ทางด้านดาริณีกับโจเซฟที่มีการได้ยินเท่ากับมนุษย์ธรรมดาเมื่อปิดประตูก็เข้านอนตามปกติ ไม่ได้มีกิจกรรมพิเศษอะไร ยกเว้นก็แต่หญิงสาวที่ต้องกล่อมลูกชายก่อนนอน พอเจ้าตัวแสบหมดฤทธิ์ก็ถึงคราวของเธอเข้านอนบ้าง“อันนี้เป็นยาแก้ปวด เดี๋ยวกินข้าวเสร็จก็กินตามไปได้เลย” แพทย์ทหารส่งยาจากกระเป๋ายาสามัญของตนเองให้“ขอบคุณครับ” เฉินเฟิงรับมาอย่างไม่เกี่ยงงอน วันนี้เขาโดนทุกคนดุจนหูชาไปหมดแล้วหลังค่ายพันธมิตรถูกจัดตั้งได้หนึ่งสัปดาห์ คำถามต่าง ๆ ก็หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย และอีกหนึ่งที่เคยเป็นคำถามฮอตฮิตมาก่อนก็คือ มนุษย์ที่กลายพันธุ์ไปเป็นสัตว์นั้นมีการฟื้นฟูร่างกายหรือต่อต้านไวรัสที่ดีขึ้นหรือเปล่าคำตอบก็คือ... ใช่หากใครสามารถวิวัฒนาการตนเองเป็นแบบพวกเขาแล้วจะมีภูมิต้านทานในระดับหนึ่ง อย่างตุ่นที่มีแผลถูกเหล็กแทง แม้จะไม่ลึกมากแต่ถ้าเป็นคนทั่วไปอย่างไรก็ต้องเย็บหลายเข็มและล้างทำความสะอาดแผลอย่างดี แต่นี่แค่ล้างแผลครั้งแรก จากนั้นก็ปิดแผลและระมัดระวังการใช้ขาข้างนั้น ผ่านไปอีกสักสัปดาห์ก็จะหายดี ส่วนแผลที่เกิดจากซอมบี้ ถ้าถูกมันกัดก็จะไม่กลายเป็นพวกมันในทันทีถ้าสามารถเฉือนหรือตัดชิ้นส่วนที่เป็นแผลนั้นทัน
จากนั้นชายหนุ่มที่เตรียมจะเดินไปหยิบวัตถุดิบเพิ่มเติม ในหลุมเก็บอุณหภูมิเพื่อนำมาทำเมนูหมากก่อต่อเป็นอันต้องชะงัก เพราะเมื่อครู่มัวแต่คิดเรื่องเมนูอาหารจึงไม่ทันได้ยินว่ามีใครอีกคนเดินมาด้านหลังตนตั้งแต่เมื่อไหร่ถ้าเป็นซอมบี้ ป่านนี้เขาโดนกัดคอตายไปแล้ว!“ตกใจหมดเลยครับ” เจ้ากระต่ายมองคุณหมีกริซลี่ในสภาพเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงทหารลายพราง “ทำไมถึงมาเงียบ ๆ ล่ะครับ”สาบานนะว่าเพิ่งตื่น ทำไมเหมือนกำลังจะไปถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารเลยล่ะครับพ่อคุณ…“นั่นเพราะคุณกำลังจดจ่อกับการทำอาหารต่างหาก เลยไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว ว่าแต่แผลเป็นยังไงบ้าง”“อ๋อ ไม่ปวดเลยครับ ที่บวมก็ยุบลงไปแล้ว” เฉินเฟิงขยับศีรษะไปมาให้เห็นใบหูสีขาวพลิ้วไหว ไม่ลู่ลงอย่างเมื่อวาน“ถ้าปวดต้องบอกนะ” นิโคลัสยังคงไม่วางใจ“แน่นอนครับ” อดีตคนไข้ยิ้มกว้าง เท่านี้เขาก็จะไม่โดนดุแล้ว“แล้ว…” นิโคลัสมองผ่านไปยังกองไฟที่มีบางอย่างถูกต้มอยู่ในกระป๋อง“อาหารเช้าครับ ผมกำลังเตรียมอยู่”“มีอะไรให้ช่วยไหม”“ถ้าอย่างนั้นรบกวนไปหยิบปลากระป๋องซอสสามรสมาให้หน่อยได้ไหมครับ สัก 5 กระป๋อง”“ได้” คุณหมอหมีรับคำสั่งอย่างว่าง่าย เดินไปหยิบมาให้ท
“พอคิดแบบนี้แล้ว พลังพฤกษานี่สุดยอดไปเลยนะคะ จำเป็นมากในยุคนี้จริง ๆ” ยุคที่ข้าวปลาอาหารหายากยิ่งกว่าทองเฉินเฟิงก้มมองฝ่ามือตนเอง เขาโชคดีมากที่ได้รับพลังนี้มาครอบครอง ถ้าเป็นสายตาสู้ ป่านนี้เขาอาจจะยังอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อหาอาหารอยู่ก็เป็นได้“แกะเปลือกหมดแล้ว”“เอ๊ะ” เชฟมัวแต่คุย ลูกมือแกะเปลือกหมากก่อเสร็จก็ยังไม่รู้ตัว แถมยังแย่งหมากก่อในมือของเขาไปแกะเสร็จสรรพอีกต่างหาก“ให้ทำอะไรต่อ” นิโคลัสถาม“งั้นมาทำมื้อหลักของเรากันดีกว่าครับ” เฉินเฟิงว่าพลางหยิบปลากระป๋องสามรสขึ้นมาเปิดดาริณีเดินเลี่ยงออกมา ยิ้มขำกับท่าทางของคุณทหารรับจ้างผู้มีใบหูเหมือนหมี เมื่อครู่นี้คงไม่ได้จงใจพูดขัดขึ้นมาเพราะหึงเธอกับเฉินเฟิงหรอกใช่ไหมแต่คู่นี้ก็เหมาะกันดี... หมีกระต่าย แค่คิดก็ฟินแปลก ๆมื้อเช้าวันนี้จึงประกอบไปด้วยหมากก่อผัดปลากระป๋องสามรสที่ถูกเจ้ากระต่ายนำไปผัดในกระทะปิกนิก ใส่ผักชีและแครอทหันเต๋าเพิ่มสีสันแล้วค่อยปรุงรสด้วยเกลือเพียงเล็กน้อย พอซอสสามรสคลุกเคล้ากับหมากก่อจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันก็เป็นอันเสร็จ กินคู่กับเผือกเผาก็ทำให้อิ่มท้องไม่ต่างจากการกินกับข้าวสวยร้อน ๆ สักจาน อ้อ… มีกล้
กลุ่มทหารรับจ้างค่อนข้างแปลกใจกับขนมที่ดู เอ่อ... ไม่เป็นขนมหงส์เป็นหญิงสาวที่ชื่นชอบของหวานมาก มีช่วงก่อนหน้านี้ที่เธอต้องงดมันเพื่อไม่ให้น้ำหนักเกินเกณฑ์ที่ครูฝึกกำหนด แต่วันสิ้นโลกแบบนี้จะมีใครมากำหนดกฎกับเธออีกล่ะจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ อยากกินอะไรก็กินไปเถอะ!ดังนั้นตอนที่คุณเจ้าของบ้านบอกว่ามีขนมเสิร์ฟปิดท้าย เธอจึงเป็นคนแรกที่ร้องแสดงความต้องการเสียงดังแต่พอเห็นหน้าตาของมันเธอถึงกับคิดหนักก้อนสีเขียวนี่กินได้จริงหรือ?“นี่เป็นวุ้นที่ผมคั้นใบบัวบกโขดมาทำครับ” เฉินเฟิงเอ่ยอธิบายเมนูอย่างเคยชิน“ใช่ที่เขากำลังนิยมทำเป็นไม้ประดับห้องหรือเปล่าครับ?” ทีโอถาม เขาเคยเห็นเพื่อนที่คลั่งความเป็นมินิมอล[1]ปลูกอยู่ต้นหนึ่ง ทั้งห้องของเพื่อนคนนี้มีเพียงอุปกรณ์สำหรับนอน โต๊ะเขียนหนังสือ และกระถางบัวบกโขดหนึ่งต้นถ้วน ไม่มีของตกแต่งอย่างอื่นอีกเลย แม้แต่คอมพิวเตอร์ก็อาศัยของมหาลัยทำงานส่งอาจารย์เสมอเขาจึงรู้จักเจ้าต้นนี้ดี เพราะมีเพียงมันเท่านั้นที่ทำให้ห้องสีขาวโปร่งของเพื่อนมีสีสันอื่นประดับอยู่บ้าง“มันกินได้ด้วยเหรอครับ” เขานึกว่าเป็นไม้ประดับอย่างเดียว“ได้ครับ ปกติมันก็ขึ้นตามภูเขาใ
วัตถุดิบตามธรรมชาติ แถมยังใช้ทดแทนบางสิ่งที่ไม่มี เครื่องปรุงเองก็จำกัดแล้วถ้าที่นี่มีทุกอย่างครบครันตามที่ชายหนุ่มอยากได้ล่ะ“...” กลุ่มทหารรับจ้าง คุณแม่และลูกชายเผลอแลบลิ้นเลียปากโดยไม่รู้ตัว“เข้าเมืองเหรอครับ” เฉินเฟิงมองนิโคลัสที่เอ่ยปากชักชวนกันไปหาของใช้ในเมือง“อืม ตัวอำเภอของที่นี่มีค่ายพักชั่วคราวที่ถูกจัดตั้งโดยส.ส.ในท้องถิ่น คิดว่าในละแวกใกล้เคียงคงมีการเข้าตรวจค้นบ้างแล้ว อาจจะไม่เจอซอมบี้มากเท่าไร” ถึงของที่อยากจะได้จะหายากด้วยเหมือนกันก็ตามแต่ความปลอดภัยของทุกคนควรมาก่อน“ไปครับ ผมเองก็อยากได้เครื่องครัวกับเสื้อผ้าเพิ่มเหมือนกัน”“แล้วเรื่องบ้านของคุณ” นิโคลัสลองถาม ถ้าชายหนุ่มต้องการความช่วยเหลือ เขาก็พร้อมจะใช้กระสุนปืนทั้งหมดที่มีจัดการกับเจ้าพวกโจรชั่วที่บังอาจทำให้เจ้ากระต่ายเสียใจ“ผมต้องไปทวงมันคืนสักวันแน่นอนครับ” เฉินเฟิงบอกด้วยสายตาแน่วแน่ “และผมไม่ลืมที่จะขอความช่วยเหลือจากทุกคนด้วย” อยู่ด้วยกันแล้วก็ไม่ใช่คนอื่นไกลเขาชอบการอยู่บนเขา แต่บ้านหลังนั้นเองก็มีความทรงจำของพ่อกับแม่อยู่มากมาย ถ้าจะต้องเสียมันไปให้กับคนอื่นสู้เขาเผามันให้ไหม้เป็นจุณยังดีเสียกว่
“ขอบคุณครับ ไว้ผมจะลองทำดู” เฉินเฟิงพยักหน้าหงึกหงัก หูกระต่ายเคลื่อนไหวไปตามแรงสั่นของศีรษะคุณหมีมองตามก้อนขนสีขาวนุ่มฟูส่ายไหวไปมา สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวยื่นมือไปจับตรงโคนหูติดกับหนังศีรษะและเส้นผมสีขาวนุ่มนิ่มหมับ“อื้อ”“...”“มะ... มีอะไรติดอยู่เหรอครับ” เฉินเฟิงละล่ำละลักถาม มองลำแขนแกร่งที่พาดผ่านอยู่เหนือศีรษะ แต่ที่น่าตกใจกว่าก็คือเขาเปล่งเสียงอะไรออกป๊ายยย! แถมยังรู้สึกหวิวตรงช่องท้องอีก“…”“ถะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอ ขอไปนอนก่อนนะครับ” เจ้ากระต่ายที่ทำตัวไม่ถูกรีบเผ่นกลับเข้าบ้านของตนไปด้วยความไวแสง ทิ้งให้คุณหมอหมียืนอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืด“นุ่ม” นิโคลัสยืนมองประตูบ้านของผู้ช่วยเชฟ ก่อนจะเบือนสายตามาที่มือของตน พลางขยับนิ้วมือเข้าหากันสองสามครั้งสัมผัสนุ่มนิ่มนั้นเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีก ทั้งนุ่มและลื่นมือ“...” แพทย์ทหารหนุ่มยกมืออีกข้างขึ้นมาปิดปาก ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีแดงจัดจนร้อนอ๊ากกกกก!! เขาเผลอทำอะไรลงไปเนี่ย!!!เช้าวันนี้จึงมีสองสัตว์เล็กใหญ่ที่ทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องเจอหน้ากันในตอนเช้า“แม่ พี่เขาเป็นอะไรกันอะครับ” เด็กชายดลกระตุกชายเสื้อคนเป็นแม่ ตอนนี้พว
“มีคนกำลังเดินขึ้นมา” เฉินเฟิงเตือนทีโอ“มีกี่คน” โจเซฟเองก็ได้รับรายงานเรื่องนี้เช่นกัน“ราว ๆ 5 คน น่าจะมีบางคนกลายพันธุ์ด้วยเหมือนกัน พวกเขากำลังหยุดฟังเรา” ชายหนุ่มวิเคราะห์“จะหลบหรือจะเผชิญหน้าดีล่ะ” ทีโอถาม“หงส์ล่ะ ว่ายังไง”“ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ อาจเพราะยังไม่มีจิตมุ่งร้าย” หญิงสาวยักไหล่ อีกอย่างมันยังไกลเกินไป“โอเค งั้นเดินลงเขาเส้นทางปกติเลยก็แล้วกัน” เจอก็เจอสิ“หัวหน้าจะบวกเหรอคะ” หงส์ยิ้มหัวเราะ“บวกอะไรเล่า ต้องไปดูเจตนาก่อนสิ” บนเขาใช่ว่าไม่มีคนอยู่นี่นา ยังดีที่ตุ่นอยู่บนนั้นด้วยอีกคน โจเซฟเลยค่อนข้างวางใจที่จะออกไปสำรวจเมืองเพื่อหาของได้จริงอยู่ว่าภูเขาลูกนี้ค่อนข้างใหญ่ ขึ้นไปก็ใช่ว่าจะได้เจอกับบ้านของพวกเขา แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นกลุ่มคนที่ชำนาญพื้นที่ อาจเจอร่องรอยการใช้ชีวิตแล้วเดินไปจนถึงบ้านต้นไม้ได้ถ้ามาดีก็ปล่อยผ่าน อาจเป็นแค่ชาวบ้านที่ขึ้นมาหาอาหารแต่ถ้ามาร้าย…ก็กลายเป็นปุ๋ยต้นไม้อยู่ที่ตีนเขานั่นแหละ“อาจเป็นคนในหมู่บ้าน” เฉินเฟิงตั้งข้อสังเกต“ที่คุณอยู่น่ะเหรอ” นิโคลัสถาม เจ้ากระต่ายชะงักไปเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนถาม ก่อนจะกระแอมเสียงอึกอักในลำคอพยักหน้าตอบ แ
แต่แล้วการปล้นบ้านที่ควรจะเป็นเรื่องราวที่ทำประจำเป็นอันต้องสะดุดลงเมื่อเขาได้เดินทางมาถึงหมู่บ้านในชนบทแห่งนี้เริ่มแรกพวกเขามองหาบ้านที่เหมาะสมแก่การพักอาศัยจึงไปสะดุดตาเข้ากับบ้านของเฉินเฟิงเข้า บ้านที่มีทั้งกลิ่นทำอาหารและมีรั้วรอบขอบชิด จะมีอะไรเหมาะสมไปมากกว่านี้อีกล่ะ เมื่อลูกน้องยืนยันจำนวนคนอยู่อาศัยได้ เขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะลงมือการบุกปล้นเป็นไปอย่างราบรื่น เครื่องกีดขวางหน้าประตูไม่เป็นปัญหาสำหรับลูกน้องที่มีความสามารถด้านกำลังกายจากรายงานของทศที่กลายพันธุ์เป็นหนู แม้ว่าในระยะไกลการได้ยินจะไม่ค่อยดีนัก แต่ถ้าใกล้เพียงแค่นี้ก็สามารถระบุได้ว่าคนในบ้านนั้นไปรวมกันอยู่ที่ไหนหลังบ้านเป็นจุดที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ จึงแบ่งคนออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งอยู่นอกบ้าน และอีกส่วนไปดักทางออกที่ประตูหลังตั้งแต่เด็กจนโต ดินไม่เชื่อเรื่องความรัก ไม่เชื่อทุกสิ่งอย่าง สิ่งที่เขาเชื่อคือกำลังของตนและสิ่งที่เขาปล้นชิงมาได้เพียงเท่านั้นแต่วินาทีแรกที่ได้สบตาสีแดงราวกับเลือดของชายหนุ่มเจ้าของบ้านก็ราวกับเวลาทั้งหมดได้หยุดชะงักลง เขาไม่ได้ออกคำสั่งให้ลูกน้องออกไปตามหาในทันที บ้านหลังนี้มีห้องนอน 2 ห้
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็ไปรวมกันที่มินิมาร์ตอีกครั้ง หงส์กลับมาพร้อมกับคริสตัลซอมบี้สีใสจำนวน 12 เม็ด พวกมันถูกล้างทำความสะอาดมาเป็นอย่างดีแล้ว“แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเลยเหรอเนี่ย” การที่มีคริสตัลเกิดขึ้นในสมองของซอมบี้ได้นั้น หมายความว่าเจ้าพวกนี้ไม่ใช่ซอมบี้ที่เพิ่งเกิดในเร็ว ๆ นี้“คนน่าจะไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองกันหมดแล้วล่ะค่ะ” หงส์ให้ความเห็นอาหารเย็นวันนี้เป็นปลากระป๋องกับแครกเกอร์ที่เฉินเฟิงใช้มันฝรั่งบดผสมรวมกับแป้งแล้วนำไปอบ ใช้เป็นอาหารฉุกเฉินยามออกเดินทางเพราะมีน้ำหนักน้อยและไม่ต้องยุ่งยากกับการประกอบอาหารนอกบ้านสำหรับทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขากินกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ มีเพียงดาริณีและพิมพาที่ต้องพยายามกินให้มากหน่อย แม้รสชาติจะแปลกแปร่งเพราะไม่เคยกินแครกเกอร์กับปลากระป๋องมาก่อน ก็ต้องฝืนกินเข้าไปอีกหลายคำ วันนี้ใช้พลังไปเยอะต้องชดเชยสภาพความเป็นอยู่หลังออกจากเซฟโซนนั้นต้องรัดกุมทุกด้าน พวกเธอขอติดตามมาด้วยจะต้องอดทนและเรียนรู้ที่จะยอมรับและผ่านมันไปให้ได้ในสักวันหนึ่ง“กินน้ำให้พอดีนะคะ” หงส์แนะนำ “เกิดปวดห้องน้ำตอนกลางคืนจะลำบาก”“ถ้
“ใจร้อนอะไรครับเนี่ย” เฉินเฟิงตำหนิ“ใครใช้ให้เลียเจ้านี่ล่ะ” เขาไม่ของขึ้นจนลากคนรักไปทำกิจกรรมบนเตียงให้ถึงที่สุดก็นับว่าอดทนมากแล้ว มีอย่างที่ไหนยกมือข้างที่เลอะน้ำกามของเขาขึ้นดม หรี่ตาสีแดงลงคล้ายครุ่นคิดแล้วใช้ลิ้นสีแดงสดเลียเบา ๆ เป็นใครจะไปทนไหวเล่นเอาสติขาดผึงเลยทีเดียวซึ่งเจ้ากระต่ายน่าตีก้นก็ไม่ได้สำนึก ยกมือข้างที่ว่าขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา เพราะเมื่อกี้เผลอใช้มือข้างนี้ผลักอกคนรัก จึงมีบางส่วนที่ถูกเช็ดออกไปแล้ว“ก็ผมสงสัยนี่…” เฉินเฟิงคิดถึงการกระทำของตนเองเมื่อครู่ก็หน้าร้อนผ่าว แค่จินตนาการก็รู้สึกว่ามันต้องอีโรติกมากแน่ แต่จะให้ถอยก็ดูไม่เป็นตัวเขาสักเท่าไร “เลยอยากลองชิมว่ารสชาติเป็นยังไง” ช้อนดวงตากลมโตสีทับทิมเป็นประกายออดอ้อนคุณหมอหมีตัวโตที่ยังคงคร่อมอยู่ด้านบน“...” นี่กำลังพยายามแก้ตัวหรือยั่วเขาอยู่กันแน่ หือ “ที่รักทำแบบนี้พี่ของขึ้นอีกแล้วเห็นไหม” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก้มมองกลางกายของตนที่กลับมาแข็งตัวอีกครั้ง“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติอยู่แล้ว” เฉินเฟิงยิ้มตอบพร้อมกับกระถดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับอาวุธของคุณหมอ“...”“เดี๋ยวผมปลอบให้มั
เฉินเฟิงนอนโรงพยาบาลเป็นคืนที่ห้าแล้วหลังจากฟื้นขึ้นมา เขายังคงกินนอนอยู่ที่นี่เพราะต้องทำกายภาพบำบัดให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ดังเดิมเมื่อเห็นว่าเจ้ากระต่ายปลอดภัยหายห่วง คนอื่น ๆ จึงเริ่มออกไปทำภารกิจกันถี่ขึ้น แม้แต่ทีโอเองก็ไม่ได้มานอนเฝ้าที่ห้องอีกแล้ว ภายในห้องจึงเหลือแค่ชายหนุ่มผมขาวและคนรักผู้มีใบหูหมีสีน้ำตาล กับคุณสิงหาที่จะแวะเวียนมาตรวจอาการทุกเช้าวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากทำกายภาพในตอนเช้าเสร็จ แพทย์เจ้าของคนไข้ดันบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นมาแล้ว หากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคนรักก็ไม่มีปัญหามีสิครับหมอ!!เพราะเขากับนิโคลัสไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาก็มีแค่กอดกับจูบ ส่วนเรื่องเมคเลิฟอะไรนั่นตัดไปได้เลย ถ้าไม่ใช่นิโคลัสนอนเป็นผัก ก็มีภารกิจโหดหินรออยู่ พอรอดตายมาได้ก็กลายเป็นเขาที่นอนติดเตียงต่อ จะเอาเวลาไหนไปจู๋จี๋กันถามหน่อยไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้คิดต่างหาก แม้จะไม่รู้ว่าระหว่างเขากับคนรักจะดำเนินขั้นสุดท้ายของการเมคเลิฟแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มจากบทรักสุดเบสิกได้ละก็… บอกเลยเขาสู้ตาย‘พี่นิค’ เจ้ากระต่ายมองค
ขนาดที่ค่ายพันธมิตรยังมีคนที่มีหูสัตว์เกลื่อนกลาด เรียกได้ว่ามีประชากรที่เป็นทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์กลายพันธุ์อย่างละครึ่งเลยล่ะ ส่วนผู้มีพลังพิเศษไม่ว่าที่ไหนก็ยังมีจำนวนน้อยนิดเหมือนกันหมด“งั้นผมขอไปกักตัวที่บ้านก่อนนะ” การกักตัวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไปแล้ว เมื่อไหร่ที่ออกไปด้านนอกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน ป้องกันไม่ให้นำเชื้อที่ติดตัวมาไปแพร่ใส่คนอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม“ครับผม” กลุ่มหน้าประตูสองคนเดินไปส่งเฉินเฟิงและนิโคลัสที่บ้าน ถ้าเกิดชายหนุ่มกลายเป็นซอมบี้ระหว่างทางก่อนถึงบ้านขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ปังหลังประตูรั้วบ้านและประตูหน้าบ้านถูกปิด เฉินเฟิงก็มองสภาพบ้านที่ยังคงสะอาดสะอ้านไม่มีร่องรอยของคราบฝุ่นเป็นไปได้ยังไง?หรือว่าในตอนที่พวกเขาไม่อยู่มีคนเข้ามาอาศัย?“อ้อ พวกผมลืมบอกไป กลุ่มแม่บ้านเขาช่วยกันผลัดเปลี่ยนมาทำความสะอาดบ้านให้นะครับ พวกป้า ๆ เขาอยากตอบแทนเรื่องเสบียงสำรองที่ให้มา” เป็นกรที่ตะโกนมาจากนอกบ้านช่วยไขข้อข้องใจให้เจ้ากระต่ายพอดิบพอดี เกือบได้ระเบิดโทสะแล้วไหมล่ะ“ฝากขอบคุณด้วยนะ” เฉินเฟิงตะโกนกลับไป“ครับผม!” และได้รับการตะโกน
ลงมาถึงตีนเขาเฉินเฟิงก็แยกกับกลุ่มของโจเซฟ ชายหนุ่มยืนมองแก๊งจักรยานพากันปั่นเรียงแถวออกไปยังถนนเส้นใหญ่ที่เชื่อมติดกับทางเข้าหมู่บ้าน ยังดีที่บริเวณนี้ไม่มีซอมบี้เพ่นพ่านเพราะถูกกำจัดไปเยอะ อีกทั้งยังอยู่ห่างจากตัวเมืองที่มีประชากรมากก็ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัยกลับมาอย่างสวัสดิภาพไม่สิต้องกลับมาปลอดภัยอย่างแน่นอน!“เอาไปกี่กล่องดี” นิโคลัสยกกล่องยาสมุนไพรออกมาจากหลังรถ“เอาไปสัก 3 กล่องก่อนก็แล้วกันครับ” ถือไปเยอะเดี๋ยวจะเด่นสะดุดตาเกินไป“โอเค” คุณหมอหมีพยักหน้าเข้าใจ ถือติดมือไปน้อยก็ดูไม่สมกับค่าครู แต่ถ้าเอาไปไปเยอะก็อาจทำให้บางคนเกิดความคิดไม่ดีขึ้นมาได้สมุนไพรแห้งเหล่านี้พวกเขาขนกลับมารวมแล้วมีมากกว่า 10 กล่อง นำขึ้นไปเก็บไว้บนภูเขาแล้ว 10 กล่อง ที่อยู่ตรงนี้จึงเป็นส่วนที่กันเอาไว้แบ่งปันให้คนในหมู่บ้านด้านล่างตั้งแต่ต้น แต่จะทยอยให้ทีละไม่มากไม่ให้ผิดสังเกต“ไม่รู้กลับหมู่บ้านครั้งนี้จะได้เจอกับป้ากิ่งแก้วอีกหรือเปล่านะครับ” เฉินเฟิงเอ่ยกลั้วหัวเราะ พวกเขาเจอกันทีไรมีแต่เรื่องชวนปวดหัวทุกทีถ้าให้เขาพูดแบบเห็นแก่ตัวหน่อยเขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าถ้าหมู่บ้านนี้ขาดกิ่งแก้ว
“จักรยานมีทั้งหมด 5 คัน คนที่จะออกไปสำรวจก็คือ พี่ดา พี่พิม ตุ่น หงส์ และหัวหน้า ถูกต้องไหมคะ” หงส์ทวน พอดาริณียกมือขอไปด้วย โจเซฟก็ไม่รีรอรีบออกตัวว่าจะไปด้วยเช่นกันทันทีแหม… ไม่ค่อยออกนอกหน้าเลยนะหัวหน้า“อะไร… ก็แค่เห็นว่ายังมีจักรยานอยู่อีกหลายคัน” คนร้อนตัวรีบพูด“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” หงส์หันไปหัวเราะคิกคัก ล้อเลียนคู่คนคุยที่หน้าแดงซ่านไปหมดแล้ว“แม่หน้าแดงมากเลย” ขนาดเด็กชายดลยังอดแซวแม่ตัวเองไม่ได้ตกลงเรื่องจำนวนคนกันเสร็จสรรพ ก็ออกไปจัดเตรียมแพ็กกระเป๋าบ้านใครบ้านมัน เฉินเฟิงเองก็เตรียมเก็บของเช่นกัน เพราะเขากับคนรักมีแพลนจะลงไปนอนที่บ้านของตนในหมู่บ้าน และถือโอกาสสอบถามหมอยาสมุนไพรว่าจะสามารถสอนความรู้ให้ตนได้หรือไม่หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้นิโคลัสได้เรียนด้วย“เดี๋ยวนะครับ จะไปกันหมดวันนี้เลยเหรอ” ทีโอคิดว่าจะออกเดินทางในอีกวันหรือสองวันข้างหน้า ใครจะไปคิดว่าพอตัดสินใจเสร็จปุ๊บก็เก็บของปั๊บ“จะช้าอยู่ทำไมล่ะ ขืนมัวแต่โอ้เอ้คงมีคนอื่นตัดหน้าไปก่อน” หงส์“ตามใจ” ทีโอถอนหายใจ ดูท่าเย็นนี้คงต้องให้เด็ก ๆ กินปลากระป๋องแล้วล่ะ “ระวังตัวกันด้วยนะครับ”“คราวนี้ไม่ประมาทอีกแน่”
“ก็ดีนะ” นิโคลัสพยักหน้าเห็นด้วย“แต่น้ำมันรถที่มีจะไม่พอให้เราตะลอนหาของได้ตามใจชอบน่ะสิ” โจเซฟส่ายหน้าเห็นต่าง พวกเขาไม่มีถังน้ำมันสำรองกักตุนไว้ในปริมาณมาก ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นกังวลหากต้องนำรถออกไปตระเวนหาของอย่างไม่รู้ทิศทาง“ขี่จักรยานไปไง” หงส์เสนอ“ไหวหรือ?” โจเซฟไม่ได้มีเจตนาดูถูก แต่ขี่จักรยานไปในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้ค่อนข้างเสี่ยงเอาการ ไหนจะอากาศประเทศ T ที่ไม่ค่อยปกตินัก บางวันก็ร้อนจนอยากจะนั่งแช่น้ำทั้งวัน บางวันก็ฝนตกหวิดจะเกิดโรคระบาดจากน้ำอีกรอบ“ถ้ารู้เส้นทางเข้าเมืองก็ไม่น่าจะยากไม่ใช่เหรอคะ” อีกอย่างจักรยานที่เอามาก็เป็นจักรยานเสือภูเขา มีไว้สำหรับเร่งความเร็วอยู่แล้วถ้าเจอซอมบี้ก็แค่ใช้พลังสู้กับมัน“ถ้าไม่ออกไปหาของตอนนี้ อีกหน่อยก็ไม่เหลืออะไรให้หาแล้วล่ะค่ะ” พอมนุษย์ที่เคยเอาแต่หวาดกลัวเริ่มปรับตัวได้ พวกเขาจะสามารถเรียกความกล้าและออกไปผจญอันตรายเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอเชื่อว่าอย่างนั้นไม่มีใครเอาแต่สั่นกลัวอยู่แต่ในบ้านได้หรอก“ถ้าอย่างนั้นพิมขอไปด้วยได้ไหมคะ” หญิงสาวยกมือ“แม่!” พลอยใสตกใจตาโต “ถ้าแม่ไปพลอยก็จะไปด้วย” เด็กสาวรีบยกมือตาม ก่อนจะ
“อร่อย! อร่อยมาก!!” เขาไม่เคยกินอาหารรสชาติแบบนี้มาก่อนเลย“อร่อยก็ดีแล้วครับ ปะ พวกเรายกไปที่โต๊ะเลยดีกว่า” เห็นคนรักไม่บาดเจ็บในปากก็โล่งอก ยิ้มกว้างให้กับเมนูอาหารในวันนี้ ดีที่ตอนนั้นหลังจากได้ชิมต้มหมูชะมวงของเชฟในครัวเขาก็ไปค้นหาสูตรอาหารชนิดนี้ในอินเทอร์เน็ตต่อ ทำพลาดอยู่ 4-5 จานก็ได้รสชาติคล้ายคลึงที่สุดเท่าที่จะทำได้อืม… เขาก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย //ยืดหลังอาหารทยอยเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ภาพบรรยากาศแสนสุขก็กลับมาอีกครั้ง เด็ก ๆ ตักแกงกินกับข้าวคำโต ผู้ใหญ่พูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระ นั่งปรึกษากันว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร มีตรงไหนต้องปรับปรุง พอของคาวหมดก็ต่อด้วยเมนูผลไม้ล้างปาก เป็นส้มโอที่ถูกบิเนื้อออกเป็นเส้น ๆ แล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำตาลและน้ำปลา ได้รสชาติหวานเค็มตัดกับความเปรี้ยวอมหวานของส้มโอเมื่อไม่เหลืออาหารให้จัดการอีก ตุ่น หงส์ และทีโอก็อาสานำภาชนะทุกชิ้นไปล้างโดยมีเด็กซน 3 คนออกตัวว่าอยากไปช่วยล้างด้วย ไม่รู้ว่าไปช่วยหรือไปป่วนกันแน่ฟากมังคุดก็นั่งเลียปากเลียมือ นอนตีพุงอย่างสุขใจ มันเพิ่งเคยกินอาหารที่ชายหนุ่มทำแบบเต็มที่ เครื่องแน่น ๆ เน้น ๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกอร่อยมาก… อร่อยจนไ
อีกสาเหตุหนึ่งที่เฉินเฟิงเลือกเมนูนี้ขึ้นมาก็เพราะตอนอยู่ในค่ายเขาได้ไปแลกบางสิ่งบางอย่างมาจากตลาดนัดในค่ายพันธมิตร ราคาของมันเรียกได้ว่าแพงหูฉี่ กระปุกหนึ่งราคา 8 แต้ม กว่าจะต่อรองมาได้ก็เปลืองน้ำลายไปเยอะ แต่พอแม่ค้าเห็นว่าโจเซฟยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มก็ลดราคาให้อย่างเร็วเหลือเพียง 6 แต้ม สมกับเป็นเทพเดินดินของคนในค่ายพันธมิตรจริง ๆซึ่งเจ้าสิ่งนั้นก็คือ… กะปิและน้ำมันพืชนั่นเอง!ผู้คนส่วนมากในค่ายไม่นิยมทำอาหารกินเองเพราะใช้แต้มคะแนนไปแลกอาหารที่โรงอาหารได้หลากหลายกว่าเฉินเฟิงแทบจะใช้แต้มคะแนนที่มีทั้งหมดแลกมันมาให้ได้มากที่สุด มีน้ำปลากับซีอิ๊วหวานอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลย พอเห็นว่าตรงไหนมีวางขายก็อยากจะซื้อมาให้หมดเชฟใหญ่ประจำบ้านตระเตรียมวัตถุดิบประกอบอาหาร มองข้าวของบนโต๊ะที่มีครบอย่างที่อาหารจานหนึ่งควรจะเป็นด้วยสีหน้าอิ่มเอิบอา… มีเครื่องปรุงพร้อมนี่มันสวรรค์ชัด ๆอิ่มเอมกับบรรยากาศเครื่องปรุงและวัตถุดิบรอบตัวเรียบร้อยแล้วก็เริ่มจากทำเครื่องแกงก่อนเป็นอันดับแรก โดยคนที่รับหน้าที่นี้คือเฉินเฟิง ส่วนสองสาวจะนั่งฉีกใบชะมวงและหั่นเนื้อตะโขงแดดเดียว ก่อนจะนำไปล้างน้ำเพื่อล้างความเค็ม