Share

บทที่ 8 ข้ามภพ

last update Last Updated: 2025-11-01 23:32:17

บทที่ 8 ข้ามภพ

       ตงเฟยเทียนเดินตรงไปหาเสิ่นหรงลี่ในทันที ไอสีดำยังคงเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตงเฟยเทียนรู้แน่ชัดแล้วว่านางมิได้บ้า แต่นางกำลังถูกเล่นงานด้วยมนต์กระซิบจิตต่างหาก

“ฮืออ ไม่นะ อย่าพูด อย่ามาสั่งข้าให้ทำชั่วร้าย” เสิ่นหรงลี่ร้องไห้ออกมา

‘เจ้าอยู่กับผู้ใด เหตุใดข้ามองไม่เห็น’

“จะอยู่กับผู้ใดมันก็เรื่องของข้า ข้าจะไม่ทำร้ายเขา ฮือๆๆ”

       จอมมารได้ยินดังนั้นก็แสยะยิ้มออกมาทันที เพราะไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ใดก็ย่อมเป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งน้อยกว่าตัวเขาอย่างแน่นอน หากไม่เช่นนั้นย่อมต้องมองผ่านเสิ่นหรงลี่มาเห็นเขาได้

“หรงลี่มาใกล้ๆ ข้า” เฟยเทียนเข้าไปดึงให้หรงลี่มาใกล้ แต่ตัวนางกลับแข็งทื่อไม่ขยับแม้แต่น้อย เมื่อหมดหนทางจึงต้องเข้าไปกอดไว้

“กรี๊ด ออกไป อย่าเข้ามา อย่านะ ไม่ๆๆๆ” คุณหนูเสิ่นที่กลัวจับใจกรีดร้องทันทีที่รู้สึกถึงแรงกอดรอบกาย แต่อ้อมกอดนั้นไม่ยอมปล่อยออกไป ต่อให้นางจะทุบตีและกรีดร้องอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด

       ตงเฟยเทียนกอดรัดตัวหรงลี่เอาไว้แน่นหนา พร้อมกับกดจุดและท่องมนต์ปิดกั้นให้กับเสิ่นหรงลี่ ทันทีที่กล่าวจบบท ไอดำที่ส่งออกมาจากตัวเสิ่นหรงลี่ก็หยุดลงทันที ความไม่ไว้ใจก่อขึ้นในใจของเฟยเทียนเสียแล้ว เขาคิดไม่ตกว่ามนุษย์ผู้หนึ่งมีเรื่องบาดหมางอันใดกับคนจากภพมารจึงได้ถูกเล่นงานเช่นนี้ แต่หากว่านางเป็นมนุษย์จริง เหตุใดจึงได้สามารถทนทานต่อวิชาเช่นนี้มาได้จนเติบโต

“พี่เฟยเทียนทำได้อย่างไร ฮืออๆ ท่านดีที่สุดจริงๆ ด้วยเจ้าค่ะ” หรงลี่ร้องไห้โฮออกมา ทั้งชีวิตหากไม่รอให้มารตนนั้นปั่นหัวจนพอใจ ก็ต้องเป็นนางที่สลบไสลจึงจะได้อยู่อย่างสงบ แต่ชายผู้นี้กลับพูดบางอย่างเพื่อไล่มารได้

“นั่นเป็นความลับ หากเป็นอีกเจ้าเพียงบอกข้า ข้าจะช่วยเจ้าเอง”

“เจ้าค่ะ” ครั้งนี้นางมิได้ผละตัวออกจากอ้อมกอด เมื่อเขาไม่ปล่อยนางเองก็ไม่ปล่อย หรงลี่ที่รู้สึกปลอดภัยจากสิ่งนั้นเป็นครั้งแรก จึงไม่กล้าที่จะถอยออกไปไกลนัก

“เจ้ามั่นใจหรือไม่ว่ามารดาคลอดออกมาจริงๆ” ตงเฟยเทียนที่ยังคงไม่สามารถสลัดความสงสัยเอ่ยออกมา

“เอ๋ ทำไมจู่ๆ ถามเรื่องเช่นนี้เล่าเจ้าคะ หากมารดาไม่คลอดแล้วข้าจะเกิดมาได้อย่างไร ท่านแม่เคยเล่าว่าไหล่ของข้าติดไม่ยอมออก หมอตำแยต้องขยับอยู่นานกว่าที่ข้าจะออกมาได้”

“ถูกสลับตัวหรือไม่”

“เรื่องนี้ก็ไม่น่าเป็นไปได้นะเจ้าคะ ตั้งแต่ตอนติดที่เชิงกราน รอยปานของข้าก็ถูกนำไปบอกท่านพ่อแล้ว ทุกวันนี้ข้าก็ยังมีปานนั้นอยู่ หากจะสลับตัวคงยากที่จะหาเด็กที่มีปานแบบเดียวกันในตำแหน่งเดียวกันมาได้”

“แปลกนัก” เฟยเทียนมิได้กล่าวถามอันใดต่อ หากเป็นเช่นนี้ก็หมายความว่านางเป็นมนุษย์จริง แต่จะเกี่ยวข้องอย่างไรก็มีแต่ต้องพากลับไปด้วยจึงจะรู้ได้

“หรือพี่เฟยเทียนสงสัยในชาติกำเนิดของข้าหรือเจ้าคะ หรือท่านกลัวว่าข้ากล่าวอ้าง ขโมยชุดผู้อื่นมาใส่” เสิ่นหรงลี่แววตาวูบไหว กลัวเขาจะคิดว่านางเป็นชาวบ้านปลอมตัวแล้วมาเสแสร้งยกสถานะตน

“มิได้สงสัยว่าเจ้าปลอมเป็นคุณหนูหรือไม่ ไม่ได้มีอะไรเช่นนั้น” เขาส่ายหน้า “ข้าต้องเข้าสมาธิสองวันนี้ห้ามเจ้ารบกวน การเดินทางกลับต้องมีความพร้อม เจ้าเองก็ควรพักผ่อนให้มากหน่อย”

“ไม่ใช่ว่าจะไปกันแล้วหรือเจ้าคะ”

“ขอเตรียมร่างกายเพิ่มอีกหน่อยเถิด”

“เจ้าค่ะ” เสิ่นหรงลี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย แต่ก่อนที่เขาจะผละออกไป นางก็กัดริมฝีปากให้มีเลือดออกมาแล้วดึงโน้มตัวตงเฟยเทียนลงมาจูบ

       เฟยเทียนที่ห่างหายจากรสชาติของจุมพิษหวานนี้ไปนาน ก็ไม่ได้ปฏิเสธการที่จะลิ้มลองริมฝีปากนุ่มนี้อีกครั้ง รสจูบนุ่มนวลผสมกับเลือดวิเศษที่ช่วยให้เขารอดพ้นความตาย คล้ายว่าจะเป็นของเสพติดให้ตัวเขานั้นหลงใหล เมื่อทำใจห่างก็คิดว่าจะตัดได้แล้ว แต่เมื่อต้องเผชิญอีกครั้งก็ทำให้รู้ว่าจุมพิตไม่ประสาของนางยังตราตรึง

       การบดคลึงทวีความเร่าร้อนขึ้นตามระยะเวลาของการจูบ ฝ่ามือใหญ่ที่เคยอยู่นิ่งบัดนี้ถูกวางอยู่บนสะโพกกลมมนที่คล้ายว่าจะผอมลงผิดจากความทรงจำ แต่นั่นก็มิได้ทำให้เขาอยากจะลูบไล้น้อยลงเลย ลิ้นเล็กคอยตอบโต้อย่างไร้เดียงสายิ่งทำให้ตัวเขาอย่างจะสอนหรงลี่ให้นานเท่านาน แต่เมื่อรู้สึกถึงแรงทุบจากคนในอ้อมกอดก็จำต้องผละออก

“พอแล้วเจ้าค่ะ”

“กล้าเริ่มแต่ถอยก่อนหรือ” เขากระซิบหยอกล้อออกไป

“เพียงแค่ต้องการให้พี่เฟยเทียนแข็งแรงเท่านั้นเจ้าค่ะ” เสิ่นหรงลี่หลบสายตา

“อีกสองวันข้าจะมาขออีก” กล่าวจบเฟยเทียนก็ขโมยจูบเร็วๆ จากแม่นางตรงหน้าอีกครั้ง จากนั้นก็รีบผละออกไปเข้าสมาธิ มิให้โอกาสเสิ่นหรงลี่ได้ก่นด่าที่รุ่มร่ามไปเกินจากที่นางอนุญาต

“นิสัยไม่ดีจริงๆ” คุณหนูเสิ่นได้แต่บ่นกับตนเอง นางกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเขินอาย จนต้องกระทืบเท้าออกไปนั่งเล่นริมน้ำตกให้หายขัดเขิน

.

.

.

       สองวันที่ผ่านมานี้กลับไปเสมอเหมือนกับช่วงแรกที่เฟยเทียนยังไม่ฟื้น เมื่อเขาบอกให้ไม่กวน หรงลี่ก็ไม่กวนอย่างแท้จริง ทำได้เพียงแต่ลอบสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเฟยเทียน เสิ่นหรงลี่ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่สีผิวของเขาดูสดใสขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อจากที่เคยซีดเหลือง ยามนี้กลับดูสุขภาพดี ทั้งรอยแผลต่างๆ ก็ดูสมานไปทั้งหมดแล้ว แม้ว่าจะมีเพียงสมุนไพรบ้านๆ ให้ใช้รักษา

       หรงลี่ไปนั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าเฟยเทียน นางลอบสังเกตสีหน้าของเขา มือเล็กเท้าคางไว้ หากผู้หลักผู้ใหญ่มาเห็นคงไม่พ้นคุณหนูเสิ่นต้องถูกดุ แต่เมื่อไม่มีผู้ใดเห็น หรงลี่จึงเลือกนั่งให้ตนเองสะดวกสบาย 

       แต่ทว่า…ระหว่างที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับใบหน้าหล่อเหลา ชายที่เคยเป็นคนแปลกหน้ากลับลืมตาขึ้นมาจ้องกลับ

“โอ๊ะ” คุณหนูเสิ่นตกใจถอยหลังหนี แต่จังหวะพลาดจึงทำให้เซจะล้ม โชคยังดีที่ตงเฟยเทียนคว้าตัวเอาไว้ได้ทัน

“ข้าบอกให้ไม่กวนไม่ใช่หรือ”

“ก็ไม่ได้กวนนี่เจ้าคะ เพียงแค่นั่งมองรอท่านออกมาจากสมาธิ ครบสองวันแล้วนะเจ้าคะ”

“เฮ้อ” เฟยเทียนถอนหายใจออกมาเบาๆ ได้แต่คิดว่านางช่างถกเถียงเก่งเหลือเกิน 

“เช่นนั้นอีกเค่อหนึ่งเราจะออกเดินทางกันทันที” ชายที่ไม่รู้ว่าจะเถียงอย่างไรจึงเลือกเปลี่ยนเรื่องไปแทน

       ตงเฟยเทียนรู้ว่ายามนี้มิอาจล่าช้าได้อีกแล้ว เมื่อกลับไปหลักฐานทุกอย่างคงได้ถูกทำลายไปจนสิ้น การจะหาตัวการว่าผู้ใดเป็นผู้หักหลังคงไม่สามารถทำได้โดยง่าย และคงไม่อาจคาดหวังให้คนของตนเองที่ภักดี เก็บหลักฐานเหล่านั้นมาได้ครบครัน ทั้งยังต้องแบ่งทัพต่อสู้ผู้รุกราน และยังต้องตามหาตัวเขาที่หายไป คงไม่อาจปลีกกำลังคนเพื่อเก็บหลักฐานได้มากนัก แต่หากยังล่าช้าคลื่นใต้น้ำที่ฉวยโอกาสอาจทำให้เขากลับมาครองอำนาจได้ยากกว่าเดิม

       เสิ่นหรงลี่ไม่ได้มีอันใดต้องเตรียมตัวมากมาย นางมีเพียงเสื้อผ้าหนึ่งชุด พัดหนึ่งอัน ถุงหอม และถุงเก็บของเล็กๆ น้อยๆ ที่ติดตัวไว้อีกอันหนึ่ง นางจึงไปนั่งรออยู่บนหินก้อนใหญ่ที่ริมน้ำตก

       เมื่อเฟยเทียนเดินออกมาแล้ว หรงลี่ก็กระโดดลงจากหินแล้วตามหลังไปติดๆ ““พี่เฟยเทียนมาแล้ว”

“ขี่หลังข้า”

“ข้ายังเดินไหวเจ้าค่ะ” เสิ่นหรงลี่เอียงคอด้วยความสงสัย

“การเดินใช้เวลามากเกินไป เจ้าขึ้นหลังข้ามาเถิด” ตงเฟยเทียนย่อตัวลงเล็กน้อย กวักมือเรียกให้แม่นางที่ตัวเบาหวิวมาขึ้นหลังตน

       เสิ่นหรงลี่ปีนขึ้นหลังอย่างกล้าๆ กลัวๆ วางมือจับไว้ที่บ่า และรู้สึกถึงแรงกระชับใต้ขาของตนเอง “ไม่เดินแล้วจะ…” ยังไม่ทันที่หรงลี่จะถามจบ อีกฝ่ายก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งออกไปทันที มือที่เคยจับไว้แค่บ่า บัดนี้นำไปคล้องคอไว้แน่นหนาแล้ว

       การพุ่งตัวที่ว่องไวนี้ส่งให้ร่างทั้งสองกลับมาอยู่บนผาน้ำตกที่คุ้นเคยในเวลาอันรวดเร็ว เสิ่นหรงลี่ได้แต่ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเขาพามายังด้านขวาของผาน้ำตกที่นางกระโดดลงมาด้วยเหตุใด เมื่อเขาปล่อยนางลงจากหลังก็เมียงมองอย่างสับสน

“ไหนว่าจะออกจากป่าไงเจ้าคะ” หรงลี่เอ่ยถาม

“ที่แห่งนี้เป็นทางเชื่อมระหว่างภพ” เขาตอบเสียงเรียบ

“…” คุณหนูรองสกุลเสิ่นยื่นหน้าออกไปมอง

ไหนกัน

“แน่ใจหรือไม่หากไปแล้ว จะไม่สามารถกลับมาได้อีก หรืออย่างน้อยหากกลับมาที่แห่งนี้ก็จะไม่เหมือนที่เจ้าเคยรู้จัก”

       เสิ่นหรงลี่หันกลับไปมองทิศที่ตั้งของเมืองที่จากมา นางยืนนิ่งไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร ความสับสนเกิดขึ้นในห้วงความคิดมากมาย หากต้องข้ามภพหมายความว่าอย่างไร เฟยเทียนมิใช่มนุษย์หรือ หากนี่เป็นเพียงจินตนาการของนาง การกระโดดลงไปย่อมหมายถึงความตายใช่หรือไม่ 

“เจ้าเชื่อใจข้าหรือไม่” ตงเฟยเทียนเอ่ยถามแผ่วเบา

“ข…ข้า”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สตรีบ้าของจอมมาร   บทพิเศษ 4 น้ำตกผูกรัก

    บทพิเศษ 4 น้ำตกผูกรัก“นี่มัน นี่เหมือนกับน้ำตกที่เราได้พบกันไม่มีผิดเพี้ยน” หานหรงลี่กล่าวออกมาพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าขึ้นมา“เป็นอย่างไรชอบหรือไม่ ของขวัญครบรอบหนึ่งพันห้าร้อยปีที่เราได้พบกัน” ตงเฟยเทียนเข้าไปสวมกอดฮองเฮาของตนจากด้านหลัง“ชอบที่สุดเพคะ ไม่คิดว่าแม้แต่วันพบหน้าก็ยังมีของขวัญให้เช่นนี้” หรงลี่หันกลับไปเอ่ยกับสามี“แล้วเจ้าเล่ามีอันใดมาแลกกันหรือไม่” ผู้เป็นองค์มารเอ่ยถาม“ปกติเราไม่เคยฉลองจึงไม่มีเพคะ พี่เฟยเทียนโกรธเคืองหรือไม่” นางช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างออดอ้อน แม้ตำแหน่งจะใหญ่โตแล้ว แต่หรงลี่ก็ยังถือคติว่ากับตงเฟยเทียนแล้วการน่ารักสักหน่อย อ่อนอ้อนเล็กน้อย

  • สตรีบ้าของจอมมาร   บทพิเศษ 3 ไม่คาดคิดว่าจะพบกัน

    บทพิเศษ 3 ไม่คาดคิดว่าจะพบกันหนึ่งเดือนถัดมายามนี้ก็เป็นงานมงคลของหลิวหยางหลงและกงหรูอี้ แน่นอนว่าอี้ฉุนเป็นผู้ดูแลความงามทุกกระเบียดนิ้วในแก่เจ้าสาวรายนี้เช่นกันตัวหรงลี่นั้นเป็นตัวแทนของแดนมารมาร่วมงานมงคลในครั้งนี้ที่จัดขึ้นในวังของหลิวหยาง และเพราะตัวนางเป็นผู้นำขบวนเจ้าสาวจึงมาถึงเป็นกลุ่มสุดท้ายทว่าก่อนจะเริ่มพิธีดวงตาของหรงลี่เหลือบไปเห็นสตรีผู้หนึ่งที่ดูแล้วคุ้นเคยยิ่งนัก ในระหว่างพิธีตัวนางเหลือบมองไปยังคนผู้นั้นอยู่เป็นระยะ บ่าวที่ติดตามมาแจ้งว่านั่นคือองค์ชายเก้าและพระชายา นางจึงพยักหน้ารับและหันกลับไปสนใจบ่าวสาวที่ผลัดกันโยนของลงอ่างน้ำตามธรรมเนียมสมุทร จากนั้นจึงทำพิธีคำนับ ตามด้วยการโยนไม้เสี่ยงทายให้มหาเทพยอมรับ และเมื่องานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นแล้ว นางก็เ

  • สตรีบ้าของจอมมาร   บทพิเศษ 2 ยินยอมแล้ว

    บทพิเศษ 2 ยินยอมแล้วทุกสรรพเสียงแห่งความคิดของหานหรงลี่สงบลงเมื่อประตูตำหนักถูกเปิดออก หรงลี่เงยหน้ามองผ่านผ้าคลุมหน้าของตนด้วยความประหม่า แม้จะไม่ใช่สาวน้อยที่ไม่รู้ความเรื่องชายหญิงอีกต่อไป แต่เรื่องเล่านั้นก็เพียงรู้ผ่านคำบอกเล่า หรือการเห็นผ่านตาในภพเก่า ยิ่งองค์มารเดินเข้ามาใกล้ใจของหรงลี่ยิ่งสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ“พี่เฟยเทียน” สตรีที่ตำแหน่งฐานะเลื่อนขึ้นมาเป็นฮองเฮาเอ่ยเรียก“รอนานหรือไม่” เฟยเทียนเดินเข้ามาใกล้กับเตียงใหญ่“นานเพคะ เครื่องหัวนี้หนักกว่ายามที่แต่งเข้าวังโลหิตนัก” หรงลี่บ่น“เข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะนำผ้าคลุมหน้าและเครื่องหัวออกให้บัดเดี๋ยวนี้” องค์มารที่อยู่กับคนรักเพียงลำพังเริ่มพูดจาหยอกล

  • สตรีบ้าของจอมมาร   บทพิเศษ 1 ยกน้ำชา

    บทพิเศษ 1 ยกน้ำชางานมงคลของหานหรงลี่สตรีเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้เข้าไปอาศัยในวังหลังของวังมารในรัชสมัยนี้ยิ่งใหญ่นัก โชคดีที่ความหวาดระแวงระหว่างดินแดนเบาบางลงมากแล้ว มิเช่นนั้นการแต่งงานครั้งนี้อาจสร้างความระส่ำระสายเหมือนยามที่มีการประกาศหมั้นหมาย แต่ถึงจะกล่าวเช่นนั้นอย่างไรก็เริ่มมีการทาบทามให้องค์หญิงแดนสมุทรที่ยังไร้คู่หมายให้แก่องค์ชายในแดนสวรรค์บ้างแล้วส่วนเด็กคนแรกที่จะเกิดในครรภ์ของหานหรงลี่ก็ถูกทาบทามไว้แล้วด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นองค์หญิงหรือองค์ชายย่อมต้องให้แต่งกับราชวงศ์ของแดนสวรรค์ เพื่อผสานดินแดนใหญ่ทั้งสามไว้ว่าอย่างไรก็ล้วนเป็นเครือญาติกันทั้งสิ้นเรื่องนี้ทำให้แดนพฤกษาสามารถกลับมาวางตัวเป็นกลางไม่เข้าพวกกับแดนใดได้ตามต้องการ แต่ผู้คนที่จับตาย่อมรู้ด

  • สตรีบ้าของจอมมาร   บทที่ 63 องค์มารของเจ้ามานู่นแล้ว

    บทที่ 63 องค์มารของเจ้ามานู่นแล้ว“แม่ แม่รีบกดตะกร้าเลย ไลฟ์นี้ก่อนแม่ค้าหยุดยาวกลับจีนน้า ใครตุนได้ตุนเลย” หรงลี่พูดภาษาไทยในแบบที่คนทั่วไปสามารถฟังออกว่าภาษานี้ไม่ใช่ภาษาแม่ของผู้พูด‘แม่ค้าจะหิ้วสครับพส.จีนกลับมาไหมคะ’“หิ้วมาแน่นอน ตัวไหนแมสเอามาหมดแม่ แม่รอกดเลย”หรงลี่กวาดตาอ่านคอมเมนต์ของลูกค้าที่สอบถามเรื่องต่างๆ ในไลฟ์ของแม่ค้าออนไลน์อย่างเธอ อาชีพที่รู้มาก่อนแล้วว่าจะได้ยึดเป็นเครื่องมือหาเงิน หรงลี่ดีดตัวขึ้นมาไลฟ์สดขายของได้เพราะคลิปที่เธอกับจางมี่ถ่ายเล่นในตอนมาเรียนมหาวิทยาลัยในไทย และที่ตัดสินใจมาเรียนในไทยเพราะคะแนนเกาเข่าไม่ดีนัก สองเพื่อนสนิทเลยตัดสินใจมาหาประสบการณ์ในต่างประเทศและเรียนภาษาที่สามที่มีคู่แข่งในตลาดงานน้อยกว่า

  • สตรีบ้าของจอมมาร   บทที่ 62 เกิดใหม่อีกครั้ง

    บทที่ 62 เกิดใหม่อีกครั้งขบวนเกี้ยวเจ้าสาวสั้นๆ ไม่มีอะไรให้คนตื่นตาถูกหามจากถนนหน้าบ้านของหัวหน้าฝ่ายโก๋ พิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมถูกจัดขึ้นอย่างสามัญ ชุดเจ้าสาวก็หยิบยืมมา เครื่องประดับมีเพียงชิ้นเดียวที่ได้ความเมตตาจากว่าที่แม่สามีให้มาใส่เข้าพิธี สินเดิมเป็นข้าวสาร หัวมัน และเผือก ของมีค่ามีเพียงเงินและตั๋วแลกของไม่กี่ใบเท่านั้นจางหรงลี่ถูกปลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดไม่ได้มีเวลาได้ปลุกแม่ของตนเองเพื่อกล่าวลาและขอพรใดด้วยซ้ำ ป้าสะใภ้ลากตัวออกมาเสมือนกลัวว่าหรงลี่จะหนีงานแต่งความคิดที่จะกลืนน้ำลายตนเองกลับไปร่วมทดลองหาเงินให้แม่ได้มีติดตัวต้องพับเก็บไว้ เพราะเจ็ดวันที่ผ่านมาทั้งย่าและป้าไม่อนุญาตให้เธอออกไปไหน ทุกวินาทีมีคนสับเปลี่ยนมาจับตามองอยู่เสมอ แม้ยืนยันเท่าใดว่าไม่คิดห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status