"ทำไมมึงรีบบินจังวะ"
"นัดลูกค้า" "นัดลูกค้า อาทิตย์หน้าไม่ใช่?" "กูไม่ต้องเตรียมตัว?" "ปกติมึงไม่ไปล่วงหน้านานขนาดนี้" ไอ้แฝดพูดถูก ปกติถ้ามีงานผมจะบินไปล่วงหน้าอย่างมากคือสองวันเพราะมีเรียน แต่ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว และมีใครบางคนรออยู่ที่นั่นผมจึงรีบเดินทางไปตามที่รับปากเธอเอาไว้ วันนี้เลยให้แฝดทำหน้าที่เป็นคนขับรถพาผมมาส่งที่สนามบิน แต่ก็ลืมคิดไปว่า...ไอ้ฟิล์มมันพูดมาก เลยเลือกเปิดเพลงที่เราชอบเหมือนกันคลอเบาเบาเป็นการบอกทางอ้อมให้น้องรักหยุดพูด ซึ่งก็ได้ผลเพราะตอนนี้ไอ้แฝดกำลังร้องเพลงสบายอารมณ์ไปพร้อมกับเพลงที่เปิดให้ได้ยิน "ถึงแล้วแชทบอก" "ครับคุณน้องชาย" "ค่อยว่านอนสอนง่ายสมกับเป็นแฝดกูหน่อย" ไม่รู้ไอ้ฟิล์มมันกวนตีนเหมือนใคร? ผมใช้เวลากว่ายี่สิบชั่วโมงบนเครื่องบินที่มีที่นั่งส่วนตัวของผมโดยเฉพาะสามารถปิดที่กั้นเป็นห้องมีทีวีและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและปรับที่นั่งเป็นที่นอนได้สบายเลยทำให้ผมได้พักสายตาเต็มอิ่ม มีแรงพอพาเธอไปเดินเที่ยวได้ทันทีที่ไปถึง ส่วนที่พัก ผมก็แอบเช่าห้องฝั่งตรงข้ามห้องของเธอเอาไว้แบบไม่มีกำหนดโดยที่เธอไม่รู้ เพราะเธอยื่นคำขาดไม่ให้ผมนอนห้องเดียวกับเธอในระหว่างที่ผมกำลังทำคะแนน พูดง่ายๆ ว่า เริ่มนับหนึ่งใหม่นั่นแหละ และถ้าผมไม่รีบพาตัวเองบินตามเธอมาแบบนี้ อย่าหวังว่าคะแนนของผมจะบวกขึ้นมีแต่จะลดลงจนติดลบ เอาคืนเก่งก็ว่าที่เมียของผมคนนี้นี่แหละ แต่ผมจะปล่อยให้เธอแกล้งกันอย่างนี้ให้เธอตายใจไปก่อน เพราะถือคติที่ว่า ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม ถึงทีผมเมื่อไหร่ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันแน่ ให้คุ้มกับเวลาที่เสียไปเลยคอยดู นึกแล้วก็ได้แต่โทษตัวเองจนถึงตอนนี้ lens.lff : พี่ถึงสนามบินแล้วนะ nongpream🌷: รับทราบค่ะ ตอบกลับมาได้เย็นชาสุดๆ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสอนหรือไปจำใครเขามา แต่ก็เอาเถอะ! เจอหน้ากันเมื่อไหร่จะฟัดให้หายคิดถึงสักที จะโดนงอน ผมก็ยอมแลก "เซอร์ไพร์ส" "คิดว่าพรีมจะไม่มารับหรอคะ" "..." "พรีมไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกค่ะ" "หึ" ไม่นานผมก็เดินออกมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่มีเสื้อผ้าเตรียมมาเผื่อไว้บินมารอบต่อๆ ไปจะได้สะพายกระเป๋ามาแค่ใบเดียว ทันทีที่ผมกำลังจะเดินไปต่อแถวเรียกรถไปยังที่พัก คนตัวเล็กที่ซ่อนตัวอยู่หลังเสาก็เดินออกมาเซอร์ไพร์สโบกมือทักทายพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ให้ชื่นใจ ทำผมยิ้มกว้างอย่างง่ายดายรู้สึกหายเหนื่อยในพริบตา รีบคว้าร่างนุ่มนิ่มเข้ามากอดแน่นโดยไม่สนใจสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนคงจะเข้าใจความรู้สึกของผมตอนนี้ ฟอด "คิดถึง" "คิดถึงเหมือนกันค่ะ" ฟอด "พอแล้วๆ ไปกันค่ะ อากาศเย็นเดี๋ยวไม่สบายนะ" "อืม" คนตัวเล็กวิ่งอ้อมขึ้นมานั่งบนกระเป๋าเดินทางให้ผมเข็นทั้งคนทั้งกระเป๋าพากันเดินตรงไปจุดเรียกรถ แน่นอนว่าผมบอกคนขับรถให้ตรงไปที่พักของเธอโดยไม่ถามความสมัครใจจากเจ้าของห้องเสียก่อน เพราะถ้าถามคงไม่ได้ไปแน่! ผมว่าคงต้องพับแผนที่จะพาเธอออกไปเดินเล่นชมเมืองไว้แล้วยกยอดไปในวันพรุ่งนี้แทน เพราะอยากจะนอนกอดร่างนุ่มนิ่มให้หายคิดถึง อยากกอดทั้งวันทั้งคืน และเชื่อว่าเธอเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน "มาไม่กี่วัน เหลือแต่กระดูก" ทันทีที่ประตูปิดลงผมก็อาศัยจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังก้มถอดรองเท้า ช้อนตัวเธอขึ้นมาแล้ววิ่งไปล้มตัวลงบนที่นอนใช้สองแขนสองขากอดเธอเอาไว้จนแทบจะรวมเป็นร่างเดียวกัน "ไม่นะ พรีมว่าพรีมอ้วนขึ้น กินฟาสต์ฟู้ดทุกวันเลย" "ไหน หลักฐาน" "นี่ไง แก้มพรีมเยอะขึ้นมากเลย" คนตัวเล็กทำแก้มป่องเหมือนลูกโป่งทั้งสองข้างราวกับเป็นหลักฐานยืนยันว่าเธออ้วนขึ้นจริงตามที่เธอบอก ฟอด แต่มันทั้งน่ารักและน่ามันเขี้ยวมาก จนผมอดใจไม่ไหวโน้มหน้าเข้าไปฟัดแก้มนุ่มๆ ฟอดใหญ่อยู่หลายนาที "อื้อ..." "จริงด้วย" ทำเธอย่นคอหนีร้องประท้วงตากลมโตมองดุ ผมเลยต้องหักห้ามใจเปลี่ยนมานอนกอดเธอนิ่งๆ พยายามควบคุมอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านจนปวดหนึบให้สงบลงเร็วที่สุด เธอจะรู้บ้างมั้ย ว่าทำผมทรมานมากแค่ไหน "ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ" "หึ ยังไม่ได้เอาเลย" ผมเอาเรื่องจริงมาเถียงสู้! เพราะมัวแต่ใจเย็นรอเธอครบยี่สิบนั่นแหละ "หักไปเลยสิบคะแนน" "แล้วที่พี่บินมาตั้งไกลให้กี่คะแนน" "0.25 ค่ะ" นั่งเครื่องข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งไกล ดูคะแนนที่ได้ เฮ้อ... เพราะงั้น ผมว่าจะโดนลบอีกสักสิบยี่สิบคะแนนแลกกับความกระชุ่มกระชวยหัวใจคงไม่เป็นอะไร ทุกวันนี้ก็แทบจะไม่มีคะแนนกับเขา และถ้าเธองอน ผมก็จะง้อ มีเวลาง้อและรอคะแนนบวกทั้งชีวิตอยู่แล้ว ระหว่างที่มารขาวและมารดำกำลังยืนทะเลาะกันอยู่ในความคิด นิ้วเรียวยาวก็เลื่อนขึ้นไปเกี่ยวผมหอมนุ่มของคนในอ้อมกอดเล่นแบบที่ชอบทำเวลาอยู่ด้วยกัน ผมอยากทำมากกว่านี้ มากกว่ากอดแน่นๆ มากกว่าหอมแก้มนุ่มๆ มากกว่าที่เคยจูบ...จะได้หรือเปล่า "ตัวเล็ก" ลองถามก่อนแล้วกัน เผื่อฟลุ๊ค! "หืม" "พี่อยากจูบ" "..." แก้มนุ่มของคนในอ้อมกอดขึ้นสีแดงระเรื่อกับคำขอของผม ปกติอยากจูบผมก็จูบเธอเลยไม่เคยได้ขอ แต่มาตอนนี้เธอให้ผมทำได้เพียงกอดและหอมแก้มเท่านั้น ถึงจะแอบขโมยจูบไปหลายครั้งแล้วก็ตาม และครั้งนี้จะต่างจากครั้งก่อนๆ เลยต้องค่อยๆ ขออนุญาตเธอไปทีละขั้น "ได้มั้ย" "แป็บเดียวนะ อะ อื้อ" หึ สิ่งหนึ่งที่เธออาจจะยังไม่รู้คือ แป็บเดียวของเราไม่เท่ากัน และเสือที่หิวโซอย่างผม...ไม่ได้รับปาก ริมฝีปากร้อนค่อยๆ ขบเม้มไล่เลียชิมริมฝีปากอวบอิ่มทีละนิดละนิดจนเธอเคลิ้มไปกับความหวาน ก่อนจะกัดลงเบาเบาให้คนตัวเล็กเผลออ้าปากเล็กน้อยเปิดทางให้ผมส่งลิ้นร้อนเข้าไปทักทายลิ้นเล็กๆ ก่อนจะหยอกล้อไล่ต้อนให้เธอไม่มีทางหนีเผลอใจหลงใหลไปกับรสจูบที่ผมมอบให้ เธอชอบให้ผมบอกความรู้สึกที่มีให้เธอฟัง เพราะงั้นผมจึงบอกเธอว่า 'คิดถึงมาก' ผ่านจูบนี้ที่ผมตั้งใจบอกให้เธอฟังคนเดียวเท่านั้น "อะ อื้อ" ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ จะใช่แป็บเดียวของเธอหรือเปล่า รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เธอส่งเสียงประท้วงขออากาศหายใจ ส่วนผมก็กำลังคิดขออนุญาต...ทำขั้นต่อไป สปอยล์ดีกว่า... "พี่ไม่อยากเป็นแฟนตัวเล็กแล้ว" "อยากเป็นผัวเลย" "ได้มั้ย" #จะตัดเข้าโคมไฟ หรือจ nc กรุบกริบดีนะ🤔 #หัวใจ1ดวงจะมา1ตอนหลังจากที่ตัวเล็กเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ห้องที่ผมไม่สามารถเข้าไปด้วยได้ ทำได้เพียงแค่นั่งรออยู่หน้าประตูอย่างมีความหวัง พยายามเรียกสติของตัวเองกดโทรหาไอ้แฝดคนที่ผมคิดว่าเวลานี้น่าจะจัดการทุกอย่างแทนผมได้ ผมเล่าเหตุการณ์ให้แฝดฟังจนพอเข้าใจ และให้เป็นธุระไปส่งข่าวให้คุณพ่อคุณแม่ของพรีมทราบด้วยตัวเองจะได้คอยดูแลพวกท่าน รวมถึงจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินไฟล์ทที่เร็วที่สุดและที่พักในเครือใกล้โรงพยาบาล พาขึ้นเครื่องบินมาพร้อมกัน แน่นอนว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเล็กสร้างความตกใจให้ท่านทั้งสองคนมาก ยิ่งคุณแม่ด้วยแล้วถึงกับเป็นลมไปหลายรอบ จนไอ้ฟิล์มต้องขอให้ท่านทั้งสองคนพักอยู่ที่โรงแรม ก่อนที่มันจะมาหาผมด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกหน่วงในหัวใจ ที่เขาบอกว่า การมีพี่น้องฝาแฝด ความรู้สึกจะสื่อถึงกัน ถ้าอีกคนมีความสุข อีกคนจะสุขด้วย ถ้าอีกคนทุกข์ อีกคนก็ทุกข์ไม่ต่างกัน ผมว่าจริงนะ และเป็นแบบนี้ตลอดเวลาเกือบยี่สิบสี่ปี"ไอ้แฝด เป็นยังไงบ้างวะ""น้องยังไม่ฟื้น""มึงใจเย็นๆ" ไอ้ฟิล์มตบไหล่ปลอบใจเบาเบา ให้ผมพยายามตั้งสติ"กูว่า มึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าหว่ะ" เพราะผมอยู่ในชุดนี้มาเกือบสามวัน ต
"ฝนจะตก" "พี่กูอยู่ไทย" "กวนตีน" ทุกวันอาทิตย์ครอบครัวของผมจะต้องรวมตัวกันที่บ้านใหญ่ เพื่ออัพเดตเรื่องราวในช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกัน จิบชายามบ่ายเป็นเพื่อนมามี๊และน้องโฟ ตีกอล์ฟเป็นเพื่อนป๊า ปิดท้ายวันด้วยการกินมื้อเย็นด้วยกันพร้อมหน้าแน่นอนว่าพี่คนโตของบ้านอย่างผมต้องกลับมาทุกครั้งที่อยู่ไทยเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ไอ้แฝดชอบกวนประสาทให้ผมด่าเล่นเท่านั้นแหละ "น้องโฟคิดถึงพี่เลนส์มากเลย" น้องสาวคนสวยวิ่งลงมาจากบันได โผลเข้ากอดคอผมอย่างออดอ้อน ทำผมเอ็นดูจนหันไปกดจมูกลงผมหนาเบาเบา "หึ พี่ก็คิดถึงน้องโฟ""แล้วพี่ละหมูอ้วน" "น้องโฟเจอพี่ฟิล์มบ่อยแล้วนี่นา" "หึ" "น่าน้อยใจมั้ย" เราสามคนพี่น้องนั่งคุยกันเรื่องทั่วๆ ไปที่ห้องนั่งเล่นระหว่างรอป๊าพามามี๊ลงมาจากห้องนอน ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนฟังไอ้แฝดถามน้องโฟมากกว่า น้องสาวของเราสองคนเป็นเด็กน่ารักมากแลพก็พูดเก่งมากเช่นกัน เธอเป็นเหมือนความสดใสของบ้านเราเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าคนที่จะมาดูแลน้องไปทั้งชีวิตจะต้องผ่านการคัดเลือกจากผมและไอ้ฟิล์มมาแล้ว คัดเลือกและดูความประพฤติมาตั้งแต่เด็กนั่นแหละ แต่ต้องขึ้นอยู่ว่าน้องจะยอมให้ดูแลด้วยรึป่
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่พี่เลนส์ทำงานอยู่ไทยเพราะสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาบินมาทำงานที่นี่และอยู่เป็นเพื่อนฉันแล้ว ตลอดระยะเวลาเกือบหกเดือนเจ้าของสายการบินอย่างเขาก็บินไปบินกลับระหว่างไทยกับอเมริกาเป็นว่าเล่น อยู่ไทยสองสัปดาห์ อีกสองสัปดาห์บินมาอเมริกาสลับไปอย่างนี้และช่วงเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกเหงาหรือว่าห่างกันเลยสักนิดถึงเวลาเราจะไม่ตรงกันเลยแต่เขาก็จะรอฉันตื่นแล้ววิดีโอคอลคุยกันทุกวัน บางวันถ้าฉันเข้านอนแล้วเขาก็ให้เปิดกล้องทิ้งไว้ส่วนเขาก็นั่งทำงานคอยมองฉันเงียบๆ ไม่ส่งเสียง"ไม่ใส่สร้อย?""พรีมกลัวตกหาย""กลัวคนรู้ว่ามีแฟน?""พบคนงอนหนึ่งอัตราแล้วน๊าา"อย่างตอนนี้ฉันกำลังแต่งตัวไปเรียนส่วนเขาก็กำลังเข้านอน แต่สั่งให้เปิดกล้องอยากจะดูว่าฉันใส่ชุดอะไรไปเรียนเรียบร้อยถูกใจเขาหรือเปล่า รู้สึกเหมือนมีสไตลิสต์ส่วนตัวคอยช่วยเลือกเสื้อผ้าให้เลย ที่สำคัญสิ่งที่ขาดไม่ได้และเขาจะงอแงทุกครั้งถ้าฉันไม่ใส่ก็คือสร้อยคอที่มีตัวย่อ 'PL' ชื่อของเราสองคนที่เขาให้เป็นของขวัญแสดงความยินดีที่ฉันสอบทุนได้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบหรือไม่อยากใส่หรอกนะ แต่เขาหน่ะชอบคิดไปไกล
"ตัวเล็ก" "คะ" แก้มนุ่มแดงราวกับลูกสตอเบอร์รี่พยายามหลบสายตาคู่คมที่มองไม่ห่าง"พี่ไม่อยากเป็นแฟนตัวเล็กแล้ว" ตากลมโตฉายความสงสัยปนความน้อยใจมาเห็นให้อย่างปิดไม่มิด ทั้งๆ ที่เขาพึ่งจูบสูบวิญญาณฉันไปแท้ๆ หน่ะหรอ"อยากเป็นผัวเลย" "ได้มั้ย" แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ความน้อยใจอยู่กับฉันนาน เสียงที่แหบพร่าบอกความต้องการของตัวเองพร้อมกับแววตาออดอ้อนแฝงความเอาแต่ใจจนทำให้ฉันรู้สึกหวามไหวมวนท้องไปหมดอยากจะมุดหนีไปจากตรงนี้ ติดตรงที่ใจดันคิดสวนทางกันนี่แหละ"เดี๋ยวก็ลบหนึ่งร้อยเลยนี่" ฉันเลยสู้โดยการเลียนแบบเขาที่จ้องแต่หาเรื่องมาหักคะแนนกัน ติดลบไปเลย ดูซิ! จะยังกล้าเล่นกับใจฉันอยู่มั้ย"ยอม"ปากร้อนฉกจูบลงมาที่ปากของฉันอีกครั้งโดยไม่รอให้ฉันอนุญาติเหมือนครั้งก่อน จูบของเขาครั้งนี้มันทั้งดูดดื่มทั้งเอาแต่ใจทั้งเจ้าเล่ห์คอยหลอกล่อให้ฉันเผลอไผลจนเขาสามารถรุกล้ำเข้ามาได้อย่างง่ายดายเขาพาฝูงผีเสื้อมาบินเล่นในร่างกายของฉัน"อะ อื้อ" ฉันไม่รู้ว่าเผลอตัวปล่อยใจไปกับรสจูบของเขานานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีเดรสตัวยาวที่ฉันใส่ก็ร่นขึ้นมากองอยู่บนหน้าท้องแบนราบ มือหนาลูบแผ่วเบาวนไปมาตามผิวเนียนลื่นบริเวณต้
"ทำไมมึงรีบบินจังวะ" "นัดลูกค้า" "นัดลูกค้า อาทิตย์หน้าไม่ใช่?""กูไม่ต้องเตรียมตัว?" "ปกติมึงไม่ไปล่วงหน้านานขนาดนี้" ไอ้แฝดพูดถูก ปกติถ้ามีงานผมจะบินไปล่วงหน้าอย่างมากคือสองวันเพราะมีเรียน แต่ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว และมีใครบางคนรออยู่ที่นั่นผมจึงรีบเดินทางไปตามที่รับปากเธอเอาไว้ วันนี้เลยให้แฝดทำหน้าที่เป็นคนขับรถพาผมมาส่งที่สนามบิน แต่ก็ลืมคิดไปว่า...ไอ้ฟิล์มมันพูดมาก เลยเลือกเปิดเพลงที่เราชอบเหมือนกันคลอเบาเบาเป็นการบอกทางอ้อมให้น้องรักหยุดพูด ซึ่งก็ได้ผลเพราะตอนนี้ไอ้แฝดกำลังร้องเพลงสบายอารมณ์ไปพร้อมกับเพลงที่เปิดให้ได้ยิน"ถึงแล้วแชทบอก" "ครับคุณน้องชาย" "ค่อยว่านอนสอนง่ายสมกับเป็นแฝดกูหน่อย" ไม่รู้ไอ้ฟิล์มมันกวนตีนเหมือนใคร? ผมใช้เวลากว่ายี่สิบชั่วโมงบนเครื่องบินที่มีที่นั่งส่วนตัวของผมโดยเฉพาะสามารถปิดที่กั้นเป็นห้องมีทีวีและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและปรับที่นั่งเป็นที่นอนได้สบายเลยทำให้ผมได้พักสายตาเต็มอิ่ม มีแรงพอพาเธอไปเดินเที่ยวได้ทันทีที่ไปถึงส่วนที่พัก ผมก็แอบเช่าห้องฝั่งตรงข้ามห้องของเธอเอาไว้แบบไม่มีกำหนดโดยที่เธอไม่รู้ เพราะเธอยื่นคำขาดไม่ให้ผมนอนห้องเดียวกั
ป๊อก!"โอ๊ย! พรีมเจ็บนะ" นิ้วเรียวยาวดีดลงบนหน้าผากมนไม่เต็มแรงนัก แต่ก็พอให้คนตัวเล็กรู้สึกเจ็บและเป็นรอยแดง จนตาคู่คมไหววูบอย่างรู้สึกผิด ค่อยๆ เป่าเบาเบาตรงรอยแดงเป็นการไถ่โทษ"คิดเองเออเอง" เสียงทุ้มแอบบ่นคนบนตักแกร่งเบาเบาอย่างลืมตัว"..." "หึ" ทำตากลมโตมองตาขวางพองขนขู่จนทำให้ผมเริ่มรู้สึกกลัว รีบอธิบายเคลียร์ตัวเองแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าที่เธอเข้าใจทั้งหมด...ผมถูกเธอกล่าวหา ผมกับมินินเป็นเพียงเพื่อนสนิทกันเท่านั้นไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้ ที่ผ่านมาใช่ว่าผมกับเพื่อนจะไม่เคยได้ยินข่าวลือที่คนอื่นต่างจับคู่ให้เราสองคน และเป็นไอ้ตริติณที่ถือโอกาสนี้ใช้ผมเป็นไม้กันหมาไม่ให้ใครเข้ามาจีบน้องตัวเองได้ ซึ่งผมก็ปล่อยเลยตามเลยเพราะไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ตอนนี้ ต่างจากตอนนั้น..."พี่ยังไม่มีแฟน""แต่กำลังจะมี" "จิ๊ ปล่อยพรีมเดี๋ยวนี้เลย" แต่ดูเหมือนจะทำให้ลูกเสือโกรธมากกว่าเดิมสินะ สองแขนแกร่งจึงต้องออกแรงกระชับแขนกอดเธอให้แน่นขึ้น จนแทบอยากให้เธอละลายเข้าไปอยู่ในตัวจะได้ไม่หนีหายไปไหน"ไม่อยากรู้หรอว่าใคร" "เรื่องของพี่ค่ะ เพราะพรีมไม่ได้จีบพี่แล้ว" คนแสนงอนทำหน้าบึ้งตึงยืนกรานว่าเธอ