บ่ายวันนั้นหิมะตกลงมาอย่างโปรยปราย หยางอ๋องมองออกไปนอกหน้าต่าง คิดหาทางช่วยเหลือหลี่ซิน ยามนี้คนเขาได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว สตรีป่วยใกล้ตาย คนในหมู่บ้านบนหุบเขา หยางอ๋องมอบเบี้ยจำนวนมากให้แก่ครอบครัวของสตรีนางนั้น
"ท่านอ๋องบุรุษผู้นี้ คือคนที่พระชายาเลี้ยงไว้" อี้ชางกับอี้โจ ลากอาจูเข้ามา
"คารวะ ท่านอ๋อง ข้าน้อยได้รับคำสั่งจากพระชายา ว่าให้ท่านอ๋องช่วยนางออกจากคุก เพราะนางรู้จักหมอเทวดา ที่จะรักษาชิงไทเฮาได้"
หลังจากที่หยางอ๋องทราบความจากอาจู ข้ารับใช้ของหลี่ซิน เขารีบควบม้ามาที่วังหลวง ในตำหนักชิงเหมยฝ่าบาทไม่เป็นอันว่าราชกิจ สายตาฉู่เฟิงมองพระมารดานอนนิ่ง
เหตุใดหญิงชั่วผู้นี้ต้องทำร้ายชิงไทเฮาด้วย ฉู่เฟิงอุตส่าห์มอบสมรสพระราชทานให้ แต่นางกลับวางยาชิงไทเฮา เพราะหยางอ๋องไม่รักนาง ตามที่สวีฮองเฮาสืบความมาเล่าให้ฉู่เฟิงทราบ
"เสด็จพ่อ" หยางอ๋องย่างกรายเข้ามาคำนับพระบิดา
"เราไม่มีทางให้นางมีชีวิตรอด" ดูท่าพระบิดาโกรธหลี่ซินมากแน่นอน
"นางรู้จักหมอเทวดา ที่จะรักษาเสด็จย่า"
"สั่งการลงไป ปล่อยตัวนางออกมาเป็นการชั่วคราว"
หยางอ๋องได้ยินกระนั้นเหตุใดเขาต้องรู้สึกดีใจด้วยเล่า ที่เสด็จพ่อทรงรับสั่งเช่นนั้น
หลี่ซินนั่งนับแกะในใจ นางเพิ่งทายาที่มือของตัวเอง ภาวนาในใจว่าขอให้สำเร็จ
คนกลุ่มใหญ่เดินเข้ามาหานาง นำโดยหยางอ๋อง ตานางกระตุกด้านซ้าย
"ปล่อยนาง" สิ้นเสียงหยางอ๋อง ผู้คุมเปิดกรงขังทันที หลี่ซินมีสภาพไม่ต่างจากขอทาน
"ท่านอ๋อง"
"รีบไปตามหาหมอเทวดา"
"เจ้าค่ะ"
นางลงมาจากรถม้า สองแฝดรอหน้าประตูใจจดใจจ่อ
"ท่านแม่" เด็กทั้งสองวิ่งมาหานาง อย่างไม่สนใจเลยว่า ตัวนางนั้นแม้ไม่สวมชุดนักโทษแต่ทว่าก็ยังมิได้อาบน้ำมาสองวัน อีกทั้งมือยังมีบาดแผลไม่ค่อยหายดี
"แม่นมจาง พาพวกเขากลับเรือนเล็ก ข้ายังมีธุระต้องทำต่อ"
แม่นมจางมองหน้าหยางอ๋องยืนด้านหลังพระชายา เห็นสายตาหยางอ๋องแล้วว่า ให้ทำตามที่นางสั่ง
เด็กทั้งสองโดนนำตัวไป สายตามองมารดาอย่างอาวรณ์ยิ่งนัก อุตส่าห์ดีใจที่ได้เจอ เหตุใดท่านแม่ถึงไล่พวกเขาไป หลี่ซินเอ็นดูสองแฝดยิ่งนัก
"รีบไปเปลี่ยนชุด แล้วตามหาหมอเทวดา ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งถ้วย..." หยางอ๋องยังเอ่ยไม่ทันจบ หลี่ซินรีบสาวเท้ามุ่งหน้าไปที่เรือนของนาง
เพียงไม่นานนางก็เดินมาพร้อมกับกระเป๋ายา นางสวมชุดสีเหลืองอ่อนอย่างเรียบง่าย แล้วขึ้นไปบนรถม้าหยางอ๋องจิบน้ำชาอยู่ มองการแต่งกายของนาง ใบหน้างามไร้เครื่องประทินโฉม ศีรษะจากที่มีปิ่นนับสิบ มีปิ่นเพียงอันเดียว
"ว่ามาเถอะ หมอเทวดาอยู่ที่ใด"
"ข้านี่ล่ะ"
นางนั่งอีกฝั่งหนึ่ง เอ่ยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใบหน้าหยางอ๋องพลันมีเมฆหมอกบดบังขึ้นมา
เขากระแทกจอกน้ำชาลงบนโต๊ะเตี้ยแทบจะแตกอยู่แล้ว
หลี่ซินใจคอไม่ดี
"เจ้าเห็นชีวิตชิงไทเฮาเป็นผักเป็นปลารึ ข้าอุตส่าห์ให้โอกาสเจ้า"
"ท่านอ๋อง ถ้าข้าบอกว่า ข้าเป็นวิชาหมอ ฝ่าบาทจะปล่อยข้าออกมารึ ข้าก็ต้องหาเหตุผลมาอ้าง แต่ข้าก็เป็นวิชาหมอจริง ๆ"
"หลี่ซิน ข้าวปลากินมั่วได้ แต่วาจาพูดส่งเดชมิได้ นางร้ายเยี่ยงเจ้าที่วัน ๆ เอาแต่ทำตัวไร้สาระ จะไปเรียนวิชาแพทย์มาจากที่ใด"
มันก็จริง นั่นมันหลี่ซินคนเดิม แต่นางคือหลี่ซินคนใหม่
"ท่านอ๋องมีบางสิ่ง ที่ข้าต้องพูด นับจากที่ข้าตื่นขึ้นมาหลังจากสลบหนึ่งวันเต็ม ๆ ในฝันของข้ามีเทพท่านหนึ่ง บอกว่า หากมีชีวิตอยู่ให้เป็นคนดี หมั่นทำความดี อีกทั้งยังสอนวิชาหมอให้ข้าด้วย"
หลี่ซินนึกตลกตัวเองนี่นางต้องมาแต่งนิทานหลอกหยางอ๋องราวกับเขาเด็กห้าขวบ
แววตาหยางอ๋องวูบไหวเล็กน้อย เขาตรองดูเรื่องราวบางอย่างที่คนรายงานเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของหลี่ซิน นางอ่อนโยนกับสองแฝด
"ข้าจะลองเชื่อเจ้าสักครั้ง"
"ขอบคุณเพคะ" เป็นครั้งแรกหลี่ซินยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน ดวงตาคู่งามยิ้มโค้งให้หยางอ๋องอย่างเป็นมิตร
"ไปวังหลวง" สารถีควบรถม้าขนาดใหญ่มุ่งหน้าไปวังหลวง
วังหลวง
ตำหนักสวีฮองเฮา ในยามนี้พระนางยกจอกน้ำชากระเบื้องลายวิหกเหินฟ้าขึ้นมาจิบ กลิ่นอายของชาชั้นดีในวังหลวง ทำให้พระนางกระปรี้กระเปร่ายิ่งนัก
"ท่านแม่ ท่านอารมณ์ดีเสียจริง หยางอ๋องพาชายาของมันไปตามหาหมอเทวดามารักษานังแก่นั่น"
ฝูอ๋องหรือฉู่หยี่นั่นเอง ยางกรายเข้ามาในตำหนักพระมารดา ดวงหน้าหล่อเหลาถอดแบบมาจากฉู่เฟิงพระบิดา ดวงตาแข็งกระด้างมิอ่อนโยน เรื่องที่จะชิงไทเฮาฟื้นเขายอมมิได้ อุตส่าห์วางแผนมาหลายเดือนคิดแผนการสังหารชิงไทเฮา ตำแหน่งรัชทายาทต้องเป็นของเขา จะไม่มีทางตกเป็นของผู้ใดเป็นอันขาด
"พวกมันไม่มีทางหาหมอเทวดาเจอหรอก เจ้าอย่าได้กังวล ยังไงนางแก่ย่อมต้องไปปรโลก"
"ถ้านางฟื้นขึ้นมา หยางอ๋องก็มีสิทธิ์ในบัลลังก์ ท่านก็รู้ว่า เสด็จพ่อเคร่งเรื่องความกตัญญูมากเพียงใด เพียงแค่ชิงไทเฮาเอ่ย ขอตำแหน่งให้หยางอ๋อง ท่านคิดว่า ท่านกับข้าจะมีความสุขรึ"
สวีฮองเฮาเข้าใจฝูอ๋องอย่างดี
"หยี่เอ๋อร์ เจ้ามิต้องกังวล นังแก่มันไม่ฟื้นแน่นอน"
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล