ร่องนุ่มอุ่นส่งแรงกระตุกตอดนิ้วสาวถี่ยิบ มาพร้อมกับปากอวบอิ่มที่ส่งเสียงกรีดร้องครวญครางไม่ได้ศัพท์จนดังกึกก้องลั่นห้องทำงาน โดยที่มีน้ำหวานเหนียวใสต่างทยอยพวยพุ่งออกมาไม่หยุดจนเปรอะเปื้อนเต็มอุ้งมือเป็นดั่งสัญญาณว่าเจ้าของร่องสวาทได้เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการแล้ว
“แฮ่กๆๆ เฮือก ~~”
ลมหายใจถูกปล่อยออกมาพร้อมกับร่างที่ค่อย ๆ คลายอาการกระตุกเกร็ง และถึงแม้ว่าตัวฉันเองจะเคยดูหนังผู้ใหญ่มาบ้างก็ตาม แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้จัดการมอบความสุขให้กับตัวเอง นั่นจึงทำให้ฉันเองยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมถึงใจกล้าที่จะเอานิ้วแทรกแหวกกายเข้าไปหาความสำราญในถ้ำหรรษาอย่างไม่เคยทำมาก่อนแบบนี้
“นี่เราทำอะไรลงไปเนี่ย...ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ยัยมนตราเอ๊ย...!!”
ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ทั้งที่ตายังหลับพริ้มอยู่ เพราะนับตั้งแต่ได้ปลดปล่อยสารแห่งความสุขออกไปแล้ว สติที่เหมือนจะหายไปก็ได้กลับคืนมาจนทำให้ฉันสำเหนียกได้ว่าไอ้สิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปเมื่อครู่นี้ถือเป็นความผิดอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะถึงแม้ว่ากฎของบริษัทจะไม่ได้มีระบุไว้ว่าห้ามทำเรื่องแบบนี้ แต่ด้วยจิตใต้สำนึกแล้วเราก็ควรจะคิดเองได้ว่าสิ่งนี้มันไม่สมควรทำ...!!
แต่ถึงกระนั้นด้วยพฤติกรรมที่เกินเลยอย่างไม่อาจหักห้ามใจเอาไว้ได้ นอกจากความรู้สึกสำนึกผิดที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ข้างในก็กลับบังเกิดความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งขึ้นมาอย่างไม่น่าให้อภัย...เพราะมันดันเป็นความรู้สึกต้องการที่มากขึ้น อีกทั้งร่างกายกลับดันชอบที่ตัวเองได้รับการปลดปล่อยออกมาแบบนั้น...ซึ่งมันช่างอันตรายเหลือเกินเพราะฉันได้สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก...
ร่างบางยังคงเอนตัวทิ้งร่างพิงเก้าอี้ประจำตำแหน่งเลขาด้วยท่าทางอ่อยอิง เพราะยังรู้สึกอิ่มเอมกับความสุขที่ตัวเองเพิ่งได้ค้นพบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าแค่การเข้ามาสูดกลิ่นและสัมผัสกับสิ่งของของผู้ชายที่ฉันแอบมีใจให้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ร่างกายของฉันได้ผ่อนคลายพร้อมที่จะสู้กลับงานในวันใหม่ แต่ทว่า...หลังจากได้รู้วิธีการปลดปล่อยสารแห่งความสุขออกไปเมื่อครู่นี้แล้วกลับมีความรู้สึกบางอย่างปะทุขึ้นมาแทน
นั่นก็เพราะว่าด้วยเรือนร่างที่เพิ่งผ่านความเร่าร้อนเป็นครั้งแรกเมื่อครู่กลับเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ถูกจุดติดแล้วซึ่งประกายไฟปรารถนาที่มาพร้อมกับเสียงร้องดังกึกก้องอยู่ภายในใจว่า...การช่วยเหลือตัวเองเมื่อสักครู่นี้ มันยังไม่พอสำหรับความต้องการของเจ้าของร่องอุ่นเลยแม้แต่น้อย...!!
ความคิดที่สวนทางกับสิ่งที่ตั้งมั่นเอาไว้เกิดขึ้นในขณะที่เปลือกตายังคงปิดเพื่อพักผ่อน พร้อมกันกับที่ร่างบางกำลังทิ้งกายพักหอบหายใจอยู่บนเก้าอี้ทำงานขนาดใหญ่อยู่นั้น...
...สิ่งที่ฉันไม่ทันได้คาดฝันก็พลันเกิดขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เองที่เป็นเสมือนชนวนให้ฉันต้องมาชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป...ดั่งคำที่เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า...เวรกรรมมันมักจะตามมาเร็วเสมอจริง ๆ ...
“โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณมนต์ได้”
สิ้นเสียงทุ้มมีเสน่ห์ที่ฉันคุ้นเคยเพราะได้ยินอยู่ทุกวัน ทำให้ดวงตาที่หลับพริ้มอยู่นั้นถึงกับเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ
(O_O)
“…ท่านประธาน!!!!...”
(กรี๊ดดดดด~~ เจ้าพ่อเจ้าแม่ช่วยลูกช้างด้วย คุณวาคิมตัวเป็น ๆ มายืนอยู่ตรงหน้าฉันตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย แล้วเวลานี้มันใช่เวลาที่เขาจะมาปรากฏตัวซะที่ไหน...) (O///O) ใบหน้าสาวแดงแปร๊ดขึ้นมาด้วยความอับอาย ก่อนที่ตัวเองจะรีบกุลีกุจอจัดท่านั่งให้อยู่ในท่าปกติ พร้อมกับเอากระโปรงที่ร่นขึ้นมาอยู่ที่เอวให้กลับลงไปอยู่ตามเดิม
“อะ อะ เอ่อ...เออ” ฉันก้มหน้างุดพูดจาอึดอัดออกมาไม่เป็นคำเพราะด้วยไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี
“ว่าไงครับ อยากลองโดนของจริงดูไหมล่ะ หืมมมมม~~” คนตัวโตเอ่ยถามย้ำพร้อมกับโน้มตัวเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น จนฉันออกอาการลนลานทำอะไรไม่ถูก
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ ขะ...ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันที่ไม่รู้จะทำตัวยังไง ได้แต่พูดตะกุกตะกัก ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นยืนเพื่อเดินหนีเขาออกไป
แต่ในขณะที่ร่างบางยังไม่ทันได้ก้าวเท้าพ้นออกไปจากคนตัวโต ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง วงแขนแกร่งก็ได้ยกอ้ากว้างขึ้นเพื่อกักขังไม่ให้ร่างนุ่มนิ่มที่กำลังตื่นตระหนกออกไปไหนได้ และนั่นจึงทำให้หญิงสาวได้แต่ติดอยู่ในกรงขังของอ้อมแขนที่ตอนนี้กำลังเท้ายันกับกำแพงอยู่
“ทะ...ท่านประธานค่ะ มะ...มนต์ขอทางด้วยค่ะ” ฉันก้มหน้างุดเอ่ยปากอ้ำอึ้งบอกคนตรงหน้าออกไปโดยที่ตัวเองไม่กล้าเงยหน้ามองเขาแม้แต่น้อย
ช่างต่างกับคนตัวโตที่ตอนนี้ดูเขาเหมือนจะพอใจกับท่าทีอันตื่นตระหนกของเหยื่อในกรงเล็บของตัวเองเสียมากกว่า จนถึงขนาดที่เผลอแสยะยิ้มร้ายยกขึ้นมุมปาก พร้อมกับใช้สายตาคมกริบค่อย ๆ ลากไล้มองไปตามกรอบหน้าเนียนใสที่เขาเองก็ไม่เคยได้พินิจพิจารณาใกล้ ๆ แบบนี้มาก่อน จนตัวเองยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าภายใต้ใบหน้าเฉิ่มเชยดูไร้ความรู้สึกอยู่เสมอของคนร่างบางยามที่ทำงานกับเขากลับซ่อนความงามไร้ที่ติเอาไว้ได้เสียมิดชิดจนทำให้เสืออย่างเขาพลาดเหยื่ออันโอชะใกล้ตัวแบบนี้ไปได้อยู่นานหลายปี
และในขณะที่ทั้งสองร่างกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แสนกระอักกระอ่วนใจอยู่นั้นจู่ ๆ ร่างบางก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างจนต้องเงยหน้ามองคนตรงหน้าว่าทำไมเขาถึงนิ่งเงียบไป และในจังหวะที่ดวงตาสบเข้ากับใบหน้าคมก็พบว่าเขากำลังทอดสายตามองไปยังอะไรบางอย่างที่อยู่บนพื้นเบื้องล่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายอย่างไม่ปิดบัง
ฉับพลันที่สายตาของฉันทอดมองตามสายตาของคนตัวโตไปนั้นก็ได้สบเข้ากับปลายทางที่สายตาคมจับจ้องมอง ก่อนที่ดวงตากลมสวยจะถึงกับเบิกกว้าง เหงื่อกาฬก็ต่างทยอยผุดออกมาเต็มฝ่ามือและกรอบหน้าสวยทันที เพราะภาพตรงหน้าที่เห็นนั่นก็คือภาพที่เขากำลังมองลงไปยังพื้นก่อนจะก้มลงไปคว้าชิ้นส่วนของอะไรบางอย่างที่มันเคยใช้ปกปิดร่างกายของฉันเอาไว้อยู่ก่อนหน้านี้ พร้อมกับยกมันขึ้นมาควงอยู่ในมืออย่างคนกำชัย
(ฉิบ...หายแล้วไอ้มนต์!! ลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงวะ) (O//_//O) ฉันถึงกับเบิกตากว้างสบถกับตัวเองในใจทันทีที่เห็นการกระทำของเขา
“ผมจะถามคุณอีกครั้งนะมนต์ว่าสนใจจะลองของจริงไหม” คนตัวโตแสยะยิ้มร้ายถามย้ำด้วยสายตาเจ้าเล่ห์อย่างคนที่กำลังถือไพ่เหนือกว่า แต่ทว่า...ฉันที่ทำตัวไม่ถูกได้แต่เอ่ยปากปฏิเสธออก
“ไม่...ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรค่ะ แล้วก็ขะ...ขอของของมนต์คืนด้วยค่ะ” ฉันยังคงก้มหน้างุดตอบพร้อมกับมือที่กำชายกระโปรงแน่น โดยที่ดวงหน้าสวยได้แต่ร้อนผ่าวแดงฉานอย่างไม่อาจปกปิดได้
“ทำไมล่ะ...ก็เมื่อครู่นี้คุณยัง...ครา...ง”
และในขณะเขากำลังจะพูดในสิ่งที่ฉันไม่อาจปล่อยให้เขาพูดมันออกมาได้นั้น...
“ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ และได้โปรดคืนของของมนต์ด้วยเถอะนะคะ” ฉันโพล่งออกไปเสียงดังลั่น แต่ดวงหน้านั้นก็ยังไม่กล้าเงยขึ้นไปมองคนตัวโตที่ยืนคร่อมร่างฉันอยู่ดี
“...หึ...ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตไม่คืนสิ่งนี้ให้นะครับ” คนเจ้าเล่ห์พูดด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่มพร้อมกับหยุดควงแพนตี้ตัวจิ๋วในมือ ก่อนจะยื่นมายังตรงหน้าของฉันหมายอยากให้ฉันได้เห็นเต็มตาว่าตัวประกันที่อยู่ในมือเขาสำคัญต่อฉันมากแค่ไหนหากฉันปฏิเสธเขาออกไป
สิ้นข้อเสนอของคนตัวโตที่หยิบยื่นมาให้ ฉันถึงกับเม้มปากแน่นเผลอเงยหน้ามองเขาไปอย่างลืมตัว ใบหน้าคมเข้มที่แสดงสีหน้ามาดร้ายอย่างที่ฉันเองก็ไม่เคยเห็นเขาทำมาก่อนมันทำให้ฉันถึงกับรู้สึกวูบโหวงในใจด้วยคิดว่าตอนนี้หายนะได้คืบคลานมาใกล้ปลายจมูกก็ไม่ปาน
“ไม่...!! อย่าเอาไปเลยนะคะ คะ...คืนมนต์มาเถอะค่ะท่านประธาน” ฉันร้องลั่นออกมาทันที พร้อมกับเด้งตัวที่แนบกับกำแพงจนแทบจะสิงเข้าไปในนั้นอยู่แล้วเพื่อจะคว้ากางเกงชั้นในของตัวเองให้กลับคืนมา
แต่ด้วยความสูงของเขาที่มากกว่าฉันเกือบ 20 ซม. ทั้งที่ฉันเองก็มีความสูงไม่น้อยเลยถ้านับตามมาตรฐานความสูงของผู้หญิง นั่นจึงทำให้ฉันได้แต่กระโดดเอื้อมมือไขว่คว้ากางเกงในตัวเองอยู่แบบนั้น โดยที่คว้าได้เพียงแค่อากาศเท่านั้น
“ท่านประธานค่ะ ได้โปรดขอของของมนต์คืนด้วยนะคะ” ฉันที่จนปัญญาที่จะแย่งของออกจากมือเขาได้แต่เอ่ยปากขอร้องเขาดี ๆ อีกที
“ก็ถ้าอยากได้คืน มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนไงครับ” คนตัวโตพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์อีกทั้งแววตายังมีเลศนัยจนฉันอดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลังวาบ
“ละ...แลกเปลี่ยน ถ้าอย่างนั้นท่านประธานบอกมนต์มาได้เลยนะคะ ถ้ามนต์ทำให้ได้มนต์ยินดีทำให้ทุกอย่างค่ะ” ฉันเงยหน้าสบดวงตาคมเข้มด้วยความรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อยอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยปากบอกออกไปด้วยความใสซื่อ
โดยที่หารู้ไม่ว่าไอ้ความใสซื่อที่เอื้อนเอ่ยออกไปนั้นมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองให้ถลำลึกจนเจ็บปวดแทบขาดใจ...
“ผมถือว่าคุณมนต์รับปากแล้วนะครับ หึหึ”คนตรงหน้าแสยะยิ้มร้ายด้วยความพึงพอใจที่ได้ฟังคำตอบของฉัน พร้อมกับหัวเราะกลั้วในลำคอจนเสียงนั้นทำให้ฉันเริ่มที่จะหวั่นใจ“อย่างที่มนต์บอกไงคะ ว่าถ้ามนต์ทำได้” คำพูดอ้อมแอ้มตอบกลับไป ด้วยกลัวใจเขาเหลือเกินว่าจะคิดให้ฉันทำอะไรแผลง ๆ“รับรองได้ว่าคุณมนต์ทำได้แน่นอนครับ” คนตัวโตพูดพร้อมกับเชยปลายคางฉันให้เงยหน้าขึ้น ก่อนที่เขาจะจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตากลมสวยของฉันอย่างมีความหมายส่วนฉันที่แม้ว่าจะกลัวเขาแทบหยุดหายใจ แต่ทว่า...ความรู้สึกข้างในกลับร้อนวูบวาบแปลก ๆ จนทำได้แค่หลบสายตาร้อนแรงที่คนตรงหน้าส่งมาและทันทีที่สิ้นประโยคคำบอกของคนตัวโต เขาก็เริ่มปฏิบัติการออกคำสั่งถึงสิ่งที่ฉันต้องทำทันที“ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณมนต์ทำตามที่ผมบอกด้วยนะครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทรงเสน่ห์อย่างที่ไม่เคยพูดกับฉันมาก่อน ในขณะที่ขาของเขาก็ค่อย ๆ ย่างก้าวเดินเข้ามาประชิดตัวฉันมากขึ้น จนฉันที่รับรู้ถึงรังสีกดดันจากคนตรงหน้าได้แต่ถอยหลังหนี จนเพียงไม่กี่ก้าวที่ฉันร่นถอย...หลังของฉันก็ติดเข้ากับโต๊ะทำงานของตัวเองและไม่มีพื้นที่ให้ฉันได้ขยับหนีอีกแล้ว“อ่ะ ทะ...ท่านประธาน ทะ...ท่
ร่องนุ่มอุ่นส่งแรงกระตุกตอดนิ้วสาวถี่ยิบ มาพร้อมกับปากอวบอิ่มที่ส่งเสียงกรีดร้องครวญครางไม่ได้ศัพท์จนดังกึกก้องลั่นห้องทำงาน โดยที่มีน้ำหวานเหนียวใสต่างทยอยพวยพุ่งออกมาไม่หยุดจนเปรอะเปื้อนเต็มอุ้งมือเป็นดั่งสัญญาณว่าเจ้าของร่องสวาทได้เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการแล้ว“แฮ่กๆๆ เฮือก ~~”ลมหายใจถูกปล่อยออกมาพร้อมกับร่างที่ค่อย ๆ คลายอาการกระตุกเกร็ง และถึงแม้ว่าตัวฉันเองจะเคยดูหนังผู้ใหญ่มาบ้างก็ตาม แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้จัดการมอบความสุขให้กับตัวเอง นั่นจึงทำให้ฉันเองยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมถึงใจกล้าที่จะเอานิ้วแทรกแหวกกายเข้าไปหาความสำราญในถ้ำหรรษาอย่างไม่เคยทำมาก่อนแบบนี้“นี่เราทำอะไรลงไปเนี่ย...ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ยัยมนตราเอ๊ย...!!”ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ทั้งที่ตายังหลับพริ้มอยู่ เพราะนับตั้งแต่ได้ปลดปล่อยสารแห่งความสุขออกไปแล้ว สติที่เหมือนจะหายไปก็ได้กลับคืนมาจนทำให้ฉันสำเหนียกได้ว่าไอ้สิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปเมื่อครู่นี้ถือเป็นความผิดอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะถึงแม้ว่ากฎของบริษัทจะไม่ได้มีระบุไว้ว่าห้ามทำเรื่องแบบนี้ แต่ด้วยจิตใต้สำนึกแล้วเราก็ควรจะคิดเองได้ว
ด้วยเวลาที่ยังเช้ามาก นอกจากจะยังไม่มีพนักงานตอกบัตรเข้ามาทำงานแล้ว ฉันผู้ที่ไม่รู้สึกถึงกลิ่นของความวินาศที่ลอยมาเลยสักนิดก็ยังคงดื่มด่ำอยู่กับความสุขที่ตัวเองมักจะเสพสมอยู่แทบทุกเช้าอย่างไม่คิดระแวดระวังแม้แต่น้อย และด้วยเพราะปกติแล้วเจ้านายของฉันเขามักจะมาทำงานตรงเวลาเสมอนั่นก็คือตอน 8:00 น. เป๊ะ...!! ดังนั้นด้วยความเคยชินของเวลาที่ไม่เคยผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียวนับตั้งแต่ที่ฉันเริ่มกระทำการอุกอาจแบบนี้มา ฉันจึงไม่เคยคิดเอะใจเลยสักนิดว่าวันนี้มันจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป...ความชะล่าใจยังคงทำให้มนุษย์โง่เขลา ในช่วงเวลายามเช้าก่อนที่ทุกอย่างจะเข้าสู่โหมดวุ่นวายตามสไตล์องค์กรขนาดใหญ่ ฉันที่ยังคงนึกสนุกคิดอยากจะทำอะไรก็ได้ในห้องนี้ เพียงเพื่อสนองความปรารถนาอันร้อนแรงข้างในที่ตอนนี้กำลังลุกโหมเร่งเร้า...หลังจากที่ฉันสูดเอากลิ่นกายของผู้ชายที่ฉันแอบหลงรักเข้าไปจนเต็มปอดดั่งกำลังเติมเชื้อไฟให้กับร่างกายได้มีพลังใช้ชีวิตต่อแล้ว สิ่งที่ฉันมักจะทำถัดไปเลยนั่นก็คือ การที่ฉันมักจะเอาใบหน้าไปนอนแอบอิงแนบตามโต๊ะทำงาน ตามเก้าอี้ทำงาน ตามโซฟารับแขกขนาดใหญ่ของเขา แนบมันไปทุกจุดทุกตำแหน่งที่เขามัก
...มนตราคือชื่อของฉันหรือที่ใครหลาย ๆ จะรู้จักในนามว่า...มนต์...ปัจจุบันฉันทำงานในตำแหน่งเลขาให้กับประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับอาเซียน ตำแหน่งที่ใคร ๆ ก็ต่างถวิลหาอยากจะเข้ามาอยู่ในจุดจุดนี้ นั่นก็เพราะไม่ใช่แค่เงินเดือนและสวัสดิการของบริษัทนี้ที่ดีเท่านั้น แต่ทว่า...ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันนั่นก็คือ การได้ใกล้ชิดกับท่านประธานของบริษัทแห่งนี้ที่ทั้งเก่งแถมยังหล่อติดอันดับหนุ่มฮอตผู้ทรงอิทธิพลของสังคมที่นิตยสารไฮโซระดับอาเซียนมอบให้อีกด้วย...แต่ก็นั่นแหละเพราะด้วยความหล่ออีกทั้งเสน่ห์ที่มากล้นเกินต้านของท่านประธานสุดฮอต มีหรือที่คนอย่างฉันจะไม่หลงใหลไปกับรูปโฉมและความสามารถเหล่านั้นของเขา เพราะฉันเองก็เป็นเหมือนกับผู้หญิงหลาย ๆ คนที่ใฝ่ฝันจะได้ใกล้ชิดและแอบปลื้มผู้ชายที่เก่งรอบด้านไม่ต่างกัน เพียงแต่ด้วยสถานะของฉันที่เป็นเลขานั้น มันจึงทำให้ฉันทำได้เพียงแค่เก็บงำความรู้สึกนั้นไว้ในใจแต่ทว่า...เพราะไอ้ความปลาบปลื้มที่นับวันรังแต่จะทวีเพิ่มพูนไม่หยุด...มันได้มอมเมาจนฉันเริ่มปล่อยตัวปล่อยใจอาจหาญกระทำการบางอย่างลงไปอย่างไร้สติไม่คิดหน้าคิดหลัง เพียงเพราะคิดว่ามันจะเป็นควา
ตอนที่ 1 บทนำ“อ๊ะ อ๊ะ อื้ออออ~~”“อย่าครางออกมาถ้าหากไม่อยากโดนผมกระแทกต่ออีกทั้งคืน!!”เสียงทุ้มแสนเสน่ห์ดังก้องกังวาน หลังจากที่เขาบรรจงเน้นกระแทกบั้นเอวเข้าร่องสาวไม่ยั้ง จนความเสียวซ่านทำให้เจ้าของร่างครวญครางอื้ออึงอยู่ในลำคอกระทั่งสิ้นเสียงคำรามบอก ร่างสาวที่กำลังกระเด็นกระดอนไปตามแรงส่งถึงกับกัดฟันแน่นพยายามข่มเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของตัวเองเอาไว้ เพียงเพื่อหวังว่าหลังจากจบบทเพลงสวาทอันรัญจวนใจในครั้งนี้เขาจะถอดถอนความใหญ่โตที่อัดแน่นอยู่ข้างในร่างออกแล้วปล่อยให้ร่างสะคราญได้เป็นอิสระสักที เพราะถ้าหากร่างบางยังคงต้องถูกกระทำรุนแรงอยู่แบบนี้ต่อแล้วละก็...พรุ่งนี้คงไม่แคล้วต้องปวดหนึบไปทั่วทั้งร่างอย่างแน่นอน...แต่ทว่า...สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ธรรมชาติได้รังสรรค์เอาไว้แล้ว...มันช่างขัดกันเสียจริง เพราะต่อให้ร่างระหงจะพยายามกัดฟัน เพื่อสกัดกั้นอารมณ์สยิวที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ข้างในมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่แสนจะควบคุมได้ยากที่สุดเลยนั่นก็คือ...การที่จะควบคุมตัวเองไม่ให้เปล่งเสียงออกมาหลังจากที่ปลายหัวมนกระแทกสัมผัสเข้ากับจุดที่ลึกที่สุดอีกทั้งยังเป็นจุดที่ไวต่อการถูกกระตุ้น