แชร์

ตอนที่ 4 แค่นิ้ว...คงไม่พอ

ผู้เขียน: พาวิจิตร
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-09 04:47:28

ร่องนุ่มอุ่นส่งแรงกระตุกตอดนิ้วสาวถี่ยิบ มาพร้อมกับปากอวบอิ่มที่ส่งเสียงกรีดร้องครวญครางไม่ได้ศัพท์จนดังกึกก้องลั่นห้องทำงาน โดยที่มีน้ำหวานเหนียวใสต่างทยอยพวยพุ่งออกมาไม่หยุดจนเปรอะเปื้อนเต็มอุ้งมือเป็นดั่งสัญญาณว่าเจ้าของร่องสวาทได้เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการแล้ว

“แฮ่กๆๆ เฮือก ~~”

ลมหายใจถูกปล่อยออกมาพร้อมกับร่างที่ค่อย ๆ คลายอาการกระตุกเกร็ง และถึงแม้ว่าตัวฉันเองจะเคยดูหนังผู้ใหญ่มาบ้างก็ตาม แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้จัดการมอบความสุขให้กับตัวเอง นั่นจึงทำให้ฉันเองยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมถึงใจกล้าที่จะเอานิ้วแทรกแหวกกายเข้าไปหาความสำราญในถ้ำหรรษาอย่างไม่เคยทำมาก่อนแบบนี้

“นี่เราทำอะไรลงไปเนี่ย...ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ยัยมนตราเอ๊ย...!!”

ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ทั้งที่ตายังหลับพริ้มอยู่ เพราะนับตั้งแต่ได้ปลดปล่อยสารแห่งความสุขออกไปแล้ว สติที่เหมือนจะหายไปก็ได้กลับคืนมาจนทำให้ฉันสำเหนียกได้ว่าไอ้สิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปเมื่อครู่นี้ถือเป็นความผิดอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะถึงแม้ว่ากฎของบริษัทจะไม่ได้มีระบุไว้ว่าห้ามทำเรื่องแบบนี้ แต่ด้วยจิตใต้สำนึกแล้วเราก็ควรจะคิดเองได้ว่าสิ่งนี้มันไม่สมควรทำ...!!

แต่ถึงกระนั้นด้วยพฤติกรรมที่เกินเลยอย่างไม่อาจหักห้ามใจเอาไว้ได้ นอกจากความรู้สึกสำนึกผิดที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ข้างในก็กลับบังเกิดความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งขึ้นมาอย่างไม่น่าให้อภัย...เพราะมันดันเป็นความรู้สึกต้องการที่มากขึ้น อีกทั้งร่างกายกลับดันชอบที่ตัวเองได้รับการปลดปล่อยออกมาแบบนั้น...ซึ่งมันช่างอันตรายเหลือเกินเพราะฉันได้สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก...

ร่างบางยังคงเอนตัวทิ้งร่างพิงเก้าอี้ประจำตำแหน่งเลขาด้วยท่าทางอ่อยอิง เพราะยังรู้สึกอิ่มเอมกับความสุขที่ตัวเองเพิ่งได้ค้นพบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าแค่การเข้ามาสูดกลิ่นและสัมผัสกับสิ่งของของผู้ชายที่ฉันแอบมีใจให้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ร่างกายของฉันได้ผ่อนคลายพร้อมที่จะสู้กลับงานในวันใหม่ แต่ทว่า...หลังจากได้รู้วิธีการปลดปล่อยสารแห่งความสุขออกไปเมื่อครู่นี้แล้วกลับมีความรู้สึกบางอย่างปะทุขึ้นมาแทน

นั่นก็เพราะว่าด้วยเรือนร่างที่เพิ่งผ่านความเร่าร้อนเป็นครั้งแรกเมื่อครู่กลับเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ถูกจุดติดแล้วซึ่งประกายไฟปรารถนาที่มาพร้อมกับเสียงร้องดังกึกก้องอยู่ภายในใจว่า...การช่วยเหลือตัวเองเมื่อสักครู่นี้ มันยังไม่พอสำหรับความต้องการของเจ้าของร่องอุ่นเลยแม้แต่น้อย...!!

ความคิดที่สวนทางกับสิ่งที่ตั้งมั่นเอาไว้เกิดขึ้นในขณะที่เปลือกตายังคงปิดเพื่อพักผ่อน พร้อมกันกับที่ร่างบางกำลังทิ้งกายพักหอบหายใจอยู่บนเก้าอี้ทำงานขนาดใหญ่อยู่นั้น...

...สิ่งที่ฉันไม่ทันได้คาดฝันก็พลันเกิดขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เองที่เป็นเสมือนชนวนให้ฉันต้องมาชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป...ดั่งคำที่เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า...เวรกรรมมันมักจะตามมาเร็วเสมอจริง ๆ ...

“โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณมนต์ได้”

สิ้นเสียงทุ้มมีเสน่ห์ที่ฉันคุ้นเคยเพราะได้ยินอยู่ทุกวัน ทำให้ดวงตาที่หลับพริ้มอยู่นั้นถึงกับเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ

(O_O)

“…ท่านประธาน!!!!...”

(กรี๊ดดดดด~~ เจ้าพ่อเจ้าแม่ช่วยลูกช้างด้วย คุณวาคิมตัวเป็น ๆ มายืนอยู่ตรงหน้าฉันตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย แล้วเวลานี้มันใช่เวลาที่เขาจะมาปรากฏตัวซะที่ไหน...) (O///O) ใบหน้าสาวแดงแปร๊ดขึ้นมาด้วยความอับอาย ก่อนที่ตัวเองจะรีบกุลีกุจอจัดท่านั่งให้อยู่ในท่าปกติ พร้อมกับเอากระโปรงที่ร่นขึ้นมาอยู่ที่เอวให้กลับลงไปอยู่ตามเดิม

“อะ อะ เอ่อ...เออ” ฉันก้มหน้างุดพูดจาอึดอัดออกมาไม่เป็นคำเพราะด้วยไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี

“ว่าไงครับ อยากลองโดนของจริงดูไหมล่ะ หืมมมมม~~” คนตัวโตเอ่ยถามย้ำพร้อมกับโน้มตัวเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น จนฉันออกอาการลนลานทำอะไรไม่ถูก

“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ ขะ...ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันที่ไม่รู้จะทำตัวยังไง ได้แต่พูดตะกุกตะกัก ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นยืนเพื่อเดินหนีเขาออกไป

แต่ในขณะที่ร่างบางยังไม่ทันได้ก้าวเท้าพ้นออกไปจากคนตัวโต ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง วงแขนแกร่งก็ได้ยกอ้ากว้างขึ้นเพื่อกักขังไม่ให้ร่างนุ่มนิ่มที่กำลังตื่นตระหนกออกไปไหนได้ และนั่นจึงทำให้หญิงสาวได้แต่ติดอยู่ในกรงขังของอ้อมแขนที่ตอนนี้กำลังเท้ายันกับกำแพงอยู่

“ทะ...ท่านประธานค่ะ มะ...มนต์ขอทางด้วยค่ะ” ฉันก้มหน้างุดเอ่ยปากอ้ำอึ้งบอกคนตรงหน้าออกไปโดยที่ตัวเองไม่กล้าเงยหน้ามองเขาแม้แต่น้อย

ช่างต่างกับคนตัวโตที่ตอนนี้ดูเขาเหมือนจะพอใจกับท่าทีอันตื่นตระหนกของเหยื่อในกรงเล็บของตัวเองเสียมากกว่า จนถึงขนาดที่เผลอแสยะยิ้มร้ายยกขึ้นมุมปาก พร้อมกับใช้สายตาคมกริบค่อย ๆ ลากไล้มองไปตามกรอบหน้าเนียนใสที่เขาเองก็ไม่เคยได้พินิจพิจารณาใกล้ ๆ แบบนี้มาก่อน จนตัวเองยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าภายใต้ใบหน้าเฉิ่มเชยดูไร้ความรู้สึกอยู่เสมอของคนร่างบางยามที่ทำงานกับเขากลับซ่อนความงามไร้ที่ติเอาไว้ได้เสียมิดชิดจนทำให้เสืออย่างเขาพลาดเหยื่ออันโอชะใกล้ตัวแบบนี้ไปได้อยู่นานหลายปี

และในขณะที่ทั้งสองร่างกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แสนกระอักกระอ่วนใจอยู่นั้นจู่ ๆ ร่างบางก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างจนต้องเงยหน้ามองคนตรงหน้าว่าทำไมเขาถึงนิ่งเงียบไป และในจังหวะที่ดวงตาสบเข้ากับใบหน้าคมก็พบว่าเขากำลังทอดสายตามองไปยังอะไรบางอย่างที่อยู่บนพื้นเบื้องล่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายอย่างไม่ปิดบัง

ฉับพลันที่สายตาของฉันทอดมองตามสายตาของคนตัวโตไปนั้นก็ได้สบเข้ากับปลายทางที่สายตาคมจับจ้องมอง ก่อนที่ดวงตากลมสวยจะถึงกับเบิกกว้าง เหงื่อกาฬก็ต่างทยอยผุดออกมาเต็มฝ่ามือและกรอบหน้าสวยทันที เพราะภาพตรงหน้าที่เห็นนั่นก็คือภาพที่เขากำลังมองลงไปยังพื้นก่อนจะก้มลงไปคว้าชิ้นส่วนของอะไรบางอย่างที่มันเคยใช้ปกปิดร่างกายของฉันเอาไว้อยู่ก่อนหน้านี้ พร้อมกับยกมันขึ้นมาควงอยู่ในมืออย่างคนกำชัย

(ฉิบ...หายแล้วไอ้มนต์!! ลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงวะ) (O//_//O) ฉันถึงกับเบิกตากว้างสบถกับตัวเองในใจทันทีที่เห็นการกระทำของเขา

“ผมจะถามคุณอีกครั้งนะมนต์ว่าสนใจจะลองของจริงไหม” คนตัวโตแสยะยิ้มร้ายถามย้ำด้วยสายตาเจ้าเล่ห์อย่างคนที่กำลังถือไพ่เหนือกว่า แต่ทว่า...ฉันที่ทำตัวไม่ถูกได้แต่เอ่ยปากปฏิเสธออก

“ไม่...ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรค่ะ แล้วก็ขะ...ขอของของมนต์คืนด้วยค่ะ” ฉันยังคงก้มหน้างุดตอบพร้อมกับมือที่กำชายกระโปรงแน่น โดยที่ดวงหน้าสวยได้แต่ร้อนผ่าวแดงฉานอย่างไม่อาจปกปิดได้

“ทำไมล่ะ...ก็เมื่อครู่นี้คุณยัง...ครา...ง”

และในขณะเขากำลังจะพูดในสิ่งที่ฉันไม่อาจปล่อยให้เขาพูดมันออกมาได้นั้น...

“ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ และได้โปรดคืนของของมนต์ด้วยเถอะนะคะ” ฉันโพล่งออกไปเสียงดังลั่น แต่ดวงหน้านั้นก็ยังไม่กล้าเงยขึ้นไปมองคนตัวโตที่ยืนคร่อมร่างฉันอยู่ดี

“...หึ...ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตไม่คืนสิ่งนี้ให้นะครับ” คนเจ้าเล่ห์พูดด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่มพร้อมกับหยุดควงแพนตี้ตัวจิ๋วในมือ ก่อนจะยื่นมายังตรงหน้าของฉันหมายอยากให้ฉันได้เห็นเต็มตาว่าตัวประกันที่อยู่ในมือเขาสำคัญต่อฉันมากแค่ไหนหากฉันปฏิเสธเขาออกไป

สิ้นข้อเสนอของคนตัวโตที่หยิบยื่นมาให้ ฉันถึงกับเม้มปากแน่นเผลอเงยหน้ามองเขาไปอย่างลืมตัว ใบหน้าคมเข้มที่แสดงสีหน้ามาดร้ายอย่างที่ฉันเองก็ไม่เคยเห็นเขาทำมาก่อนมันทำให้ฉันถึงกับรู้สึกวูบโหวงในใจด้วยคิดว่าตอนนี้หายนะได้คืบคลานมาใกล้ปลายจมูกก็ไม่ปาน

“ไม่...!! อย่าเอาไปเลยนะคะ คะ...คืนมนต์มาเถอะค่ะท่านประธาน” ฉันร้องลั่นออกมาทันที พร้อมกับเด้งตัวที่แนบกับกำแพงจนแทบจะสิงเข้าไปในนั้นอยู่แล้วเพื่อจะคว้ากางเกงชั้นในของตัวเองให้กลับคืนมา

แต่ด้วยความสูงของเขาที่มากกว่าฉันเกือบ 20 ซม. ทั้งที่ฉันเองก็มีความสูงไม่น้อยเลยถ้านับตามมาตรฐานความสูงของผู้หญิง นั่นจึงทำให้ฉันได้แต่กระโดดเอื้อมมือไขว่คว้ากางเกงในตัวเองอยู่แบบนั้น โดยที่คว้าได้เพียงแค่อากาศเท่านั้น

“ท่านประธานค่ะ ได้โปรดขอของของมนต์คืนด้วยนะคะ” ฉันที่จนปัญญาที่จะแย่งของออกจากมือเขาได้แต่เอ่ยปากขอร้องเขาดี ๆ อีกที

“ก็ถ้าอยากได้คืน มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนไงครับ” คนตัวโตพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์อีกทั้งแววตายังมีเลศนัยจนฉันอดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลังวาบ

“ละ...แลกเปลี่ยน ถ้าอย่างนั้นท่านประธานบอกมนต์มาได้เลยนะคะ ถ้ามนต์ทำให้ได้มนต์ยินดีทำให้ทุกอย่างค่ะ” ฉันเงยหน้าสบดวงตาคมเข้มด้วยความรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อยอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยปากบอกออกไปด้วยความใสซื่อ

โดยที่หารู้ไม่ว่าไอ้ความใสซื่อที่เอื้อนเอ่ยออกไปนั้นมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองให้ถลำลึกจนเจ็บปวดแทบขาดใจ...

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ลวงสวาทท่านประธานธงแดง   ตอนที่ 115 ขอแค่ได้รัก...

    ซู่ ~~“ฮึก...ฮึก...ฮือออออ ~~”สายฝนที่โปรยปรายลงมาพร้อมกับหยาดน้ำตาที่อาบแก้ม ความเปียกปอนที่ซัดเข้ามากะทันหัน เสมือนว่าเบื้องบนต้องการตอกย้ำความบัดซบที่เกิดขึ้นในตอนนี้“ฮือออออ ~~” น้ำตาที่หลั่งออกมาไม่หยุดผสานเข้ากับเม็ดฝนที่สาดเข้าใบหน้าเนียนจนแยกไม่ออกว่าอันไหนคือเม็ดฝน อันไหนคือหยดน้ำตาสองขาที่พาก้าวเดินไปช้า ๆ อย่างไร้จุดหมายกลางสายฝนความหนาวที่ค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาตามผิวหนัง แต่ว่าความรู้สึกนั้นก็ไม่หนาวเท่ากับใจที่รู้สึกอยู่ตอนนี้“ทำไมมันเจ็บแบบนี้ล่ะ...ฮึก...ฮึก” เสียงพึมพำกับตัวเองแม้จะไม่ดังเพราะมีเสียงฝนกลบ แต่ชัดเจนมากพอเพราะรับรู้ได้จากความรู้สึกที่เกิดขึ้นร่างที่เดินไปอย่างคนที่ไร้วิญญาณ อาการเหม่อลอยโดยที่สายตาถอดมองเห็นเพียงแค่ความว่างเปล่า สติที่ไร้ซึ่งสัมปชัญญะจนไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังจะเดินชนใครบางคนเข้าอย่างจังปึก...“อะ...ขะ...ขอโทษค่ะ”ฉันเอ่ยคำขอโทษอย่างเลื่อนลอยในขณะที่ตัวเองเสยืนไม่ได้หลักหลังจากเดินชนร่างกำยำเข้าอย่างจัง อีกทั้งอาการปวดหัวที่จู่ ๆ ก็พลันกำเริบขึ้นมายิ่งส่งให้ร่างบางออกอาการโงนเงนและในขณะที่ฉันเองก็ไม่ทันได้มองว่าตัวเองเดินชนใคร เสียงเ

  • ลวงสวาทท่านประธานธงแดง   ตอนที่ 114 ซื้อความรัก

    ไหล่ที่สั่นไหวเบา ๆ ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดจากคำพูดของคนตรงหน้าอีกทั้งความจริงที่ไม่อาจกังขาได้ ทำให้ฉันได้แต่พยายามกลั้นรู้สึกปวดร้าวเอาไว้ แม้ว่าในใจมันอยากจะคร่ำครวญร้องขอความเมตตาจากคนตรงหน้าก็ตามก่อนที่ร่างบางจะฝืนกลืนความขมขื่นที่มีลงคอไป และเมื่อตัวเองได้สงบจิตสงบใจแล้วเรียวปากสวยก็ค่อย ๆ ขยับปากพูดปฏิเสธความจริงถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับผู้ชายที่เป็นลูกชายของคนตรงหน้าออกไป“ท่านคงเข้าใจอะไรผิดไปนะคะ...คือดิฉันกับท่านประธานเราเป็นแค่...จะ...เจ้...า...”และในขณะที่ฉันยังไม่ทันได้ผู้จบประโยค...“ไม่ต้องมาพูดปฏิเสธหรอกฉันเข้าใจดีว่าผู้ชายมันต้องมีเรื่องแบบนี้กันอยู่แล้ว อีกอย่างดูแล้วเธอเองก็ตรงสเปกลูกชายฉันอยู่เหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นมันก็คงไม่แปลกที่เขาจะคว้าเอาเธอไปนอนด้วย เพียงแต่ฉันยอมใจเขาเลยนะที่เขาเก็บเธอให้พ้นหูพ้นตาฉันได้นานขนาดนี้...หึ...นี่ถ้าไม่เป็นเพราะฉันได้รูปมาก่อนแล้วละก็...ไม่รู้ว่าเรื่องของเธอจะถูกเก็บงำเอาไว้นานแค่ไหน” หญิงสูงวัยพูดดักคอไม่รอให้ฉันพูดจบ ก่อนที่เธอจะหยิบยกแก้วชาขึ้นมาจิบพลาง ๆ ด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อนอะไรจากนั้นผู้หญิงสูงวัยตรงหน้าก็ไม่รอให้ฉันได

  • ลวงสวาทท่านประธานธงแดง   ตอนที่ 113 ออกไปจากชีวิตเขาซะ...!!

    นับตั้งแต่ที่ฉันได้รับสายโทรศัพท์ของผู้มีอำนาจสายนั้นแล้ว ความรู้สึกว้าวุ่นในใจก็พลันบังเกิดขึ้นไม่หยุด ฉันที่กระสับกระส่ายอยู่ข้างในแต่ข้างนอกกลับต้องทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความรู้สึกเหล่านี้มันช่างทรมานเสียเหลือเกิน...กาลเวลาที่ช่างผ่านไปเนิ่นนานเหมือนเฉกเช่นกับความทุกข์ของคนเราที่มักจะกัดกินช่วงเวลาให้ยาวนานกว่าจะผ่านพ้นไป กระทั่งเมื่อหน้าปัดนาฬิกาได้บอกเวลาว่าบัดนี้ถึงเวลาที่ฉันต้องไปขึ้นเคียงให้ใครบางคนเชือดแล้ว ฉันก็ได้รีบเก็บข้าวของแล้วเตรียมตัวที่จะออกไปทันทีเพียงแต่ว่า...ในขณะที่ฉันกำลังลุกขึ้นเดินไปยังหน้าประตูอยู่นั้น เสียงเรียกอันทรงพลังก็ได้ดังขึ้นหลังจากฉันที่เพิ่งจะเดินไปยังไม่ถึงประตูห้องทำงาน“จะรีบไปไหน วันนี้กลับรถคันเดียวกับผมแล้วกันนะ”ชายหนุ่มที่พูดขึ้นมาอย่างไม่ต้องการให้ฉันได้เอ่ยปากปฏิเสธ และในจังหวะที่ฉันเองก็ไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรเพื่อหยิบยกขึ้นมาเอ่ยอ้างจู่ ๆ พี่ปราบก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับรายงานถึงเรื่องราวบางอย่างที่ฉันรู้ดีว่ามันได้ถูกจัดฉากเอาไว้แล้ว“นายครับ ท่านผู้หญิงโทรมาหาผมบอกให้นายปลดบล็อกด้วยครับ ท่านมีเรื่องจะคุยกับนายครับ” พี่ปราบพู

  • ลวงสวาทท่านประธานธงแดง   ตอนที่ 112 โป้ปดหลอกลวง

    ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อปรับความรู้สึกผิดที่อยู่ภายใน ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากพูดประโยคที่เขาคิดว่าดีแล้วออกมา“ผมอยากขอโทษที่ผมรุนแรงกับคุณก่อนหน้านี้ มันเป็นเพราะว่าผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของของผม และผมก็ไม่ชอบให้คุณไม่สนิทสนมกับใครหน้าไหนทั้งนั้น โดยเฉพาะ...ผู้ชาย...”คำตอบที่ชายหนุ่มมั่นใจแล้วว่าตนเองได้กลั่นกรองมาอย่างดีเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการขอความเมตตาจากหญิงสาวว่าอย่าได้โกรธเคืองเขาอีกเลย แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือคำตอบของเขานั้นเปรียบดั่งฟางเส้นสุดท้ายในใจของหญิงสาวไปแล้ว(...หึ...ที่แท้ก็ขอโทษเรื่องนี้เองงั้นเหรอ สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะเบี่ยงประเด็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นงั้นซินะ...เจ็บจัง...) คำพูดที่ผุดขึ้นตัดพ้อในใจ ยามคิดไปถึงสิ่งที่ได้ยินก่อนหน้านี้ เพราะถ้าหากเขาเลือกที่จะขอโทษฉันถึงเรื่องที่เขาบอกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับแม่ของเขาแทนที่จะเอ่ยอ้างเปลี่ยนเป็นเรื่องนี้...ความรู้สึกแย่ ๆ ที่มีอาจจะไม่ดำดิ่งลงไปมากกว่านี้...หรือถ้าหากเขาอธิบายหรือพูดเพียงแค่ว่าเขาจำเป็นต้องบอกออกไปแบบนั้นเพราะสถานะทางสังคมที่เขาจำต้องรักษามันเอาไว้ เพราะถ้าหากเขาจริงใ

  • ลวงสวาทท่านประธานธงแดง   ตอนที่ 111 คำขอโทษเสแสร้ง

    ความเยือกเย็นฉายขึ้นบนดวงหน้าสง่างาม พร้อมกันกับที่ตัวเธอนั้นได้ยกมือถือของตัวเองขึ้นมาดูรูปถ่ายที่ถูกส่งมาให้ดูอีกครั้ง มันเป็นภาพที่บ่งบอกถึงความสนิทสนมชิดเชื้อกันระหว่างชายหญิงคู่หนึ่ง โดยที่รูปเหล่านั้นตัวเธอได้มาจากหญิงสาวที่เธอหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ว่าอยากจะได้มาเป็นลูกสะใภ้ และในภาพนั้น...ผู้ชายที่อยู่ในภาพจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทายาทของตระกูลเพียงคนเดียว ที่เธออุตส่าห์เฝ้าประคบประหงมทะนุถนอมให้รอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกาจนมาได้ไกลถึงตำแหน่งนี้ได้อย่างไร้ข้อกังขา แม้ว่าวาสนาอันแสนอาภัพของลูกชายเธอที่ต้องมาสูญเสียผู้เป็นบิดาไปก่อนวัยอันควร แต่เธอก็ยังพยายามที่จะฝ่าฟันช่วงชิงสิ่งที่ควรจะต้องเป็นของลูกชายเอามาจนได้ ดังนั้นไม่ว่ายังไงเธอเองจะไม่มีวันยอมให้อนาคตของลูกชายเธอต้องสั่นคลอนเด็ดขาดโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของลูกชายเธอด้วยแล้ว ผู้หญิงคนนั้นจะต้องเป็นเหมือนกับรากฐานและกองกำลังสนับสนุนให้กับลูกชายของเธอได้ยืนหยัดอย่างมั่นคง และด้วยคุณสมบัติที่เธอคาดหวังเอาไว้ไม่ว่ายังไงก็คงไม่ใช่ผู้หญิงที่อยู่ในภาพเดียวกันกับลูกชายของเธออย่างแน่นอน ด้วยสถา

  • ลวงสวาทท่านประธานธงแดง   ตอนที่ 110 ผู้หญิงที่เหมาะสม...

    ฉันยังคงยืนนิ่งฟังบทสนทนาที่อยู่ด้านนอกต่อ หลังจากที่คนด้านนอกได้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขาให้กับผู้เป็นมารดาของเขาได้ฟัง ความเงียบที่ก่อตัวขึ้นมากินระยะเวลาเท่า ๆ กับความคิดในหัวของฉัน ก่อนที่ฝ่ายมารดาของเขานั้นจะยังคงไม่ยินยอมและพยายามต้อนคนด้านนอกให้จนมุม...“...หึ...เจ้านายกับลูกน้องยังงั้นหรอ แกคิดว่าแม่โง่ขนาดนั้นเลยหรือไง” เสียงทรงพลังเอ่ยย้ำอย่างต้องการที่จะรู้ความจริงที่เกิดขึ้นให้ได้ พร้อมกับจ้องมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองเขม็ง“ก็ถ้าหากแม่มีคำตอบของตัวเองอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมาถามเอาความจริงกับผมหรอกครับ ในเมื่อผมพูดอะไรไปแม่ก็ไม่เชื่อผมอยู่ดี”ก่อนที่เสียงเยียบเย็นเฉยชาจะส่งไปหาผู้เป็นมารดาอย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร เพราะเขานั่นก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าถ้าหากเขายังไม่ยกผู้หญิงที่เขาซ่อนเอาไว้ภายใต้การคุ้มครองของตัวเองให้ขึ้นมามีสถานะแล้วล่ะก็ แม่ของเขาก็จะไม่มีทางมาระรานหรือวุ่นวายไปมากกว่านี้ เพียงแต่ว่า...เขาที่อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมครั้งนี้แม่ของเขาถึงกับออกตัวแรงแซงโค้งมาวีนเขาถึงที่ทำงานได้และในระหว่างที่เขากำลังสงสัยพฤติกรรมของผู้เป็นมารดา คำถามที่จู่ ๆ ก็โ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status