ใบหน้าของออร่าแทบสิ้นสีเธอแค่ต้องการหาหลักฐานสักอย่างมามัดตัวลูน่าให้รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ดันลืมไปว่าที่บลูเบย์วิลล่าไม่ได้มีเพียงสัญญาณของลูน่า แต่มันมีสัญญาณของโจชัวด้วย!“ใช่เลย” ลูน่าพิงหลังกับกำแพงขณะที่ถ้อยคำเหน็บแนมค่อย ๆ พ่นออกมาจากมุมปากสวย “ถึงแม้ว่าสัญญาณโทรศัพท์ของคุณลินช์มันจะถูกเข้ารหัส แต่หากหนึ่งในสองของสัญญาณยังมีอยู่ คุณก็แค่คอยติดตามมัน ส่วนข้อมูลนั่นก็บังเอิญเสียจริงที่มันรั่วไหลออกไป… ความสูญเสียที่ตามมาก็อาจมีมูลค่าหลายร้อยล้านเลย”หญิงสาวหน้าซีดเผือดทันที“พี่โจชัว ฉัน... ฉันไม่มีทางที่จะขายข้อมูลของคุณเด็ดขาด! ฉันแค่... แค่กังวลมากเกินไป ฉันแค่ต้องการหาหลักฐานของแผนการของลูน่า ก็เลย...” เมื่อเห็นท่าทีวิตกของออร่า ริมฝีปากบางของลูน่าก็ยกยิ้มเยาะ ขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงเล็ก ๆ ของเนลลี่ก็ลอยออกมาจากห้องคนไข้“คุณน้าคะ...”ทันทีที่ลูกสาวเรียก ลูน่าก็ละทิ้งทุกอย่างและผลักประตูเข้าไปในห้องคนไข้ตรงทางเดินจึงเหลือเพียงโจชัวและออร่า“พี่โจชัวคะ...” ออร่าโอดครวญพลางมุ่ยหน้าพยายามทำตัวไม่ให้น่าสงสัย “ฉันผิดเอง...”“มันยังไม่ใช่เวลาที่จะมาข
ขณะที่เธอเอนกายนอนลงบนเตียงสีชมพูเล็ก ๆ เนลลี่กะพริบตาและจ้องมองผู้เป็นพ่อ “คุณพ่ออยู่กับหนูนานเกินไปแล้วนะ เรียกคุณน้ามาเล่านิทานให้หนูฟังก็พอแล้วค่ะ!”โจชัวหยิบหนังสือนิทานออกมา “พ่อก็เล่านิทานได้นะ”เด็กน้อยตะลึง“คุณพ่อโกหก! หนูเคยฟังคุณพ่อเล่านิทานมาก่อน!” เด็กน้อยยื่นมือออกไปเขย่าแขนเสื้อของชายหนุ่ม “หนูอยากฟังนิทานจากคุณน้า คุณพ่อคะ ตามคุณน้ามาให้หน่อยนะคะ...”หลังจากที่เธอร้องขอเขาอีกครั้ง สุดท้ายโจชัวก็ยอมเดินออกไปอย่างผิดหวังสุด ๆลูน่ายืนอยู่ตรงโถงทางเดินนอกประตูกำลังรอให้โจชัวออกมาจากห้องของเนลลี่ชายหนุ่มเปิดประตูออกมาและมองลูน่าด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเดินออกไปลูน่าส่ายหัวเหนื่อยใจก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง“คุณแม่” เนลลี่โผซบผู้เป็นแม่ก่อนเสียงเล็ก ๆ จะเอ่ยอย่างแผ่วเบา “วันนี้คุณพ่ออ่อนโยนเป็นพิเศษใช่ไหมล่ะคะ? เหมือนเขากลัวที่จะสูญเสียพวกเราไปเลยค่ะ”“สิ่งเดียวที่เขากลัวจะเสียไปคือลูกต่างหาก” ลูน่าค่อย ๆ วางเด็กหญิงตัวน้อยกลับลงไปบนเตียงและดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้อย่างอ่อนโยน “แม่หมดความรู้สึกกับเขาไปนานแล้ว เหตุผลเดียวที่ทำให้แม่ยังอยู่กับเขาค
“ทำไม?”ขณะที่เขาสังเกตเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของเด็กน้อย ริมฝีปากชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม “แปลกใจที่ได้เจอฉันขนาดนั้นเชียว?”นีลกลืนน้ำลายก่อนจะพยักหน้ารับอย่างไม่คิดปิดบัง “ก็มันแปลกใจจริง ๆ ...”ชายหนุ่มตามหาเขาเจอได้อย่างไร?“ดูเหมือนว่าฉันไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวแล้วสิ” ชายหนุ่มหยิบแก้วสะอาดมาแล้วรินเบียร์ลงไปด้วยท่วงท่าที่ดูสง่างามน่ามอง “ในเมื่อเธอช่วยลูกสาวฉันไว้ ทำไมถึงหนีฉันไปล่ะ?”“เปล่าสักหน่อย ผมไม่ได้หนีคุณนะ” นีลหันหน้าหนีอย่างรู้สึกผิดและไม่กล้าสู้หน้าชายตรงหน้าถึงแม้ว่าเขาจะตำหนิคนตรงหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเป็นคนไม่เอาถ่าน แต่นีลก็ยังคงรู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจเมื่อจู่ ๆ เขาก็มาโผล่ตรงหน้าแบบนี้อยู่ดีโจชัวหัวเราะเบา ๆ “ไม่ได้หนีฉันจริง ๆ น่ะเหรอ?”นีลกระแอมไอเล็กน้อย “ผมเป็นพวกปิดทองหลังพระ”“ไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ แต่แม้แต่ร่องรอยใด ๆ หนูก็ไม่ทิ้งเอาไว้เลยด้วยซ้ำ”คนของเขาตระเวนสืบค้นไปทั่วสวนสนุกและตรวจสอบทุกคนที่เข้า ออก แต่ก็ไม่มีใครเจอเด็กคนนี้นีลจิบน้ำส้มแล้วไม่ตอบอะไรโจชัวไม่ได้ติดใจอะไรนักกับคำถามก่อนหน้า เขาหยิบเหยือกน้ำส้มขึ้นมารินให้เต็มแก้วที่ว่างเป
นีลกลอกตามองขึ้นและเดาว่าที่โจชัวถามเขาแบบนี้คงหมายถึงเนลลี่หรือพ่อไม่เอาถ่านนี่อยากจะชดใช้ให้กับเธอ?หนุ่มน้อยขมวดคิ้วยุ่งและนึกถึงสิ่งที่เนลลี่ได้เคยพูดไว้กับเขา“นีล ถ้าพี่กลับไปหาคุณพ่อ พี่อยากให้เขาทำอะไรให้เหรอ? ส่วนหนูอยากให้คุณพ่อเป็นเหมือนกับคุณแม่แบบว่าทำอาหารอร่อย ๆ ให้ทาน หวีผมให้ เลือกชุดตัวโปรด และเล่านิทานก่อนนอนด้วย!”…นีลชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะลบความคิดในสิ่งที่ผู้หญิงทำอย่างเช่น ‘หวีผมให้’ ออกไปจากหัวก่อนจะตอบว่า “ผมอยากให้พ่อทำอาหารให้ทาน เลือกชุดตัวเก่งให้แล้วก็เล่านิทานก่อนนอนด้วย”โจชัวเลิกคิ้ว “หนูยังอยากให้ใครสักคนเล่านิทานก่อนนอนให้ฟังอยู่อีกเหรอ?”เด็กชายคนนี้ดูโตพอที่จะเป็นฝ่ายเล่านิทานให้คนอื่นฟังเสียมากกว่า“แหงละสิ ผมอยากฟังนิทานก่อนนอน!” นีลเริ่มไม่สบอารมณ์ “ผมยังเป็นเด็กอยู่นะ! คุณไม่สามารถหนีความจริงที่ว่าผมเป็นเด็กหกขวบเพราะแค่ผมทั้งเท่ ฉลาด น่ารัก แล้วก็รูปหล่อหรอกนะ!”โจชัวไม่รู้จะพูดอะไรต่อ“ก็ได้”ชายหนุ่มจดบันทึกสิ่งที่นีลต้องการลงในโทรศัพท์มือถือและสั่งให้ลูคัสจัดการเมื่อเหลือบมองท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีจนมืดสนิท โจชัวก็ลุกขึ้นยืน “ดึกมาก
แกร๊ก!ร่างสูงโปร่งปรากฏที่ประตูห้องทันทีที่โจชัวเปิดเข้ามา เขาก็เห็นผู้หญิงนั่งอยู่บนบันไดปีนห้องใต้หลังคาเธอนั่งอยู่ตรงพื้นในขณะที่ตรงหน้าตักมีอัลบั้มรูปวางอยู่ หญิงสาวกำลังจ้องมองคนในรูปโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัวเธอสวมชุดนอนกระโปรงพริ้วสีเหลืองอ่อน ลอนผมยาวหยักโศกแผ่สยายลงมาถึงช่วงเอวที่โค้งเว้าทำให้ร่างของเธอดูอ้อนแอ้นและบอบบางภายใต้แสงไฟอันมืดสลัว ท่อนขาเรียวเปลือยเปล่าดูเย้ายวนและมีเสน่ห์ ในขณะที่เท้าขาวซีดเล็ก ๆ ของเธอกำลังสวมใส่รองเท้าสำหรับใส่ในบ้านรูปตัวการ์ตูนนุ่มฟูแบบเดียวกันกับของเนลลี่สายตาของชายหนุ่มที่กวาดมองภาพตรงหน้าหยุดลงผู้หญิงคนนี้ ดึกดื่นแล้วเธอยังคงไม่นอน มิหนำซ้ำมาโผล่อยู่กลางห้องทำงานเขาราวกับนางไม้จำแลงเช่นนี้ เธอกำลังจงใจยั่วยวนเขาอยู่หรือยังไง?เมื่อกลางวันเธอเกือบตายไปแล้ว และตอนนี้ค่ำคืนกำลังจะผ่านพ้นไป เธอตั้งใจจะทำอะไรกันแน่!คิดได้อย่างนั้นชายหนุ่มพลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นเย็นชาลงทันที เขาเดินเข้าไปและถามเธอ “เธอกำลังทำอะไร?”ลูน่ากำลังตกอยู่ในภวังค์ขณะที่กำลังดูรูปภาพอยู่ตรงบันได เธอจึงตกใจกับการมาถึงของชายหนุ่ม ลูน่าชักมือกระตุกด้วยความตกใจจนทำใ
เนลลี่กะพริบตาปริบ ๆ จากนั้นถึงตระหนักได้ว่าเธอพูดอะไรผิดไปเธอไม่กล้ามองหน้าพ่อจึงหันหน้าหนีไปอีกทาง “คุณแม่ตอนนี้เหรอคะ…”ก่อนที่จะพูดจบประโยค เธอก็เห็นลูน่ากำลังยืนอยู่ตรงทางเข้าห้องทำงานเสียงของเด็กน้อยกลืนหายไปในลำคอทันทีโจชัวหันไปมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงทางเข้า น้ำเสียงเขาไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “เธอมีอะไรจะพูดหรือเปล่า?”“ค่ะ”สีหน้าของลูน่ายังคงไม่แสดงอารมณ์ “สาวใช้ข้างล่างบอกว่าอาหารเช้าพร้อมแล้ว และอยากทราบว่าคุณหนูจะลงไปทานเมื่อไหร่คะ”“ถ้าหิวก็ทานก่อนได้เลย”เขาเหลือบมองเธอเคือง ๆ “เนลลี่กับฉันเสร็จธุระเมื่อไหร่จะลงไปทานเอง”“ได้ค่ะ”เธอยิ้มและพยักหน้ารับ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปโดยไม่ลังเลหลังจากที่ลูน่าออกไป โจชัวจึงปิดประตูห้องทำงานลงและหันกลับมาถามเนลลี่ต่อ “เมื่อกี้หนูพูดว่าตอนนี้แม่เป็นยังไงนะ?” เนลลี่ชะงัก ก่อนจะแหงนหน้ามองผู้เป็นพ่อ “คุณแม่… ตอนนี้เธอน่าเกลียดค่ะ”เธอพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะหวนนึกถึงสภาพลูน่าแต่เดิม “ใบหน้าเธอเลวร้ายมาก มีรอยแผลเป็นเต็มไปหมด อีกทั้งยังต้องพันผ้าพันแผลไว้รอบหัวตลอดเวลาด้วย พ่อเห็นได้แต่ลูกกะตาเธอเท่านั้นแหละค่ะ”“บา
เมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า คิ้วของโจชัวก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยหลังมื้อเช้าเสร็จสิ้น เนลลี่กระโดดลงจากเก้าอี้ตัวเล็กของเธอ “หนูกลับห้องก่อนนะคะ!”สิ้นเสียงเล็ก ๆ เด็กน้อยก็ขึ้นบันไดไปลูน่านั่งอยู่บนเก้าอี้จ้องมองผมหางม้าของเด็กน้อยที่กวัดแกว่งไปมาขณะจ้ำอ้าวขึ้นบันไดพลางส่ายหัวไปมาเบา ๆ อย่างอดไม่ได้เด็กอย่างไรก็คือเด็กที่อารมณ์เปลี่ยนไปมารวดเร็วราวกับพายุจากท่าทีของเธอตอนนี้ ดูเหมือนจะลืมเรื่องราวเมื่อวานนี้ไปเสียแล้วสักพักเธอก็ลุกขึ้นยืนและเตรียมที่จะขึ้นไปข้างบน“เดี๋ยวก่อน”ทันทีที่เธอลุกขึ้น โจชัวก็เรียกเธอลูน่ามองชายหนุ่ม “มีอะไรจะพูดกับฉันหรือเปล่าคะ คุณลินช์?”“มีสิ”โจชัวกระแอมไอเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย “ฉันอยากทำอาหารให้เนลลี่”เขายังจำคำพูดของเด็กชายตัวน้อยเมื่อคืนนี้ได้“ถ้าพ่อแท้ ๆ ของผมมาอยู่ตรงหน้าล่ะก็ ผมหวังว่าเขาจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ผมทาน เลือกชุดตัวเก่งให้และเล่านิทานก่อนนอนให้ฟังสักเรื่องครับ”ถึงแม้ว่าเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายอาจจะมีความต้องการที่แตกต่าง แต่เพื่อเนลลี่ อย่างน้อยเขาก็ต้องลองดูเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เนลลี่กลับมาหาและเขาไม่เคยให้ของขวัญสักชิ้
“คุณซิมเมอร์”ลูน่าขยิบตาให้แอนน์ จงใจทักทายเธอเหมือนกับว่าเป็นเพียงแค่คนรู้จักกัน “ออกมาซื้อของเหมือนกันเหรอคะ?”แอนน์ขมวดคิ้วกำลังจะเอ่ยปากตอบ ในตอนที่โจชัวซึ่งยืนอยู่ตรงข้ามเธอเหลือบมองนีลเล็กน้อย “เราเจอกันอีกแล้วนะ”ต่อหน้าลูน่า นีลไม่กล้าพูดอะไร และทำได้แค่เพียงยิ้มให้เขาอย่างเขินอาย “... ครับ เจอกันอีกแล้ว”แอนน์ช็อคจนพูดไม่ออกเกิดอะไรขึ้น?ลูน่าดูสนิทสนมกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นโจชัว ลินช์?แถมนีลยังรู้จักกับโจชัวอีก?เธอยิ้มเจื่อน “แหม ดูเหมือนทุกคนจะรู้จักกันหมดเลยนะคะ...”“สวัสดีครับ”โจชัวเพิ่งสังเกตเห็นผู้หญิงที่กำลังเข็นนีลอยู่ “คุณคือแม่ของเด็กคนนี้เหรอ?”แอนน์ “???”แม่ของเด็กก็อยู่ข้าง ๆ เขาไง!“นี่ไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของผม น้าแอนน์เป็นแม่ทูนหัว”นีลพูดแทรกขึ้น “แม่ของผมเธอยุ่งอยู่กับการทำงานพาร์ตไทม์และไม่มีเวลามาดูแล ผมเลยต้องมาอยู่กับแม่ทูนหัวนี่แหละครับ”คำพูดของเด็กน้อยทำให้แอนน์กลืนคำพูดที่จะเอ่ยกลับเข้าไปจนหมดเธอกระแอมไอเล็กน้อย พูดคุยเล่นกับลูน่าอีกนิดหน่อยและรีบเข็นนีลออกไปโจชัวคอยมองแอนน์และนีลจนกระทั่งพวกเขาเดินไปจนลับสายตาก่อนที่จะหันหลังกลับ“