Share

บทที่ 356

Author: จิ้งซิง
เป่ยเฉินหยวน “ใช่ธิดาศักดิ์สิทธิ์!”

“ธิดาศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ด้วย!”

“ดีเหลือเกิน ใต้เท้าหนิงหย่วนโหวเชิญธิดาศักดิ์สิทธิ์มาได้จริงๆ !”

ชาวบ้านเหล่านั้นต่างพากันตื่นเต้นดีใจในทันที

“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ พวกเราติดโรคระบาดแล้ว พวกเรายังจะรอดหรือไม่?”

มีคนอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ถาม

“ได้”

เวินซื่อกวาดสายตามองพวกเขาทุกคน นางกล่าวอย่างจริงจัง “โรคระบาดครั้งนี้ไม่น่ากลัว เพียงแค่พวกเจ้าปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ ร่วมมือรักษาโรคอย่างจริงจัง ก็จะต้องรอดได้อย่างแน่นอน”

“ขอบคุณธิดาศักดิ์สิทธิ์!”

“ขอบคุณธิดาศักดิ์สิทธิ์!”

ในชั่วพริบตา ชาวบ้านในเขตโรคระบาดต่างพากันคุกเข่าลงกับพื้น

ทำให้เวินซื่อตกใจจนลุกขึ้นยืนทันที นางต้องการจะหลีกเลี่ยง

แต่ในเวลานี้ เป่ยเฉินหยวนที่อยู่ด้านหลังนางกลับกดตัวนางไว้

“รับไว้ นี่คือศรัทธาที่เป็นของเจ้า”

เวินซื่อชะงัก นางหันกลับไปมองชาวบ้านเหล่านั้นครู่หนึ่ง มองดูสีหน้ายินดีบนใบหน้าของพวกเขา และความหวังที่จุดประกายขึ้นใหม่ในดวงตา นางเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็สวดมนต์ต่อ

น้ำเสียงอันบริสุทธิ์ชำระล้างเขตโรคระบาดแห่งแรกจนหมดสิ้น

ตั้งแต่ชาวบ้านภายในเขตโรคระบาด ไปจนถึงกองทหารรัก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 994

    เวินฉางอวิ้นคิดทำอะไรกันแน่?หลานซื่อหันกลับไปมองตามหลังเวินฉางอวิ้นที่ก้าวเข้าไปในอารามสุ่ยเยว่ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อยจากนั้นนางก็คิดในใจพลางเรียกเสียงหนึ่ง...[อวิ่นซิง ให้พวกแมลงพิษทั้งหมดคอยจับตามองอย่างลับ ๆ หากมีการเคลื่อนไหว รีบแจ้งให้ข้ารู้ทันที][รับทราบ นายหญิง]ตอนนี้ทุกคนในอารามสุ่ยเยว่ล้วนถอนตัวออกมาหมดแล้ว หลานซื่อก็ไม่กังวลว่าจะมีใครได้รับอันตรายอยู่ในนั้นส่วนเจ้าหน้าที่สอบสวนที่ส่งมาทั้งหมดนั้นกระทำการอยู่ในสายตาของนางแมลงพิษของนางจะจับตาดูทุกซอกทุกมุมหากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ นางก็จะรู้และหยุดยั้งได้ทันทีส่วนภายในอารามสุ่ยเยว่ คนที่เวินเฉวียนเซิ่งอยากตามหาก็แค่ชุยเหลียงเฟิงเท่านั้นเจ้าตัวไม่อยู่ คนที่เขาส่งมาก็หาไม่เจออยากทำอย่างอื่นก็หนีไม่พ้นสายตาของนางแต่ถึงแม้นางจะเตรียมการไว้รอบคอบเพียงนี้แล้ว แต่นางก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดีหลานซื่อรู้สึกว่าปัญหานี้เกิดจากเวินฉางอวิ้นนางคิดดูแล้ว ทิ้งเสี่ยวหานไว้ข้างนอกเพื่อคอยจับตาดูคนอื่น ๆ ต่อไป จากนั้นตัวเองก็ก้าวเท้าเดินกลับเข้าไปในอารามเดินไปได้ไม่นาน นางก็เห็นเวินฉางอวิ้นที่กำลังยืนอยู่หน้าวิหารได้ยินเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 993

    เรื่องบุตรชายนอกสมรสทำให้เวินเฉวียนเซิ่งต้องเสียผู้ช่วยไปสองคน ได้ศัตรูที่แข็งแกร่งเพิ่มมาอีกสองคนแต่ขุนนางที่ผูกติดกับเขาอย่างตัดไม่ขาดก็ยังคงมีอยู่ไม่น้อยเช่นเดิมแม้บารมีของเขาจะเสื่อมถอย แต่คนเหล่านี้ก็จำต้องยืนอยู่เคียงข้างเขาดังนั้นในชั่วขณะหนึ่ง ภายในท้องพระโรงจึงแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ถกเถียงกันอย่างไม่ลดละ เกือบถึงขั้นมีคนลงไม้ลงมือกันฮ่องเต้ยิ่งชราก็ยิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวด เรื่องนี้แท้จริงแล้วเขาก็ไม่เห็นด้วยกับการตรวจค้นอารามสุ่ยเยว่ถ้าจะให้เขาพูด หากมีเบาะแสจริง ก็สามารถตรวจค้นเป็นการส่วนตัวได้อย่างไรเสียเขาก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวหลานซื่ออยู่พอสมควรแต่บัดนี้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตเช่นนี้ ผู้คนทั้งเมืองหลวงต่างก็รู้กันทั่วแล้ว จะให้ตรวจค้นเป็นการส่วนตัวอีกย่อมเป็นไปไม่ได้แต่หากกระทำอย่างเปิดเผย ส่งคนไปตรวจค้นโดยตรง อย่างไรก็ต้องให้บรรดาซือไท่ทั้งหลายในอารามสุ่ยเยว่เข้าคุกหลวงสักครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หากเป็นสถานที่ทั่วไปก็ไม่เป็นไร แต่อารามสุ่ยเยว่นั้นเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของหลานซื่อยิ่งกว่านั้นหลานซื่อยังเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งแห่งราชวงศ์ต้าหมิงที่เขาแต่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 992

    น้องห้า, อันตราย!ไม่ ๆ ๆ!น้องห้าต้องไม่เป็นอะไร น้องห้ามีคนมากมายคอยคุ้มกันอยู่รอบตัว…ช้าก่อน...“ไส้ศึกต่างเผ่าผู้นั้นคือใคร? แล้วท่านรู้ได้อย่างไร?”“ข้าบอกเจ้าได้เพียงว่า ไส้ศึกต่างเผ่าผู้นั้นอยู่ในอารามสุ่ยเยว่ที่ภูเขาหนาน ส่วนจะเป็นใครนั้น ถึงข้าบอกไปเจ้าก็คงไม่เชื่อ สู้เจ้าลองไปสืบดูเองไม่ดีกว่าหรือ?”หลังจากสิ้นเสียงพูดของเวินเฉวียนเซิ่ง เสียงโซ่เหล็กก็ดังกรุ๊งกริ๊งกรงเหล็กถูกยกขึ้นมาจากน้ำ และเมื่อพ้นจากน้ำ ทางด้านหลังเวินเฉวียนเซิ่งก็มีคนนำอาหารที่มีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเข้ามาหลายถัง ทันทีที่งูมงกุฎแดงโผล่พ้นผิวน้ำ อาหารที่มีกลิ่นคาวเลือดก็ถูกเทลงไปในน้ำทีละถังงูมงกุฎแดงจำนวนนับไม่ถ้วนต่างแย่งกันพุ่งเข้าใส่ แย่งชิงอาหารที่มีกลิ่นคาวเลือดเหล่านั้นอย่างบ้าคลั่ง“ว่าอย่างไร จะออกไปหรือเปล่า?”เวินเฉวียนเซิ่งเปิดประตูกรงเหล็ก มองบุตรชายคนโตที่อยู่ในสภาพน่าเวทนาข้างใน พลางหรี่ตาทั้งสองถามขึ้นเวินฉางอวิ้นรู้ดีว่าทุกย่างก้าวของบิดาของเขานั้นไม่บริสุทธิ์ใจแน่นอนแต่เขาไม่มีทางเลือกเขาต้องออกไป!ต้องออกไปเท่านั้น เขาถึงจะรู้ได้ทุกอย่าง รู้ว่าสิ่งที่บิดาบอกเขาเหล่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 991

    “ท่านพ่อ ทำไมท่านต้องมาเสี้ยมให้บาดหมางกันด้วย? ลูกได้รับการอบรมสั่งสอนจากท่านมาหลายปี เรื่องอื่นไม่ขอพูดถึง อย่างน้อยก็ยังแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้”เวินฉางอวิ้นเงยหน้ามองเขา แสร้งพูดเย้าแหย่ด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม “ท่านถามข้าว่าแค้นหรือไม่? แน่นอนว่าลูกแค้น เพราะการที่ลูกถูกขังให้ทนทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่ มิใช่คำสั่งของท่านหรอกหรือ?”ผู้ที่ออกคำสั่งด้วยปากตัวเอง ยังมากล่าวพาดพิงคนบริสุทธิ์อยู่ที่นี่น่าขันจริง ๆมาถึงจุดนี้แล้ว เขามองทะลุโฉมหน้าที่แท้จริงของบิดาคนนี้ของพวกเขามานานแล้วใจโหดมือเหี้ยม ไม่เลือกวิธีการ นี่คือคำจำกัดความของเขาส่วนความไร้ยางอายนั้น ยิ่งเป็นสันดานดิบที่เขาซ่อนเร้นมาหลายปีทุกครั้งที่ตนรู้สึกว่าบิดาทำเกินไปจริง ๆ เขาก็สามารถทำเรื่องที่เกินขอบเขตและไร้ยางอายยิ่งกว่านั้นได้อีกและด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เวินฉางอวิ้นยิ่งผิดหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดหวัง“พูดไม่ผิด! มันเป็นคำสั่งของข้าจริง ๆ แต่นี่ก็เป็นเพราะเจ้าสมควรถูกลงโทษแล้ว!”เวินเฉวียนเซิ่งยิ้มเยาะคราหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าถูกลงโทษแล้ว เรื่องนี้ข้าก็จะไม่เอาความอีก”เว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 990

    “?”เวินฉางอวิ้นตกตะลึงไปชั่วขณะยังไม่ทันที่เขาจะได้ทันตั้งตัว ฟ่านจุ้ยก็เอ่ยขึ้นอย่างหมดคำพูดจะกล่าว “ท่าทางสำนึกผิดบำเพ็ญตนของท่านนี่ช่างเหมาะกับการออกบวชยิ่งกว่าพี่หญิงเสียอีก เอาละๆ ข้าจะช่วยท่านออกไปเดี๋ยวนี้ ให้ท่านได้เลือกสถานที่ออกบวชสักแห่ง ข้าว่าวัดจินหนานทางฝั่งพี่หญิงก็ดีนะ ท่านไปเถอะ ไปแล้วจะได้อยู่เป็นเพื่อนกับพี่หญิงพอดี”“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้...”เวินฉางอวิ้นประหลาดใจ อยากอธิบายว่าตนเองไม่ได้อยากออกบวช แต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย เขาก็เศร้าสร้อยลงทันที “ไม่ได้ วัดจินหนานไม่ได้ น้องห้าคงไม่อยากเห็นหน้าข้า”ฟ่านจุ้ยยิ่งหมดคำพูดเข้าไปใหญ่ที่แท้ท่านก็อยากจะออกบวชจริงๆ สินะ?หลังจากพูดจบ เวินฉางอวิ้นที่เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองยิ่งพูดยิ่งไม่ถูกต้อง ก็ส่ายหน้า “เฮ้อ ช่างเถอะๆ อย่าพูดเรื่องเหล่านั้นเลย เจ้ารีบออกจากที่นี่ไปเถอะ เจ้าช่วยข้าไม่ได้หรอก”ฟ่านจุ้ยไม่อยากจะสนใจเขา เพียงแค่คว้าโซ่เหล็กบนกรงเหล็กไว้ แล้วกระโดดกลับขึ้นไปบนแท่นหินอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ดึงโซ่เหล็กแล้วออกแรงลากพร้อมกับเสียงโซ่เหล็ก “ครืดคราด” และเสียงน้ำ กรงเหล็กที่แขวนอยู่กลางน้ำก็ถูกดึงขึ้นมาทันท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 989

    ใครกัน?!เวินฉางอวิ้นพยายามฝืนลืมตาขึ้น แล้วเงยหน้ามองขึ้นไปก็เห็นเงาดำร่างหนึ่งเกาะอยู่บนกรงเหล็กเหนือศีรษะของเขา ดวงตาทั้งสองข้างราวกับกำลังส่องประกาย จ้องมองมาที่เขาเขม็งราวกับแมวที่ซ่อนอยู่ในความมืดเวินฉางอวิ้นยังไม่ทันได้ตั้งตัว นึกว่าตัวเองเห็นภาพหลอนไป จึงตกตะลึงอยู่นาน จนกระทั่งฟ่านจุ้ยเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง“นี่ เหตุใดไม่พูดล่ะ? หรือว่าพี่ใหญ่ท่านถูกตัดลิ้นไปแล้ว?”ไม่รอให้เวินฉางอวิ้นได้ทันตั้งตัว มือข้างหนึ่งก็ยื่นลงมาจากด้านบนจนถึงตรงหน้าเขา จากนั้นบีบคางของเขาไว้“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน...”ในตอนที่ฟ่านจุ้ยเกือบจะแยงนิ้วเข้าไปในปากของเขาเพื่อตรวจสอบ เวินฉางอวิ้นก็พลันได้สติกลับคืนมา รีบพูดเพื่อห้ามเขาไว้“ที่แท้ก็พูดได้นี่นา แล้วเมื่อครู่พี่ใหญ่ท่านมัวตะลึงอะไรอยู่?”ฟ่านจุ้ยจึงค่อยดึงมือกลับ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจเล็กน้อยเวินฉางอวิ้นอธิบายอย่างอ่อนแรง “แค่...แค่ยังตั้งตัวไม่ทัน เจ้า...เจ้าคงจะเป็นคนที่น้องห้าพาตัวกลับมา...”“ท่านจะเรียกข้าว่าฟ่านจุ้ยก็ได้ หรือจะเรียกว่าเวินไป๋จื่อก็ได้ ชื่อแรกคนอื่นตั้งให้ ส่วนชื่อหลังบิดาผู้โง่เง่าเป็นคนตั้งให้ น่าเสียดายท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status