หยางอ๋องควบอาชามุ่งมาทางจวนราชครู ในเมื่อเขาตีข้าศึกชนะแล้ว เขาต้องกลับมารับตัวชายารักกลับจวน แต่ทว่าเมื่อมาถึงกับพบว่า จวนราชครูประดับด้วยผ้าสีขาว
"ผู้ใดเป็นอันใด" ทันทีที่ลงจากหลังม้า เขาถามข้ารับใช้หน้าจวนทันที
"คุณหนูใหญ่สิ้นแล้วขอรับ" เหมือนอัสนีสันนิบาตฟาดลงมากลางใจหยางอ๋อง
"ไม่จริงข้าไม่เชื่อ" หยางอ๋องก้าวเข้าไปเพียงสามก้าว แต่ข้ารับใช้นับสิบคนขวางเขาไว้ ไม่ให้เข้าไป
"หลีกไป ข้าจะไปหานาง"
"ท่านอ๋อง นายท่านสั่งไว้ว่า หากท่านอ๋องมาที่จวน ห้ามให้เข้าไปด้านในเป็นอันขาด"
ดียิ่งนัก หลี่เจิ้งคิดอยากเป็นปรปักษ์กับเขาอย่างนั้นรึ
ข้ารับใช้จวนหลี่นับสิบนาย กระเด็นไปคนละทิศละทางด้วยฝีมือหยางอ๋อง
"ข้าคงเข้าไปได้แล้วสินะ"
หยางอ๋องย่างกรายเข้ามาในจวนหลี่ เห็นแต่เพียงผ้าสีขาวประดับไว้ทุกมุม เขามองเห็นศาลาแล้ว ด้านในมีโลงไม้ตั้งอยู่ อีกทั้งมีดอกไม้วางข้างโลงศพอย่างมากมาย
"ท่านอ๋อง ท่านคิดจะทำอันใด" หลี่เจิ้งเดินถือไม้เท้ามาหาอดีตลูกเขยเต่าทองคำ
เขาอุตส่าห์คิดว่า หยางอ๋องจะดูแลหลี่ซินดี นี่ถ้าไม่ได้ยินจากปากอีอี หลี่เจิ้งไม่คิดว่าร่างกายบุตรสาวอ่อนแอเกิดจากหยางอ๋องทำร้ายนาง
สารเลวยิ่งนัก
"ข้าจะนำศพนางกลับไปจวนของข้า"
"นางหย่ากับท่านแล้ว ท่านไปปล่อยนางเถอะ คนแก่อย่างข้าขอร้องท่าน" หลี่เจิ้งตั้งใจจัดงานศพให้บุตรสาวเอง นางจะต้องเข้าไปในศาลบรรพชนตระกูลหลี่
"ราชครูหลี่ นางตายต้องกลายเป็นผีตระกูลฉู่ ของราชวงศ์ ข้าขอตัว" หยางอ๋องเปิดฝาโลง มองหลี่ซินในชุดสีแดง ดวงหน้ายิ้มแย้ม เขาอุ้มนางขึ้นมา
"ท่านอ๋อง ปล่อยนาง" หลี่เจิ้งเสียงดัง หลี่ฮูหยินเดินออกมาพอดี ห้ามสามีไว้ นางมองออกว่าหยางอ๋องรักหลี่ซินมาก
"ท่านพี่พอเถอะ" หยางอ๋องอุ้มหลี่ซินทั้งน้ำตา ในใจก่นด่าตัวเองที่เป็นต้นเหตุให้นางจากไป
ย่าห์!!!
ร่างงามไร้ลมหายใจนั่งบนหลังม้า หยางอ๋องโอบกอดอย่างทะนุถนอม เขาควบม้าพานางกลับมาที่จวนอ๋อง
อุ้มนางเข้ามาในเรือน ตอนนี้เขาต้องการโรงน้ำแข็ง แช่ศพนางไว้
"อาหวังเจ้ารีบไปกราบทูลเสด็จพ่อ ว่าข้าต้องการใช้โรงน้ำแข็งพันปี"
"ข้าน้อยจะรีบไปขอรับ" อาหวังหายตัวไปทางหน้าต่าง มีเพียงโรงน้ำแข็งเท่านั้นที่จะรักษาศพนางไว้ได้
เรื่องแคว้นฉินคงต้องให้หนานอ๋องจัดการ เพราะเขาจะออกเดินทางตามหาหมอเทวดา
มือหนาใหญ่กุมมืองามไว้ อีกทั้งจุมพิตที่หน้าผากที่ไร้เลือดฝาด
ยามนี้นางตายแล้ว เขาปวดใจมาก ภาพความทรงจำทุกอย่างที่เขาทำไม่ดีกับนาง มันผุดขึ้นมาทุกฉากทุกตอน
"อาซิน ข้าขอโทษ"
"ท่านแม่ ท่านแม่" สองแฝดเมื่อรู้ข่าวมารดากลับมาที่จวนเพียงมีแต่ร่างไร้วิญญาณ พวกเขารีบมาหามารดา พบเพียงบิดากอดมารดาไว้
"เพราะท่าน ท่านแม่ ถึงต้องจากพวกข้าไป" เสี่ยวเปา เสี่ยวเปย กอดแม่นมจางไว้
"หากท่านแม่ของข้าไม่ตื่นขึ้นมา พวกข้าจะไม่พูดกับท่านไปชั่วชีวิต" เสี่ยวเปาเอ่ยขึ้น เด็กทั้งสองสั่งให้แม่นมจางพาพวกเขากลับเรือน เพราะไม่อยากเห็นหน้าบิดา ที่ทำร้ายมารดาเช่นนี้
หยางอ๋องยังคงกอดร่างไร้วิญญาณไม่ยอมปล่อย เขาจะต้องออกเดินทางในวันพรุ่ง เพื่อตามหาหมอเทวดา เขามิอาจให้ร่างกายของนางเปื่อยเน่าได้
"ข้าจะดึงเจ้าลงมาจากนรกเองหลี่ซิน"
หยางอ๋องย้ายร่างหลี่ซินเข้ามาในโรงน้ำแข็งขนาดใหญ่ เขาไม่มีทางให้นางตายเป็นอันขาด
หนานอ๋องมองหยางอ๋อง พี่สี่ไม่เคยเสียน้ำตาให้ใครมาก่อน แต่ต้องมาเสียน้ำตาให้แก่หลี่ซิน
"พี่สี่การออกเดินทางครั้งนี้ เต็มไปด้วยอันตราย ขอให้ท่านระวังตัวไว้ด้วย ส่วนเรื่องรัชทายาทฉินนั้น ข้าจะส่งคนไปเจรจา หากพวกเขาอยากได้ องค์หญิงองค์ชายคืนไป ก็ต้องยอมเสียส่วนหนึ่งให้เราชาวแคว้นชิง เรื่องนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ข้าเอง ข้าขอให้ท่านรีบพานางไปรักษาเถอะ การเดินทางครั้งนี้ ไม่รู้เมื่อใดจะเจอหมอเทวดา"
"ทางนี้ ข้าฝากเจ้าด้วย"
คืนนั้นหยางอ๋องนอนข้าง ๆ โลงเย็น ในใจยังคิดถึงหลี่ซินไม่หาย
วันถัดมาขบวนรถม้าของหยางอ๋องมุ่งออกไปสู่นอกเมือง ภายในรถม้ามีโลงน้ำแข็งตั้งอยู่ หยางอ๋องกอดโลงน้ำแข็งไม่ปล่อย
ไม่ว่าหมอเทวดาผู้นั้นจะอยู่ไกลสุดล่าใต้หล้า เขาต้องตามหาจนเจอ
รถม้าเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ ใช้เวลาอยู่หลายวันต้องผ่านหมู่บ้านในหุบเขาเสียก่อน การตามหาหมอเทวดานั้นมิใช่เรื่องง่าย
"ท่านอ๋องถึงหมู่บ้านในหุบเขาแล้วขอรับ" อาหวังรายงานเจ้านาย
หมู่บ้านในหุบเขา แห่งนี้เป็นที่ลับตาคนที่สุด ผู้ใดที่พบหมู่บ้านนี้ ถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ หยางอ๋องลงจากรถม้า เกรงว่าที่แห่งนี้ น่าจะเป็นที่พำนักของหมอเทวดา เพราะบรรยากาศที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยธรรมชาติล้อมรอบ
"พวกท่านเข้ามาได้อย่างไร" ดรุณีน้อยใบหน้างดงามในชุดอาภรณ์หยาบกระด้าง นางถึกเปียทั้งสองข้างปล่อยยาวลงมา
ดวงตากลมโตจ้องหยางอ๋องอย่างไม่กะพริบตา บุรุษผู้นี้ หล่อเหลายิ่งนัก
"ไร้มารยาทกล้าจ้องหยางอ๋อง" อาหวังเอ่ยขึ้นตะคอกใส่หน้าดรุณีน้อยจนนางตกใจถอยหลังไปสามก้าว
"พวกท่านมาทางไหนกลับไปเลยนะ" นางไม่ยอมให้คนเยี่ยงนี้เข้าไปในหมู่บ้านเป็นอันขาด
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล