Beranda / โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนที่ 6  จัดการเรื่องลูกก่อน  ส่วนแม่ค่อยว่ากัน

Share

ตอนที่ 6  จัดการเรื่องลูกก่อน  ส่วนแม่ค่อยว่ากัน

Penulis: Sitha
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-16 16:05:34

 

น้องบัววิ่งเข้าไปหลบหลังแม่แล้วค่อยๆ โผล่หน้ามามองคนเป็นพ่อ  หลังจากที่เห็นกันมาหลายครั้งแล้วเธอจึงไม่ตกใจมาก  แต่ก็ยังมีท่าทีระแวงอยู่

หิรัญย่อตัวลงนั่งลงบนส้นเท้าตัวเองเพื่อให้ใบหน้าตัวเองอยู่ในระดับสายตาของเด็กหญิง 

“น้องบัวคะพ่อมาหาค่ะลูก  หนูออกมาหาพ่อได้ไหมคะ” 

“พ่อ...”  เด็กหญิงทวนคำ  “พ่อมาทำไมคะ”  เพราะว่าเธอจำได้ว่าคนที่แม่เคยแนะนำว่าเป็น “คุณพ่อ” ช่วยเธอและแม่ไม่ให้คุณยายตีเมื่อเช้าวันนี้  เด็กหญิงจึงลดท่าทีไม่เป็นมิตรลงไปบ้างถ้าเทียบกับปฏิกิริยาของเธอในวันวาน

“พ่อมาหาหนูไงคะลูก”  หิรัญใจชื้นขึ้นเมื่อเด็กหญิงยอมพูดกับเขาบ้าง  ดีกว่าท่าทางปฏิเสธเด็ดขาดแบบเมื่อวาน

“น้องบัวออกไปบอกลุงลมให้ย่างหมูได้แล้วลูก  เดี๋ยวแม่ตามออกไปนะคะ”  กัทลีออกคำสั่งเบี่ยงเบนความสนใจของลูก  ทำให้เด็กหญิงทำท่านึกออกว่าเธอกำลังจะออกไปหากลุ่มเพื่อนๆ ของแม่ 

“ค่ะแม่”  เมื่อมารดาพยักหน้าให้เด็กหญิงก็เลยเลิกสนใจ ‘คุณพ่อ’  และวิ่งตื๋อออกไปอย่างรวดเร็ว

กัทลีมองตามหลังลูกจากนั้นกลับมามองอีกคนที่ยังอยู่ที่เดิม  “เรื่องเมื่อเช้าขอบคุณมากแต่เมื่อไหร่คุณจะกลับไปสักทีฮะหิน” 

“วันนี้กล้วยจะฉลองกับเพื่อนเก่าไม่ใช่เหรอ  เพื่อนคุณก็เพื่อนผมทำไมผมจะอยู่ด้วยไม่ได้” 

“ใช่  ฉันฉลองกับเพื่อนๆ เนื่องในโอกาสที่ได้เป็นโสดอีกครั้งแบบเป็นทางการ  ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ”  เรื่องความหน้ามึนใครๆ ก็ต้องยกให้เขาอยู่แล้ว  กัทลีเริ่มหงุดหงิด

“จะไม่เกี่ยวได้ยังไง  ถ้าผมไม่ใจเร็วเออออกับคุณยอมไปเซ็นใบหย่าให้ง่ายๆ  คุณจะได้ฉลองเหรอไม่รู้ล่ะยังไงวันนี้ผมก็จะอยู่ด้วย”  

หิรัญเลิกเถียงกับเธอ  เขาหันหลังกลับเดินตามไปสมทบกับลูกและกลุ่มเพื่อนด้านนอก  กัทลีสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ  ข่มความโมโหลง  ตอนนั้นเองที่สองสาวในครัวออกมาสมทบ

“หน้าด้านจริงจริง  ผัวเก่าใคร”  สไบนางเอ่ยลอยๆ 

“เออนั่นสิ  ฉันว่าตอนนี้ไอ้หินมันเริ่มคิดแล้วล่ะว่าไม่น่ายอมหย่าให้แกง่ายๆ นะกล้วย” ราณีเสริม

“จะว่าง่ายก็คงไม่ง่ายเท่าไหร่หรอกแก  ฉันรอมันกลับมาหย่าให้ตั้งเจ็ดปีเชียวนะ” 

“โคตรเห็นแก่ตัวน่ะเอาจริง   จะไปสำเริงสำราญไปเป็นหนุ่มโสดแต่แรกก็ไม่ควรจะผูกมัดใครไว้ด้วยทะเบียนสมรส  ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเป็นได้ขนาดนั้นพูดเรื่องนี้แล้วโมโห  อยากลาออกจากความเป็นเพื่อนมัน”  สไบนางโมโหแทนเพื่อน

“เอาละเครื่องด่าเริ่มวอร์มแล้ว  แกหยุดก่อนบีเดี๋ยวงานกร่อย”  ราณียังไม่อยากให้เสียบรรยากาศ

“เออ ฉันรู้น่าว่าวันนี้เราเลี้ยงส่งไอ้กล้วยมัน  เดี๋ยวมันต้องย้ายไปรับตำแหน่งอีกที่แล้ว”  พูดถึงตรงนี้สไบนางหันมาถามกัทลี

“แล้วตกลงแกจะฝากน้องบัวอยู่กับปู่ย่าเรียนที่นี่ให้จบเทอมใช่ไหม” 

“ใช่  ย้ายกลางเทอมมันยุ่งน่ะ  เหลืออีกแค่ไม่ถึงเดือนจะสอบแล้วด้วย  ฉันจะย้ายไปทำงานที่ใหม่ก่อนแล้ววันหยุดค่อยมารับลูกไปอยู่ด้วยกัน” 

เพราะว่ากัทลีเป็นข้าราชการท้องถิ่นในตำแหน่งนักวิชาการศึกษา  จำเป็นต้องย้ายไปรับตำแหน่งอีกหน่วยซึ่งเธอมองว่าดีกว่าอยู่ที่นี่เพราะอยากย้ายไปให้ไกลจากมารดาและคนในครอบครัวเดิมทั้งหมด  อีกส่วนคือเธอเกรงใจปู่ย่าของน้องบัวที่ท่านต้องคอยมาเป็นกันชนให้เสมอ

“จะว่าไปก็ดีนะ  ให้แกย้ายไปก่อนจะได้มีเวลาเตรียมบ้าน  เตรียมอะไรๆ ให้น้องบัวไม่ต้องรีบ”  ราณีออกความเห็น

“ใช่  ฉันก็ว่างั้นล่ะ  เราออกไปกันเถอะหิวแล้ว” ว่าแล้วสามสาวก็ช่วยกันยกของกินเล่นที่ช่วยกันทำเมื่อครู่ออกไปด้านนอก

หลังจากงานเลี้ยงที่บ้านของกัทลีวันนั้นจบลง  หิรัญก็ถูกนางจันทร์‍หอมผู้เป็นมารดาใช้ไปโน่นมานี่จนไม่มีเวลาไปหาลูก  แถมบางครั้งนายเหมผู้เป็นบิดาเองก็ช่วยหางานเพิ่มให้เขาด้วยอีกคน

“ปกติใครเก็บค่าเช่าแผง  ค่าเช่าที่พวกนี้เหรอฮะแม่”   

นางจันทร์‍หอมเป็นเจ้าของตลาดสดใหญ่ในตัวเมืองหนึ่งแห่ง  และเปิดตลาดนัดช่วงเย็นอีกสามแห่งเวียนไปแห่งละสองวันบ้าง สามวันบ้างจนครบเจ็ดวันพอดี  นางใช้ลูกชายให้ไปด้วยกันจนหิรัญเริ่มบ่นในวันที่เจ็ด

“จะได้รู้ไงว่าเงินหายาก  ช่วงที่แกตกงานเป็นปีแล้วขอเงินพ่อแม่น่ะมันก็ได้มาจากการที่แม่ต้องเดินตะลอนๆ เก็บค่าแผงส่งให้นี่ล่ะ” 

“ผมรู้แล้วฮะแม่”  หิรัญทำเสียงจริงจัง 

“ใช่มะ  รู้แล้วก็ทำตัวดีๆ มาช่วยพ่อแม่ทำงานได้แล้วเจ้าหินเอ้ย”  นางจันทร์‍หอมตื้นตันใจที่เพียงไม่กี่วันที่ให้ลูกชายมาทำงานเอง  เขาก็รู้ว่ากว่าจะได้เงินมาพ่อแม่เหน็ดเหนื่อยแค่ไหน

“ฮะ  ผมรู้แล้วว่าแม่เก็บเงินค่าแผงวันนึงได้เป็นหมื่นๆ อาทิตย์นึงแสนกว่า  เยอะกว่าผมทำงานทั้งเดือนอีก  ดังนั้นผมไม่ไปไหนแล้วจะเกาะพ่อแม่กินอยู่ที่นี่ล่ะ”  หิรัญพูดหน้าตาเฉยแล้วรีบหลบฝ่ามือพิฆาตจากมารดาอย่างรู้ทัน

“ไอ้หิน  ไอ้ลูกเวร  กลับมาให้ตีเดี๋ยวนี้นะ” 

“ทะเลาะอะไรกันแม่ลูก”  นายเหมเข้ามา ชายวัยกลางคนสวนทางกับบุตรชายที่ผิวปากอย่างอารมณ์ดีเดินออกไปนอกบ้าน  เขาจึงเรียกชายหนุ่มไว้ก่อน

“หินอย่าเพิ่งไป  เดี๋ยวไปทำธุระในเมืองให้พ่อที” 

“ไปไหนอีกล่ะพ่อ  ผมก็เพิ่งกลับมาจากในเมืองเนี่ย”  ในเมืองกับบ้านเขาห่างกันสี่สิบกว่าเกือบห้าสิบกิโลเมตร  แล้วพ่อคิดว่ามันขับรถไปแค่ห้านาทีหรืออย่างไร

นายเหมโยนกระดาษในมือให้บุตรชายรับไว้  หิรัญรับมาดูอย่างงงๆ  “อะไรพ่อ  รายการเฟอร์นิเจอร์นี่นาพ่อจะแต่งห้องใหม่เหรอ  แต่งให้ใคร” 

เนื่องจากในรายการแบบที่นายเหมเลือกไว้ล้วนเป็นเฟอร์นิเจอร์แนวเจ้าหญิง  โทนสีพาสเทลทั้งหมดหิรัญจึงแน่ใจว่าไม่ใช่ของเขาและของห้องพ่อแม่แน่ๆ

“พ่อจะแต่งห้องใหม่ให้ยายหนูบัว  แกจะต้องมาอยู่บ้านเราสักเดือนนึงช่วงรอสอบก่อนปิดเทอม  เอ็งจะไปทำให้ลูกไหมล่ะถ้าไม่อยากไปเดี๋ยวให้ไอ้ฝ้ายไปแทนก็ได้” 

“ไปๆ พ่อ  แล้วหมายความว่าไงที่พ่อบอกว่าน้องบัวจะย้ายมาอยู่ที่นี่เดือนนึง  กล้วยมาด้วยไหมพ่อ” 

นางจันทร์‍หอมส่ายหน้าไปมาที่ลูกชายไม่รู้อะไรเลย 

“กล้วยต้องย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ที่ตัวเมืองมะรืนนี้  พรุ่งนี้ย้ายของไปแต่น้องบัวยังย้ายโรงเรียนไม่ได้เพราะรอสอบก่อน  พ่อแม่เลยให้น้องบัวมาอยู่ที่นี่กับปู่ย่าจนกว่าจะสอบเสร็จแล้วแม่เขาจะมารับไปช่วงวันหยุด”

“แล้วกล้วยจะไปอยู่คนเดียวเหรอแม่  อยู่บ้านไหนมีบ้านแล้วเหรอ  อยู่ยังไงเป็นผู้หญิงไปคนเดียว” หิรัญขมวดคิ้ว

“ห่วงอะไรตอนนี้ล่ะ  กล้วยอยู่ได้มาตั้งนานแล้วตั้งแต่ตอนที่ถูกผัวทิ้งไปเจ็ดแปดปีน่ะ” มารดาค่อนขอด

“โธ่แม่  ผมสำนึกไม่ทันแล้ว”  หิรัญกอดเอวมารดา  “เดี๋ยวผมไปดูของให้น้องบัวก่อน  ลูกจะได้ดีใจเนอะแม่ว่าพ่อทำให้” ว่ากันเป็นเรื่องๆ  จัดห้องให้ลูกก่อนส่วนเรื่องกัทลีค่อยว่ากัน  หิรัญคิดในใจ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 7  คำว่าแม่ไม่ใช่แค่อยู่บ้านเลี้ยงลูกสบายๆ

    “แม่ต้องย้ายที่ทำงานพรุ่งนี้แต่โรงเรียนหนูยังไม่ปิดเทอม หนูไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าก่อนนะคะลูก แล้ววันหยุดแม่จะมารับไปนอนค้างกับแม่” “ค่ะแม่ หนูอยู่กับปู่ย่าได้แต่แม่อย่าลืมมารับหนูเย็นวันศุกร์นะคะ” เด็กหญิงกำชับ“แม่ไม่ลืมแน่นอนค่ะ ใครจะลืมลูกทั้งคนเนอะ” ใครจะลืม ถ้าไม่ใช่อดีตสามี ‘ไอ้บ้าหิน’ หญิงสาวอดคิดด่าฝ่ายนั้นในใจไม่ได้“โอเค นอนนะคะลูก คืนนี้แม่ขอนอนกอดหนูหน่อยนะคะ พรุ่งนี้แม่ต้องไปแล้ว” หญิงสาวเอื้อมมือไปหรี่ไฟเอนตัวนอนกอดเด็กหญิงไว้หลวมๆ ยังไม่ทันได้ห่างกันจริงๆ เธอก็ใจจะขาด แล้วต้องไปอยู่โน่นคนเดียวเป็นเดือนเธอจะทนไหวไหม กัทลีถามตัวเองเช้าวันต่อมากลุ่มเพื่อนๆ มาช่วยกัทลีขนของย้ายบ้านโดยที่เธอจะขนของที่จำเป็นไปทั้งหมดทีเดียว ยกเว้นของใช้ส่วนตัวของน้องบัวที่จะขนไปไว้ที่บ้านปู่เหมย่าจันทร์ชั่วคราว ในขณะที่เริ่มขนของขึ้นท้ายรถกระบะของวาตะที่ชายหนุ่มนำรถที่บ้านมาช่วยย้าย หิรัญก็ขับรถปิคอัพมาจอดที่หน้าบ้าน“ให้ไอ้หินมาช่วยขนของด้วยเหรอกล้วย” สไบนางถามเพื่อน“เปล่า ฉันยังไม่ได้บอกเขาเลยว่าจะย้าย” กัทลีตอบพลางเดินไปหาแขกที่ไม่ได้เชิญว่าเขามาทำไม“คุณมาทำอะไรหิน”

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 6  จัดการเรื่องลูกก่อน  ส่วนแม่ค่อยว่ากัน

    น้องบัววิ่งเข้าไปหลบหลังแม่แล้วค่อยๆ โผล่หน้ามามองคนเป็นพ่อ หลังจากที่เห็นกันมาหลายครั้งแล้วเธอจึงไม่ตกใจมาก แต่ก็ยังมีท่าทีระแวงอยู่หิรัญย่อตัวลงนั่งลงบนส้นเท้าตัวเองเพื่อให้ใบหน้าตัวเองอยู่ในระดับสายตาของเด็กหญิง “น้องบัวคะพ่อมาหาค่ะลูก หนูออกมาหาพ่อได้ไหมคะ” “พ่อ...” เด็กหญิงทวนคำ “พ่อมาทำไมคะ” เพราะว่าเธอจำได้ว่าคนที่แม่เคยแนะนำว่าเป็น “คุณพ่อ” ช่วยเธอและแม่ไม่ให้คุณยายตีเมื่อเช้าวันนี้ เด็กหญิงจึงลดท่าทีไม่เป็นมิตรลงไปบ้างถ้าเทียบกับปฏิกิริยาของเธอในวันวาน“พ่อมาหาหนูไงคะลูก” หิรัญใจชื้นขึ้นเมื่อเด็กหญิงยอมพูดกับเขาบ้าง ดีกว่าท่าทางปฏิเสธเด็ดขาดแบบเมื่อวาน“น้องบัวออกไปบอกลุงลมให้ย่างหมูได้แล้วลูก เดี๋ยวแม่ตามออกไปนะคะ” กัทลีออกคำสั่งเบี่ยงเบนความสนใจของลูก ทำให้เด็กหญิงทำท่านึกออกว่าเธอกำลังจะออกไปหากลุ่มเพื่อนๆ ของแม่ “ค่ะแม่” เมื่อมารดาพยักหน้าให้เด็กหญิงก็เลยเลิกสนใจ ‘คุณพ่อ’ และวิ่งตื๋อออกไปอย่างรวดเร็วกัทลีมองตามหลังลูกจากนั้นกลับมามองอีกคนที่ยังอยู่ที่เดิม “เรื่องเมื่อเช้าขอบคุณมากแต่เมื่อไหร่คุณจะกลับไปสักทีฮะหิน” “วันนี้กล้วยจะฉลองกับเพื่อนเก่าไม่ใช่

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 5  หย่ากันแล้วถึงตอนนี้ไม่ได้เป็นสามีแต่ก็ยังเป็นเพื่อนอยู่

    ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ ก็มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งผ่านประตูรั้วมาจอดไม่ไกลจากที่พวกเขายืนอยู่ “ใครมา อ้าวไอ้ลม ไอ้จิณพวกมันมากันทำไม” หิรัญมองเพื่อนเก่าสองคนที่ลงจากรถ“อ้าวไอ้หินมันอยู่ด้วยเหรอวะมึง” วาตะกระซิบถามจิรัช“กูก็มาพร้อมมึง แล้วก็เห็นมันยืนอยู่พร้อมกันกูจะรู้ไหมล่ะ” จิรัชตอบจากนั้นเขาทักทายหิรัญและเจ้าของบ้านสาว“ว่าไงวะมึงไอ้หิน กูได้ข่าวว่ามึงจะกลับมาอยู่บ้านถาวรเลยเหรอ” “เออว่ะ ตอนนี้ทางโน้นปิดงานหมดกูเลยว่าจะมาหาอะไรทำที่บ้าน” หิรัญเดินไปหาเพื่อนสองคนที่เขาเคยสนิทและมาห่างกันช่วงไปเรียนต่อระดับปริญญาตรี“ละมึงมาทำไมกัน ขนอะไรกันมาเยอะแยะ” ชายหนุ่มมองข้าวของในมือของวาตะที่ส่งมาให้จิรัชและตน เขารับมาช่วยถืออย่างงงๆ และพบว่ามันเป็นพวกน้ำแข็ง เครื่องดื่มนานาชนิดนั่นเองยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะตอบ กัทลีก็แทรกขึ้น “แล้วอีกสองสาวล่ะ ยังไม่มาเหรอ” “วันนี้วันเสาร์วุ้นมันไปเคลียร์งานครึ่งวันบีเลยจะไปรับแล้วจะมาพร้อมกัน เดี๋ยวคงมาถึงตะกี้มันโทรมาถามว่าฉันสองคนซื้ออะไรมาแล้วบ้าง” วาตะเป็นคนตอบพลางเดินนำเข้าบ้านเปิดประตูบ้านอย่างคุ้นเคย ส่งเสียงทักทายสาวน้อยวัยเจ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 4  ไม่มีอะไรจะแก้ตัวนอกจากคำพูดว่า “ผมขอโทษ”

    “กล้วย กล้วยเอ้ย อยู่ไหมลูก” นางกินรีมาตะโกนเรียกบุตรสาวที่หน้าบ้านในเช้าวันต่อมา ทำให้กัทลีที่กำลังจะเก็บถ้วยจานที่ใช้ในมื้อเช้าไปล้างต้องชะงัก หญิงสาวสบตาน้องบัวที่ลอบทำหน้าเบื่อเมื่อได้ยินว่าคุณยายมา กัทลีไม่ได้ว่าอะไรลูก‍สาวเพราะเธอเองก็เบื่อหน่ายไม่แพ้กัน เนื่องจากนางกินรีถึงจะมาที่นี่ไม่บ่อยแต่ว่าหากจะมาทีไร ก็มีแต่เรื่องเดือดเนื้อร้อนใจหรือร้อนหูมาให้ไม่เคยว่างเว้น“หนูขึ้นไปทำการบ้านข้างบนไหมลูก เดี๋ยวแม่ตามขึ้นไปดูค่ะ” แต่เด็กหญิงส่ายศีรษะทันที “ไม่ค่ะ หนูจะอยู่กับแม่”หญิงสาวออกมาเจอมารดาหน้าบ้าน ไม่ได้เชิญให้นางเข้าไปคุยกันข้างในแต่อย่างใด“มาที่นี่มีอะไรเหรอคะแม่” “กล้วย เอ็งพอมีเงินให้แม่สักหน่อยไหมขอแค่สามหมื่น แม่ต้องใช้ด่วนวันนี้เลย” หญิงวัยกลางคนเริ่มต้นพูดธุระทันที ไม่มีแม้แต่จะไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ“ฉันไม่มีเงินให้แม่หรอก ถ้าแม่มาแค่เรื่องนี้ก็กลับไปเถอะ” ภาพที่นางกินรีหอบกระเป๋าใส่เงินห้าแสนที่นางเรียกเป็นค่าไม่ฟ้องผู้เยาว์หิรัญเมื่อแปดปีที่แล้ว ก่อนจะทิ้งเธอไว้กับครอบครัวของหิรัญยังคงชัดเจนในใจ“แต่พี่แกกำลังลำบากนะกล้วย แกเองก็ได้ดิบได้ดีแล้วไ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 3  ในระหว่างที่เราเติบโต  เราทำอะไรในชีวิตหล่นหายไปบ้าง

    กัทลีมาถึงบ้านแต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นคนที่มารอ หิรัญนั่นเองเธอมองชายหนุ่มอย่างสงสัยว่าเขามาที่บ้านนี้ทำไมกัน“กล้วย น้องบัว” ชายหนุ่มลุกจากเทอเรซหน้าบ้านทันที เขาว่าเขาตามเธอออกมาจากบ้านเวลาห่างกันไม่ถึงยี่สิบนาที แต่มาถึงไม่เจอใครและต้องมานั่งรออยู่เกือบชั่วโมงแล้ว“มาที่นี่มีอะไรเหรอหิน” น้ำเสียงของกัทลีราบเรียบจนหิรัญเพิ่งนึกได้ว่าตั้งแต่เขากลับมาที่นี่อดีตภรรยาไม่เคยแสดงอาการเหวี่ยงวีนหรือโกรธเขาเลยสักครั้ง ต่างจากเมื่อเจ็ดปีก่อนลิบลับที่หลังจากคลอดน้องบัว กัทลีมักจะโทรหาเขาในตอนค่ำๆ หิรัญในตอนนั้นเรียนปีหนึ่งเทอมสองเป็นช่วงที่ชีวิตในรั้วมหาลัยเริ่มลงตัว มีสังคมใหม่ มีกิจวัตรใหม่ แรกๆ เขาก็รับสายของเธอดี แต่ช่วงหลังหิรัญเริ่มติดเพื่อน เริ่มมีไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทในคณะซึ่งส่วนมากก็เป็นการเที่ยวกลางคืน ทำให้เขาเริ่มไม่อยากรับสายกัทลีถึงรับก็พูดด้วยความเร่งรีบจนเธอเริ่มระแวงและหาเรื่องว่าเขาเปลี่ยนไป เมื่อถูกโวยวายชวนทะเลาะบ่อยๆ เขาเริ่มไม่รับสาย และยกเลิกการกลับบ้าน และจนเวลาล่วงเลยไปถึงตอนไหนก็ไม่รู้ที่เขาไม่ได้สังเกตว่าเธอไม่ได้โทรหาเขาอีกเลย“เอ่อ ผมมาหาน้อง

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 2  การรอคอยนั้นคุ้มค่า... แค่กับคนที่สมหวังเท่านั้น

    “ไปค่ะ หนูจะเอาขนมอะไรแม่ให้เลือกได้สองอย่าง” กัทลีจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อปากทางเข้าบ้านตามที่ลูก‍สาวร้องขอ“ค่ะแม่ แม่อยากกินอะไรไหมคะ” น้องบัวหันมาถาม“เรามีกับข้าวที่คุณย่าทำมาให้เยอะแล้วนะลูก ขนมก็มีไม่ใช่เหรอคะ”เด็กน้อยพยักหน้าตาม “จริงด้วยค่ะ งั้นเอาขนมไปไว้เผื่อกินพรุ่งนี้นะคะแม่ พรุ่งนี้วันอาทิตย์เผื่อไม่ได้ออกมา” กัทลีนึกขำในความ “ยังไงก็จะเอา” ให้ได้ของลูก‍สาว กระนั้นเธอก็อนุญาตเพราะคิดว่าดีเหมือนกัน พรุ่งนี้ลูก‍สาวจะได้ไม่รบเร้าให้พาออกมาซื้อของข้างนอกอีกใช้เวลาไม่นานสองแม่ลูกก็มาต่อแถวรอคิดเงิน กัทลีมองเด็กวัยรุ่นในชุดนักเรียนชั้นมัธยมปลายชายหญิงคิวก่อนหน้าตนเองสามคิว ท่าทางบอกชัดว่าน่าจะเป็นคู่รักกันมากกว่าเพื่อน“ตัวเองจะยื่นพอร์ตที่ไหน เรายื่นที่เดียวกันนะ จะได้ไปเรียนที่เดียวกัน” เด็กหนุ่มพูด“เชียงใหม่ดีไหมเขาอยากไปเรียนเชียงใหม่ ไกลดี” เด็กสาวหัวเราะคิกคัก ก่อนจะพูดต่อ “พูดเล่นน่ะ เราว่าไปกรุงเทพฯ ดีกว่า คณะ....น่าสนใจหรือตัวคิดยังไง” “ก็ดีเหมือนกัน คะแนนเขาน่าจะถึงเราเข้าวิศวะกันนะ ถ้าได้เข้าที่เดียวกันจะได้อยู่หอด้วยกัน”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status