공유

บทที่ 6 ข้อตกลง

last update 최신 업데이트: 2025-04-22 14:45:22

เสิ่นลี่จูค่อนข้างตกใจเป็นอย่างมาก แต่ในความตกใจนั้นยังคงมีความแปลกใจไม่น้อยอีกด้วย นางมาที่ี่นี่เพื่อสืบหาความจริงนับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด แต่เจิ้งจิ่งเหอที่เกลียดพี่สาวของนางเข้ากระดูกดำนั้น เขามาที่นี่ด้วยเหตุอันใดกัน

ไหนว่าเกลียดพี่สาวนางอย่างไรเล่า

ด้านเจิ้งจิ่งเหอเมื่อถูกล่วงรู้ตัวตนแล้ว เขาจึงเปิดผ้าคุลมหน้าออก ชายหนุ่มสวมชุดสีดำทั้งชุดเพื่อปิดบังอำพรางฐานะของตน เขาไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน ทั้งที่ปากเขาบอกว่าเกลียดเสิ่นอ้ายเยว่หนักหนา แต่กลับมายังสถานที่ที่นางเคยอยู่อย่างไม่อาจห้ามใจ อีกทั้งเรื่องที่เขาไม่คาดคิดก็คือ เขามาเจอเสิ่นลี่จูที่นี่โดยบังเอิญ

เสิ่นลี่จูเป็นสตรีที่มีวรยุทธ์ เขาเองก็รู้เรื่องของนางมาไม่น้อย นางเก่งกาจมากความสามารถแต่กลับมีจิตใจริษยา เห็นผู้อื่นดีกว่าตนไม่ได้เป็นต้องกลั่นแกล้ง เขาจึงไม่ชอบหน้านาง

ชายหนุ่มปรายตามองสตรีตรงหน้าเมื่อเห็นว่านางยังคงไม่ยอมเอ่ยตอบคำถาม เขาก็ตรงเข้าไปกระชากตัวนางอย่างแรง

"เจ้าตอบข้ามา ว่าเจ้ามาทำอันใดที่นี่ หรือว่าแท้จริงแล้วการตายของอ้ายเยว่เกี่ยวข้องกับเจ้า เจ้าเป็นคนทำร้ายนางใช่หรือไม่"

เสิ่นลี่จูเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็มองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะสลัดแขนตนออกจากการเกาะกุมของเขา ท่าทีที่นางมีต่อเขาในยามนี้ไม่ได้อ่อนน้อมถ่อมตนเหมือนตอนที่อยู่ในวังหลวงเลยแม้แต่น้อย แต่เหมือนศัตรูที่ได้พบกันเพื่อสะสางแค้นเก่าเสียมากกว่า

"ไม่ขอปิดบังฝ่าบาท หม่อมฉันมาที่นี่เพื่อสืบหาเบาะแสการตายของพี่สาวเพคะ"

"คนอย่างเจ้าน่ะหรือ"

เจิ้งจิ่งเหอหรี่ตามองเสิ่นลี่จูอย่างจับผิด เขาไม่เชื่อในสิ่งที่นางพูด ตอนเสิ่นอ้ายเยว่ยังมีชีวิตแทบจะเป็นที่รองรับอารมณ์ของเสิ่นลี่จู เขาจึงอยากพานาออกจากที่แห่งนี้และมอบฐานะอันสูงส่งให้

        ก่อนหน้านี้เขาโกรธแค้นนางมากนัก แต่เมื่อได้สติรู้แจ้งเขากลับพบว่าเรื่องนี้มันผิดปกติ

ไม่มีใครรู้ดีกว่าเขาว่านางมีนิสัยเช่นไร เขาและนางพบเจอกันบ่อยครั้ง เขาส่งองครักษ์มาคอยคุ้มครองนาง จนกระทั่งเขามีเรื่องต้องสะสางอย่างเร่งด่วนในคืนนั้น จึงถอนกำลังเรียกองครักษ์กลับมาปฏิบัติหน้าที่ เพียงคืนเดียวนางกลับตกตายอย่างเป็นปริศนา

เขาไม่เชื่อว่าคนกลัวตายเช่นเสิ่นอ้ายเยว่จะปลิดชีพตนเองได้ง่าย ๆ

ด้านเสิ่นลี่จูนั้นไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับชายหนุ่มตรงหน้าเท่าใดนัก จากที่นางมองประเมินสถานการณ์ยามนี้แล้ว พบว่าเขาเองก็ยังมีใจรักใคร่ในตัวพี่สาวของนางอยู่

ช่างสิ ใครสนใจกัน

"หม่อมฉันมาที่นี่เพื่อค้นหาเบาะแสของพี่สาวนับว่าไม่ใช่เรื่องแปลก แต่พระองค์เล่า ไหนว่าเกลียดนางจนแทบอยากจะฉีกทึ้งออกเป็นชิ้น ๆ แต่เหตุใดกลับยังมาที่นี่"

"ไม่ใช่เรื่องของเจ้า"

"หรือว่าพระองค์ก็ทรงคิดเช่นเดียวกับหม่อมฉันว่าการตายของนางไม่ปกติ"

เจิ้งจิ่งเหอเหมือนถูกรู้ทันความคิด เขาเอ่ยวาจาใดไม่ออกเพียงจ้องเสิ่นลี่จูเขม็ง ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้นาง เสิ่นลี่จูที่เห็นเช่นนั้นก็ถอยหลังไปหลายก้าวตามสัญชาตญาณ

"ระยะนี้เหมือนว่าเจ้าจะดูแปลกไป ออกจะสนใจเรื่องของพี่สาวเสียเหลือเกิน"

"ก็แน่นอนสิเพคะ การตายของนางไม่ปกติ เพียงแต่ยามนั้นหม่อมฉันมัวแต่หลงใหลเรื่องไม่เป็นเรื่องจนละเลยเรื่องของนางไป จึงอยากจะใช้โอกาสนี้ชดเชยให้นาง หาตัวฆาตกรที่สังหารนางมารับโทษให้ได้"

แววตาของเสิ่นลี่จูไม่ได้มีความล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่เมื่อใดกันที่สตรีนางนี้ดูมีความจริงจังและใสซื่อบริสุทธิ์มากขนาดนี้ เขาพบเจอคนมานักต่อนัก ย่อมมองออกว่าผู้ใดเสแสร้งหรือว่าแกล้งทำ

เสิ่นลี่จูไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ แต่นางตั้งใจจะหาเบาะแสการตายของเสิ่นอ้ายเยว่จริง ๆ

"เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง เจ้าไม่ต้องสอดมือเข้ามาทำให้แผนของข้าพังพินาศ เจ้ากลับวังหลวงไปเสีย รอข้าไปหาและระบายโทสะกับเจ้าก็พอ"

เสิ่นลี่จูกลอกตาไปมา ก่อนจะเท้าเอวมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ

"พระองค์เป็นโรคจิตหรือเพคะ หรือขาดความอบอุ่นจนเคยตัว ในเมื่อทรงคิดว่าการตายของเสิ่นอ้ายเยว่มีปัญหา เหตุใดยังเอาโทสะมาระบายกับหม่อมฉันอีกเล่า เรามาทำสัญญากันดีไหม หากวันใดตามหาตัวฆาตกรพบ ก็ปลดปล่อยกันและกันไป แต่ตอนนี้ต้องช่วยกันสืบหาตัวฆาตกรก่อน"

"ใครบอกเจ้าว่าข้าจะยอมร่วมมือด้วย"

"เช่นนั้นก็ตามสบาย ก็ดีเหมือนกัน หม่อมฉันมีความสามารถหาเบาะแสเองได้ ไม่จำเป็นต้องง้องอนพระองค์"

เมื่อเห็นเสิ่นลี่จูไม่แม้แต่จะสนใจเขา เจิ้งจิ่งเหอก็ย่นหัวคิ้วพลางเอ่ยถาม

"เสิ่นลี่จู เจ้าคิดสิ่งใดกันแน่ นับวันข้ายิ่งอ่านใจเจ้าไม่ออก"

"หม่อมฉันจะคิดเรื่องใดก็เป็นเรื่องของหม่อมฉัน ฝ่าบาทไม่ต้องมาสอดรู้สอดเห็นหรอกเพคะ"

"นี่เจ้า"

"หุบปากสักทีเพคะฝ่าบาท เดี๋ยวมีคนตื่นขึ้นมาก็วุ่นวายกันหรอก"

เมื่อถูกเสิ่นลี่จูเอ่ยท้วงเช่นนี้ เจิ้งจิ่งเหอก็ถึงกับส่งเสียงเหอะในลำคอ นับว่าเขาได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย สตรีนางนี้มันช่างกลับไปกลับมาดีนัก

เสิ่นลี่จูสืบหาเบาะแสทุกอย่างในห้องนอนของเสิ่นอ้ายเยว่โดยละเอียด โดยที่นางไม่ได้สนใจเจิ้งจิ่งเหอเลยแม้แต่น้อย

ค้นหาอยู่นานเสิ่นลี่จูก็ถึงกับปวดหัว ที่นี่ไม่มีเบาะแสใดให้นางได้สืบเสาะเลยแม้แต่น้อย บางคราฆาตกรอาจทำลายหลักฐานทิ้งไปหมดแล้ว 

แต่ที่นางสงสัยก็คือใครกันคือฆาตกรตัวจริงและทำเช่นนี้ไปเพื่อจุดประสงค์อันใดกัน

นางหันมามองเจิ้งจิ่งเหอก่อนจะเอ่ยถาม

"ฝ่าบาท พระองค์เคยมีศัตรูที่ใดบ้างเพคะ บางคราการตายของพี่สาวข้า อาจจะเกี่ยวข้องกับคนพวกนั้นก็เป็นได้"

เจิ้งจิ่งเหอยืนกอดอกมองเสิ่นลี่จูคราหนึ่ง เมื่อนางถามเช่นนั้นเขาก็มีท่าทีเย็นชา ก่อนจะเอ่ย

"ศัตรูข้ามีมากมายนัก"

เขาเอ่ยตอบเพียงเท่านั้น แม้ภายนอกใบหน้าของเขาจะดูเรียบเฉยเหมือนไม่สนใจคำพูดของเสิ่นลี่จู แต่ในใจของเขากลับเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่าบางคราเรื่่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับศัตรูของเขา

แต่คนผู้นั้นได้ออกจากเมืองหลวงไปใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชนนานแล้ว และสาบานว่าจะไม่กลับเข้าเมืองหลวงอีก อีกทั้งหลายปีมานี้องครักษ์ที่เขาส่งไปจับตาดูคนผู้นั้นก็ไม่พบความผิดปกติใด

เมื่อเห็นว่าคงไม่ได้ความอะไรจากเจิ้งจิ่งเหอ เสิ่นลี่จูจึงไม่ซักถามสิ่งใดอีก นางยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ยามนี้เวลาล่วงเลยมานานมากแล้ว นางคิดอยากจะกลับไปที่วังหลวงเสียก่อน แล้วค่อยเริ่มคิดหาหนทางใหม่

เจิ้งจิ่งเหอเองก็คิดเช่นเดียวกัน ก่อนกลับเขาได้กระชากตัวเสิ่นลี่จูเอาไว้ และเอ่ยกับนางอย่างเย็นชา

"เรื่องคืนนี้เจ้าห้ามแพร่งพรายโดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นข้าเด็ดหัวเจ้าแน่ ขอเตือนไว้ ข้าไม่เคยไว้ใจเจ้า จนกว่าการตายของอ้ายเยว่จะปรากฏ เจ้าก็คือหนึ่งในฆาตกรที่ข้าต้องจับตาดูทุกฝีก้าว!"

เสิ่นลี่จูถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย พร้อมกับมองหน้าเขาและคิดไปถึงคำพูดทีเทพธิดาจิ้งจกเอ่ยเอาไว้ เขาคือเนื้อคู่ของนางและจะต้องมีบุตรด้วยกัน บัดซบจริง ๆ นี่เนื้อคู่หรือคู่อาฆาตกันแน่

นางถอนหายใจออกมา เดิมทีคิดว่าคงไม่มีหนทางอื่น แต่ทว่าสองวันก่อนเทพธิดาจิ้งจกบอกกับนางว่ามีอีกวิธีหนึ่งนั่นก็คือทำความดีชดใช้ นางต้องหาตัวฆาตกรที่สังหารเสิ่นอ้ายเยว่ให้พบเพื่อไถ่บาปแทนเจ้าของร่างเดิม แล้วจึงจะสามารถออกจากนิยายเล่มนี้ได้ แต่วิธีนั้นอันตรายถึงชีวิต และฆาตกรที่ลงมือไม่ได้มีเพียงคนเดียว ไม่แน่ว่านางอาจจะตกอยู่ในอันตรายจนถึงแก่ชีวิต แต่เสิ่นลี่จูไม่สนใจ นางเป็นวิญญาณมาอยู่ในร่างนี้ เคยผ่านการตายมาแล้วย่อมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ นางจึงเลือกวิธีนี้ ขอเพียงได้กลับไปยังโลกที่จากมานางก็ดีใจมากแล้ว

ก่อนหน้านี้เสิ่นลี่จูคิดว่าร่างของตนในโลกอนาคตคงตายไปแล้ว แต่เทพธิดาจิ้งจกบอกว่าตอนนี้นางเพียงหลับไปไม่ได้สติเท่านั้น หลังจากทำภารกิจเสร็จสิ้นนางก็สามารถกลับไปได้

“ว่าอย่างไร กลัวแล้วหรือ”

เสียงเอ่ยเยาะหยันของเจิ้งจิ่งเหอทำให้เสิ่นลี่จูหลุดออกมาจากภวังค์แห่งความคิดของตน นางปรายตามองเขาเล็กน้อย

"หม่อมฉันไม่ใช่คนโง่ หม่อมฉันเองก็กำลังสืบเรื่องนี้เช่นกัน คงไม่โง่ปล่อยข่าวให้พวกมันไหวตัวทันหรอกเพคะ ใครกันแน่ที่โง่"

"เสิ่นลี่จู! ข้าจะโบยเจ้า"

"ปล่อยเพคะ!"

คนทั้งสองยื้อยุดกันไปมา จนกระทั่งมือของเสิ่นลี่จูเผลอไปดึงกางเกงของเจิ้งจิ่งเหอจนร่วงลงไปกองกับพื้น ทำให้ช่วงล่างของเขาเย็นวาบ เมื่อเสิ่นลี่จูก้มหน้าลงไปมองก็ตกใจ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปาก

ตายแล้ว! มันหนาวจนหดเลยหรือ

มารดามันเถอะ นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องเช่นนี้

ด้านเจิ้งจิ่งเหอก็ตกใจจนหน้าถอดสี เขารีบก้มลงไปคว้ากางเกงของตนขึ้นมาสวมใส่ จังหวะนั้นก็เห็นเสิ่นลี่จูมองก้นของเขาตาไม่กะพริบ

ที่ก้นของเจิ้งจิ่งเหอมีปานวงกลมวงใหญ่อยู่บนแก้มก้นทั้งสองข้าง

เจิ้งจิ่งเหอหน้าถอดสี เขานึกคำทำนายของไต้ซือเมื่อยามยังวัยเยาว์ขึ้นมาได้ คำทำนายนั้นบอกว่าเขาจะเป็นใหญ่ในใต้หล้า แต่กลับมีปานอัปมงคลอยู่ที่ก้นของตน ห้ามให้คนนอกรู้เรื่องนี้โดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะตายก่อนแก่เฒ่า

เมื่อคิดได้เช่นนั้นเจิ้งจิ่งเหอจึงพุ่งเข้าไปหาเสิ่นลี่จูทันที

"ข้าจะฆ่าเจ้า !"

เสิ่นลี่จูย่นหัวคิ้ว นางไม่คิดว่าเขาจะโมโหนางมากขนาดนี้ ก็แค่ปานที่ก้นไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย

หรือว่าปานนี่เขาจะไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้

เสิ่นลี่จูถูกเจิ้งจิ่งเหอใช้มือบีบปลายคางอย่างแรงจนนางเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด

"หากท่านทำร้ายข้า ก็เท่ากับเปิดศึกกับจวนแม่ทัพใหญ่ ท่านเพิ่งขึ้นครองราชย์สถานะยังไม่มั่นคง ข้าตายก็ช่างเถิด แต่ท่านกล้าเสี่ยงหรือไม่เล่า”

เจิ้งจิ่งเหอที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้สติ เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ย

"เสิ่นลี่จู เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้"

"ข้าเชื่อ แต่ท่านกล้าเสี่ยงหรือไม่เล่า ท่านพ่อข้าสนับสนุนท่านขึ้นครองราชย์ แต่ท่านกลับสังหารบุตรสาวเขา เป็นฮ่องเต้แล้วอย่างไร คิดว่าสูงส่งนักหรือ"

นางอาศัยจังหวะตอนที่เขาเผลอ ผลักชายหนุ่มออกจากตัว ก่อนจะทะยานเหินกายพุ่งออกจากจวนตระกูลเสิ่นอย่างรวดเร็ว เจิ้งจิ่งเหอรีบตามนางไปหมายจะสะสางเรื่องที่เกิดขึ้น แต่นางกลับรวดเร็วเสียเหลือเกิน อีกทั้งยังเขวี้ยงมีดสั้นมาใส่เขาอีกด้วย จะใจกล้าเกินไปแล้ว

เมื่อกลับเข้ามาในตำหนักของตน เสิ่นลี่จูยังไม่ทันจะได้หายใจให้คล่องคอ ก็พบว่าเจิ้งจิ่งเหอตามนางมาอย่างรวดเร็ว เขาปิดหน้าต่างทุกบาน ก่อนจะพุ่งเข้ามาจับไหล่ทั้งสองของนางเอาไว้

บ้าจริง เขาจะฆ่านางจริง ๆ หรือ

"ต้องการสิ่งใดก็ว่ามา แลกกับไม่เอาเรื่องปานที่ก้นข้าไปแพร่งพราย เรื่องนี้สำคัญกับข้ามาก"

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง ที่เสิ่นลี่จูกล่าวมาไม่ผิด แม้เขาจะมีอำนาจแต่การผลักไสแม่ทัพใหญ่ให้มีใจคิดคดนั่นไม่ใช่เรื่องดี ตราบใดที่คนผู้นั้นยังไม่ตาย เขาจะประมาทไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

เสิ่นลี่จูหรี่ตามองเขาคราหนึ่ง เจิ้งจิ่งเหอไม่อยากจะมองหน้าเสิ่นลี่จูนาน ๆ เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดโทสะ

"ทำสัญญาตามที่หม่อมฉันบอก หากจบเรื่องของพี่สาวหม่อมฉันแล้ว ต่างคนต่างไป ส่วนเรื่องปานของพระองค์ต่อให้มันจะลามขึ้นมาบนหน้าผาก หม่อมฉันไม่สนใจ และไม่เอาไปบอกใครทั้งนั้นเพคะ"

เอ่ยจบนางก็ตรงไปที่โต๊ะตำราที่ตั้งอยู่ภายในห้องและเขียนสัญญาอย่างรวดเร็วสองแผ่นและนำมาให้เจิ้งจิ่งเหอลงชื่อ เขาอ่านรายละเอ่ียดในสัญญาคราหนึ่ง เมื่อพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติจึงลงลายมือทันที

"หากเจ้าผิดคำสัญญา ข้าฆ่าเจ้าแน่"

"รู้แล้วเพคะ รีบไสหัวกลับไปเถอะ"

เอ่ยจบนางก็ออกปากไล่เขาทันที เจิ้งจิ่งเหอถลึงตาใส่เสิ่นลี่จูก่อนจะยอมจากไปแต่โดยดี

เมื่อคนจากไปแล้ว นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อครู่นี้นางเริ่มหวาดกลัวเขาแล้ว แต่ยังทำใจดีสู้เสือ

"ตายจริง ช่างเป็นภาพคู่รักที่งดงามเหลือเกิน แผล็บแผล็บ"

เสิ่นลี่จูปรายตามองเทพธิดาจิ้งจกที่แลบลิ้นตวัดแมลงลงท้องไปคราหนึ่ง

"งดงามกับผีน่ะสิ กินแมลงต่อไป ไม่ต้องมายุ่งกับข้า หากยังพูดมากข้าจะหาเชือกมามัดปากท่าน"

"สามหาว! เหอะ เจ้ารู้หรือไม่ว่าปานนั้นมันสำคัญกับเขามากเพียงใด ยามที่เขายังเยาว์ถูกไต้ซือทำนายดวงเอาไว้ว่าบนกายเขามีปานอัปมงคล หากคนนอกล่วงรู้มากเท่าไร เขาก็จะอายุสั้นมากเท่านั้น เจ้าก็ไปรู้เสียนี่ แต่เขากลับไม่อาจสังหารเจ้าได้ เพราะเป็นเนื้อคู่กัน"

"ข้าต้องดีใจหรือ"

"ใช่หรือไม่เล่า"

"ไสหัวไปกินแมลงต่อเถอะ!"

เสิ่นลี่จูทิ้งกายลงนั่งบนเตียงพลางใคร่ครวญถึงคำพูดของเทพธิดาจิ้งจก ไม่คิดว่าปานนั่นจะเป็นลางร้ายสำหรับเขา

แต่ช่างเถอะ นางเองก็ไม่ได้คิดจะบอกใครอยู่แล้ว หลังจากจบเรื่องนางก็คงจะแยกย้ายกับเขา ออกจากนิยายไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ แต่จะให้นางมีลูกกับคนที่จ้องจะเด็ดหัวนางทุกวัน นางคงไม่อาจยอมรับได้!

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   ตอนจบ

    ยามนี้ทหารกบฏตายหมดสิ้นแล้ว อู๋อ๋องถูกตัดศีรษะ แต่ทว่าเจิ้งจิ่งเหอกลับหาตัวของเจิ้งมู่หยางไม่พบเวลาเดียวกันนั้น เสิ่นฮูหยินก็มาแจ้งว่า เสิ่นลี่จูหายตัวไปตั้งแต่กลางดึกแล้ว นางส่งคนออกตามหาแต่กลับไม่พบตัวคนเจิ้งจิ่งเหอและกู้อวิ๋นหานตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เขาสั่งคนออกตามหาเสิ่นลี่จูแต่กลับไร้วี่แวว เจิ้งจิ่งเหอคิดว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวพันกับเจิ้งมู่หยางเป็นแน่เมื่อหาเสิ่นลี่จูไม่พบ เจิ้งจิ่งเหอก็ไม่เป็นอันทำสิ่งใด เขาเหมือนคนคลุ้มคลั่ง ในขณะที่กำลังสิ้นหวังเต็มที เขาก็เหลือบไปเห็นว่าบนโต๊ะมีกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ บนกระดาษมีข้อความเขียนเอาไว้คนรักของเจ้าอยู่ที่ป่าไผ่รกทึบ ห่างจากจวนตระกูลเฉิงไปไม่ไกล ใต้ต้นไม้ใหญ่ มีร่องรอยของการขุดฝัง รีบไปก่อนจะไม่ทันการณ์เจิ้งจิ่งเหอกำจดหมายนั้นเอาไว้แน่น เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมา แต่ยามนี้ทางใดที่เหมือนแสงสว่างเขายินดีทำทั้งหมด กู้อวิ๋นหานเมื่อได้ทราบข่าวจากเจิ้งจิ่งเหอก็รีบไปช่วยตามหา แม่ทัพใหญ่เสิ่นนั้นก็เร่งตามไปเช่นเดียวกันชายหนุ่มทั้งสองมายังจุดที่จดหมายปริศนาบอกเอาไว้ เขาตรงไปที่ต้นไม้ใหญ่และพบร่องรอยการขุดดินจริง ๆเจิ้งจิ่งเหอรีบใช้

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   บทที่ 32 ใจคนช่างน่ากลัว

    หลายสิบวันต่อมา ในที่สุดเจิ้งจิ่งเหอก็เดินทางมาถึงชายแดนเมืองหวายเยียนพร้อมกับกู้อวิ๋นหาน ครั้งนี้เขานำกำลังทหารมาไม่น้อยเลย แม่ทัพใหญ่โต้วรีบออกมาต้อนรับด้วยตนเอง ครั้งนี้บิดาของเสิ่นลี่จูก็ออกมารับเสด็จเช่นเดียวกัน เจิ้งจิ่งเหอยังไม่ทันได้พบกับเสิ่นลี่จูก็รีบเร่งรุดไปที่ชายแดนเสียก่อน เขาจัดกำลังทหารใหม่ ได้พักเพียงวันเดียวก็ต้องออกรบทำศึกเสียแล้วเสิ่นลี่จูอยู่ที่จวนตระกูลเฉิง นางทำอาหารหลายอย่างและให้เจิ้งจิ่งเหอ กู้อวิ๋นหาน และคนอื่น ๆ ได้กินรองท้อง ตั้งแต่เขาเดินทางมาที่นี่ยังไม่ได้พบกับนางเลย แต่เสิ่นลี่จูกลับไม่ได้รู้สึกน้อยใจ นางรู้ดีว่าเขากำลังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการมากกว่าเรื่องของนางเจิ้งจิ่งเหอออกรบอยู่ที่นอกกำแพงเมือง เมื่อเขามาถึงก็ทำให้ได้ทราบว่า แท้จริงแล้วกุนซือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อสงครามครั้งนี้ก็คือเจิ้งมู่หยางเจิ้งมู่หยางยังไม่ตาย ศพที่พบก่อนหน้าคือคนทีี่ปลอมตัวเป็นเจิ้งมู่หยางโดยใช้หน้ากากหนังมนุษย์เพื่อหลอกให้เขาตายใจเจิ้งมู่หยางนำกำลังทหารของตนไปผนวกร่วมเข้ากับแคว้นอู๋ และร่วมมือกันก่อกบฏ โดยใช้อู๋อ๋องเป็นคนนำทัพ ส่วนตนเองนั้นคอยบงการอยู่เบื้องหลัง

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   บทที่ 31 งานศพญาติสนิท

    หลายวันต่อมา เสิ่นฮูหยินก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งส่งมาจากเมืองหวายเยียน บอกว่าน้องชายของนางเกิดล้มป่วยกะทันหัน คาดว่าคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน และอยากจะพบหน้านางซึ่งเป็นพี่สาวครั้งสุดท้าย เสิ่นฮูหยินจึงรีบสั่งให้คนเก็บข้าวของเพื่อเดินทางไปเมืองหวายเยียนทันทีเสิ่นฮูหยินมารดาของเสิ่นลี่จูเป็นสตรีที่มีถิ่นฐานเดิมมาจากเมืองหวายเยียน ยามนั้นแม่ทัพใหญ่เสิ่นไปออกรบ คนทั้งสองได้พบรักกัน มารดาของนางเป็นบุตรสาวของคหบดีที่ร่ำรวยผู้หนึ่งในเมืองหวายเยียน อีกทั้งยังมีกิจการอยู่ที่เมืองหลวงไม่น้อย เมื่อแต่งกับแม่ทัพใหญ่เสิ่นจึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวง ร้านรวงที่อยู่ในเมืองหลวง ทางครอบครัวได้มอบให้เป็นสินเดิมของนางทั้งหมดแม่ทัพใหญ่เสิ่นที่ได้ทราบข่าวก็ตั้งใจว่าจะเดินทางไปกับภรรยาด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเขาไม่มีสิ่งใดต้องรับผิดชอบอีกแล้ว เสิ่นลี่จูก็ต้องร่วมเดินทางไปด้วยเช่นเดียวกัน เผื่อว่าทางใต้มีทำเลทิศทางทำการค้าได้ดี นางอาจจะเปิดภัตตาคารที่นั่นอีกสาขาหนึ่งเจิ้งจิ่งเหอที่ได้ทราบข่าวเดิมทีเขาไม่อยากให้นางไป ตอนนี้ทางทิศใต้สงครามยังไม่สงบ รองแม่ทัพโต้วซึ่งยามนี้กลายเป็นแม่ทัพใหญ่โต้วคนใหม่ ได้ไปปราบ

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   บทที่ 30 ปรับความเข้าใจ

    เอ่ยจบเขาก็กึ่งเดินกึ่งลากตัวนางออกมาจากเรือน เสิ่นลี่จูรีบรั้งตนเองเอาไว้ ก่อนจะเอ่ย"ฝ่าบาท เหตุใดจึงทรงทำเช่นนี้เล่าเพคะ"เจิ้งจิ่งเหอหันมาจ้องสตรีตรงหน้าเขม็ง"ทำไม หรือว่าเจ้าอยากแต่งกับเขา เสิ่นลี่จู ข้าขอบอกเจ้าเอาไว้ตรงนี้เลยนะ ข้าไม่มีวันให้เจ้าได้สมใจ""เพราะเหตุใด เราต่างไม่มีเรื่องติดค้างใจต่อกันแล้ว พระองค์ไม่มีสิทธิ์มาทำเช่นนี้ตามใจชอบ""เพราะว่าข้าชอบเจ้าได้ยินหรือไม่!""ฮะ!"เสิ่นลี่จูถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก นางรู้สึกว่าตนเองกำลังหูฝาดไป จึงเอ่ยถามเขาย้ำอีกหน"ฝ่าบาททรงเอ่ยว่าอย่างไรนะเพคะ"เจิ้งจิ่งเหอถอนหายใจออกมา เขาเม้มริมฝีปากแน่น เสิ่นลี่จูนางหูหนวกหรือว่าหูตึงจึงไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาบอก เมื่อคิดได้เช่นนั้นชายหนุ่มจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะตะโกนจนลั่นจวน"ข้าชอบเจ้า สตรีหน้าโง่ เจ้าได้ยินหรือไม่ว่าข้าชอบเจ้า!"เสียงของเขาดังมาก ดังเสียจนทำให้บ่าวที่กวาดลานถึงกับทำไม้กวาดหล่นจากมือ สาวใช้ที่กำลังเช็ดจวนถึงกับทำผ้าหล่นลงพื้น แม่ทัพใหญ่เสิ่นหันไปมองฮูหยินของตนคราหนึ่งเมื่อได้ยินชัด ๆ แล้ว เสิ่นลี่จูก็ยิ้มออกมาในทันที นางไม่เคยคิดเลยว่ารักครั้งแรกของนางจะต้องมาเจ

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   บทที่ 29 ชีวิตใหม่

    เมื่อกลับมาอยู่ที่จวนแล้ว เสิ่นลี่จูก็เริ่มหมักสุราตามสูตรของนาง นางฝังสุราหลายไหเอาไว้ใต้ต้นไม้ สุราแต่ละชนิดล้วนมีเวลาการหมักบ่มของมัน เสิ่นลี่จูเองก็ไม่รีบร้อน อีกทั้งนางยังสั่งให้บ่าวไพร่ปลูกผักในจวนเอาไว้ขาย ไม่นานมานี้นางยังไปปรับปรุงภัตตาคารในเมืองหลวงซึ่งเป็นสินเดิมของมารดาเพื่อทำการค้าใหม่ ฝีมือการทำอาหารของเสิ่นลี่จูนับว่ายอดเยี่ยม ประจวบเหมาะกับนางนำความรู้จากยุคปัจจุบันมาประยุกต์ใช้ จึงทำให้อาหารที่ภัตตาคารของนางไม่เหมือนกับที่ใดที่ชวนให้ผู้คนสนใจมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นการสุ่มอาหาร ลูกค้าที่เข้ามาจะสามารถเลือกการจับฉลากสุ่มอาหารได้ เพียงจ่ายในราคาหนึ่งตำลึงสำหรับการสุ่มอาหารชุดใหญ่ ราคาสิบอีแปะสำหรับการสุ่มอาหารชุดกลาง และราคาสามอีแปะสำหรับการสุ่มอาหารชุดเล็ก พวกเขาจะไม่รู้เลยว่าอาหารชุดใหญ่นั้นจะมีอะไรบ้าง บางครายังได้สุราชั้นดีแถมกลับบ้านอีกด้วย เรื่องนี้สร้างความสนุกสนานแก่ผู้คนในเมืองหลวงไม่น้อยส่วนอาหารที่ขึ้นชื่ออีกอย่างก็คือ สลัดผัก เพราะในยุคโบราณมีวัตถุดิบไม่มาก นางจึงใช้น้ำมันงามาทำน้ำสลัดอย่างง่าย ๆ แต่รสชาติกลมกล่อมเป็นอย่างมาก สตรีในเมืองหลวงหลายคนที่ต้องการล

  • สนมคนงามเรามาเล่นกันเถอะ   บทที่ 28 แยกทาง

    กว่าจะเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงก็เป็นเวลาเย็นย่ำมากแล้ว เมื่อกลับมาถึงตำหนักเสิ่นลี่จูก็รีบผลัดเปลี่ยนอาภรณ์และมากินมื้อเย็น หลังจากกินอิ่มแล้ว นางจึงไปเยี่ยมกู้ไทเฮาและอยู่พูดคุยด้วยกันครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมาที่ตำหนักของตนเสิ่นลี่จูก็เดินไปที่โต๊ะตำรา ก่อนจะเปิดตำราเล่มหนึ่ง ด้านในนั้นมีหนังสือสัญญาที่เขาและนางลงลายมือประทับเอาไว้ร่วมกัน ไม่รู้เพราะเหตุใดยามที่คิดว่าถึงเวลาจะต้องแยกทางกันแล้ว นางจึงรู้สึกเศร้าใจถึงเพียงนี้ไม่รู้ว่านางเกิดความรู้สึกผูกพันกับเจิ้งจิ่งเหอยามใด เดิมทีเขาและนางเปรียบเหมือนกับเส้นขนานที่ไม่อาจจะมาบรรจบกันได้ เขาไม่เคยรักนาง ส่วนนางก็ต้องกลับไปยังที่ที่ตนเองจากมา เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วการไม่สานความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกันนับว่าเป็นเรื่องดีเมื่อนึกเรื่องที่ต้องกลับไปยังโลกอนาคต เสิ่นลี่จูก็พลันนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เรื่องของเสิ่นอ้ายเยว่ก็ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ว่าเหตุใดนางจึงกลับไปไม่ได้เล่าหญิงสาวมองไปโดยรอบ ก่อนจะพบเข้ากับเทพธิดาจิ้งจกที่เกาะอยู่ตรงประตู"เทพธิดาจิ้งจก ข้าไขคดีการตายของเสิ้นอ้ายเยว่ได้แล้ว เหตุใดจึงยังไม่สามารถกลับไปได้อีกเล่า"เทพธิดาจิ้งจกปรา

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status