“นิโคลัส!”
หญิงสาวไม่ทันได้พูดอะไรปากบวมเจ่อก็ถูกประกบปิดไว้ด้วยปากของจอมซาตานร้ายอีกครั้ง คราวนี้เขาจ้วงลิ้นเข้าไปและฉกลึกรุนแรง ปากบางถูกบดขยี้ไม่ปราณีราวกับว่าเขาต้องการลงโทษในความอวดดีของเธอ ภิณไลย์ญาพยายามส่งเสียงแต่ยิ่งขืนตัวเขาก็ยิ่งกดข้อมือของเธอไว้แน่นยิ่งกว่าคีมเหล็ก กระทั่งนิโคลัสเลื่อนใบหน้าออกร่างเล็กจึงผลักเขาออกห่างและลุกพรวดขึ้นพร้อมทั้งขยี้ปากไปมาด้วยฝ่ามือทั้งน้ำตาคลอเบ้า
“นิโคลัส นี่คุณทำบ้าอะไร...คุณจะทำเกินไปแล้วนะ!”
ภิณไลย์ญาบริภาษเขาเสียงแข็ง เธอทั้งเจ็บและอับอายอย่างที่สุด ไม่เคยมีใครจาบจ้วงกับเธอขนาดนี้มาก่อน ร่างเล็กสั่นเทิ้มด้วยโทสะแต่ดูเหมือนยิ่งเธอโกรธจัดมันยิ่งทำให้ร่างสูงที่นั่งนิ่งบนเก้าอี้สะใจ เขาลูบปากตัวเองพลางไหวไหล่
“ถือว่านี่เป็นการมัดจำ เพราะถึงยังไงเสียวันหนึ่งคุณก็ต้องเป็นผู้หญิงของผมอยู่ดี”
บทที่ 3 Incredible crisis บทเรียนของคนอวดดี
“ฉันจะไม่รับข้อเสนอใด ๆ จากคนบ้าอย่างคุณ”
“เอ...หรือว่าไม่พอใจที่โดนจูบฟรีๆ ...อืม...ผมก็ลืมไปนะว่าปกติผู้หญิงอย่างคุณคงไม่แลกตัวเองกับผู้ชายเปล่า ๆ ปลี้ๆ อย่างน้อยมันก็ต้องมีอะไรตอบแทนกลับไปบ้าง”
เขาส่งเสียงหัวเราะในลำคอขณะล้วงหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าเสื้อสูทราคาแพงระยับออกมา มันเป็นสมุดเล่มเล็กบางที่เขาเปิดออกและใช้ปากกาขีดเขียนอะไรบางอย่างลงไปก่อนจะฉีกออกแล้วโยนลงตรงหน้าหญิงสาวที่มองอย่างไม่เข้าใจ
กระทั่งเธอก้มลงหยิบมันขึ้นมาแล้วเพ่งมองผ่านแสงไฟ ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้างเมื่อเห็นว่ามันคือเช็คเงินสดที่เขาใส่ตัวเลขกลม ๆ ไว้หนึ่งล้านดอลล่าห์ มือเรียวบางที่กุมเช็คไว้สั่นระริก หญิงสาวเหลือบมองใบหน้าคร้ามคมใต้เงาแสงไฟมีรอยเหยียดยิ้มหมิ่นแคลน นิโคลัสร้ายกาจยิ่งกว่าจอมซาตาน เธออยากกรีดร้อง อยากข่วนหน้าเขาหรือทำอะไรก็ได้ที่เป็นการตอบโต้ให้ผู้ชายร้ายกาจคนนี้เจ็บปวดที่สุดหากก็ทำได้เพียงขว้างเช็คลงบนพื้นแล้วเชิดหน้าใส่
“คุณบังคับฉันไม่ได้ นิโคลัส ซาเวียร์!”
“ผมทำได้ถ้าผมอยากทำ”
“เพื่ออะไร...ในเมื่อฉันก็ทำทุกอย่างที่คุณต้องการแล้ว ฉันเลิกกับคริสต์อย่างเด็ดขาดแล้วได้ยินหรือเปล่าคะนิโคลัส”
“แต่น้องชายผมยังติดต่อกับคุณอยู่”
เขายืนยันเสียงแข็งและทำให้ภิณไลย์ญาชะงัก นิโคลัสจ้องเธออย่างค้นคว้าและดูเหมือนเขากำลังเดาใจเธอออก หญิงสาวตีบตันเพราะสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงแต่นั่นไม่สำคัญเท่าความตั้งใจมั่นของเธอ ทว่า...เขาจะเชื่อหรือไม่เล่า และเมื่อเห็นหญิงสาวนิ่งไปเขาจึงเอ่ยขึ้นว่า
“อย่าคิดว่าผมไม่รู้ อย่าคิดว่าคนอย่างผมจะโง่เง่าให้ผู้หญิงอย่างคุณมาตลบหลังได้ จะบอกให้ว่าผมไม่เคยแน่ใจและไม่ไว้วางใจอะไรทั้งนั้นถ้ามันเกี่ยวกับคุณ...หึ...คริสต์กำลังจะแต่งงานแต่เขายังสลัดคุณออกจากสมองโง่ ๆ ของตัวเองไม่ได้ แต่ผมรู้ว่าควรต้องจัดการยังไง”
“คุณก็เลยคิดจะซื้อฉัน...อย่างนั้นสินะคะ”
เขาไหวไหล่ “สำหรับผมแล้วเงินซื้อได้ทุกอย่าง”
“ถ้าอย่างนั้นคุณน่าจะเก็บเงินของคุณไว้หาหมอโรคจิตเพราะเรื่องที่คุณกำลังคิดเป็นเรื่องที่คนดี ๆ เขาไม่ทำ”
“ถ้าคนรวยใช้เงินซื้อของที่อยากซื้อเป็นโรคจิต แล้วไอ้พวกที่ไม่มีเงินซื้อของที่ตัวเองอยากได้แต่พยายามดิ้นรนอยากจะมีเหมือนคนอื่นจนต้องเอาตัวเข้าแลกนี่เรียกว่าอะไร”
“นิโคลัส!”
“แต่โดยปกติคุณไม่ได้ยี่หระกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ มิสภิณไลย์ญา หรือว่าไอ้ตัวเลขที่ผมเสนอให้มันน้อยเกินไป ถ้าอยากได้มากกว่านั้นผมก็มีข้อเสนออย่างอื่นให้อีกนับไม่ถ้วน”
“เก็บข้อเสนอบ้า ๆ ของคุณไว้เถอะค่ะ! ถ้าคิดจะเอาเงินฟาดหัวให้ฉันไปจากชีวิตของคริสต์ เก็บเงินของคุณไว้ทำอย่างอื่นเถอะนะคะ เพราะมันไม่มีค่ากับฉันแม้แต่นิดเดียว”
นิโคลัสหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อของเขาด้วยมือข้างหนึ่ง มันเป็นกล่องกำมะหยี่สีชมพูเล็ก ๆ และเมื่อเขาเปิดมันออกก็ทำให้เป็นภิณไลย์ญาดวงตาเบิกกว้างเพราะภายในนั้นเป็นแหวนแพลตตินัมประดับเพชรแม้เม็ดไม่ใหญ่แต่ประกายของมันก็ล้อเล่นกับแสงแดดอุ่นที่สาดส่องลงมาอาบไล้ เขาบรรจงหยิบมันและสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของภิณไลย์ญาก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปประทับริมฝีปากของเขาบนเรือนแหวนที่อยู่บนนิ้วของเธอหญิงสาวมองดูราวกับไม่อยากเชื่อสายตา นิโคลัสเงยหน้าขึ้นและเอ่ยว่า“คริสเคยบอกผมเหมือนกันว่าคนอย่างผมคิดถึงแต่ตัวเองและเห็นค่าของเงินเป็นใหญ่ ผมไม่เคยคิดถึงใคร แต่ตอนนี้ผมอยากพิสูจน์ให้น้องชายของผมได้เห็นว่าผมได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาเคยว่าเอาไว้ ผมอาจจะเลวร้ายกับคุณมาก่อนแต่คนเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้นี่ไม่ใช่เหรอ คุณอาจไม่ต้องอภัยให้ผมวันนี้ มันอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี ว่าแต่คุณจะยินยอมให้โอกาสนั้นกับผมไหม”“บอกแล้วไงคะว่าฉันต่ำต้อยมากเกินไป คนที่ต้องขอร้องโอกาสคุณเป็นฉันมากกว่าที่จะร้องขอจากคุณ”“ผมจะไม่ให้คุณร้องขออะไร แต่เป็นผมที่จะต้องขอร้องคุณ”นิโคลัสทรุดตัวลงนั่
“แต่ฉันยังเป็นหนี้คุณนะคะนิค ฉันเป็นหนี้คุณตั้ง 3 ล้านดอลลาร์ ฉันจะพยายามหามันมาใช้คุณ”“ลืมเรื่องนั้นไปเถอะนะ รู้หรือเปล่าว่าจริง ๆ ผมลืมมันไปตั้งนานแล้ว”“ฉันรู้ค่ะนิคว่าเงินสำคัญสำหรับคุณเสมอและไม่ใช่สิ่งที่คุณจะลืมมันได้ง่าย ๆ”“อยากรู้ไหมว่าผมลืมมันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมลืมมันไปตั้งแต่ที่คุณเป็นของผมครั้งแรก”เธอเม้มปากแน่นน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว“คุณคงอยากให้ฉันดีใจ คุณคงแค่อยากจะปลอบใจฉัน”“เปล่าเลย...นี่เป็นคำสารภาพแบบโง่ ๆ ของคนที่ไม่เคยมีและไม่เคยเห็นค่าในความรักอย่างผม แม้แต่จะพูดคำนี้ก็ยังไม่เคย ผมได้แต่ภาวนาขอให้คุณเข้าใจ”“ฉันเข้าใจว่าคุณไม่เคยรักใครไม่เคยจริงจัง”“ผมอาจจะไม่เคยรักใครอย่างที่คุณว่าแต่ผมไม่เคยหลอกผู้หญิงเล่น ๆ และคุณก็เป็นคนแรกที่ทำให้ผมได้เห็นคุณค่าของความรักจากที่ผมรู้จักแต่งการใช้เงิน รู้ไหมว่าตอนที่คริสต์อยากจะใช้หนี้แทนคุณมันทำให้ผมโกรธมาก ผมรู้ว่าผมกำลังหึงคุณและคิดบ้าๆ ว่าคริสมันคงอยากได้คุณกลับคืนไป ผมลืมไปว่าสัมพันธภาพอันยิ่งใหญ่ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงมันไม่ได้มีแค่เรื่องนั้น แต่มันหมายถึงความรักและความหวังดี คริสหวังดีกับคุณมากกว่าที่จะรู้สึกรั
“ผมยอมรับนะว่าตอนแรกตกใจมากที่รู้เรื่องระหว่างคุณกับนิคแต่มันก็ทำให้ผมมาคิดได้ในหลาย ๆ เรื่องว่าที่ผ่านมาหลาย ๆ เหตุการณ์และเรื่องแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของผมมันก็ล้วนเกิดขึ้นมาจากตัวผมเองและคนที่เข้ามาคอยจัดการให้ผมทุกสิ่งทุกอย่างก็คือพี่ชายของผม บางทีถ้าเราสองคนยังรักกันมันก็อาจจะทำให้ผมไม่ได้คิดถึงสิ่งสวยงามที่สุดที่ผมทอดทิ้งไปนานนั่นก็คือโซอี้ ถึงแม้ว่าผมจะต้องเลิกกับลาลิสาแต่มันก็ทำให้ผมคิดได้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความรับผิดชอบและมันทำให้ได้มองเห็นตัวเอง มองเห็นความจริงว่าถ้าหากผมยังไม่กล้าคิดและตัดสินใจคงจะไม่มีวันค้นพบว่าต้องจัดการชีวิตตัวเองยังไงบ้างการไปอยู่ฝรั่งเศสมันเกิดจากการเลือกของผมเองและนิคก็ไม่ปฏิเสธที่จะให้โซอี้ไปอยู่กับผมเพราะอย่างน้อยที่สุดเขาก็ยังมีคุณกับชีวิตเล็ก ๆ”“ฉันกับเขาไม่คู่ควรกัน เหมือนที่เขามองฉันกับคุณว่าไม่คู่ควร ฉันต่ำต้อยเหลือเกินค่ะคริส ฉันคิดว่า...”“ว่าไงล่ะคริส...จะไปกันแล้วเหรอ?”เสียงทุ้มห้าวที่ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของคริสและภิณไลย์ญาแต่โซอี้กลับกระโดดลงจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเจ้าของเสียงทรงอำนาจนั้น นิโคลัสช้อนร่างเด็กน้อยขึ้นอุ้มและจูบแ
“คุณอาคริสจะพาหนูไปฝรั่งเศสค่ะ”โซอี้เป็นฝ่ายตอบขณะที่นั่งอยู่บนตักของคริส เขาโอบกอดหนูน้อยเอาไว้และจูบแก้มยุ้ยเบาๆแสดงความรักความห่วงใยพร้อมกันนั้นก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลา“ผมจะมารับโซอี้ไปฝรั่งเศสวันนี้ นี่ก็ให้คนของผมจัดกระเป๋ากับของใช้เรียบร้อยแล้ว พวกเขารอผมอยู่ที่สนามบิน”กล่าวจบเขาก็จับเด็กหญิงให้เลื่อนลงจากตักและนั่งบนโซฟา เขาลุกขึ้นและก้าวเข้าไปหาภิณไลย์ญาซึ่งตอนนี้เธออยู่ในชุดนอนสวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าไหมสีละมุนตา คริสหยุดยืนตรงหน้าเธอ รอยยิ้มจางผุดขึ้นบนมุมปากได้รูป“เป็นยังไงบ้าง คุณสบายดีแล้วใช่ไหม?”“ฉันสบายดีค่ะ ว่าแต่คุณเถอะค่ะ คุณจะไปฝรั่งเศสแล้วจะพาโซอี้ไปด้วยเหรอคะ”“ใช่...ผมจะไปอยู่ที่ฝรั่งเศสและรับตำแหน่ง CEO ของบริษัทในเครือของซาเวียร์กรุ๊ปที่นั่น”“คุณลาริสาไปด้วยใช่ไหมคะ พวกคุณเข้าใจกันแล้วใช่ไหมคะ”เขาส่ายหน้าและตอบว่า “ผมหย่ากับลาลิสาแล้ว เราเพิ่งหย่ากันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง”“ว่ายังไงนะคะ! คุณหย่ากับลาริสา...คุณพระ...เธอคงโกรธเรื่องของฉันอย่างนั้นสินะคะ ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะคริส ฉันไม่ตั้งใจที่จะทำให้ครอบครัวของคุณต้องแตกหักกันอย่างนี้เลย”เขาส่ายหน้าอีก
“คุณน้าเนเน่นอนพักผ่อนก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูจะเช็ดตัวให้คุณน้านะคะ”โซอี้กระวีกระวาดทำเหมือนผู้ใหญ่ไม่มีผิด เด็กหญิงวิ่งออกไปจากห้องนั้นนิโคลัสจึงหันมาทางภิณไลย์ญาที่นอนบนเตียงโดยมีเขานั่งอยู่ข้าง ๆ“ผมรู้ว่าคุณไม่สบายและต้องการพักผ่อน”“ใช่...ฉันต้องการพักผ่อนแต่เป็นบ้านของฉันไม่ใช่ที่นี่ ฉันอยากกลับบ้าน ถ้าคุณไม่ว่างไปส่งฉันก็เรียกคนขับรถของคุณให้พาฉันไปส่งก็ได้ค่ะนิค”“วันนี้คนของผมไม่มีใครว่างหรอกนะ”“ฉันไม่เชื่อ คุณโกหก คุณอยากจะกักตัวฉันไว้ที่นี่ หรือว่าถ้าคุณอยากจะให้ฉันอยู่ที่นี่ก็ให้ฉันกลับไปที่บ้านก่อนแล้วฉันจะบอกแม่ฉันว่าฉันต้องออกมาทำงานท่านจะได้เข้าใจจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”“ท่านไม่เป็นห่วงคุณหรอกนะ ท่านรู้ว่าคุณอยู่กับโซอี้และผมก็อยากจะขอร้องให้คุณอยู่กับแกที่นี่คืนนี้”“ด้วยเหตุผลอะไรกันคะ ได้โปรดเถอะค่ะ คุณไม่ควรจะใช้คำว่าขอร้องกับฉันเพราะนี่เป็นการบังคับ”“OK… ถ้าคุณอยากจะกลับก็ได้แต่โซอี้จะรู้สึกยังไงในเมื่อแกคิดว่าคุณไม่สบายและแกก็ตั้งใจที่จะดูแลคุณ ถ้าคุณกลับไปมันก็เหมือนเป็นการทำร้ายจิตใจแก”“คุณกำลังสร้างเงื่อนไขและกำลังกดดันฉันอยู่นะคะ”“ผมพูดความจริงต่างหากและมันก
“ คุณคิดแบบนั้นเหรอเนเน่”“ ใช่ค่ะ...และฉันก็คิดถูกใช่ไหมคะ ฉันพูดถูกทุกอย่าง ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ คุณจะไม่สูญเสียผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้นเพราะฉันจะไม่ผิดสัญญาเรื่องที่จะหาเงินมาชดใช้ให้คุณ”“ผมรู้ว่าคุณจะไม่ผิดสัญญาแต่คุณก็ผิดคำพูดกับผม ““แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันทำยังไงคะนิค ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไปแล้ว”ภิณไลย์ญาเผลอร้องไห้ออกมาและทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องน้ำ เธอกอดเข่าแล้วร้องไห้อย่างคนสิ้นหวัง ตอนนี้หัวใจของเธอแหลกสลายทั้งจากความผิดหวังและร่างกายที่ยิ่งนับวันยิ่งอ่อนแอ เธอดูเหมือนคนสิ้นไร้ไม้ตอกและถึงทางตันของชีวิต นิโคลัสทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ จ้องมองร่างเล็กที่ก้มหน้าร้องไห้เหมือนแทบขาดใจแต่ภิณไลย์ญาก็ไม่ส่งเสียงออกมาดัง ๆ เธอกดเก็บตัวเองไว้เพราะกลัวโซอี้จะได้ยินแต่ในเวลานี้เธอช่างดูอ่อนแอและเป็นภาพที่ฉุดรั้งความรู้สึกของนิโคลัสให้ยิ่งดำดิ่ง เขารู้ตัวดีว่าทำให้เธอเจ็บช้ำอย่างสาหัสหากทว่าคนที่เจ็บปวดยิ่งกว่ากลับเป็นเขาเสียเอง ขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือเพื่อลูบเรือนผมของภิณไลย์ญาที่นั่งก้มหน้ากอดเข่าร้องไห้นั้นก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นข้างหลั