Home / รักโบราณ / เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว / 5. เจียวซินกับ “ไม่หย่าโว้ยยยย” (3)

Share

5. เจียวซินกับ “ไม่หย่าโว้ยยยย” (3)

last update Last Updated: 2025-06-22 10:56:14

“เฮ้อออ แล้วเจ้าว่าหากกลับไปอยู่สกุลเดิม 200 ตำลึงทอง จะพอใช้จ่ายหรือไม่”

“หากเป็นชาวบ้านถือว่ามีมากใช้มิหมดเพคะ แต่หากเป็นคุณหนูสกุลใหญ่ต้องใช้ต้องจ่ายให้บ่าวไพร่ เสื้อผ้า อาหาร และ…”

“พอ…พอเถิด 200 ตำลึงทองไม่พอใช้ใช่หรือไม่” เจียวซินยกมือห้ามหนิงเออร์ที่กำลังร่ายรายจ่ายที่ต้องจ่าย ยิ่งฟังยิ่งหน้ามืด

“หม่อมฉันคิดว่าอยู่ได้นานที่สุดไม่เกินสามหนาวเพคะ”

“สามหนาวท่านพี่คงได้กลับเมืองหลวงแล้ว แต่สงครามมิมีอะไรแน่นอน… ถ้าอย่างงั้นเราคงต้องช่วยกันแล้วหล่ะหนิงเออร์” เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นเจียวซินจึงร่างรายการความสามารถที่ตนมีตอนนี้ว่าจะมีสิ่งใดสร้างเงินได้บ้าง ถ้าอ้างอิงจากนิยายที่เคยอ่านมาก็คงจะเป็น

1. เปิดร้านอาหาร นางทำอาหารง่ายๆ เป็นแต่ไม่อร่อยถึงขั้นเปิดร้านได้แน่

“หนิงเออร์เจ้าทำอาหารอร่อยหรือไม่”

“อร่อยมากเพคะ” เด็กหญิงยิ้มแป้น

“ใครเป็นคนบอกเจ้าว่าอร่อย”

“ข้าบอกตัวเองเพคะ แหะๆ” เจียวซินยิ้มขำกับคำตอบของคนสนิท เช่นนั้นเปิดร้านอาหารตัดไปเลย ต่อมาก็น่าจะเป็น

2. โชคดีเจอของหายากแล้วนำไปขาย

เอิ่มมมม ของในจวนอ๋องหากนำไปขายมีหวังถูกจับเข้าคุกหลวงเป็นแน่ เจียวซินทำหน้าแหยงขึ้นมาทันที ข้อนี้ตัดๆ ไม่เอาด้วยจริงๆ

3. ผันตัวไปเป็นนักท่องยุทธภพ โช้งเช้ง โช้งเช้ง!

ในโลกก่อนนางได้เทควันโด้สายดำนะจะบอกให้ ใช้ป้องกันตัวได้แน่ แต่ถ้าป้องกันจากดาบเอย ธนูเอย แม่ก็ว่าแม่ไม่ไหวนะ ข้อนี้ก็ตัด

“ข้าไม่มีความสามารถใดๆ เลยหรือ” เสียงบ่นพึมพำของเจียวซินทำให้ หนิงเออร์อดสงสัยไม่ได้ จึงยื่นคอไปมองอักษรบนกระดาษ ปรากฎเป็นตัวเขียนยึกยือ แปลกประหลาด หนิงเออร์ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างงุนงง แน่สิก็นางเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ใช้พู่กันเขียนเช่นนี้หากใช้ภาษาอื่นคงเขียนยากน่าดู

“คิก คิก ที่ข้าเขียนเขาเรียกว่าอักษรภาษาอังกฤษ เป็นภาษาของชาวตะวันตก รู้จักหรือไม่”

“เอ่อ เคยได้ยินจากพ่อค้าต่างเมืองว่าตัวสูงใหญ่เกือบเท่ากำแพงใช่หรือไม่ เพคะ”

“ฮ่าๆ เป็นเช่นนั้น แล้วเจ้าอายุเท่าไหร่แล้วหรือ”

“สิบหกหนาวเพคะ ส่วนพระชายาสิบแปดหนาวเพคะ”

“ห๊าาา ข้าเด็กขนาดนี้เชียวหรือ” เจียวซินทำหน้าตกใจสิบแปดปี แต่งงานแล้ว โลกก่อนของนางเด็กอายุสิบแปดปี ยังไม่จบ ม.6 ด้วยซ้ำ

“มิเด็กแล้วเพคะ พระชายาสมรสและมีสวามีแล้วเพคะ”

“อ่า ยุคนี้ไม่ถือว่าเด็กสินะ เอาหล่ะๆ กลับมาเรื่องของเราเถิด” เจียวซิน เริ่มคิดและเขียนลงไปอีกครั้ง นางพอจะมีความรู้ด้านการคำนวณและภาษาอังกฤษ ถ้าอย่างนั้น

4. เปิดสำนักศึกษา

เจียวซินยิ้มกว้าง นางมีความสามารถด้านการสอนอยู่แล้ว อีกทั้งหากได้สอนเด็กๆ อีกครั้งคงจะดีไม่น้อย แต่รอยยิ้มของเจียวซินอยู่ได้ไม่นานก็หุบลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่า เปิดสำนักศึกษาต้องใช้เงินมากมาย อีกทั้งนางยังไม่มีชื่อเสียงที่ดีงาม ไม่ว่าจะด้านใด

เฮ้ออออออออ จะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้ เจียวซินนั่งคิดนอนคิดหาวิธีจนเวลาล่วงเลยจนปลายยามเซิน (15.00 – 16.59 น.) แต่ก็ยังคิดไม่ได้ จึงเอ่ยถามหนิงเออร์

“ทำอย่างไรดีหนิงเออร์” เจียวซินนั่งอ่านและอธิบายสิ่งที่เขียนให้หนิงเออร์ฟังจนละเอียด แล้วจึงถามความคิดเห็นของหนิงเออร์

“หม่อมฉันว่าพระชายาไปขอร้องให้ท่านอ๋องไม่หย่าดีหรือไม่เพคะ หม่อมฉันไม่อยากให้พระชายาทุกข์กาย-”

“ใช่!!!!” หนิงเออร์และนางกำนัลนอกศาลาต่างสะดุ้งโหยง เมื่อผู้เป็นนายตะโกนออกมาเสียงดัง

“จริงของเจ้า ไม่หย่าโว้ยยยยย ยังไงข้าก็ไม่หย่า อย่างน้อยก็ขอสักสองหนาวเก็บเงินจากเบี้ยหวัดได้มากพอที่จะเปิดสถานศึกษาแล้วจะหย่าก็ค่อยหย่า แบบนี้ดีหรือไม่”

“เอ่อ ถะ...ถ้าพระชายาว่าดี หนิงเออร์ก็ว่าดีเพคะ” เมื่อตกลงกันได้ดังนั้น สองนายบ่าวพ่วงด้วยนางกำนัลนับสิบก็พากันกลับตำหนัก โดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นเฟยเทียนที่จดจ้องมาที่พวกนางเลยแม้แต่คนเดียว

“คนความจำหดหายจะมีท่าทีเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวหรือ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่จางเจียวซิน”


TIP : เด็กผู้หญิงที่ก้าวเข้าสู่วัย 15 ปีจะถือเป็นการก้าวเข้าสู่วัยสาวโดยสมบูรณ์และจะมีพิธีปักปิ่นให้กับเด็กสาววัยสิบห้าปี ซึ่งเด็กสาวในวันนี้สามารถแต่งงานได้แล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   14. เจียวซินกับวิธีสร้างชื่อเสียง (3)

    “เรียกข้างั้นหรือ…”“จะ..เจ้าค่ะ ช่วยข้าเลือกกลิ่นเครื่องหอมได้หรือไม่เจ้าคะ” เฟยเทียนเดินเข้าใกล้เจียวซิน แล้วฉวยเอาข้อมือของเจียวซินขึ้นมา“ตรงนี้ใช่หรือไม่”“เจ้าค่ะ” สิ้นเสียงของเจียวซิน เฟยเทียนก้มหน้าลงจนปลายจมูกโด่งแตะลงบนข้อมือของเจียวซิน“อ๊ะ…” เหตุใด!! เหตุใดท่านอ๋องต้องเองจมูกแตะลงไปเช่นนั้นด้วยเล่า เจียวซินใจเต้นกับการกระทำนี้ไม่น้อย ตั้งแต่ที่นางมาอยู่โลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านอ๋องแสดงท่าทีใกล้ชิดกับนางเฉกเช่นสามีภรรยาคู่อื่น เมื่อนึกถึงจุดนี้ก็ทำเอาเจียวซินหน้าขึ้นสีระเรื่อ“อีกกลิ่นเล่า อยู่ตรงที่ใด” เฟยเทียนเอ่ยถาม มิใช่ว่าเขาไม่เห็นท่าทีขัดเขิน แต่เลือกที่จะปล่อยผ่าน มิอยากทำให้นางต้องอึดอัด เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาแตะเนื้อต้องตัวนางตั้งแต่ที่นางแต่งเข้ามา แต่ครั้งนี้…เขาแค่อยากรู้ อยากรู้ว่ากลิ่นเหล่านั้นจะหอมเพียงใด เมื่ออยู่บนตัวนาง“อยู่หลังมือ ข้างนี้เจ้าค่ะ” เจียวซินยื่นมืออีกข้างให้ท่านอ๋องลองดมกลิ่น เฟยเทียนแตะจมูกลงไปบนหลังมือเจียวซินอีกครั้งหอม หอมมากทั้งสองกลิ่น ไม่ว่ากลิ่นใดก็หอม“เอากลิ่นใดดีเจ้าคะ” เจียวซินเอ่ยถามออกไป แม้จะขัดเขินต่อการกระทำที่ไม่

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   13. เจียวซินกับวิธีสร้างชื่อเสียง (2)

    ..“ท่านอ๋องและพระชายาจะออกไปนอกจวน เจ้ารีบนำความไปบอกท่านพ่อเสีย อย่าให้ถูกจับได้” หญิงสาวรับคำสั่งจากผู้เป็นนายแล้วจึงเร่งรีบออกไปส่งข่าว..ด้านเฟยเทียนและเจียวซินที่กำลังนั่งรถม้าไปยังตลาดเทียบท่า ระยะทางค่อนข้างไกลต้องใช้เวลาเดินทางเกือบครึ่งชั่วยาม เจียวซินที่ได้ออกนอกจวนครั้งแรกถึงกับยิ้มไม่หุบ เปิดม่านดูบรรยากาศรายทาง ปากก็เอ่ยถามสิ่งที่แปลกตากับท่านอ๋อง จนลืมไปเสียสนิทว่าตนเองต้องอย่าล้ำเส้นท่านอ๋อง ส่วนเฟยเทียนก็ทำหน้าที่ตอบคำถามของชายาตน ภายในหัวก็คุ้นคิดว่าเจียวซินนั้นจะแกล้งเป็น จำมิได้หรือไม่ แต่คำตอบที่เขาได้คือ ดูอย่างไรนางก็ไม่มีท่าทีแกล้งหรือหลอกลวงใดๆ เขาเชื่อไปแปดในสิบส่วนแล้วว่านางจำสิ่งใดมิได้เลย“ท่านอ๋องคิดว่าหม่อมฉันจะเปิดสำนักศึกษาสำหรับชาวบ้านดีหรือไม่” เจียวซินเอ่ยถามขณะมองชาวบ้านตามท้องถนน“หากจะทำต้องมีเงินทองมากพอ เพราะชาวบ้านคงมิมีเงินทองสำหรับมา ใช้จ่ายค่าเล่าเรียน”“จริงของท่าน เช่นนั้นหม่อมฉันจะสอนลูกขุนนางและเชื้อพระวงศ์ไปด้วย สอนชาวบ้านไปด้วยดีหรือไม่เพคะ”“เหตุใดต้องไปสอนลูกขุนนางด้วยเล่า” เฟยเทียนเอ่ยถามเสียงนุ่ม เมื่อไหร่มิรู้ที่เขาหลงไหลไปกับ

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   12. เจียวซินกับวิธีสร้างชื่อเสียง (1)

    เจียวซินที่กำลังจดจ่ออยู่กับการเลือกตำรา ก็เดินไปเรื่อยๆ อย่างแรก นางต้องรู้ก่อนว่าโลกที่นางอยู่ตอนนี้เป็นอย่างไร ต้องหาหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือสังคม“กฎหมาย การรบ จารีต … แล้วประวัติศาสตร์อยู่ไหนกันล่ะ” เจียวซินเดินหาเท่าไหร่ก็มิเจอ หรือนางควรไปถามท่านอ๋องดี แต่ก็กลัวโดนท่านอ๋องตำหนิ อีกอย่างนางรู้สึกหมั่นไส้ เบื่อหน่าย รำคาญท่านอ๋องอย่างไรก็ไม่รู้เอ่อ ยอมรับก็ได้ว่างอน จริงๆ ก็ไม่ถึงกับงอนแต่แค่รู้สึกผิดหวัง รู้สึกเสียใจนิดๆ โมโหหน่อยๆ ก็เท่านั้น“ชิ หาเองดีกว่า ไม่ง้อหรอก”“เจ้าหาตำราใดอยู่งั้นหรือ” เฟยเทียนที่เข้ามาเงียบๆ เอ่ยถามขึ้น“เห้ย!! ท่านทำข้าตกใจ” เจียวซินยกมือขึ้นลูบหน้าอกตนเองเบา“ตกใจอันใดของเจ้า แล้วเจ้าหาตำราอันใดอยู่…ข้าจะช่วยหา” ประโยคสุดท้ายเฟยเทียนพูดเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน อีกทั้งยังแสดงอาการเก้งๆ กังๆ เหมือนมิค่อยแน่ใจในสิ่งที่ทำอยู่ด้านเจียวซินที่อยูใกล้ได้เห็นท่าทีและได้ยินทุกคำพูดของท่านอ๋อง จึงแอบลอบยิ้มทันทีหึ มาง้อข้าสินะ จะยอมพูดด้วยสักหน่อยก็ได้“จะช่วยหม่อมฉันหาหรือเพคะ”“หืม…ใช่ บอกมาว่าอยากได้ตำราอันใด” เฟยเทียนที่เริ่มขัดเขินกับการกระทำของตน

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   11. เจียวซินกับมิมีผู้ใดดีต่อกัน (3)

    “ท่านเป็นเด็กหรือไร ถึงได้เขี่ยผักทิ้งเช่นนั้น” เจียวซินเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตเห็นเฟยเทียนเขี่ยผักที่ติดอาหารออก ทั้งยังคีบเมนูผักให้เฟยเทียนอีกด้วย“นี่เจ้ากล้า-” เฟยเทียนกัดฟันกรอด กล้าดีอย่างไรมาว่าให้เขาเป็นเด็ก แม้แต่องค์ฮ่องเต้ยังเอ่ยชมเขาอยู่หลายหนว่ามีความคิดเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เขาอายุเพียงสิบห้าหนาว แต่นี่เขาอายุได้ยี่สิบห้าหนาวแล้ว นางยังกล้ากล่าวว่าเขาเป็นเด็ก ช่างกล้า ช่างกล้านัก!“ทานเสีย ผักมีประโยชน์ท่านมิรู้หรือ ถึงไม่ชอบก็ต้องทานนะเพคะ” เจียวซินวางผักที่คีบลงบนข้าวของท่านอ๋องด้วยความหวังดี“เจ้ามิต้องมาสอดเรื่องของข้า ทานของเจ้าไป!!” ด้วยกลัวจะเสียหน้าต่อหน้าขันทีและนางกำนัลที่เฝ้าอยู่ในห้อง เฟยเทียนจึงเขี่ยอาหารที่เจียวซินคีบให้ทิ้งและกล่าวตำหนิเจียวซินด้วยเสียงดุจนเจียวซินชะงักนางเพียงหวังดีเหตุใดจึงว่ากล่าวกันด้วยถ้อยคำเช่นนี้ หากไม่กินก็เพียงแค่บอกกล่าวกันเท่านั้น มันยากนักหรือ“เพคะ! หม่อมฉันจะมิสอดเรื่องของท่านอีก” เจียวซินไม่เข้าใจท่านอ๋อง แม้แต่น้อย แต่ก็ทำสิ่งใดไม่ได้ ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนนางอยู่ในห้องประชุมของโรงเรียนในโลกเก่า ไม่พอใจ ไม่เข้าใจ แต่ก็ทำอันใดไม

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   10. เจียวซินกับมิมีผู้ใดดีต่อกัน (2)

    “งั้นเราไปเตรียมเครื่องเสวยเถิด วันนี้ข้าจะไปรับสำรับเช้ากับท่านอ๋อง” ว่าแล้วเจียวซินก็เดินตรงไปที่โรงครัวทันทีด้านเฟยเทียนกำลังนั่งฟังรายงานขององค์รักษ์เงาที่ส่งไปติดตาม เจียวซิน“พระชายามิได้ออกไปที่ใด ไม่ได้พบเจอผู้ใดเลยพ่ะย่ะค่ะ ส่วนมากจะนั่งเล่นที่ศาลาริมสระหรือไม่ก็ศาลาในสวนพ่ะย่ะค่ะ”“แล้วท่าทีของนางเป็นอย่างไร”“พระชายาดูเหมือนมิรู้สิ่งใดจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ พระชายามักสอบถามเรื่องต่างๆ จากหนิงเออร์ แม้แต่เรื่องการปฏิบัติตนยังถูกหนิงเออร์กล่าวเตือนอยู่หลายครั้ง พ่ะย่ะค่ะ”“อืม ติดตามดูต่อไป หากมีอันใดเร่งด่วนมาแจ้งข้าได้ทันที แล้วตอนนี้ใครดูแลนางอยู่”“เป็นหงฮวาและไป่ฮวาพ่ะย่ะค่ะ” องค์รักษ์เงากล่าวชื่อลับของเพื่อนทั้งสองด้วยความขัดเขิน“อ่าาา งั้นเจ้าคงเป็นหวงฮวาสินะ ฮึๆ” เฟยเทียนนึกไปถึงยามที่เขานำองค์รักษ์เงาทั้งสามคนไปพบเจียวซิน“พวกท่านมีชื่อหรือไม่”“พวกกระหม่อมถูกเรียกขานว่า อี เอ้อ และซาน พ่ะย่ะค่ะ”“อีกแล้วหรือ องค์รักษ์เงาของคนอื่นๆ ก็ถูกเรียกว่า อี เอ้อ ซาน มันซ้ำกับผู้อื่น หม่อมฉันขอเปลี่ยนชื่อพวกเขาใหม่ได้หรือไม่เพคะท่านอ๋อง” เจียวซินอยากเปลี่ยนชื่อองค์รักษ์เงาของ (สวาม

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   9. เจียวซินกับมิมีผู้ใดดีต่อกัน (1)

    “หนิงเออร์ เหตุใดพวกนางต้องมาคารวะข้าแต่เช้าเช่นนี้ด้วย” เช้าวันนี้ เจียวซินถูกปลุกขึ้นมาแต่งกาย ผัดหน้าแต่เช้า เพื่อมานั่งรอบรรดาเมียๆ ของสวามี ตั้งแต่นางเข้ามาอยู่ในโลกนี้เกือบสิบวัน วันนี้เป็นวันที่เขาหงุดหงิดเป็นที่สุด สิบวันที่ผ่านมานางไม่ได้ทำอะไรเลย จะหยิบจับอันใดก็มีคนทำให้ทุกอย่างจน น่าเบื่อหน่าย ท่านอ๋องที่เคยบอกว่าจะพาไปค่ายทหารก็ผัดผ่อนมาเรื่อยๆ มีเพียงนำองค์รักษ์เงาสามคนที่จะให้ติดตามนางมาแนะนำให้รู้จักเท่านั้น นอกนั้นก็แทบจะมิได้เจอหน้ากัน แล้ววันนี้ยังจะต้องตื่นเช้ามารอรับการคำนับจากชายารองและอนุของสวามีอีก น่าเบื่อหน่ายเกินไปแล้ว คิดถึงเด็กนักเรียนของนางเสียจริง ตอนทำงานเป็นครู มิมีวันใดเลยที่ไม่ตื่นเต้นเพราะในแต่ละวันก็จะเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันแตกต่างกันไป“เป็นเวลานี้ปกติอยู่แล้วเพคะ ก่อนหน้านี้พระชายาประชวรจึงละเว้นการคำนับไปในช่วงนั้นเพคะ”“เอาเถิดๆ แล้วเมื่อไหร่พวกนางจะมา” พูดได้ไม่ทันขาดคำ เสียงของนางกำนัลหน้าห้องก็ดังขึ้น“ทูลพระชายา พระชายารองและอนุทั้งสามขอเข้าเฝ้าเพคะ”“ให้พวกนางเข้ามา”“คำนับพระชายาเอกเพคะ” ทั้งสี่คนกล่าวพร้อมกัน“อย่าได้มากพิธี พวกเจ้านั่ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status