“ฮาวว~”ฉันหาวออกมาเป็นรอบที่ล้านแปดเหตุเกิดจากเมื่อคืนพอไอบ้านั่นรู้ว่าฉันมีการบ้านต้องกลับไปทำก็เลยแกล้งฉันเอาแต่ทำผิดที่เดิมซ้ำๆดึงเวลาจนดึกดื่นนี่ถ้าฉันไม่ขอร้องอ้อนวอนเขาดีๆเขาก็คงไม่ปล่อยฉันออกมาหรอก
กว่าจะได้กลับมาทำการบ้านก็ห้าทุ่มกว่าแล้วทำเสร็จก็เกือบตีสองแถมวันนี้ฉันยังมีเรียนเช้าอีกเลยได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงตี4ก็ตื่นมาช่วยป้าเตรียมทำอาหารเช้าให้เจ้าของบ้านสรุปเลยว่าฉันได้นอนจริงๆยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ
วันนี้อย่าได้เสนอหน้ามาให้ฉันเห็นเชียวไม่งั้นฉันจะ
ปรื๊ดดดด!!
“แว๊กก!!”ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจตัวพุ่งหลบข้างทางอัตโนมัติฉันมองเส้นขอบถนนด้วยความหัวเสียเพราะตัวฉันก็ไม่ได้ไปเดินขวางรถใครเสียหน่อยทำไมต้องมาบีบแตรใส่ฉันแบบนี้ด้วย!
“นี่ยัยเฉิ่ม”เสียงเรียกอันคุ้นเคยดังขึ้นฉันเลยหันไปมองไอตาบ้าเซฟที่ลดกระจกทักทายฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เหอะดูอารมณ์ดีเหลือเกินนะดูท่าจะกินอิ่มนอนหลับได้อย่างเต็มที่เลยสิ
“นายเป็นบ้าอะไรมาบีบแตรใส่ฉันเพื่อ!”ฉันถามออกไปด้วยความโมโหเมื่อกี้ฉันตกใจมากจริงๆนะยิ่งเป็นคนขวัญอ่อนอยู่ด้วย
“เป็นคนหล่อ”แล้วดูสิ่งที่เขาตอบกลับมาสิมันกวนตีนดีไหมล่ะ
“ขึ้นมา”
“ไม่!”ฉันเอ่ยปฏิเสธก่อนจะเดินต่ออีกไม่กี่ร้อยเมตรก็จะเป็นป้ายรถเมล์แล้ว
“เดี๋ยวไปส่งขึ้นมา”ไอตาบ้านี่ก็ขับตามฉันไม่หยุดเขาจะรู้ไหมว่าตอนนี้กำลังมีรถตามหลังเขาอยู่กี่คัน!
“ไม่!นายจะไปไหนก็ไปเถอะฉันไปของฉันเองได้”ฉันเอ่ยบอกอย่างหงุดหงิดนึกถึงเรื่องเมื่อวานที่เขาแกล้งฉันก็พาลจะหงุดหงิดขึ้นกว่าเดิมอีก
“ก็จะไปมหาลัยไง เธอก็จะไปไม่ใช่ไงได้นั่งรถแอร์เย็นๆไม่ต้องเบียดใครไม่ชอบรึไงห๊ะ”
“ไม่ชอบ!”
“นี่ยัยเฉิ่ม! ยัยแว่น! ยัยข้าวบูด เห้ยยย!!”ฉันเอามือปิดหูก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งมายังป้ายรถเมล์แน่นอนว่ารถเมล์ตอนเช้านี่นรกสุดๆทั้งคนเบียดทั้งรถติดแถมยังร้อนจนเหงื่อไหลถึงตีน
แต่ถ้าให้เลือกนั่งรถเมล์กับรถหรูๆของเขาฉันยอมทนนั่งรถเมล์ดีกว่าอีกเพราะเคยลองนั่งไปครั้งนึงเหมือนว่าตัวเองจะเห็นพระเจ้ามาเก็บดวงวิญญาณตลอดเลยอ่ะทั้งขับเร็วขับปาดไปปาดมาเรียกได้ว่าขยะบนท้องถนนเลยก็ว่าได้
แถมพอถึงมหาลัยคนก็มองกันตรึมก็นะยัยเฉิ่มอย่างฉันลงมาจากรถหรูสองประตูแบบนั้นใครบ้างจะไม่สนใจดีเท่าไหร่แล้วที่กระจกมันเป็นกระจกดำคนอื่นมองไม่เห็น
ถ้าเห็นว่าใครเป็นคนขับมาส่งด้วยนี่มหาลัยระเบิดแน่นอนหน้าฉันคงเด่นหล่าอยู่ในเพจหรือกลุ่มมหาลัยแน่ๆว่าเป็นใครทำไมถึงมากับเทพบุตรของมหาลัยอะไรแบบนี้ไอบ้านั่นมันดังมากนะที่มหาลัยก็นะทั้งหล่อทั้งสูงภายนอกนี่สวรรค์ส่งมาเกิดชัดๆแต่ภายในนี่สินรกดีๆนี่เอง
“อ๊ะรถเมล์มาพอดี”ฉันยิ้มกว้างออกมาในตอนที่กำลังหงุดหงิดสุดๆกลับมีเรื่องดีเกิดขึ้นนั่นก็คือการที่มาถึงป้ายแล้วรถเมล์ที่จะขึ้นดันมาพอดีนี่ยังไงล่ะ!แต่ทว่า
“ชิดในหน่อยเพ้! ชิดในหน่อย”
แน่นมาก! แน่นชนิดที่ว่าบางคนต้องยืนตรงทางขึ้นทางลงเลยแหะงั้นรอบนี้ฉันขอไม่ไปก่อนแล้วกันไว้รอคันถัดไปก็ได้หลังจากที่รถเมล์ออกไปฉันก็หยิบมือถือขึ้นมาเช็กดูว่าคันถัดไปจะมาอีกตอนไหนแต่ว่ามัน..
ไม่มี! คันนั้นเป็นคันสุดท้ายที่วิ่งอยู่! โอ้มายก้อดฮื่ออรู้งี้ฉันน่าจะขึ้นไปแต่แรกก็ดีต่อให้มันเบียดจนหน้าแนบประตูก็ตามเถอะแล้วทำไงทีนี้ไม่มีรถก็คงต้องขึ้นแท็กซี่แต่มันก็น่าจะแพงมากเลยไม่ใช่เหรอ
“อ๊ะไอบ้าเซฟ”จู่ๆฉันก็คิดถึงไอบ้าเซฟขึ้นมาไม่รู้ว่าป่านนี้จะไปไกลรึยังแต่ก็ลองๆโทรดูก่อนดีกว่าต้องนั่งแท็กซี่ให้เปลืองตังละนะ
Rrrr
(อะไร) น้ำเสียงท้วนๆเอ่ยขึ้น
“นายอยู่ไหน”
(ทำไม)
“ฉันจะขอติดรถไปด้วย”
(เหอะ แล้วตอนบอกให้ขึ้นทำไมไม่ขึ้น) ฉันบู้ปากฟังคำบ่นของอีกฝ่ายใครจะรู้ว่ารถเมล์คนนั้นเป็นคันสุดท้ายแล้ว
“ถ้าจะบ่นเยอะยาวขนาดนี้ฉันนั่งแท็กซี่ไปเองก็ได้!”ฉันเอ่ยบอกไม่น่าโทรหาเขาเล้ยโทรไปหาไอตาบ้านี่บ่นซะงั้น
(เดินมา)
“ฮือ?”
(จอดรออยู่ปั้มน้ำมัน)
“จริงอ่ะไชโย!”
(ถ้าเกิน5นาทีฉันไปไม่รอแล้วนะ)
“ห๊ะ?เดี๋ยวสิปั้มมันก็อยู่กะ..”
ติ๊ด!
กรี๊ดไอบ้าเซฟ! นี่ฉันได้แต่กรีดร้องในใจก่อนจะสับตีนแตกวิ่งไปยังปั้มน้ำมันก็อยู่ไม่ไกลก็จริงแต่มันก็ไม่ได้ใกล้เลยสักนิด!
“อ๊ะเห็นแล้ว”ฉันร้องขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นรถของไอบ้าเซฟยังจอดรออยู่ฉันพาร่างอันหอบแฮ่กๆของตัวเองเปิดประตูเข้าไปนั่งก่อนจะหอบหายใจอย่างบ้าคลั่ง
“น้ำ”
“ขะขอบใจ”ฉันรีบคว้าน้ำมาดื่มรวดเดียวหมดทันทีจากร้อนๆพอได้เข้ามาอยู่ในรถที่แอร์เย็นฉ่ำแถมยังได้กินน้ำเย็นๆนี่มันฟินจริงๆหลังจากนั้นรถก็เริ่มเคลื่อนตัวออกสู่ท้องถนนในระหว่างทางฉันก็ยังนั่งหอบอยู่ส่วนไอบ้าเซฟก็อารมณ์ดีจากไหนไม่รู้นั่งร้องเพลงเสียงนี่ก็โคตรจะดีเลย
ปกติคนหล่อต้องร้องเพลงเพราะทุกคนเลยรึไงกัน-.-
“เพราะอ่ะดิ”เจ้าตัวพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
“อืมเพราะ..เพราะอะไรถึงร้องอ่ะ”
“จิ๊ยัยนี่”ฉันหัวเราะในใจมองใบหน้าหล่อที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่ฉันถึงเซฟจะอายุเยอะกว่าฉัน3ปีแต่ฉันไม่เคยนับถือเขาเป็นพี่เลยสักครั้งก็ดูสภาพสิน่านับถือตรงไหนก่อนแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ดูไม่พอใจนะที่ฉันพูดเป็นกันเองกับเขาแบบนั้นตอนนี้ก็เลยชินกับการพูดเป็นกันเองแบบนี้ไปแล้ว
Rrrr
ฉันมองมือถือที่มีสายเข้าก่อนจะฉีกยิ้มกว้างและรีบกดรับทันที
“ดีค่ะพี่มอส”ใบหน้าหล่อทำหน้าอี๋ๆใส่ฉันที่พูดกับปลายสายเสียงสอง
“อ๋อพอดีติดรถเพื่อนมาค่ะ..ได้ค่ะไว้เจอกันที่มหาลัยนะคะ”ฉันยิ้มเขินก่อนจะกดตัดสายไป
“ใคร?”
“ยุ่ง”
“ฉันถามว่าใคร”จู่ๆไอตาบ้านี่มันก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆหน้าตาเขาดูหงุดหงิดมากเลยแหะ
“ฟะแฟนฉันเอง..”ฉันตอบกลับด้วยท่าทีเขินอายและใช่พี่มอสเป็นแฟนฉันเองเราพึ่งเริ่มคบกันได้ไม่นานมานี้ฉันเองก็ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้มีแฟนกับเขาหรอกนะเพราะสภาพฉันมันก็ไม่ได้ดูโดดเด่นเป็นสเป็กผู้ชายเท่าไหร่
แต่พี่มอสนี่สิจู่ๆก็เข้ามาจีบฉันตอนที่ฉันนั่งอ่านหนังสือเงียบๆอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ตอนแรกก็คิดว่าเขาคงจะเข้ามาจีบเล่นๆแต่เขาดูจริงจังมากจนฉันก็เริ่มเปิดใจเราเริ่มจากการพูดคุยกันก่อนจะนัดมาเจอกันถ้าวันไหนเรียนตรงกันอ่ะนะ
อ๋อพี่มอสเขาเรียนอยู่คณะวิศวะด้วยปี4เหมือนเซฟเลยบางทีเขาเองก็อาจจะรู้จักพี่มอสเหมือนกันนะ
“ห๊ะแฟน!?..คนอย่างเธอเนี่ยนะมีแฟน?”เซฟพูดขึ้นด้วยความตกใจแต่เหมือนล้อเลียนฉันมากกว่าอีก
“คนอย่างฉันมันทำไมห๊ะ?”ฉันสวนกลับฉันก็แค่ดูบ้านๆแต่ฉันก็นิสัยดีจะตายไปผู้ชายที่ไหนจะไม่ชอบผู้หญิงนิสัยดีกัน
“เหอะอยากให้พูดจริงดิ”ใบหน้าหล่อหันมาบอกฉันซึ่งฉันก็หงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้งอยู่กับเขาทีไรฉันปวดหัวไม่ก็อารมณ์ไม่ดีตลอดเลยแหะ
“ถามจริง..มีแฟนจริงดิ?”
“อืม”
“ไม่อยากจะเชื่อ..มันมีผู้ชายตาถั่วคนไหนเอาเธอด้วยเหรอวะ”
“นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”ฉันโพล่งออกไปด้วยความโมโหโชคดีจริงๆเล้ยที่พี่มอสไม่ได้มีนิสัยเลวทรามต่ำช้าเหมือนไอหมอนี่
“โทษทีๆ”เซฟเอ่ยขอโทษออกมาเขาก็คงจะรู้ตัวแหละว่าคงพูดไม่ดีกับฉันหลังจากนั้นเราสองคนก็เงียบกันมาตลอดทางเซฟที่ตอนแรกร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีก็เงียบไม่พูดจาใดๆจนกระทั่งรถหรูขับเข้ามายังมหาลัย
“เดี๋ยวส่งฉันลงตรงนี้ก็ได้”ฉันพูดก่อนจะชี้ไปที่ทางเข้าก่อนเข้าโรงรถ
“ทำไม เดี๋ยวขับไปส่งที่คณะ”
“ไม่เอามันสะดุดตาเกินไป”ฉันเอ่ยบอกเจ้าตัวก็ตามใจฉันจอดให้ฉันลงทันที
“ยังไงก็ขอบใจนะที่มาส่ง”ฉันเอ่ยขึ้นก่อนจะลงจากรถแต่ทว่ามือหนาก็มารั้งแขนฉันเอาไว้จนฉันต้องหันกลับไปมองเขา
“เลี้ยงข้าวด้วย”
“ห๊ะ?”
“เลี้ยงข้าวไงตอนเที่ยงตอนเย็นตอนไหนก็ได้แต่เลี้ยงฉันด้วย”
“เดี๋ยวนะ?นายให้ฉันที่เป็นลูกจ้างเลี้ยงข้าวนายที่เป็นนายจ้างเนี่ยนะ!?”ฉันขมวดคิ้วถามเขาลำพังเงินที่ได้จากการช่วยงานแทบจะติดลบแล้วฉันจะเอาเงินจากไหนมาเลี้ยงข้าวคุณชายผู้สูงส่งคนนี้กัน
“จะข้าวไข่เจียวไข่ดาวไข้ต้มอะไรก็ได้ไง”ใบหน้าหล่อพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่เอาก็เอาเถอะอย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการตอบแทนที่เขาช่วยให้ฉันมามหาลัยทันคาบเรียนตอนเช้าก็แล้วกัน
“ก็ได้งั้นเดี๋ยวทักข้อความไปบอกก็แล้วกัน”ฉันเอ่ยขึ้นก่อนจะจับมือเขาให้ออกจากแขนของฉัน
“เดินดีๆล่ะยัยเฉิ่มใส่แว่นแล้วก็หัดมองทางบ้างไม่ใช่สะดุดล้มหน้าคมำเหมือนครั้งที่แล้วอีก”ฉันจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดมองเซฟที่ลดกระจกมาโบกมือลาฉันอย่างอารมณ์ดีก่อนจะขับเข้าไปในโรงรถ
จะว่าไปฉันก็อายเหมือนกันแหะทั้งๆที่ใส่แว่นสายตาแท้ๆแต่ดันมองไม่เห็นว่ามีแผ่นปูนที่มันไม่เท่ากันอยู่สุดท้ายก็เลยสะดุดล้มหน้าคมำอับอายชาวบ้านชาวช่องแถมยังมาล้มตรงหน้าคณะวิศวะที่มีแต่ผู้ชายหล่อๆอีก
และไงคะไอคนที่เข้ามาช่วยไม่สิเข้ามาสมน้ำหน้าฉันคนแรกก็ไอบ้าเซฟนี่แหละไม่ช่วยพยุงแถมยังหัวเราะลั่นจนเพื่อนๆงงว่าไอบ้านี่มันหัวเราะสะใจอะไรขนาดนั้นสุดท้ายด้วยความอับอายฉันก็เลยวิ่งออกมาเลยแม้ว่าหัวเข่าฉันจะมีเลือดไหลก็ตาม
พอกลับมาถึงบ้านไอบ้าเซฟก็ยังมาล้อฉันไม่หยุดหาว่าเดินสะดุดล้มเหมือนเด็กสามขวบก็ไม่ปานจนฉันต้องหลบหน้าเขาไปสักพักใหญ่เลยแหละ
คิดแล้วก็ได้แต่โมโหผู้ชายหยาบคายแบบนั้นทำไมถึงมีแต่คนเข้ามาให้ความรักกันนะแต่ก็ช่างมันเถอะเพราะตอนนี้ฉันเองก็มีคนที่เข้ามาให้ความรักแล้วเหมือนกันว่าแล้วก็รีบไปหาพี่มอสดีกว่า><
หึง พูดแบบนี้นะคะคุณเซฟ พูดเร็ว หึง
ครืดด ฉันมองประตูที่ถูกเปิดออกโดยพนักงานสาวก่อนจะเผยให้เห็นพี่มอสแฟนของฉันที่นั่งอยู่ก่อนแล้วไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคำพูดของไอบ้าเซฟนะแต่ที่ฉันยืนยันที่จะเข้ามาก็เพราะอยากทดสอบด้วยตัวเอง“ว้าวน้องข้าวนี่น้องข้าวจริงๆเหรอครับ” พี่มอสดูตกใจมากกับการแปลงโฉมครั้งใหญ่ของฉันส่วนฉันก็ทำได้แค่ส่งยิ้มอ่อนๆให้เขาพอได้ฟังเรื่องที่เซฟเล่าร่างกายของฉันมันก็รู้สึกขนลุกแปลกๆขึ้นมา“มันไม่ได้ดูแปลกใช่ไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามมองพี่มอสที่ส่ายหน้ารัวๆ“ไม่ครับสวยมากเหมือนคนละคนเลย” ฉันหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งพร้อมกับประตูที่ปิดลง“ทานข้าวกันครับ” คนตรงหน้าเอ่ยชวนเราสองคนนั่งทานข้าวกันอย่างปกติทุกอย่างเป็นปกติมากและพี่มอสเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางที่น่าสงสัยอะไรเลยสักนิดหรือเรื่องที่เซฟเล่าจะไม่ใช่ความจริง ตาบ้านั่นต้องแต่งเรื่องมาหลอกให้ฉันขวัญเสียแน่ๆคงจะอิจฉาที่ฉันมีแฟนที่แสนดีแบบพี่มอสสินะ“อาหารถูกปากไหมพี่ตั้งใจจองร้านนี้มากเลยนะ”“อร่อยมากเลยค่ะ^^” ฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างเพราะอาหารมันอร่อยจริงๆ“ว่าแต่ทำไมถึงเปลี่ยนลุคขนาดนี้เลยล่ะครับ”“อ๋า..กะก็มันคือเดทแรกนิคะพี่มอสเองก็เป็นแฟนคนแรกของข้าวด้วย”
เซฟ PART“ตายจริงนี่หนูข้าวจริงๆหรอลูก”ผมเงยหน้าขึ้นจากถ้วยโจ๊กมองร่างเล็กที่เดินเข้ามาอย่างเขินอายเธออยู่ในชุดกระโปรงสีขาวผ้าชีฟองโชว์ไหล่ทั้งสองข้างผมจากที่เคยปล่อยและไม่เคยดูแลสนใจมันกลับม้วนขึ้นเผยให้เห็นลำคอขาวที่ประดับด้วยสร้อยสีเงินเส้นเล็กใบหน้าของเธอไม่มีแว่นตาและแม้จะมีหน้าม้าบดบังแต่ทว่ากลับดูมีสีสันจากการทาแก้มทาปากไม่จำเป็นต้องพูดถึงหุ่นเพราะถึงแม้ว่าเธอจะดูผอมไปนิดแต่ทุกสัดส่วนของเธอกลับเด่นชัดไม่ว่าจะเป็นหน้าอกหรือแม้ขาเรียวยาว“สวยจริงๆเลยน้า..ได้ข่าวว่าจะไปเดทกับแฟนใช่ไหม^^”“ชะใช่ค่ะ”เธอตอบกลับอย่างเขินอายก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาคาดเดาไม่ถูกทั้งๆที่บอกความจริงไปแล้วแต่ก็ยังไม่คิดที่จะบอกเลิกมันสินะแถมยังเปลี่ยนตัวเองจากสาวเฉิ่มเป็นสาวสวยเพื่อไปเดทกับสวะอย่างมันอีกเธอคิดอะไรอยู่ข้าวเจ้าอยากให้ใบหน้าและเรือนร่างของเธอถูกบันทึกไว้ในมือถือของสวะอย่างมันอย่างงั้นเหรอ“ตาเซฟหนูข้าวสวยมากเลยใช่ไหม^^”ผมมองแม่ที่ดูตื่นเต้นมากกว่าใครประหนึ่งว่าอีกฝ่ายเป็นลูกสาวคนโปรดก็ไม่ปาน“ก็พอดูได้ครับ” ผมเอ่ยตอบหน้านิ่งไม่ใช่แค่พอดูได้อยากที่พูดหรอกแต่นี่มันน่ารักมากเลยต่างหากแต่จะให้ช
“ระเราเลิกกันเถอะค่ะ”ฉันเอ่ยบอกออกไปมองหน้าพี่มอสที่ยืนสะตั้นอยู่ตรงหน้าฉัน“เดี๋ยวสิทำไมถึงบอกเลิกพี่ล่ะครับ?”พี่มอสปรี่เข้ามาจับมือฉันพร้อมกับสีหน้าของความร้อนรน“เมื่อวานพี่ไปที่ห้างมารึเปล่าคะ”“ก็ใช่ครับ”“ข้าวเห็นค่ะ..เห็นว่าพี่กำลังกอดกับผู้หญิงคนอื่น..”ฉันบอกออกไปพลันรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจเล็กน้อยแม้ว่าเราสองคนจะยังรู้จักและคบกันได้ไม่นานแต่เป็นถึงแฟนคนแรกของฉันเลยนะและฉันก็คาดหวังกับความรักครั้งนี้มากจริงๆ“อุ๊บ..ฮ่าๆ”ฉันขมวดคิ้วมองพี่มอสที่หัวเราะลั่นออกมา“มันใช่เรื่องตลกเหรอคะพี่นอกใจข้าวนะ!”ฉันพูดด้วยความโมโห“ข้าวฟังพี่นะ..ผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวพี่เอง”ฉันเบิกตาโตด้วยความตกใจจริงสิพี่มอสบอกว่าตัวเองมีน้องสาวด้วยนี่หน่างั้นแสดงว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวพี่มอสจริงๆเหรอแต่หน้าตาไม่เหมือนกันเลยนะ“ข้าว..เฮ้อทำไมน่ารักอย่างนี้นะหึงพี่เหรอครับ”จู่ใบหน้าของฉันมันก็ร้อนขึ้นมาไม่ได้เพราะความเขินแต่อายล้วนๆ!“อะเอ่อ..ข้าวขอโทษนะคะที่ด่วนสรุปไปเองแบบนี้”ฉันบอกออกไปอย่างรู้สึกผิด เห้อไอเราก็คิดหนักมาตลอดทั้งคืนสุดท้ายก็แค่น้องสาวเองเหรอเนี่ยบ้าจริงฉัน“ไม่เป็นไรครับ..ถ้างั้นไปเดทกับ
วันต่อมาทำไม? ทำไม? ทำไมฉันต้องออกมาซื้อของกับไอบ้านี่ด้วยอ๊ากกกก!!เหตุมันเกิดขึ้นเนื่องจากว่าฉันได้รับไหว้วานให้ไปซื้อของที่ห้างซึ่งตอนแรกฉันก็กะจะไปเองนี่แหละแต่ไอบ้าเซฟมันดันลงมาพอดีพอแม่ของเขาถามว่ามีแพลนจะออกไปไหนทำอะไรไหมไอบื้อนั่นก็บอกว่าไม่มีและไงคะก็ได้เลยมาด้วยกันแบบงงๆนี่ไงทั้งๆที่ฉันปฏิเสธไปแล้วว่าจะมาเองแต่คุณหญิงก็คะยั้นคะยอบอกให้เซฟขับรถไปส่งฉันจนสุดท้ายก็ไม่มีใครต้านทานคำพูดอันทรงพลังได้ฉันเลยต้องยอมนั่งรถมากับไอตาหื่นกามนี่สองต่อสองทั้งๆที่พึ่งเกิดเรื่องอะไรแบบนั้นไปเมื่อวานนี้เองแท้ๆ“นั่งดีๆฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกหน่ายัยข้าวเน่า”จู่ๆไอบ้าเซฟก็พูดขึ้นมาแต่เขาไม่ได้มองมาทางฉันเพราะกำลังตั้งใจขับรถอยู่“ไม่ฉันจะนั่งแบบนี้”ฉันพูดขึ้นอย่างจริงจังเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีก็เลยนั่งหันทั้งตัวหันทั้งหน้าไปจ้องอีกฝ่าย“ตามใจขอให้ตะคริวกินแล้วกัน”ฉันรับฟังแบบไม่ใส่ใจแต่ทว่าพอนั่งท่านี้นานๆก็แอบเมื่อยนะแถมยังรู้สึกเวียนหัวอีกฮื่ออ“อุแหวะ”ทันทีที่มาถึงห้างที่แรกที่ฉันไปก็คือห้องน้ำก่อนจะเข้าไปอ้วกแบบหมดไส้หมดพุงเนื่องจากเมารถเป็นเพราะไอบ้าเซฟคนเดียวเลยมาทำให้ฉันหวาดระแวงไปหม
1อาทิตย์ต่อมาฉันยืนอยู่หน้าห้องของเซฟเพราะวันนี้เป็นวันที่ฉันต้องมาสอนงานให้เขาแต่ทว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาจู่ๆไอบ้านี่มันก็ทำตัวแปลกๆพอมองหน้าฉันทีไรเจ้าตัวก็จะรีบหลบหน้าไปทันทีจากที่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันเขาก็เงียบหายไปเลย“แปลกแหะ”แกร้ก“จะยืนบื้ออีกนานไหม”ฉันมองร่างสูงที่เปิดประตูออกมาบ่นใส่ฉันว่าแต่เขารู้ได้ยังไงว่าฉันยืนอยู่หน้าห้องเขากันหลังจากเข้าห้องไปฉันก็ไปนั่งประจำที่แต่สิ่งที่แปลกคือหมอนี่มันห่างจากฉันเป็นกิโลเลยนี่สิ“นี่ขยับมาหน่อยสิ”“สอนตรงนั้นนั่นแหละ”ฉันขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดมองใบหน้าหล่อที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาฉันเลยสักนิดไอบ้านี่มันเป็นอะไรของมันเนี่ยเมนส์มารึไง“ฉันไม่อยากตะโกนเขยิบเข้ามา”ฉันเอ่ยบอกมองเซฟที่ถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะขยับมาอยู่ใกล้ฉันแต่ก็เว้นระยะห่างอยู่ดีแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วรีบๆสอนงานให้เขาเพราะคืนนี้ฉันมีนัดวีดีโอคอลกับพี่มอสแฟนสุดน่ารักของฉันน่ะสิ“วันนี้พอแค่นี้ละกัน” ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากสอนต่อเนื่องมาเกือบ3ชั่วโมงและเซฟก็ตั้งใจเรียนรู้ดีเอาจริงๆหมอนี่มันก็เก่งพอตัวเลยนะสอนอะไรไปนิดๆหน่อยๆก็ทำได้แล้ว“นี่ยัยข้าวบูด”ฉันชะงักมือที่กำล
เซฟ PART“เก็บแต้มอีกแล้วเหรอมึง”“เออ..คนนี้ไม่น่าจะเกินอาทิตย์เดี๋ยวก็ได้มาร้องครางใต้ร่างกูละ”ผมมองไอมอสที่พอเดินเข้ามาก็พูดจาหมาไม่แดกทันทีน่าอนาถใจแทยยัยข้าวบูดชะมัดเลือกแฟนทั้งทีทำไมถึงไปเลือกไอเศษสวะแบบนี้มาก็ไม่รู้“อย่างเอาอ่ะครับเพื่อน”ผมถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มองพวกมันที่คุยเรื่องผู้หญิงกันอย่างสนุกปากตอนแรกที่ได้ยินยัยนั่นบอกมีแฟนผมก็แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองแต่สุดท้ายมันก็คือเรื่องจริงสินะ“ไอเซฟวันนี้ไปดื่มป่ะ?” “ไม่อ่ะ”ผมตอบปฏิเสธก่อนจะก้มมองรองเท้าตัวเองที่มีรอยรองเท้าของยัยข้าวเน่าประทับอยู่ผมเห็นข้อความที่ยัยนั่นตอบกลับมาแล้วมันน่านักจริงๆรอก่อนเถอะกลับบ้านไปจะทำโทษให้เข็ด“ยิ้มอะไรของมึงวะขนลุก”ผมหุบยิ้มทันทีไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยิ้มอยู่แถมยังยิ้มทั้งๆที่นึกหน้ายัยข้าวเน่านั่นอีกหลังจากจบคลาสเรียนผมก็แยกตัวออกมาเพื่อตรงกลับบ้านในหัวนี่คิดแผนการแกล้งยัยข้าวเน่าสารพัดอย่าง“เห้ยไอเซฟ”ผมมองไอมอสที่เรียกผมไอเวรนี่ต่อหน้าสาวทำเป็นสุภาพบุรุษแต่ความจริงแล้วเป็นไอสวะดีๆนี่เองเห็นว่าชอบไปหลอกเอาสาวเฉิ่มๆโลกส่วนตัวสูงมานอนด้วยก่อนจะถ่ายคลิปขู่เรียกเอาเงินแล้วยั