เนื้อเรื่องของ "เพลิน" เด็กสาวธรรมดาๆ จากวิทยาลัยสายอาชีพธรรมดาคนนึงที่เธอคิดว่าชีวิตคงไม่มีอะไรทำให้เธอพลิกผันไปได้มากกว่าการสอบแล้ว แต่แล้วจนกระทั่งเธอได้พบกับ "อาจารย์ทัช" อาจารย์ประจำวิชาภาษาอังกฤษคนใหม่ หน้าตาดีแต่มีนิสัยที่เข้มงวด จนเธอรู้สึกถึงกับไม่อยากเรียนกับเขาเอาซะเลย แต่แล้ว..ภาพถ่ายที่บังเอิญเปิดขึ้นกลางห้องสอบ ทำให้เธอได้เจอกับรอยยิ้มของเขาชัดๆ ครั้งแรก จากความรำคาญ กลายเป็นความใส่ใจ จากความไม่ชอบ กลายเป็นการมองหา จากแค่ "อาจารย์" กลายเป็น "ความรู้สึก" ที่ไม่อาจห้าม อายุที่ห่างกันถึง "สิบเอ็ดปี" สถานะระหว่าง "ครู" กับ "ศิษย์" ที่ไม่ควรเกินเลย แต่หัวใจไม่เคยถามกฏของโลก มันแค่เต้นแรงทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มนั้น ความรักที่ดูไม่อาจเป็นไปได้ เพลินกับอาจารย์ทัชจะสามารถรักกันได้หรือไม่ ความเหมาะสมหรือความรักเป็นคุณ...จะเลือกอะไร
View Moreโปรดใช้สติในการอ่านเป็นการคิดขึ้นมาของนักเขียนเท่านั้น
บางอย่างอาจมีการอิงมาจากเรื่องจริงของนักเขียนแต่ส่วนใหญ่เป็นการมโนล้วนๆ . . . . . . . ณ ที่วิทยาลัยเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งอบอวลไปด้วยความวุ่นวายและเสียงหัวเราะของเหล่าเด็กๆ นักเรียน ซึ่งตอนนี้ทางวิทยาลัยได้เปิดรับอาจารย์สอนภาษาอังกฤษคนใหม่เนื่องจากว่าคนเก่าได้บรรจุไปเป็นข้าราชการที่ต่างจังหวัด ทำให้ตอนนี้ทางวิทยาลัยขาดคนสอน แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีคนมาสมัครซะทีเดียวนะ แต่คนที่ได้ลองเข้ามาสอนก็ไม่มีใครทนอยู่ได้จนจบเทอมสักคน จึงเป็นที่กล่าวกันสนุกปากของเด็กๆ ในวิทยาลัยว่า "ถ้าใครอยู่สอนพวกเรารอดได้จนจบเทอมนะ แทบอยากจะยกให้เป็นตำนานคนก่อนก็อยู่ไม่ถึงเทอม" "เพลิน" หรือ "นางสาว เพลินพิชชา ศรีฤทัย" ที่แปลว่า ความสุขที่งดงาม ถึงชื่อของเธอจะมีความหมายแบบนั้นแต่เธอกลับไม่รู้สึกตามความหมายของชื่อเลยตั้งแต่แม่จับเธอมาเรียนที่นี่ เพลินเป็นเด็กสาวผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นและอ่อนโยนและมักเป็นที่พึ่งพาของเหล่าเพื่อนๆ ในห้อง กำลังนั่งเล่นอยู่ภายในห้องพักครูเนื่องจากว่าได้ถูกตามมาช่วยงานอาจารย์ที่ห้องพักครู ท่ามกลางกลิ่นกาแฟจางๆ และแฟ้มเอกสารตรงหน้าของเธอ วันนั้น..อาจารย์เมย์ (อ.เมธาวี) อาจารย์สาวใจพี่เปรียบเสมอแม่และพี่สาวในคนคนเดียวกันของเพลิน เดินเข้ามาพร้อมกับถือมือถือแนบหู ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นขึ้นมา "เพลิน! รู้ยังเราได้อาจารย์ภาษาอังกฤษคนใหม่แล้วนะ" เพลินที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับหันขวับ หูผึ่งทันที "จริงหรอคะอาจารย์ เขาจะเริ่มสอนวันไหนอะ พรุ่งนี้หรอ" "เห็นว่าจะมาสอนเทอมหน้านะ แหม่จะให้สอนเทอมนี้ได้ไงเหลืออีกวันเดียวก็หมดเทอมแล้ว" "แล้ว..หน้าตาเป็นไงคะ อายุเท่าไหร่แก่มั้ย ใจดีรึเปล่า จะทนสอนพวกหนูได้หรอคะ.." เพลินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นพลางแอบกังวลเล็กๆ อาจารย์เมย์ที่เห็นท่าทีที่ตื่นเต้นของเจ้าลูกศิษย์ตัวแสบก็หัวเราะออกมา "ยังไม่รู้หรอก แต่ได้ข่าวว่า..ไม่เหมือนใครกับที่เคยเข้ามาแน่ๆ" นับจากวินาทีนั้น เพลินก็เริ่มนับวันถอยหลังที่จะได้เจอกับอาจารย์คนใหม่ยิ่งอาจารย์เมย์พูดเปรยๆ ไว้ว่า "เขาไม่เหมือนใครแน่นอน" ก็ยิ่งทำให้เพลินอยากเจอเข้าไปใหญ่ว่าจะขนาดนั้นเลยหรอ ตอนนี้เพลินเฝ้ารอที่จะเจอเขาเหมือนเจ้าหญิงที่รอวันจะเจอเจ้าชาย . . . . . . . . . . . . จบทัชนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมเดิม เขาไม่ได้ก้มดูมือถือเหมือนทุกวัน แต่เงยหน้าขึ้นมองเพลินที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ ยามเธอก้มหน้าก็ยังดูตั้งใจเหมือนเดิม เขาหยิบแก้วเปล่าเดินไปวางตรงหน้าเธอ"วันนี้ทำพิเศษให้พี่หน่อยได้มั้ย"เพลินรับแก้วไปโดยไม่มองหน้า "เหมือนเดิมใช่มั้ยคะ"ทัชยิ้มขึ้นบางๆ"เหมือนเดิมค่ะ แต่วันนี้พี่ขอเพิ่มเติมอะไรบางอย่าง"เพลินเงยหน้ามองเขาอย่าง งงๆ ทัชกลืนนำลายลงคอเบาๆ แล้วพูด"พี่ขอพูดถึงเรื่องเมื่อสองปีก่อนได้มั้ย"เธอชะงักไปทันที มือที่จับแก้วแน่นขึ้น"มันผ่านไปแล้วค่ะ""ใช่ มันผ่านไปแล้ว...แต่พี่ไม่เคยผ่านมันไปได้จริงๆ เลยสักวัน"เพลินนิ่ง เธอไม่ตอบ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธให้เขาหยุดพูด"วันนั้น...พี่ควรจะอยู่ พี่ควรจะฟัง ควรจะตอบอะไรเราสักอย่าง แต่พี่กลัว..""พี่กลัวว่าถ้ารับความรู้สึกนั้นมา แล้วมันจะทำให้เราลำบาก""พี่กลัวว่าความรู้สึกดีๆ ของเราต้องเสียไปเพราะความจริงที่พี่ไม่กล้ารับมันไว้"เพลินฟังเงียบๆ หายใจเข้าออกลึกๆ อย่างไม่อยากให้น้ำเสียงสั่น"แต่พอวันนั้นผ่านไป...พี่ถึงได้รู้ว่า ที่กลัวที่สุด ไม่ใช่การรับไว้""แต่มันคือการเสียเราไป""แล้วตอนนั้น...ทำไมถึงไม่พูด""เพรา
สองปีผ่านไป หลังจากวันปัจฉิมวันนั้น ฉัน เพลินพิชชา ตอนนี้อายุ 23 ปีแล้ว เธอเลือกที่จะเปิดร้านคาเฟ่เล็กๆ ในมหาลัยแห่งหนึ่ง เสียงกระดิ่งร้านดังกริ๊งขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาในร้าน"ยินดีต้อนรับค่า" "รับอะไรดีคะ" เธอเปล่งเสียงพูดในขณะที่กำลังจัดการหน้าเคาท์เตอร์ด้วยความเคยชิน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาอย่างเป็นมารยาทสายตาก็ปะทะเข้ากับใบหน้าที่เธอไม่คิดว่าจะได้เห็นอีกตลอดชีวิต เพราะเธอก็ได้ย้ายออกจากบ้านแม่เพื่อไปอยู่คนเดียวที่คอนโดแล้ว ทัช ปิยากร เพลินเบิกตากว้างเล็กน้อยอย่างไม่ตั้งใจ ความทรงจำที่พยายามเก็บกดไว้มานานเหมือนถูกกระชากกลับมาอีกรั้ง ทัชเองก็ดูชะงักชั่วขณะ ก่อนที่จะพยายามปรับสีหน้าเป็นปกติ"เพลิน..." อีกฝ่ายก็ดูแปลกใจไม่ต่างกันที่เห็นเธออยู่ที่นี่ เขาชะงักไปครู่หนึ่ง"รับอะไรดีคะ" เพลินถามขึ้นอีกครั้ง"เอ่อ...เอาคาปูชิโน่ร้อนแก้วนึงครับ" เขาว่าพลางส่งรอยยิ้มจางๆ มาให้เพลินพยักหน้ารับสั้นๆ ก่อนจะหันไปจัดการเครื่องดื่มโดยไม่เอื้อนเอ่ยอะไรเพิ่มเติม ทัชยืนเก้ออยู่ครู่หนึ่ง พยายามหาจังหวะชวนคุย"ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอที่นี่..." เขาเอ่ยเบาๆ"..."เพลินยังคงเงียบ ราวกับไม่
วันปัจฉิมนิเทศมาถึงแล้ว...เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มของผู้คนรายล้อมอยู่ทั่วลานกิจกรรม เพลินยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ กำลังยืนเถียงกันขำๆ ว่าใครจะเป็นคนถือกล้องถ่ายรูปกันแน่แต่จู่ๆ เสียงหนึ่งที่คุ้นเคยแต่ไม่ได้ยินมานานก็ดังขึ้นจากด้านหลังเธอ"เดี๋ยวอาจารย์ถ่ายให้"อาจารย์ทัชเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม เพลินชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปฏิเสธด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"ไม่ต้อง ขอบคุณค่ะ"เธอกำลังจะหันหลังพาเพื่อนๆ ไปถ่ายตรงจุดอื่น แต่ทัชกลัคว้าข้อมือของเธอไว้เบาๆ ก่อนจะดึงเธอออกมาจากกลุ่ม โดยที่เพลินก็พยายามที่จะขันขืนเพื่อนๆ ที่เห็นแบบนั้นก็กำลังจะเข้าไปช่วย แต่กลับถูกอาจารย์เมย์ห้ามไว้"ปล่อยให้เขาไปเคลียร์กันเถอะ เพลินอาจจะรู้สึกดีขึ้นก็ได้นะ"ล--ในมุมเงียบสงบใต้ต้นไม้ด้านหลังอาคาร เพลินขืนตัวออกจากมือเขาได้สำเร็จ"อาจารย์จะลากหนูมาทำไม""ไม่ต้องเรียกอาจารย์แล้ว เราไม่ได้อยู่ในรั้ววิทยาลัยเดียวกันแล้วนะ""งั้นคุณมีอะไรคะ""เรียกห่างเหินจังนะ.." ทัชยิ้มเจื่อนๆ มือยื่นออกราวกับจะจับเธอไว้อีกครั้ง แต่เพลินถอยหลังหลบก่อน"ไม่ต้องมาจับค่ะ หนูไม่อยากมีปัญหา""คือ เพลิน...พี่ขอโทษนะ""ขอโท
หลังจากวันนั้น...ทุกอย่างเงียบลง ไม่ใช่ความเงียบที่สบายใจ แต่มันเป็นความเงียบที่กัดกินทุกอย่างเพลินกลายเป็นคนเงียบขรึม เก็บตัวมากขึ้น วันๆ อยู่แต่มุมห้องคนเดียวไม่พูดกับใครนักหากไม่ใช่เพื่อนในห้อง แม้จะยังยิ้มให้เพื่อนๆ หรืออาจารย์เมย์อยู่บ้าง แต่แววตานั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปส่วนทัช...เขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดอาจารย์ทัชที่เคยใจดี ยิ้มง่ายบางครั้ง กลายเป็นคนอารมณ์ขึ้นง่าย โมโหแรง เสียงดังใส่นักศึกษาในห้องบ่อยขึ้น บางทีก็เผลอตะคอกใส่เด็กแม้ในเรื่องที่แค่เล็กน้อยโชคดีของเพลินที่ปีนี้เธอจะไม่ได้เรียนกับเขา แต่ได้เรียนกับอาจารย์หัวหน้าหมวดภาษาอังกฤษแทน---ที่มหาลัยของอาจารย์ทัช ในตอนนี้กลุ่มของอาจารย์ทัชนั่งล้อมวงทำงาน มีไอซ์ ปุณ แชมป์ อาร์ต"ไอ้ทัช ถ้าเราใช้พรีเซนต์เทนส์ในประโยคนี้มันจะขัดกับตัวหลักของงานป่าววะ" ไอซ์เอ่ยถามขึ้นมา"ไม่รู้ มึงก็ดูเอาเองดิ" ทัชเอ่ยเชิงขึ้นเสียงนิดๆ ดดยที่ไม่ได้เงยหน้ามามองงานด้วยซ้ำ"คือ...กูแค่ถาม ไม่ได้ให้มึงมาหงุดหงิดใส่""และอีกอย่างสนใจงานบ้าง" ไอซ์พูดเสียงห้วน"รู้ว่ากูไม่ได้ดูอยู่ก็ไม่ต้องถามดื""เออ!!" ไอซ์เสียงดังขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้น"มึงแ
เพลินนั่งอยู่ริมหน้าต่างเหม่มองออกไปข้างนอก เธอแทบไม่ได้ฟังที่อาจารย์สอนเลย เพื่อนบางคนมองเธอแล้วกระซิบกระซาบ บางคนหัวเราะแผ่าๆ เหมือนตั้งใจให้เธอได้ยิน"เห็นเงียบๆ นึกว่าจะไม่มีพิษมีภัยซะอีก""ที่ได้เกรดดีทุกครั้งนี่เอาตัวเข้าแลกป่ะ?""เขาเลิกกันแล้วหรอวะ หรือโดนเท""อาจารย์คงกลัวโดนไล่ออกน่ะสิ ไม่แน่เพลินอาจจะเป็นคนปล่อยข่าวเองก็ได้" เสียงนินทาพร้อมเสียงหัวเราะดังแว่วมาเสมอเพลินก้มหน้าต่ำลง คำพูดพวกนั้นไม่ได้ดังกึกก้องในห้อง แต่มันดังก้องในใจของเธอเธอรู้...มันคงไม่จบแค่นี้และที่เจ็บกว่าอะไรทั้งหมด คือสายตาของอาจารย์บางคนที่เริ่มมองเธอเหมือนเธอทำอะไรผิดจริงๆ บางคนถึงกับพูดแน็บแนมเธอ---เพลินยืนลังเลอยู่หน้าห้องพักครูของอาจารย์เมย์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยกมือเคาะประตูเบาๆ"ขออนุญาตค่ะ" เธอเปิดประตูเข้าไป"เพลิน?""เป็นอะไรรึเปล่าลูก เข้ามานั่งนี้ก่อน" อาจารย์เมย์คือคนที่เธอไว้ใจที่สุดในตอนนี้ และเป็นที่พึ่งเดียวที่เธอพอจะนึกได้เพลินเดินเข้ามานั่ง มือกำแน่นบนตัก น้ำเสียงสั่น"หนู...ขอปรึษาเรื่องส่วนตัวได้มั้ยคะ"อาจารย์เมย์พยักหน้า สีหน้าจริงจังและอ่อนโยนเพลินค่อยๆ เล่าเรื่องทั้งหมด
ห้องหัวหน้าหมวดภาษาอังกฤษ บรรยากาศในห้องเงียบกริบ มีเพียงเสียงกระดาษที่ถูกเปิดเบาๆ และเสียงถอนหายใจหนักๆ จากหัวหน้าหมวด อาจารย์ทัชนั่งอยู่ตรงข้าม ดวงตาคมภายใต้กรอบแว่นยังคงสงบนิ่ง แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยคำถามและความกังวล "ทัช...พี่จำเป็นต้องเรียกเรามาคุยเรื่องข่าวลือที่เกิดขึ้นในตอนนี้" "มันไม่ใช่แค่ในวิทลัยของเรานะ" "ตอนนี้เรื่องมันลามไปถึงมหาลัยของเธอด้วย อาจารย์ที่มหาลัยเธอเขาก็ทักมาหาพี่เรื่องข่าวลือว่ามันจริงรึเปล่า" ทัชเงียบไปพักหนึ่งหลังจากที่อาจารย์หัวหน้าหมวดพูดจบ ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ "ผมเข้าใจครับ" "และผมยืนยันได้ว่ามันไม่ได้มีอะไรเกินเลยครับ" "พี่รูู้ว่าเราเป็นคนดีพอที่จะไม่ทำอะไรอย่างที่เขาลือกันหรอก และพี่ไม่ได้อยากจะตัดสินเธอนะทัช" "แต่เธอต้องเข้าใจด้วยว่าตอนนี้เธออยู่ในสถานะอาจารย์" "และข่าวลือพวกนี้ทำให้หลายคนเริ่มจับตามองมากขึ้น" "บางคนถึงขั้นเสนอให้เปลี่ยนตัวอาจารย์สอนเลยนะ" ทัชคิ้วขมวดทันที "เปลี่ยนตัว...?" "นั่นแหละที่พี่เป็นห่วง" "เด็กผู้หญิงคนนั้น เธอรู้ใช่มั้ยว่าเขาเป็นแค่นักศึกษา" "ครับ..." --- เรื่องราวมันเริ่มหนาหูขึ้นทุกวัน ไม่แม้แต่วันที่เขาต้
เช้าวันเปิดเทอมมาถึงแล้ว เพลินเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับรอยยิ้ม ภาพที่เธอกับอาจารย์ทัชไปวันสงกรานต์ด้วยกันมันยังลอยอยู่ในหัวอยู่เลย แต่ยังไม่ทันที่เพลินจะได้นั่งดี มีนาก็ได้หันมาหาเธอ "เพลิน เมื่อกี้นี่มีคนมาหาเธอด้วยนะ เห็นถามถึงอาจารย์ทัชด้วย" เธฮคิ้วขมวด "ใครหรอ?" มีนาหัวเราะเบาๆ "ไม่รู้จักอะดิ" "แต่ไม่น่าจะคนในวิลัยเราแน่ๆ อะ แต่แต่งตัวดูเป็นผู้ใหญ่หน่อยๆ เป็นผู้ชาย ใส่สูทคลุมด้วย แต่งตัวเหมือนนักธุรกิจเลยกูจะบ้า" มีนาพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ "แล้วเขามาถามเรื่องอะไรอะ" "ถามว่าเพลินอยู่ปีอะไร สนิทกับอาจาย์ทัชแค่ไหน กูนั่งอยู่กับวินคือแบบงงอะ เหี้ยอะไรเนี่ย" เพลินนิ่งไป ใจเธอวูบลง (ทำไมถึงมีคนมาถามหาเธอกับอาจารย์ทัช) --- ปุณนั่งอยู่ในร้านกาแฟแถววิลัยที่อาจารย์ทัชสอนอยู่ เขานั่งมองแก้วกาแฟในมือก่อนที่จะหันไปเปิดโทรศัพท์ เข้าแชทกลุ่มเก่าเมื่อนานมาแล้ว ไม่มีข้อความอะไรใหม่เนื่องจากมันเป็นกลุ่มเก่าที่พวกเธอใช้ตอนที่ยังต้องฝึกสอนก่อนที่จะต้องสอนจริง ข้อความล่างสุดเป็นของปุณ แต่ในนั้นเป็นแอคเคาท์ใหม่ที่เธอสร้างมา "เราว่าควรที่จะแจ้งฝ่ายวิชาการนะ เรารู้สึกว่ามีเด็กนักศึกษาบาง
เสียงดนตรีที่ยังคงดังอยู่ไกลๆ ผู้คนก็บางตาลงแล้ว ไฟเวทีสาดสีส้มอมชมพูใส่พื้นที่ถนนที่เปียกชื้นด้วยรอยน้ำปุณ ที่เดินแยกออกมาจากกลุ่มแล้ว เขาเดินไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลงที่ข้างร้านขายเสื้อสงกรานต์ ก้มหน้าดูโทรศัพท์ แล้วกดล็อคหน้าจออย่างหงุดหงิดเขาถอนหายใจยาว รู้ตัวดีว่าเมื่อกี้พูดแรงไปแต่ก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้จริงๆ (ก็เพราะมันไม่เคยเปลี่ยนไปขนาดนี้นี่...สายตาแบบนั้น...รอยยิ้มอ่อนโยนแบบนั้น...) เขาคิดในใจก่อนกัดริมฝีปากแน่นภาพที่ทัชตักข้าวให้เพลินมันยังวนเวียนให้หัว เขาไม่เคยมองเราด้วยสายตาแบบนั้นเลย แม้พระทั่งวนที่เเธอ...ทำทุกอย่างเพื่อเขา...---สมัยช่วงมหาลัยทัช ยังคงเป็นเพื่อนที่เรียนเก่งที่สุดของชั้นปี เป็นที่จับตามองของอาจารย์ทุกคน สุภาพ เรียบร้อย พูดน้อย แต่ช่วยเหลือคนอื่นเสมอและปุณ...ก็เป็นหนึ่งในคนที่เขาช่วยบ่อยที่สุดวันที่ปุณลืมเอาแฟลชไดร์ฟที่มีไฟล์พรีเซนต์งานไว้ที่หอ ตอนนั้นปุณกำลังยืนกังวลอยู่นอกห้องเรียน ว่าเธอควรจะทำยังไงดี แต่ทัชกลับเดินมาหาแล้วบอกกับปุณว่า"กูมีแบ็คอัป"มันเป็นเพราะทัชเคยช่วยปุณดูสไลด์ให้ตั้งแต่นั้นมาปุณก็คอยช่วยเหลืองานกลุ่มของทัชเสมอแม้จะไม่ใช่
วันนี้เพลินยังคงอยู่ที่งานสงกรานต์เหมือนเคย นี่เพลินคงกะจะอยู่สงกรานต์ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายเพราะเธอกลัวจะไม่ได้เล่นน้ำ แต่ที่เพิ่มเติมกว่าทุกวันเลยคือ...วันนี้เธอชวนเขามาด้วยกัน..สงกรานต์วันสุดท้ายของปี ฝนกลับตกลงมาอย่างไม่เป็นใจเม็ดฝนโปรยกระหน่ำลงกลางงานสงกรานต์แบบไม่ทันตั้งตัวเพลินกับทัชที่มางานด้วยกันในวันนี้เปียกโชกราวกับลูกหมาตกน้ำเพลินใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโปรด แม้จะคิดว่าเนื้อผ้าหนาพอ แต่กลับไม่คิดว่าฝนจะตกหนักขนาดนี้เธอมักจะพกเสื้อคลุมมาด้วยเสมอ แต่วันนี้ดันไม่หยิบมาเพราะประเมินฝนผิดไป น้ำฝนไหลพรากไปตามแขนขาและแผ่นหลัง เสื้อตัวขาวแนบเนื้อจนเผยให้เห็นเส้นผมและเงาลางๆ จากข้างหลัง"เอาเสื้อไปคลุม...เสื้อมันบางหมดแล้ว" เสียงทุ้มเรียบๆ ดังขึ้นข้างตัวเธอพร้อมกับยื่นเสื้อคลุมสีกรมท่าตรงหน้าเพลินชะงัก รีบก้มมองเสื้อตัวเองทันที"ก็...ไม่เห็นบางนิ" เธอพูดเบาๆ อย่างพยายามปฏิเสธความเป็นจริงทัชถอนหายใจนิดๆ ก่อนจะยกเสื้อคลุมให้เธอเอง"ข้างหน้ามันไม่เห็น แต่ข้างหลังมันบางนะ รู้ตัวมั้ย" เขาเอ่ยพร้อมกับติดกระดุมเม็ดบนสุดให้เธออย่างใจเย็นเพลินนิ่งไป ใจเต้นตึกตักจนไม่กล้าที่จะหายใจแ
Comments