“พี่ภพมีแต่สาวมาติด แรก ๆ ฉันก็โอเค นะเว้ย ให้เวลาแกเคลียร์เด็กในสต๊อก เพราะจะได้คบกันอย่างสบายใจ แต่หลัง ๆ ไม่ไหวว่ะ ใจพัง ถูกเขม่น ถูกจิกหัวใช้ เพราะหัวหน้าเคยกิ๊กกับพี่ภพมาก่อน”
“เฮ้ย…ทำไมแกถึงทนว่ะ ไม่หางานใหม่”
“งานนี้เป็นงานที่ชั้นรักไงแก เพื่อนร่วมงานก็ดี มีแต่หัวหน้านั่นแหละ อีกอย่างบริษัทออร์แกไนเซอร์ชื่อดังยักษ์ใหญ่มีแค่ไม่กี่ที่”
เฮ้อ…ธิชาถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก
“แล้วไงต่อ ไปต่อหรือพอแค่นี้”
“ไม่รู้ว่ะ ยิ่งมาทำงานเบื้องหลัง เจอแต่พวกนางแบบสวย ๆ ที่เคยคั่วกับพี่ภพอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะมาคบกับคนบ้าน ๆ แบบฉัน เห็นแบบนี้แล้วก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี”
“เฮ้ย! มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ แกมีดี แกจำตอนที่พี่ภพตามจีบแกไม่ได้เหรอวะ เอาอกเอาใจสารพัด ใครเห็นเป็นต้องอิจฉา”
“ตอนนี้คงไม่มีอะไรให้น่าอิจฉาแล้วล่ะ”
“เศร้าซะ…”
“แล้วแกเป็นไง ชีวิตหลังแต่งงาน แฮปปี้ ตายคาอกไหม” เพียะ! มัชชุพรตีแขนเพื่อนสนิททันทีเมื่อโดนแซว
ยังไม่ทันได้พูดอะไร เครื่องดื่มที่สั่งก็มาเสิร์ฟพอดี
“ชีวิตหลังแต่งงานก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไม่หวือหวาหรือหวานหยดปานน้ำผึ้งเดือนห้าเหมือนที่แกคิด”
“มีอะไร หรือว่าผัวไม่เอา”
“ธิชา…ลามก” คนถูกแซวหน้าแดง หูแดง
“โอเค ไม่แซวก็ได้ มีอะไรเหรอ”
“ก็ไม่เชิง เหมือนพี่ทิณเค้าเปลี่ยนไป”
“ยังไง…”
“ก็…แบบไม่ค่อยเอาอกเอาใจ ใส่ใจเหมือนแต่ก่อนมั้ง”
“แกเคยได้ยินไหม ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง แกคาดหวังให้เค้าเป็นในแบบที่แกชอบตลอดไปไม่ได้หรอกนะ คนเรามันมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะหน้าที่การงาน อายุ หรือ…ความรู้สึก”
“แกพูดเหมือนปลงแล้วเข้าใจชีวิตคู่จริง ๆ” มัชชุพรมองเพื่อนสาวอย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าสาวแก่นเฟี้ยวในกลุ่มจะมีโมเม้นต์แบบนี้ แบบปลงตกไม่ยึดติดในความสัมพันธ์ชีวิตคู่
“ก็คงแบบนั้นมั้ง ตอนแรกมันก็ทรมานที่เป็นฝ่ายไล่ตาม ไล่ง้อ อยากเจออยากพูดคุย อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกัน แต่ระยะหลัง ๆ หันมากอดตัวเองดีที่สุด”
“แกโอเคนะ” มัชชุพรถามด้วยความเป็นห่วง เพราะสีหน้าอีกฝ่ายย่ำแย่จริงๆ
“ไม่โอก็ต้องโอ ให้เวลาสักพักก็คงดีขึ้น”
“แกจะตัดใจจากพี่ภพงั้นเหรอ”
“ก็ไม่เชิง แต่เหลือเพียงความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก ถ้าเค้าอยากเจอก็ไป เค้าโทรมาก็คุย ไม่ถามไม่เซ้าซี้ ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของประมาณนั้น”
“ไม่น่าเชื่อ เมื่อก่อนแกเเทบจะฟ้อนเล็บใส่พี่ภพหรือกิ๊กเมื่อแกจับได้ วีรกรรมแกตอนสมัยเรียนน้อยซะที่ไหน”
“ตอนนั้นยังเด็กไง อาจไม่มีวุฒิภาวะพอ แต่ตอนนี้ไม่ละ”
“สาธุ แกดูปลงและเข้าใจโลกมากอะ ถ้าแกออกบวชถือศีลชั้นจะไม่แปลกใจเลย”
“เว่อน่าแก” ก่อนทั้งสองจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน
นี่แหละเพื่อนสนิท แม้ต่างฝ่ายต่างเติบโตแยกจากกันไปคนละทาง เมื่อกลับมาเจอกันเรียกบรรยากาศวันวานกลับคืนมาได้ไม่ยากเลย เราคุยกับแทบทุกเรื่อง เม้ามอยอดีตในวันวาน วีรกรรมสุดแสบ รวมไปถึงเรื่องความรักหรือชีวิตคู่
“วันนี้วันศุกร์ว่างไหมแก ออกล่ากัน”
“ที่ไหน”
“เฮ้ย พี่ทิณให้แกไปเหรอวะ”
“ให้สิ เมียนะไม่ใช่นักโทษ”
“ที่เก่าเวลาเดิม แกจะให้ชั้นไปรับหรือยังไง”
“แกมารับก็ได้ คืนนี้ชั้นนอนกับแกสักคืนพี่ทิณไม่ว่าหรอก”
“ดีล!!”
สองสาวนัดแนะกันเสร็จก็ต่างฝ่ายต่างมาอาบน้ำเตรียมตัวสำหรับออกล่ายามราตรี แค่คิด…มัชชุพรก็รู้สึกกระชุ่มกระชวย รองเท้าส้นเข็มคู่ใจที่ถอดทิ้งไว้ในตู้ตั้งแต่แต่งงาน เสื้อรัดรูปซีทรูอวดเต้าทรงโต กระโปรงสั้นรัดรูปสีดำไม่ได้ใส่นานแค่ไหนแล้วนะ
ก่อนจะออกจากคอนโดก็เขียนโพสอิทแปะตรงประตูทางเข้าที่มีกระดานแม่เหล็กขนาดเอสี่ติดอยู่ข้างฝา เข้าออกยังไงก็ต้องเห็น มัชชุพรเลือกที่จะเขียนแปะไว้แทนที่จะส่งข้อความไปหาสามี เพราะไม่อยากรบกวนการทำงานของเขา เหลือบไปมองนาฬิกาตอนนี้บอกเวลา สามทุ่มตรง แต่ทุกคืนวันศุกร์สามีมักจะกลับมาค่อนเช้า ไม่รู้งานยุ่งหรืออย่างไร วันเสาร์ทั้งวันก็เอาแต่นอน แทบไม่มีเวลาได้คุยกัน คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ก่อนจะลงไปชั้นล่างลานจอดรถของคอนโดเมื่อเพื่อนสาวมารับ
วันนี้ธิชาและเพื่อนรักอย่างมัชชุพร ทั้งสองครอบครัวนัดกันมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ทะเลแห่งหนึ่งในภาคใต้มิตรภาพที่ยาวนานร่วมสิบปีของสองสาว ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นภาพนี้ด้วยกัน รวมไปถึงสองหนุ่มเพื่อนสนิทอย่างเทวทิณณ์และพิภพ ที่ต่างก็มองภรรยาและลูกน้อยก่อปราสาททรายกันอย่างสนุกสนาน“ถ้ารู้ว่ามีครอบครัวแล้วมีความสุขอย่างนี้ กูมีไปนานแล้ว ไม่น่าไปฟังไอ้พวกนั้นที่เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด” เทวทิณณ์ยกเบียร์กระป๋องในมือขึ้นมาจิบก่อนจะยักไหล่ “ก็ไอ้พวกนั้นไม่ได้มีเมียเหมือนมัช และไม่ได้ใจกว้างเหมือนธิชา” เทวทิณณ์ได้ทีเอ่ยชมภรรยาไม่ขาดปาก“ก็จริง ชาเค้าไม่เคยทำตัวแบบว่าเมียใหญ่สุด หรือกูต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านใจกล้า ไอ้พวกนั้นทำยังกะว่าเรื่องแต่งเมียเหมือนขายของหรือไง”“ก็โดนคลุมถุงชน เป็นกูก็ไม่อยากกลับบ้านเปล่าวะ”“ดีที่ชาเค้ายังกลับมาหากู ไม่งั้นกูคงไม่ได้เห็นภาพนี้ หรือไม่ก็ไม่มีภาพนี้ในหัวเลย” เทวทิณณ์ตบบ่าเพื่อนรักเพื่อให้กำลังใจ“รักษาเค้าให้ดี ๆ ไม่ใช่ละเลยทำตัวเสเพลเหมือนเดิมอีกนะมึง ลูกเต้าก็มีแล้วทำตัวให้สมกับที่เป็นพ่อคน”“ครับ” พิภพหันมาพนมมือไหว้เพื่อนรัก ที่สั่งสอนยังกะพ่อ ตั้งแต่แต่งงาน
คู่แต่งงานใหม่ก็พากันมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไกลถึงต่างประเทศ ธิชาและพิภพต่างก็กกกอดกันอย่างแนบแน่นทุกเช้าค่ำระหว่างท่องเที่ยวฮันนีมูนในโรงแรมแห่งหนึ่ง “อื้อ สะ สามี เบาหน่อย”ตั้งแต่งานแต่งงาน พวกเขาทั้งสองต่างก็เหนื่อยลากเลือดกันทั้งคู่ ไม่มีเวลามาจู๋จี๋ตามประสาข้าวใหม่ปลามันกันสักเท่าไหร่ สรรพนามที่เอ่ยเรียกกันก็เปลี่ยนไป“ชาจ๋า ชาของพี่หวานที่สุด”“อื้อ”สองเต้าที่ถูกมือใหญ่บีบเคล้น อีกทั้งยังถูกดูดอย่างกระหายอย่างนี้ทำเอาธิชาถึงกับกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ได้ เห็นแต่ผมดกดำที่ขยับอยู่ตรงหน้าอกของเธออยู่นานสองนาน เขาทั้งขบกัด หยอกล้อกับเม็ดบัวทั้งสองข้างอย่างมันเขี้ยว ร่างบางสั่นระริกด้วยความเสียว อีกทั้งช่องทางสวาทยังหลั่งน้ำเมือกสีใสออกมาจนต้นขาด้านในเฉอะแฉะไปหมด สองขาถูไถกับเตียงกว้างจนผ้าปูที่นอนยับย่น ข้อมือได้แต่กำมุมหมอนเพื่อระบายความเสียวที่ตีตื้นขึ้นมาทำเอาเธอเกือบจะเสร็จสมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง“อ๊ะ”พิภพจูบลูบไล้ร่างกายที่สะโอดสะอง เอวคอดสะโพกผาย ธิชามีรูปร่างเหมือนนาฬิกาทราย ผู้ชายอย่างพิภพไม่รู้ว่าร่างกายที่ผอมเพรียวของเธอแบกเต้าทรงโต และเข่าที่แบกสสะโพกผายได้ยังไง ไม่ว
“ไม่ต้องร้องแล้วนะคะคนดี” พิภพเอ่ยปลอบพลางก้มลงจูบหน้าผากเนียนด้วยความรักใคร่ กระชับอ้อมกอดให้แน่นมากยิ่งขึ้น พอเห็นเพื่อนรักแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุข มันก็กระตุ้นความปรารถนาของพิภพให้แจ่มชัดมากยิ่งขึ้น เขาประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว แต่ชีวิตคู่กลับตรงกันข้าม เขาจินตนาการการมีครอบครัว แต่งงานมีลูกกับใครสักคนไม่ออก หากตอนแรกเขาไม่เลิกกับธิชาก็คงยังมองภาพนั้นไม่ออก แต่พอได้เลิกรากับอีกฝ่ายไป ภาพที่เคยเลือนรางและคิดว่าไม่มีอยู่จริงกลับมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เขาวาดภาพบ้านและครอบครัวของตัวเองออกมาหลายภาพ และมองเห็นอนาคตที่จะใช้ชีวิตร่วมกับใครอีกคนไปจนแก่เฒ่า และคนคนนั้นก็คือธิชา…หญิงสาวตรงหน้าหากไม่เคยสูญเสียก็ไม่รู้คุณค่าของมันวันนี้เขารู้ซึ้งแล้ว และจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดมือเป็นครั้งที่สองงานแต่งงานของธิชาและพิภพจัดขึ้นที่ริมทะเลจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ บรรยากาศเรียบง่ายแต่อบอุ่น มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงคนสนิทเพียงเท่านั้น มัชชุพรและเทวทิณณ์พร้อมยัยหนูมัชฌิมาในวัยแปดเดือน สวมชุดกระโปรงน่ารักพร้อมผ้าคาดหัว บนแท่นเวทีบ่าวสาวกำลังเอ่ยคำสาบาน‘ข้าพเจ้านายพิภพ รับ นางสาวธิ
ไม่รู้ว่าสถานะนี้คืออะไร แต่ต่างฝ่ายต่างสบายใจที่จะไปมาหาสู่กันอย่างนี้ บางทีเวลาก็ช่วยเยียวยาและตกตะกอนความคิดต่าง ๆ ให้ผู้คนต่างก็เติบโตและไม่จมกับความผิดพลาดในอดีต อีกทั้งตอนนี้พวกเขาต่างก็เดินหน้าด้วยความระมัดระวัง เพราะรู้แล้วว่ากว่าจะเจอรักดี ๆ คนรักดี ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแตกสลายและเสียน้ำตามากมายไปไม่รู้เท่าไหร่กว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง พูดคุยและหัวเราะด้วยกันอีกครั้งแบบนี้ โดยเฉพาะอดีตคาสโนว่าอย่างพิภพ ที่เหมือนจะถูกถอดเขี้ยวเล็บไปจนหมด ตอนนี้กลายเป็นคนที่เจอตัวยากพอ ๆ กับเทวทิณณ์ อย่างเทวทิณณ์ที่กำลังจะเป็นพ่อคนอยู่ติดบ้านก็ไม่แปลก แต่คนที่มักจะออกท่องราตรีเป็นประจำอย่างพิภพกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ อยู่ติดบ้าน ออกสังสรรค์บ้างแต่ก็นับครั้งได้ ธิชาเองก็ไม่เคยกะเกณฑ์หรือพูดขอร้องอะไร เธอไม่เคยพูดให้เขาเปลี่ยน เพราะหากเขาไม่เปลี่ยน ใครก็คิดที่จะเปลี่ยนเขาไม่ได้ อีกทั้งธิชาก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามครรลอง ถ้าถามถึงความรู้สึก…เธอก็ยังรักตัวเองมากกว่าจะรักใครคนอื่นหลังจากดูหนังจนจบ พิภพก็พาหญิงสาวมาทานอาหารดาดฟ้าโรงแรมดัง “นี่หรือเปล่าคะที่ย้ำนัก
ตั้งแต่วันนั้นธิชากับพิภพก็ไม่ได้เจอกันอีกจนงาน Baby Shower ของยัยมัชที่จัดงานที่บ้านสวนที่อยุธยาบ้านของพี่ทิณ เรียกได้ว่าเป็นงานรวมกัลยาณมิตรเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ เพื่อนฝูง ต่างก็มากันเกือบครบหมด ว่าที่คุณแม่ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ไม่ใช่แค่แขกในงานที่ลุ้นเพศ สามีอย่างเทวทิณณ์เองก็ลุ้นจนตัวโก่งเหมือนกัน มีแต่มัชชุพรที่รู้ ลูกโป่งสีสวยบรรจุแผ่นกระดาษไว้ภายใน สีฟ้าลูกชาย สีชมพูลูกสาว เพื่อน ๆ ต่างก็พนันกันอย่างสนุกสนาน ธิชาเองก็เหมือนกัน ลูบท้องยัยมัชออกจะบ่อย ท้องแหลมแบบนี้โบราณเขาว่าจะได้ลูกสาว งานปาร์ตี้เล็ก ๆ แต่ทว่ากลับอบอุ่น ตอนนี้เองพิภพก็เดินมาหาเธอ พวกเขาต่างก็ไม่มีใครเคอะเขิน พูดคุยทักทายกันอย่างออกรสตามประสาคนรู้จัก“ชาว่าไอ้ทิณจะได้ลูกชายหรือลูกสาว”“ต้องลูกสาวอยู่แล้วค่ะ”“ถ้าลูกชายล่ะ?”“งั้นมาพนันกันไหมละคะ” ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งคู่มัชชุพรถือลูกโป่งยักษ์สีขาวไว้ในมือ เพื่อน ๆ ต่างส่งเสียงเชียร์ฝั่งเพื่อนชายก็ส่งเสียง BOY/ ส่วนฝั่งผู้หญิงก็ GIRL ต่างไม่มีใครยอมใคร อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้เด็ก ๆ ที่เพื่อน ๆ ต่างขนมาให้กองพะเนินจนคุณย่าอย่างสาวิตรีอดที่จะหัวเราะกับคนห
หลังจากเกิดเรื่องทางบริษัทเองก็ไม่ได้ใจดำกับลูกน้อง ทางหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานต่างก็เอ่ยปากให้ธิชาลาพักได้อีกสักสองสามวัน เพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจ และคดีความ แต่ธิชาปฏิเสธอีกทั้งงานตรงหน้าทำให้สมองของเธอหยุดคิดเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้ขณะหนึ่ง เพื่อนร่วมงานก็ต่างชวนคุย ดีกว่านั่งอุดอู้อยู่ที่โรงแรมเป็นไหน ๆ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทางพิภพเองก็บอกว่ารอให้หาคอนโดได้ใหม่จะส่งมาให้ เธอเองก็เห็นว่าไม่เสียหายอะไร จึงเอาตามนั้น แต่ระหว่างนี้ก็ไม่มีอะไรเกินเลยกันอีก แม้จะพักอยู่ห้องเดียวกันก็ตามธิชาเองก็รู้สึกปลอดภัยที่อีกฝ่ายมาอยู่เป็นเพื่อน หากสภาพจิตใจดีมากกว่านี้อีกสักหน่อยคงต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม…แต่เธอเองก็ไม่ได้เห็นแก่ตัว พยายามหาห้องใหม่ให้เร็วที่สุด ทางอิทธิเองก็เอ่ยปากช่วยหาห้องใหม่ให้ รวมไปถึงเพื่อนร่วมงานหญิงโสดหลายคนก็แนะนำให้อยู่บ้าง แต่เธอต้องขบคิดสักเล็กน้อย ห้องที่ดี ความปลอดภัยสูงราคาก็แพงตาม ลำพังพนักงานออฟฟิศเงินเดือนไม่มากเท่าไหร่ จะให้หารูมเมทก็ไม่ชอบ เฮ้อ!ธิชากลับโรงแรมที่พักด้วยสภาพอิดโรย หลังเลิกงานต้องตระเวนหาที่อยู่ใหม่อีก “ชา กลับมาแล้วเหรอ ทานอะไรหรือย