Home / โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนที่ 5  หย่ากันแล้วถึงตอนนี้ไม่ได้เป็นสามีแต่ก็ยังเป็นเพื่อนอยู่

Share

ตอนที่ 5  หย่ากันแล้วถึงตอนนี้ไม่ได้เป็นสามีแต่ก็ยังเป็นเพื่อนอยู่

Author: Sitha
last update Last Updated: 2025-09-16 15:44:18

 

ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ  ก็มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งผ่านประตูรั้วมาจอดไม่ไกลจากที่พวกเขายืนอยู่ 

“ใครมา  อ้าวไอ้ลม  ไอ้จิณพวกมันมากันทำไม”  หิรัญมองเพื่อนเก่าสองคนที่ลงจากรถ

“อ้าวไอ้หินมันอยู่ด้วยเหรอวะมึง”  วาตะกระซิบถามจิรัช

“กูก็มาพร้อมมึง แล้วก็เห็นมันยืนอยู่พร้อมกันกูจะรู้ไหมล่ะ”  จิรัชตอบจากนั้นเขาทักทายหิรัญและเจ้าของบ้านสาว

“ว่าไงวะมึงไอ้หิน  กูได้ข่าวว่ามึงจะกลับมาอยู่บ้านถาวรเลยเหรอ” 

“เออว่ะ  ตอนนี้ทางโน้นปิดงานหมดกูเลยว่าจะมาหาอะไรทำที่บ้าน”  หิรัญเดินไปหาเพื่อนสองคนที่เขาเคยสนิทและมาห่างกันช่วงไปเรียนต่อระดับปริญญาตรี

“ละมึงมาทำไมกัน  ขนอะไรกันมาเยอะแยะ”  ชายหนุ่มมองข้าวของในมือของวาตะที่ส่งมาให้จิรัชและตน  เขารับมาช่วยถืออย่างงงๆ และพบว่ามันเป็นพวกน้ำแข็ง  เครื่องดื่มนานาชนิดนั่นเอง

ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะตอบ  กัทลีก็แทรกขึ้น  “แล้วอีกสองสาวล่ะ ยังไม่มาเหรอ” 

“วันนี้วันเสาร์วุ้นมันไปเคลียร์งานครึ่งวันบีเลยจะไปรับแล้วจะมาพร้อมกัน  เดี๋ยวคงมาถึงตะกี้มันโทรมาถามว่าฉันสองคนซื้ออะไรมาแล้วบ้าง”  วาตะเป็นคนตอบพลางเดินนำเข้าบ้านเปิดประตูบ้านอย่างคุ้นเคย  ส่งเสียงทักทายสาวน้อยวัยเจ็ดขวบที่มองออกมาอย่างสนใจ

หิรัญมองตามกัทลีและวาตะที่เข้าไปในบ้านอย่างงงๆ  เขาหันมาถามจิรัช  “พวกมึงฉลองอะไรกัน  วันก่อนเจอไอ้ลมไม่เห็นมันบอกกูสักคำ”

จิรัชหัวเราะเมื่อได้ยินคำถาม  “วันก่อนที่เจอมึง  วันนั้นมันก็คงไม่รู้หรอกว่ะ  เพราะกล้วยเพิ่งชวนพวกกูมาฉลองความโสดที่หย่ากับมึงได้สำเร็จไง  หลังจากวันที่มึงเจอมันน่ะ” 

อะไรนะ  ฉลองความโสดของกัทลีงั้นหรือ?  หิรัญทวนในใจ  นี่เขาเพิ่งรู้ว่าการหย่ากับเขา  ในสายตาอดีตภรรยาเธอมองว่าเป็นสิ่งที่ควรฉลองดีใจงั้นสิ

          บ่ายวันนั้นพวกเขาจัดโต๊ะสำหรับการทำอาหารประเภทปิ้งย่างที่สนามข้างตัวบ้าน  สาวๆ ที่ตามมาสมทบคือวุ้นและบีช่วยกัทลีเตรียมของสด  ส่วนสองหนุ่มจิณและลมช่วยกันจัดโต๊ะ  ติดเตาและลากสายไฟมาด้านนอกเพื่อต่อกับหลอดไฟเพิ่มความสว่าง  และจัดการเรื่องยากันยุงไฟฟ้า  โดยมีหิรัญเสนอตัวอยู่ด้วยไม่ยอมกลับ

“โต๊ะตัวนี้มันโยกเยก  ไอ้ลมมึงซ่อมทีดิ”  จิรัชใช้เพื่อน

“เออว่ะ  เห็นมันจะพังตั้งแต่คราวก่อนแล้ว  ไอ้กล้วยมันคงยังไม่ได้ซ่อม”  วาตะว่าแต่เขาทำสายไฟอยู่ยังไม่ว่างมาดูหิรัญจึงเสนอตัว

“กูทำให้  ซ่อมอะไรไหนกล่องเครื่องมือมีไหม” 

จิรัชและวาตะมองหน้ากัน   “ไม่รู้  บ้านนี้มีกล่องเครื่องมือไหม  น่าจะไม่มีเพราะกล้วยมันอยู่กับลูกแค่สองคน  ไม่มีพ่อบ้านก็งี้แหละ” 

หิรัญรู้ว่าถูกเพื่อนว่ากระทบกระเทียบแต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองเพราะนั่นคือเรื่องจริงทั้งหมด  เขาเดินไปดูเก้าอี้ที่พังและเดินเข้าบ้านไปถามหาอุปกรณ์กับกัทลีก่อนจะออกมาพร้อมกับกล่องเครื่องมือขนาดเล็ก 

“มึงจะว่าอะไรกูก็ว่าไปเถอะ  แต่ยังไงวันนี้กูไม่กลับ” 

“ไอ้หิน  กูเข้าใจนะว่ามึงอาจจะอยากเจอเพื่อนเก่า  แต่มึงเข้าใจไหมว่าวันนี้มันเป็นงานกินฉลองที่กล้วยเขาหย่ากับมึงไง  แล้วมึงจะมานั่งเป็นพระประธานเหรอ”  จิรัชเหลืออด

“เออ  แล้วไง  พวกมึงก็เพื่อนเก่ากล้วย  กูเองก็เพื่อนเหมือนกัน  หย่ากันแล้วตอนนี้ไม่ได้เป็นผัวแต่กูก็ยังเป็นเพื่อนอยู่  เป็นพ่อของลูกด้วย”     

“หน้าด้านว่ะมึง”  วาตะว่าตรงๆ  หิรัญเงยหน้ามองชายหนุ่มเม้มปากแน่น

“แล้วแต่มึงจะคิดเลยไอ้ลม เอาที่มึงสบายใจ” 

“อะไรของแกฮะกล้วย  ฉลองความโสดแต่ให้ผัวเก่ามาด้วยเหรอ”  วุ้นหรือราณีเพื่อนในกลุ่มถามกัทลี  หลังจากที่หิรัญเข้ามาถามหากล่องเครื่องมือช่างแล้วกลับออกไป

“เออ  อะไรของแก สองคนนี้เล่นอะไรกัน  หรือว่าหย่าการเมืองเฉยๆ  แบบอีหินจะล้มละลายเลยหย่ากับเธอเพื่อไม่ให้ลูกเมียเดือดร้อนไปด้วยงี้ปะ”  บีหรือสไบนางคิดไปอีกทาง

“มโนไปแล้วมั้งพวกเธอ  เมื่อเช้าแม่ฉันมาน่ะจะมาขอเงินไปให้พี่ฉัน  พอดีตานี่มาเขาเลยขู่แม่ไปว่าถ้าไม่เลิกยุ่งจะเอาสัญญาที่แม่เคยเซ็นไว้มาฟ้อง  พอจบเรื่องจิณกับลมก็มาพอดีนายหินก็เลยยังไม่กลับ” 

สองสาวได้ยินดังนั้นก็พอเข้าใจ  “ก็ถือว่ายังพอมีความดีอยู่นะ  เป็นพ่อเป็นผัวที่ยอดแย่  แต่ยังพอเป็นไม้กันหมาที่มีคุณภาพดีอยู่”  ราณีเปรยทำให้สองสาวหัวเราะ

“แกนี่มันปากจัดจริง  แต่ว่าเป็นไม้กันหมานี่อาจจะดีไปสำหรับไอ้หินรึเปล่า”  สไบนางหัวเราะคิกคัก  ทำให้กัทลีหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เธอจะขอตัว

“เดี๋ยวฉันขอไปดูน้องบัวก่อนนะว่าทำแบบฝึกหัดเสร็จยัง  จะได้พาอาบน้ำลงมากินอะไร” 

“เออๆ ไปเหอะ  เดี๋ยวตรงนี้พวกฉันจัดการให้เอง”  สองสาวรับคำกัทลีจึงผละออกไปดูลูก‍สาวในห้องนั่งเล่น

ซ่อมเก้าอี้เสร็จแล้ว  งานด้านนอกไม่มีอะไรให้ทำอีกหิรัญจึงสำรวจรอบบ้านหลังเล็ก  เขาจำได้ว่าที่นี่เป็นบ้านหลังที่ปู่ย่าเคยอยู่ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตไป  พ่อแม่บอกว่าให้กัทลีมาอยู่ที่นี่ในปีก่อนเพราะคิดว่าเธออยากได้ความเป็นส่วนตัว  ท่านจึงเลือกยกที่นี่ให้แม่ของหลานแทนการที่เธอจะออกไปหาที่อยู่เองจริงๆ 

          ชายหนุ่มไม่ได้ข้องใจเรื่องที่บิดาจะยกที่ดินหรือทรัพย์สินอะไรให้กัทลี  แต่เริ่มสนใจว่าเธอน่าจะคิดเรื่องหย่ากับเขาตั้งแต่ตอนนั้น   ไปๆ มาๆ เขาเริ่มลังเลว่าการที่ยอมหย่ากับหญิงสาวง่ายๆ นั้นเป็นสิ่งที่ควรทำจริงหรือไม่

“กูนะกู  แทนที่จะรั้งเขาไว้สักหน่อย  แล้วตอนนี้น้องบัวจะมองพ่อยังไง” 

เขาบอกตัวเองว่าไม่ได้แคร์ที่กัทลีขอหย่า  เราสองคนมาไกลและห่างกันเกินที่จะกลับไปใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาได้อีกแล้ว  แต่ที่นึกเสียใจและอยากแก้ตัวก็คือเรื่องลูกเท่านั้น

เขาเดินกลับมาที่บริเวณงานกินเลี้ยงขนาดย่อมและพบว่าพวกเพื่อนๆ ต่างเริ่มหาที่นั่งของแต่ละคน  มองเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าน้องบัวอาบน้ำแต่งตัวใหม่พร้อมออกมารับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนๆ ของมารดาแล้วเช่นกัน  ชายหนุ่มก้าวยาวๆ เข้าไปหาเด็กหญิงทันที

แต่เขายังไปไม่ทันถึงก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงมารดาของเธอพูดว่า 

“ไปกันลูก  เดี๋ยวอาทิตย์หน้าเราต้องย้ายบ้านกันแล้วนะคะ  วันนี้ถือว่าพวกน้าๆ ลุงๆ เขาเลี้ยงส่งเราสองคนให้เลยละกัน” 

“จะย้ายไปไหนกัน  กล้วยจะพาลูกหนีผมไปไหนเหรอ”  ไม่ได้ทันคิดอะไรเขารีบออกไปดักหน้าสองแม่ลูก  ถามคำถามนั้นทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 3: ทายาทแห่งฟาร์มบัวชมพู

    วันเปิดตัวผลิตภัณฑ์แปรรูปล็อตแรกของ ฟาร์มบัวชมพู ตรงกับช่วงปลายฤดูร้อนของปีที่น้องบัวเรียนจบมหาวิทยาลัยหลังจากใช้เวลากว่าสี่ปีในคณะวิทยาศาสตร์การเกษตร จากมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเกษตรกรรมแบบยั่งยืนบัวชมพูกลับมาบ้านด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม และมุ่งมั่นจะต่อยอดฟาร์มของครอบครัว ไม่ใช่แค่เป็นพื้นที่ปลูกพืชเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ งานวิจัย และแหล่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมผู้บริหารรุ่นใหม่ถูกจัดขึ้นที่ลานหน้าคาเฟฟาร์ม ซึ่งถูกรีโนเวตให้มีมุมจัดแสดงสินค้าทางการเกษตรของครอบครัว โต๊ะไม้ไผ่ถูกเรียงเป็นวงล้อมสนามหญ้า มีซุ้มเม‍ล่อน น้ำผลไม้เย็น แยมผลไม้โฮมเมดจากสวน และขนมพื้นบ้านที่กัทลีเป็นคนคิดสูตรบัวชมพูในวัยยี่สิบสองปีเต็ม วันนี้จากเด็กหญิงตัวเล็กเธอกลายเป็นสาวเต็มตัว หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายปักมือกับกางเกงยีนเอวสูง ผูกผ้าโพกหัวลายดอกไม้ เธอดูมีความเรียบง่ายแต่สดใส มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีแววของความเป็นหญิงสาววัยทำงานที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ในมือของเธอมีแผ่นพับสรุปเรื่องราวของฟาร์มซึ่งเธอเขียนเองตั้งแต่หน้าแรกจนถึงภาพประกอบเสียงพิธีกรประกาศเปิดงานอย่างเป

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 2: ความรักในหัวใจพ่อ

    เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวของปีถัดมา ท้องฟ้าในตอนเช้าอากาศดูปลอดโปร่ง ที่มียังคงมีหมอกบางคลุมยอดเขาในตอนเช้าตรู่ทำให้รู้สึกสดชื่น แสงแดดอ่อนของฤดูหนาวแตะผิวแปลงสตรอว์เบอรี่ที่ปลูกอยู่ด้านหลังโรงเรือนเม‍ล่อนของฟาร์มบัวชมพูจนเกิดเป็นประกายสีเงินระยิบระยับบนใบไม้หิรัญในชุดเสื้อแขนยาวพับข้อศอกสีเขียวเข้ม เดินถือกล่องพลาสติกขนาดกลางมาหาลูก‍สาวที่นั่งแกว่งขาบนแคร่ไม้ใต้ต้นมะขามเทศ“หัวหน้าทีมตรวจผลผลิต พร้อมยังครับ” เขาถามพลางยื่นกล่องให้เด็กหญิงบัวชมพูวัยสิบขวบ เงยหน้าจากสมุดบันทึกแล้วลุกขึ้นยืนทันที“พร้อมแล้วค่ะคุณพ่อ แต่คุณพ่อพูดผิดนะคะ คุณพ่อต้องเรียกหนูอย่างเป็นทางการว่าหัวหน้าบัวค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยืดตัวตรงแล้วทำท่าเคารพแบบทหาร“รับทราบค่ะ หัวหน้าบัว” เสียงหัวเราะของทั้งสองคนลอยไปตามลมหนาว ขณะพ่อกับลูก‍สาวเดินเข้าไปในแปลงสตรอว์เบอรี่ที่กำลังให้ผล เป็นรุ่นแรกที่หิรัญขยายแปลงออกไปอย่างเต็มพื้นที่หลังจากที่เขาทดลองปลูกมาสองปี ใบของสตรอว์เบอรี่สีเขียวเข้มตัดกับผลสีขาวและแดงคละกันไป ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา“คุณพ่อดูสิคะ ลูกนี้แดงจัดเลยต้อ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 1: งานแต่งของพ่อกับแม่

    ฤดูหนาวปีนั้น ทุ่งดอกไม้หลังฟาร์มบานสะพรั่งพอดีกับวันสำคัญที่ทุกคนรอคอย“งานแต่งของพ่อจ๋ากับแม่จ๋า” คือชื่องานที่น้องบัวตั้งไว้เอง แม้จะไม่ได้จัดอย่างใหญ่โตเหมือนในละคร แต่ก็เป็นงานแต่งที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากคนที่ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันจริง ๆหิรัญและกัทลีเลือกจัดงานในสวนข้างโรงเรือนเม‍ล่อน ใต้ร่มไม้ที่เด็กหญิงเคยนั่งมองผีเสื้อยักษ์ในวัยเจ็ดขวบ โต๊ะเก้าอี้ไม้ถูกจัดเรียงล้อมรอบลานดินกลางสวน ตกแต่งด้วยซุ้มดอกไม้เป็นระยะ หลักๆ คือทานตะวัน ดอกดาวเรือง และอ่างบัววางตกแต่งปลูกบัวที่บานชูช่อพอดีในวันงาน ซึ่งทั้งปู่เหมกับหลานสาวช่วยกันปลูกไว้ตั้งแต่ต้นฤดูฝนและกะเวลาไว้พอดีเป๊ะเพื่อนของหิรัญมาหลายคน ทั้งเพื่อนมหาวิทยาลัยและเพื่อนร่วมงานสมัยก่อน บางคนมองไม่เชื่อว่าชายผู้เคยเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเรื่องชีวิตครอบครัว จะยืนอยู่ตรงนี้พร้อมภรรยาและลูก‍สาววัยสิบขวบได้อย่างมั่นคง “กล้วยนี่เพื่อนสนิทผมสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นี่บอม ธนัชส่วนนั่นไอ้ผามันชื่อจริงว่าภูผา สองคนนี้เป็นเพื่อนอยู่ห้องเดียวกัน หอเดียวกันมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่” “สวัสดีค่ะ ยินดีที่รู้จักคุณ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 33 (จบ)  รักกล้วยกล้วยที่ไม่ได้แปลว่ารักง่ายง่าย

    ช่วงต้นฤดูร้อนท้องฟ้าของปีต่อมา อาจจะเป็นปีแรกที่กัทลีเห็นว่าฟ้าเป็นสีฟ้าสดใสตามที่มันควรจะเป็น สายลมอบอุ่นจากทุ่งกว้างพัดเอากลิ่นหอมของดินและหญ้าโชยเข้ามาจนถึงระเบียงของบ้านแม้ว่าบ้านใหม่จะอยู่ห่างจากฟาร์มไกลกว่าบ้านน็อกดาวน์หลังเดิม แต่ความรู้สึกและกิจวัตรประจำวันของสมาชิกในบ้านยังคงไม่เปลี่ยนไป บัวชมพูนั่งระบายสีสมุดภาพเล่มใหม่บนโต๊ะกลางบ้านขณะที่หิรัญกำลังตัดแต่งต้นสตรอว์เบอรี่ที่ให้ผลแล้วในหน้าหนาวที่ผ่านมา ปีนี้เขาทดลองผลิตไหลเองโดยทำแปลงปลูกแบบยกพื้นที่บ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ต้นแม่สมบูรณ์พอจะผลิตไหลซึ่งส่วนมากต้นจะเริ่มมีไหลในช่วงก่อนเข้าฤดูฝน และนำไปปลูกเป็นต้นใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมกัทลีมองสองพ่อลูกที่ต่างทำงานของตัวเอง จากนั้นเธอเข้าครัวไปเตรียมอาหารว่างไว้ให้ลูกและสามีโดยไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มของเธอมีมากกว่าทุกครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเสียงเรียกหาแม่ของเด็กหญิงดังขึ้นเบาๆ เธอชูภาพที่ระบายสีเสร็จแล้วขึ้นมาให้แม่ดู ระหว่างที่หญิงสาวยกของว่างออกมาให้ลูก"แม่ขา ดูสิหนูวาดครอบครัวของเรามีแม่มีพ่อแล้วก็น้องบัวอยู่ในฟาร์ม พร้อมกับพวกน้องเต่า น้องทานตะวันด้วยนะแม่"

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  32   จดหมายฉบับสุดท้ายถึงอดีต

    เช้านี้ หิรัญมีแพลนจะพาลูก‍สาวออกไปดูแปลงทานตะวันรอบใหม่ซึ่งจะปลูกที่หน้าฟาร์ม เขาอยากให้กัทลีไปด้วยแต่เธอปฏิเสธโดยการบอกว่าขอเวลาเคลียร์อะไรที่คั่งค้างที่บ้าน“กล้วยไม่ไปด้วยกันแน่นะ น้องบัวลองถามคุณแม่ดูอีกทีดีไหมคะลูก” หิรัญถามขณะที่สวมหมวกให้ลูก‍สาว ปีนี้น้องบัวโตขึ้นมากเกือบสองปีจากวันที่เขากลับมาที่นี่ จากเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบตัวเล็กๆ ที่ไม่ไว้ใจพ่อแบบเขา กลายเป็นเด็กหญิงวัยเก้าขวบที่สูงขึ้นมากและแน่นอนตอนนี้เธอสนิทกับพ่อมากเช่นกันจากเด็กหญิงขี้อายที่เคยเขินเวลาคุณพ่อเข้าใกล้ หรือเคยพูดเพียงเบาๆ ว่า “คุณลุง” ในตอนแรก ตอนนี้น้องบัวกลายเป็นคนที่คอยดึงแขนพ่อไปดูดอกไม้ คอยบอกว่า“คุณพ่อถ่ายรูปหนูตรงนี้นะคะ” และคอยเล่าเรื่องราวในโรงเรียนให้ฟังทุกเย็น เด็กหญิงมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าคิดกล้าแสดงออก และรู้ว่าตัวเองมีครอบครัวที่มั่นคงหนุนหลังเสมอกัทลีมองเห็นได้เลยว่าความเปลี่ยนแปลงในใจลูกไม่ได้มาจากคำพูด แต่เกิดจากความสม่ำเสมอของหิรัญที่อยู่ตรงนี้ในทุกเช้าเย็น“แม่ขา ไม่ไปด้วยกันเหรอคะแม่” ลูก‍สาวก็ช่างเชื่อฟังคุณพ่อดีจริงๆ บอกให้ทำอะไรก็ทำ กัทลีมองอย่างเอ็นดูแต่เธอก็ยืนยันคำตอบ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  31  ความฝันในสวนเม‍ล่อน

    หนึ่งปีผ่านไป ฤดูปลูกเม‍ล่อนเวียนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นภายในฟาร์มแห่งนี้ โรงเรือนที่เคยมีเพียงต้นเม‍ล่อนแปลงเล็กๆ ปลูกไว้ทดลอง กลายเป็นโรงเรือนขนาดกลางที่มีระบบน้ำหยดและแสงไฟอัตโนมัติ แปลงผักแนวยาวเพิ่มขึ้นอีกหลายแปลงหิรัญวางระบบบริหารจัดการภายในฟาร์มอย่างเป็นสัดส่วน และมีการวางแผนรายได้รายจ่ายรายเดือนอย่างจริงจังในสวนอีกมุมหนึ่ง แปลงดอกไม้หลากสีเริ่มผลิบานไล่จากดอกดาวเรือง ทานตะวัน ไปจนถึงโบตั๋นที่เริ่มอวดกลีบอ่อนชั้นแรก ทั้งหมดนี้เกิดจากความฝันเล็กๆ ของเด็กหญิงบัวชมพูที่เคยขอให้พ่อปลูกทุ่งดอกไม้เอาไว้ให้เธอวิ่งเล่นและถ่ายรูป หิรัญไม่เคยลืมคำขอของลูก‍สาว และในที่สุดมันก็กลายเป็นจริง“หินพรุ่งนี้จะมีสองคณะที่ขอเข้าชมนะ คุณเตรียมไกด์ไว้แล้วหรือยัง” กัทลีถามถึงงานในวันรุ่งขึ้น “เรียบร้อย ชุดแรกอบต.บ้านนา ผมให้ไอ้สิงห์ดูแล ส่วนชุดที่สองโรงเรียนดงอรัญผมจะดูแลเอง” หิรัญเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับที่กัทลีเช็กงานอยู่ ฟาร์มแห่งนี้เริ่มมีผู้คนมาเยี่ยมชมมากขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อธุรกิจใหญ่ขึ้นชายหนุ่มก็ดันให้คนที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status