ตอนที่ 22
แตกหัก
จงเยว่ชิงรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักที่ผลออกมาเป็นเช่นนี้ แต่หากตนขัดอะไรมากไปฮูหยินใหญ่อาจสงสัยเอาได้ จึงต้องปล่อยให้นังฮูหยินน้อยได้หน้าเป็นคนดีไป
“นายหญิงปล่อยไปเช่นนี้จะดีหรือเจ้าคะ” มี่มี่สาวใช้คนสนิทเอ่ยถามนายสาว
“ทำอย่างไรได้เล่า หากพูดมากเราจะถูกจับได้เอานะสิ ว่าแต่นายท่านบอกจะมาหาข้านี่เหตุใดยังไม่มากัน เดี๋ยวท่านพี่ก็กลับมาก่อนพอดี” จงเยว่ชิงบ่นออกมาเบา ๆ
“ข้าก็มาแล้วนี่ไง เจ้าจะใจร้อนไปใยเล่า” เสียงทุ้มพร้อมบุรุษร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาจากประตูหลัง ก่อนจะส่งกล่องไม้บางอย่างให้หญิงสาว
สาวใช้ของจงเยว่ชิงเห็นดังนั้นจึงกลับออกไปรอด้านนอก เพื่อเฝ้าต้นทางเพราะเรื่องนี้ไม่สามารถให้ผู้อื่นรู้ได้
“วันนี้นายท่านมาช้านะเจ้าคะ ปล่อยให้ข้าทนคิดถึงท่านอยู่ตั้งสองเค่อแหนะ” หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับแสดงท่าทีแงงอนบุรุษผู้เข้ามาใหม่
“ข้าขอโทษที่มาช้า เพราะออกไปหาซื้อของขวัญมาให้เจ้าอย่างไรเล่า ลองเปิดดูสิว่าเจ้าชอบหรือไม่”
“ท่านซื้อของมาให้ข้าเช่นนี้เดี๋ยวบุตรชายท่านก็สงสัยเอาหรอก หลงจิวซิ่งผู้นั้นหาใช่คนโง่เขลาเมื่อไหร่กัน” นางเอ่ยเช่นนั้นแต่ปากกลับยิ้มกว้าง
ของในกล่องเป็นปิ่นทองระย้าที่ประดับด้วยทับทิมสีชมพู เมื่อเห็นครั้งแรกก็ถูกใจจงเยว่ชิงทันที
“เจ้าเด็กนั่นไม่รู้หรอก ไม่เช่นนั้นคงจับได้ตั้งแต่ที่เขากลับมาจวนวันแรกแล้ว มาข้าปักให้เจ้าดีกว่า” หลงเจิ้งสิงเอ่ยพร้อมกับหยิบปิ่นมาปักผมให้หญิงสาว
เขาถูกตาต้องใจจงเยว่ชิงตั้งแต่วันแรกที่นางเข้าจวนมา จึงได้วางแผนเอานางมาเป็นของตัวเอง แม้จะรู้ว่าหญิงสาวคือคนรักของบุตรชายแต่แล้วอย่างไรใครจะสนกัน
ประจวบเหมาะกับที่หญิงสาวก็สารภาพว่าหลงรักเขามานาน แต่เพราะอายุต่างกันจึงไม่กล้าหวัง เลยคิดว่าจะแต่งเป็นอนุของบุตรชายแล้วค่อยดูแลเขาอยู่ห่าง ๆ แทน
นั่นจึงทำให้จิตใจชายวัยกลางคนกระชุ่มกระชวยราวกับได้กลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้ง ทั้งสองแอบมาหากันยามที่ฮูหยินไม่อยู่จวน หรือไม่ก็ให้สาวใช้ของจงเยว่ชิงดูต้นทางให้
แต่ทุกอย่างก็เริ่มยากขึ้นเมื่อบุตรชายคนโตเขากลับมา เจ้านั่นเอาแต่ทำตัวติดกับนางจนเขาหาช่องว่างมาหาไม่ได้ เล่นเอาเขาหงุดหงิดมาหลายวันแล้ว
ยิ่งได้ยินว่านางเข้าหอกับบุตรชายเขาก็ยิ่งรับไม่ได้ อยากตีตราทับลงไปว่านางคือสตรีของตนเพียงคนเดียว
“หากเรามีลูกด้วยกันจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ ชิงเอ๋อร์รักนายท่านมากแต่ด้วยสถานะคงเป็นสตรีของนายท่านไม่ได้แน่ หรือเราจะหยุดความสัมพันธ์....”
หญิงสาวแสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย พร้อมกับหยาดน้ำตาที่รินไหลผ่านแก้มนวล
“อย่าพูดเช่นนั้นเลย แม้เขาจะเป็นบุตรชายที่เก่งกาจแค่ไหน แต่ข้าก็เก่งไม่แพ้เจ้าลูกเต่านั่นเช่นกัน ข้าจะหาทางจัดการเรื่องนี้เองเจ้าอย่าได้ห่วงไปเลย”
หลงเจิ้งสิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ในหัวยามนี้ก็เริ่มคิดถึงแผนการบางอย่างแล้ว
“เพราะข้าหรือไม่ ที่ทำให้นายท่านกับคุณชายใหญ่ต้องผิดใจกัน ตัวข้าเองก็รู้สึกผิดยิ่งนักแต่ก็สุขใจในเวลาเดียวกัน เพราะได้นายท่านคอยอยู่เคียงข้างเช่นนี้”
หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับสวมกอดเอวบุรุษตรงหน้า ไหล่เล็กสั่นเล็กน้อยทำเอาหลงเจิ้งสิงตัดสินใจได้ทันที
“เจ้าอย่าเพิ่งคิดสิ่งใดเลย ยามข้ารู้ว่าเจ้าเข้าหอกับจิวซิ่งข้านั้นปวดใจยิ่งนัก เข้าสัมผัสเจ้าตรงส่วนใดจงบอกข้ามา ข้าจะลบร่องรอยให้หมด”
หลงเจิ้งสิงเอ่ยพร้อมกับอุ้มเด็กสาวรุ่นลูกขึ้นในอ้อมกอดพร้อมกับยิ้มกรุ่มกริ่ม ขายาวก้าวฉับ ๆ ตรงไปยังห้องนอนทันที
แล้วบทเพลงรักแสนเร้าร้อนระหว่างคนทั้งสองก็เริ่มขึ้น เสียงครวญครางแทบขาดใจของจงเยว่ชิงดังแว่วออกมาถึงด้านนอก ทำเอาสาวใช้คนสนิทรีบออกไปดูต้นทาง และคอยไล่คนที่ผ่านไปมา
กว่าเสียงด้านในจะเงียบลงก็ใช้เวลานานเกือบชั่วยาม สาวใช้คนสนิทจึงไปเตรียมน้ำให้นายทั้งสองอาบ แล้วส่งนายท่านของจวนกลับออกหลังเรือนไป
“ข้าพูดถึงเพียงนี้แล้วหากนายท่านจะเพิกเฉยก็ให้รู้ไป” จงเยว่ชิงเอ่ยพร้อมกับยิ้มร้าย
นางไม่ได้ต้องการเป็นเพียงอนุของผู้อื่น แต่ต้องการเป็นฮูหยินเอกที่ผู้คนเชิดหน้าชูตาต่างหาก ผิดที่หลงจิวซิ่งไม่หลงกลนาง เขาจึงรับนางเป็นเพียงอนุเช่นนี้
แต่แล้วอย่างไรในเมื่อท่านไม่ให้สิ่งที่ข้าต้องการ ข้าก็ต้องหามันมาด้วยตัวเอง อย่าโทษว่าข้าเป็นสตรีชั่วช้าเลยนะเจ้าคะสามี
“นายท่านต้องรีบหาทางให้นายหญิงได้เป็นสตรีของนายท่านในเร็ววันนี้เป็นแน่เจ้าค่ะ” มี่มี่สาวใช้คนสนิทเอ่ยเยินยอ
“ให้มันจริงเถอะ แล้วเรื่องที่ข้าให้เจ้าไปทำเป็นอย่างไรบ้าง อย่าให้คนเรือนใหญ่รู้ตัวเล่า”
“เรียบร้อยเจ้าค่ะ ข้าซื้อตัวสาวใช้คนสนิทของฮูหยินใหญ่ได้แล้ว เหลือเพียงทำตามแผนของเราและรอเวลาก็พอเจ้าค่ะ” เอ่ยจบทั้งสองก็หัวเราะอย่างมีความสุข
เย็นนั้นโจวเยี่ยนเหยียนรับสำรับที่เรือนตัวเองตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือหลงจิวซิ่งมานั่งทานข้าวกับนางด้วย
มันจะไม่เป็นอะไรเลยหากเขาไม่เอาแต่นั่งจ้องนางไม่พูดไม่จาตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในเรือน
“ท่านต้องการถามสิ่งใดก็จงถามมาเถอะเจ้าค่ะ” นางวางตะเกียบลงก่อนจะถามคนที่นั่งมองนางกินข้าวตรงหน้า
“เป็นข้าต่างหากที่ต้องเอ่ยคำพูดนี้ เจ้าเปลี่ยนไปตั้งแต่มาถึงจวนหากเจ้าโกรธเคืองที่ข้ามีอนุอยู่ก่อนแล้วข้าก็ขอโทษไปแล้วอย่างไร เจ้ายังต้องการสิ่งใดอีก หน้าที่ของเจ้าคือฮูหยินเอกควรทำตัวให้ใจกว้างให้มาก ไม่ใช่เอาแต่บึ้งตึงยามข้ามาหาเช่นนี้!!!”
เมื่อได้พูดก็ตะคอกใส่นางทันทีราวกับอัดอั้นตันใจมานาน สีหน้าที่แสดงออกนั้นทั้งโกรธเคืองและน้อยใจ ทำให้นางมีท่าทีอ่อนลงเล็กน้อย
“หลงจิวซิ่งท่านแต่งข้ามาเพื่อสิ่งใดลืมแล้วหรือ เราทั้งสองต่างก็ไม่ได้รักใคร่กันตั้งแต่แรก น้ำใจที่ท่านมีให้ข้าก่อนหน้านี้ข้าก็เต็มใจรับ ขนาดท่านกระทำหยามเกียรติข้ามากมายข้ายังไม่เอ่ยวาจาต่อว่าท่านแม้แต่ครึ่งคำ”
นางเอ่ยอย่างใจเย็นพร้อมกับรินชาให้ตัวเองแล้วยกขึ้นจิบช้า ๆ ท่าทีไม่ได้อาทรร้อนใจบุรุษตรงหน้าแม้แต่น้อย
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร ก่อนหน้านี้ที่เจ้าก็มีท่าทีรักใคร่ข้ามากมายนี่ จะบอกว่าสิ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีความหมายเกินกว่าคำว่าน้ำใจอย่างงั้นหรือ!!!!”
“เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ นับตั้งแต่ที่ข้ารู้ว่าท่านรับอนุหลังแต่งข้าเพียงสามวัน ข้าก็คิดว่าไม่ควรรับน้ำใจจากท่านอีกและไม่ต้องการมันอีกต่อไป”
“.....”
“เพราะท่านไม่ได้หยามเพียงเกียรติของข้า แต่หยามเกียรติของบิดาข้าที่เป็นถึงอ๋องปกครองเมืองด้วย”
“หึหึหึ!! ข้าช่างโง่เขลานักที่มองเจ้าไม่ออก สตรีดื้อรั้นเช่นเจ้าจะยอมลงให้ข้าง่าย ๆ ได้อย่างไรกัน จากนี้ก็อย่าหาว่าข้าใจร้ายกับเจ้าแล้วกัน” ชายหนุ่มเอ่ยพลางยิ้มหยัน
“เจ้าค่ะ”
นางตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะส่งยิ้มให้เขาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร กลับเป็นชายหนุ่มมากกว่าที่หงุดหงิดกว่าเดิม
“อย่างไรเจ้าก็เป็นฮูหยินของข้า พึงสำนึกไว้ตลอดเวลาว่าจะทำสิ่งใดอย่าให้ตระกูลหลงของข้าต้องแปดเปื้อนไปด้วย!”
ยิ่งเห็นนางเย็นชาต่อตัวเองเท่าไหร่ในใจกลับยิ่งรู้สึกปวดหนึบ แต่เขาใช้ความโกรธเพื่อกลบเกลื่อนมันเอาไว้แทน
“เจ้าค่ะ” นางตอบพร้อมส่งยิ้มเช่นเดิมให้เขา
“โจวเยี่ยนเหยียน!! เจ้าอย่ายั่วโมโหข้าให้มากนัก!!!” ในที่สุดชายหนุ่มก็ทนไม่ไหว จึงได้ลุกขึ้นกระชากแขนนางเต็มแรง
“โอ๊ย!!! จะบอกว่าข้ายั่วโมโหท่านได้อย่างไร ในเมื่อพูดสิ่งใดข้าก็รับปากท่านทุกเรื่อง เป็นท่านต่างหากที่ตั้งใจหาเรื่องข้ามากกว่า!!!”
นางตะคอกกลับไปบ้าง แขนนางคงช้ำแน่เพราะเขาดึงแรงเพียงนี้ แถมท้องยังกระแทกโต๊ะกินข้างอีก
“กิจการที่เจ้าคิดจะทำจงยกเลิกไปเสีย!! ชาวบ้านจะพูดเช่นไรหากรู้ว่าข้าปล่อยให้ฮูหยินออกไปเปิดกิจการเอง คนคงได้เอาไปลือกันทั่วว่าข้าเลี้ยงฮูหยินเอกของตัวเองไม่ได้”
“มันไม่มีผู้ใดพูดหรอกเจ้าค่ะ! หากเรื่องเหล่านั้นไม่มีมูลความจริง อีกอย่างกิจการข้าเงินข้า! ท่านมีสิทธ์ห้ามได้หรือ!!”
เพี๊ยะ!!!!
ด้วยความโกรธสุดขีด หลงจิวซิ่งจึงเผลอตบโจวเยี่ยนเหยียนจนล้มไปกองที่พื้น ทำให้ในห้องเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ
โจวเยี่ยนเหยียนมึนงงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตั้งสติได้ว่าตัวเองถูกเขาตบจนหูอื้อ ใบหน้าด้านซ้ายชาจนไม่รับรู้ถึงความเจ็บ
นางค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมมองไปที่ชายหนุ่มด้วยสายตาเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ขะ ข้าขอโทษ ข้าขาดสติจึงได้.....”
ผลัวะ!!! ผลัก!!! เพล้ง!!!!! ตุบ!!!
เมื่อตั้งสติได้นางก็ต่อยเข้าที่ใบหน้าเขาทันที พร้อมกับถีบเข้าที่ท้องชายหนุ่มก่อนจะคว้าแจกันใกล้มือฟาดใส่หัวเขาเป็นการตบท้าย
หลงจิวซิ่งสลบไปทันที พร้อมกับเลือดสีแดงสดไหลซึมออกจากศีรษะของเขาจนนองเต็มพื้น
ตอนที่ 26เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนหลงจิวซิ่งโกรธทั้งฮูหยินเอกและมารดาตัวเอง วันนั้นจึงประชดโดยการทิ้งสตรีทั้งสองให้รอเก้ออยู่ในเรือนตามลำพัง ส่วนตัวเองก็ไปนอนกกกอดกับอนุจงเช่นเคยแต่อนุทั้งสองไม่ได้เหมือนนาง ที่ไม่ได้รับความโปรดปรานก็สามารถอยู่ได้ ดังนั้นวันนี้นางจึงมาหาแรงจูงใจให้ทั้งสองเสียหน่อย“หากพวกทั้งคนใดคนหนึ่งสามารถปรนนิบัติคุณชายใหญ่ได้ก่อน ข้าจะมีรางวัลให้อย่างงาม” นางเอ่ยขณะที่ทั้งสองมายกน้ำชาให้ตนในเช้าวันถัดมาที่นางทำเช่นนี้เพราะอยากเห็นชายหนุ่มแตกหักกับอนุจง ทุกอย่างทำไปเพราะความสนุกของตัวเองล้วน ๆแต่อีกนัยหนึ่งคือเขาจะได้ไม่มีเวลามายุ่งวุ่นวายเรื่องกิจการของนาง ที่ยามนี้ดำเนินการไปได้เกือบเสร็จแล้ว“จริงหรือเจ้าคะ!!! นายหญิงพอจะบอกได้หรือไม่ว่ารางวัลนั้นคือสิ่งใด” จี้เหมยกุ้ยเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะชอบมันหรือไม่ เครื่องหัวชิ้นนี้ทำมาจากหยกชั้นดี การออกแบบงดงามยังไม่มีวางขายในเมืองหลวง เพราะมันเป็นเครื่องประดับที่ข้าสั่งทำขึ้นมาเอง”นางเอ่ยพร้อมกับเปิดกล่องเครื่องประดับในมือให้ทั้งสองดู แม้จะเป็นเพียงปิ่นระย้าแต่รูปแบบงดงามนัก“งดงามยิ่งนัก ข้าไม่เคยเ
ตอนที่ 25แม่สามีซ่งอี้เฉินได้ยินทุกประโยคที่หญิงสาวพูดคุยกัน ตนตามนางมาตั้งแต่หอนางโลม เข้าออกร้านอาภรรณ์และร้านเครื่องประดับ จนมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งนี้“นางช่างแสดงงิ้วได้เก่งกาจนัก หากนายท่านไม่ให้ข้าเฝ้าดูนางก่อนหน้านี้ ข้าคงคิดว่านางน่าสงสารแล้ว อึก!!!!”ซุนเข่อซินพูดจบก็รู้สึกจุกที่ท้องทันที เพราะถูกผู้เป็นนายซัดพลังยุทธใส่ แม้ไม่ได้แรงมากแต่ก็ทำเอาเขาตัวงอได้เช่นกัน“พูดมากเช่นนี้ข้าควรส่งเจ้าไปฝึกกับอี้เจินสักสองปี” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับมองลูกน้องตัวเองด้วยสายตาเย็นชา“ยะ อย่าเลยขอรับ ข้าจะไม่พูดอีกแล้ว” ซุนเข่อซินรีบปิดปากตัวเองทันที ก่อนจะถูกไล่ให้ไปเอารถม้า เพราะโจวเยี่ยนเหยียนออกจากห้องข้าง ๆ แล้วหลงจิวซิ่งกำลังตรวจบัญชีอยู่ในห้องทำงานหลังร้าน ก็มีบ่าวเข้ามาแจ้งว่าอนุจงเอาสำรับมาส่ง“รีบให้นางเข้ามา” ชายหนุ่มวางพู่กันในมือลงพร้อมกับลุกไปรับหญิงสาว“ท่านพี่ทำงานอยู่หรือเจ้าคะ ข้ามารบกวนท่านหรือไม่” จงเยว่ชิงเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม“รบกวนอะไรกันเจ้าอุตส่าห์หิ้วปิ่นโตมาหาข้าเพียงนี้ แต่เจ้าไม่น่าลำบากเอาอาหารมาส่งข้าเช่นนี้เลย นั่งก่อนเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับประคอง
ตอนที่ 24รับอนุให้สามีเมื่อได้ฟังจบนางก็ยิ้มเย้ยหยันออกมาทันที ที่สร้างเรื่องพวกนี้ก็เพื่อเอาไว้บีบให้นางอยู่ใต้เท้าตัวเองนี่เอง“เกินไปแล้ว!! ถึงกับใส่ร้ายกันเพียงนี้คงไม่ต้องการให้นายหญิงออกงานสังคมได้เลยสินะ” ลู่หลิ่งเอ่ยเพราะโกรธแทนนายสาว“พวกเจ้าเชื่อข่าวลือเหล่านั้นหรือไม่” นางหันไปถามสาวใช้ทั้งสองอย่างใจเย็น“จะเชื่อได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ ในเมื่อพวกข้าก็อยู่กับนายหญิงตลอดเวลา ย่อมมองออกว่านายหญิงเป็นคนเช่นไร” ลู่หลินรีบเอ่ย“เช่นนั้นข้าจะเล่านิทานให้ฟัง” นางเอ่ยพร้อมกับเริ่มเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง รวมทั้งเรื่องที่ตนสันนิษฐานเกี่ยวกับสามีผู้นี้ด้วย“เช่นนั้นนายหญิงจะทำอย่างไรต่อไปดีเจ้าคะ ขนาดเพิ่งมาถึงเมืองหลวงไม่นานยังกล้าทำถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นายหญิงไปเข้าเฝ้าไทเฮามาแท้ ๆ พวกเขายังไม่เกรงใจเลยสักนิด”ลู่หลินเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล คนจวนนี้ไม่คิดเกรงกลัวอำนาจของราชวงศ์เลยสักนิด คงคิดว่าการค้าของตัวเองเรืองอำนาจมากสินะ“ข้าคิดว่าจะให้บิดาช่วยเรื่องหย่า จากนั้นข้าจะหายไปเสีย ออกไปใช้ชีวิตคนเดียวเปิดกิจการเลี้ยงตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์อีก”นางเอ่ยความคิดที่ตนวางแผนไว้ แ
ตอนที่ 23ฮูหยินอำมหิต“ฮูหยินน้อยเกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ ให้พวกบ่าวเข้าไปได้หรือไม่!!” เสียงลู่หลิ่งตะโกนมาจากด้านนอก“เข้ามา!!!! แล้วให้คนมาพาคุณชายใหญ่กลับเรือนไปด้วย!!!!!” นางเอ่ยพลางหอบหายใจเพราะความโกรธเมื่อเห็นสภาพของหลงจิวซิ่งสาวใช้ทั้งสามก็รีบเอามือปิดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเองทันที“นายหญิงเจ็บที่ใดหรือไม่เจ้าคะ!!”ลู่หลินรีบเข้ามาดูนาง ก่อนจะตาโตอย่างตกใจอีกครั้ง เมื่อเห็นนางมีเลือดซืมที่มุมปาก พร้อมกับใบหน้าด้านซ้ายเริ่มบวมแดงแล้ว“ไปตามหมอเถอะ” นางบอกสาวใช้สั้น ๆ ก่อนจะเดินไปรอที่ห้องรับรองแขก เพราะหากมีการตามหมอเรื่องก็คงวุ่นวายกว่านี้แน่กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ผ่านมาเกือบสองชั่วยาม หมอมาดูอาการนางแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะเขียนใบสั่งยาแล้วกลับไปส่วนหลงจิวซิ่งนั้นหัวแตก หากเป็นในโลกที่นางจากมาคงได้เย็บไม่ต่ำกว่าสิบเข็มแน่ นอกนั้นก็ปากแตกแล้วก็พกช้ำเล็กน้อยเพราะล้มใส่โต๊ะทานข้าว“ฮูหยินน้อยเจ้าอธิบายให้ข้าฟังทีว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร!” ฮูหยินใหญ่ที่ได้โอกาสจึงเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“ฮึก!! ท่านพี่เคยเล่าเรื่องที่ทะเลาะกับฮูหยินน้อยตอนอยู่เมือ
ตอนที่ 22แตกหักจงเยว่ชิงรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักที่ผลออกมาเป็นเช่นนี้ แต่หากตนขัดอะไรมากไปฮูหยินใหญ่อาจสงสัยเอาได้ จึงต้องปล่อยให้นังฮูหยินน้อยได้หน้าเป็นคนดีไป“นายหญิงปล่อยไปเช่นนี้จะดีหรือเจ้าคะ” มี่มี่สาวใช้คนสนิทเอ่ยถามนายสาว“ทำอย่างไรได้เล่า หากพูดมากเราจะถูกจับได้เอานะสิ ว่าแต่นายท่านบอกจะมาหาข้านี่เหตุใดยังไม่มากัน เดี๋ยวท่านพี่ก็กลับมาก่อนพอดี” จงเยว่ชิงบ่นออกมาเบา ๆ“ข้าก็มาแล้วนี่ไง เจ้าจะใจร้อนไปใยเล่า” เสียงทุ้มพร้อมบุรุษร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาจากประตูหลัง ก่อนจะส่งกล่องไม้บางอย่างให้หญิงสาวสาวใช้ของจงเยว่ชิงเห็นดังนั้นจึงกลับออกไปรอด้านนอก เพื่อเฝ้าต้นทางเพราะเรื่องนี้ไม่สามารถให้ผู้อื่นรู้ได้“วันนี้นายท่านมาช้านะเจ้าคะ ปล่อยให้ข้าทนคิดถึงท่านอยู่ตั้งสองเค่อแหนะ” หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับแสดงท่าทีแงงอนบุรุษผู้เข้ามาใหม่“ข้าขอโทษที่มาช้า เพราะออกไปหาซื้อของขวัญมาให้เจ้าอย่างไรเล่า ลองเปิดดูสิว่าเจ้าชอบหรือไม่”“ท่านซื้อของมาให้ข้าเช่นนี้เดี๋ยวบุตรชายท่านก็สงสัยเอาหรอก หลงจิวซิ่งผู้นั้นหาใช่คนโง่เขลาเมื่อไหร่กัน” นางเอ่ยเช่นนั้นแต่ปากกลับยิ้มกว้างของในกล่องเป็นปิ่นทองระย้าที่ปร
ตอนที่ 21หาเรื่อง“ข้าไปดูร้านที่จะเปิดกิจการในตลาดเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบเสียงราบเรียบ พร้อมกับหยุดลงตรงหน้าเขา ใบหน้าเย็นชาของนางยิ่งทำให้หลงจิวซิ่งโกรธมากกว่าเดิม“เจ้าเป็นสตรีที่ออกเรือนแล้ว กลับจวนเวลานี้มันสมควรแล้วหรือ แถมจะเปิดกิจการแต่ไม่เอ่ยปากบอกสามีเช่นข้าสักคำ.....”“เข้าจวนเถอะเจ้าค่ะ! แล้วที่ท่านยืนต่อว่าข้าหน้าจวนเช่นนี้มันสมควรแล้วหรือ”นางเอ่ยแทรกพร้อมกับมองหน้าเขานิ่ง ก่อนจะเดินเลยเขาเข้าจวนไป แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาเข้าประตูจวนก็ถูกคนขวางไว้เสียก่อน“คารวะฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ กลับมาจากวังหลวงคงเหนื่อยมากเป็นแน่ข้าเตรียมชามาต้อนรับท่านเจ้าค่ะ แล้วที่นั่นงดงามอย่างที่คนเล่าลือกันหรือไม่เจ้าคะ” จงเยว่ชิงที่รอโอกาสรีบเข้ามาขวางทางนางทันที“อนุจงช่างห่วงใยนักแต่นี่มันใช่เวลาหรือ จริงสิเจ้าเป็นเพียงบุตรสาวอนุจะรู้มารยาทได้อย่างไร ไว้ข้าว่างจะจ้างอาจารย์เก่ง ๆ มาสอนมารยาทเจ้าแล้วกันนะ”นางเอ่ยจบก็เดินผ่านไปทันที สองสาวใช้คนใหม่เองก็สำรวมกิริยาจนหลงจิวซิ่งยังไม่ทันสังเกตเห็นว่าฮูหยินตัวเองไม่ได้กลับจวนมาเพียงลำพังนางคิดไว้แล้วว่าวันนี้อย่างไรเขาก็ต้องหาเรื่องนาง เพราะตั้งแต่ที่รู