หลังจากงานวันนั้นเริ่มดำเนินการ ทีมของหลินและจีนก็เริ่มนัดคุยคอนเซ็ปชุดของแต่ละคนพร้อมกับรับฟังความคิดเห็นของศิลปินแต่ละคนว่าแต่ละคนอยากสวมชุดแบบไหนบ้าง
ดูเหมือนว่าทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ยังเหลือเพียงสองคนที่ยังเหลืออยู่ที่พี่ทัพเคยเตือนว่า พวกเขาคือ "โจทย์ยากที่สุด" สำหรับงานนี้
"บีเอาแบบร่างชุดออกมาแล้วลองส่งไปที่ทีม B เพื่อให้พวกเขาลองดูแบบชุดให้เข้ากับการแต่งหน้า ฝ่ายอาร์ตจะได้ลองปรับดู แล้วก็อย่าลืมโลโก็ของคอนเสิร์ต"
"ค่ะพี่หลิน"
"หยก เรื่องเสื้อยืดล่ะมาหรือยัง ที่สั่งปักและสกรีนไป"
"มาวันพรุ่งนี้บ่ายๆค่ะพี่หลิน พึ่งแจ้งมาค่ะ มีสองสี ขาวกับดำเอาไว้ใส่ซ้อมค่ะ"
"จีนไปไหน ยังไม่เข้ามาอีกเหรอ"
"เห็นว่ามีนัดคุยกับศิลปินนะคะ"
"อ้อ โอวี่สินะ เป็นยังไงบ้างนะ เอาล่ะ รีบส่งแบบตัวอย่างเสื้อยืดไปพร้อมกับแบบของชุดที่ร่างเอาไว้ให้ทีม B ทีเดียวเลย"
"ได้ค่ะพี่หลิน อ้อพี่หลินคะ พี่ทัพฝากกุญแจห้องมาให้พี่แล้วนะคะ"
"ขอบใจมาก พวกเราพักชั้นเดียวกันหรือเปล่า"
"ไม่นะคะ พี่พักอยู่ชั้นบนร่วมกับพวกศิลปินอีกสามคนค่ะ พวกเราพักชั้นเดียวกับ...เฮ้อ....อลิซกับจินนี่ค่ะ"
"เอาน่า พักชั้นเดียวกันแต่คนละห้อง ไม่ต้องไปวุ่นวายกับพวกเธอก็พอแล้ว"
"ครั้งก่อนแค่คุยเรื่องเสื้อผ้าก็กินเวลาไปทั้งวัน"
"แถมยังไม่ได้อะไรเลยด้วย"
"คอนเซ็ปอะไรนะ นางฟ้าแต่ไม่อยากใส่ชุดสีขาวเพราะทำให้ดูอ้วน อยากอำพรางรูปร่างแต่ก็ไม่อยากใส่ดำเพราะเหมือนนางมาร โอยย หัวจะปวดค่ะ"
"เอาน่ะ ประชุมใหญ่ครั้งหน้าค่อยมาสรุปกันอีกที เรายังมีประชุมใหญ่ร่วมกับศิลปินอีกครั้งด้วยปลายเดือนก่อนเริ่มทำการตัดชุด"
"หยกยอมเดินทางไกลหน่อยดีกว่ามาพักอยู่ใกล้ๆยัยซุปตาร์ตกกระป๋องเรื่องเยอะสองคนนี้ นี่ขนาดมีแค่อลิซคนเดียวนะคะ ยังดีที่จินนี่มีสไตล์ลิสต์ส่วนตัวจะได้ไม่ปะทะตรงๆ แต่ก็...."
"ทำไมไม่เจอคนดีๆอย่างพี่แยมบ้างนะ พี่แยมคุยก็ง่ายแถมยังไม่เรื่องมากเหมือนสองคนนี้ด้วย"
"เขาจะมาพักที่ตึกนี้ทำไมเล่า ที่พักพี่แยมเขามีอยู่แล้วข้างๆตึกนี้ ก็เขาทำงานที่นี่"
"ก็นั่นสิคะ ดูพี่เขาเข้าใจอะไรง่ายกว่า...สองคนนั้นเยอะเลย เออ ว่าก็ว่า อลิซเคยมีข่าวกับพี่วายุนี่คะ แล้วแบบนี้จะไม่เป็นการก่อถ่านไฟเก่าให้ประทุขึ้นมาอีกเหรอคะ"
"นี่ๆ กลับไปทำงาน เอาแบบไปให้ทีม B ได้แล้วเดี๋ยวก็โดนหัวหน้าทีม B บ่นเอาอีกทีนี้จะไม่ช่วยแล้วนะ"
"ค่าๆ ไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ"
หลินมองตามหยกและบีที่เดินเอาแบบไปที่ห้องทำงานของทีม B ตามคำสั่ง ที่จริงในตอนเธออยู่มัธยมต้นก็เคยได้ยินข่าวเรื่องของสองคนนี้เช่นกันว่าพวกเขาเคยคบกัน แต่ไม่นานข่าวนี้ก็เงียบไป
ครั้งนั้นวายุดังเป็นพลุแตกเพราะอัลบั้มเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จและอลิซที่พึ่งจะเข้ามาในบริษัทและพึ่งมีผลงานชุดแรกเช่นกัน เรื่องนี้แท้จริงแล้วก็ไม่รู้ว่ามีความจริงอยู่มากน้อยแค่ไหน
ตึกห้องพัก
ห้องพักในชั้นยี่สิบสองและยี่สิบสามของบริษัทที่สร้างขึ้นเพื่อให้พนักงานของค่ายพักโดยเฉพาะ มีทั้งหมดห้าชั้น ตั้งแต่ชั้นยี่สิบเอ็ดถึงชั้นยี่สิบห้าเป็นของศิลปินและทีมงานแล้วแต่ว่าทางบริาษัทจะจัดให้พักกันอย่างไร
ชั้นยี่สิบเจ็ดและยี่สิบแปดเป็นที่พักของระดับผู้บริหารของบริษัท ซึ่งไม่ค่อยมีใครได้ขึ้นไปนอกจากระดับซุปเปอร์สตาร์ที่จะไปพบกับผู้บริหารหรือการประชุมลับสำคัญๆของบริษัทเท่านั้น
"ชั้นยี่สิบสอง ห้อง สองสองศูนย์สี่ นี่เอง"
หลินเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับคำแนะนำให้เปลี่ยนรหัสหน้าประตู เธอจึงเลือกเปลี่ยนในตอนนั้นเลย จังหวะเดียวกันที่เพื่อนข้างห้อง หรือตรงข้ามก็ไม่ทราบที่เดินมาพอดี เขาสวมชุดดำกางเกงเข้ารูปสีดำสวมหมวกและแว่นดำเดินตามหลังมา
"ขอโทษ คุณขวางทางผมอยู่"
"อุ้ย ขอโทษค่ะ...คุณ..วา...."
เธอไม่ทันจะพูดจบเขาก็เดินเลยไปพร้อมกับกระเป๋าลากสีดำใบใหญ่ไปห้องถัดจากเธอ สองสองศูนย์ห้า ไม่ทันที่เขาจะเข้าห้้องคนห้องตรงข้ามก็เปิดประตูออกมาทักทายเขา
"วายุ มาแล้วเหรอ มาๆ วันนี้มาดื่มฉลองกันหน่อยไหนๆก็ได้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ"
"โอปอ มาถึงนานแล้วเหรอดีใจเหมือนกันแล้ว…โอวี่ล่ะ"
"เดี๋ยวก็ตามมา เอ๊ะ..นั่นทีมงานเหรอ นายรู้จักไหม"
พวกเขาหันมามองหลินที่ยืนอยู่หน้าประตูและทำท่ากำลังเปลี่ยนรหัสห้องอยู่ ที่จริงเธอเผลอยืนมองซุปตาร์ที่เป็นขวัญใจเธอในวันเด็กมัธยมอยู่ต่างหาก ไม่นึกไม่ฝันว่าวันนี้จะได้มาพบพวกเขาและกำลังจะได้ทำงานร่วมกัน ที่สำคัญ....ยังพักอยู่ห้องใกล้กันขนาดนี้อีกด้วย
"ไม่รู้จัก สงสัยทีมงานละมั้ง"
หลินรีบเปลี่ยนรหัสและเดินเข้าห้องไปโดยทำเป็นไม่สนใจพวกเขาอีก แม้ว่าชื่นชอบเพียงใดแต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ เธอรู้ว่าจีนอยู่ห้องตรงข้ามแต่วันนี้ยังไม่ได้ย้ายมา
เธอเลือกย้ายมาวันนี้ก่อนเพราะรู้ว่าศิลปินคนดังจะเริ่มเข้ามาที่พักในวันนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะโชคดีที่ได้เจอเขาเลย
"อะไรนะคะ ให้...ให้หลินทำอะไรนะ"
"เออ ไปเคาะห้องของวายุแล้วคุยเรื่องคอนเซ็ปชุดของเขาซะ"
"เดี๋ยวก่อน แต่ว่า...ไหนพี่บอกว่า...เขาโลกส่วนตัวสูงยังไงล่ะ จู่ๆไปเคาะแบบนี้เขาจะไม่ลากบิดามารดาหลินมาด่าเหรอคะ"
"ไม่หรอก พี่ไลน์ไปบอกผู้จัดการเขาแล้ว ผู้จัดการเขาก็แจ้งไปแล้ว ตอนนี้คงกำลังรอแกอยู่แหละ"
ห้อง 2205
"อะไรนะ ไม่เอาจะส่งมาทำไม พี่ก็รู้ว่านี่มันที่พักของบริษัท หากมีภาพหลุดไปมันจะไม่ดี ทำไมไม่เลิกยุ่งกับผมเสียทีนะ บอกให้กลับไป"
"วายุ แต่ว่า..."
"ถ้าไม่บอกให้กลับไป ผมจะยกเลิกงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ พี่เลือกเอา"
"ก็ได้ๆ จะลองคุยดูนะ"
"ไม่มีคำว่าลอง ถ้ามาหาผมอย่าหาว่าผมไม่เกรงใจนะ"
"ก็ได้ๆ บอกแล้วๆ"
ห้อง 2204
"ก็ได้ค่ะ หลินจะไปเดี๋ยวนี้ เหลือแค่ชุดของเขาคนเดียวแล้วตอนนี้ที่ยังไม่มีแม้แต่คอนเซ็ปและแบบร่าง ทีม B ก็จะพาลกินหัวหลินอยู่แล้ว"
"เออ แกก็ลองดูหน่อย ช้าเร็วยังไงก็ต้องคุยอยู่ดี"
"ได้ค่ะ"
หลินวางหูไปทันที เธอพึ่งเริ่มเก็บของเสร็จ ระหว่างนั้นก็เปิดเพลงโปรดเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วฟัง เพลงของวายุที่ดังมากในช่วงที่เธอยังเรียนอยู่ ความทรงจำหลายอย่างไหลออกมา
คอนเสิร์ตงานฤดูหนาวที่เบียดคนเข้าไปดู ฟังได้แค่เพลงครึ่ง ก็ดันมีพวกนักเลงก็ตีกัน และปาขวดขึ้นเวที สุดท้ายคอนเสิร์ตนั้นก็ยกเลิก
ไหนจะไปคอยดักรอที่สนามบินเพื่อรอรับศิลปินคนโปรด สุดท้ายก็ไม่ได้เจอเพราะคนล้นออกมาจนบอดี้การ์ดต้องขับรถตู้ไปรับพวกเขาที่ลานข้างๆสนามบินเพื่อออกจากสนามบินได้
เธอนั่งฟังเพลงไปพร้อมกับเดินออกมาสูดอากาศที่นอกระเบียง เสียงเพลงแว่วไปที่ห้องข้างๆ ที่เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจและยิ้มมุมปากออกมาอย่างไม่คาดคิดว่าในยุคนี้จะยังมีคนฟังเพลงของเขาอยู่
ด้วยกำลังใจที่เต็มเปี่ยม หลินคว้าสมุดจดงานและไอแพดคู่ใจเดินจากห้องไปยังห้องข้างๆที่เป็นห้องพักของวายุทันทีเพื่อคุยเรื่องชุดของเขาในคอนเสิร์ตครั้งนี้
"ติ๊ง…ต่อง…"
คนด้านในที่พึ่งอาบน้ำเสร็จได้ยินเสียงประตูและคิดว่าเป็นผู้จัดการของตัวเองเขาจึงเดินไปเปิดประตูพร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำและผ้าคลุมผม เมื่อประตูเปิดออกก็ตกใจเล็กน้อยที่เป็นสาวสวยหน้าใสตากลมโตที่ยืนอยู่หน้าประตู เขารู้สึกคุ้นหน้าเธอแต่ก็จำไม่ได้
"นี่จะเอาแบบนี้จริงๆเหรอเนี่ย ไม่กลัวเป็นข่าวเลยใช่ไหม ได้เลยเข้ามานี่!!"
หลินถึงกับตกใจเมื่อถูกทักเช่นนั้น เมื่อเดินเข้าไปแล้ว เขาก็รีบดึงไอแพดและสมุดของเธอไปพร้อมกับเปิดและเขียนบางอย่างลงไปในนั้นอย่างไม่ได้ถามคนตรงหน้าว่าเข้ามาทำไม แต่เขาเก็บไอแพดของเธอไปไว้บนหลังตู้สูงที่เธอแม้ว่าจะสูงแต่หลินก็เอื้อมไม่ถึง
"เอ่อ นี่คุณคะ"
"เงียบแล้วนั่งลง"
หลินยอมเดินไปนั่งที่โซฟารับแขกที่เหมือนกันกับห้องของเธอ เมื่อนั่งลงและเขาก็เดินตามมานั่งตรงข้ามอย่างไว้ท่า หลินเห็นว่าเขาดูหงุดหงิด แต่เธอกำลังจะเริ่มพูด
"คือว่า...หลินมาที่นี่..."
"จะเอาเท่าไหร่"
"คะ??"
"เท่าไหร่ถึงจะยอมไป คุณรับเงินมาเท่าไหร่ที่ถูกส่งมาให้ผม อ้อ อย่าบอกนะว่าแค่อยากนอนกับผมแล้วไป มันคงไม่ได้ง่ายๆแบบนั้นแน่ๆใช่ไหม"
"คุณวายุคะ คือว่า ดูเหมือนว่าคุณจะ..."
"คุณจะต่อรองยังไงก็ว่ามา อยากได้อะไร รถ บ้าน เงินก้อนโต เช็คเงินสดได้ไหม รับแล้วก็รีบออกไปแล้วอย่าให้ใครเห็นละ"
"ดะ..เดี๋ยวนะคะ คุณฟังฉันก่อน"
"ห้าแสน...พอไหม"
"คือฉันไม่ใช่"
"แปดแสน"
"เดี๋ยวค่ะ คือคุณวายุคะ คุณกำลังเข้าใจ...."
"เธอคงไม่คิดว่าหุ่นลีบๆแบนๆนั่นมีค่าเป็นล้านหรอกนะ"
หลินเริ่มหมดความอดทน นี่เธอยังไม่ทันจะอ้าปากพูดอะไร เธอทำใจเย็นอย่างที่สุดแล้วที่จะคุยกับเขาแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น
"หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!"
หลินหันไปมองคุณพ่อที่ยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร ตอนนี้คุณแม่ของวายุเองก็เดินมานั่งข้างๆเธอ“ขอโทษหนูด้วย พ่อของวายุชอบเล่นแบบนี้เสมอ ชอบอำแขกตีหน้าขรึมอยากเป็นพระเอกละคร หนูคงตกใจแย่เลยสิลูก บอกแล้วเห็นไหมว่าอย่าแกล้งหนัก ดูสิถ้าเกิดลูกสะใภ้เตลิดไปอีกก็ไม่ต้องหวังจะได้อุ้มหลานแล้วค่ะคุณพี่”“ไม่ๆๆ ไม่ได้สิ หลินจะมาหนีไม่ได้นะ ก็หลินคุกเข่าขอลูกพ่อแต่งงานกลางคอนเสิร์ตเองนะ ไม่ได้ๆ คุกเข่าแล้วก็ถือว่าเข้าบ้านพ่อมาแล้ว หนีไม่ได้ๆ นี่คุณ จัดการเลยอีกสามเดือนแล้ว พรุ่งนี้ไปขอฤกษ์พระมา เรื่องเตรียมงานก็ให้ไว โรงแรมเอาที่คุณเลือกไว้”“เตรียมไว้หมดแล้ว เหลือแค่พาวายุกับหลินไปดู”“อะไรนะครับแม่ อย่าบอกนะว่าแม่กับพ่อ....”“เออสิวะ รอแกเมื่อไหร่จะได้อุ้มหลาน นี่หนูหลินถือว่าเห็นแก่พ่อ ปลายปีหน้ามันช้าเกินไป เอาเป็นปลายปีนี้ก็แล้วกันนะลูกนะ พ่ออยากมีหลาน เพื่อนพ่อมันชอบเอารูปหลานๆมันลงโซเชียล พ่อไม่มีอวดเหมือนพวกมัน พ่ออยากมีโมเม้นท์อวดรูปหลานกับเขาบ้าง นะๆ”“พ่อครับ แต่ว่าผมยังไม่ได้ไปพบแม่ของหลินที่เชียงใหม่เลย”“มันจะไปยากอะไร ก็ยกขบวนไปกันหมดนี่แหละฉันกับแม่แกจะไปด้วย สู่ขอเป็นเรื่องเป็นราวทีเดี
“หลินไม่กลัวหรอกค่ะ เพราะหลินไม่ได้เป็นคนจ่าย”“โธ่ ไม่คิดจะสงสารกันบ้างเลย เรียบร้อยแล้วครับ หล่อหรือยัง”หลินหันมามองวายุที่สวมรองเท้าเสร็จแล้ว เธอหันไปจัดปกเสื้อให้เขาพร้อมกับตบที่ปกเสื้อเบาๆ“หล่อแล้วค่ะ เอ๊ะ รอยนี่??…”หลินหันไปเห็นรอยที่คอของเขา น่าจะเป็นเธอที่ทำเอาไว้เมื่อคืนนี้ วายุจับตัวเธอหันออกจากห้องและพาเดินออกไป“ไม่ต้องดูแล้ว ช่างมันเถอะไม่มีใครสังเกตหรอกน่า”“ได้ยังไงกันคะอายคนอื่นแย่เลย”“แล้วทำไมเมื่อคืนตอนทำไม่อายละครับที่รัก”“พี่วายุ!! ทำไมพูดออกมาแบบนี้ ไม่เอาแล้ว ไม่ไปด้วยแล้ว”“ไม่ได้ๆ รีบๆเลยเดี๋ยวไม่ทัน อย่ามาทำงอนตอนนี้พี่ไม่หลงกลหรอก ไปได้แล้ว ขึ้นรถเลย”หลินเดินขึ้นรถไปพร้อมกับเขา รถหรูขับออกมาจากคอนโดของวายุมุ่งหน้าไปที่โรงแรมที่จัดงานหมั้นของอลิซและภัทรงานหมั้น อลิซ & ภัทรงานในวันนี้เต็มไปด้วยญาติทั้งสองฝ่ายของทั้งคู่และยังมีเพื่อนดารา ศิลปินนักร้องหลายๆคนที่มาร่วมงาน ฝั่งเจ้าบ่าวก็มีเพื่อนร่วมงานทั้งพวกนักบินและเพื่อนๆของภัทรมาด้วย“คุณป้าปรานีสวัสดีค่ะ”“หลิน ลูกสาวป้ามาแล้ว เป็นยังไงบ้างลูกไม่เจอกันเลย สบายดีนะ”“สบายดีค่ะ”“เสียดายที่แม่หนูไม่ได้มา
คอนเสิร์ตใหญ่ GSTเหล่าบรรดาแฟนเพลงมารอชมคอนเสิร์ตกันตั้งแต่เวลาก่อนสิบโมงเช้า ซึ่งด้านนอกก็มีทั้งซุ้มร่วมทำกิจกรรมพิเศษและบูธขายสินค้าที่ระลึกซึ่งวันแสดงวันแรกนี้คนมากมายกว่าที่คิด แต่เพราะบัตรที่ขายหมดทุกที่นั่งทุกรอบเป็นที่การันตีว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นงานใหญ่อีกหนึ่งงานของเมืองไทยที่รวมศิลปินมาได้มากมายเช่นนี้“พร้อมนะคะ”“อืม พร้อม แต่…”หลินไม่รอให้เขาขอ เธอปิดห้องแต่งตัวเขาเพื่อการนี้ เธอจูบเขาเนิ่นนาน เมื่อคืนนี้พวกเขาเองก็ผลัดกันบอกรักเกือบทั้งคืนมาแล้วเพื่อเป็นกำลังใจให้เขาขึ้นแสดงในวันนี้“สู้ๆนะคะที่รักของหลิน”“สู้สุดหัวใจ”วายุจับมือหลินออกไปรอจะขึ้นแสดง พวกเขาจะเริ่มจากเพลงที่ร้องพร้อมกันทั้งหมดในอัลบั้มพิเศษและเพลงพิเศษที่พึ่งแต่งขึ้นเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ ศิลปินทั้งหมดจับมือกันพร้อมกับเดินเข้าไปที่เวทีเพื่อจะเริ่มแสดงเสียงกรี๊ดที่กระหึ่มไปทั้งฮอล์จนแทบระเบิดทำเอาทีมงานทุกคนแทบจะร้องไห้เพราะความปราบปลื้มใจที่แฟนเพลงให้การตอบรับถึงขนาดนี้คอนเสิร์ตเริ่มขึ้นและเพลงที่บรรจงคัดสรรมาอย่างดีก็ถูกนำมาร้องและทุกคนต่างร้องตามได้ หลินที่ยืนดูอยู่ด้านหลังเวทีไปด้านหน้า เมื่
หลินมองที่ทั้งคู่ที่พากันเข้าห้องมา“ถ้างั้นไหนๆพี่ต้อมก็พาพี่วายุมาแล้ว หลินก็ฝากด้วยก็แล้วกันนะคะ หลินจะไปนอนห้องของหลิน เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”“อ้าว หลิน…”สาธิตมองไปที่โต๊ะอาหารที่เธอกำลังเก็บแต่คงเก็บยังไม่เสร็จ เขาถึงกับรู้สึกกลัวแทนวายุเสียแล้วในตอนนี้“งานเข้าแน่ๆ พรุ่งนี้ วายุเอ๊ย เฮ้ย..ตื่นก่อน!! เมียหนีแล้ว”วายุที่แทบจะไม่มีสติอะไรเลยถูกหามเข้าไปนอนในห้อง สาธิตเองก็ถูกจินนี่โทรตามแล้วเหมือนกัน เขาเลยรีบออกจากห้องของวายุไปทันทีวันรุ่งขึ้นวายุรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย แต่เขาจำได้ว่าเขาดื่มไปแค่สามแก้วเท่านั้น แล้วจากนั้นภาพก็ตัดไปเลยโดยที่ไม่รู้เรื่อง วันนี้มีซ้อมช่วงบ่าย ถือเป็นการซ้อมครั้งสุดท้ายก่อนที่คอนเสิร์ตจริงจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เขามองไปรอบๆแต่ไม่เห็นหลิน ซึ่งเวลานี้เธอน่าจะยังไม่ออกไปทำงาน หรือว่าเธอไม่ได้กลับมากันแน่นะ“หึ ทิ้งกันจนวันสุดท้าย ดีเหลือเกิน”เขาลุกออกมากินน้ำ แต่ก็ต้องสะดุดกับแก้วและดอกไม้บนโต๊ะที่เหมือนจะถูกเก็บไปไม่หมด เขาเริ่มมองรอบๆ เห็นว่ามีถุงขยะใบใหญ่ที่ผูกปากเอาไว้แต่ยังไม่ได้เอาออกไปทิ้งจึงรีบเดินไปเปิดตู้เย็นก็เห็นสเต็กเนื้อสองจานที่ถูกพลาสติ
“แล้วมันต้องมีอะไรด้วยงั้นเหรอ” ไม่สิ หลินนึกในใจ ฉากที่พระเอกขอนางเอกแต่งงานมันต้องมีดอกไม้เตรียมตัว ไปในสถานที่ที่โรแมนติกจุดพลุดูไฟหรืออะไรแบบนั้น ไม่ใช่มาขอเอาตอนป่วยแล้วนั่งกินข้าวต้มแบบนี้ นี่มันอารมณ์ไหนเนี่ย“หลิน….หลิน”“คะ”“พี่อิ่มแล้ว งั้นพี่ไปนอนก่อนนะ”“เอ่อ .พี่วายุยังไม่ได้กินยาหลังอาหารเลยค่ะ รอก่อนสัก…สิบห้านาที”“อืม ได้”หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้อีก หลินเองก็พยายามจะหาจังหวะพูด แต่ดูเหมือนว่าเขาเองก็เลี่ยงที่จะไม่คุย เขากินยาและเดินเข้าไปนอนเลย หลินที่เก็บกวาดครัวอยู่ด้านนอกเสร็จและไปอาบน้ำ พอออกมาเขาก็หลับสนิทไปแล้วห้าวันก่อนคอนเสิร์ตใหญ่“พี่อลิซ ไหวแน่นะคะ”“ไหวสิๆ หมอให้ยามาแล้ว กันแท้งก็ฉีดมาสองเข็มแล้ว นี่หลิน ว่าแต่พี่วายุทำไมเอาแต่ซ้อมหนักขนาดนั้น นี่ไม่พักเลยนะ”“สงสัยจะตื่นเต้นน่ะค่ะ”“ไม่มีอะไรแน่เหรอ หลิน บอกวายุพอก่อน พี่จะไม่ไหวแล้ว”“พี่จินนี่ ทำไมหอบมาเลยละคะ”“วายุของเธอน่ะสิ เอาแต่ซ้อม บอกว่าพี่ยังเต้นไม่เข้าจังหวะ พี่จะตายอยู่แล้วเนี่ย พี่ต้อม ขอน้ำหน่อยค่ะ”“ครับๆ นี่ครับ เดี๋ยวพี่มานะ ไปดูวายุหน่อย”“นี่พี่ต้อมเขายังจำได้อยู่ใช่ไหมคะ
หลินรีบปิดหน้าจอลงหลังจากส่งเมล์ฉบับสุดท้ายเสร็จและหันมามองหน้าวายุ“เกิดอะไรขึ้นคะ”“คุณภัทรบอกว่าอลิซตกเลือด ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล”“แย่แล้ว งั้นรีบไปเถอะค่ะ แต่ว่า….พี่วายุจะไปไหวเหรอคะ”“หลินขับรถก็แล้วกันนะ”“ได้ค่ะ”ทั้งคู่รีบเตรียมของและออกจากที่พักเพื่อไปที่โรงพยาบาลทันที โรงพยาบาล“พี่ภัทร เป็นยังไงบ้างคะ”“ยังไม่ออกมาเลย พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”“มันเกิดอะไรขึ้นครับ”“เห็นบอกว่าล้มระหว่างตอนซ้อมเต้นครับ ผมพึ่งออกมาจากห้องสอนนักบินก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการของอลิซ เลยรีบมาที่นี่”ไม่นานแนนและโอปอก็วิ่งมาที่หน้าห้องที่พวกเขาอยู่“หลิน พี่วายุมาด้วยเหรอ เป็น…เป็นยังไงบ้างคะคุณภัทร”“ยังไม่ออกมาเลยครับ”“พี่ภัทรใจเย็นๆนะคะ พี่อลิซไม่น่าจะเป็นอะไรมากหรอกค่ะ”วายุพาภัทรไปนั่งรอที่หน้าห้อง ทุกคนเองก็ตามมาเช่นกัน ภัทรดูร้อนรนมากเพราะนี่เ่ป็นลูกคนแรกของเขา แม่เขาตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าจะมีหลานคนแรก และดีใจมากที่สุดที่รู้ว่าแม่เด็กคืออลิซ ดาราที่แม่เขาชื่นชอบ ไม่นานคุณหมอก็เดินออกมา“คุณหมอคะ อาการพี่อลิซเป็นยังไงบ้างคะ”“อ้อ ใครคือพ่อของเด็กครับ”“ผมเองครับหมอ ภรรยาและลูกผม..เป็นยังไงบ้