"เอาล่ะ อย่าได้ถือสาหาความกับเด็กเลยองค์หญิง" ชิงไทเฮาพลันตรัสขึ้น เทียนหนิงต้องรักษาภาพพจน์ไว้ นางลืมไปได้อย่างไร
"เพคะ หม่อมฉันไม่ว่าหรอก" เทียนหนิงเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ นางได้ยินมาว่า สองแฝดเป็นบุตรของหยางอ๋อง ใช่สินางจะต้องทำดีกับสองคนนี้
"ดียิ่งนัก" ชิงไทเฮาพอใจไม่น้อย ที่ได้ฟังเทียนหนิงเอ่ยเยี่ยงนี้ ไม่ถือความกับสองแฝด หลี่ซินพลันโล่งอก
"หม่อมฉันขอตัวกลับก่อนเพคะ" เทียนหนิงรีบสาวเท้าออกไปในใจก่อนด่าสองแฝด อย่าให้นางได้แต่งเข้าไปในจวนอ๋องแล้วกัน นางจะจัดการสองแฝดอย่างแน่นอน
หลี่ซินให้แม่นมจางพาสองแฝดไปล้างมือ ในสมองของนางยังขบคิดเรื่องหยางอ๋องจะต้องอภิเษกกับเทียนหนิง
"เจ้ามิต้องกังวลหรอกนะ แม้หยางอ๋องจะแต่งกับนาง แต่เขาก็ยังจะดีกับเจ้า" พระนางทราบดี
หยางอ๋องคงมิอาจหลีกเลี่ยงเรื่องอภิเษกกับเทียนหนิงได้ ชิงไทเฮารู้เลยว่า หลี่ซินต้องเสียใจ แต่นางไม่แสดงออกมา จะทำอย่างไรได้เล่า เป็นองค์ชายต้องทำเพื่อบ้านเมือง
หลี่ซินขบคิดในใจ ในระหว่างที่นั่งรถม้ากลับมาที่จวน ในสมองของนาง ได้ยินแต่เทียนหนิงพูดซ้ำ ๆ ว่าจะแต่งเข้าจวนอ๋อง
หยางอ๋องต้องรับผิดชอบภาระอันยิ่งใหญ่ นางลืมไปเลยว่าบุรุษยุคโบราณ ไม่เหมือนยุคปัจจุบันที่ครองคู่ผัวเดียว เมียเดียว
ยุคโบราณอนุสี่ภรรยาสาม อีกทั้งสะใภ้ต้องปรนนิบัติครอบครัวสามีอีกต่างหาก นางโง่เอง ในโลกใบนี้ เขามิอาจมีนางได้แค่คนเดียว
นางข้ามภพมาที่แห่งนี้ เพื่ออันใด ในตอนแรกเพื่อให้มีชีวิตรอด เมื่อรู้ว่าเขาวางยาภรรยาตัวจริงที่ยังไม่เข้าหอตายไปแล้ว หลี่ซินนึกหวาดกลัว กลัวเขาสังหารนางตายอีก
กระนั้นนางตั้งใจประพฤติตัวใหม่ เป็นคนดีต่อทุกคน และรักสองแฝดให้เหมือนบุตรตัวเอง อีกทั้งในตอนนั้น เขาก็ไม่ได้สนใจนาง นางก็ไม่ได้รักเขาเช่นกัน ถ้าเขาจะรักรับใครเป็นอนุนางไม่ว่า
แต่ยามนี้ เขาบอกเขาจะรักนาง ดูแลนาง อีกทั้งมีนางเพียงคนเดียว นางให้โอกาสเพียงเพราะเขาเคยช่วยนางจากงู อีกทั้งเขาสุภาพ ไม่ล่วงเกินนาง แต่พอกลับมาถึงเมืองหลวง จัดการเรื่องนายอำเภอฟูเหิง ต้องมาพบว่า คนแคว้นฉินมาเจริญสัมพันธไมตรี อีกทั้งหยางอ๋องต้องแต่งงานกับองค์หญิงเทียนหนิงในครั้งนี้ ทำให้หลี่ซินต้องทบทวนใหม่เสียแล้วว่า นางจะอยู่กับเขา หรือจะจากไป
ห้องทรงพระอักษรยามนี้
หยางอ๋องออกจาค่ายทหารมาเข้าเฝ้าพระบิดา ตัวเขายังไม่รู้ตัวว่าจะต้องอภิเษกเชื่อมสัมพันธไมตรี
"เสด็จพ่อ กระหม่อมจะกลับเมืองจินในวันพรุ่ง เรื่องนายอำเภอฟูเหิงจบลงแล้ว" หยางอ๋องเอ่ยอย่างเนิบช้า
"เจ้าจะกลับได้อย่างไร ในเมื่องรัชทายาทแคว้นฉินมาเจริญไมตรีด้วยในครั้งนี้ อีกทั้งเจ้าต้องอภิเษกสมรสกับองค์หญิงเทียนหนิง"
หยางอ๋องมองพระบิดา นี่มันเรื่องบ้าอันใด เหตุใดต้องเป็นเขาที่ต้องอภิเษกกับสตรีนางนั้น
"เสด็จพ่อ ในชีวิตนี้ลูกต้องการเพียงหลี่ซิน มิสามารถแต่งกับคนอื่นได้" หยางอ๋องให้สัญญากับหลี่ซินแล้ว เขารักนางมากอีกทั้งไม่อาจกลับคำได้ ที่ให้ไว้กับนาง
"นางร้ายเยี่ยงหลี่ซินเอาอันใดให้เจ้ากิน เจ้าถึงเห็นสตรีสำคัญกว่าใต้หล้า" ฉู่เฟิงหัวเสียอย่างมาก เมื่อหยางอ๋องปฏิเสธการแต่งงานในครั้งนี้ อาจจะเสียงานใหญ่
"เสด็จพ่อ ลูกมิอาจแต่งงานกับเทียนหนิงได้" หยางอ๋องถึงกับคุกเข่าให้พระบิดา
หวังกงกงแอบฟังอยู่หน้าประตู เหตุใดยามนี้ หยางอ๋องไม่ฟังความของฝ่าบาทบ้าง กระนั้นได้ยินเสียงสิ่งของบางอย่างแตกกระจาย พร้อมทั้งเสียงด่าทอหยางอ๋องไม่เหลือชิ้นดี...
จวนหยางอ๋อง
หลี่ซินในยามนี้ นางนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง ยามพลบค่ำหิมะยังตกไม่หยุด สมองของนางคิดแต่เรื่องหยางอ๋องแต่งงานกับเทียนหนิง
น้ำชาชั้นดี กลิ่นหอมอลอวลทั่วเรือน ปากงามอวบอิ่มเป่าจอกน้ำชาเป็นไอระเหยขึ้นมา จากนั้นค่อย ๆ จิบอย่างช้า ๆ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายดียิ่งนัก
หยางอ๋องสาวเท้าเข้ามาอย่างเนิบช้า
"ท่านอ๋อง ดื่มชารึไม่เจ้าคะ" นางชวนเขาทั้งที่อยากจะถามเรื่องนั้นใจจะขาด
หยางอ๋องนั่งลงฝั่งตรงข้าม ในใจรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องผิดคำพูดต่อนาง
ใบหน้างามระบายไปด้วยรอยยิ้ม นางรินน้ำชาให้เขา
"ขอบใจเจ้ายิ่งนัก" หยางอ๋องยกจอกน้ำชาเป่าแล้วจิบอย่างช้า ๆ เขาจะเริ่มบอกนางยังไงไม่ให้เสียใจ
"ท่านอ๋อง ท่านจะแต่งกับองค์หญิงต่างแคว้นจริงรึ" คำถามนี้ นางถามก่อนเลย เพราะมันคาใจยิ่งนัก
"หลี่ซิน ข้าขอโทษ"
มืองามสะบัดใส่หน้าหยางอ๋องอย่างแรง เขาเจ็บที่ใบหน้า แต่นางเจ็บที่หัวใจ ราวกับมีมีดมากรีดลงบนใจนาง
นางไม่น่าให้โอกาสเขาเลย สุดท้ายเขาก็ทำไม่ได้
หยางอ๋องต้องทำตามพระบิดารับสั่ง ใต้หล้า ประชาชนย่อมสำคัญกว่าความรัก บ้านเมืองต้องมาก่อน เขาเลือกใต้หล้าอำนาจ
"หย่าให้ข้าเถอะ" ทางเดียวเท่านั้น นางมิอาจใช้สามีร่วมกับบุรุษอื่นได้
การหย่าเท่านั้นถือว่าคือทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย
จะหย่าได้อย่างไร ในเมื่อนางได้หัวใจเขาแล้ว เขามิอาจปล่อยมือนางได้
"ข้าขอโทษ"
"ข้าไม่ต้องการคำขอโทษ ข้าต้องการหย่า ถ้าท่านไม่หย่า ข้าจะขอร้องชิงไทเฮาเอง ข้ามีป้ายทองคำ"
ป้ายทองคำอันนั้น ที่ไทเฮาประทานให้นางเมื่อเดือนก่อน ที่นางรักษาชิงไทเฮาได้ พระนางตรัสว่า มีป้ายทองคำแล้วจะขอเรื่องใดก็ได้ ช่างเหมาะเจาะเหลือเกิน
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล