LOGINตอนที่8
แสดงตัว
ตั้งแต่โตมาก้ามปูก็ยังไม่เคยคิดที่จะทำมาหากินอะไร เพราะตอนเรียนเธอก็มีหน้าที่เรียนเพียงอย่างเดียว พอเรียนจบก็ยังไม่ทันได้คิดอะไรก็ถูกจับให้แต่งงานทันที
ร้านเสื้อผ้าที่ขายส่งเต็มไปหมด หญิงสาวค่อยๆเดินเข้าไปดูเข้าไปเลือกที่ละร้านจนได้ร้านที่ถูกใจ ทางร้านจะส่งภาพสินค้าไปให้โดยให้ก้ามปูสามารถนำรูปไปโพสขายโดยไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าไปเพื่อจะได้ไม่ต้องเสี่ยงต่อการลงทุน เมื่อมีลูกค้าสั่งทางร้านก็จะทำหน้าที่จัดส่งให้
จากที่คิดไว้ว่าคงต้องใช้เวลานาน แต่สุดท้ายไม่ถึงครึ่งวันก็เสร็จ หญิงสาวจึงตั้งใจจะไปชวนสามีออกไปกินอาหารกลางวัน เพราะที่ทำงานก็อยู่ไม่ห่างจากที่เธอมาดูเสื้อผ้าเท่าไหร่
“สวัสดีค่ะ ฉันมาขอพบคุณกวินค่ะ”
ก้ามปูไม่ได้แนะนำตัว เพราะเธอคิดว่าเลขาหน้าห้องน่าจะพอจำหน้าเธอได้
“นัดไว้หรือเปล่าคะ”
“ไม่ได้นัดค่ะ” หญิงสาวตอบตมตรง
“ถ้าอย่างนั้น ดิฉันขอสอบถามคุณกวินก่อนนะคะว่าสะดวกให้พบไหม จะให้ดิฉันบอกว่าใครมาพบคะ”
“ภรรยาค่ะ”
เลขาหน้าห้องถึงกลับตกใจยกมือไหว้ขอโทษก้ามปู เขาจำเธอไม่ได้จริงๆ เพราะเมื่อมาครั้งที่แล้วมณีจับเธอแต่งตัวแต่งหน้า แต่ครั้งนี้หญิงสาวมาแบบหน้าสด
“ถ้าอย่างนั้นคงไม่ต้องถามคุณกวินมั้งคะ ว่าสะดวกจะให้ภรรยาพบไหม ”
พูดจบหญิงสาวก็เปิดประตูห้องทำงานของสามีเข้าไปทันที และภาพที่เธอเห็นคือหญิงสาวที่มีชื่อว่าขวัญวิภากำลังยืนอยู่ด้านหลังสามีของเธอ โน้มตัวมองลงมาที่เอกสารที่อยู่บนโต๊ะ คอเสื้อที่กว้างทำให้เห็นเนินหน้าอกอย่างชัดเจน
“สวัสดีค่ะ ขอโทษที่เข้ามาโดยที่ไม่ได้เคาะประตู ไม่รู้ว่าจะต้องเข้ามาเจอการเสนองานในสภาพแบบนี้”
“ก้ามปูทำไมไม่โทรมาก่อน”
ชายหนุ่มรีบลุกจากเก้าอี้ทำงาน จนเผลอชนขวัญวิภาที่อยู่ด้านหลังจนแทบล้ม
“ก้ามปูไม่ได้ไม่ได้ตั้งใจจะมาค่ะ พอดีมาธุระแถวนี้เลยแวะมา ตั้งใจจะชวนพี่กวินไปกินอาหารกลางวันแต่ถ้าพี่ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ”
“งอนอะไรพี่หรือเปล่าทำไมพูดแบบนี้ ภรรยามาหาถึงที่ทำงาน ใครจะไม่สะดวกล่ะครับ”
กวินเดินมาโอบกอดภรรยาอย่างเอาใจ ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของหญิงสาวอีกคนตลอดเวลา ที่ยืนดูด้วยความรู้สึกไม่พอใจแต่ก็ทำได้แค่อดกลั้นไว้
“ก้ามปูจะไปงอนพี่กวินทำไมล่ะคะ เราเป็นสามีภรรยากันจะกินข้าวด้วยกันตอนไหนก็ได้ ไม่ใช่ว่าต้องลักกินขโมยกินถึงต้องรู้สึกน้อยใจ ใช่ไหมคะคุณขวัญวิภา”
หญิงสาวที่ยืนดูภาพสามีภรรยาแสดงความรักต่อกัน สะดุ้งตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายเอ่ยชื่อถาม
“ค่ะ แต่พอเป็นสามีภรรยากันมันก็จะลดความตื่นเต้นลงนะคะ เพราะเมื่อไหร่ก็ได้”
มีเหรอที่อีกฝ่ายจะปิดปากเงียบจะยอมให้ถูกพูดจาแดกดันอยู่คนเดียว
“ก็ถูกของคุณขวัญนะคะ เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่ว่าถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน คนเราถ้าคิดเหมือนกันหมดก็คงไม่มีคนดี คนเลว”
“ผมว่าเราออกไปกินข้าวกันเถอะ ผมเริ่มหิวแล้ว”
กวินพูดตัดบทขึ้นมาเพราะถ้าขืนยังปล่อยให้ยืนปะทะคารมกันอยู่แบบนี้รับรองเรื่องจะยาวแน่ๆ
“ค่ะคุณสามี ก้ามปูหิวมาก คุณขวัญไปด้วยกันไหมคะ”
“ขอบคุณแต่ไม่ดีกว่า”
เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่สามารถที่จะอดทนกับภรรยาของเจ้านายได้แล้ว ขวัญวิภารีบเดินออกจากห้องไปด้วยความโกรธที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทน
“ทำไมพูดจาแบบนั้นกับขวัญเขาล่ะ หึงพี่ใช่ไหม”
กวินถามภรรยาเหมือนกำลังแซวเธอว่าหวงเขาใช่ไหมที่เห็นเขากับลูกน้องใกล้ชิดกัน
“ใช่ค่ะหึงตามสถานะและความเหมาะสม พี่กวินก็ควรรู้ว่าตอนนี้พี่มีภรรยาแล้ว ทำอะไรให้เกียรติกันบ้างนะคะ”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาจริง ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนเรื่องพูดและพาภรรยาไปกินอาหารร้านที่เขาคิดว่าอร่อยที่สุดในแถวนั้นเพื่อหวังให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้น
ระหว่างที่กินมื้อกลางวัน ก้ามปูรู้สึกได้ ว่าโทรศัพท์ของสามีเธอสั่นอยู่เรื่อยๆเหมือนมีข้อความเข้า แต่ที่เธอทำวันนี้ก็คงพอให้เขารู้ว่าต่อไปควรทำอย่างไรเธอจึงไม่อยากที่จะวุ่นวายความเป็นส่วนตัวของเขามากไปกว่านี้
“รอกลับบ้านพร้อมพี่ไหม เดี๋ยวรถของก้ามปูพี่ให้คนขับรถขับกลับบ้านให้”
กวินพยายามที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าตัวเขาเองไม่มีอะไร จึงอยากให้ภรรยาได้นั่งดูเขาทำงานแล้วค่อยกลับบ้านด้วยกัน
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ กินอิ่มแล้วตาก็เริ่มจะง่วง”
ความเป็นคนไม่พาลรู้จักควบคุมอารมณ์ความรู้สึก ทำให้กวินยิ่งรู้สึกเกรงใจภรรยา
ด้วยความเหนื่อยที่เดินดูเสื้อผ้ามาทั้งวัน แถมท้องก็เริ่มตึง เจอแอร์เย็นๆเข้าไป ก้ามปูจึงเผลอหลับอยู่บนโซฟาในห้องทำงานของสามี
บรรดาพนักงานด้านนอกต่างพากันซุบซิบถึงการมาของภรรยาเจ้านายในวันนี้ หลายคนคิดว่าเธอต้องการมาแสดงตัวแสดงความเป็นเจ้าของในตัวสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย
“ตัวจริงเขามาแสดงตัวแบบนี้ ไม่รู้ว่าตัวปลอมจะยอมถอยไหมนะ”
ลูกน้องคนสนิทของมณีที่คอยทำหน้าที่ส่งข่าวรายงานความเคลื่อนไหวตลอด พูดลอยๆเสียงดังขึ้นมาเพื่อหวังให้ใครบางคนได้ยิน
“มันก็ขึ้นอยู่กับความด้านของอีกฝ่าย บางคนก็รู้ดีรู้ชั่วแต่บางคนก็แยกไม่ออกเพราะทำชั่วคนไม่รู้ว่าความดีเขาทำกันแบบไหน”
เลขาสาวหน้าห้องของกวินพูดเสริมเพื่อนพนักงาน เพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างขวัญวิภากับเจ้านายมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เมื่อถูกรุมแบบนี้ หญิงสาวก็อดทนที่จะนั่งฟังต่อไปไม่ไหว ขวัญวิภาจึงเดินออกมาแอบนั่งร้องไห้คนเดียวอยู่ที่บริเวณบันไดหนีไฟ
“ร้องไห้มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นนะ”
เสียงของสายฟ้าทำให้หญิงสาวต้องปาดน้ำตา เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเธอกำลังอ่อนแอแค่ไหน
“คุณกวินเขาแต่งงานแล้ว เธอก็มีลูกถึงแม้จะเลิกกับสามี แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำลายครอบครัวคนอื่นนะ”
สายฟ้าเป็นเพื่อนพนักงงานที่สนิทกับขวัญวิภาที่สุด เพราะเข้ามาทำงานพร้อมกันและเป็นคนที่มาจากจังหวัดเดียวกันด้วย
“แต่คุณกวินเขาแต่งงานเพราะพ่อกับแม่เขาบังคับ นายก็รู้ว่าเขารักฉันมากแค่ไหน ถ้าฉันไม่ท้องป่านนี้คนที่ยืนเป็นเจ้าสาวในงานแต่งต้องเป็นฉันไม่ใช่แม่ก้ามปู”
ขวัญวิภาเธอเป็นคนรักเก่าของกวิน แต่ตัวเธอเองที่เป็นฝ่ายนอกใจไปมีสัมพันธ์กับลูกค้าที่มาจากเมืองเกาหลีจนเธอตั้งท้อง และอีกฝ่ายก็ดันมีภรรยาอยู่แล้ว เธอจึงได้เงินไว้ก้อนหนึ่งเพื่อเลี้ยงลูกแต่ทางนู้นก็ยังคงส่งเสียและหาโอกาสมาหาลูกชายอยู่ตลอด เพียงแต่ยุติความสัมพันธ์สามีภรรยากับขวัญวิภาทันทีที่กลับไปประเทศเกาหลี
เมื่อไม่เหลือใคร หญิงสาวจึงคิดจะกลับมาทวงคนรักของเธอคืนถึงแม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้วก็ตาม
“เขาเคยรักเธอมากกว่าขวัญ ถ้าตอนนี้เขายังรักเธออยู่เขาไม่ทำแบบนี้หรอก ที่เขายังดูแลยังช่วยเหลือเธอทุกอย่าง เพราะสงสารและเห็นแก่ความรักที่เคยมีให้กันมากกว่า เราก็เตือนเธอได้แค่นี้นะ เจ็บตอนนี้ ยอมรับความจริงแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ดีกว่า”
ขวัญวิภารู้ว่าสิ่งที่เพื่อนเตือนคือความจริงทั้งหมด แต่เธอยังยอมรับไม่ได้ จึงขอเลือกที่จะหลอกตัวเองต่อไป
ตอนที่2งานวิวาห์ของคุณหนู งานแต่งานถูกจัดขึ้นหลังจากที่หนูนายอมตกลงไม่ถึงเดือน เพราะทางภูษิตยินยอมพร้อมใจตั้งแต่แรก เพราะแอบชอบหนูนามาตั้งนาน โดยที่ตัวหญิงสาวไม่เคยรู้เลย กนกวรรณไม่คิดว่าข่าวการแต่งงานของลูกสาวเธอจะโด่งดังไปทั่วภาคเหนือ บรรดาเชื้อเจ้าเก่า พ่อเลี้ยงจากจังหวัดต่าง นักการเมืองท้องถิ่นต่างก็ถูกพ่อเลี้ยงเชิญมาร่วมงาน กนกวรรณอดคิดไม่ได้ ว่านี่คือการประกาศตัวว่าพ่อเลี้ยงชนินทร์กำลังมีใบเบิกทางในวงราชการ “ตื่นเต้นเหรอ” เจ้าบ่าวที่สาวๆทั้งจังหวัดต่างหมายปอง ถามเจ้าสาวเพราะสัมผัสได้ถึงมือที่สั่นของหนูนาเมื่อเขาจับมือเธออยู่กลางเวที “พี่ภูคะ หนูนาตาลายไปหมดเลย” ปกติก็ไม่ใช
ตอนที่5มาทีหลังแต่ถูกต้อง “ได้กี่หน้าแล้ว พี่เห็นเราทำงานเลยยังไม่อยากขึ้นมากวน” ภูษิตคิดแบบที่พูดด้วยส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่ง เขายังไม่กล้าเจอหน้าภรรยาเพราะรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ไปแอบคุยโทรศัพท์กับคนรักเก่า “ได้นิดหน่อยค่ะ ยังไม่ค่อยมีสมาธิ” พูดจบหนูนาก็ลุกจากโต๊ะทำงานลงมานอนบนเตียง พร้องกับทำท่ากระดิกนิ้วให้อีกฝ่ายตามมานอนข้าง ๆ เธอ ถึงแม้จะรู้สึกงง ๆ แต่ก็ภูษิตก็ยอมทำตาม เพราะใจจริงก็อยากนอนกอดภรรยาให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างอยู่แล้ว “หนูนาแค่เรียกมานอนเฉยๆ แต่มาถึงมานอนกอดได้อย่างไรกันคะ” ยิ่งคนตัวเล็กในอ้อม
ตอนที่1คุณหนูจะแต่งงาน “ป้าศรีฉันล่ะเหนื่อยกับการสอนหนูนาจัง ยังเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ แล้วเมื่อไหร่จะโตกับเขาเสียที” กนกวรรณระอากับกนิษฐาลูกสาวคนเล็กของเธอเหลือเกินที่วันๆเอาแต่นั่งเขียนนิยายและวิ่งเล่นเหมือนเด็กๆทั้งที่อายุก็ยี่สิบสามแล้ว “คุณหนูเธอก็ยังไม่โตนะคะ ป้ามองดูกี่ทีก็ยังเป็นเด็กตัวน้อยๆ ตัวเล็กๆ ที่ชอบวิ่งตามคุณท่านไปทำงานตลอด” ป้าศรีเป็นคนเก่าแก่ของบ้าน ตั้งแต่สมัยมารดาของกนกวรรณอีกทีและยังเป็นคนเลี้ยงหนูนามาตั้งแต่เกิดอีกด้วย“ก็เข้าข้างกันแบบนี้ ถึงได้ไม่ยอมฟังฉันเลย” กนกวรรณไม่เคยเถียงสองคนนี้ชนะ เพราะป้าศรีกับหนูนาจะอยู่ฝ่ายเดียวกันตลอด “คุณท่านคะแล้วเรื่องที่พ่อเลี้ยงชนินทร์อยากจะให้ลูกชายของ
ตอนที่3เพื่อนหญิงคนสนิท วันนี้ภูชิตตั้งใจจะพาหนูนากลับบ้านไปหาแม่ของเธอ เพื่อค่อยๆให้เธอหายคิดถึง เพราะชายหนุ่มเข้าใจดีว่าภรรยาของเขาเป็นคนอ่อนไหว “แม่ฝากขนมไปให้กนกวรรณด้วยนะ เมื่อเช้าแม่ไปตลาดมาเจอขนมโบราณหลายอย่าง” ภาวิณีมารดาของภูชิตเธอเป็นแม่บ้านตัวจริง ที่ชีวิตมีแต่งานบ้านดูแลลูกและสามี ส่วนเรื่องนอกบ้านต่าง ๆพ่อเลี้ยงชนินทร์ไม่เคยให้เธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย “ขอบคุณนะคะ” ลูกสะใภ้ยกมือไว้อย่างนอบน้อม “คุณแม่ครับน้องล่ะ” ภูชิตถามหาสมิตา เพราะตั้งแต่ตื่นเช้ามายังไม่เห็นน้องสาวเลย “น้องกลับไปมหาวิทยา
ตอนที่6คนที่ถูกต้อง “ภู ในที่สุดคุณก็มาเยี่ยมเมย์” หญิงสาวหน้าตาสวยในชุดคนป่วย รีบลุกจากที่นอนขึ้นมานั่งเมื่อเห็นอดีตคนรักมาเยี่ยม “เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะหนูเมย์” ยังไม่ทันที่ภูษิตจะได้ตอบอะไร ภาวิณีก็ทำหน้าที่แม่สามีที่ดี ส่งเสียงตามมา “สวัสดีค่ะคุณแม่ เมย์คิดว่าภูมาคนเดียว” คนป่วยชักสีหน้าไม่พอใจ “เข้ามาเลยหนูนา” ภาวิณีหันไปข้างหลังและกวักมือเรียกลูกสะใภ้ที่กำลังถอดรองเท้าอยู่ “มากันหมดเลยทั้งแม่และเมียตาภู ตอนงานแต่งงานหนูเมย์ไม
ตอนที่4เมื่อคนเก่าอยากมีบทบาท “ขนของอะไรเยอะเลย” ภาวิณีรีบเดินออกมาที่หน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงรถของลูกชายวิ่งเข้ามาจอดที่โรงรถ “หนังสือนิยายของหนูนาเองค่ะ” ลูกสะใภ้ส่งยิ้มหวานให้แม่สามี เพราะเธอคิดว่า ภาวิณีคงรู้สึกขำที่เธอขนนิยายมาเสียหลายลัง “เป็นนักเขียนก็ต้องชอบอ่านก่อนใช่ไหม ไว้วันหลังแม่จะขออ่านผลงานของหนูนาบ้างนะลูก” บ้านของครอบครัวพ่อเลี้ยงชนินทร์ วันทั้งวันแทบจะดูเงียบเหงา หนูนาแอบคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธอไม่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ช่วงกลางวันคงมีแค่ภาวิณีกับแม่บ้านเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน&nb






![นางบำเรอ [5P]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
