แชร์

ตอนที่ 3 กู่เฟิงหลี่ (2)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-23 15:35:45

พรึ่บ!

หลี่เหม่ยถิงยกมือเป็นสัญญาณเงียบเสียง ในโรงเรียนนี้ยังมีใครกล้าไม่เชื่อฟังบ้าง? คำตอบคือไม่มี สถานที่นี้เป็นเหมือนแหล่งพักพิงระบายความกดดันจากที่บ้าน เธอเปรียบเสมือนจักรพรรดินีในโลกของเด็กวัยรุ่น

“ไหนดูสิ เหอจูอิ๋ง เหอจูอิ๋ง ห้อง 304 เกิดที่ซานตง พ่อแม่ อืม…ข้ามไปก่อน อันนี้น่าสนใจเป็นตกขาวเพราะล้างทำความสะอาดน้องสาวไม่ดี” หนังสือในมือลดต่ำ เหลือบตามองทางเบื้องล่าง จุปากส่ายหน้าไปมา

“กรี๊ดดดดด อ๊ายยยย อย่าไปฟังมันนะ มันโกหก อีบ้าแกอย่ามาใส่ร้ายฉัน” เหอจูอิ๋งตกใจจนแทบจะฉี่ราด แม้แต่เรื่องแบบนี้มันรู้ได้ยังไง เธอไม่ได้เป็นตกขาวเพราะว่าทำความสะอาดไม่ดีแต่เธอเป็นเพราะเกิดจากสาเหตุอื่นต่างหาก

ปึก!

“เซี่ยวเฉ่า ” เสียงเอ่ยพร้อมแสยะยิ้ม บ่งบอกให้รู้ว่าไม่ใช่ว่าหลี่เหม่ยถิงไม่รู้สาเหตุแต่แค่ยังไม่ได้พูดออกมา

เหอจูอิ๋ง แข้งขาอ่อนแรงไถลลงไปนั่งแหมะกับพื้นหมดมาดดอกไม้งามประจำโรงเรียน เด็กสาวรีบกระถดตัวยื่นมือไปข้างหน้า

“ประธานหลี่ พี่ใหญ่หลี่ ไม่ใช่สิ ย่าหลี่!!!… ต่อไปฉันไม่กล้าอีกแล้ว ท่านผู้ยิ่งใหญ่ปล่อยฉันไปสักครั้งเถอะนะ”

โฮฮฮฮ

เหอจู่อิ๋งตกใจจนไม่เหลือสติจริง ๆ แล้ว ใช่สาเหตุที่เธอเป็นตกขาวเพราะลักลอบมีความสัมพันธ์กับไป๋กวานจง ต้นหญ้าของโรงเรียน ชายล้วนฝั่งตรงข้าม

ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปแล้วรู้ถึงหูคู่หมั้นของเธอเข้า เธอจบเห่แน่ ผู้หญิงที่มานอนบนเตียงแทนเพื่อนร่วมหอคนหนึ่งคือน้องสาวของไป๋กวานจงที่น้อยคนนักจะรู้จัก ถ้าเรื่องแดงต่อให้มี 10 ปากหรือกระโดดล้างตัวในแม่น้ำเหลืองก็แก้ต่างให้ตัวเองยากแล้ว

“บรรพบุรุษหลี่ปล่อยฉันไปเถอะ ต่อไปพี่ใช้ฉันทำอะไรฉันยอมเป็นม้าเป็นวัวให้พี่ไม่มีบิดพริ้ว”

หลี่เหม่ยถิงกดหน้าลงมองคนกอดขาเธอร้องไห้ขอความเมตตาอย่างเย็นชา สมองกำลังคำนวณผลได้ผลเสียของการเปิดเผยข้อมูล

หากต้องการยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้โดยไม่พึ่งพาใคร เธอต้องการเครือข่าย

การเอาแต่อารมณ์สร้างศัตรูรอบตัวแบบที่ผ่านมาไม่ใช่หนทางที่ดีนัก อย่าลืมว่าเรียนจบออกไปยังมีสังคมที่ใหญ่กว่ารออยู่ ทั้งชีวิตมหาวิทยาลัยและการทำงานในอนาคต

“8 โมงเช้า ห้องสภานักเรียน อย่ามาสายล่ะ” กระซิบบอกให้ได้ยินกันเพียงสองคน

“รับทราบค่ะ ฉันจะไปให้ตรงเวลา” แต่ดันมีคนไม่รู้ความตะโกนรับปากเสียงดังจนได้ยินกันทั่วระเบียงทางเดิน

“หอแรก การตรวจตราจบเพียงเท่านี้”

กรอกตาอย่างหน่ายใจรอบหนึ่งก็ถึงเวลาตรวจหอที่เหลืออีก 2 แห่ง ใช้เวลาเพียงไม่นานพวกนักเรียนในหอที่เหลือทำตัวสงบเสงี่ยมเหมือนลูกแกะเชื่อง ๆ คงเพราะข่าวความวุ่นวายจากหอแรกกระจายถึงกันทั่วแล้ว

“ประธานคะ” ก่อนจะแยกย้ายกันกลับห้องพักจ้าวลี่จูเอ่ยปากรั้งไว้ก่อน

“ว่าไงเลขาจ้าว ไม่สิลี่จู”

หลี่เหม่ยถิงเปลี่ยนคำเรียกขานอีกทั้งยังลดน้ำเสียงให้อ่อนลง ทำเอาจ้าวลี่จูตกตะลึงจนลืมคำถามที่จะถามอีกฝ่ายไปเสียสนิท

‘เป็นเลขาพ่วงตำแหน่งมือขวาให้ประธานหลี่มา 2 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ประธานยอมเรียกชื่อของฉัน’ ในใจของจ้าวลี่จูสับสนอลหม่านด้วยความลิงโลดดีใจ

เธอนั้นทั้งเคารพ นับถือในความสามารถ และขอบคุณในน้ำใจของประธานหลี่อยู่เสมอ แต่ไม่กล้าอาจเอื้อมทำตัวสนิทสนมด้วยเพราะรำลึกถึงบุญคุณของท่านประธาน

2 ปีก่อนบ้านของเธอเกิดวิกฤติทางการเงิน จนอาจจะเกือบถึงขั้นล้มละลาย ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงที่จบมัธยมต้นพอดี จึงคิดกันไว้ว่าเธอคงไม่ได้เรียนต่อจนกว่าทางบ้านจะพ้นวิกฤติ หรืออาจจะไปเรียนโรงเรียนเล็ก ๆ แถวที่อยู่ใหม่ที่จะย้ายไปแทน

“เธอสนใจรับทุนการศึกษาไหม?” เสียงเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์แต่ความหมายของคำพูดเปรียบเหมือนการโยนขอนไม้ให้เธอเกาะในยามที่กำลังจะจมน้ำ

“รับค่ะ คุณจะให้ฉันทำอะไรตอบแทนฉันยอมทั้งนั้น“ ตอนนั้นแม้ขายวิญญาณให้ภูตผีก็ยอมแลกเพื่อให้ได้เรียนต่อ

“ไม่ยากอะไรหรอก พอดีปีหน้าฉันจะสมัครไม่สิ จะเป็นประธานนักเรียนน่ะ มาเป็นผู้ช่วยให้หน่อยสิ”

“ได้ค่ะ”

นั่นเป็นสัญญาณและจุดเริ่มต้นของรัชสมัยจักรพรรดินีหลี่ ใครจะคิดว่าสาวแว่นเฉิ่มเชยที่ทำตัวเงียบเชียบเรียบร้อย จะกลายมาเป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนประจำหญิงที่เต็มไปด้วยบุตรหลานผู้มีอำนาจตระกูลใหญ่เบื้องหลัง แถมยังคุมเสียอยู่หมัดภายใต้กำปั้นเหล็กเล็ก ๆ นั่น จนไม่มีใครกล้าหือกล้าอือ

“ฮ่าฮ่า ทำไมตกใจอะไรหืม…” เสียงกลั้วหัวเราะทำให้จ้าวลี่จูกลับมาจดจ่อกับสถานการณ์ตรงหน้า

“ประธานดูแปลกไปนะคะ วันนี้ดูผ่อนคลายกว่าที่ผ่านมา” ดูสุขุมขึ้น บรรยากาศรอบตัวไม่ได้ดุร้ายจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้อีก

“อย่างนั้นเหรอ…คงเพราะหูตาสว่าง ความคิดเลยเปลี่ยนไปมั้ง อ้อ…เรียกฉันว่าเหม่ยถิงก็ได้ เรียกแต่ประธานประธาน หน้าฉันดูแก่รึไง ยังไงก็รุ่นเดียวกัน”

“ประ…”

“เรียกเหม่ยถิงเถอะ…นี่เธอชอบเดินทางหรือเปล่า”

“ชอบ ชอบค่ะ จะให้ฉันทำอะไรเหรอคะ จะให้ไปที่ไหนไปได้ทั้งนั้นเลยค่ะ”

“ฮ่าฮ่า พูดช้า ๆ ก็ได้ลิ้นพันกันหมดแล้ว อืม…จะว่าไงดี ฉันกำลังจะทำการค้า อยากได้ผู้ช่วย อาจจะต้องเดินทางบ่อยสักหน่อยส่วนใหญ่ก็ไปด้วยกันนี่ล่ะ สนใจไหม”

“ทำค่ะ ไปค่ะให้ฉันได้เป็นผู้ช่วยประธานเถอะนะคะ”

“นี่ลี่จู บอกให้เรียกเหม่ยถิงไง”

เสียงใสกังวานของเด็กสาวสองคนดังตัดความเงียบยามค่ำคืนในแคมปัสเล็ก ๆ ของโรงเรียน

เด็กสาวที่ในอนาคตคนหนึ่งจะเปรียบเสมือนจักรพรรดินีผู้กุมบังเหียนแวดวงการค้ากับวงสังคมชั้นสูงของจีน อีกคนคือผู้ช่วยมือทองของจักรพรรดินีที่ไม่มีอำนาจใดมาสั่นคลอนได้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   บทส่งท้าย (2)

    ตอนนี้ความกระสันต์สูงเสียดฟ้าจนอยากจะพุ่งตัวตนเข้าฝากฝังในช่องทางรักหวานฉ่ำแล้วปลดปล่อยตัวตนไปกับความปรารถนาอันลิงโลดนี้“ภรรยา…ช้าหน่อยครับ เดี๋ยวสามีทนไม่ไหวน้องจะเจ็บ” เสียงกระซิบแหบพร้าทุ้มก้องอยู่ริมหูเล็ก คนฟังรู้สึกว่ามันเซ็กซี่ทั้งยังอ้อยอิ่งราวกับตั้งใจออดอ่อยใส่กันแทนที่จะช้าลง ดวงตาดอกท้อของคนตัวเล็กกลับร้อนผ่าว ฝ่ามือขาวกดลงกลางหน้าอกกว้างให้ชายหนุ่มเอนตัวลงเท้าแขนกับโต๊ะกรุกระจก สะโพกอวบตั้งใจบดขยี้ให้ส่วนอวบนูนของวัยสาวถูไถกับส่วนหัวมังกรแดงก่ำที่โผล่พ้นขอบกางเกงในผ้าไหมขึ้นมา“ซี๊ด...อาห์”ได้ยินเสียงสูดปากพร้อมครางกระเส่าของคนตัวโตยิ่งทำให้หญิงสาวฮึกเหิมลำตัวเล็กเอนลงต่ำใช้ใบหน้าซุกลงดอมดมผิวเนื้อเรียบตึง จูบบ้างเลียบ้าง มือก็ลูบวนกดไปทั่วผิวเนื้อท่อนบนมือหนึ่ง อีกมือกลัวจะว่างจึงใช้ท้องนิ้วสะกิดยอดอกสีน้ำตาลอ่อนจนมันหดเกร็งฝ่ามือหยาบกร้านของคนด้านล่างยกขึ้นนวดคลึงภูเขาหิมะที่มียอดอิงเถาปัดผ่านกล้ามท้อง หญิงชายทั้งสองต่างนวดคลึงฟอนเฟ้นเรือนร่างเกือบเปลือยของกันและกันน้ำหนักมือเคล้นแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ที่เดือดพล่าน ผิวเนื้อสะโพกปลิ้นออกมาตามง่ามนิ้วเรียวยา

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   บทส่งท้าย (1)

    หลังบอกกล่าวกราบไหว้บรรพบุรุษของเจ้าสาว ยกน้ำชาให้กับผู้ใหญ่เริ่มจากพ่อ ปู่และอาจารย์ ฉินเฟยหลงก็อุ้มเจ้าสาวขึ้นรถท่ามกลางความเงียบ... พรืด... และเสียงสูดน้ำมูกของเกาอี้ “ฮึก...คุณหนูออกเรือนแล้ว” ไป๋จื้อหยางที่น้ำตาคลอมองขบวนรถขับออกไปจากบ้านตระกูลไป๋เก็บอารมณ์กลับแทบไม่ทัน มองสภาพบอดี้การ์ดร่างใหญ่ยักษ์กำลังยกผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาหัวไหล่สั่น ผ้าเช็ดหน้ามีคราบปริศนาเกาะหนึบ วงล้อมจึงแตกกระเจิงไปคนละทาง ทั้งผู้เฒ่าไป๋ ผู้เฒ่าติง ไป๋จื้อหยาง แม้แต่จ้าวลี่จูยังถอยเท้าเงียบ ๆ ส่วนเพื่อนอย่างหยางฝูเหว่ยเดินหนีไปนานแล้วตั้งแต่บอดี้การ์ดหนุ่มน้ำตาคลอ “เอ่อ...แต่อีกไม่กี่วันประธานก็กลับมาแล้วนะคะ” จ้าวลี่จูพูดความจริงที่ทุกคนลืมนึกไป ใช่... แต่งงานแล้วอย่างไร... อีกไม่กี่วันก็กลับมาอยู่ด้วยกัน เพียงแค่มีคนตามมาอยู่ด้วยอีกคน มีตะเกียบกับถ้วยข้าวเพิ่มมาอีกชุด เกาอี้เองที่ถูกอารมณ์อ่อนไหวพาไปก็หยุดร้องอ้าปากค้าง ฟืดดดดด... “นั่นสิ! เราก็ยังทำหน้าที่เดิม” คิดได้แล้วสั่งน้ำมูกที่เหลือเดินจากไปอย่างร่าเริง ไป๋จื้อหยางกับคนงานในบ้านถูกเบรกอารมณ์ก็แยกย้ายกันไป ทางด้านขบวนรั

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   ตอนที่ 75 ยกน้ำชา (2)

    3 วันต่อมา ลู่เจียจิ่วเป็นย่านเศรษฐกิจการเงินของเซี่ยงไฮ้ ทุกพื้นที่มีค่ายิ่งกว่าทองคำ บริษัทข้ามชาติ ตึกสูงเสียดฟ้า บ่งบอกเม็ดเงินลงทุนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดโดยปกติเวลาของผู้คนที่ทำงานในย่านนี้เป็นเงินเป็นทอง มีแต่ความเร่งรีบ วันนี้กลับต่างออกไปเพราะมีสิ่งที่น่าสนใจกว่าการทำเงินเกิดขึ้นที่ตึกเฮยอวิ๋นทีมมหรสพ กลองและปี่พาทย์ในชุดถังจวงสีแดงตั้งขบวนหน้าตึก ดนตรีถูกบรรเลงอย่างคึกคักตลอดระยะที่เริ่มมีการยกหีบสิ่งของออกมาจากประตูใหญ่ของตึก ขึ้นไปยังรถบรรทุกสีขาวปิดทึบที่ผูกซิ่วฉิวหน้ารถ พนักงานออฟิศของบริษัทต่าง ๆ ยินยอมเข้างานสายแต่ไม่กล้าเดินเบียดแทรกแถวเข้าไปในตัวอาคาร ได้แต่ยืนรักษาระยะอยู่ด้านนอก“นายครับได้เวลาแล้ว” ฉินเฟยหลงเดินออกมาจากลิฟต์ส่วนตัวด้วยชุดพิธีการสีแดง ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อย ๆ ประดับตลอดเวลาเจ้าบ่าวเดินนำขบวนไปขึ้นรถด้านนอก“เตรียมเคลื่อนขบวนไปรับเจ้าสาวได้!” ผู้นำพิธีการตะโกนเตือนเมื่อได้เวลาสมควร รถดนตรีที่มีเสาไม้ติดป้าย ‘ซวงสี่’ จึงกระหึ่มอีกระลอกขบวนรถหรูที่ถูกเปลี่ยนเป็นสีแดง 9 คัน เริ่มเคลื่อนตามออกไปติด ๆ คันนำหน้าเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนผูกซิ่วฉิวผ

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   ตอนที่ 75 ยกน้ำชา (1)

    รถของตระกูลไป๋ต้องเบรกกะทันหันเมื่อเลี้ยวเข้ามายังลานจอดรถ จู่ ๆ รถที่จอดอยู่หลายคันก็พร้อมใจกันถอยหลังจนมาล้อมกรอบรอบตัวรถของพวกเขาเป็นวงกลมปัง ปัง ปัง!สถานการณ์ยิ่งไม่ปกติเมื่อมีชายในชุดสูทนับรวมได้ 8 คน ลงมาจากที่นั่งข้างคนขับของรถที่ล้อมรถตระกูลไป๋อยู่กรี๊ด...“หลบเร็ว ตีกันแล้ว แจ้งตำรวจ!”“หนีเร็วเข้า อย่าไปยุ่ง”ไป๋จื้อหยางกอดลูกสาวแน่น“สืออิงติดต่อบอดี้การ์ดมาที่นี่ด่วน!”บอดี้การ์ดตระกูลไป๋ รวมถึงหยางฝูเหว่ยและเกาอี้ไม่ได้ตามมาเพราะเป็นเวลากลางวันและสถานที่อยู่ใจกลางเมือง ไป๋จื้อหยางจึงคิดว่าไม่น่าจะมีใครกล้าเล่นสกปรกไป๋เหม่ยถิงมองออร่าสีเขียวจากบุรุษบางคนที่ลงจากรถ ลองพิจารณาใบหน้าหลังแว่นกันแดดดี ๆ เหมือนจะเคยผ่านตามาบ้าง จึงนั่งนิ่งอยู่กับที่ใบหน้าเฉยเมย‘เฮียหลงกำลังจะทำอะไร?’“ถิงเออร์ลูกนั่งรอในรถ พอจะออกไปเจรจาดูสักหน่อยว่าผู้มาต้องการอะไร”ไม่ทันที่เธอจะห้ามคุณพ่อก็จับประตูรถเตรียมก้าวออกไป ประจวบเหมาะกับคนด้านนอกเริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกันพรึ่บ! ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง!ท้ายรถที่ล้อมกรอบทั้งหมดเปิดออก มีเสียงพลุขนาดเล็กแตกกระจายพร้อมสายรุ้งและกระดาษสีปลิวว่อน กุหลาบหลากสีถู

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   ตอนที่ 74 เตรียมงาน  (2)

    3 วันต่อมาตึกเซี่ยอวิ๋น 8 โมงเช้า“ฮ้าว...เหล่าจงนายมาสักที ข้าจะได้กลับไปนอนยาว ๆ” พนักงานรักษาความปลอดภัยของตึกกะกลางคืนทักเพื่อนที่มาเปลี่ยนกะแล้วเตรียมจะกลับเข้าไปตึกเซี่ยอวิ๋น“!!!”ตอนเปิดตาที่ปิดปากหาวยาว เขาตกใจจนขวัญเกือบกระเจิงเพราะบอดี้การ์ดในชุดฝึกสีดำราว 20 กว่าคนมายืนออกันเงียบ ๆ ตรงลานกว้าง แถมไฟของตึกก็ยังไม่เปิดจึงเห็นเป็นเงาตะคุ่ม“ตกใจหมดนึกว่าโจรปล้นตึก! พวกพี่ลงมาทำอะไรกันครับ” บอดี้การ์ดก็เป็นรุ่นพี่ที่ร่วมฝึกซ้อมกันทุกวัน ผลัดกันเปลี่ยนมาเฝ้าตึกกับออกไปทำภารกิจด้านนอกถ้าสังเกตดีต ๆ จะเห็นว่าเหล่าบอดี้การ์ดมีถุงใส่ของติดมือมาด้วย พอคนออกจากลิฟต์เที่ยวสุดท้ายครบก็กระจายกำลังกันเดินออกไปด้านนอกตึก‘ชุนเหลียน’ กลอนคู่มงคลแผ่นยาวสีแดง ที่เขียนด้วยมือจากปรมาจารย์ด้านการคัดอักษร ถูกติดตรงประตูทางเข้าตึกก่อนเป็นที่แรก ตามด้วยตัวอักษร ‘ฝู’ ที่แปลว่าความสุขติดกลับหัวตรงประตูกระจกสองด้านด้านนอกผ้าแดงและโคมกระดาษถูกนำไปห้อยประดับตามต้นไม้ตรงสวนหย่อมก่อนเข้าตัวตึกจนดูสดใสมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นซิ่วฉิวฮวามีชายยาวถูกนำไปแขวนอยู่เหนือประตูทางเข้าตึกด้านหน้า ด้านในมีทีมบอดี้การ

  • วัตถุโบราณตระกูลหลี่   ตอนที่ 74 เตรียมงาน (1)

    บ้านตระกูลไป๋ วันต่อมาอีก 1 อาทิตย์ ก็จะเป็นวันยกน้ำชาของทายาทตระกูลไป๋ ห้องนอนของไป๋เหม่ยถิงจะถูกปรับปรุงใหม่ สร้างตู้เก็บเสื้อผ้าเพิ่มเติมสำหรับฉินเฟยหลงห้องก็เปลี่ยนสีการตกแต่งใหม่ เป็นสีไม้กับครีม พรมเป็นสีน้ำตาลอ่อน เฟอร์นิเจอร์ใหม่ถูกสั่งเข้ามา วันนี้จะมีช่างกับทีมตกแต่งภายในเข้ามาทำในส่วนของบิวท์อิน“ประธานคะ มานั่งทำอะไรตรงนี้คะ แล้วดูแบบห้องที่ตกแต่งใหม่หรือยังคะ” จ้าวลี่จูเดินเข้าบ้านมาเห็นประธานสาวนั่งเท้าคางไร้ชีวิตชีวาอยู่ตรงโซฟารับแขก“ไม่ต้องดูหรอก ทำตามแบบไปนั่นล่ะ ฉันนั่งสะสมพลังอยู่น่ะไม่ต้องให้ใครมารบกวนนะ”ไป๋เหม่ยถิงโบกมือเอื่อย ๆ ตาปรือทำท่าจะปิด ไหนเลยสะสมพลังงานอะไร ทำท่าจะหลับอยู่เดี๋ยวนี้ที่เธอบอกว่าสะสมพลังนั้นพูดจริงแม้ลี่จูจะมองอย่างไม่เชื่อถือแล้วถอนหายใจ เลขาสาวไม่อยากต่อบทสนทนารีบไปดูช่างตกแต่งภายในต่อว่าที่เจ้าสาวปิดตาเอนหลังเข้ามุมพิงตัวกับแขนโซฟา รับรู้ถึงกระแสลมอุ่นจากหยกจักรพรรดิที่ค่อย ๆ ไหลผ่านจากต้นคอลงสู่ท้องน้อย เข้าสู่แสงสีขาวนวลขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวใบหน้าเรียบเฉยเปิดรอยยิ้มอ่อนโยน เมื่อรับรู้ความรู้สึกทั้งหมดนี้“คุณหนูครับ เจ้านายส่งช

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status