คราแรกที่ได้สบตากับสาวน้อยหน้าหวาน ผู้ซึ่งลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนรัก ประธานหนุ่มรูปงามเจ้าของโรงแรมอันเลื่องชื่อก็เกิดหัวใจเต้นแรงดุจหนุ่มน้อยอ่อนหัด แต่เรื่องนั้นมองข้ามมันไปเถอะ ในวินาทีนั้นเขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องครอบครองเธอให้จงได้ แม้วิธีการบางอย่างจะดูไร้ยางอายไปหน่อยเขาก็ไม่สน ขอเพียงได้สมใจปรารถนาต่อให้ถูกมองว่าหน้าด้านเขาก็พร้อมยิ้มรับ
더 보기“เอ่อ เจ้านายครับ เจ้านาย ถึงโรงแรมแล้วครับ” โทนี่เปิดประตูรถลงมาเรียกเจ้านายที่เบาะโดยสารหลังรถอย่างเกรงอกเกรงใจเนื่องจากเขาเรียกมาสักพักแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้านายมาดเข้มของเขาจะตื่นจากนิทรา ออกจากบ้านมาก็หลับทันที เห็นทุกทีที่ออกจากบ้านต้องคอยเช็คข่าว และตารางงานที่จะต้องทำในวันนี้ตลอด สงสัยจะเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้วันนี้เจ้านายเข้ามาโรงแรมสายกว่าปกติมากโข
ภาคภูมิ พิชญะสกุล หนุ่มรูปหล่อบ้านรวย ผู้กุมบังเหียนใหญ่คนปัจจุบันของโรงแรมและรีสอร์ตในเครือ Paradise ที่มีสาขาทั้งในและต่างประเทศ เขามีพร้อมทั้งฐานะและหน้าตาเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถเข้ามาครอบครองสี่ห้องหัวใจของเขาได้เมื่อถึงเวลาเขาก็คงจะเจอคนที่หัวใจต้องการเอง เขาจึงไม่อยากคบใครฆ่าเวลา แค่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ตามธรรมชาติของผู้ชายกับผู้หญิงที่ไม่มีข้อผูกมัดจะดีกว่าเพื่อรอใครบางคนที่จะมาดูแลหัวใจของเขาในอนาคต ซึ่งตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนและจะมีจริงหรือไม่ “อือ รู้แล้ว แกจะตะโกนทำไมวะโทนี่ ฉันแค่พักสายตาไม่ได้หลับลึกขนาดนั้น” เสียงเข้มเอ่ยเสียงขุ่นกับเลขาพ่วงตำแหน่งลูกน้องคนสนิทก่อนจะก้าวเท้าลงจากรถคันหรูพาร่างกายสมบูรณ์แบบเดินเข้าไปในโรงแรม “นี่ฉันผิดเหรอวะจอห์นแล้วฉันก็ไม่ได้ตะโกนด้วยนะเว้ย แกก็ได้ยิน” โทนี่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่กกับจอห์นที่กำลังยืนหัวเราะเขาอยู่ “ยังไม่ชินอีกเหรอวะ ไปเถอะ เจ้านายเดินไปโน่นแล้ว” จอห์นว่าก่อนจะลากคอโทนี่ที่ทำหน้าหมดอาลัยตายอยากเดินตามเจ้านายไป “สวัสดีครับบอส/สวัสดีค่ะบอส” เมื่อเห็นว่าเจ้านายรูปหล่อเข้ามาในโรงแรมเหล่าพนักงานต่างทำความเคารพเจ้านายหนุ่มไปตลอดทาง เขาทำเพียงแค่พยักหน้าตอบและยิ้มน้อยๆ ให้กับลูกน้องของตนก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นผู้บริหาร แต่แล้วสายตาก็พลันไปสะดุดที่สาวน้อยหน้าหวานแต่แอบเซ็กซี่ในชุดนักศึกษาที่ล็อบบี้ของโรงแรมซึ่งกำลังคุยอย่างออกรสกับชายหนุ่มอีกคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งเขามั่นใจว่าเมื่อตอนเขาเข้ามาไม่เห็นหรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเท่าที่ควร เมื่อเท้าไวเท่าความคิดเขาก็พาร่างกายของตัวเองเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ทันทีทำให้โทนี่กับจอห์นที่ตามหลังมารีบเดินตามเจ้านายไป คนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานนั้นไม่ได้สังเกตรอบตัวว่ากำลังมีสิ่งมีชีวิตหน้าตาดีเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ และมาหยุดยืนอยู่ตรงด้านหลังสาวน้อยหน้าสวย “ไอภาค” ธีรเดชที่เงยหน้าขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกจ้องมอง พอรู้ว่าเป็นใครก็ร้องเรียก แต่เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ยิน ไม่รู้ว่ายืนเหม่ออะไรอยู่ ท่าทางเลื่อนลอยอย่างกับคนบ้า ตานี่เยิ้มเชียว หันสบตากับลูกน้องมันลูกน้องมันก็ได้แต่ส่ายหัวกันไปมา ทนไม่ไหวเขาเลยต้องลุกไปหาแล้วตบหน้าดัง เผียะ! “ไอ้ทรพีมือหรือตีนวะตบมาได้นะมึง” ภาคภูมิถึงกับสะดุ้งลูบหน้าตัวเองที่ตอนนี้เขาคิดว่ามันคงแดงแน่ๆ เพราะแรงตบที่กระแทกหน้าเขามันแรงไม่ใช่น้อยไอเพื่อนเวรตบมาได้ แล้วดูสิยัยตัวเล็กคนสวยนี่ก็นั่งขำเขาด้วย ฮึ่ย! “อ้าว ไอเวรนี่ เดี๋ยวพ่อก็ถีบให้อีกหรอ กูธีรเดชไม่ใช่ทรพีแล้วเป็นห่าอะไรวะ ยืนเหม่อเหมือนหมามองเครื่องบินเลย อย่าบอกนะว่าแอบคิดอะไรกับกู อย่าเชียวนะมึง” ธีรเดชลูบแขนตัวเองไปมาอย่างขนลุกเขาไม่นิยมชมชอบเพศเดียวกัน อย่างเขาเหมาะแก่เป็นพ่อพันธ์ุมากกว่า “ไอบ้าฉันไม่ได้ชอบไม้ป่าเดียวกัน พูดงี้เดี๋ยวกูขายไม่ออก” คำว่าขายไม่ออกเขาเน้นหนักเป็นพิเศษและสบตากับสาวน้อยในชุดนักศึกษาที่กำลังมองมาทางเขาพอดี “พี่ธีร์คะ พลอยขอขัดจังหวะการจีบกันของพี่แป๊บนึงนะคะ คือพลอยจะขอตัวไปเรียนก่อนน่ะค่ะเดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน คลาสสำคัญด้วย” เธอเห็นว่าธีรเดชพูดคุยกับคนที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากพอสมควรจนเธอคิดว่าควรที่จะพาตนเองออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว และอีกอย่างอีตาคนที่ชื่อภาคอะไรนั่นก็ชอบมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ชอบกล “อ่าฮะ แต่เดี๋ยวก่อนน้องพลอย พี่ลืมแนะนำเราเลยมัวแต่คุยเพลิน ภาค นี่แพรพลอย น้องสาวฉัน ลูกของคุณอาฉันน่ะ ส่วนนี่ภาคภูมิพี่ภาคเพื่อนสนิทพี่เองจ้ะ” ธีรเดชแนะนำสาวน้อยข้างกายให้กับเพื่อนสนิทได้รู้จักเพราะทั้งสองคนยังไม่เคยเจอกันมาก่อน เมื่อธีรเดชแนะนำแพรพลอยก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มและส่งยิ้มน้อยๆ ให้ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขาก็ตาม แต่เธอก็ไม่อยากให้พี่ชาย และเขามองตัวเองไม่ดีเลยต้องทำตามมารยาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องพลอย” เมื่อได้รับรู้ว่าคนตรงหน้ามีศักดิ์เป็นน้องของเพื่อนสนิทเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะตอนแรกเขาคิดว่าคนตรงหน้าอาจจะเป็นเด็กของเพื่อนเขาแต่ตอนนี้รู้แล้วเขาเลยไม่ค่อยเก็บอาการ และสายตาเท่าที่ควร ชายหนุ่มใช้สายตาสำรวจสาวน้อยร่างบางจนได้ค้อนกลับมาเมื่อเจ้าตัวสบตากับเขาเข้าพอดี “รู้จักกับเพื่อนพี่ธีร์แล้วงั้นพลอยขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวไปไม่ทันแล้วเจอกันนะคะพี่ธีร์ สวัสดีค่ะ” แพรพลอยเอ่ยลากับธีรเดชและไม่ลืมที่จะลาภาคภูมิที่กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยสายตาแพรวพราว “แล้วเจอกันน้องรัก” ธีรเดชขยี้ผมสวยอย่างเอ็นดู “สวัสดีค่ะคุณภาคภูมิ” แพรพลอยเอ่ยลาภาคภูมิอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวออกไป แม้ว่าภาคภูมิจะอยากรั้งสาวเจ้าไว้ และอยากจะทำโทษที่โทษฐานเรียกเขาซะห่างเหิน แต่ก็ไม่อาจทำได้ จึงได้แต่มองตามร่างบอบบางไปจนลับสายตา เพราะเขายังไม่อยากทำให้ไก่ตื่นไปมากกว่านี้ แต่การกระทำของชายหนุ่มก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของลูกน้องคู่ใจที่ลอบสบตากันเป็นระยะอย่างรู้กัน “วันนี้แกมาทำอะไรที่นี่วะไอธี ไม่อยู่บริหารห้างกิ๊กก๊อกของแกแล้วเหรอ ถึงได้มีเวลามานั่งเล่นที่ห้องทำงานฉันเนี่ย” เขาแกล้งเย้าแหย่ธีรเดชให้มันยั๊วะ โทษฐานที่มันกล้าตบหน้าเขาโชว์สาววันนี้ "กิ๊กก๊อกบ้านป้าแกสิห้างฉันมันห้างมีระดับโว้ยที่มาวันนี้ก็แค่มานัดเจอน้องพลอยเพราะน้องฉันอยากกินเค้กของโรงแรมแกรายนั้นนะชอบอย่างกับอะไรดีซึ่งฉันว่ามันก็งั้นๆ แหละ” ธีรเดชกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ภาคภูมิส่ายหัวอย่างขำๆ เขาแค่แกล้งแหย่เล่นจริงๆ แล้วห้างมันใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศเชียวแหละเขาเอนหลังกับพนักพิงเก้าอี้ทำงานอย่างผ่อนคลาย ไม่ได้สนใจเอกสารที่รอการอนุมัติจากเขาอย่างเร่งด่วน ปกติเขาเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมาก ไม่เคยวอกแวกกับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นแต่วันนี้สติเขากระเจิดกระเจิงหมด ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น คิดถึงแต่น้องพลอยที่มองมุมไหนก็สวย ถึงแม้ตัวจะเล็กแต่ทรวดทรงองค์เอวไม่ธรรมดาถึงแม้จะมองแค่ภายนอก แต่เขาก็รู้ได้ด้วยสัญชาติญาณว่าภายใต้เสื้อผ้านั้นต้องมีสรีระที่งดงามแน่ๆ แต่แล้วสายตาอันเฉียบคมของเขาก็ไปสะดุดอยู่ที่โทรศัพท์เครื่องหรูของธีรเดชที่วางไว้บนโต๊ะ เนื่องจากเจ้าตัวไปเข้าห้องน้ำเมื่อคิดอะไรดีๆ ออกก็เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มาไว้ในมือตัวเองก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ยิ้มอะไรวะเจ้าเล่ห์ชอบกล แล้วนั่นมันโทรศัพท์ฉันนี่ เอาไปทำอะไรมาภาค” ธีรเดชเดินมาทรุดนั่งหน้าโต๊ะทำงานของเพื่อนตามเดิมหลังจากลุกไปเข้าห้องน้ำมา “ยืมมาโทรเข้าเครื่องตัวเองน่ะ พอดีว่าหาของตัวเองไม่เจอ สงสัยจะไม่ได้เอามา” เมื่อเห็นเพื่อนทำท่าสงสัยจึงส่งโทรศัพท์คืนเจ้าของไป “เอ่อ แกพาน้องพลอยมาแกไม่กลัวแฟนน้องเขาเข้าใจผิดคิดว่าแกจีบเหรอวะ” เขาถามคนที่กำลังเช็คโทรศัพท์ของตัวเองอยู่คงจะกลัวว่าเขาจะแกล้งอะไรล่ะสิ" “ประสาทฉันกับน้องพลอยเป็นพี่น้องกันเว้ย แล้วก็คงไม่มีใครเข้าใจผิดหรอกเพราะน้องพลอยไม่มีแฟนเข้าใจ๊” ร่างบอบบางใบหน้าสวยหมดจดในชุดนิสิตนักศึกษากำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ได้ฟังในสิ่งที่อาจารย์ผู้สอนกำลังบรรยายแม้แต่น้อยแต่ต้องมาสะดุ้งเมื่อรู้สึกเจ็บที่บริเวณแขนจนต้องลูบแขนไปมาเพื่อบรรเทาความเจ็บ “นี่ยัยชะนีหน้าสวย หล่อนเป็นอะไรยะ ทำหน้ายังกับยักษ์คิ้วนี่ขมวดซะยุ่งเชียว” ซินดี้สาวสวยในร่างชายชาตรีส่งเสียงกระซิบกระซาบกับเพื่อนสาวเนื่องจากเห็นว่าแม่เพื่อนรักไม่ได้สนใจจะจดเล็กเชอร์แม้แต่น้อย ทำหน้าตาอย่างกับจะไปฆ่าใครงั้นแหละ “แกจะหยิกฉันทำไมนังชาย เจ็บนะยะ ฉันก็แค่คิดอะไรนิดหน่อยแค่นั้นเอง” สาวสวยทำปากยื่นแล้วแว้ดใส่เพื่อนเสียงเบา เพราะไม่กล้าส่งเสียงดังรบกวนคนที่ตั้งใจเรียน แล้วหยิกหมับเข้าที่หน้าอกเพื่อนอย่างแรงเป็นการเอาคืน ไม่ได้คิดถึงใครสักหน่อย แค่ไม่ชอบสายตาที่เพื่อนพี่ชายที่ใช้มองเธอต่างหาก คนอะไรไม่มีมารยาทเลย จาบจ้วงซะไม่มี เธอต่อประโยคนี้ในใจไม่ได้เอ่ยออกไปให้เพื่อนฟัง “ว้าย อีนี่ซินดี้ย่ะ ซินดี้เรียกให้ถูกด้วยเดี๋ยวตบหน้าสั่น แล้วนี่หยิกมาได้หัวนมฉันแทบขาดเดี๋ยวแม่ยันโครมเลย” เมื่อทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้เพราะอยู่ในห้องเรียนเลยได้แต่ส่งสายตาจิกกัดไปให้คนที่นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างๆ แทน เห็นว่าเพื่อนไม่ได้สนใจตนเองแล้วแพรพลอยก็กลับมาจมอยู่กับความคิดของตัวเองต่อ จะตั้งใจฟังบรรยายตอนนี้ก็คงจะไม่รู้เรื่องแล้วเพราะไม่ได้สนใจฟังตั้งแต่แรก ไว้ค่อยถามซินดี้เอา เพราะอีตานั่นคนเดียวที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ ทำสมาธิเธอหดหายหมดแพรพลอยชะงักมือลงเมื่อได้ยินเสียงสามี ผลักไหล่กิ่งแก้วจนลงไปนอนราบกับพื้นอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาจ้องหน้าตัวต้นเหตุที่ทำหน้าตกตะลึงอยู่ ยื่นแขนออกมาได้ก็รวบร่างเธอเข้าไปกอดไว้แน่น “เจ็บมากไหมคนดี” ถามเสียงนุ่ม ลูบแก้มเบาๆ แล้วประทับจูบบริเวณที่มีรอยนิ้วมืออย่างทะนุถนอมก่อนจะตวัดสายตาคมดุมาจ้องมองกิ่งแก้ว “เจ็บสิคะถามได้ แล้วไม่ไปดูคนรักของพี่ภาคล่ะคะมายุ่งกับพลอยทำไม” พูดเสียงสะบัดมองหน้าสามีตาขุ่นขวาง พลางปัดมือที่กำลังลูบไล้ใบหน้าเธอออกอย่างเคืองๆ “โธ่! เมียจ๋า พี่ก็ดูอยู่นี่ไงครับ พี่มีคนรักคนเดียว เมียพี่ก็มีคนเดียว พี่ไม่เคยมีใครนอกจากน้องพลอยนะคะ อย่างอนพี่สิ กิ่งแก้วเขาเคยเป็นคู่นอนของพี่เมื่อนานมาแล้ว และมันก็เคยเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว พี่รักน้องพลอยเมียจ๋าของพี่แค่คนเดียว” กระซิบชิดหูเมีย “ภาคมาดูกิ่งหน่อยสิคะ กิ่งคือเจ็บหนักนะคะ ไม่ใช่มัน” ค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นจากพื้นมองดูภาคภูมิโอบกอดนังมารหัวใจด้วยสายตาอิจฉา “คุณทำร้ายเมียผมทำไมกิ่งแก้ว!” ภาคภูมิตวาดถามกิ่งแก้วเสียงดังอย่างไม่ไว้หน้า “มันทำร้ายกิ่งก่อนนะคะ ภาคต้องช่วยกิ่งไม่ใช่มัน อีบ้านี่มันต่อย มันตบกิ่งจนเ
เช้านี้ภาคภูมิควงเมียสาวคนสวยตามพฤตินัยและนิตินัยมาทำงานอีกเช่นเคยภาพที่ทั้งคู่เดินโอบประคองกันเข้ามายังโรงแรมเป็นภาพที่เหล่าพนักงานคุ้นชินกันดีกับท่าทางกระหนุงกระหนิงของทั้งคู่สร้างความอิจฉาให้กับพนักงานสาวๆ ไม่น้อยที่ได้แต่มองตามกันตาปรอย แต่ทุกคนต่างก็ลงความเห็นกันว่าช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมลงตัวกันอย่างที่สุด “น้องพลอยนั่งเล่นในห้องคนเดียวก่อนนะคะ เดี๋ยวอีกสักพักพี่ต้องไปประชุม” ภาคภูมิเดินโอบเมียสาวเข้ามาในห้องทำงาน พาเดินไปนั่งโซฟาตัวประจำของเธอแล้วล้มตัวลงนอนหนุนตักหลับตาลง “จะไปประชุมไม่ใช่เหรอคะ เดี๋ยวเสื้อก็ยับหมดหรอกลุกเถอะค่ะ” แพรพลอยส่ายศีรษะให้กับความขี้อ้อนของสามี ลูบศีรษะคนบนตักเบาๆ ดูเอาเถอะบอกแล้วยังไม่ขยับเลย เมื่อก่อนว่าติดเธอแจแล้วนะ พอตั้งแต่ที่ตกเป็นของเขาก็ติดเธอหนักยิ่งกว่าเงาตามตัวเสียอีก เวลาเขาจะไปไหนโดยไม่มีเธองอแงยิ่งกว่าอะไรเสียอีก แต่ส่วนมากก็ไม่ค่อยได้แยกกันเท่าไหร่ มีแต่ตอนที่เขาต้องไปประชุม นอกนั้นก็แทบจะไม่ปล่อยเธอไปไหนไกลตัวเลย “พี่ไม่อยากไปประชุมเลยอยากอยู่กับเมียจ๋ามากกว่า” จับมือบางมากดจูบที่กลางฝ่ามือแล้วยกแนบแก้มตัวเองอย่างอ้อนๆ “ไปประชุมแป๊บ
“น้องพลอยฟังนะคะ พี่อยากมีลูกอยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่นอยากมีลูกหน้าตาเหมือนเราสองคน น้องพลอยคงไม่ปล่อยให้สิ่งที่พี่ตั้งใจทำลงไปต้องศูนย์เปล่าด้วยการให้พี่ป้องกัน หรือน้องพลอยทานยาคุมหรอกนะ” ภาคภูมิจับไหล่บางแน่น พูดเสียงจริงจังแต่แพรพลอยก็ยังอ้อนขอให้เขาประวิงเวลาอยู่ดี “พลอยขอเวลาได้ไหมคะ ขอให้เราได้ใช้ชีวิตกันแบบสองคนก่อนแล้วเราค่อยมีลูกกันนะคะนะคะผัวขา” แพรพลอยโผกอดคนตัวโต เรียวแขนสวยโอบไปที่รอบคอแกร่ง ใบหน้างามซบอยู่ที่ไหล่หนาอย่างออดอ้อน “นี่พี่ต้องยอมอีกแล้วใช่ไหมคะ ก็ได้พี่จะให้เวลา แต่ถึงแค่น้องพลอยรับปริญญาเท่านั้นนะหลังจากนั้นเราจะแต่งงาน และมีลูกกันทันที” ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมใจอ่อนอีกแล้วส่วนแพรพลอยก็พยักหน้ารับแต่โดยดีโดยไม่มีข้อแม้อีก ช่วงเวลาที่อาบน้ำภาคภูมิไม่ได้ทำอะไรแพรพลอยมากไปกว่าจับจูบลูบไล้ เพราะเห็นว่าร่างกายเมียยังไม่พร้อม กุหลาบงามยังบวมแดง เขาเลยต้องอดทนอดกลั้น ออกจากห้องน้ำก็พากันไปแต่งตัว มีมือแกร่งคอยประคับประคองทำทุกอย่างให้คนถูกสูบแรงจึงแทบไม่ต้องทำอะไรเองเลย “น้องพลอยหิวยังคะ” ภาคภูมิเดินโอบเอวบางออกมาจากห้องนอนพาแพรพลอยไปนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นเปิ
หลังจากผ่านค่ำคืนที่แสนอ่อนหวานและเร่าร้อนมาตั้งแต่เมื่อคืนกลางดึกจวบจนกระทั่งล่วงเข้าเช้าวันใหม่ที่ภาคภูมิได้กระทำรักกับแพรพลอยอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย พอแพรพลอยทำท่าจะหลับภาคภูมิก็ทำให้แพรพลอยตื่นขึ้นมาอยู่อย่างนั้นจนร่างบางสลบคาอกภาคภูมิถึงได้ยอมปล่อยให้แพรพลอยได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายๆ ภาคภูมิที่ตื่นนานแล้วกำลังนอนยิ้มมองร่างบางของเมียสาวคนสวยที่เขาได้ประทับตีตราจองเป็นของเขาอย่างเป็นทางการแล้วด้วยสายตาอ่อนโยน ยื่นหน้าเข้าไปจูบที่ริมฝีปากบางอย่างแสนรัก แพรพลอยที่นอนหลับปุ๋ยอยู่พลิกตัวนอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าซุกอกกว้างพาดแขนเรียวสวยที่เอวสอบบดเบียดร่างกายเข้าแนบชิดกับร่างแข็งแกร่งอย่างต้องการความอบอุ่น ชายหนุ่มยิ้มบางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีกจนทำให้ทั้งสองร่างเสียดสีกันใต้ผ้านวมผืนหนา แก่นกายที่เพิ่งจะสงบลงไปได้ไม่กี่ชั่วโมงตื่นจากการหลับใหลขึ้นมาอีกครั้ง “น้องพลอยจ๋าตื่นสักทีเถอะคนดีอย่าทรมานผัวแบบนี้เลย” พึมพำกับคนที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างทรมานก้มหน้าซุกไซ้ซอกคอหอมที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยแดง แพรพลอยครางหงุงหงิงแต่ก็ยังไม่ยอมตื่นพลิกตัวหนีไปอีกด้านของเตียงกว้างทำให้
ภาคภูมิจับขาเรียวสวยที่หนีบแน่นกางออก ตาคมมองสำรวจร่างงดงามตรงหน้าอย่างหลงใหล ริมฝีปากแดงเข้มพรมจูบขาเรียวสวยทั้งสองข้าง ก่อนจะใช้มือใหญ่ลูบไล้กุหลาบงามอย่างแผ่วเบา แพรพลอยสะดุ้ง พยายามจะหนีบขาไว้ แต่ก็โดนมือหนาล็อกเอาไว้ ร่างสูงเลื่อนตัวลงนอนกลางหว่างขาขาว ค่อยๆ ก้มหน้าลงจูบลงหอมทั่วกุหลาบสาว “อือ พี่ภาคขาพลอยเสียว” แพรพลอยนอนครวญครางเสียงหวาน บิดตัวเร่าๆ “เมียจ๋า ครางหวานจัง ผัวขาช๊อบชอบ” ภาคภูมิพูดเสียงอู้อี้ชิดกุหลาบสีชมพูสดที่ตอนนี้มีน้ำหวานไหลเยิ้มออกมาให้เขาได้ชิม ตั้งแต่เขาเริ่มได้ปลดปล่อยความต้องการทางธรรมชาติกับหญิงสาวคนอื่นๆ ไม่เคยมีใครที่เขาทำแบบนี้มาก่อน เพราะเขาไม่สามารถทำแบบนี้กับคนที่ไม่ได้รักได้ แต่แพรพลอยคือคนที่เขารักและเธอก็คือข้อยกเว้นทุกอย่างสำหรับเขา“อืออออ หยุดเถอะคะจะขาดใจแล้ว” แพรพลอยจิกเล็บลงบนบ่ากว้างระบายความเสียวซ่าน ขาเรียวสวยก็หนีบใบหน้าหล่อคมไว้แน่น “อืมม บอกให้พี่พอแต่ขาเมียจ๋านี่หนีบหน้าพี่แน่นเลยนะคนดี” ภาคภูมิพูดเสียงอู้อี้ “ก็มันเสียว!” แพรพลอยพูดเสียงสะบัด ภาคภูมิละใบหน้าออกจากกุหลาบงามเคลื่อนตัวขึ้นมาทาบทับร่างบางที่นอนมองเขาด้วยดวงตาหวาน
แพรพลอยเดินไปหยิบเสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ แล้วเดินกลับออกมาคืนนี้และคืนต่อๆ ไปเธอคิดไว้ว่าจะไปนอนที่ห้องนอนเล็ก ซึ่งเธอจะยึดพื้นที่ให้เป็นของเธอนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยิ้มย่องในใจเมื่อเข้ามาได้เธอก็จัดการล็อกประตูอย่างเสร็จสรรพ ถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายเพื่อเตรียมตัวนอน แค่คิดว่าจะได้นอนแบบสงบสุขเธอก็มีความสุขแล้ว ใช้เวลาอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง บำรุงผิวพรรณอีกครึ่งชั่วโมง รวมแล้วเธอใช้เวลาไปประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากเสร็จขั้นตอนทุกอย่างแล้วแพรพลอยก็นอนเล่นโทรศัพท์ คุยกับเพื่อนๆ และเช็คข่าวสารต่างๆ บนโลกโซเชียลมีเดียจนกระทั่งเริ่มง่วง และหลับไปในที่สุด ส่วนภาคภูมิตอนนี้กำลังนั่งอ่านแฟ้มเอกสารที่โทนี่และอเล็กซ์เอามาให้เขาอย่างจริงจัง เพราะเขาไม่อยากให้งานของเขาทุกงานออกมาผิดพลาด และเขาก็เกือบจะเผลอร้องไชโยออกมาเมื่อโทนี่บอกว่านี่เป็นแฟ้มสุดท้ายแล้ว เขาจะได้ไปนอนกอดแม่ทูนหัวคนสวยของเขาสักที หลังจากแยกกันมาสองชั่วโมงกว่าเกือบสามชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่ติดไองานบ้าๆ นี่ป่านนี้เขากับน้องพลอยไปถึงไหนแล้ว คิดอย่างเซ็งๆ ได้แต่หวังว่าแพรพลอยจะยังไม่เข้านอน หลังจากเคลียร์งานเสร็จภาคภูมิก็ตรงดิ่
댓글