Beranda / แฟนตาซี / วันสิ้นโลกของผม / 01 การตื่นของพลัง [3/5]

Share

01 การตื่นของพลัง [3/5]

Penulis: 816
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-27 13:05:00

“ก็ใช่น่ะสิ เอาล่ะ ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวพี่ไปทำกับข้าวให้” ดาริณีลุกเดินเข้าครัว มุมปากยกยิ้มสนุก...รอให้เจ้าตัวเห็นเองจะดีกว่า

เฉินเฟิงไม่ทันเห็นรอยยิ้มประหลาดของพี่สาวข้างบ้านจึงเดินเข้าไปในห้องนอนตัวเอง คว้าเสื้อผ้าในตู้แล้วเดินตรงเข้าห้องน้ำ แต่พอจะถอดเสื้อผ้าออกจากหัวกลับรู้สึกว่าส่วนคอเสื้อไปเกี่ยวอะไรสักอย่างบนศีรษะ

อะไร?

ชายหนุ่มยกมือขึ้นจับ

“?!!”

ตึง ๆ

“แม่ พี่เฟิงต้องเห็นแล้วแน่เลย” เสียงดังตึงตังออกมาจากห้องนอนของชายหนุ่ม

“พี่เขาคงตกใจน่ะ ตอนเราเห็นครั้งแรกก็ตกใจเนอะ” หญิงสาวยิ้มขัน เชื่อว่าเจ้าตัวคงตกใจจนช็อกไปแล้ว

ไม่ผิดจากที่ดาริณีพูด เฉินเฟิงตกใจมากจริง ๆ ถึงกับต้องวิ่งไปเกาะกระจกเพื่อดูไอ้สิ่งที่มันติดอยู่บนหัวเขา!

ใช่! บนหัวเขามีบางอย่างโผล่ขึ้นมาไม่ใช่มีแค่เส้นผมเพียงอย่างเดียว

“เฮ้ย” แล้วทำไมผมของเขากลายเป็นสีขาว!

“นี่มันอะไรกันวะ!” ไหนจะดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ที่เตะตาเขาตั้งแต่แรกเห็นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ทั่วไปมีตั้งแต่เกิด เพราะบนศีรษะของเขากลับมีบางสิ่งบางอย่างงอกขึ้นมาเพิ่ม นั่นคือหูยาวสีขาวเหมือนกระต่ายต่างหากที่ทำให้เขาอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก

ใช่แล้วมันคือ หู-กระ-ต่าย

เชี่ย!

เขาไม่ใช่โฮโมเซเปียน[1]แล้วเหรอวะ?!

“พี่ดา” เฉินเฟิงเดินใจลอยออกมาจากห้อง สภาพหูตั้งสีขาวของเขาเรียกรอยยิ้มให้กับสองแม่ลูกได้เป็นอย่างดี “เกิดอะไรขึ้นกับผมเหรอครับ” เขาแค่หลับไปใช่ไหม?

หรือสองแม่ลูกแอบแกล้งเขา?

“ออกมาสภาพนี้พี่เขินนะ ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเถอะ” เฉินเฟิงเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าออกมาทั้งที่เพิ่งถอดเสื้อไป รีบหมุนตัวกลับเข้าห้องไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ทำใจไม่มองหูสีขาวที่กระดิกไปมา

คือจริง ๆ ก็สนใจแต่ไม่กล้ามอง

เฉินเฟิงใช้เวลาไม่นานจัดการตัวเอง ก่อนออกจากห้องก็ไม่ลืมหยิบฮู้ดสีเข้มแบบสวมมาใส่ทับไปอีกหนึ่งชั้นปกปิดใบหูกับผมสีขาวสว่าง ส่วนสีตา... ตอนนี้ยังอยู่ในบ้าน หากมีเหตุให้ต้องออกไปข้างนอกเขาคงต้องหยิบแว่นกันแดดมาใส่

“พี่เฟิงงง” เด็กชายดลเรียกพี่ชายเสียงดัง

“น้องดล แม่บอกให้เบาเสียงลงไงครับ” ดาริณีเตือน

“ขอโทษครับ” เด็กน้อยก้มหน้าลง เขาแค่ตื่นเต้นนิดเดียวเอง ก็พี่ชายเปลี่ยนร่างได้นี่นา

“เอ่อ…” เฉินเฟิงไม่รู้ควรเริ่มพูดจากตรงไหนก่อน

“กินข้าวก่อนเถอะ พี่ว่าเราคงหิวแล้ว” หญิงสาวรีบเอาอาหารขึ้นโต๊ะ เน้นหนักไปที่ผักและอาหารย่อยง่าย คิดว่าชายหนุ่มนอนหลับไปนาน ควรกินอาหารอ่อน ๆ ก่อน

“หิวมากจริง ๆ ครับ” เฉินเฟิงเกาแก้มยอมรับ

“อี๋ ผัก” เด็กชายดลคายแครอทออกมาจากปาก อุตส่าห์เขี่ยไว้ข้างจานหลายชิ้นแล้วนะ ทำไมยังมีหลงมาอยู่ในปากได้

“น้องดล กินเข้าไปเถอะลูก หลังจากนี้หนูจะเลือกกินไม่ได้แล้วนะครับ” ดาริณีใช้ช้อนเขี่ยแครอทกองโตของเด็กชายกลับเข้าไปในจาน “แม่กับพี่เฉินเฟิงออกไปซื้อหมูหรือไก่ไม่ได้แล้วนะ ถ้าออกไปต้องโดนซอมบี้พวกนั้นกัดแน่” พร้อมให้เหตุผล

หูก็ฟังแม่ ตาก็มองแครอทที่ไม่ชอบแต่ก็ไม่ได้เกลียด มือเล็กกำช้อนในมือแน่นก่อนจะยอมจิ้มไปที่แครอทแล้วเอาเข้าปาก ใบหน้าเล็กยับยู่ยี่จากสัมผัสของผักสีส้ม

ฟากเฉินเฟิงก็กำส้อมในมือแน่นเช่นกัน ไม่ใช่ไม่ชอบกินแต่ต้องอดใจไม่ให้ยื่นมือไปจิ้มของเด็กชายมากินแทน ส่วนผักในจานเขาที่มีมากกว่าทุกคนหมดไปตั้งนานแล้ว ดูเหมือนเขาจะรู้สึกว่าผักและพืชตระกูลหัวอร่อยมากกว่าปกติ หรือนี่จะเป็นผลจากที่เขามีหูกระต่ายอยู่บนศีรษะเพิ่มขึ้นมา

ด้วยไม่รู้สถานการณ์ภายนอกทุกคนจึงต้องกินอาหารบนโต๊ะให้หมด หากมีเหลือก็เก็บไว้กินในมื้อถัดไป

“ทำไมผมถึงอยู่ในสภาพนี้ได้ล่ะครับ” พออิ่มท้องกันก็พากันมานั่งยังห้องรับแขก ชายหนุ่มจึงเปิดปากถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนเขาหมดสติไป

“พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน หลังจากเช้าวันแรกพี่ตื่นขึ้นมาเจออาเฟิงนอนหมดสติ ทั้งยังตัวร้อนไข้ขึ้นสูง…” ดาริณีเริ่มเล่าให้คุณเจ้าของบ้านฟัง

เฉินเฟิงนั่งฟังไปก็ลอบเหงื่อตกไป สรุปได้ใจความง่าย ๆ ว่าเขาไข้ขึ้นอยู่สามวัน พอเข้าวันที่สองสีผมก็เริ่มอ่อนจางลงรวมถึงหูกระต่ายที่งอกออกมา ส่วนดวงตาสีแดง ดาริณีและลูกชายก็เพิ่งเห็นหลังจากเขาลืมตา

“หรือจะเป็นผลข้างเคียงจากเศษอุกาบาต” เหมือนนิยายแฟนตาซีที่เธอเคยอ่าน

“ก็อาจจะมีส่วนครับ” ไม่อย่างนั้นเรื่องพิลึกกึกกือนี้คงไม่เกิดขึ้น แถมได้ข่าวว่ามีบางส่วนตกไม่ไกลจากที่นี่ด้วย แต่มีหน่วยงานวิทยาศาสตร์เก็บไปในวันแรก ๆ พวกชาวบ้านบางคนก็รีบเดินทางไปตั้งใจจะไปดูเลขเด็ด

“แต่พอเป็นแบบนี้แล้วอาเฟิงน่ารักมากเลยน้าาา” ดาริณีแกล้งหยอก ภาพรวมของเฉินเฟิงคือชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าสะอาดสะอ้านน่าคบหา ไม่ได้เด่นสะดุดตาในฝูงชนแต่มองได้ไม่เบื่อ

มาตอนนี้ราวกับโครงหน้าได้รับการเปลี่ยนแปลง ดวงตาก็โตขึ้น ผิวก็ขาวขึ้นมากกว่าเดิมดูนุ่มนิ่มเหมือนกับน้ำนม ไหนจะผมสีขาวกับตาสีแดงอีก ถ้าไม่มีหูกระต่ายคงให้ความรู้สึกว่าเหมือนแวมไพร์ในภาพยนตร์ชื่อดังของต่างประเทศ

เป็นกระต่ายสูงโปร่งเกือบ 175 เซนติเมตร

[1] โฮโมเซเปียน (Homo Sapiens) สปีชีส์ของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • วันสิ้นโลกของผม   148 วันที่โลกยังไม่สิ้นสุด [5/5] [End]

    “แม่เองก็อยากรู้เหมือนกัน” กิ่งแก้วพยักหน้าเห็นด้วย ตอนนี้สถานการณ์กลับมาสงบสุขลงแล้ว แต่ลูกชายเธอก็ยังคงขลุกตัวอยู่กับการฝึกฝน บางวันก็วิ่งโร่ไปล่าหนูกลายพันธุ์ถึงนิคมอุตสาหกรรม หากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็คงช่วยปรามได้บ้าง“ผมออกไปเดินเล่นดีกว่า” ชายหนุ่มค่อยๆ กระถดตัวไปทางประตูบ้าน ก่อนจะวิ่งหนีหายไปด้วยความรวดเร็ว“ทีอย่างนี้ล่ะ เร็วเชียว” กิ่งแก้วส่ายหน้า“ฮ่าๆ อย่าไปบังคับน้องเลยครับ ถึงเวลาจะมีเดี๋ยวก็มีเองแหละ” เจ้ากระต่ายหัวเราะร่วนกับปฏิกิริยาของกรที่ดูเหมือนจะยังไม่อยากมีแฟน“หรือไม่ก็อาจจะกำลังมีคนคุยๆ อยู่แต่ไม่กล้าเปิดตัวหรือเปล่า” ต่างกับนิโคลัสที่มองอีกมุมแก้มแดงๆ นั่นหลบไม่พ้นสายตาของเขาหรอก“เอ๊ะ ลูกคนนี้ แอบมีแฟนแล้วไม่บอกแม่เหรอ กิ่งไปก่อนนะยาย” หันไปร่ำลาคุณยายแล้วถกผ้าถุงออกจากบ้านมองหาเจ้าลูกตัวแสบทันที“พี่นิคไปรู้อะไรมาครับเนี่ย” เฉินเฟิงเชื่อว่าคนรักไม่มีทางพูดไปเรื่อยเปื่อยแน่“รอดูไปก่อน ไม่แน่ว่าหลังเรากลับมาจากไปเยี่ยมบ้านพี่ กรอาจกล้าเปิดตัวกับแม่ก็ได้” คุณหมอหมีไม่อยากเฉลย เผื่อเจ้าตัวยังไม่พร้อมส่วนเมื่อสักครู่ก็ถือว่าสร้างสีสันให้คนป่วย ดูสิ คุณยายร้านขา

  • วันสิ้นโลกของผม   148 วันที่โลกยังไม่สิ้นสุด [4/5] [End]

    “น่องไก่นั่นผมมองไว้นานแล้วนะพี่ อย่าแย่งดิ” ทีโอใช้ส้อมจิ้มน่องไก่ที่หงส์เตรียมตักเข้าจานของตน“อะไร อย่ามาโมเมนะ” หงส์เองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน ถึงสงครามครั้งนี้จะไม่มีมังคุดเข้าร่วมกลั่นแกล้งด้วย เธอก็ไม่คิดจะรามือ เวลาเห็นทีโอทำหน้าเหมือนได้รับความไม่เป็นธรรมแล้วตลกดีเธอเห็นแล้วว่าทีโอจ้องน่องไก่ชิ้นนี้ตาเป็นมันนานแล้ว และเธอกับตุ่นเองก็มีในจานอยู่คนละน่อง เจ้าเด็กนี่เลยอนุมานไปว่าชิ้นที่ยังลอยเท้งเต้งนั้นจะต้องตกเป็นของตนเอง“พี่หงส์ พี่อย่ามาแกล้งผม ในจานพี่ก็ยังมีน่องไก่ ทำไมไม่แบ่งให้น้องให้นุ่ง” ทีโองอแงกระเง้ากระงอดทั้งที่มือยังใช้ส้อมจิ้มน่องไก่ไว้ไม่ผละไปไหน“เล่นกันเป็นเด็กๆ ไปได้” โจเซฟส่ายศีรษะเอือมระอา ตั้งแต่รวมกลุ่มกันมา สองคนนี้ต้องมีปากเสียงตอนกินอาหารได้ทุกมื้อ“เนื้อส่วนอื่นของไก่ก็ยังเหลืออีกตั้งเยอะ” เลวี่ดุคนรักเสียงจริงจังทั้งที่มืออีกข้างก็กำลังถือน่องไก่กัดเข้าปากคำใหญ่“คนที่ได้กินน่องไก่ชิ้นที่สามแล้วกล้าตักเตือนกูเหรอ ฮะ?” ทีโอเค้นเสียงลอดไรฟัน เพราะน่องไก่ชิ้นแรกถูกคนรักแย่งไปจากช้อน เขาถึงต้องเล็งชิ้นใหม่ไม่ใช่หรือไง“...” เลวี่ลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้“ท

  • วันสิ้นโลกของผม   148 วันที่โลกยังไม่สิ้นสุด [3/5] [End]

    พูดคุยอัปเดตสภาพบ้านแต่ละหลังอีกเล็กน้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันไปเก็บข้าวของส่วนตัวบ้านใครบ้านมัน พลายวารีกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดนำพี่ชายไปยังโรงนอนที่ถูกปรับปรุงใหม่“โห บ้านดูเป็นบ้านมาก” เฉินเฟิงเปิดประตูเข้ามาพบกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นโซฟา โต๊ะรับแขก หรือแม้แต่ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่“เกรงใจพี่พิมแย่” นิโคลัสลูบเนื้อไม้เรียบสนิท มันถูกขัดจนมันและลงน้ำยาป้องกันแมลงไว้เรียบร้อย“ไว้เราออกไปเยี่ยมแม่ของพี่นิคก็ขนของฝากกลับมาให้มากหน่อยดีไหมครับ” เฉินเฟิงเสนอ“เป็นความคิดที่ดี” คุณหมอหมีเห็นด้วย อย่างน้อยก็คงได้พวกเครื่องนุ่งห่มสวยๆ กลับมาให้เหล่าหญิงสาวได้เลือกชม ยิ่งหน้าหนาวในประเทศ T ตอนนี้หนาวไปถึงกระดูก ไปประเทศ A น่าจะได้เสื้อกันหนาวคุณภาพดีมาเพิ่ม“เฮ้อ… ในที่สุดก็ได้กลับบ้านสักที” เฉินเฟิงวางกระเป๋าไว้มุมห้องแล้วเดินไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียง “หือ พี่พิมเปลี่ยนฟูกที่นอนให้ด้วย” จำได้ว่าก่อนไปทำภารกิจ ที่นอนไม่ได้นิ่มขนาดนี้“ไว้ทำเตาผิงไว้ในห้องด้วยดีกว่า” ฤดูหนาวที่ผ่านมาต้องพึ่งพาพลังพิเศษระหว่างการนอนหลับ แต่ถ้ามีเตาผิงอยู่ก็ไม่ต้องกังวลว่าห้องจะไม่อบอุ่น“หวา เหมือนบ้

  • วันสิ้นโลกของผม   148 วันที่โลกยังไม่สิ้นสุด [2/5] [End]

    “ยินดีต้อนรับกลับนะคะ”แอ๊ว!ทันทีที่รถจอดบริเวณตีนภูเขาก็พบพิมพาและพลายวารียืนรออยู่“พี่พิม~ คิดถึงจังเลยค่ะ” กวางสาวก้าวลงจากรถพร้อมกับอุ้มเด็กหญิงพลอยใสตามลงมา“ปลอดภัยกันสินะคะ” พิมพาโล่งอกเมื่อกวาดตามองคร่าวๆ แล้วไม่พบว่ามีใครได้รับบาดเจ็บกลับมา “น้องพลอยไม่ดื้อไม่ซนใช่ไหมคะ”“หนูเป็นเด็กดี ฮึก เป็นเด็กดีจริงๆ นะ ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีด้วย ฮือๆ” เด็กหญิงโผเข้ากอดมารดาแน่น พลอยใสไม่เคยห่างจากแม่นานขนาดนี้มาก่อน แต่เพราะตนเลือกที่จะอาสาออกไปสู้กับซอมบี้เองจึงไม่อาจงอแงร้องไห้คิดถึงบ้านได้เหมือนเด็กทั่วไปมาวันนี้ได้กอดคนที่เฝ้าคิดถึงอยู่ทุกวันก็พาให้น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย“จ้ะ แม่รู้แล้ว แม่ภูมิใจในตัวหนูมากๆ เลยนะ” พิมพาย่อตัวช่วยเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าเนียนใส ใจจริงเธอไม่อยากให้ลูกสาวออกไปเผชิญกับอันตรายเลย แต่เพราะเชื่อว่าการได้ออกไปในยามที่มีสมาชิกคนอื่นๆ ไปด้วยย่อมปลอดภัยกว่า จึงวางใจให้ลูกสาวออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ ส่วนเธอก็จะปกป้องบ้านไว้รอต้อนรับทุกคน“แล้วสงคราม…” พิมพาผละจากลูกสาวมามองหน้าสมาชิกคนอื่นๆ “จบแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ”เธออยากได้รับคำยืนยันต่อหน้ามากกว่าคำ

  • วันสิ้นโลกของผม   148 วันที่โลกยังไม่สิ้นสุด [1/5] [End]

    กลุ่มทหารรับจ้างไม่ได้เดินทางโดยใช้เส้นทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ส่วนหนึ่งเพราะต้องการขับรถที่นำมาด้วยกลับไปจอดไว้ยังตีนภูเขา และอีกเหตุผลก็เพราะมังคุดตัวโตขึ้นเล็กน้อย บริเวณท้องของมันไม่สามารถผ่านประตูทางเข้าได้ ทุกคนจึงลงความเห็นให้เดินทางโดยใช้ถนนเส้นหลักแทน“ต้องลดความอ้วนแล้วหรือเปล่านะ” เฉินเฟิงมองพุงกลมของมังคุดด้วยความหนักใจ ช่วงบนเดินผ่านทางเข้าได้ไม่มีปัญหา แต่พอถึงช่วงกลางลำตัวกลับเข้าไม่ได้ เขาเลี้ยงเจ้าตัวนี้ดีเกินไปหรือเปล่านะ?กี๊ซ (มังคุดไม่อ้วนนะ)แร็กคูนที่ถูกแปะป้ายไว้บนหน้าผากว่าอ้วนรีบแย้ง ถ้าให้มันงดอาหาร มันยอมอยู่ที่ค่ายพันธมิตรต่อยังดีกว่า… แล้วค่อยกลับบ้านตอนท้องอิ่ม“ไม่อ้วนตรงไหนกันฮึ” เฉินเฟิงจ้องมองพุงกลม หลักฐานสำคัญที่จำเลยดิ้นไม่หลุดกี๊ซ (นี่เป็นพลังงานสำรองต่างหาก)เจ้าตัวโตแอ่นพุงไม่ยอมรับว่าหน้าท้องส่วนนี้เป็นไขมันที่เกิดจากการกินล้วนๆ“เอาเถอะ จะยอมเชื่อก็ได้” ในเมื่อเจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือ เจ้ากระต่ายก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะลดพุงเด็กดื้อนิโคลัสยกยิ้มมุมปากมองคนรักกับเจ้าตัวโต้เถียงกันเรื่องน้ำหนักเกินมาตรฐานไปตลอดทาง กระทั่งใกล้ถึงหมู่บ้านด้วงส

  • วันสิ้นโลกของผม   147 ชีวิตที่ต้องเดินต่อ [5/5]

    “พวกนาย…” ผู้ถูกขนานนามว่าเทพเซียนเดินดินเกือบน้ำตาร่วงด้วยความซาบซึ้ง ยังดีที่เก๊กขรึมฮึบไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นอาจมีสักขีพยานนับแสนเห็นท่านเทพหลั่งน้ำตา“เจอแบบนี้เขินเลยนะคะเนี่ย” แก้มใสของดาริณีขึ้นสีแดงระเรื่อ ทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย เทียบกันแล้วเธอเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาที่อยากจะปกป้องลูกชายและเพื่อนพ้อง ไม่ได้มีใจคิดอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มากมายถึงเพียงนั้นหนักเข้าหน่อยก็มีคนชูลังกระดาษที่มีชื่อของใครสักคนเขียนอยู่“อ๋า… มีชื่อของพี่ด้วย” เหมือนแฟนคลับไปตามดาราตามงานอีเวนต์เลย“วีรกรรมพี่ดาไม่ใช่ย่อยเลยนะคะ รับความรู้สึกอยากขอบคุณจากพวกเขาเถอะค่ะ” หงส์เอ่ยให้กำลังใจ ทั้งที่ไม่ได้เป็นทหารแต่ก็สามารถยืนหยัดต่อสู้กับซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์ได้โดยไม่ทำให้ทีมเสียสมดุลกลับกัน... หากขาดดาริณีไป สงครามอาจจบล่าช้ากว่าที่คิดก็เป็นได้ดาริณีเม้มปากขัดเขิน ใบหน้าสวยก้มมองพื้นไม่กล้าสบตาใคร กระทั่งโจเซฟกอบกุมมือเรียวไว้ เธอถึงเงยหน้ามองสบตากับสามีร่วมทุกข์ร่วมสุขแค่ได้เห็นสายตาที่บอกว่าภูมิใจที่มีเธออยู่เคียงข้าง ความมั่นใจที่หล่นหายไปก็พลันเอ่อล้นออกมากี๊ซ! (ขอบคุณทุกคนนะครับ ขอบคุณครับ มั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status