ไท่ชางหวงป่วย
"เจ้ากล้าทำข้าตกม้า วันนี้ข้าจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า" สตรีนางนั้นประคองตัวเองลุกขึ้น มองถังลีอย่างรังเกียจ
"หน้าตาก็งดงามจิตเจ้าดั่งอสรพิษเสียจริง" ถังลีต่อว่าสตรีนางนั้น ดูจากการแต่งกายของสตรีนางนั้นก็คงจะเป็นลูกหลานเหล่าขุนนางในวังหลวงอย่างแน่นอน
"นางคือหลานรักของสวีไทเฮา" ชาวบ้านที่มุ่งดูเหตุการณ์ต่างเอ่ยขึ้น
ที่แท้หลานรักของคนในวังหลวงนี่เอง ถังลีไม่กลัวหรอกนะ
"วันนี้ข้าจะฟาดเจ้า" ฮวาหรงก็พลันยกแส้จะฟาดที่ถังลี แต่ทว่าถังลีรับแส้ไว้แล้ว ฟาดนางกลับไปสามทีจนฮวาหรงร้องด้วยความเจ็บปวด
"คุณหนู" เหล่าสาวใช้ที่วิ่งตามเจ้านายมาทัน ตกใจอย่างมาก คุณหนูของนางได้รับบาดเจ็บอีกทั้งพวกนางจะกราบทูลสวีไทเฮาอย่างไร ที่ดูแลคุณหนูฮวาหรงไม่ดี
"ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้าหรอกนะ" ถังลีโยนแส้ออกไปแล้วรากสาวใช้มุ่งหน้าไปอีกทางหนึ่ง
"ไปจับนังสารเลวมา" ฮวาหรงสั่งสาวใช้ให้วิ่งตามถังลีแต่ทว่าก็ตามนางไม่ทันเสียแล้ว
ถังลีกลับมาถึงเรือนเล็ก นางมองเสี่ยวจูหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
เสี่ยวจูช่างอ่อนแอเสียจริง"พระชายาเจ้าคะ ท่านอ๋องให้ท่านไปที่เรือน เพราะจะไปเข้าเฝ้าไท่ชางหวงที่วังหลวงเจ้าค่ะ" สาวใช้ไม่ได้เอ่ยอันใดมาก ถังลีรีบแต่งกายเสียใหม่เมื่อคิดว่าจะเข้าวังหลวง
ทั้งสามีภรรยานั่งรถม้ามาถึงวังหลวง หนิงอ๋องให้เค่อจ้าวประคองลงจากรถม้า ในสมองเขานึกถึงแต่ท่านปู่ที่ทรงพระประชวรอยู่บ่อยครั้ง ถังลีมองหนิงอ๋องสีหน้ามีความกังวลอย่างมาก
กว่าจะมาถึงตำหนักของไท่ชางหวงใช้เวลาหนึ่งถ้วยชา ถังลีกับหนิงอ๋องมาถึงคู่รอง คู่แรกเป็นรัชทายาทกับมู่หรง คู่ที่สามคังอ๋องกับถังเหมย ตามมาติด ๆ คู่ชางอ๋องกับจ้าวเฟย
"เราเรียกพวกเจ้ามาวันนี้ เพราะไท่ชางหวงไม่ไหวแล้ว พระองค์ท่านรักษากับโรคร้ายมาหลายปีถึงยามพักผ่อนแล้ว" ยามนี้ฮ่องเต้ฉินตี้กำลังมุ่งหน้ามาพระตำหนักของไท่ชางหวง ส่วนว่านฮองเฮาขอพรให้ไท่ชางหวงหายป่วย
สวีไทเฮาพลันมองหลาน ๆ ทั้งสี่กับชายาของพวกเขา พระนางสะดุดชายาเอกหนิงอ๋องเป็นที่สุด
ถังลีพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างสาเหตุที่พระนางไทเฮามองหน้านาง ย่อมต้องเรื่องเมื่อเช้านี้อย่างแน่นอน
"เสด็จแม่ ไท่ชางหวงทรงเป็นอย่างไรบ้าง" แม้สวีไทเฮาจะมิใช่พระมารดาแท้ ๆ ของฉินตี้แต่พระนางก็ทรงเลี้ยงดูฉู่ตี้มาตั้งแต่เป็นรัชทายาท กระนั้นฉินตี้จึงรักพระนางอย่างมาก
"ไท่ชางหวงเกรงว่าคงไม่ไหวแล้ว ฝ่าบาทกับเหล่าอ๋องรีบไปบอกลาท่านเถอะ" สวีไทเฮาแกล้งบีบน้ำตา
ถังลีคิดว่านางสามารถรักษาไท่ชางหวงได้ เหตุใดสวีไทเฮาถึงอยากจะให้ไท่ชางหวงตายนักเล่า
"หม่อมฉันสามารถรักษาไท่ชางหวงได้เพคะ" ทุกสายตาต่างมองไปที่ถังลี ถังเหมยมีรอยยิ้มที่ชั่วร้ายผุดขึ้นมา
"น้องสาวของหม่อมฉันนางมีวิชาแพทย์ล้ำเลิศ ขอองไทเฮาได้โปรดสงเคราะห์นางด้วยเพคะ" ถังเหมยเหมือนจะสนับสนุนถังลี แต่ทว่ายุยงให้ถังลีไปตาย คังอ๋องยิ่งเกลียดถังเหมยมากกว่าเดิม
หนิงอ๋องรู้ตัวดีว่าถังลีมีความสามารถ มู่หรงมองถังลีเป็นห่วงถังลีขึ้นมา รัชทายาทก็ไม่อยากให้ถังลีโดนผู้อื่นรังแก
"ดี หากเจ้ารักษาไท่ชางหวงได้ เราจะประทานรางวัลให้อย่างงาม หากเจ้ารักษามิได้ เราจะเอาชีวิตเจ้า" ฮ่องเต้ฉินตี้ตรัสคำไหนคำนั้น ทำให้สวีไทเฮาพอใจไม่น้อย
นังแพศยาน้อยช่างหาเรื่องเสียจริง ทุกคนต่างมองถังลีด้วยแววตาที่แตกต่างออกไป บางคนชื่นชม บางคนสมเพช บางคนสมน้ำหน้า หนิงอ๋องมองอย่างห่วงใย เขาเชื่อว่าถังลีทำได้ ทั้งสองส่งสายตาให้กัน
คังอ๋องรู้ดีว่าถังลีไม่รู้วิชาแพทย์ นางจะรักษาเสด็จปู่ได้อย่างไร
ชางอ๋องกับชายารักรอดูเรื่องสนุก"เพคะ" ถังลีรับคำ กระนั้นฮ่องเต้ให้นางกำนัลนำทางถังลีเข้าไปในห้องบรรทมไท่ชางห่วง ถังลีมองชายชราผมสีขาวประดุจหิมะ นอนนิ่งมิได้สติ นางกำนัลพวกนั้นออกไปหมดแล้ว
นางจับชีพจรพบว่าชายชราโดนพิษทั่วร่างกาย กระนั้นนางไม่รอช้าใช้เข็มทิ่มทั่วร่างกาย จากนั้นรีดพิษที่ปลายนิ้ว
เลือดไหลออกมาเป็นสีดำ พิษนี้คือพิษวิหคแน่นิ่ง หากรับพิษมานานปีจะให้นอนนิ่งเหมือนอัมพาต แต่ทว่าเมื่อได้รับการรักษาไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้หายดี
หนึ่งชั่วยามผ่านไป
ถังลีออกมาจากห้องบรรทมของไท่ชางหวง ใบหน้างามระบายไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้สวีไทเฮาแปลกใจ หรือนังแพศยาน้อยจะรักษาไท่ชางหวงได้
"หมอหลวงจางเข้าไปดู" หมอหลวงจางรับคำจากฝ่าบาท ไม่เกินหนึ่งก้านธูปหมอหลวงจางเดินออกมาอย่างหน้าตาราวกับเห็นผี
"ไท่ชางหวงทรงฟื้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ" สวีไทเฮาเกือบจะเป็นลม เป็นไปได้อย่างไรกัน ฉินตี้ยิ้มอย่างดีใจ รีบเข้าไปหาไท่ชางหวง สวีไทเฮาตามไปติด ๆ เหล่าอ๋องต่างตกใจที่เป็นเช่นนี้ มีเพียงหนิงอ๋องกับรัชทายาทที่ยินดีกับถังลีด้วย
"น้องสะใภ้เก่งยิ่งนัก" มู่หรงคิดว่าถังลีช่างเป็นหมอเทวดาเสียจริง แน่นอนว่าหากมู่หรงคลอดลูกคิดว่าจะให้ถังลีเป็นหมอตำแยช่วยนางเสียแล้ว
"เจ้ามีวิชาแพทย์ได้อย่างไร" ถังเหมยไม่เคยรู้มาก่อน
"นั่นเป็นเพราะน้องสะใภ้โง่อย่างไรเล่าที่ไม่ได้สังเกตข้า" ถังลีไม่เรียกถังเหมยว่าพี่สาว แต่นางนับตามลำดับญาติเชื้อพระวงศ์ ถังเหมยเป็นน้องสะใภ้
"เจ้า..."
"กลับจวน" คังอ๋องรีบลากตัวชายารักกลับจวนก่อนที่จะสร้างปัญหาให้เขา...
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล