พิศลดานอนอ่านหนังสือนิยายที่ชื่นชอบอยู่บนเตียงนอนภายในคอนโดหรู ที่ทางบ้านลงทุนซื้อให้เธอได้พักอาศัย โดยเน้นความปลอดภัยและสะดวกสบายในการเดินทางไปเรียนเป็นหลัก ตอนแรกเธอก็ไม่ยอม เพราะเห็นว่ามันไม่จำเป็น เช่าเขาอยู่ก็ได้ และเธอก็เป็นเพียงแค่เด็กนักศึกษาเท่านั้น แต่พ่อแม่และพี่ชายไม่ยอม เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวมาอยู่ไกลบ้านเลยอยากให้อยู่ในสถานที่ที่พวกท่านเห็นชอบ ดังนั้นสามเสียงจึงชนะเสียงเดียวอย่างเธอขาดลอย
เสียงการแจ้งเตือนไลน์ดังติดต่อกันถี่ๆ ทำให้พิศลดาละสายตาจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ แล้วเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ตรงโต๊ะข้างเตียงมาเปิดดูข้อความแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อรู้ว่าใครที่บ้าระห่ำส่งข้อความมาให้เธอมากมายก็ขมวดคิ้วมุ่น เปิดไล่ดูแต่ละข้อความที่ถูกส่งมาจากมาร์ติน ซึ่งเธอมั่นใจว่าไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนตัวของเธอกับเขาไปอย่างแน่นอน แล้วแต่ละข้อความก็ชวนขนลุก และน่าตบทั้งนั้น ไม่รู้เป็นบ้าอะไรถึงพิมพ์แบบนี้
“หนูน้อยทำอะไรอยู่เอ่ย”
“คิดถึงจังหนูจัง”
“คิดถึงพี่ไหม”
“ทานข้าวรึยังครับ”
“วันนี้มีเรียนรึป่าว”
“พี่อยากเจอหนูจัง”
“ตอบพี่หน่อยนะคนสวย”
“อยากจูบจัง”
“อยากกอดด้วย”
“ออกมาเจอกันหน่อยไหม”
“ถ้าให้เดาตอนนี้คงกำลังด่าพี่อยู่ในใจแน่เลย”
“ตอบหน่อยนะนะนะ”
“ถ้าไม่ตอบจะไปดักฉุดเดี๋ยวนี้แหละ!!”
“ไม่ได้ขู่นะจะทำจริงๆ”
“แล้วอย่ามาหาว่าพี่ใจร้ายกับหนูนะ”
“พี่เริ่มมีน้ำโหแล้วนะ”
“จะหมดความอดทนจริงๆ แล้วนะ”
“คนบ้าอะไรห่ามสิ้นดี” พิศลดาพึมพำและชั่งใจว่าจะตอบกลับหรือไม่ ทางฝั่งมาร์ตินก็นั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ในมืออย่างใจจดใจจ่อ มันขึ้นว่าอ่านแล้วทำไมยังไม่ตอบกลับมาสักทีหรือคิดว่าเขาแค่ขู่ไปงั้นเลยไม่ยอมตอบกลับมา แล้วความคิดก็ต้องสะดุดลงเมื่อประตูห้องทำงานถูกเคาะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญ” มาร์ตินวางโทรศัพท์ลงเมื่อเห็นเลขาเปิดประตูเข้ามา
“ขออนุญาตครับคุณมาร์ติน คุณริสามาขอเข้าพบครับ แต่ผมก็บอกเธอไปแล้วนะครับว่าคุณมาร์ตินไม่ว่างพบแต่เธอก็ยืนยันที่จะพบคุณให้ได้” เลขาหนุ่มหน้าตี๋ รูปร่างสูงโปร่ง เอ่ยรายงานเจ้านาย
“เฮ้อ! แล้วตอนนี้เธออยู่ไหนสุธีร์” มาร์ตินถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“ด้านนอกครับจะให้เชิญเธอเข้ามาเลยไหมครับ” เมื่อมาร์ตินพยักหน้าเลขาหมุนก็เดินไปเปิดประตูให้เธอเข้ามา
นางแบบสาวเดินเข้ามาอย่างมาดมั่น ใบหน้าสวยเฉี่ยวแต่งแต้มเครื่องสำอางมาอย่างบรรจง งดงาม ร่างแบบบางสูงโปร่งสวมใส่เดรสรัดรูปสีดำเน้นหน้าอกหน้าใจที่แทบจะล้นทะลักออกมานอกผ้า ขาเรียวยาวสวมใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงแปร๊ด เดินตรงมานั่งตักมาร์ติน
“มาร์ตินขาริสาคิดถึงคุณจังเลยค่ะ” นางแบบสาวเอาแขนเรียวคล้องคอมาร์ตินออดอ้อนเสียงหวาน
“ปล่อยริสา ไปนั่งที่เก้าอี้ดีๆ หรือไม่มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น” มาร์ตินปลดแขนเรียวของนางแบบสาวออกแล้วดันร่างบางออกห่างแล้วตัวเขาก็ลุกขึ้นยืน
“โธ่! มาร์ตินขาก็ริสาคิดถึงคุณนิคะ” นางแบบสาวจะเดินเข้ามากอดมาร์ตินแต่เขารู้ทัน
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ต้องมาใกล้ผม แล้วนี่คุณมาที่นี่ทำไม ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาวุ่นวายที่นี่ กลับไปซะริสา ผมไม่มีเวลาว่างมากหรอกนะ” มาร์ตินยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง จ้องหน้าสวยที่เขาคิดว่าสวยสู้หนูน้อยของเขาไม่ได้เลยสักนิด ขนาดน้องหนูของเขาไม่ได้แต่งหน้าอะไรมากมายยังสวยขนาดนั้น ผิดกับริสาที่แต่งหน้าหนา ถ้าล้างเครื่องสำอางออกมาไม่รู้จะสวยแบบนี้รึเปล่า เมื่อก่อนเขาหลงคิดว่าริสาสวยได้ยังไง
“ทำไมคุณพูดกับริสาแบบนี้ล่ะคะ” น้ำเสียงเง้างอดของนางแบบสาวสร้างความรำคาญให้กับมาร์ตินไม่น้อย
“กลับไปหาเสี่ยของคุณดีกว่า ถ้ายังไม่อยากเดือดร้อน” มาร์ตินเหยียดยิ้ม เขาไม่ได้โง่ถึงขนาดไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
“คุณพูดอะไรคะ ริสาไม่เข้าใจ” นางแบบสาวหน้าซีดลงเมื่อคิดว่าความลับของเธอมาร์ตินได้ล่วงรู้แล้ว
“คุณรู้อยู่แก่ใจริสา ต่อไปนี้ก็เลิกมาวุ่นวายกับผมได้แล้ว” มาร์ตินนั่งลงที่เก้าอี้ทำงานตามเดิมและเรียกสุธีร์ให้เข้ามาในห้องทำงาน “ลีโอเข้ามาพาริสาออกไปที”
“เชิญครับคุณริสา” สุธีร์เชิญนางแบบสาวออกไปนอกห้อง แต่เธอยังยืนเฉยจนเขาต้องจับแขนแล้วลากออกไป
“มาร์ตินขาริสารักคุณนะคะ” นางแบบสาวร้องบอกมาร์ตินพยายามจะสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม ทว่าก็สู้แรงของสุธีร์ไม่ไหว
หลังจากสุธีร์และริสาได้ออกไปแล้ว มาร์ตินก็หยิบโทรศัพท์มาดูใหม่ แต่ก็ไม่มีข้อความที่เขาเฝ้ารอคอย จนกระทั่งความอดทนเขาสิ้นสุดลงก็เดินลิ่วออกไปด้วยหน้าตาบึ้งตึง
“ลีโอแกเช็กแน่แล้วใช่ไหมว่าหนูน้อยของฉันไม่มีเรียน และตอนนี้ก็อยู่ที่คอนโดน่ะ” ตอนนี้มาร์ตินกำลังเดินทางไปหาพิศลดาที่คอนโดของเธอบอกแล้วว่าเขาไม่ได้ขู่อยากจะรู้จริงๆ ว่าเมื่อเห็นหน้าของเขาน้องหนูจะทำหน้ายังไง
“ผมโทรเช็กที่คอนโดของคุณใบเฟิร์นแล้วครับว่าเธออยู่ที่ห้อง ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย” ลีโอลูกน้องคนสนิทของมาร์ตินมองกระจกหลังลอบมองหน้าเจ้านายที่ทำหน้าบึ้งตึงตั้งแต่ออกจากบริษัท และที่เขารู้ว่าพิศลดาอยู่ที่คอนโดก็เพราะว่าเขาได้โทรไปสอบถามข้อมูลจากประชาสัมพันธ์ที่เขาได้จ้างให้เป็นหูเป็นตาและคอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับพิศลดาให้เรียบร้อยแล้ว
“อือ”
“เอ่อแล้วคุณมาร์ตินได้สมัครเฟซบุ๊กกับอินสตราแกรมยังครับ” เขาอุตส่าห์หามาให้หวังว่าเจ้านายจะไม่ทำให้เขาผิดหวังนะ
“สมัครแล้วแกนี่ถามมากจังวะ” เขาสมัครตั้งแต่วันที่ได้อ่านข้อมูลของเธอนั่นแหละแล้วตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันเรียบร้อยแล้วด้วยแต่เขาไม่ได้ใช้รูปของตัวเองหรอกแต่ใช้เป็นรูปแมวน่ารักๆ แทนกลัวว่าถ้าเป็นรูปตัวเองน้องหนูจะไม่รับ และก็ส่องดูความเคลื่อนไหวเแทบจะทุกชั่วโมง ตามกดถูกใจทุกโพสต์ แต่ก็ต้องโมโหเมื่อมีผู้ชายมากดถูกใจและคอมเมนต์
“ก็ผมอยากรู้นี่นาว่าแต่คุณใบเฟิร์นไม่สงสัยหรอครับ” ลีโอก็ยังคงถามต่อ
“ไม่หรอกเพราะฉันไม่ได้ลงอะไรเลยชื่อกับรูปก็ไม่ได้บอกว่าเป็นตัวฉัน”
“ทำอะไรให้ลูกผัวกินจ๊ะวันนี้” มาร์ตินในวัยกลางคนทว่ายังดูหนุ่มกว่าอายุถามภรรยาคนสวยที่กำลังสาละวนอยู่หน้าเตา อ้อมแขนแข็งแรวสวมกอดรอบเอวบาง เกยคางบนไหล่เล็ก แล้วสูดความหอมจากแก้มนวล “ของโปรดป๋ากับลูกค่ะ” พิศลดาตอบสามีเสียงหวาน “ของโปรดป๋ายืนอยู่ตรงนี้ต่างหาก” มือใหญ่ลูบสะโพกเมียอย่างยั่วเย้า พลางพรมจูบต้นคอขาวอย่างรักใคร่ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีความหวานของทั้งคู่ก็ไม่เคยจืดจางลงเลย “ห้ามทะลึ่งนะคะ เดี๋ยวลูกก็กลับมาแล้ว เอามือออกไปเลยค่ะ” ตีมือซุกซนที่บีบแก้มก้นเธออยู่ “ลูกยังไม่มาตอนนี้หรอก ป๋าเพิ่งจะโทรหาลูกสาวคนสวยของเรา ยังพอมีเวลานะคะทูนหัวของผัว ถ้าทำเวลาน่าจะได้สักสองรอบก่อนอาหารเย็น” งึมงำชิดซอกคอหอมกรุ่น “แก่แล้วนะคะ เพลาๆ เรื่องนี้บ้างเถอะค่ะ” พูดอย่างอ่อนใจ ขนาดว่าลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว ตาเฒ่าของเธอยังไม่หยุดหื่นเลย ตอนหนุ่มๆ เป็นยังไงตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง “ใครบอกว่าแก่ ป๋ายังหนุ่มยังแน่น แรงดีไม่มีตก ข้อนี้หนูรู้ดี ไม่งั้นหนูคงไม่ร้องครางทั้งคืนหรอก หนูเองก็สวยสะพรั่งไม่สร่าง ห่างไกลจากคำว่าแก่ สาวๆ บางคนยังสู้เมียป๋าไม่ได้เลย ไปไหนป๋าถึงต้องตามคุมเพราะ
จัสมินในวัยสิบเก้าปีกำลังโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางจิ้มลิ้ม เป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่มๆ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย แต่ติดที่คุณพ่อหวงมากเลยไม่ค่อยมีใครกล้ามายุ่งด้วยสักเท่าไหร่ จัสมิน และซีลอนเรียนมหาวิทยาลัยแห่งเดียวกับที่คุณแม่เคยเรียน สองพี่น้องเรียนคณะเดียวกันเพียงแต่คนละชั้นปี ดีกรีความหล่อของซีลอนไม่น้อยไปกว่าคุณพ่อแม้แต่น้อย ด้วยวัยเพียงสิบแปดปี มีสาวๆ มาล้อมหน้าล้อมหลัง เรื่องนี้จึงทำให้คุณแม่ และพี่สาวต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆ “พี่จัสมินวันนี้ให้อาลีโอมารับกลับบ้านก่อนได้ไหม เย็นนี้ผมมีนัดทำรายงานกับเพื่อน” ซีลอนบอกพี่สาวก่อนจะลงจากรถจัสมินมองหน้าน้องชายที่ถอดแบบมาจากคุณพ่อยิ้มๆ “ได้สิ ซีลอนไม่ต้องห่วง ไปทำงานของเราอย่างสบายใจเถอะ” และอีกหนึ่งอย่างที่ซีลอนเหมือนป๋า ก็คือเรื่องความหวงเธอ หวงมามี๊“ยังไงผมจะโทรหาพี่อีกทีนะ ห้ามปิดเครื่องนะครับคนสวย”“จ้ะสุดหล่อ แล้วเจอกันที่บ้านนะ” เปิดประตูรถลงไปแล้วจัสมินโบกมือให้น้องชายที่นับวันทำตัวเหมือนพี่ชายยังคงมองเธออยู่อย่างน่ารักจัสมินกำลังเดินขึ้นตึกเรียนระหว
“ไม่ได้ค่ะ ลูกหลับอยู่ในห้อง เกิดพวกแกเปิดประตูออกมาแย่เลยนะคะ เลิกคิดค่ะ อื้อ ป๋า อย่าบีบหน้าอก จะหื่นอะไรนักหนา”“ลูกหลับนานหนูก็รู้ มีเวลาให้เรารักกันสักรอบสองรอบ ยอมป๋าดีๆ จะได้จบไวๆ”“ป๋า อื้ม” ประท้วงเสียงอู้อี้ ผลักหน้าหล่อออกแต่คนหื่นไม่ยอม“แงๆ มามี๊ค้าบ ป๋าค้าบ หาซีลอนหน่อย ฮือๆ”เสียงร้องไห้จ้าดังออกมาจากในห้องนอนราวกับรู้ว่าพ่อกับแม่กำลังจะทำอะไร มาร์ติน พิศลดากำลังจูบกันดูดดื่มผละกันออกจากกันอย่างรวดเร็ว“มั่นใจมากไม่ใช่เหรอคะว่าลูกไม่ตื่นง่ายๆ รีบปล่อยเลยค่ะ จะรีบไปดูลูก” มองค้อนสามีมาร์ตินยิ้มอ่อน ยอมปล่อยเมียรักเมื่อเสียงร้องดังขึ้นเรื่อยๆ ลุกได้พิศลดาก็รีบเดินเข้าไปในห้องนอนโดยมีร่างสูงตามมาติดๆ“มามี๊มาแล้วครับ เลิกร้องนะครับคนดีของมามี๊” พิศลดาอุ้มลูกน้อยมากอดไว้แนบอก ลูบหลังเล็กๆ ปลอบประโลม“มามี๊หาซีลอนแล้ว” ใบหน้าเล็กๆ ซบลงบนอกนุ่มๆ ด้วยความคิดถึง“ครับลูก มามี๊กลับมาแล้ว คิดถึงหนูกับพี่จัสมินมากเลย” ริมฝีปากประทับแนบศีรษะลูกชายด้วยความเอ็นดู ไม่ว่าสามีหรือลูกก็อ้อนพอกัน เรียกว่าไม่มีใครน้อยหน้าใคร“ฮื้อ” คราวนี้เป็นลูกสาวคนสวยที่ลืมตาตื่น คุณพ่อยิ้มอบอุ่น ช้อนลู
“พาลูกเมียออกมาได้แล้วเหรอไอ้ฝรั่ง” พ่อสุชาติกำลังนั่งดื่มกาแฟมองค้อนลูกเขยตาคว่ำ“คุณพ่ออย่างอนผมสิครับ ผมก็พาออกมาแล้วนี่ไง เมื่อคืนก็ยึดจัสมินกับซีลอนไปนอนกอดไว้ทั้งคืน เช้านี้ผมก็ต้องใช้เวลากับลูกๆ บ้าง คุณพ่อจะยึดไว้คนเดียวไม่ได้หรอกนะครับ” มาร์ตินปล่อยลูกลงยืนเพื่อให้ไปหาคุณตา“แกอยู่กับลูกทุกวันนานๆ ฉันจะมีโอกาสได้เลี้ยงหลาน มาที่นี่แกก็ต้องให้เวลาฉัน และแม่นวลอยู่กับลูกหลานเยอะๆ”“เถียงกันไปก่อนนะคะ หนูจะไปดูข้าวให้ลูก จัสมินกับซีลอนไปกับมามี๊ไหมคะ”สาวน้อยกับหนุ่มน้อยพยักหน้าถี่ วิ่งมาเกาะขาคุณแม่คนละข้าง พิศลดาพาเด็กๆ แยกตัวออกมา ส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากฟังสองหนุ่มโต้กันไปมา ไม่มีใครยอมใครจริงๆ นิสัยก็คล้ายกันมาก ขึ้นชื่อเรื่องความหวง“ไปนั่งไกลๆ ฉันเลยไอ้ฝรั่ง ที่นั่งมีตั้งเยอะ จำเป็นต้องมานั่งตรงนี้ไหม” เหล่ตามองพ่อของหลาน“ผมพอใจจะนั่งตรงนี้ครับคุณพ่อ เราสองคนมาสงบศึกกันดีกว่าไหมครับ คุณพ่อไม่เหนื่อยบ้างเหรอครับหาเรื่องผมได้ตลอดเวลาเลย” เจอหน้ากันทีไรลับฝีปากกันตลอด“ถามมาได้ว่าเหนื่อยไหม มันก็ต้องเหนื่อยสิวะ ถ้าไม่อยากให้ฉันเหนื่อยแกก็เลิกกวนอารมณ์ฉันเสียสิ!” พ่อสุชาติพูดเสี
“เมียจ๋า ผัวอยากรักหนูรับแสงวันใหม่ จะได้กระปรี้กระเปร่ากระชุ่มกระชวยตลอดวัน” เสียงอ้อนดังชิดใบหูขาวผ่อง ขบเม้มติ่งหูเมียจนเธอขนลุก “จะนอน ไม่อยากกนะชุ่มกระชวยค่ะ” ใบหน้างามเริ่มยุ่งเมื่อถูกรุกรานหนักเข้า ทว่าก็ยังไม่ยอมลืมตา “ไม่นอนแล้วทูนหัว ตื่นมาให้ผัวอึ๊บซะดีๆ ผัวหิวเมียจะแย่แล้ว” เอื้อมมือบีบเคล้นอกอวบที่ยังคงเต่งตึงเหมือนครั้งแรกที่เคยสัมผัส ทั้งลูกทั้งผัวดูดมันก็ยังไม่หย่อนคล้อยแม้แต่น้อย “หนูง่วง อย่าเพิ่งกวน จะหิวอะไรนักหนาล่ะคะ กว่าจะได้นอนก็ตีสาม ถ้าตื่นแล้วก็ไปดูลูกค่ะ” พูดเสียงแข็งด้วยความรำคาญ “ป่านนี้ลูกคงเล่นอยู่กับคุณตา คุณยาย มีคนช่วยดูแล้วเราควรทำกิจกรรมระหว่างผัวเมียต่อนะทูนหัว” พรมจูบที่ซอกคอขาว “ของหนูมันไม่ได้เสริมด้วยเหล็กนะคนบ้า ถึงได้หื่นไม่กลัวพัง หนูยังต้องใช้ไปตลอดชีวิตนะคะ” พิศลาลืมตาขึ้นมาด้วยความโมโห “ป๋ารู้ว่าของเมียไม่ได้เสริมด้วยเหล็ก เพราะมันทั้งดูด ทั้งตอด ทั้งอ่อนนุ่ม แล้วป๋าเองก็ต้องใช้ของหนูไปอีกแสนนานเหมือนกัน ไม่มีทางปล่อยให้พังเด็ดขาด” ลูบฝ่ามือบนเนินอวบแผ่วๆ “แต่หนูกลัวค่ะ!” “ไม่ต้องกลัว เพราะถ้ามันพังมันคงพังไปนานแล้ว” มาร์ตินพลิกร่
มาร์ตินพาลูกมาทานเค้กตามความต้องการ ลูกค้าภายในร้านให้ความสนใจกับสามคนพ่อลูกที่มักจะมีภาพน่ารักๆ ออกมาให้เห็นผ่านโซเชียลเป็นประจำ คนหวงลูกเกิดอาการไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น ถ้าไม่ติดว่าลูกกำลังทานกันเอร็ดอร่อยเขาจะอุ้มกลับบริษัทซะเดี๋ยวนี้เลย“ป๋ากินเค้กค่า” จัสมินตักเค้กช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วมาจ่อปากคุณพ่อที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ อย่างเอาใจ เพราะคิดว่าพ่อคงอยากกินบ้างมาร์ตินมองช้อนเล็กๆ ในมือลูกพลางอมยิ้ม ยอมอ้าปากทานเค้กที่ลูกสาวคนสวยป้อน ยกมือขึ้นลูกศีรษะทุยเบาๆ “อร่อยมากเลยค่ะจัสมิน”“ป๋ากินอีกนะคะ” สาวน้อยตักป้อนอีก“ป๋ากินของซีลอนด้วยนะค้าบ” หนุ่มน้อยก็ไม่ยอมน้อยหน้าพี่สาว รีบตักของตัวเองมาจ่อปากคุณพ่อบ้างมาร์ตินมองลูกรักสองคนที่แย่งกันป้อนขนมเขาอย่างมีความสุข สลับกับป้อนใส่ปากตัวเอง จนกินไม่ไหว ลูบพุงน้อยๆ ของตัวเองกันทั้งคู่“อิ่มแล้วเหรอลูก” มาร์ตินหยิบทิชชู่มาเช็ดปากเลอะๆ ของลูกๆ อย่างอ่อนโยน มองดูพุงป่องๆ อย่างชอบใจ“ค่าอิ่มแล้ว ป๋าอิ่มยังคะ” จัสมินปีนขึ้นมานั่งตักคุณพ่อ เอาแขนเล็กๆ คล้องคอ แนบใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มลงบนไหล่แกร่งอย่างออดอ้อนเลยได