยอยากเสี่ยง แรกๆ ก็เหลวไม่ใช่เหรอ พี่ว่าแจ๊คนั่นแหละเก่งที่เคี่ยวเด็กมันได้ถึงขนาดนี้” จ๋า สาวใหญ่ผู้จัดละครชื่อดังพูดกับผู้กำกับแจ๊ค ขณะมองดูมัตติกาที่อยู่ในวงล้อมของนักข่าวสายบันเทิง และท่าทางตอบคำถามได้น่ารักน่าเอ็นดูนั้นก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างปลาบปลื้มออกมา “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับพี่ ตั้งแต่วันที่เกิดปัญหาเรื่องข่าวที่พี่ให้ผมพักกอง กลับมาอีกทีน้องติ๊ก้าก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยครับ จากนางสาวร้อยเทค กลายเป็นว่าแทบจะไม่ต้องเทคเลยนะครับ ดวงเสียอีกที่เทคบ่อยจนน่าแปลกใจ สงสัยได้กำลังใจดี” “กำลังใจ อ้อ นายภีมน่ะเหรอ” “ครับ เอ...แล้วทำไมป่านนี้ถึงยังไม่มา อ้าวโน่น! มาพอดีเลย” ภีมที่หอบกระเช้าดอกมะลิแสนจะน่ารักมามอบให้มัตติกายิ่งทำให้นักข่าวสนใจมากยิ่งขึ้น และเมื่อทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกันก็ไม่ต้องบอกเลยว่างานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองคู่อย่างแน่นอน คู่หนึ่งนั้นก็คือ ‘ศิรชั
“ตกลงครับ ผมจะให้เวลาพี่แองจี้ แต่หลังจากผมกลับจากเกาหลีผมจะประกาศแต่งงานกับเธอทันที และระหว่างนี้หากมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ผม ผมขออนุญาตที่จะบอกว่า เราทั้งคู่กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาดูใจกันอยู่นะครับ” ศิรชัชยังไม่วายจะต่อรอง เพราะขอให้มีคนถามเท่านั้นเขาก็จะบอกทั้งหมดและนั่นจะเท่ากับว่าเป็นการตีตราจองมัตติกาและล้อมกรอบเธอจากผู้ชายที่อยากเด็ดดอกไม้ของเขาทุกคน “เฮ้อ! มันก็แค่นี้แหละ ทำไมพูดยากนัก” จุ้งที่เดินกลับมาจากระเบียงด้านนอก เอ่ยพลางส่ายหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “นังจุ้ง แกจะพาคุณแชมป์ไปงานตอนกี่ทุ่ม ฉันจะได้โทร. บอกติ๊ก้าให้ไปรอที่นั่นเลย” แองจี้กรอกตาไปมากับความดื้อรั้นของศิรชัช แต่ก็ยอมเปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นกว่านี้ “อ้าว! แล้วแกจะไปไหน” “จะไปเยี่ยมนังพิซซี่มันสักหน่อย จะไปดูด้วยว่าตอนนี้นังดวงตกมันมีแผนการอะไรบ้าง” “เรียกเขาซะเสียยี่ห้อเลยนะครับ” ศิรชัชยิ้มแกนๆ อยากจะแสดงความคิดเห็นให้มากกว่านี้ แต่เป็นเพราะเรื่องที่เขาทำก็ยังร้อนกรุ่นอยู่ หากจะออกแรงปกป้องกลิกาอีกมีหวังว่าสิ่งที่เขาพยายามดื้อแพ่งคงสูญเปล่าอย่างแน่น
Comments