"สวัสดีครับ คุณพ่อ คุณแม่" ปุยเมฆกล่าวทักทายเมื่อเข้ามาภายในบ้าน แล้วสวมกอดมารดาของเขาทันทีอย่างคิดถึง "คิดถึงแม่นิชาที่สุดเลยครับ" พร้อมกับเสียงออดอ้อน
"อ้าว...หนูต้นข้าวก็มาด้วยเหรอ ตามสบายเลยน่ะลูก" นรวิชญ์เอ่ยถามเมื่อมองไปเห็นหญิงสาว ที่อยู่ด้านหลังของลูกชาย
"สวัสดีค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ" เสียงเอ่ยทักทายอย่างนุ่มนวล พร้อมกับยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองของบ้าน
"คุณแม่ครับ นี่ต้นข้าว เป็นผู้ช่วยคนใหม่ของเมฆเองครับ" ปุยเมฆจึงเอ่ยแนะนำกับมารดา เมื่อเห็นว่าแม่ของเขาทำหน้างงเล็กน้อยที่เห็นหญิงสาวมาด้วย
"ผู้ช่วย!" ณัฐณิชาถามลูกชายย้ำอีกที
"ครับ"
"จ้ะลูก...หนูต้นข้าวตามสบายเลยน่ะลูก" แล้วหันมาส่งยิ้มให้กับหญิงสาวอย่างรู้สึกเอ็นดู
"เรียกว่าข้าวเฉยๆก็ได้ค่ะ คุณท่าน!" ต้นข้าวเอ่ยบอกกับผู้ใหญ่ทั้งสอง เมื่อนั่งลงที่โชฟาห้องรับแขก
"คุณท่านอะไรกัน ในเมื่อรู้จักกับตาเมฆ ก็เรียกพ่อเรียกแม่ เหมือนกันกับตาเมฆนี้แหล่ะ แม่ไม่ถือหรอก ดีเสียอีกแม่จะได้มีลูกสาวเพิ่ม" ณัฐณิชาเอ่ยขึ้นมา พร้อมกับส่งสายตาไปหาสามี
"ขอบคุณน่ะค่ะ"
"เมฆ!" นรวิชญ์เรียกลูกชายขึ้นมา
"ครับคุณพ่อ"
"หนูต้นข้าว เป็นแค่ผู้ช่วยน่ะลูก ทำไมลูกให้น้องตามติดลูกตลอด แล้วยังใช้งานหนักขนาดนี้ น้องไม่ต้องพักผ่อน หรือกลับบ้านกันหรือไง" เสียงทุ้มถามลูกชายขึ้นมาทันที
"ผมก็ไม่ได้ใช้งานฟรีหนิ่ครับคุณพ่อ ผมจ้างเธอตลอดน่ะ" ปุยเมฆตอบบิดาไปแบบไม่ได้รู้สึกอะไร พร้อมกับทำหน้าตาเฉย
"แต่มันไม่มากจนเกินไปเหรอเมฆ ใช้งานน้องตลอดขนาดนี้ น้องเขาจะกลับบ้านไม่ดึกไปเหรอ ผู้หญิงเดินทางกลางคืนมันไม่ค่อยปลอดภัยน่ะลูก" ณัฐณิชาเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาบ้าง
"ไม่หรอกครับ...ก็เธอพักอยู่ที่คอนโดผมนี้ จะไปกลับให้เสียเวลาทำไมกันครับ"
"อะไรน่ะ อยู่คอนโด!" ทั้งสองพูดพร้อมกันขึ้นมา และมองหน้ากันอย่างไม่อยากเชื่อในคำตอบของลูกชายตัวเอง เพราะว่าลูกชายของเขาเป็นที่ห่วงพื้นที่ส่วนตัวมาก ไม่ยอมให้ใครเข้าไปง่ายๆ แต่กลับหญิงสาวคนนี้ ยอมให้พักอาศัยอยู่ด้วย แถมยังขับรถให้นั่งอีกต่างหาก
"ครับ!..."
ทั้งหมดเงียบกันอยู่สักพักใหญ่ เสียงโทรศัพท์มือถือของต้นข้าวก็ดังขึ้นมาทำลายความเงียบ
"ข้าวขอไปรับโทรศัพท์ก่อนน่ะค่ะ" ต้นข้าวเอ่ยบอกพร้อมกับลุกออกไปคุยสาย
"อะไรน่ะ!" เสียงคุยสายอุทานออกมาเสียงดัง ของต้นข้าว ทำให้ทุกคนหันไปมองทางต้นเสียงเป็นทางเดียวกันหมด "ได้ เดี๋ยวพี่จะรีบไปตอนนี้เลย น้ำใจเย็นๆน่ะ"
หญิงสาววางสายลงพร้อมกับมืออันสั่นเทา และน้ำตาที่ไหลออกมา อย่างนึกกลัวกับเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นมาซ้ำซ้อนในอดีต
"มีอะไรหรือเปล่า!" ปุยเมฆเอ่ยถามขึ้น และทุกคนที่ได้ยินเดินมาหาต้นข้าว
"ขะ ข้าว ขอตัวกลับก่อนน่ะค่ะ พะ พ่อเกิดอุบัติเหตุ..." ต้นข้าวเอ่ยเสียงสั่นบอกกับทุกคน
"หนูข้าวใจเย็นๆก่อนน่ะลูก ทำใจดีๆไว้น่ะ แม่เชื่อว่าพ่อของหนูต้องไม่ไเป็นอะไร" ณัฐณิชาเดินเข้าไปสวมกอดหญิงสาว และเอ่บปลอบพร้อมกับศรีษะเธอเบาๆ "เมฆพาน้องไปที่โรงพยาบาลที่ลูก" แล้วหันมาพูดกับลูกชาย
"ถ้าอย่างนั้นเรารีบไปโรงพยาบาลกันเถอะ..." ปุยเมฆท่าทางรีบร้อนบอกกับต้นข้าว
"คุณไม่อยู่ทานข้าวกับพวกท่านทั้งสองเหรอ" ต้นข้าวเอ่ยถามขึ้นมา
"ไว้มาทานวันหลังก็ได้ ตอนนี้รีบไปโรงพยาบาลก่อน" ปุยเมฆเอ่ยย้ำขึ้นมาอีกครั้ง
"ใช่ลูก...หนูข้าวรีบไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ ไว้วันหลังก็ได้ลูก" ณัฐณิชาเอ่ยบอกอีกที
"ไปเถอะ!...ผมลาน่ะครับคุณพ่อคุณแม่" ปุยเมฆคว้าเเขนของต้นข้าวแล้วรีบพาเดินออกไปที่รถทันที
"ขับรถดีดี น่ะลูก!" ณัฐณิชาเอ่ยขึ้นตามหลังอย่างเป็นห่วง
"มีอะไรกันหรือค่ะคุณพ่อคุณแม่ เสียงดังกันเชียว เมฆมาหรือค่ะ เหมือนนุ่นได้ยินเสียงรถ" ปุยนุ่นเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน เมื่อได้ยินเหมือนจะเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น
"ใช่ลูก..." ณัฐณิชาหันมาคำตอบกับลูกสาว
"อ้าว!...มาแล้ว ทำไมถึงรีบกลับล่ะค่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าค่ะ" ปุยนุ่นถามขึ้นอย่างสงสัยว่าทำไมน้องชายถึงต้องรีบกลับไป
"พ่อหนูข้าวเกิดอุบัติเหตุ เลยต้องรีบไปโรงพยาบาลกัน" นรวิชญ์หันมาตอบลูกสาว
"หนูข้าว!" ปุยนุ่นเลิกคิ้วอย่างสงสัย
"ก็หนูต้นข้าว ผู้ช่วยคนใหม่ของตาเมฆยังไงล่ะ ที่ลูกเห็นอยู่ที่บริษัทวันนี้ไง" นรวิชญ์จึงต้องชี้แจงให้ลูกสาวฟังอีกรอบ
"อ๋อ...ผู้ช่วย! แล้วทำไมถึงมากับเมฆได้ล่ะค่ะ นี่ก็ไม่ใช่เวลางานนี้ค่ะ" ปุยนุ่นถามขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจอีกครั้ง เพราะว่าน้องชายไม่เคยให้ใครตามติดชีวิตขนาดนี้
"ไว้วันหลังเราค่อยถามน้องกันน่ะ..." นรวิชญ์บอกลูกสาว แล้วพากันเดินไปที่โต๊ะอาหาร "ไปทานข้าวกันเถอะ"
"พ่อเธอถูกส่งไปที่โรงพยาบาลไหน?" ปุยเมฆเอ่ยถามเมื่อขับออกมาบนถนนเส้นหลัก
"น้ำ...บอกว่าโรงพยาบาลXXX ตอนนี้ก็น่าจะถึงแล้ว" หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงรู้สึกเป็นวิตก
"นั่นมันโรงพยาบาลของลุงหมอฉันเอง ไม่ต้องห่วง ฉันจะโทรบอกลุงหมอก่อน" เสียงทุ้มเอ่ยบอก พร้อมกับกดโทรศัพท์มือถือต่อสายหาลุงของเขาทันที
[ว่าไง!...หลายชายสุดหล่อของลุง]
"ลุงหมอครับ!...ลุงอยู่ที่โรงพยาบาลหรือเปล่าครับ พ่อเพื่อนผมเกิดอุบัติเหตุกำลังถูกส่งตัวไปที่นั้น ฝากลุงช่วยหน่อยครับ"
[เดี๋ยวลุงลงไป น่าจะเป็นเคสเดียวกันที่ห้องฉุกเฉินพึ่งจะต่อสายมาเมื่อกี้]
"ครับ...ผมกำลังรีบไปครับ ขอบคุณลุงหมอมากครับ"
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
เมื่อวางสายจากผู้เป็นลุง ปุยเมฆจึงตีไปเลี้ยวเข้าจอดข้างทางทันที แล้วหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาจากเกะรถ พร้อมกับจ้องมองไปที่ใบหน้าของหญิงสาว
"หลับตาลง...ถึงแล้วฉันจะบอก" ปุยเมฆเอ่ยบอกให้ต้นข้าวปิดตาให้สนิท แล้วเอาหูฟังใส่หูให้กับต้นข้าว เพราะเขาจะได้เร่งความเร็ว
ต้นข้าวทำตามอย่างว่าง่าย เมื่อรู้ว่าซุปตาร์หนุ่มกำลังจะทำอะไรตาอจากนี้ แต่มือบางอันสั่นเทายังคงกำหมัดแน่น สายตามคมเมื่อเห็นดังนั้น จึงเลื่อนมืออีกข้างของเขา ไปกุมมือของเธอมาวางไว้ที่ตักของตักของเขาแทน และจับประสานกันไว้แน่น แล้วรีบออกตัวรถทันที เพื่อที่จะให้ถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
เจ้าสาวปริศนา(จบ)วันนี้เป็นวันที่ซุปตาร์หนุ่ม อย่างปุยเมฆจะแถลงข่าวประกาศสละโสดอย่างเป็นทางการ และเตรียมเข้าพิธีวิวาห์ที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์ที่จะถึงนี้"ไงไอ้ว่าที่เจ้าบ่าว...แหม่ ปิดกูเงียบเชียวน่ะ" ชีโน่ถามขึ้น เมื่อวันนี้รู้ข่าวว่าชายหนุ่มจะแถลงข่าว บอกข่าวดีกับทุกคน"ก็อยากเซอร์ไพรส์มึง แต่มึงก็รู้ก่อน" ปุยเมฆเฉไฉตอบออกไป"ดีใจด้วยน่ะ ต้นข้าวก็น่ารักดี" ชีโน่ตบไหล่เพื่อนเบาๆ"..." ปุยเมฆไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกลับไป แล้วเดินไปหาหญิงสาวทันที ที่ห้องของประธานบริษัทชายหนุ่มเปิดประตูเข้ามา ก็รีบเข้าไปสวมกอดหญิงสาวจาดทางด้านหลังทันทีอย่างคิดถึง"เหนื่อยไหมครับวันนี้" ปุยเมฆถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง"ไม่ค่ะ...พี่พร้อมน่ะค่ะ ข้าวจะออกไปชงกาแฟเตรียมไว้ให้ค่ะ""เฮ้อ...ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแหล่ะ เค้าบอกนักข่าวไปไม่ได้เหรอครับ ว่าอ้วนคือเจ้าสาวของเค้า"ชายหนุ่มเอ่ยเสียงออดอ้อน"ไม่ได้ค่ะ พี่ต้องบอกว่าเจ้าสาวคือลูกสาวท่านประธาน ข้าวอยากเซอร์ไพรส์ทุกคนในงานแต่งทีเดียว ดีเสียอีกสำนักข่าวไหนเอาข่าวไปลงมั่ว ข้าวจะให้พ่อไปร์ไล่ฟ้องให้หมดเลยคอยดูสิ" หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาอย่างมุ่งมั่น"ร้ายนักน่ะ ไปแอบรวมห
ทุกอย่างคลี่คลาย"นี่มันเรื่องอะไรกันครับอ้วน เค้างงไปหมดแล้ว..." ปุยเมฆเอ่ยถามทุกคนที่นั่งอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา และหันมาสบตากับคนข้างๆกายอย่างต้องการคำตอบที่ชัดเจน ว่าทั้งหมดนี้คือเรื่องอะไรกัน"แหม่...มีเรียกแทนกัน มีอง มีอ้วน มีเค้าอีก เรียกกันหวานขนาดนี้ แต่ไม่ขอน้องเขาเป็นแฟนสักทีน่ะเมฆ" ปุยนุ่นเเซวน้องชายขึ้นมาทันที"ตัวแสบมานั่งข้างๆพ่อนี้ แล้วก็เงียบด้วย" นรวิชญ์เอ่ยสั่งลูกสาวทันที"พี่พร้อมจะฟังที่ข้าวและทุกคนเล่าหรือยังค่ะ" หญิงสาวถามขึ้นพร้อมกับสบตากับชายหนุ่ม"ครับ" ปุยเมฆพยักหน้ารับ และนั่งกุมมือของหญิงสาวไว้"พี่ก็รู้มาตั้งนานแล้วเนอะ ว่าข้าวไม่ใช่ลูกของพ่อไตร เพราะวันนั้นพี่ก็อยู่ที่นั้นด้วย แถมพี่ยังเป็นคนช่วยบริจาคเลือดให้พ่อไตรอีก" หญิงสาวเอ่ยขึ้น"แล้วพี่พัด เกี่ยวอะไรกันกับอ้วนด้วยล่ะ ถึงเรียกเค้าว่าน้องเขย" ปุยเมฆเริ่มเข้าประเด็นก่อน"ใจเย็นๆก่อนสิลูก ทุกคนจะค่อยๆเล่าน่ะ" นิชาเอ่ยห้ามลูกชายไว้ก่อน"จริงๆแล้ว หนูข้าวคือลูกสาวแท้ๆของลุงกับราณีเองแหล่ะ แล้วที่ลุงเรียกหนูข้าวไปพบบ่อยๆ ก็เพราะเรื่องนี้เองแหล่ะ" นพคุณจึงเป็นคนเล่าบอกกับปุยเมฆต่อ"อะไรน่ะครับ!" ปุยเมฆเ
สารภาพรักเมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล ต้นข้าวถูกส่งเข้าห้องทุกฉุกเฉินทันที ปุยเมฆได้แต่ยืนรอที่หน้าห้อง แล้วถอดหมวกถอดหน้ากากออกสักพักประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก และหมอเดินออกมา พร้อมกับถามขึ้น"ใครเป็นญาติของคุณณัฐนรีค่ะ""ผมเองครับ คนที่พาณัฐนรีมา" ปุยเมฆเอ่ยตอบ เเล้วรีบเข้าไปถามหมอต่อทันทีหมอสาวยืนนิ่งสตั้นไปทันที เมื่อเห็นว่าชายร่างสูงตรงหน้านั้นเป็นใคร"นี่ไม่ได้ถ่ายรายการอะไรใช่ไหมค่ะ" พยาบาลเอ่ยถาม แล้วหันไปมองซ้ายแลขวา"เรื่องจริงครับ เธอเป็นอะไรเหรอครับ เอ่อ พอดีเธอเป็นลมที่กอง ผมอยู่ตรงนั้นพอดีครับ" ปุยเมฆไม่พูดอะไรยาว"ตามหมอเข้ามาในห้องค่ะ" หมอสาวเอ่ยบอก แล้วเดินนำหน้าซุปตาร์หนุ่มไปที่ห้อง เพราะไม่อยากให้คนแตกตื่นที่ซุปตาร์หนุ่มอยู่ที่นี่"คนไข้มีแฟนไหมค่ะ" หมอถามขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเข้ามาภายในห้อง"ถามหาแฟนเธอทำไมครับ" ปุยเมฆเลิกคิ้วถามเพราะไม่เข้าใจว่าหมอจะถามหาแฟนของหญิงสาวทำไม เขาอยากจะตอบออกไปส่าเขานี้แหละคือแฟนของเธอ แต่เขาก็ไม่กล้า เพราะขนาดจะขอเธอเป็นจนป่านนี้แล้วยังไม่กล้าเอ่ยปากบอกเลย"คนไข้กำลังตั้งครรภ์อยู่ค่ะ" หมอเอ่ยตอบ"อะไรน่ะครับ! ท้องงั้นเหรอ" ปุยเมฆเบิกตากว้
ความจริงตกดึกปุยเมฆย่องเบาออกจากห้องพักของตัวเอง เดินออกไป มุ่งตรงไปทางห้องพักของหญิงสาวที่อยู่อีกฟากหนึ่งที่อดีตซุปตาร์ดังอย่างนรวิชญ์ได้จัดเตรียมไว้ให้ เพราะการถ่ายทำครั้งนี้เป็นเขาที่รับผิดชอบเองทั้งหมดเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของหญิงสาว ปุยเมฆรีบไขกุญแจเปิดเข้าไปทันที อย่างไม่รอช้า เพราะเกรงว่าคนอื่นจะมาเห็นเข้า ร่างสูงย่องเข้าไปอย่างเบาๆ หาคนที่หลับสนิทอยู่บนที่นอน โดยไม่ได้รู้ถึงผู้บุกรุกเข้ามาเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนหนาคว้าตัวหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของตนทันที"อื้อ..." เสียงร้องอู้อี้ของหญิงสาวประท้วงขึ้นมา เมื่อร่างกายถูกรบกวน"ชูว์...อ้วนครับ" ร่างสูงกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาว"พี่เมฆ มาได้ยังไงค่ะ" หญิงสาวถามขึ้นทันที เมื่อพบว่าคนที่ขึ้นมานอนกอดเธอนั้นเป็นใคร"อ้วนลืมไปแล้วเหรอครับ ว่าเค้ามีกุญแจน่ะ" เสียงพูดบอกเบาๆที่ข้างหู"แล้วมาทำไมดึกขนาดนี้ค่ะ ข้าวจะนอน" หญิงสาวงัวเงียวถามออกไป"คิดถึงอ้วนครับ นอนคนเดียว เค้านอนไม่หลับเลย" ร่างสูงเอ่ยตอบ พร้อมกับกอดกระชับแน่นขึ้น"นอนเฉยๆได้ไหมค่ะ วันนี้ข้าวเพลียมากจริงๆ" เสียงหวานเอ่ยบอก"ครับ...เค้าตามใจอ้วนน่ะ
ปุยเมฆ Come Backสามเดือนต่อมาวันนี้ครบกำหนดการกลับมาทำงานอีกครั้งของซุปตาร์หนุ่มอย่างปุยเมฆ และต้องเดินทางไปขึ้นไปทางภาคเหนือของประเทศอีกเช่นเคย"พ่อครับ...ให้ต้นข้าวพักอยู่กับเมฆไม่ได้เหรอ ทำไมต้องแยกห้องด้วย พ่อก็รู้ว่ากองนี้ผู้ชายเยอะ" ปุยเมฆเอ่ยถามบิดา เมื่อเข้ามาถึงที่พักที่ทางทีมงานจัดเตรียมไว้ให้"พ่อรู้ หรือลูกอยากให้คนที่กองรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกลูกเหรอ ไม่ต้องห่วงหรอก พ่อแยกโซนของหนูต้นข้าวให้แล้ว" นรวิชญ์เอ่ยบอกลูกชาย และเหตุผลที่ต้นข้าวขอไว้ จึงทำตามที่ได้ตกลงกันไว้"ที่คุณพ่อ ยังพาคุณแม่มาอยู่ด้วยได้เลย""ถ้าอย่างนั้น ลูกก็ไปบอกกับทุกคนสิว่าลูกคือใคร""..." ปุยเมฆหน้างอคอตกทันที เพราะทำอะไรไม่ได้"อ่ะ..." นรวิชญ์ยื่นกุญแจห้องพร้อมกับคีย์การ์ดให้แก่ลูกชาย"อะไรครับ" ปุยเมฆเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย"กุญแจไง...หรือไม่เอา""กุญแจ! ของผมก็อยู่นี้ไงครับ" ปุยเมฆเอ่ยบอก พร้อมกับชูของตัวเองให้ดู"..." นรวิชญ์จ้องหน้าลูกชาย"อ๋อ...ขอบคุณครับคุณพ่อ รักคุณพ่อที่สุดเลย" ปุยเมฆคิดอยู่สักพัก เมื่อนึกขึ้นได้รีบคว้ากุญแจมา พร้อมกับสวมกอดพ่ออย่างดีใจ"น้อยๆหน่อย ไม่งั้นพ่อจะไปประกาศให้ท
ที่ปรึกษารุ่งเช้า!ต้นข้าวลืมตาตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นคนร่างสูงที่นอนข้างกายเธอมาตลอดทั้งคืนแล้ว เพราะว่าชายหนุ่มลุกออกจากห้องไปตั้งแต่เช้ามืดก่อนที่เธอจะตื่น"พี่เมฆตื่นเช้าจังเลยน่ะค่ะ รับกาแฟไหมค่ะ" หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ห้องรับแขกของบ้าน"ไม่ครับ""แล้วพ่อล่ะค่ะ" หญิงสาวถามขึ้น ถึงพ่อของเธอ"อยู่สวนหลังบ้านครับ ส่วนน้ำก็ออกไปแต่เช้าแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยตอบหญิงสาวกลับไป เหมือนว่าที่นี่คือบ้านของตน"ถ้าอย่างงั้น ข้าวไปทำอาหารเช้าก่อนน่ะค่ะ" ต้นข้าวเอ่ยบอก แล้วเดินไปที่ครัว"..." ส่วนปุยเมฆก็ได้พยักหน้ารับหญิงสาวมัวแต่งัวเงียอยู่กับการทำอาหาร โดยไม่ได้สนใจคนร่างสูงเลย"ทำอะไรอยู่ครับ อื้ม หอม น่ากินจังเลย" ร่างสูงเดิมมาสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง แล้วแอบหอมแก้มหญิงสาวไปทีหนึ่ง"พี่เมฆ! นี่มันแก้มข้าวน่ะค่ะ ไม่ใช่กับข้าว กินไม่ได้ค่ะ" หญิงสาวรีบเอามือข้างหนึ่งลูบแก้มเธอ แล้วหันไปต่อว่าคนร่างสูง แล้วหันมาสนใจกับอาหารข้างหน้าต่อ"ก็กินมาแล้วทั้งคืนนี้ ลืมแล้วเหรอครับ" ปุยเมฆแกล้งแหย่ขึ้นมา"พี่เมฆ ปล่อยข้าวก่อน แล้วถอยออกไปได้แล้วค่ะ" หญิงสาวเอ่ยบอกเพราะเธอไม่ถนัด