" ท่าน ทำไมท่านต้องบอกว่าเงินทองพวกนั้นเป็นของน้องชายข้าด้วย"
จางฮั่นรินชาส่งให้นางแล้วยิ้มก่อนพูดขึ้น
" หากบอกว่าเป็นของข้าที่ให้เจ้า พวกเขาจะคิดยังไง"
เมิ่งอันหลานหยุดคิด หากพวกนั้นรู้ว่าเงินทองข้าวของที่เอาไปคืนให้ ล้วนเป็นของจางฮั่น ทุกคนในตระกูลห่าวโดยเฉพาะห่าวตี้หลุนที่ไม่มีมันสมอง ต้องคิดว่านางมีความสัมพันธ์พิเศษกับจางฮั่น หรืออาจคิดว่านางขายร่างกายเพื่อแลกมาก็ได้ การที่เขาบอกไปแบบนั้นเป็นการปกป้องนาง แล้วยังยืนยันว่านางมีน้องชายจริงๆ
" ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้า ขอบคุณที่ทำให้ข้าเป็นอิสระหลุดพ้นจากตระกูลห่าวข้าจะหามาคืนท่านแน่นอน แค่อาจจะใช้เวลาหน่อย"
" ไม่ต้อง ข้าไม่ใช่ห่าวตี้หลุนที่คิดเล็กคิดน้อยเก็บเงินเก็บทองกับเจ้า"
" แต่เงินทองพวกนั้นไม่ใช่น้อยๆข้ารู้ว่าท่านมั่งคั่ง เงินทองข้าวของพวกนั้นสำหรับท่านอาจเล็กน้อย แต่สำหรับข้าไม่ใช่ ข้าสัญญาว่ายังไงก็จะหามาคืนท่านแน่นอน"
" ข้ายกให้ มันสมควรเป็นของเจ้า"
นางขมวดคิ้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
" หลายปีก่อนที่เขาไท่ซานฝั่งตะวันออก เจ้าจำได้ไหมว่าเคยช่วยชีวิตใครคนหนึ่งไว้"
เมิ่งอันหลานขบคิดอยู่พักใหญ่ หลายปีก่อนนางเคยช่วยใครไว้นะ ตอนนั้นนางยังเด็กมาก อยู่ที่เขาไท่ซานเรียนรู้วิชาแพทย์กับอาจารย์ซู
" ข้าเคยรักษาคนมามาก ช่วยชีวิตคนก็มากด้วยข้าจำไม่ได้หรอก ยิ่งถ้าเป็นตอนอยู่เขาไท่ซานยิ่งจำไม่ได้เลย ตอนนั้นข้าอายุ8-9หนาวเอง "
จางฮั่นรู้สึกน้อยใจ นางยังเด็กมากจะจำไม่ได้ก็ไม่แปลก
" ท่านอย่าบอกนะว่าเป็นท่าน"
เขาพยักหน้าก่อนยกถ้วยชาขึ้นจิบ แล้วเล่าให้ฟัง
" ตอนนั้นข้าไปทำงานลับให้ฟ่าบาท พลาดพลั้งถูกพิษแล้วมาหมดสติอยู่บนเขาไท่ซานฝั่งตะวันออก ไม่รู้ว่าหมดสติไปนานเท่าใด รู้สึกตัวขึ้นมาก็อยู่ในถ้ำ มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆกำลังนั่งจ้องมองข้าอยู่ แล้วก็ช่วยข้าป้อนยา ตอนนั้นข้าถูกพิษไม่มีเรี่ยวแรงเจ้าป้อนยาด้วยปากของเจ้าให้ข้า รู้ไหมเด็กน้อย นั่นหน่ะเป็นจูบแรกของข้าเลยนะ"
เมิ่งอันหลานพลันหน้าแดงขึ้นมา ภาพเหตุการณ์ตอนนั้นค่อยๆฉายชัดขึ้น นางออกไปเก็บสมุนไพรมาปรุงยาตามที่อาจารย์ซูบอก ระหว่างนั้นดันไปเจอคนหนึ่งนอนหมดสติอยู่ จับชีพจรดูพบว่าเขายังไม่ตาย ฝนกำลังจะตกจึงลากเขาไปไว้ในถ้ำที่อยู่ไม่ไกล โชคดีสมุนไพรที่นางเก็บมาสามารถแก้พิษที่เขาได้รับได้ เลยจัดการก่อกองไฟต้มยาให้เขา แต่เขาถูกพิษแทรกซึมจนกลายเป็นอัมพาตชั่วคราวไปแล้ว ให้กินยาเองก็ไม่ได้ ป้อนก็ไม่เข้าปาก นางยังเด็กอยู่จึงไม่คิดอะไรมาก จึงป้อนยาให้เขาด้วยปากของนางเอง ไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นจูบแรกของเขา แต่นั่นก็คือจูบแรกของนางด้วยนะ
" ก่อนเจ้าจะจากไป ได้บอกกับข้าว่าใช้สมุนไพรที่หามาอย่างยากลำบากปรุงยาแก้พิษให้ข้าหมดแล้ว ต้องเสียเวลากลับไปเก็บใหม่ หากได้สมุนไพรไม่ครบอาจารย์ของเจ้าก็ไม่สามารถปรุงยาได้ เจ้ายังบอกอีกหากพบกันคราวหน้าให้ข้าตอบแทนด้วยข้าวของเงินทองหลายหีบ เพราะพิษที่ข้าได้รับมีแต่อาจารย์ของเจ้ากับเจ้าเท่านั้นที่รู้วิธีแก้ "
" พิษของเผ่าหุยร้ายแรงมาก หากถูกพิษภายในชั่วยามจะกลายเป็นอัมพาตธาตุไฟเข้าแทรก ต่อมาอวัยวะภายในจะถูกทำลายเลือดจะออกจากทวารทั้ง7ตายอย่างทรมาน อาจารย์ของข้าพึ่งจะสอนวิธีแก้พิษชนิดนี้พอดี แล้วก็ให้ข้าลงเขาไปหาสมุนไพรมาปรุงยา ดีที่อาจารย์บอกตัวยาให้ข้ารู้ก่อนไม่งั้นถึงข้าเจอท่านก็ช่วยไม่ได้"
" นับว่าเป็นโชคดีของข้าที่ได้เจอเจ้า ทีนี้จะยอมรับเงินทองข้าวของพวกนั้นรึยัง"
" ท่านยกให้ข้า"
" แน่นอนตามสัญญาที่ให้ไว้ตอนนั้น"
" สัญญา"
" หลังจากที่เจ้าพูดว่าเจอกันอีกครั้งจะให้ข้าเอาเงินทองหลายหีบมาตอบแทนเจ้า ข้าก็บอกว่าสัญญาจะตอบแทนเจ้าอย่างที่เจ้าต้องการ แต่เจ้าไม่ได้ยินเพราะจากไปก่อน"
" ผ่านมาหลายปีทำไมยังจำได้อีก"
" จำได้สิ ข้าไม่ใช่เด็กน้อยขี้ลืมอย่างเจ้านี่"
" ท่าน"
นางถลึงตามองเขา จางฮั่นหัวเราะหึหึ
" ได้ งั้นข้าจะถือว่าเงินทองที่เอาไปให้ตระกูลห่าวเพื่อที่ข้าไม่ต้องติดค้างกับพวกนั้นท่านยกให้ข้า ตอบแทนข้าที่ครั้งนึงเคยช่วยชีวิตท่านไว้"
จางฮั่นพยักหน้ากระตุกยิ้มมุมปาก ยกชาขึ้นมาจิบ สายตายังมองนางไม่ละไปไหน
" เดี๋ยวก่อน ท่านรู้ได้ไงว่าข้าเป็นคนเดียวกับเด็กคนนั้นที่ช่วยท่าน"
" ตอนแรกข้าก็ไม่รู้หรอก แต่ตอนที่ช่วยเจ้าไว้ที่ตลาดวันนั้น ข้าจำรอยแผลเป็นที่ข้อมือเจ้าได้"
" แค่รอยแผลเป็นพิสูจน์อะไรได้ คนอื่นก็อาจมีรอยแผลแบบนี้ที่เดียวกันก็ได้"
" ข้าเป็นหัวหน้าองครักษ์ของฟ่าบาทหากอยากรู้เรื่องอะไรคิดว่าจะสืบไม่ได้เหรอ"
" งั้นท่านก็รู้เรื่องของข้าหมดแล้วงั้นสิ"
" อือ"
พอเขารู้ว่านางเป็นฮูหยินของห่าวตี้หลุนก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย นางอายุ17เหตุใดถึงได้แต่งงานเร็วนัก ทำไมเขาถึงไม่พบนางเร็วกว่านี้นะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดตามหานางเพื่อตอบแทน แต่เขาทำภารกิจลับให้ฟ่าบาทต้องอยู่ต่างแคว้นปิดบังตัวตน ทำภารกิจเป็นเวลาหลายปี จึงไม่อาจทำตามใจตามหานางได้ เขาพึ่งได้กลับมาเมืองหลวงไม่นาน และได้รับภารกิจใหม่ที่เมืองนี้ จึงมีโอกาสพบนางอีกครั้งโดยบังเอิญ
" เจ้าอยู่ที่นี่อย่าไปไหนเลยนะ"
" หือ ท่านว่าอะไรนะ"
" ข้า ข้าบอกว่าที่นี่เป็นจวนส่วนตัวของข้าที่ฝ่าบาทประทานให้ นอกจากข้าใครก็ไม่มีสิทธิ์ไล่เจ้า เจ้าสามารถอยู่ได้นานเท่าที่เจ้าต้องการ"
เมิ่งอันหลานคิดๆดูแล้วนางเองก็บาดเจ็บแผลยังไม่สมานดี นางคิดจะกลับไปหาอาจารย์ที่เขาไท่ซาน แต่ก็ได้ข่าวว่าอาจารย์ไม่อยู่ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่อาจารย์ของนางก็แบบนี้ไม่เคยอยู่กับที่นานๆ แต่นางก็ยังคิดจะกลับไปอยู่ดี ติดอยู่ที่การเดินทางต้องใช้เงิน ตอนนี้นางไม่มีเงินจะรบกวนยืมจางฮั่นก็ไม่เหมาะ จะกลับไปหาบิดาที่หางโจวก็ไม่ดี ไม่อยากให้บิดาของนางต้องมากังวลเรื่องที่นางหย่าร้าง ยิ่งถ้ารู้ว่านางถูกห่าวตี้หลุนทำร้าย ด้วยนิสัยนักเลงเก่าเขาต้องตามมาเอาเรื่องแน่ ถึงยังไงในจวนตระกูลห่าวก็ยังมีฮูหยินผู้เฒ่าคนนึงที่ดีกับนางเสมอมา ไม่รู้ว่าหากฮูหยินผู้เฒ่ารู้เรื่องของนางจะเป็นยังไง
" คุณชายจาง"
" เรียกชื่อข้าเฉยๆก็ได้"
" ไม่ ไม่เหมาะมั้ง"
" เหมาะไม่เหมาะข้าตัดสินเอง"
" เอ่อ คือข้ามีเรื่องอยากรบกวนท่านหน่อย"
" ได้สิ แต่เรียกพี่ฮั่นก่อน"
" ห๊ะ อะ พี่ พี่ฮั่น"
หลายวันต่อมาจวนเล็กๆก็เปิดด้านหน้าเป็นโรงหมอ มีชาวบ้านมารอใช้บริการกันมากมาย ลูกน้องของจางฮั่นช่วยจัดระเบียบชาวบ้าน เมิ่งอันหลานใช้ผ้าคลุมครึ่งหน้าปิดบังใบหน้าที่แท้จริงเวลารักษาคนไข้ นางไม่ต้องการให้ใครรู้ตัวตนและใบหน้าที่แท้จริงของนาง มีหว่านเอ๋อเป็นผู้ช่วยอยู่ข้างๆหว่านเอ๋อเองก็ปิดบังใบหน้าด้วยเช่นกัน
จางฮั่นยืนยิ้มมองเมิ่งอันหลานอยู่ไม่ไกล พอคนไข้หมดแล้วเขาก็เดินเข้ามาหานาง
" เหนื่อยหรือไม่ พึ่งเปิดได้สามวันคนเยอะตลอดเลย"
" ก็นิดหน่อย แต่เห็นเงินแล้วก็หายเหนื่อยนะแม้จะไม่มากแต่ข้าก็มีความสุขที่ได้ช่วยรักษาพวกเขา"
นางเก็บค่ายาไม่แพงเอาราคาที่นางอยู่ได้และชาวบ้านมีเงินจ่าย ใครไม่มีนางก็รักษาให้ฟรี เป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไรมา
" จะเป็นหรือไม่ไม่สำคัญ ในเมื่อข้าลืมท่านไปแล้ว ข้าไม่อยากรื้อฟื้นอีก ว่ากันว่าคนเรามักจะเลือกลืมความทรงจำที่เจ็บปวด แสดงว่าข้ากับท่านคงมีเรื่องราวไม่ดีเกิดขึ้น ข้าถึงได้ลืมท่านที่เป็นสามี ในเมื่อข้าลืมท่านแล้วท่านก็ลืมข้าไปเถอะ"" ไม่ หลานเอ๋อข้าจะลืมเจ้าได้ยังไง ในชีวิตนี้ข้ารักเจ้าคนเดียว และมีเจ้าเป็นภรรยาของข้าแค่คนเดียวเท่านั้น"หว่านเอ๋อเดินเข้ามาพร้อมถ้วยน้ำแกงบำรุงนางมัวแต่ตุ๋นน้ำแกงอยู่ เลยปล่อยให้เมิ่งอันหลานอยู่คนเดียว ไม่รู้ว่าจางฮั่นแอบเข้ามาตอนไหน" หลานเอ๋อเขาทำอะไรเจ้ารึเปล่า นี่ท่านเข้ามาทำไม"" ทำไมถึงคิดว่าข้าจะทำอะไรนาง นางเป็นภรรยาของข้านะ"" คนอย่างท่านเชื่อถือไม่ได้หรอก ปากบอกว่ารัก แต่ทุกครั้งที่นางมีอันตรายท่านไม่เคยช่วยนางเลย ตรงกันข้ามกับไปอยู่กับหญิงอื่น"" ข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น หากย้อนเวลาได้ข้าจะไม่"" เวลามันย้อนคืนไม่ได้หรอก"หว่านเอ๋อพูดแทรก"หลานเอ๋อ เจ้าอยากให้ข้าเล่าเรื่องของเจ้ากับเขาไหม"เมิ่งอันหลานมองหน้าจางฮั่นก่อนจะพยักหน้า ตลอดการเล่าของหว่านเอ๋อจางฮั่นมองเมิ่งอันหลานตลอดเวลา นางมีสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆเขาเห็นแบ
ยามเซิน จางฮั่นกับเจียเหรินก็มาถึงบ้านพักบนยอดเขา มองดูสมุนไพรที่วางตากอยู่น่าจะใช่ที่นี่ไม่ผิดแน่ มีคนออกมาเลือกเก็บสมุนไพรที่ตากอยู่ใส่ตะกร้า เจียเหรินรีบเข้าไปถามทันที" รบกวนสอบถามหน่อย ที่นี่คือบ้านพักของหมอซูใช่หรือไม่"เชี่ยนฝูกับหม่าหยูมองหน้ากัน ก่อนที่หม่าหยูจะถามกลับ" ใช่ ท่านมาหาอาจารย์รึ "" เปล่าข้ามาหาหว่านเอ๋อ"" ส่วนข้ามาหาหลานเอ๋อ"" เชี่ยนฝู หม่าหยู ได้หรือยัง ทำไมออกมานานจัง"ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเจียเหรินรีบหันควับกลับไปดู แล้วก็ได้พบกับคนที่เขาคิดถึงอยู่ทุกวัน" หว่านเอ๋อ"หว่านเอ๋อขมวดคิ้วมองเจียเหริน เขามาที่นี่ได้ยังไง มองเลยไปข้างหลังยังมีจางฮั่นอีกคน นี่มันวันอะไรกันเนี่ย ทั้งห่าวตี้หลุนทั้งจางฮั่นถึงได้มาที่นี่พร้อมกัน นางถอนหายใจหนักๆ ห่าวตี้หลุนไม่เท่าไหร่เพราะเมิ่งอันหลานบอกว่าไม่ได้รักเขาแค่สงสาร ยังไงเรื่องของนางกับเขาก็จบแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มต้นใหม่ แต่จางฮั่น เมิ่งอันหลานรักเขาหากได้พบกันอีกครั้งไม่รู้ว่านางจะเป็นเช่นไรเชี่ยนฝูกับหม่าหยูถืออ่างน้ำแช่ว่านสมุนไพรเข้าไปวางลง เมิ่งอันหลานก็เอามือเอาเท้าลงแช่ " หือ พวกเจ้ามองข้าทำไมไม่ต้องกลัวข้า
เมิ่งอันหลานขมวดคิ้ว ชายผู้นี้ดูหน้าคุ้นๆแต่นางก็ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน" ท่านพูดเพ้อเจ้ออะไร ข้าไม่เคยรู้จักท่านหว่านเอ๋อเราไปกันเถอะ"เมิ่งอันหลานจูงมือหว่านเอ๋อเดินออกมา แต่ห่าวตี้หลุนก็รีบมาขวางหน้า ยังคุกเข่าลง" หลานเอ๋อข้ารู้ว่าเจ้าโกรธข้าอยู่ แต่อย่าพูดแบบนี้เลย อย่าบอกว่าเราไม่รู้จักกัน อย่าบอกว่าเจ้าไม่รู้จักข้า เราเป็นสามีภรรยากันนะ"ภาพในหัวฉายขึ้นมา เป็นภาพที่นางใส่ชุดเจ้าสาวสีแดงทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน มีชายตรงหน้าเป็นเจ้าบ่าว แต่แล้วภาพก็ตัดมาที่หย่งคัง นางสะบัดหัวไล่ความมึนงง" ไม่ ท่านไม่ใช่สามีข้า"" หลานเอ๋อ ข้าห่าวตี้หลุนเป็นสามีของเจ้า"" ไม่ ท่านไม่ใช่ อย่าเข้ามาใกล้ข้า"หย่งคังกับเมิ่งสิงโจวรีบเดินเข้ามา หย่งคังดึงเมิ่งอันหลานมาโอบกอด นางกอดซบเขาพูดเสียงออดอ้อน" สามี เขาทำให้ข้ากลัว"" ไม่ต้องกลัวข้าอยู่นี่ ข้าจะพาเจ้ากลับไปพัก"ห่าวตี้หลุนมองภาพที่ทั้งคู่กอดกัน นางเรียกชายคนนั้นว่าสามี นี่มันเรื่องอะไรกัน" เจ้า เจ้าเป็นใครปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ"หย่งคังจ้องหน้าห่าวตี้หลุนสายตาดุดัน ก่อนจะอุ้มเมิ่งอันหลานออกไป ห่าวตี้หลุนจะตามแต่ถูกเมิ่งสิงโจวขวางเอาไว้" ท่านคือห่าว
" สามี ข้าเจ็บ"เขาเดินเข้าไปลูบผมนางเบาๆ" วันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้พวกข้าจะมานวดให้ศิษย์พี่ใหม่"พอเอามือเอาเท้าออกจากอ่างว่านยาสมุนไพร นางรู้สึกเบามือเบาเท้ามาก" เป็นอย่างไร"" ไม่เจ็บแล้ว"หย่งคังอุ้มนางขึ้นมาพาเดินกลับไปห้องพักเมิ่งสิงโจวจะตามแต่หว่านเอ๋อขวางเอาไว้"ข้ารู้ว่าเจ้าทั้งห่วงและหวงพี่สาวเจ้ามาก ข้าเองก็ห่วงนางเหมือนกัน แต่ตอนนี้ข้าอยากให้นางมีความสุข แม้ระยะเวลาสั้นๆ ไว้ให้นางหายดีก่อนถึงเวลานั้นค่อยบอกความจริงกับนางก็ยังไม่สาย"เมิ่งสิงโจวครุ่นคิดนัก เว่ยหลงมาตบไหล่"ข้าก็คิดเช่นเดียวกันกับแม่นางหว่าน เจ้าไม่เห็นรึว่าพี่สาวของเจ้าเวลาอยู่กับคุณชายของเรา นางดูยิ้มแย้มมีชีวิตชีวาแค่ไหนแต่ละวันเรียกหาแต่ สามี สามี"เมิ่งสิงโจวถอนหายใจ ตั้งแต่เมิ่งอันหลานฟื้นขึ้นมานางก็เอาแต่ติดหย่งคังแจ คำก็สามี สองคำก็สามี สามีกำมะลอหน่ะสิ ไหนบอกว่าความทรงจำของนางหยุดลงเมื่อสามปีก่อนไง ตอนนั้นนางมีอะไรก็ อาโจว อาโจว นางไม่เคยรู้จักพบเจอหย่งคังมาก่อน เขาไม่เข้าใจว่าพอนางฟื้นมา ทำไมถึงได้เข้าใจว่าหย่งคังเป็นสามีไปได้ ทำไมไม่คิดถึงห่าวตี้หลุนสามีคนแรกของนาง " คุณชายเรามาถึงแล้ว เขาที
กลับเข้าห้องไปหย่งคังเห็นเมิ่งอันหลานนั่งก้มหน้าอยู่ เขารีบเขาไปดูนาง" เจ้าเป็นอะไร หรือว่าเจ็บปวดตรงไหน"เห็นนางเอาแต่ก้มหน้าไม่พูดจาเขาไม่รู้จะทำยังไง จึงโอบกอดนางจับหัวนางมาซบไหล่" หลานเอ๋อ หลานเอ๋อ"" ท่านไปไหนมา"" ข้า ข้าไป ไปปลดทุกข์มา"" ข้ารอท่านตั้งนาน"" รอข้า"ไม่ใช่ว่านางหลับไปแล้วเหรอเมื่อกี้ข้าฝันร้าย ฝันว่าท่านทิ้งข้าไป ข้าเห็นท่านใส่อาภรณ์สีทองปักลายมังกร กำลังเดินขึ้นไปนั่งบนแท่นสูง ระหว่างทางมีสตรีนางหนึ่งเข้ามาเดินเคียงคู่ท่าน ท่านเดินไปกับนางไม่หันหลังกลับมามองข้าเลย พอข้าจะตามก็มีชายหลายคนใส่ชุดแบบเดียวกันมาขวางทางข้า ไม่ยอมให้ข้าตามท่านได้ พอตื่นขึ้นมาข้าก็ไม่เห็นท่านนอนอยู่ข้างๆ ข้าคิดว่าท่านทิ้งข้าไปแล้ว"หย่งคังเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มให้นาง แล้วดึงนางมาสวมกอด" แค่ฝันเท่านั้นอย่าคิดมาก ข้าอยู่ที่นี่แล้วไม่ได้ทิ้งเจ้าไปไหน ข้าจะกอดเจ้านอนทั้งคืนอย่าได้กลัว"ยามเฉิน หว่านเอ๋อเดินมาตามเมิ่งอันหลานไปกินข้าว พอเปิดประตูเข้าไปก็ตกใจที่เห็นหย่งคังกับเมิ่งอันหลานนอนกอดกันอยู่ นางไม่รู้จะทำยังไง พอดีเมิ่งสิงโจวเดินตามมาพอเห็นภาพตรงหน้าก็รีบเข้าไปปลุกทั้งสองให้ตื่น แล้ว
จางฮั่นลาออกจากหน่วยอินทรียกตำแหน่งหัวหน้าให้เจียเหริน เพราะเรื่องฝีมือความเฉลียวฉลาด เจียเหรินเหมาะสมกว่าคนอื่นแต่เจียเหรินปฏิเสธ บอกว่าจะลาออกเหมือนกันเพื่อไปตามหาหว่านเอ๋อ เซิ่งเทียนจึงรับตำแหน่งหัวหน้าชั่วคราว จนกว่าจะมีการคัดเลือกคนใหม่ในเวลานี้จางฮั่นกับเจียเหรินกำลังปิ้งปลาอยู่ในป่า พวกเขากำลังจะเดินทางไปเขาไท่ซานตามหาคนรัก เพราะจางฮั่นคิดว่าเมิ่งอันหลานน่าจะถูกส่งตัวไปให้หมอเทวดาซูอาจารย์ของนางรักษาอยู่ที่นั่น ส่วนเจียเหรินคิดว่าเมิ่งอันหลานอยู่ที่ไหนหว่านเอ๋อก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วยสายลมพัดโชยกิ่งไผ่ลู่ไหวโอนเอียง ผ้าม่านหน้าต่างปลิวสะบัดตามแรงลม หย่งคังลุกออกไปดู เห็นลมพัดแรงขึ้น สงสัยฝนจะตกเขาปิดหน้าต่าง คนอื่นลงเขาไปเก็บสมุนไพรกันหมด วันก่อนเขาลื่นตกเขาได้รับบาดเจ็บยังเดินกระเผลกอยู่ เลยต้องรับหน้าที่เฝ้าเมิ่งอันหลานเมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมามองไปรอบตัว ก่อนจะหยุดมองชายตรงหน้า ที่กำลังจ้องมองนางอยู่เหมือนกัน ต่างคนต่างจ้องมองกันไม่มีใครพูดจา ก่อนที่หย่งคังจะพูดออกมาก่อน" ตื่นแล้วเหรอ"เมิ่งอันหลานค่อยๆลุกขึ้น หย่งคังเข้าช่วยพยุงนาง ทั้งสองสบตาในระยะใกล้ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกน