Share

บทที่ 46 ใต้เท้าหน้ากากเหล็ก

Author: BigM00N
last update Last Updated: 2025-05-25 19:50:25

ยามที่โม่ชิงเยว่กลับมาที่เรือนของตนก็พบว่ามีคนมารอนางในห้องนอนส่วนตัวแล้ว โม่ชิงเยว่ไล่สาวใช้ของตนเองออกไปแล้วจึงได้เดินเข้าในห้องนอนด้วยสีหน้าที่ยังคงมีรอยยิ้มระบายอยู่

“ข้าบอกให้ท่านไปรักษาตัวมิใช่หรือ ลักลอบกลับเข้ามาเช่นนี้บาดแผลของท่านคงจะปริแตกไปแล้วกระมัง” โม่ชิงเยว่เอ่ยพลางเดินเข้าไปหาเขาแล้วยื่นมือไปปลดสายคาดเอวของเขาอย่างคุ้นชินทำให้ซ่งเหวินจิ้งรีบยื่นมือมาจับมือของนางเอาไว้

“เจ้าทำเช่นนั้นทำไม”

“ก็ท่านบอกกับข้าเองว่าจะส่งน้องสาวของท่านไปอยู่สำนักนางชี ข้าหวังดีก็เลยสั่งให้คนช่วยโกนศีรษะให้แล้วส่งนางไปจำวัดแทนท่านอย่างไรเล่า” โม่ชิงเยว่เอยพลางพยายามดึงมือของตนเองให้หลุดพ้นออกมาจากอุ้งมือของเขา

“ข้าหมายถึงการที่เจ้าไปพูดจาท้าทายเหยียนเซียวเช่นนั้นต่างหาก” คำพูดของซ่งเหวินจิ้งทำให้โม่ชิงเยว่เลิกคิ้วขึ้น แต่เมื่อนางคิดถึงคำพูดของตนเองในวันนี้นางก็ยิ้มออกมา

“ข้าหรือพูดจาท้าทายเขา ข้าก็แค่บอกให้เขารับรู้ว่าลูกๆ ของข้าไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามแตะต้อง” เมื่อโม่ชิงเยว่เอ่ยเช่นนี้ซ่งเหวินจิ้งก็ส่ายหน้าแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ข้าจะปกป้องเจ้ากับลูกเอง” คำพูดของเขาทำให้โม่ชิงเยว่ส่ายหน้า

“ข้าไม่กล้าคาดหวังในตัวท่านแล้ว” เมื่อนางเอ่ยเช่นนี้เขาก็ดึงร่างของนางเข้ามาแนบชิดกับเขาแล้วก้มหน้าลงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“เชื่อข้าเถอะ ต่อไปนี้ข้าจะไม่ทำผิดต่อเจ้าอีกแล้ว” เขาเอ่ยพลางจ้องมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและจริงจังสีหน้าของเขาและการแนบชิดเช่นนี้ทำให้โม่ชิงเยว่อดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้นางก้มหน้าหลบตาเขาแล้วเอ่ยออกมาเสียงเบา

“แผลของท่านเป็นเช่นไรบ้าง” เห็นนางเปลี่ยนเรื่องเช่นนี้ซ่งเหวินจิ้งก็ทอดถอนใจออกมาแล้วพยายามปลอบใจตนเองว่าคำพูดหรือจะสู้การกระทำ ต่อให้เขาประกาศปาวๆ ว่าจะดูแลนางให้ได้ก็ไม่เท่ากับเขาพยายามปกป้องให้นางและลูกอยู่รอดปลอดภัยได้หรอก ดังนั้นเขาจึงได้ยินยอมปล่อยมือแล้วเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“ดีขึ้นมากแล้ว” เขาเอ่ยพลางเบี่ยงกายหลบนางทำให้โม่ชิงเยว่พลันหัวเราะออกมาเบาๆ

“ท่านไม่อยากจะใช้บาดแผลของท่านมาเรียกร้องความเห็นใจจากข้าแล้วหรือ” คำถามของนางทำให้ซ่งเหวินจิ้งส่ายหน้า

“เจ็บเสียยิ่งกว่าตอนที่ถูกลอบยิงด้วยธนูพิษเสียอีก เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าตั้งใจจะช่วยรักษาบาดแผลให้ข้า” คำถามของเขาทำให้โม่ชิงเยว่เอ่ยวาจาโต้ตอบกลับไปในทันที

“หากข้าไม่ได้รักษาบาดแผลให้ท่านป่านนี้บาดแผลของท่านคงจะย่ำแย่มากกว่านี้แล้ว” เมื่อนางเอ่ยเช่นนี้ซ่งเหวินจิ้งก็พยักหน้า

“ฝีมือการทำแผลของฮูหยินร้ายกาจเหนือผู้อื่นมากจริงๆ นั่นแหละ แม้แต่เมิ่งเส้าชิงก็ยังยกย่องฝีมือการทำแผลของฮูหยินว่าอาจจะเหนือกว่าเขาเสียอีก” คำพูดของซ่งเหวินจิ้งทำให้โม่ชิงเยว่ส่ายหน้า

“ข้าไม่กล้าเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับหมอเทวดาเมิ่งหรอก ก็แค่เคยได้มีโอกาสได้ช่วยท่านแม่ทำแผลให้ท่านพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ จึงพอจะช่วยรักษาบาดแผลเบื้องต้นได้เพียงเท่านั้น” คำพูดของโม่ชิงเยว่ทำให้ซ่งเหวินจิ้งหัวเราะออกมาเบาๆ

“ข้าอดนับถือความอดทนของท่านแม่ทัพโม่ไม่ได้จริงๆ เมื่อคิดได้ว่าเขาจะต้องได้รับความเอาใจใส่จากบุตรสาวผู้มีความกระตือรือร้นในการช่วยรักษาบาดแผลของผู้อื่นเช่นเจ้าเป็นประจำเช่นนี้”

“แสดงว่าท่านไม่ยินดีที่จะได้รับความเอาใจใส่ของข้าสินะ เฮ้อ ข้าก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าสามีที่จากไปแล้วของข้าจะต้องไม่ชอบข้ามากแน่ๆ ตอนนี้เขาพิสูจน์ให้ข้าเห็นแล้วว่าแค่ความเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ ของข้าเขายังไม่ยินดีจะรับเลย” เมื่อโม่ชิงเยว่เอ่ยเช่นนี้ซ่งเหวินจิ้งก็ขบฟันแน่น

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าชอบเจ้าแล้วจะไม่ยินดีที่จะรับความเอาใจใส่จากเจ้าได้อย่างไร”

“ดี! เช่นนั้นก็ปลดสายรัดเอวของท่านออกซะ” เมื่อโม่ชิงเยว่เอ่ยเช่นนี้ซ่งเหวินจิ้งก็สบถออกมาเบาๆ แล้วก็ยินยอมคลายสายรัดเอวออก คลายเสื้อคลุมตัวนอกตามด้วยเสื้อคลุมตัวในแล้วก็หันหลังให้นางในทันที

โม่ชิงเยว่เผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมาแล้วจึงได้ลงมือแกะผ้าพันแผลของเขาออก นางนิ่วหน้าในทันทีเมื่อพบว่าบาดแผลของซ่งเหวินจิ้งมีเลือดซึมออกมาอีกแล้ว

“ท่านนั่งลงได้ไหมข้าทำแผลให้ท่านไม่ถนัด” เมื่อนางเอ่ยเช่นนี้เขาก็เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วก็เอียงแผ่นหลังให้นาง โม่ชิงเยว่จึงได้ดึงขวดยาใบเล็กที่นางพกเอาไว้ตลอดเวลาออกมาแล้วโรยลงไปบนบาดแผลของเขา เสียงสูดหายใจเข้าพร้อมด้วยเนื้อตัวที่สั่นระริกเพราะความเจ็บของเขาทำให้โม่ชิงเยว่พลันยิ้มออกมาในทันที

“หากไม่อยากให้ข้าลงมือรุนแรงเช่นนี้ต่อไปท่านก็ควรจะระมัดระวังให้มากสักหน่อย” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ปกปิดความสาสมใจเอาไว้ไม่มิดทำให้ซ่งเหวินจิ้งอดทอดถอนใจออกมาไม่ได้

“ได้! ต่อไปข้าจะระวังตัวให้มากกว่านี้ ขอบคุณฮูหยินสำหรับความเป็นห่วงของท่าน” ซ่งเหวินจิ้งเอ่ยพลางสูดลมหายใจเข้าไปทางปากอีกครั้งเมื่อโม่ชิงเยว่ใช้นิ้วมือของนางเกลี่ยยาผงให้กระจายไปจนทั่วบาดแผล

“ท่านนั่งนิ่งๆ สิ” โม่ชิงเยว่เอ่ยพลางยิ้มออกมา ส่วนซ่งเหวินจิ้งยามนี้ได้รับความเจ็บปวดจนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่ผุดออกมา

“ท่านแม่พวกท่านกำลังทำอะไรกันอยู่หรือเจ้าคะ” เสียงของซ่งจื่อเหยาทำให้ทั้งโม่ชิงเยว่และซ่งเหวินจิ้งหันไปมองที่หน้าประตู ยามนี้ซ่งจื่อเหยา ซ่งจื่อเยว่รวมไปถึงชุ่ยเหมยกำลังยืนจ้องมองพวกเขาอยู่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง

“ชุ่ยเหมยรีบปิดประตู” เมื่อโม่ชิงเยว่เอ่ยเช่นนี้ชุ่ยเหมยก็รีบดันเด็กๆ ให้เขาไปในห้องส่วนนางก็รีบปิดประตูห้องให้เจ้านายแล้วก็รีบสำรวจว่าเมื่อครู่นี้มีคนนอกเห็นบ้างหรือไม่ว่าฮูหยินของนางอยู่ในห้องตามลำพังกับบุรุษ แถมยังเป็นบุรุษที่สมควรจะต้องนอนอยู่ในโลงเสียด้วยสิ...

ทั้งซ่งจื่อเหยาและซ่งจื่อเยว่ต่างก็จ้องมองมารดาของพวกเขาที่กำลังอยู่ในห้องตามลำพังกับบุรุษผู้หนึ่ง แถมยามนี้บุรุษผู้นั้นก็กำลังเปลือยแผ่นหลังอยู่ตรงหน้ามารดาของพวกเขา ซ่งจื่อเหยาเม้มปากแน่นแล้วเดินเข้าไปใกล้มารดาเมื่อเห็นว่าบุรุษผู้นั้นมีบาดแผลอยู่นางก็จ้องมองมารดาแล้วเอ่ยถามออกมาตามตรง

“ทำไมบุรุษผู้นี้จึงมาอยู่ในห้องของท่านแม่ได้ ท่านแม่เคยสอนว่าสตรีเช่นพวกเราไม่ควรจะอยู่กับบุรุษอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวตามลำพังมิใช่หรือ” คำถามของบุตรสาวทำให้โม่ชิงเยว่ขมวดคิ้ว นางดึงมือของตนออกจากแผลของซ่งเหวินจิ้ง พันผ้าปิดบาดแผลให้เขาใหม่แล้วจึงได้หันไปเอ่ยกับลูกๆ ของนางด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เขาได้รับบาดเจ็บแม่ก็เลยช่วยทำแผลให้เขา”

“ข้ารู้จักเขา เขาคือใต้เท้าหน้ากากเหล็กผู้นั้น” คำพูดของซ่งจื่อเยว่ทำให้ทั้งโม่ชิงเยว่และซ่งเหวินจิ้งต่างก็ประหลาดใจในคำพูดของเขา

“ดวงตาคู่นี้ข้าจดจำได้” คำพูดของเด็กชายตัวน้อยทำให้ซ่งเหวินจิ้งยิ้มออกมา

“คุณชายน้อยมีความจำที่ดีมากทีเดียว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 66 ความเบิกบานของท่านโหว

    ยามที่ซ่งเหวินจิ้งตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือม่านมุ้งในห้องนอนของโม่ชิงเยว่ที่ปรากฏเข้าสู่สายตา เขากะพริบตาอีกครั้งแล้วจึงได้พยายามทบทวนว่าเรื่องเมื่อคืนนี้เป็นความฝันหรือว่าเป็นความจริงกันแน่ กลิ่นกายอันหอมกรุ่นของนางแผ่กำจายไปทั่วม่านมุ้งอีกทั้งยังดูเหมือนว่าจะหอมกรุ่นติดตามร่างกายของเขาไปด้วย อีกทั้งปฏิกิริยาทางร่างกายที่ไม่เหมือนเดิมของเขาทำให้เขารู้ว่าสัมผัสอันน่าหลงใหลเมื่อคืนนี้ไม่ใช่แค่เพียงความฝัน เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็ทำให้มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของเขาในทันที“นอนตาลอยแล้วยิ้มราวกับคนเสียสติเช่นนั้นท่านทำให้ข้าชักจะรู้สึกหวาดกลัวท่านแล้วนะ” เสียงทักของโม่ชิงเยว่ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งเหวินจิ้งพลันหายไปในทันที“มีสิ่งใดให้น่ากลัวกัน” เขาเอ่ยพลางพลิกตัวแล้วดึงผ้าห่มอันหมิ่นเหม่ขึ้นมาคลุมร่างกายของตนเองเอาไว้ ด้วยไม่รู้ว่าคนที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าเตียงนั่งจ้องมองเขานานเท่าไหร่แล้ว“แล้วเจ้ายกเก้าอี้มานั่งจ้องมองข้าเช่นนี้ทำไมกัน” เมื่อเขาถามเช่นนี้โม่ชิงเยว่ก็ยิ้มออกมา“เมื่อคืนนี้มีคนบอกกับข้าว่าอยากจะตื่นขึ้นมาพร้อมกันกับข้ามิใช่หรือ ข้าก็เลยมานั่งรอให้ท่า

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 65 ปรนนิบัติ

    หลังจากดูพลุไฟแล้วซ่งเหวินจิ้งและโม่ชิงเยว่ก็เดินไปส่งเด็กๆ กลับเรือนด้วยตนเอง แน่นอนว่าซ่งเหวินจิ้งย่อมจะต้องเดินตรวจตรารอบๆ เรือนด้วยตนเองอีกครั้งและยังกำชับให้คนของเขาคอยคุ้มกันจวนให้ดี อีกทั้งยังสั่งสาวใช้ภายในเรือนให้วันพรุ่งนี้ย้ายข้าวของเครื่องใช้ของซ่งจื่อเยว่และซ่งจื่อเหยาไปที่เรือนของโม่ชิงเยว่ เมื่อสั่งการทุกคนเสร็จเรียบร้อยดีแล้วเขาจึงได้เดินไปที่เรือนของโม่ชิงเยว่เพื่อตรวจตราความเรียบร้อยอีกครั้ง พอเห็นว่าการรักษาความปลอดภัยของเรือนนี้แน่นหนาดีแล้วเขาจึงได้เข้าไปหาโม่ชิงเยว่ที่กำลังนั่งจิบน้ำชาอยู่ภายในเรือน“ในเมื่อลงนามสงบศึกแล้ว คนของแคว้นต้าเป่ยก็ไม่น่าจะสร้างความร้าวฉานด้วยการลอบโจมตีท่านและครอบครัวอย่างที่ท่านกำลังกังวลอยู่” คำพูดของโม่ชิงเยว่ทำให้ซ่งเหวินจิ้งส่ายหน้า“แคว้นต้าเป่ยแม้ว่าจะปกครองด้วยเชื้อพระวงศ์สกุลเซียว แต่สกุลที่กุมอำนาจทางกองทัพก็คือสกุลหม่า ข้าที่พึ่งจะฆ่าผู้นำสกุลและนักรบอีกหลายคนของสกุลหม่าย่อมจะต้องกลายเป็นเป้าแห่งความแค้นเคืองของพวกเขา แม้ว่าฮ่องเต้ของพวกเขาจะลงพระนามขอสงบศึกแล้ว แต่คนสกุลหม่าใช่ว่าจะก่อเรื่องไม่ได้ขอแค่เพียงสิ้นไร้หลักฐานก็ไ

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 64 สงบศึก

    ฮ่องเต้แคว้นต้าเป่ยส่งราชสาส์นมาขอเจรจาสงบศึก อีกทั้งยังยินดีที่จะส่งเครื่องราชบรรณาการมาถวายแด่ฮ่องเต้แคว้นเหลียนทุกปี เมื่อทางฝั่งแคว้นต้าเป่ยยินยอมอ่อนข้อให้จนถึงขั้นนี้มีหรือที่หลี่เฟยหลงฮ่องเต้จะปฏิเสธหลังจากนั้นจึงได้ส่งราชสาส์นตอบกลับไปด้วยความยินดี เมื่อมีสัญญาณว่าการศึกจะสงบอย่างถาวรเช่นนี้ ประชาชนในแคว้นต่างก็รู้สึกยินดีกันทั่วหน้า สงครามจบสิ้นแล้วก็หมายความว่าต่อไปพวกเขาจะได้อยู่อย่างสงบสุขไปอีกหลายปี ไม่ต้องกังวลว่าคนในครอบครัวจะต้องไปพลีชีพเพื่อปกป้องแคว้นที่ชายแดนอีกจวบจนเมื่อมีการลงนามสงบศึกอย่างเป็นทางการชาวบ้านร้านตลาดก็ต่างพร้อมใจกันจัดงานรื่นเริงเพื่อเฉลิมฉลอง พลุไฟนับหมื่นพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อโอ้อวดความงดงามท่ามกลางความมืดมิดในยามราตรี ซ่งเหวินจิ้งยืนนิ่งจ้องมองพลุไฟเหล่านั้นด้วยสีหน้ากังวลใจเมื่อคิดได้ว่าท่ามกลางงานเลี้ยงเฉลิมฉลองกำลังมีคนของแคว้นต้าเป่ยเข้ามาแทรกซึมอยู่ในเมืองหลวง ยามนี้เขาทำหอดูดาวให้สูงขึ้นแล้วรื้อหลังคาของหอดูดาวออก ทำให้เขาและครอบครัวสามารถชื่นชมความงามของพลุไฟได้อย่างเต็มที่“ท่านแม่! ท่านดูสิราวกับมีดอกไม้นับหมื่นกำลังแข่งกันเบ่งบานอย

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 63 ความทะเยอทะยานของเหยียนเซียว

    ในขณะที่ทางจวนโหวมีคนกำลังพยายามเร่งสานความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ทางจวนตระกูลเหยียนหรืออดีตจวนไหวกั๋วกงก็กำลังตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียด เหยียนฮูหยินผู้เคยได้ดำรงตำแหน่งฮูหยินของท่านกั๋วกงก็กำลังนั่งร้องไห้อ้อนวอนขอให้บุตรชายหาหนทางช่วยสามีที่ในยามนี้ถูกขังอยู่ในคุกของกรมอาญา“เจ้าไม่คิดจะช่วยท่านพ่อของเจ้าจริงๆ หรือ เสียแรงที่พ่อของเจ้าทำทุกอย่างก็เพื่อเจ้า” เหยียนฮูหยินเอ่ยพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาด้วยท่วงท่าที่ดูอ่อนแอและบอบบางราวกับว่าจะแตกหักได้ทุกเมื่อ“จะให้ข้าช่วยอย่างไร ให้ข้าไปคุกเข่าขอพระเมตตาแล้วทำให้ข้าและสกุลเหยียนทั้งสกุลถูกฝ่าบาทหวาดระแวงและคิดว่าพวกเราสกุลเหยียนมีความทะเยอทะยานในราชบัลลังก์เช่นนั้นหรือ ท่านแม่อย่าได้ลืมสิว่าฮุ่ยเอ๋อต้องเสียสละอะไรไปบ้าง ยามนี้นางกำลังได้รับความโปรดปรานท่านอยากให้ฝ่าบาททรงตระหนักได้ว่าการกระทำของท่านพ่อล้วนเป็นเพราะความทะยานอยากที่จะยึดครองกองกำลังของจวนโหวแล้วทำให้ชีวิตของฮุ่ยเอ๋อและองค์ชายน้อยต้องตกอยู่ในอันตรายหรือ” คำพูดของเหยียนเซียวทำให้เหยียนฮูหยินส่ายหน้า“นางได้รับความโปรดปรานถึงเพียงนั้น แต่กลับไม่คิดจะทำเพื่อเจ้าแ

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 62 ความสุขของท่านโหว

    ฤดูกาลผันเปลี่ยนจากฤดูหนาวอันหนาวเหน็บเริ่มย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่แสนจะงดงาม พออากาศเริ่มอุ่นขึ้นต้นทุนในการซื้อสมุนไพรก็ลดลงเมื่อต้นทุนลดลงผลกำไรก็มากขึ้น เมื่อได้ผลกำไรมากขึ้นก็ทำให้โม่ชิงเยว่เริ่มมีกำลังใจที่จะคิดค้นสินค้าชนิดใหม่ๆ เพื่อนำไปวางขายในร้านโม่เซียงของนาง“เหตุใดบรรดาถุงผ้าปักเหล่านี้จึงได้มีลวดลายแปลกตาเช่นนี้เล่า แล้วยังกล่องไม้สำหรับใส่ผงแป้งเหล่านี้อีกเจ้าไปเอาแนวทางในการคิดค้นรูปร่างและลวดลายพวกนี้มาจากไหน” คำถามของซ่งเหวินจิ้งทำให้โม่ชิงเยว่วางพู่กันที่ใช้วาดรูปลวดลายลงบนโต๊ะเขียนอักษรแล้วจึงได้สะบัดมือเพื่อคลายความเมื่อยล้า“หากข้าจะบอกว่าข้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากความฝันอันยาวนานของข้าท่านจะเชื่อหรือไม่” เมื่อนางเอ่ยเช่นนี้ซ่งเหวินจิ้งก็พยักหน้า“เหตุใดจะไม่เชื่อกันเล่า ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยฝันเสียหน่อย เพียงแต่ความฝันของข้าไม่เคยนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เช่นนี้” ซ่งเหวินจิ้งเอ่ยพลางเดินมานวดไหล่ให้โม่ชิงเยว่ด้วยความคุ้นชินส่วนโม่ชิงเยว่ก็เอนกายพิงพนักเก้าอี้แหงนหน้าขึ้นแล้วหลับตาเพื่อรับความสบายจากอุ้งมืออันอุ่นร้อนของเขาอย่างผ่อนคลาย“มันเป็นความฝันที่ยาวนานมาก ยาม

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 61 ความเป็นส่วนตัว

    เมืองหลวงมีข่าวครึกโครมอีกครั้งเมื่อจวนนิ่งอันโหวถูกลอบโจมตี แม้ว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายได้แต่นิ่งอันโหวกลับได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาททรงมีพระราชโองการให้เจ้ากรมอาญาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มงวด อีกทั้งยังทรงส่งองค์ชายรองมาควบคุมการสอบสวนด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้คนร้ายที่ถูกจับต่างก็ซัดทอดความผิดไปที่ไหวกั๋วกง ทำให้ไหวกั๋วกงต้องรีบเข้าวังเพื่อแก้ต่างให้กับตนเองและขอให้มีการตรวจสอบนักฆ่าเหล่านั้นอีกครั้งแต่แน่นอนว่าทางซ่งเหวินจิ้งได้เตรียมการเรื่องนี้เอาไว้แล้ว เขาไม่เพียงขอพระราชโองการคุ้มครองพยานให้กับเหล่านักฆ่า ยังส่งกองกำลังของตนเองคอยคุ้มครองครอบครัวและคนใกล้ชิดของเหล่านักฆ่าอย่างแน่นหนา เหล่านักฆ่าเองก็ไม่ใช่คนโง่พวกเขาเข้าออกจวนไหวกั๋วกงเป็นว่าเล่นย่อมมีลู่ทางสำรองเอาไว้บ้าง การที่พวกเขาลักลอบตีสนิทกับคนในจวนไหวกั๋วกงก็เพื่อให้พวกเขาเป็นคนมีตัวตนภายในจวน ไม่ใช่แค่เพียงนักฆ่าเงาที่ตายไปแล้วก็ไม่หลงเหลือร่องรอยให้ผู้คนตามหา ดังนั้นทางกรมอาญาย่อมสามารถที่จะหาคนมายืนยันฐานะของพวกเขาได้ว่าพวกเขาทำงานให้ไหวกั๋วกงจริงๆ ดังนั้นครั้งนี้ไหวกั๋วกงจึงไม่อาจจะปัดป้องความผิดของตนเองได้แล้ว“ท่านเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status