Share

บทที่ 14

Penulis: l3oonm@
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-28 01:28:34

จางเทียนกับจางเหลี่ยงต้องเข้าเมืองเพื่อไปจัดการเรื่องทาสและสำนักศึกษา จึงต้องรีบออกเดินทางกัน

"คุณชายมู่ท่านจะเข้าเมืองพร้อมข้าเลยหรือไม่" จางเทียนเอ่ยถามมู่หยาง

"ข้ายังไปไม่ได้ขอรับ แต่ฝากท่านนำจดหมายฉบับนี้ไปส่งที่สำนักศึกษาให้อาจารย์หูขอรับ"

มู่หยางที่ยังไม่อยากปรากฏตัว เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ เขาจึงได้แต่ส่งข่าวเรื่องที่เขาอยู่ที่หมู่บ้านฟาตงให้คนของเขารู้เท่านั้น จางเทียนก็ไม่ได้เอ่ยถามเขารับจดหมายมาเก็บไว้อย่างไรก็ต้องไปที่สำนักศึกษาอยู่แล้ว

"หากท่านยังกลัวมือสังหาร ข้าไปส่งท่านได้นะเจ้าค่ะ" ซินหยานเขยิบตาให้มู่หยางอย่างซุกซน

"ไม่รบกวนคุณหนูจาง" มู่หยางถลึงตามองซินหยาน เพราะรู้ทันเรื่องที่นางคิดว่าตัวเขาไม่เอาไหน

"ท่านพ่อท่านอย่าลืมของของข้าเล่าเจ้าค่ะ" ซินหยานเอ่ยเตือนบิดาเรื่องเมล็ดผักของนาง

"ได้ได้" จางเทียนลูบหัวบุตรสาวก่อนจะเดินไปที่รถม้าที่จางเหลี่ยงนำมาจอดรอตนอยู่ที่หน้าเรือนแล้ว

"คุณชายมู่ท่านพักผ่อนตามสบายเลยนะเจ้าค่ะ" ชุยเหมยดึงตัวบุตรสาวเข้าไปห้องเพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น

"เจ้าบอกแม่มาประเดี๋ยวนี้ว่าเจ้าไปช่วยชีวิตคุณชายมู่ไว้ได้อย่างไร" ชุยเหมยมองบุตรสาวอย่างคาดคั้น

ซินหยานจึงเล่าเรื่องภารกิจที่นางได้รับจากเชาชื่อให้ไปช่วยเหลือมู่หยาง แต่เรื่องที่นางสังหารมือสังหารนางไม่ได้พูดออกไป

"เจ้าทำแม่ตกใจเสียหมด แล้วนี่ได้ส่องกระจกหรือยัง" ชุยเหมยดันตัวซินหยานไปที่กระจก

กระจกที่ซินหยานนำออกมาจากเชาชื่อไม่เหมือนกระจกที่ใช้กันทั่วไปที่เป็นสีเหลืองขุ่น แต่กระจกของนางใสเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน ซินหยานเมื่อเห็นตัวนางในตอนนี้ในกระจกก็อดจะอ้าปากค้างไม่ได้

นางไม่คิดว่าผลลัพธ์ของน้ำวิเศษจะทำให้ผิวพรรณรวมถึงรูปร่างของนางเปลี่ยนไปเช่นนี้ ซินหยานในตอนนี้เพียงแค่สิบสองใกล้จะสิบสามหนาวเท่านั้น แต่รูปร่างของนางราวกับสตรีวัยสิบหกสิบเจ็ดปี

"ท่านแม่ ข้าก็ว่าทำไมข้าอึดอัดยิ่งนัก" ซินหยานสำรวจหน้าอกกับความสูงที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมก็อดจะตะลึงไม่ได้ ถึงว่าทำไมทุกคนมองนางแปลกๆ ที่โต๊ะอาหาร

"เจ้าจะบอกว่าเป็นน้ำวิเศษของเชาชื่อหรือ" ชุยเหมยในยามนี้สติของนางเตลิดไปแล้ว หากคนอื่นมาล่วงรู้จะไม่เกิดอันตรายหรือ

"เจ้าค่ะ ไว้คุณชายมู่กลับไปแล้ว ข้าจะให้ท่านลงไปแช่นะเจ้าค่ะ" ซินหยานอดเย้ามารดาไม่ได้ ความสวยความงามสตรีที่ไหนจะอดใจได

"หึ เจ้าเด็กคนนี้ เจ้าพักเสียเถิดแม่จะออกไปดูคุณชายมู่" ชุยเหมยปล่อยให้ซินหยานได้พักผ่อนอีกหน่อย

ซินหยานดึงมีดสั้นขึ้นมาเล่นในมือ ก่อนจะปาไปที่หน้าต่างห้องของนาง

"แอบฟังผู้อื่นไม่ดีเลยเจ้าค่ะ" นางเอ่ยเสียงเย็นออกมา

"ขออภัย" มู่หยางเปิดหน้าต่างออกก่อนจะดึงมีดสั้นที่เมื่อครู่เกือบจะปักเข้าใบหน้าของตน

"ท่านได้ยินเรื่องใดบ้าง" ซินหยานจ้องมองไปที่มู่หยางอย่างดุดัน พร้อมทั้งปล่อยรังสีแห่งการสังหารออกมาด้วย

"ซินหยาน อย่าได้ทำอันใดท่านผู้นั้น" เสียงของเชาชื่อเอ่ยห้าม

"เหอะ เขาเป็นบิดาเจ้าหรือไง"

"เชื่อข้า เรื่องของเจ้าเขาไม่มีทางพูดออกไป"

"เช่นนั้น เจ้าต้องให้ค่าปิดปากข้า"

"หึ เจ้าจะเอาสิ่งใด"

"พื้นที่เก็บของข้าชั่งเล็กนัก ข้าอยากได้เพิ่ม" เพราะนางไปอาจเก็บสิ่งของทั้งหมดในเรือนเข้าไปในช่องเก็บของของนางได้ หากต่อไปมีผู้อื่นมาที่เรือนอีกนางจะได้เก็บของที่แปลกตาเข้าไปไว้ในช่องเก็บของก่อน

"ได้" 

ช่องเก็บของของซินหยานในเวลานี้สามารถเก็บได้อย่างไม่จำกัด นางจึงพอจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง มู่หยางมองซินหยานที่อยู่ดีดีนางก็เงียบไป ประเดี๋ยวขมวดคิ้ว ประเดี๋ยวก็ยิ้มออกมาราวกับเสียสติ

"เจ้าเป็นอันใดหรือไม่" มู่หยางเอ่ยขึ้น

"ไม่"

"แล้วท่านจะกลับเมื่อใดเจ้าคะ" ซินหยานผายมือเชิญให้มู่หยางเข้ามาในห้องของนาง

"ข้ากำลังรอองครักษ์มารับ" มู่หยางกระโดดเข้ามานั่งที่โต๊ะในห้อง 

"นี่คือสิ่งใด" เขาชี้ไปที่โซฟา

"เก้าอี้นั่งเจ้าค่ะ ท่านลองนั่งดู" ซินหยานตบลงที่นั่งข้างๆ นาง

"ให้ข้านั่งข้างเจ้าหรือ"

"เหอะ ข้าไม่ทำอันใดท่านหรอกเจ้าค่ะ" 

"มิใช่ เจ้าเป็นสตรี จะเสียหายได้"

"แล้วท่านเข้ามาอยู่ในห้องข้า ข้าไม่เสียหายหรือเจ้าคะ" ซินหยานมองมู่หยางเหมือนมองคนโง่

"เอ่อ ขออภัย" 

"พอ พอ เจ้าค่ะ จะลองนั่งหรือไม่"

มู่หยางเดินเข้าไปนั่งข้างซินหยาน เพียงเขาทิ้งตัวลงไป เบาะที่นั่งก็ยวบตัวลง มู่หยางเด้งตัวขึ้นอย่างตกใจ

"ฮ่า ฮ่า" ซินหยานกุมท้องหัวเราะ

"เพียงเท่านี้ท่านก็ตกใจเสียแล้ว" 

"เหอะ" มู่หยางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างหน้าต่างแทน เขาทำสีหน้าดุดันเพราะเพิ่งเสียหน้าไป

"ขอหวังว่าสิ่งที่ท่านล่วงรู้เมื่อออกจากเรือนของข้าไปท่านจะทิ้งทั้งหมดไว้ข้างหลัง" ซินหยานเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง

"ขอเข้าใจแล้ว เพียงแต่เรื่องยาเจ้ายังมีอีกหรือไม่" ยาที่นางให้เขาเพื่อรักษาบาดแผลช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก

เขารู้ได้ทันทีเมื่อดื่มยาของนางลงไป สิ่งที่เขาตามหาต้องอยู่ที่นางเป็นแน่ จึงได้ตามกลับมาที่เรือนของนางในคืนนั้น

"ท่านต้องการไปเพื่อสิ่งใด" 

"มารดาข้าป่วยหนัก ที่ข้าเดินทางมาเมืองโจวหนานเพราะมีคนบอกว่าข้าจะหายารักษามารดาได้" 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   ฝูเหิงสมหวังแล้ว (จบ)

    ฝูเหิงอาบน้ำขัดตัวอย่างเร่งรีบ เมื่อสำรวจจากร่างกายว่าแทบไม่หลงเหลือกลิ่นสุราแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำ“หึหึ” เขาหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบาเมื่อเห็นซูหนี่นั่งหน้าเครียดอยู่ที่เตียงนอนฝูเหิงเดินเข้าไปนั่งข้างซูหนี่ก่อนที่จะยกตัวนางขึ้นมานั่งบนตักแล้วกอดนางไว้จากด้านหลัง“เป็นอันใดไปหรือ” ฝูเหิงก้มลงสูดดมกลิ่นหอมจากตัวซูหนี่ที่ซอกคอของนางอย่างโหยหา“ปะ เปล่าเจ้าค่ะ” ซูหนี่เอ่ยตอบเสียงสั่นฝูเหิงคิดว่านางคงกลัวจึงได้จับใบหน้าของซูหนี่ให้หันมาสบตาเขา ก่อนจะจรดหน้าผากของเขาเข้ากับของซูหนี่“หนี่เออร์ อย่าได้กลัว ข้าสัญญาว่าจะทะนุถนอมเจ้าอย่างดี” ฝูเหิงเอ่ยเสียงเบาราวกับกำลังปลอบประโลมนางหัวใจของซูหนี่เต้นระรัว เมื่อเห็นสายตาของฝูเหิงที่จ้องมองมาที่นางอย่างเร่าร้อน นางสั่นสะท้อนเล็กน้อยอย่างตื่นตัว เมื่อลมหายใจร้อนๆ ของฝูเหิงเป่ารดต้นคอของนางซูหนี่แทบอ่อนระทวย เมื่อถูกลิ้นร้อนของฝูเหิงไล้เลียและดูดดึงที่ซอกคอของนาง ความรู้สึกสับสนเกิดขึ้นกับนาง แต่ก็ปล่อยไปตามการสัมผัสของเขาฝูเหิงที่เพียงได้กลิ่นกายของนางความเร่าร้อนก็พุ่งสูงขึ้นภายใน แต่เขาจำต้องควบคุมสติไว้เพื่อไม่ให้นางตื่นกลัวสายตาขอ

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   งานมงคล

    ซินหยานยืนมองตำหนักอ๋องที่ประดับไปด้วยผ้าแดงของงานมงคลอย่างยินดี นางไม่เคยคิดว่าในชีวิตของนางจะมีครอบครัวที่อบอุ่นเช่นนี้ และในตอนนี้บุตรสาวเพียงคนเดียวของนางก็กำลังจะออกเรือนแล้วตอนนี้ซูหนี่นางโดนซงมามากับฝูมามาจัดการขัดเนื้อตัวของนางอยู่ แม้ว่าผิวพรรณของนางจะผุดผ่องไปไม่ได้มากกว่านี้แล้วก็ตามซินหยานเดินเข้าไปดูบุตรสาวที่แช่อยู่ในบ่อน้ำวิเศษของนางแล้วก็ได้แต่ถอนหยาใจ ไม่ต่างกับตัวนางในครั้งนั้นที่โดนจับขัดสีฉวีวรรณเช่นนี้ซินหยานนางยังช่วยชีวิตซูหนี่ด้วยการพานางกลับเรือนเพื่อพูดคุยตามประสาแม่ลูกก่อนที่จะออกเรือนในวันพรุ่งนี้“หนี่เออร์ นี่คือสิ่งที่มารดาทุกคนต้องสั่งสอนบุตรสาวก่อนออกเรือน” ซินหยานนางหยิบตำราวสันต์มาเปิดออกให้ซูหนี่ได้ดู"ท่านแม่" ซูหนี่ร้องอยากตกใจ เพราะสิ่งที่มารดาให้นางได้ดูนางเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก“มิใช่เรื่องน่าอาย มาแม่จะดูเป็นเพื่อนเจ้า” ซินหยานตบไปที่หลังมือของซูหนี่เบาๆเมื่อเห็นบุตรสาวทำท่าทางเขินอายยามที่นางเปิดไปแต่ละหน้าและอธิบายไปด้วย ซินหยานนางก็หัวเราะออกมาเบาๆนี่คือเรื่องที่ในภพนี้ยังไม่เปิดกว้าง จึงทำให้สตรีต่างเขินอายไม่กล้าพูดหรือแสดงออกมาก

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   เดินทางกลับเมืองหลวง

    ซินหยานนางยังให้ซูหนี่นำน้ำวิเศษใส่ไหจำนวนมากทิ้งไว้ที่จวนท่านแม่ทัพ ก่อนจะบอกกับจ้าวฟางหรงให้ไว้ใช้ในการเกษตรเช่นไร เพื่อให้ทหารและชาวบ้านเมืองเป่ยโจวที่หาผักสดกินได้ยาก ได้มีผักกินตลอดทั้งปีจ้าวฟางหรงก็กล่าวขอบคุณหยางอ๋องและซูหนี่ที่เมตตาต่อทหารและชาวเมืองมากเช่นนี้ เขารีบไปจัดการเรื่องทั้งหมดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และทิ้งคนที่ไว้ใจได้ให้จัดการเรื่องการเพพาะปลูกต่อเพราะเขาต้องเดินทางเข้าเมืองหลวงพร้อมกับหยางอ๋องและซินหยาน เพื่อจัดการเรื่องของมงคลของฝูเหิงกับซูหนี่ขบวนเดินทางของหยางอ๋องที่กลับเมืองหลวงก็มีผู้ติดตามกลับไปด้วยมากกว่าเดิม ทำให้พวกเขาไม่อาจเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในมิติได้ตลอดเวลาเช่นเดิมเพียงแต่จะเข้าไปก็ต่อเมื่อแยกย้ายกันกลับห้องพักผ่อนแล้ว เพราะขบวนเดินทางมีคนมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้กว่าจะเดินทางมาถึงเมืองหลวงก็ล่วงเข้าเดือนที่สามของการเดินทางแล้วจ้าวฟางหรงก็ส่งคนมาให้จัดการจวนตระกูลจ้าวในเมืองหลวงไว้ก่อนแล้วฮ่องเต้ ฮองเฮาเมื่อรู้ว่าบุตรชายกับหลานทั้งสี่กลับมาถึงเมืองหลวงก็เรียกตัวเข้าวังทันทีทุกพระองค์ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแคว้นหานต่างก็ลอบตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนทะลุ

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   จำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น

    เชาชื่อนำยาลบความทรงจำมาส่งให้หยางอ๋อง เขาได้ทำกการปรุงยาขึ้นมาใหม่เพื่อใช้กับหานอี้สุ่ยโดยเฉพาะเชาชื่อต้องการให้หานอี้สุ่ยลืมเรื่องที่เขารู้เรื่องระเบิดและก่อนที่จะรู้จักกับซูหนี่ ความทรงจำของหานอี้สุ่ยจึงหยุดอยู่ในวันที่เขาลอบเข้าแคว้นเซี่ยเพื่อสืบเรื่องในแคว้นเท่านั้นก่อนที่จะพาตัวหานอี้สุ่ยออกจากมิติ ฝูเหิงทำลายเอ็นข้อมือข้างขวาของเขาทิ้งเสีย หากสวรรค์ยังเขาข้างหานอี้สุ่ยก็คงส่งหมอเทวดามารักษาเขา แต่หากไม่เขาก็ต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิตซูหนี่พาซีฮันและฝูเหิงออกมาจากมิติ เพื่อให้เขาพาหานอี้สุ่ยไปโยนทิ้งไว้ข้างวังหลวงเมื่อเสร็จสิ้นเรื่องทั้งหมด ทุกคนก็เห็นตรงกันเรื่องที่ต้องเดินทางกลับแคว้นเซี่ย ชีวิตของหานอี้สุ่ยและฟ่านหลี่อิงหลังจากนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องข้องเกี่ยวอีกแล้วในตอนที่ออกจากแคว้นหาน ซูหนี่นางต้องเดินทางอยู่ภายในรถม้ากับฝูเหิงเช่นตอนขามา แต่ในครั้งนี้มีหยางอ๋องที่ปลอมตัวออกมาอยู่ด้วย เพราะเขาไม่ยินยอมที่จะให้บุตรีอยู่เพียงลำพังกับฝูเหิงฝูเหิงที่คิดว่ามีโอกาสใกล้ชิดกับซูหนี่ในรถม้าก็มีสีหน้าสลดอย่างเห็นได้ชัด สืออียังทำหน้าที่บังคับรถม้าเช่นเดิม ทุกคนที

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   ฝ่าเท้าหยางอ๋อง

    หานอี้สุ่ยทรุดตัวนั่งลงอย่างสิ้นแรง เขาแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน จะมีเรื่องอันใดที่ทำให้นางหลงลืมไปได้เช่นนี้ ตอนที่พบนางก็ไม่เห็นว่านางจะบาดเจ็บที่ใดฟ่านหลี่อิงถูกหานอี้สุ่ยส่งตัวไปคุมขังไว้ในคุกใต้ดิน เขายังไม่เชื่อนางเสียทั้งหมด ในเมื่อเขาทำตามที่รับปากนางไว้แล้ว แต่นางกลับไม่ยอมบอกวิธีทำระเบิด เช่นนั้นเขาก็จะทรมมานจนกว่านางจะพูดฟ่านหลี่อิงไม่รู้ว่าเหตุใดตนถึงถูกกระทำเช่นนี้ นางถูกนางกำนัลลากตัวไปไว้ในคุกใต้ดิน พร้อมทั้งหวดแส้ลงที่ร่างกายของนาง“หม่อมฉันไม่รู้จริงๆ เพคะ” เสียงที่เอ่ยออกมาของนางแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเปิ่นกงอดทนกับเจ้ามากเพียงใด หากยังไม่ยอมพูดอีก เปิ่นกงจะตัดลิ้นของเจ้าเสีย” หานอี้สุ่ยดึงผมของฟ่านหลี่อิงขึ้น เพื่อให้เงยหน้ามาสบตากับเขาฟ่านหลี่อิงร่ำไห้อย่างหวาดกลัว นางได้แต่ร้องบอกว่านนางไม่รู้ นางจำสิ่งใดไม่ได้ แต่เหมือนจะเป็นการเพิ่มโทสะให้หานอี้สุ่ยมากขึ้น เขาลงแส้ไปที่ร่างกายของนางนับครั้งไม่ถ้วนฟ่านหลี่อิงหมดสติลง เพราะทนรับความเจ็บปวดไม่ไหวหานอี้สุ่ยเดินออกจากคุกใต้ดินไปอย่างไม่สบอารมณ์ เขาแทบไม่เคยคิดไว้เลยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   งานมงคลของฟ่านหลี่อิง

    ไม่ต่างจากหานอี้สุ่ย เขาก็คิดเช่นนั้น เพราะเหลือเวลาอีกเพียงสามวันจะถึงวันงานแต่งจึงต้องส่งนางกลับไปที่จวนตระกูลฟ่านเพื่อเตรียมตัวเสียก่อน เขาจึงไม่ได้สอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้นถึงถามไปนางก็ตอบได้เพียงจำไม่ได้เท่านั้น ทหารและนางกำนัลในตำหนักต่างก็ตอบไม่ได้ว่าผู้ใดเป็นคนพาตัวฟ่านหลี่อิงออกไปจากตำหนักเพราะตอนที่ถูกทำร้าย พวกเขาต่างไม่เห็นใบหน้าของผู้ร้ายฟ่านหลี่อิงที่อยู่ภายในเรือนตระกูลฟ่าน นางจำไม่ได้ว่านางเข้าไปอยู่ในวังหลวงได้อย่างไร และเหตุใดนางถึงได้มีวาสนาถึงขั้นได้แต่งเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทนายท่านฟ่านกับฮูหยินฟ่านก็ไม่ได้รับรู้ถึงความผิดปกติของบุตรสาว เพราะพวกเขาได้แต่ต้อนรับแขกที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีและเตรียมงานมงคลจนหัวหมุนสองวันต่อมา ฟ่านหลี่อิงก็ถูกปลุกมาให้เตรียมตัว เพื่อเข้าพิธีแต่งงาน งานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แขกที่มาร่วมส่งเจ้าสาวมากมายจนแน่นเต็มเรือนพวกเขาล้วนอิจฉาตระกูลฟ่านที่เป็นเพียงคหบดีเท่านั้น แต่บุตรีกลับมีวาสนาได้เป็นถึงพระชายาขององค์รัชทายาท และต่อไปนางก็จะได้นั่งตำแหน่งฮองเฮาในอนาคต เช่นนี้แล้วผู้ใดจะไม่มาร่วมยินดีได้เล่าฟ่านหลี่อิงเดินเข้าไปก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status