เข้าสู่ระบบทุกคนในห้องกำลังตกตะลึงกับภาพตรงหน้าเลยต่างพากันเงียบกริบหมดหากใครตดก็คงได้ยิน
แกร้ง!! เสียงปากกาของใครบางคนตกพื้นเรียกสติทุกคนให้กลับเข้าที่
ป้าปๆๆๆๆ " กี้มึงไม่น่าเลย" แจมเดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนที่กำลังอึ้งรัวๆอย่างตื่นเต้น
"ไม่น่าพึ่งทำวันนี้เลย น่าจะทำให้เร็วก็ว่านี้กรี๊ดดด" พิงค์เดินมาสมทบ
"มะ...มึง กูว่ากูเจอเนื้อคู่แล้วหวะ" กี้ที่กำลังอ้ำอึ้งเพราะได้สบตากับกันต์ใกล้ๆจนทำให้เขาแทบหยุดหายใจตรงนั้น 'เพียงสบตาคู่นั้น ฉันก็รู้ทันใด' จู่ๆเนื้อเพลงบุพเพก็แล่นเข้ามาในหัวสมองของเธอ
ซุบซิบๆ เพื่อนๆในห้องต่างให้ความสนใจกับเรื่องนี้เลยเปลี่ยนหัวข้อประเด็นการสนทนากันยกใหญ่
"เราไม่คิดเลยว่ากันต์จะน่ารักขนาดนั้น" แพรหัวหน้าห้องที่ปกติไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้ชายเท่าไหร่มาร่วมวงกับสามสาวด้วย
"แพรหยุด คนนี้ฉันจอง"กี้หรี่ตามองแพร พูดขึ้นเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของ
" แล้วเรามาดูกัน " แพรหรี่ตามองกลับประมาณว่าฉันนี่แหละเจ้าของ
'ปฏิบัติการศึกชิงนายเลยเริ่มต้นขึ้น'
.
.
.
.
ขนตางอลกระเพื่อมพริ้วไหวบนดวงตากลมโตชวนมองได้รินหลั่งหยดน้ำตาลงมากระทบสองข้างแก้มอมชมพู จมูกโด่งได้รูปกับใบหน้าเรียวจิ้มลิ้มที่ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องลืมหายใจ ปากเล็กกำลังขบเม้มร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้น
"แหกๆๆอึก ฮืออ" ผมสับเท้าวิ่งมายังตึกล้างหลังโรงเรียนน้ำตาไหลไม่หยุด เสียใจ อีกแค่ปีนี้ปีเดียวก็จะจบแล้วแท้ๆ ทุกคนคงจะรังเกียจแล้วก็คงจะได้ยินแต่คำพูดร้ายๆ อีกแล้ว
"กันต์!!"
"กันต์!!"
ไทม์และนทีวิ่งตามหลังมาด้วยความเป็นห่วง เขาพูดชื่อกันต์พร้อมกันราวกับเตี๊ยมกันมา
ผมใช้หลังมือปาดน้ำตาก่อนจะหันหลังให้พวกเขาแล้วใช้มือปิดใบหน้าตัวเอง "อย่ามอง"
นทีและกันต์หันหน้ามองกันอย่างงงๆแล้วคิดเหมือนกันว่าทำไมถึงมองไม่ได้วะ
"จะเอ๋" เป็นนทีที่ชะโงกหน้าไปซ้ายมือของกันต์
กันต์เลยหลบไปทางขวาแต่ก็ตกใจเพราะมีไทม์ยืนอยู่เงียบๆ
เลยก้มหน้ามุดกอดเข่าตัวเองแทน คงจะรู้แล้วว่าผมคือเด็กอ้วนขี้เหร่คนนั้น
"น่าสมเพชใช่ไหม" ผมพูดออกไป
"สมเพช? สมเพชทำไม?" นทีกำลังงุนงงกับคำพูดของกันต์
"ก็ฉันมันน่าเกลียด"
จู่ๆนทีก็หันไปพูดกับไทม์ "นายคิดเหมือนที่ฉันคิดไหมB1"
ไทม์พยักหน้าตอบกลับ "อืมฉันก็คิดงั้น B2"
ไทม์ยกแขนกันต์ขึ้น2ข้างเผยให้เห็นหัวทุยที่ซบหน้าลงกับเข่าตัวเองและเสี้ยวหน้าด้านข้าง
"เงยหน้าขึ้น" ไทม์พูดเสียงดุใส่
"ไม่" ผมปฏิเสธเสียงแข็ง
"บอกให้เงย"
"ก็บอกว่าไม่"
ไทม์พยักหน้าให้นทีเป็นเชิงให้ช่วย นทีรับรู้ได้แม้ไม่ต้องเอ่ยปาก
ไทม์ล็อคแขนผมไว้ไม่ให้ชักกลับ ส่วนนทีใช้สองมือจับใบหน้าด้านข้างผมให้เงยขึ้นไปเผชิญหน้า
พรึ่บ!!
วินาทีเหมือนลมหายใจได้หยุดลงก่อตัวขึ้นอีกครั้งนทีมองสายตาคู่นั้น อีกทั้งยังเห็นใบหน้าเต็มรูปแบบทำให้เขาเหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่มีแต่ทุ่งดอกไม้
หยดนำ้ใสไหลออกจากตาคนตรงหน้าทำให้ดวงตากลมโตแดงกลำ่อีกทั้งจมูกและแก้มก็ยังแดงระเรื่อขลับสีผิวขาวให้ออร่ามากยิ่งขึ้น น่ารัก น่ารักโครตต
"พอใจยัง" ผมพูดกับไทม์และนทีด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างไม่พอใจ
นาทีนั้นเองที่2หนุ่มมองแล้วเหมือนเจอสัตว์เล็กๆกำลังมองเหวี้ยงใส่ มันน่ารักมาก น่ารักจนใจเจ็บ
"อะแฮ่ม อือ" นทีกระเอมในลำคอเบาๆแก้เขิล
"ยังไม่พอใจ" พูดจบไทม์ก็ดึงมือที่จับไว้อยู่แล้วให้ลุกขึ้นก่อนจะเดินจ้ำอ้าวให้ไปด้วยกัน
"ดะ...เดี๋ยวก่อนๆ เดี๋ยวๆ" นิ้วเท้าทั้งหมดพยายามจิกเกรงกดน้ำหนักลงไปที่พื้นเพื่อไม่ให้เดินไปตามแรงของเขา
นทีเดินตามมาติดๆก่อนจะจับมืออีกข้างของผม"เดี๋ยว นายจะพากันต์ไปไหน" เขามองหน้าไทม์อย่างไม่เข้าใจ
"เข้าห้องน้ำ" ไทม์ตอบเสียงเรียบ
"ห๊ะ นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะเว้ยที่นี่โรงเรียน" นทีคิดว่าไทม์ต้องเอากันต์ไปปู้ยี่ปู้ยำในห้องน้ำ แต่ไทม์ไม่คิดแบบนั้นเขาจะพากันต์ไปส่องกระจก
"ทำไมจะไม่ได้" ไทม์งงว่านทีกำลังพูดเรื่องอะไร
"งั้นฉันไปด้วย"
"ตามใจ" ไทม์ยักคิ้วอย่างไม่สนใจ
ผมที่กำลังงงกับสถานการณ์นี้อยู่ว่าพวกเขาทำไรกันแต่ก็ไม่กล้าสู้หน้าเลยไม่พูดอะไรแล้วเดินก้มหน้าก้มไปด้วยอย่างห้ามไม่ได้
ซุบซิบๆ ตลอดทางมาเข้าห้องน้ำผมได้ยินเสียงกระซิบกระซาบมาตลอด
"นั่นใครน่ะ"
"นั่นดิ ทำไมไปอยู่กับพี่ไทม์"
"เออ พี่นทีด้วย"
"อยู่ตรงกลางด้วย"
"สุดยอดเลยเนาะมึง โรงเรียนเรา"
คำกระซิบกระซาบพวกนั้นดังเข้ามาในโสตประสาทผมตลอดทางทำผมอึดอัด คงโดนเปรียบเทียบเพราะภาพลักษณ์จากสองคนนี้แน่ๆ
เออรู้แล้วว่าไม่หล่อไม่ต้องเทียบ อยากจะตะโกนออกไปชะมัด!!
มาถึงหน้าห้องน้ำไทม์ก็ผลักผมเข้าไปหน้ากระจกใหญ่ ทำผมหลับตาปี๋ไม่กล้าส่อง
"ลืมตา มั่นใจหน่อย" เขาสั่งเสียงดุ
"ไม่เอา" ไม่ส่องมา4ปี จู่ๆจะให้ส่องเนี่ยนะ เอาจริงๆจะให้เอาความมั่นใจมาจากไหนวะ
มือปริศนาจากด้านหลังมาตี่เปลือกตาให้เปิดขึ้น
"ฮึบ" เป็นไทม์
ปริบๆ
จนเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกบานใหญ่ของห้องน้ำในรอบ4ปีทำให้เกิดความสับสนในจิตใจขึ้นทันที 'นี่ใครวะ กูเหรอ'
ผมเอียงหน้าไปซ้าย หันหน้าไปทางขวา 'เออกูจริงๆด้วย' พอเห็นว่ารอยสิวบนใบหน้าหายไปหมดและมีใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาก็เริ่มรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นมาหน่อยนึง
"เป็นไง โอเคขึ้นยัง" ไทม์เอ่ยถามขณะที่มองการ กระทำผมไปด้วย
"อือ แต่ก็ยังไม่ชินอะ" คิดในใจกับตัวเองว่าตอนนี้หน้าเราแบบเป็นแบบนี้เองสินะ ก็ไม่ได้แย่นี่พอคิดถึงข้อนี้รอยยิ้มบนใบหน้าก็ปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัว
และไอ่ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มอ่อนของเขานี่แหละที่มีผลต่อความรู้สึกของหนุ่มๆทั้งสองโดยที่เจ้าตัวเองก็คงไม่รู้ตัว
"มั่นใจ สู้ๆ" พอเห็นว่าไทม์ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ตนคิดนทีก็รู้สึกโล่งใจและส่งแรงเชียร์ไปให้พร้อมชูสองนิ้ว
ถ้าเป็นเมื่อก่อนการกระทำแบบนี้ของนทีคงทำให้ดีใจจนแก้มปริแล้ว แต่โทษทีนะหน้าหล่อๆของนายใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอกเพราะภูมิต้านทานคนหล่อของฉันนั้นแกร่งมาก
"เห้อออ ไม่มั่นใจเลย" ผมถอนหายใจคอตก
"ทำไม ขนาดนี้แล้วยังไม่มั่นใจอีกเหรอ" ไทม์ตอบกลับ
"ก็มันไม่ชินไง หน้ามันโล่งๆอะไปซื้อแมสให้หน่อยดิ นะๆๆๆ" ผมกระพริบตาปริบๆส่งไปให้ไทม์อย่างอ้อนวอน พรีสสสได้โปรด
เขาชะงักเล็กน้อยก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วตอบกลับเสียงเข้มว่า "ไม่"
ผลับ! เสื้อคลุมถูกโยนลงบนหัวจนผมมองไม่เห็นทาง
"ถ้ายังไม่มั่นใจก็ใช้ไอ่นี่คลุมสิ" นทีถอดเสื้อนอกของตัวเองมาให้เป็นเสื้อแขนยาวดำมีซิปหน้า
"ฉันจะไม่ขอบใจนายหรอก" เพราะที่ผ่านมานายทำให้ฉันต้องโดดเดี่ยวแบบนี้ไงล่ะ แต่เหมือนนทีเองก็คงจำผมไม่ได้ด้วยซ้ำน่าขำชะมัด
"อุบ คริๆ" ผมหันไปตามเสียงหัวเราะ อะไร?ไทม์หัวเราะทำไม
"ลงทุนจังนะ" ไทม์ตบไหล่นทีเบาๆก่อนจะจูงมือผมออกจากห้องน้ำไป ปล่อยให้นทีงงกับสถานการณ์ตรงหน้าว่า เขาทำไรผิดไปหรือเปล่า
"เห้ย รอด้วยดิ" พอสมองกำลังประมวลผลรู้ตัวอีกทีก็ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวแล้ว
กลิ่นกายชายแท้หอมเย้ายวนใจออกมาจากเสื้อของคนที่ให้ยืม ผมใช้เสื้อปกปิดใบหน้าตัวเองแล้วเดินย่องๆตามหลังของไทม์โดยที่มีนทีเดินตามมาติดๆ
"สวัสดีค่ะ วันนี้มาพบกับช่อง'เมาท์ฉ่ำยำเละ'และวันนี้ฉันฟอยค่ะ"
"ส่วนดิฉันหมิวค่ะ"
เสียงดังก้องจากหญิงสาว2คน คนหนึ่งถือไมค์จิ๋วส่วนอีกคนถือโทรศัพท์ถ่ายวิดิโอกำลังคุยจ้อมาทางที่หนุ่มๆทั้ง3กำลังเดินอยู่ นั่นแหละคือเป้าหมายของพวกเธอ
แย่แล้ว!!!สองสาวแหล่งข่าวชั้นยอดในโรงเรียน พวกเธออยู่ม.6ห้อง5ที่ทำช่องเกี่ยวกับเรื่องในโรงเรียนไม่ว่าจะเรื่องไหน2สาวจะขุดคุ้ยจนถึงที่สุดไม่ว่าฝ่ายนั้นจะมีประวัติขาวสะอาดหมดจดก็ไม่พ้นมือพวกเธอทำให้มีผู้ติดตามทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียนมากกว่า50000คน
ผมสะกิดไหล่ไทม์และนทียิกๆก่อนจะกวักมือให้ทั้งคู่เอียงหูมาเพื่อฟัง "รีบเผ่น"
ทันทีที่กระซิบจบผมก็ปิดหน้าใส่เกียร์หมาไปยังชั้นเรียนทันทีปล่อยให้2คนยื่นงงกันอยู่อย่างนั้น
"วันนี้เราเจอหนุ่มๆสุดหล่อกันพอดีเลยค่ะ เดียวเราจะมาสัมภาษณ์พวกเขา ล้วงลึกล้วงจริงต้องช่องเม้าท์ฉ่ำยำเละค่ะ"
"สวัสค่ะ รู้สึกยังไงบ้างคะที่มีฉายาซาตานผู้เซ็กซี่" ฟอยล์ยื่นไมค์ไปที่ไทม์คนแรก
ไทม์ไม่ตอบแต่หันหน้าไปมองนที "B2 ได้ยินกันต์พูดเมื่อกี้ไหม"
นทีพยักหน้าตอบเหมือนจะรู้ว่าไทม์ต้องการจะสื่ออะไร "เผ่น"
ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงเท้ากึกก้องท่ามกลางสนาม 2หนุ่มพากันวิ่งสุดแรงเกิดทั้งนี้ก็ไม่เข้าใจเหตุผลแต่เพราะพึ่งเข้ามาเรียนได้ไม่นานเลยต้องเชื่อใจกันต์ไว้ก่อน
ออร่าความหล่อกระจายเกิดเป็นภาพสโลโมชั่น กลางสนามดึงดูดสายตานักเรียนโดยรอบให้หันไปมองจนสายตาเป็นประกายบางคนถึงกับกำเดาพุ่ง
"อะเฮือกก อปป้าา"
"กรี๊ดดด"
เสียงกรี๊ดร้องดังลั่นกลางสนามไม่หยุดดังมาติดๆ โชคดีที่ผมวิ่งมาก่อนไม่งั้นคงเป็นจุดสนใจแน่
แค่อยากเรียนให้จบๆทำไมมันยากจังวะะะะ!!!
พอก้าวเข้ามาในห้องก็รู้สึกได้ถึงสายตาทุกคู่ที่จ้องมองมา ดีที่เป็นชั่วโมงโฮมรูมช่วงเช้าครูเลยยังไม่เข้าผมรีบกระชับเสื้อคลุมหัวแล้วสาวเท้ายาวๆไปยังโต๊ะเรียนตัวเองก่อนที่กี้และแพรจะเข้ามาทักเป็นคนแรกๆตามด้วยคนอื่นๆจนตอนนี้เริ่มมีแต่คนล้อมหน้าล้อมหลังเต็มโต๊ะไปหมด"กันต์ เมื่อกี้ขอบคุณที่ช่วยเราไว้นะ" อีตอแหล เป็นแจมกับพิงค์ที่คิดในใจแต่แสดงออกมาทางสีหน้า"อะ..อืม ไม่เป็นไร" อะเฮือกก ขนาดเสียงยังไพเราะ กี้คิดแล้วก็ได้แต่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆก่อนจะหันไปหาแพรแล้วหรี่ตามอง"กันต์ งานภาษาไทยที่จะจัดเดือนหน้ากันต์มาช่วยเราได้ไหม" คำพูดของหัวหน้าถือเป็นคำขาด ขอให้ช่วยต้องช่วยวิชาคณิตศาสตร์วันก่อนเธอก็ช่วยสอนให้"โอเค ได้เลย" ผมเลยตอบตกลงไปแบบไม่คิดไร"กันต์ วันนี้ว่างไหมอยากชวนไปเล่นเกมส์ที่ห้อง" เป็นพอร์ชที่ถาม"เห้ย!! วันนี้มึงบอกจะไปเล่นบาสกับกูไม่ใช่" ขัดกูตลอดไอ่สัสกวินน!!! พอร์ชถลึงตาใส่เพื่อน"ได้ข่าวว่านายเล่นบาสเป็นด้วยนี่เย็นนี้มาเล่นกับเราไหม" กวินหันหน้ามาถามผมบ้าง บาสเหรอ ดีเลยไม่ได้เล่นนานแล้ว"ได้จริงๆเหรอ..." ผมตอบอ้อมแอ้มไม่แน่ใจ"ก็ชวนเนี่ย สรุปไปนะ" กวินถามยำ้"โอเค ไปๆ"ผมเลยพ
ทุกคนในห้องกำลังตกตะลึงกับภาพตรงหน้าเลยต่างพากันเงียบกริบหมดหากใครตดก็คงได้ยินแกร้ง!! เสียงปากกาของใครบางคนตกพื้นเรียกสติทุกคนให้กลับเข้าที่ป้าปๆๆๆๆ " กี้มึงไม่น่าเลย" แจมเดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนที่กำลังอึ้งรัวๆอย่างตื่นเต้น"ไม่น่าพึ่งทำวันนี้เลย น่าจะทำให้เร็วก็ว่านี้กรี๊ดดด" พิงค์เดินมาสมทบ"มะ...มึง กูว่ากูเจอเนื้อคู่แล้วหวะ" กี้ที่กำลังอ้ำอึ้งเพราะได้สบตากับกันต์ใกล้ๆจนทำให้เขาแทบหยุดหายใจตรงนั้น 'เพียงสบตาคู่นั้น ฉันก็รู้ทันใด' จู่ๆเนื้อเพลงบุพเพก็แล่นเข้ามาในหัวสมองของเธอซุบซิบๆ เพื่อนๆในห้องต่างให้ความสนใจกับเรื่องนี้เลยเปลี่ยนหัวข้อประเด็นการสนทนากันยกใหญ่"เราไม่คิดเลยว่ากันต์จะน่ารักขนาดนั้น" แพรหัวหน้าห้องที่ปกติไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้ชายเท่าไหร่มาร่วมวงกับสามสาวด้วย"แพรหยุด คนนี้ฉันจอง"กี้หรี่ตามองแพร พูดขึ้นเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของ" แล้วเรามาดูกัน " แพรหรี่ตามองกลับประมาณว่าฉันนี่แหละเจ้าของ'ปฏิบัติการศึกชิงนายเลยเริ่มต้นขึ้น'....ขนตางอลกระเพื่อมพริ้วไหวบนดวงตากลมโตชวนมองได้รินหลั่งหยดน้ำตาลงมากระทบสองข้างแก้มอมชมพู จมูกโด่งได้รูปกับใบหน้าเรียวจิ้มลิ้มที่ไม่ว่าใครเห
ผ่านมา1สัปดาห์ข่าวเรื่องไทม์เยดุก็จางไปกลบด้วยข่าวใหม่แทนการประกวดดาวเดือนประจำปีได้เริ่มขึ้น ทุกห้องต้องส่งตัวแทน1คนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันโดยจะนับตามโหลดของคนทั้งโรงเรียนภายในห้องเรียนมีเสียงซุบซิบเกิดขึ้นจาก3สาวตัวจี๊ดที่มาถึงโรงเรียนก่อนใครเพื่อน"มึงว่าช่วงนี้ไทม์กับกันต์สนิทกันแปลกๆว่าม้ะ" แจมพูดขึ้น"ก็ดูสนิท แต่แปลกไงวะ" พิงค์ถามด้วยความสงสัย"โอ้ยยไม่ได้หมายถึงแปลกแบบนั้น มึงคิดดูนะถ้าสนิทแสดงว่าไทม์ต้องได้เห็นหน้าของกันต์แล้วป่าววะ" "เออ แล้วไงต่อ" กี้เอ่ยด้วยความสงสัยในคำพูดเพื่อน"พวกมึงไม่อยากเห็นหรือไงวะ ปีนี้ก็เข้าม.6แล้วป่าว จะ3ปีแล้วกูยังไม่เคยเห็นน่ากันต์เลย" แจมพูดขึ้น"เออจริงของมึง" กี้พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยและคิดในใจว่าเป็นคำพูดที่มีเหตุผล"กูก็อยากเห็นเหมือนกันมันจะเป็นอะไรนักหนาไอวัณโรคที่ว่า ถ้าติดพวกเราก็แม่งติดตั้งแต่ปีแรกแล้วมั้ง" พิงค์เริ่มจุดไฟฉนวนความอยากรู้ขึ้นมาให้ปะทุมากยิ่งขึ้น ทำให้แจมเริ่มฉุกคิดแผนการขึ้นมา"งั้นเอางี้ม่ะ กูจะเนียนๆไปสะดุดล้มแล้วกระชากหน้ากากออก เวิร์คไหมมึงว่า" และนี่คือแผนการของเขา"การละครมึงแย่ ให้อีกี้ทำ" แต่ถูกพิงค์ปฏิเส
หลังเลิกเรียนวันนี้ผมกลับบ้านมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเที่ยวกับไทม์ตามที่เราตกลงกันไว้วันนี้เป็นครั้งแรกในรอบ4ปีเลยก็ว่าได้ที่ออกไปเที่ยวแบบเที่ยวจริงๆกับเพื่อนเสื้อยืดขาวสวมทับด้วยฮู้ดดำกับกางเกงยีนส์ขาเดฟตามด้วยหน้ากากอนามัย พร้อมมมบรื้นน บรื้นน เสียงรถคุ้นหูได้ยินมาแต่ไกลก่อนจะจอด เอี้ยด! ตรงหน้าโหหห สายตาจดจ้องไปยังด้านหน้าในตาผมเปร่งประกายประยิบระยับ ไทม์ มาในชุดเสื้อยืดขาวที่เห็นกล้ามแน่นเปรี๊ยะที่ใครเห็นก็เป็นต้องใจสั่นเสื้อตัวนอกสวมแจ็คเกตหนังดำแขนยาว กางเกงลูกฟูกขายาวสีดำถึงจะไม่เห็นหน้าเพราะใส่หมวกกันน็อคแต่แค่นี้ก็พอทำให้หัวใจสาวๆอ่อนระทวยลงแล้ว"ง้อววว..." หล่อเท่ซะไม่มี อยากตะโกนดังๆว่า 'นี่เพื่อนผมเองคร้าบ'"อะไร?""นายหล่อโครตอ่ะ แบบโครตพ่อโครตแม่""จะไปไหม ขึ้นรถหมวกกันน็อคมีด้านหลัง" แต่เขาก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิม 'หนุ่มหล่อผู้เฉยชา' เหมือนเดิมจนผมถอนหายใจแล้วเดินไปหยิบหมวกกันน็อคด้านหลังนั่งซ้อนท้ายพร้อมกับตะโกนว่า " เลสโก้!! "บรรยากาศในยามค่ำคืนชวนให้รู้สึกดีสองข้างทางเต็มไปด้วยแสงไฟเหลืองนวลและตึกสูงตระหง่านตาที่มีรถวิ่งสัญจรไปมาเป็นว่าเล่น สายลมเย็นทำให้ผมเปิดหมวก
เปลือกตานวลค่อยๆปิดลงกับหัวใจที่เต้นระส่ำระสายมือไม้สั่นเทา2เท้ากระดิกรัวอย่างตื่นเต้นจนวัตถุสี่เหลี่ยมขนาด30ซม.ที่หยิบไว้เกือบตกผมหลับตาปี๋ไม่กล้าส่องกระจกถึงจะบอกว่าตาสวยก็เถอะแต่คำว่า หัดดูหนังหน้าตัวเองซะบ้างมันฝังลึกในหัวสมองเมื่อวานผมสัญญากับไทม์ว่าจะใส่คอนแทคเลนส์ไปโรงเรียนแทนแว่นตาเพราะงั้นวันนี้ต้องทำให้ได้ฮึบๆสู้สิวะไอ่กันต์เปลือกตาที่กระเพื่อมสั่นไหวค่อยๆหรี่ขึ้นอย่างลังเลในมือถือกระจกชูขึ้นเตรียมพร้อม 1...2....3พรึ่บ!! ปริบๆ ผมมองตาตัวเองในกระจกอย่างตกตะลึงเห้ยย!!บร๊ะเจ้า นี่มันสุดยอดของศิลปะความงามที่หาได้ยากแต่ก็ต้องใจแป้วทว่าไม่มีความกล้าพอที่จะส่องตัวเองทั้งหน้า หน้ากากอนามัยยังคงถูกสวมดั่งเช่นทุกวันวัตถุกลมใสอยู่บนนิ้วชี้ก่อนค่อยๆเคลื่อนตัวอย่างระมัดระวังไปยังดวงตาที่เบิกกว้างจนลูกตาแทบถลนออกจากเบ้าตา"แม่งง ใส่ยากจังวะ" ผมสบถพึมพำคนเดียวขณะแหกตาใส่คอนแทคเลนส์ในห้องนำ้ ด้านหน้าเป็นกระจกซื้อมาใหม่ขนาด30ซม.แขวนไว้ผมพยายามแล้วพยายามอีกอยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะได้1ข้างก็เล่นเอาน้ำตาคลอเบ้าจนตาแดงหมด เลยพักอีกข้างไว้เพราะปวดทั้งแขนปวดทั้งตาพอมาดูเวลาอีกทีก็เกือบจะ7โมงเ
วันนี้ผมบอกให้ไทม์มารับเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่โรงเรียนย้อนกลับไปช่วงแรกที่ผมเข้าเรียนผมปิดแมสและสวมแว่นเป็นปกติ วันแรกทุกคนไม่เอะใจอะไรก็เข้าใจว่าผมไม่สบายและชวนผมคุยปกติพอนานวันเข้าหลายคนเริ่มเอะใจว่าทำไมผมไม่ยอมถอดแมสและสำคัญคือไม่ยอมไปกินข้าวด้วย เสียงซุบซิบนินทาต่างๆเริ่มหนาหูมากขึ้นๆว่าผมเป็นไอ่คนมืดมน อมทุกข์ หยิ่งหรือแม้กระทั่งบางคนถึงกับบอกว่าผมอัปลักษณ์ ในห้องเลยแบ่งออกเป็น2ฝ่ายคือเชื่อและไม่เชื่อ คนที่ไม่เชื่อก็พยายามจะเข้ามาเพื่อตีซี้แต่ผมเองที่ปิดกลั้นจนสุดท้ายเลยหาข้ออ้างว่าตัวเองเป็นวัณโรค วันต่อมาเสียงซุบซิบนินมาไม่ได้มีแค่ในห้องแต่กระจายไปทั่วโรงเรียน ทุกคนเลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ กันต์ม.6ห้อง3 ผมเลยมีฉายาไอ่กันต์วัณโรคตั้งแต่นั้นมา ผมรู้สึกแย่ในวันแรกแต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่เจอมาถือว่าจิ๊บๆดีเสียอีกที่ไม่มีใครอยากเห็นหน้าตาไม่น่ามองนี้ เผลอๆถ้าถอดแมสออกอาจจะโดนหนักกว่าเดิมเหมือนที่ผ่านมาก็ได้ผมเลยคิดว่าดีแล้วที่เป็นแบบนั้นเพราะงั้นผมถึงกลัวว่าวันนี้ไทม์จะโดนอะไรที่ เหมือนๆกันแล้วต้องรู้สึกแย่หรือเปล่าบรื้นน บรื้นนน บิ๊กไบค์คันใหญ่ขับซิ่งมาแต่ไกลก่อนจะมาจอดตรงหน้า







