LOGINพอก้าวเข้ามาในห้องก็รู้สึกได้ถึงสายตาทุกคู่ที่จ้องมองมา ดีที่เป็นชั่วโมงโฮมรูมช่วงเช้าครูเลยยังไม่เข้า
ผมรีบกระชับเสื้อคลุมหัวแล้วสาวเท้ายาวๆไปยังโต๊ะเรียนตัวเองก่อนที่กี้และแพรจะเข้ามาทักเป็นคนแรกๆตามด้วยคนอื่นๆจนตอนนี้เริ่มมีแต่คนล้อมหน้าล้อมหลังเต็มโต๊ะไปหมด
"กันต์ เมื่อกี้ขอบคุณที่ช่วยเราไว้นะ" อีตอแหล เป็นแจมกับพิงค์ที่คิดในใจแต่แสดงออกมาทางสีหน้า
"อะ..อืม ไม่เป็นไร"
อะเฮือกก ขนาดเสียงยังไพเราะ กี้คิดแล้วก็ได้แต่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆก่อนจะหันไปหาแพรแล้วหรี่ตามอง
"กันต์ งานภาษาไทยที่จะจัดเดือนหน้ากันต์มาช่วยเราได้ไหม" คำพูดของหัวหน้าถือเป็นคำขาด ขอให้ช่วยต้องช่วยวิชาคณิตศาสตร์วันก่อนเธอก็ช่วยสอนให้
"โอเค ได้เลย" ผมเลยตอบตกลงไปแบบไม่คิดไร
"กันต์ วันนี้ว่างไหมอยากชวนไปเล่นเกมส์ที่ห้อง" เป็นพอร์ชที่ถาม
"เห้ย!! วันนี้มึงบอกจะไปเล่นบาสกับกูไม่ใช่" ขัดกูตลอดไอ่สัสกวินน!!! พอร์ชถลึงตาใส่เพื่อน
"ได้ข่าวว่านายเล่นบาสเป็นด้วยนี่เย็นนี้มาเล่นกับเราไหม" กวินหันหน้ามาถามผมบ้าง บาสเหรอ ดีเลยไม่ได้เล่นนานแล้ว
"ได้จริงๆเหรอ..." ผมตอบอ้อมแอ้มไม่แน่ใจ
"ก็ชวนเนี่ย สรุปไปนะ" กวินถามยำ้
"โอเค ไปๆ"ผมเลยพยักหน้าหยึดหยักตอบตกลง
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าคนวิ่งดังตึกตักใกล้เข้ามาในห้อง
"แหกๆๆๆ"
"แหกๆๆๆ"
เป็น2หนุ่ม ไทม์และนทีกำลังเหนื่อยหอบอยู่หน้าห้องเผยเป็นภาพใบหน้าเทพเจ้าเรืองแสงหยาดเหงื่อเปียกโชกจากใบหน้าไหลลงสู่ลำคอและลูกกระเดือกที่กำลังเคลื่อนไหวจากการกลืนน้ำลาย กำลังอ้าปากกอบโกยอากาศเข้าปอดด้วยความเหนื่อยและมือที่กำลังเสยผมที่เปียกโชกอยู่ นี่มันจังหวะตกหลุมรักชัดๆ อะเฮือกกก เพื่อนๆกำเดาพุ่งกันเป็นแถวๆ
เว้นผมคนหนึ่ง พอเห็นผมปุ้บพวกนั้นก็ก้าวเท้าฉับๆเข้ามา
ไทม์ดึงเสื้อที่ผมคลุมหัวอยู่ออกก่อนโยนคืนไปให้นที นทียื่นมือมารับไว้
"โทษฐานที่ไม่รอ"
หึ่ยยย!!! หงุดหงิดมีสิทอะไรทำงี้วะ.....แต่ทำไรไม่ได้เพราะมันเรื่องจริง
เมื่อผ้าคลุมเปิดออกก็เผยให้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มขาวอมชมพูชวนมองจนต้องหยุดหายใจกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ สายตาที่ม้องค้อนเหมือนดั่งลูกแมวที่กำลังขู่ฝ่อๆแต่ปากไม่พูดอะไรเอาแต่ขบเม้มอย่างเจ็บใจ
"อึก....ขะ...ขอเบอร์หน่อยสิเผื่อมีไรจะได้ติดต่อไป" โทรศัพท์ในมือถูกยื่นมาตรงหน้าผม กี้อมยิ้มก่อนจะพูดจาติดๆขัดๆ
"อ๋อ อือได้ๆ" ผมยื่นมือไปรับก่อนกดเบอร์ตัวเองให้
หลังจากได้เบอร์กันต์แล้วกี้ก็หรี่ตามองแพรก่อนจะทำหน้าเยาะเย้ย 'ฉันชนะ'
แพรเห็นก็หัวร้อนขึ้นมา ชิ
ไม่มีหน้ากากอนามัยสวมทับอยู่ไม่มีแว่นตาหนาเตอะที่ใส่ประจำใบหน้าโล่งจนหายใจสะดวก ถึงจะรู้สึกไม่ชินแต่ก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
"เราด้วย" นทีที่ปกติไม่เคยจะขอเบอร์หรือช่องทางติดต่อจากใครก่อนเพราะปกติจะเป็นคนโดนขอตลอดกลับยื่นมือถือตัวเองมาต่อหน้าผม อะไร จะเอาไปทำไม? ฉันคือคนที่นายไม่อยากคบค้าสมาคมด้วยและนายเองก็ทำตัวเย็นชาใส่มาตลอดคนนั้นไงไม่รู้เหรอ สงสัยคงจะจำไม่ได้จริงๆ ก็นะตอนนั้นรูปร่างหน้าตาขนาดนั้นเขาก็คงจะไม่สนใจหรอก
หึ งั้นก็จงไม่รู้ต่อไปฉันจะทำให้นายได้รู้รสชาติของความเมินเฉยที่ฉันเคยเจอเอง นที
"โอเค" ผมรับโทรศัพท์มากดเบอร์ติดต่อก่อนจะยื่นให้คืน
ภายในห้องของวันนี้ตลับอบอวลไปด้วยความอบอุ่นที่ส่งมอบให้ช่างน่าสมเพชกับความจริงที่ว่าเพียงเพราะหน้าตาเปลี่ยนไปก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย
.
.
.
.
ซุบซิบๆ
"มึงๆ นั่นใครวะเด็กใหม่เหรอ"
"ไม่ใช่ๆ มึงยังไม่ได้ดูเพจ'หนุ่มสุดฮอต'ของโรงเรียนใช่ไหม"
"มันทำไม"
"ก็พี่กันต์กลายเป็นหนุ่มฮอตไปแล้วไปดูในเพจดิ"
"กันต์ กันต์ไหนวะแม่งมีกันต์เป็นร้อยป้ะ"
"โอ้ยยยถ้ากันต์อื่นกระแสคงไม่ขนาดนี้หรอกก็เห็นหน้าค่าตากันหมดแล้ว มีอยู่กันต์เดียว"
"หืมหรือว่า.....กันต์วัณโรค"
"เอออ ถูก"
"ไหนๆๆๆ ขอดูรูปหน่อยต่อมเผือกทำงานไม่ไหว"
"นี่ๆๆๆ" ยุกยิกๆ จับโทรศัพท์ให้เพื่อนดู
บทสนทนาตื่นเต้นของสองสาวที่สหกรณ์โรงเรียนในช่วงพักเที่ยงกำลังเจี๊ยวจ๊าวตื่นตาตื่นใจกันใหญ่กับข่าวใหม่ที่แพร่กระจายไปทั่วโรงเรียนในเวลาไม่ถึง1ชั่วโมง
.
.
.
แชะ แชะ เสียงกดชัตเตอร์ที่ไม่รู้ว่ามาจากมุมไหนของโรงอาหารดังขึ้น สายตาหลายคู่กำลังจ้องมองมาที่พวกเรา บางคนแอบถ่ายจากโต๊ะกินข้าว บางคนแกล้งเซลฟี่ตัวเอง ความสนใจกำลังมุ่งไปที่3'หนุ่มสุดฮอต'
ผมที่กำลังเดินซื้อของในร้านค้าเวลาปกติของทุกวันกับไทม์แต่วันนี้มี นที พ่วงมาด้วยเราเลยมาด้วยกันแต่วันนี้กลับรู้สึกได้ว่าบรรยากาศแปลกไป
"นี่...พวกนายกินข้าวกันเองเลยนะ"
"อ้าว ไมอ่ะกินด้วยกันดิอร่อยออก" นทีทำหน้าแปลกใจกับคำพูดที่ผมเอ่ยขึ้น
"ฉันจะกินกับนาย" ไทม์ปฏิเสธเสียงแข็งทั้งยังลากจูงมือผมให้เดินตามไปด้วยอีก
นทีเห็นไทม์จูงมือกันต์ตัวเองก็เลยจูงด้วยมันเลยกลายคนความอึดอัดของคนตรงกลาง เห้อออ!!!
ผมสะบัดแขนออกจากพวกนี้ก่อนจะบอกว่า"เออๆรู้แล้วๆเพราะงั้นไม่ต้องจับมือก็ได้ครับ กูเดินของกูเองได้ " อย่างหัวเสียแล้วเนียนๆเดินให้ห่างจากพวกเขาที่สุดเพราะไม่อยากเป็นที่สนใจของใคร
กูแค่อยากกินข้าวเงียบๆคนเดียวโว้ยยย!!
พอก้าวเข้ามาในห้องก็รู้สึกได้ถึงสายตาทุกคู่ที่จ้องมองมา ดีที่เป็นชั่วโมงโฮมรูมช่วงเช้าครูเลยยังไม่เข้าผมรีบกระชับเสื้อคลุมหัวแล้วสาวเท้ายาวๆไปยังโต๊ะเรียนตัวเองก่อนที่กี้และแพรจะเข้ามาทักเป็นคนแรกๆตามด้วยคนอื่นๆจนตอนนี้เริ่มมีแต่คนล้อมหน้าล้อมหลังเต็มโต๊ะไปหมด"กันต์ เมื่อกี้ขอบคุณที่ช่วยเราไว้นะ" อีตอแหล เป็นแจมกับพิงค์ที่คิดในใจแต่แสดงออกมาทางสีหน้า"อะ..อืม ไม่เป็นไร" อะเฮือกก ขนาดเสียงยังไพเราะ กี้คิดแล้วก็ได้แต่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆก่อนจะหันไปหาแพรแล้วหรี่ตามอง"กันต์ งานภาษาไทยที่จะจัดเดือนหน้ากันต์มาช่วยเราได้ไหม" คำพูดของหัวหน้าถือเป็นคำขาด ขอให้ช่วยต้องช่วยวิชาคณิตศาสตร์วันก่อนเธอก็ช่วยสอนให้"โอเค ได้เลย" ผมเลยตอบตกลงไปแบบไม่คิดไร"กันต์ วันนี้ว่างไหมอยากชวนไปเล่นเกมส์ที่ห้อง" เป็นพอร์ชที่ถาม"เห้ย!! วันนี้มึงบอกจะไปเล่นบาสกับกูไม่ใช่" ขัดกูตลอดไอ่สัสกวินน!!! พอร์ชถลึงตาใส่เพื่อน"ได้ข่าวว่านายเล่นบาสเป็นด้วยนี่เย็นนี้มาเล่นกับเราไหม" กวินหันหน้ามาถามผมบ้าง บาสเหรอ ดีเลยไม่ได้เล่นนานแล้ว"ได้จริงๆเหรอ..." ผมตอบอ้อมแอ้มไม่แน่ใจ"ก็ชวนเนี่ย สรุปไปนะ" กวินถามยำ้"โอเค ไปๆ"ผมเลยพ
ทุกคนในห้องกำลังตกตะลึงกับภาพตรงหน้าเลยต่างพากันเงียบกริบหมดหากใครตดก็คงได้ยินแกร้ง!! เสียงปากกาของใครบางคนตกพื้นเรียกสติทุกคนให้กลับเข้าที่ป้าปๆๆๆๆ " กี้มึงไม่น่าเลย" แจมเดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนที่กำลังอึ้งรัวๆอย่างตื่นเต้น"ไม่น่าพึ่งทำวันนี้เลย น่าจะทำให้เร็วก็ว่านี้กรี๊ดดด" พิงค์เดินมาสมทบ"มะ...มึง กูว่ากูเจอเนื้อคู่แล้วหวะ" กี้ที่กำลังอ้ำอึ้งเพราะได้สบตากับกันต์ใกล้ๆจนทำให้เขาแทบหยุดหายใจตรงนั้น 'เพียงสบตาคู่นั้น ฉันก็รู้ทันใด' จู่ๆเนื้อเพลงบุพเพก็แล่นเข้ามาในหัวสมองของเธอซุบซิบๆ เพื่อนๆในห้องต่างให้ความสนใจกับเรื่องนี้เลยเปลี่ยนหัวข้อประเด็นการสนทนากันยกใหญ่"เราไม่คิดเลยว่ากันต์จะน่ารักขนาดนั้น" แพรหัวหน้าห้องที่ปกติไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้ชายเท่าไหร่มาร่วมวงกับสามสาวด้วย"แพรหยุด คนนี้ฉันจอง"กี้หรี่ตามองแพร พูดขึ้นเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของ" แล้วเรามาดูกัน " แพรหรี่ตามองกลับประมาณว่าฉันนี่แหละเจ้าของ'ปฏิบัติการศึกชิงนายเลยเริ่มต้นขึ้น'....ขนตางอลกระเพื่อมพริ้วไหวบนดวงตากลมโตชวนมองได้รินหลั่งหยดน้ำตาลงมากระทบสองข้างแก้มอมชมพู จมูกโด่งได้รูปกับใบหน้าเรียวจิ้มลิ้มที่ไม่ว่าใครเห
ผ่านมา1สัปดาห์ข่าวเรื่องไทม์เยดุก็จางไปกลบด้วยข่าวใหม่แทนการประกวดดาวเดือนประจำปีได้เริ่มขึ้น ทุกห้องต้องส่งตัวแทน1คนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันโดยจะนับตามโหลดของคนทั้งโรงเรียนภายในห้องเรียนมีเสียงซุบซิบเกิดขึ้นจาก3สาวตัวจี๊ดที่มาถึงโรงเรียนก่อนใครเพื่อน"มึงว่าช่วงนี้ไทม์กับกันต์สนิทกันแปลกๆว่าม้ะ" แจมพูดขึ้น"ก็ดูสนิท แต่แปลกไงวะ" พิงค์ถามด้วยความสงสัย"โอ้ยยไม่ได้หมายถึงแปลกแบบนั้น มึงคิดดูนะถ้าสนิทแสดงว่าไทม์ต้องได้เห็นหน้าของกันต์แล้วป่าววะ" "เออ แล้วไงต่อ" กี้เอ่ยด้วยความสงสัยในคำพูดเพื่อน"พวกมึงไม่อยากเห็นหรือไงวะ ปีนี้ก็เข้าม.6แล้วป่าว จะ3ปีแล้วกูยังไม่เคยเห็นน่ากันต์เลย" แจมพูดขึ้น"เออจริงของมึง" กี้พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยและคิดในใจว่าเป็นคำพูดที่มีเหตุผล"กูก็อยากเห็นเหมือนกันมันจะเป็นอะไรนักหนาไอวัณโรคที่ว่า ถ้าติดพวกเราก็แม่งติดตั้งแต่ปีแรกแล้วมั้ง" พิงค์เริ่มจุดไฟฉนวนความอยากรู้ขึ้นมาให้ปะทุมากยิ่งขึ้น ทำให้แจมเริ่มฉุกคิดแผนการขึ้นมา"งั้นเอางี้ม่ะ กูจะเนียนๆไปสะดุดล้มแล้วกระชากหน้ากากออก เวิร์คไหมมึงว่า" และนี่คือแผนการของเขา"การละครมึงแย่ ให้อีกี้ทำ" แต่ถูกพิงค์ปฏิเส
หลังเลิกเรียนวันนี้ผมกลับบ้านมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเที่ยวกับไทม์ตามที่เราตกลงกันไว้วันนี้เป็นครั้งแรกในรอบ4ปีเลยก็ว่าได้ที่ออกไปเที่ยวแบบเที่ยวจริงๆกับเพื่อนเสื้อยืดขาวสวมทับด้วยฮู้ดดำกับกางเกงยีนส์ขาเดฟตามด้วยหน้ากากอนามัย พร้อมมมบรื้นน บรื้นน เสียงรถคุ้นหูได้ยินมาแต่ไกลก่อนจะจอด เอี้ยด! ตรงหน้าโหหห สายตาจดจ้องไปยังด้านหน้าในตาผมเปร่งประกายประยิบระยับ ไทม์ มาในชุดเสื้อยืดขาวที่เห็นกล้ามแน่นเปรี๊ยะที่ใครเห็นก็เป็นต้องใจสั่นเสื้อตัวนอกสวมแจ็คเกตหนังดำแขนยาว กางเกงลูกฟูกขายาวสีดำถึงจะไม่เห็นหน้าเพราะใส่หมวกกันน็อคแต่แค่นี้ก็พอทำให้หัวใจสาวๆอ่อนระทวยลงแล้ว"ง้อววว..." หล่อเท่ซะไม่มี อยากตะโกนดังๆว่า 'นี่เพื่อนผมเองคร้าบ'"อะไร?""นายหล่อโครตอ่ะ แบบโครตพ่อโครตแม่""จะไปไหม ขึ้นรถหมวกกันน็อคมีด้านหลัง" แต่เขาก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิม 'หนุ่มหล่อผู้เฉยชา' เหมือนเดิมจนผมถอนหายใจแล้วเดินไปหยิบหมวกกันน็อคด้านหลังนั่งซ้อนท้ายพร้อมกับตะโกนว่า " เลสโก้!! "บรรยากาศในยามค่ำคืนชวนให้รู้สึกดีสองข้างทางเต็มไปด้วยแสงไฟเหลืองนวลและตึกสูงตระหง่านตาที่มีรถวิ่งสัญจรไปมาเป็นว่าเล่น สายลมเย็นทำให้ผมเปิดหมวก
เปลือกตานวลค่อยๆปิดลงกับหัวใจที่เต้นระส่ำระสายมือไม้สั่นเทา2เท้ากระดิกรัวอย่างตื่นเต้นจนวัตถุสี่เหลี่ยมขนาด30ซม.ที่หยิบไว้เกือบตกผมหลับตาปี๋ไม่กล้าส่องกระจกถึงจะบอกว่าตาสวยก็เถอะแต่คำว่า หัดดูหนังหน้าตัวเองซะบ้างมันฝังลึกในหัวสมองเมื่อวานผมสัญญากับไทม์ว่าจะใส่คอนแทคเลนส์ไปโรงเรียนแทนแว่นตาเพราะงั้นวันนี้ต้องทำให้ได้ฮึบๆสู้สิวะไอ่กันต์เปลือกตาที่กระเพื่อมสั่นไหวค่อยๆหรี่ขึ้นอย่างลังเลในมือถือกระจกชูขึ้นเตรียมพร้อม 1...2....3พรึ่บ!! ปริบๆ ผมมองตาตัวเองในกระจกอย่างตกตะลึงเห้ยย!!บร๊ะเจ้า นี่มันสุดยอดของศิลปะความงามที่หาได้ยากแต่ก็ต้องใจแป้วทว่าไม่มีความกล้าพอที่จะส่องตัวเองทั้งหน้า หน้ากากอนามัยยังคงถูกสวมดั่งเช่นทุกวันวัตถุกลมใสอยู่บนนิ้วชี้ก่อนค่อยๆเคลื่อนตัวอย่างระมัดระวังไปยังดวงตาที่เบิกกว้างจนลูกตาแทบถลนออกจากเบ้าตา"แม่งง ใส่ยากจังวะ" ผมสบถพึมพำคนเดียวขณะแหกตาใส่คอนแทคเลนส์ในห้องนำ้ ด้านหน้าเป็นกระจกซื้อมาใหม่ขนาด30ซม.แขวนไว้ผมพยายามแล้วพยายามอีกอยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะได้1ข้างก็เล่นเอาน้ำตาคลอเบ้าจนตาแดงหมด เลยพักอีกข้างไว้เพราะปวดทั้งแขนปวดทั้งตาพอมาดูเวลาอีกทีก็เกือบจะ7โมงเ
วันนี้ผมบอกให้ไทม์มารับเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่โรงเรียนย้อนกลับไปช่วงแรกที่ผมเข้าเรียนผมปิดแมสและสวมแว่นเป็นปกติ วันแรกทุกคนไม่เอะใจอะไรก็เข้าใจว่าผมไม่สบายและชวนผมคุยปกติพอนานวันเข้าหลายคนเริ่มเอะใจว่าทำไมผมไม่ยอมถอดแมสและสำคัญคือไม่ยอมไปกินข้าวด้วย เสียงซุบซิบนินทาต่างๆเริ่มหนาหูมากขึ้นๆว่าผมเป็นไอ่คนมืดมน อมทุกข์ หยิ่งหรือแม้กระทั่งบางคนถึงกับบอกว่าผมอัปลักษณ์ ในห้องเลยแบ่งออกเป็น2ฝ่ายคือเชื่อและไม่เชื่อ คนที่ไม่เชื่อก็พยายามจะเข้ามาเพื่อตีซี้แต่ผมเองที่ปิดกลั้นจนสุดท้ายเลยหาข้ออ้างว่าตัวเองเป็นวัณโรค วันต่อมาเสียงซุบซิบนินมาไม่ได้มีแค่ในห้องแต่กระจายไปทั่วโรงเรียน ทุกคนเลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ กันต์ม.6ห้อง3 ผมเลยมีฉายาไอ่กันต์วัณโรคตั้งแต่นั้นมา ผมรู้สึกแย่ในวันแรกแต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่เจอมาถือว่าจิ๊บๆดีเสียอีกที่ไม่มีใครอยากเห็นหน้าตาไม่น่ามองนี้ เผลอๆถ้าถอดแมสออกอาจจะโดนหนักกว่าเดิมเหมือนที่ผ่านมาก็ได้ผมเลยคิดว่าดีแล้วที่เป็นแบบนั้นเพราะงั้นผมถึงกลัวว่าวันนี้ไทม์จะโดนอะไรที่ เหมือนๆกันแล้วต้องรู้สึกแย่หรือเปล่าบรื้นน บรื้นนน บิ๊กไบค์คันใหญ่ขับซิ่งมาแต่ไกลก่อนจะมาจอดตรงหน้า







