แชร์

บทที่ 11

ผู้เขียน: กุหลาบดิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-07 19:02:23

ในอีกด้านหนึ่ง เหวิ่นจือหยูยังคงรู้สึกกังวลกับพระบรมราชโองการที่ทรงมีคำสั่งให้จัดงานแต่งงานอย่างเร่งด่วน นางพยายามหาทางออกจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ ทางเลือกของนางก็ยิ่งแคบลง

เหวิ่นจือหยูต้องเผชิญกับความกดดันจากองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อ พระคู่หมั้นที่ประกาศออกมาชัดเจนว่าไม่ปรารถนาที่จะแต่งงานกับนาง แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธรับสั่งของฮ่องเต้ได้ ในขณะที่ทั้งคู่ต่างต้องทรมานจากการแต่งงานที่ไม่เต็มใจ และทุกข์ทรมานจากการแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ตัวเหวิ่นจือหยูไม่เท่าไหร่เพราะวาดรวีรู้ว่าจือหยูคนเดิมแอบชอบพอองค์ชายอยู่ แต่องค์ชายนี่ซินอกจากจะไม่ได้ชอบพอกับจือหยูคนเดิมเเล้วยังบอกว่าเกลียดคนนิสัยเช่นนางด้วยซ้ำ

เหวิ่นจือหยูถอนหายใจยาว ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ นางหยิบกระดาษและพู่กันขึ้นมา เขียนสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเป็นตัวอักษรจีนที่สง่างาม ราวกับกำลังใช้การเขียนเป็นวิธีการระบายความเครียดและความกังวลที่ทับถมอยู่ในใจ

“ข้าควรทำอย่างไรต่อไป” นางพูดกับตัวเองเบาๆ ขณะที่มองตัวอักษรที่เขียนเสร็จแล้ว

ในขณะที่เหวิ่นจือหยูครุ่นคิด เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น สาวใช้ส่วนตัวของนางเข้ามาอย่างเงียบๆ

“คุณหนูเจ้าคะ นายท่านต้องการพบคุณหนูที่ห้องทำงานเจ้าค่ะ ” สาวใช้รายงานด้วยท่าทางสุภาพ

เหวิ่นจือหยูรีบลุกขึ้น นางไม่เคยปฏิเสธการเข้าพบของบิดา และในเวลานี้นางก็รู้สึกว่าต้องการคำแนะนำจากท่านพ่อมากที่สุด นางเดินออกจากห้องตรงไปยังห้องทำงานของบิดา ใจที่หนักอึ้งเริ่มรู้สึกเบาลงเมื่อคิดถึงความอบอุ่นจากคำปลอบโยนที่นางมักได้รับจากท่านพ่อเสมอมา

ขณะที่เหวิ่นจือหยูเดินทางมาที่ห้องรับรอง นางรู้สึกได้ถึงสายตาของน้องสาวเหวิ่นลี่หยาที่มองนางอยู่จากที่ไกลๆ ราวกับจับจ้องนางด้วยความโกรธ นางรู้ดีว่าเหวิ่นลี่หยาไม่เคยพอใจกับการที่นางได้หมั้นหมายและได้แต่งงานกับองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อ แต่กำหนดการรวมถึงพระบรมราชโองการออกมาแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ก็ยังไม่สามารถทำให้น้องสาวเลิกชิงชังได้

เหวิ่นลี่หยาเดินเข้ามาใกล้พี่สาวก่อนจะยิ้มบางๆ ที่ดูเหมือนจะซ่อนความหมายบางอย่างแฝงไว้ นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูห่วงใยแต่แฝงด้วยความเยาะเย้ย

“พี่จือหยู พี่จะไปไหน คงไม่ใช่ไปอ้อนให้ท่านพ่ออีกหรอกนะ”

เหวิ่นจือหยูรู้ดีว่าน้องสาวพูดเช่นนี้เพียงเพื่อยั่วให้นางโกรธ แต่ในครั้งนี้ นางกลับเลือกที่จะยิ้มและตอบกลับด้วยน้ำเสียงสงบ

“ไม่จำเป็น เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อรักข้ามากกว่าลูกอนุอย่างเจ้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

คำตอบที่นิ่งสงบของเหวิ่นจือหยูทำให้เหวิ่นลี่หยารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย นางหวังว่าพี่สาวจะโต้กลับหรือตอบสนองด้วยอารมณ์ แต่กลับพบกับความเยือกเย็นที่ไม่คุ้นเคย พร้อมกับการย้ำให้รู้สึกเจ็บจากการพูดถึงตำแหน่งแม่ของนาง

“เราจะได้เห็นกัน” เหวิ่นลี่หยาพูดก่อนจะเดินจากไปด้วยความไม่พอใจ

เหวิ่นจือหยูมองตามน้องสาวไป นางรู้ว่าการต่อสู้ระหว่างนางกับเหวิ่นลี่หยานั้นยังไม่จบ นางจะต้องพยายามเอาชนะทั้งในสายตาขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อและเอาชนะความอิจฉาของเหวิ่นลี่หยาให้ได้

เมื่อเหวิ่นจือหยูเข้าไปในห้องของบิดา ขุนนางเหวิ่นจวิ้นอี้นั่งอยู่บนเก้าอี้รับรอง ใบหน้าที่เคยเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวกลับดูอ่อนโยนขึ้นเมื่อเห็นบุตรสาวคนโตเดินเข้ามา ขุนนางเหวิ่นเป็นคนที่เคร่งครัดกับเรื่องการทำงาน แต่กลับมีความเมตตาและความเข้าใจต่อบุตรสาวเป็นพิเศษ

“ลูกหยูเอ๋อร์” ท่านพ่อเอ่ยเรียกนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เข้ามานั่งก่อน”

เหวิ่นจือหยูนั่งลงข้างๆ ท่านพ่อ สายตาของนางเต็มไปด้วยความกังวลจนเหวิ่นจวิ้นอี้มองออกได้ทันที

“พ่อรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้อาจเป็นเรื่องที่ลูกรู้สึกลำบากใจ” ท่านพ่อพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“แต่บางครั้งในชีวิต เราไม่อาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่ถูกลิขิตมาแล้วได้”

เหวิ่นจือหยูพยักหน้าเบาๆ นางรู้ว่าบิดาของนางพูดถูก การแต่งงานกับองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อเป็นรับสั่งจากฮ่องเต้ ไม่มีทางเลือกอื่นที่นางจะปฏิเสธได้ แต่นางยังคงไม่อาจสลัดความรู้สึกวิตกกังวลออกไปได้

“ท่านพ่อ” นางพูดเสียงแผ่ว

“ลูกรู้ว่าลูกเคยทำตัวไม่ดี ลูกทำให้หลายคนไม่ชอบ แต่ลูกกลัวว่าลูกจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้พอที่จะทำให้เขายอมรับลูกได้”

ขุนนางเหวิ่นฟังคำพูดของลูกสาวอย่างเงียบๆ ก่อนจะยกมือลูบศีรษะนางเบาๆ อย่างอ่อนโยนด้วยความเอ็นดู

“ลูกทำได้ดีแล้วนะ หยูเอ๋อร์ พ่อรู้ว่าลูกได้พยายามปรับปรุงตัวเองอย่างมากมาย หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวลูก ลูกกำลังเดินไปในทางที่ถูกต้อง”

เหวิ่นจือหยูรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ท่านพ่อส่งผ่านมาถึง นางยิ้มออกเล็กน้อย อย่างมีกำลังใจถึงแม้ในใจก็ยังมีความกังวลอยู่ลึกๆ

“แต่เขายังไม่เชื่อใจลูก” นางพูดเบาๆ

“ลูกรู้สึกว่าเขายังคงไม่เห็นคุณค่าในตัวลูก”

ขุนนางเหวิ่นมองหน้าบุตรสาวอย่างอ่อนโยน “ความไว้วางใจต้องใช้เวลาในการสร้าง อย่าเพิ่งยอมแพ้ ต่อให้ตอนนี้เขายังไม่เชื่อใจลูก แต่หากลูกแสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความมุ่งมั่น เขาก็จะเห็นในที่สุด”

“หยูเอ๋อร์ ฟังนะลูก เจ้าเป็นลูกสาวของพ่อ และพ่อคนนี้ก็เชื่อมั่นในตัวลูก พ่อรู้ว่าลูกฉลาด แข็งแกร่ง และกล้าหาญ พ่อเห็นศักยภาพในตัวลูกมาโดยตลอด สิ่งสำคัญคือลูกต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากเพียงใด ลูกก็จะสามารถก้าวผ่านมันไปได้”

เหวิ่นจือหยูฟังคำพูดของบิดา หัวใจของนางรู้สึกอบอุ่นขึ้น นางเริ่มเชื่อว่าบางทีนางอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อได้ ถ้านางตั้งใจและมุ่งมั่นพอ

“ท่านพ่อ ลูกจะพยายาม” เหวิ่นจือหยูเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้น

“ลูกจะไม่ยอมแพ้ จือหยูคนนี้จะทำให้เขาเห็นว่าลูกเป็นคนที่เขาสามารถไว้ใจได้”

ขุนนางเหวิ่นยิ้มให้กับลูกสาวด้วยความภาคภูมิใจ “นั่นแหละคือคำตอบที่พ่ออยากได้ยิน พ่อรู้ว่าหยูเอ๋อร์ของพ่อทำได้ และพ่อจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอลูกรัก”

เหวิ่นจือหยูยิ้มอย่างมั่นใจมากขึ้น นางรู้ว่าการเดินทางในเส้นทางนี้จะไม่ง่าย แต่ด้วยความรักและการสนับสนุนจากบิดา นางก็พร้อมที่จะเผชิญกับทุกอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 174

    “เสด็จแม่ทำของวิเศษอีกแล้วหรือเพคะ”“ใช่ แม่ทำของขวัญให้เสด็จพ่อของเจ้า” นางยิ้ม ก่อนจะหันไปพยักพเยิดให้เขาแสดงนาฬิกาให้ลูกๆ ดูหลี่หยวนเจ๋อเปิดฝานาฬิกา พระโอรสและพระธิดามองมันตาเป็นประกาย“ว้าว มันขยับเองได้”“นี่คืออะไรหรือพะย่ะค่ะ” หลี่เจ๋อหานมองหน้าปัดที่มีเข็มหมุนช้าๆ อย่างสนใจ“เรียกว่านาฬิกา”

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 173

    ภายในห้องทำงานที่เงียบสงบ แสงเทียนส่องวูบไหว เงาของเหวิ่นจือหยูที่กำลังก้มหน้าก้มตาประกอบชิ้นส่วนโลหะเล็กๆ ด้วยความตั้งใจ บนโต๊ะไม้เต็มไปด้วยแบบร่าง กลไก และเครื่องมือที่นางประดิษฐ์ขึ้น เสียงโลหะกระทบกันเป็นจังหวะสม่ำเสมอเหวิ่นจือหยูค่อยๆ ใช้เครื่องมือขนาดเล็กประกอบเฟืองตัวสุดท้ายเข้ากับแกนกลาง ก่อ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 172

    แสงแดดอ่อนยามเช้าทอดผ่านแมกไม้ วันนี้องค์รัชทายาทหลี่หยวนเจ๋อพาพระชายาและพระโอรสมาเที่ยวดูความเป็นอยู่ของราษฎรอย่างไม่เป็นทางการ เหวิ่นจือหยูนั่งอยู่บนในรถม้าเคียงข้างองค์รัชทายาทพระสวามีของนาง รถม้าเคลื่อนผ่านถนนลูกรังที่ทอดยาวไปยังหมู่บ้านริมแม่น้ำ ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำคือท้องทุ่งเขียวขจีของอีกหมู่

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 171

    ดวงตะวันฉายแสงเจิดจรัสเหนือขอบฟ้า สาดส่องลงมายังอาณาจักรอันกว้างใหญ่ของแคว้นหลี่ วันนี้เป็นวันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์เพราะเป็นวันที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ซึ่งใช้เวลาสร้างมายาวนานถึงสามปีได้เสร็จสมบูรณ์ ฮ่องเต้พร้อมด้วยเหล่าขุนนางเสด็จมาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง บริเวณอ่างเก็บน้ำถูกตกแต่งอย่างงดงาม

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 170

    “เปรี๊ยะ” ลูกธนูไฟพุ่งทะยานสู่เป้าหมาย ทุกดอกพุ่งเข้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ เนื่องจากการปรับองศาของหอคอยตรวจตราแบบใหม่ ทำให้สามารถคำนวณทิศทางลมและระยะการยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ “ไม่ใช่แค่ตรวจจับศัตรู แต่ยังโจมตีได้แม่นยำ ” อ๋องจิ้นอันพึมพำ สีหน้าของเขาประหลาดใจ เหวิ่นจือหยูเผยรอยยิ้มบ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 169

    ลมหนาวพัดแรงเหนือทุ่งหญ้ากว้างที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เหยี่ยวตัวหนึ่งโฉบลงจากฟากฟ้า ก่อนจะม้วนปีกร่อนลงยังแขนขององครักษ์หนุ่มที่ยืนรออยู่หน้าตำหนัก ขาของมันมีม้วนสารพันด้วยตราประจำตัวของอ๋องจิ้นอัน “ข่าวด่วนจากอวิ๋นโจว” องครักษ์เอ่ยพลางยื่นสารให้ขันทีผู้อาวุโสที่รออยู่เพื่อนำไปถวายฮ่องเต้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status