Share

ค้นพบถ้ำลับ

Author: zuey
last update Huling Na-update: 2025-08-06 17:53:05

แม่เฒ่าจวงจีบปากจีบคือเอ่ย พลางหันไปถามความเห็นของเหล่าจีนมุงที่ตอนนี้เริ่มมากขึ้นทุกที

หลี่เจียนเจียนผู้ที่ถูกตามใจมาตั้งแต่ยังเล็ก คิดไม่ถึงว่าจะถูกหญิงชราตรงหน้าตอกกลับเช่นนี้ นางกำหมัดกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ ก่อนตวาดแหวออกไปอีกครั้ง

“เจ้า!! ยายเฒ่า เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใด ข้าบอกให้ส่งนางเด็กสารเลวสองคนนั้นออกมา”

ใบหน้าของหลี่เจียนเจียนเริ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ นางไม่รู้วิธีจัดการกับคนอย่างหญิงชราผู้นี้ เพราะที่ผ่านมาเป็นนางที่เป็นผู้กระทำมาตลอด

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เรือนหลังนี้มีเพียงข้าและหลานชายอาศัยอยู่ หากจะพูดว่ามีเด็กสารเลวที่นี่ก็มีแต่เจ้าคนเดียว”

แม่เฒ่าจวงลอยหน้าลอยตาเอ่ย โดยไม่สนใจในใบหน้าที่เริ่มเขียวคล้ำดำมืดของหลี่เจียนเจียน

“กรี๊ด!!! ยายเฒ่าจวง กล้าว่าข้าสารเลวหรือ”

หญิงสาวพุ่งเข้าใส่แม่เฒ่าจวงแต่ถูกจวงอี้ซิงเอาตัวขวางเอาไว้ เขาและนางอายุสิบเจ็ดเท่ากันทว่าเด็กหนุ่มกลับสูงใหญ่และแข็งแรงมากกว่า อาจเพราะเขาทำงานหนักมาตั้งแต่ยังเล็ก

หลี่เจียนเจียนไม่สนใจว่าคนที่ขวางทางตนจะเป็นใคร นางใช้เล็บข่วนเด็กหนุ่มตรงหน้าเพื่อระบายโทสะของตน แต่สิ่งที่หลี่เจียนเจียนทำไม่สามารถสร้างความเจ็บปวดให้จวงอี้ซิงแม้เพียงนิด

“พอได้แล้ว!!หยุด!! หยุดเดี๋ยวนี้!! พวกเจ้ากำลังทำอันใดกัน ไม่เห็นหัวหน้าหมู่บ้านเช่นข้าอยู่ในสายตาแล้วใช่หรือไม่ คนหมู่บ้านเดียวกันแท้ๆ มีอะไรถึงไม่พูดคุยกันดีๆ”

จวงต้าหลางผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านและเป็นญาติห่างๆ ของแม่เฒ่าจวงที่อายุน้อยกว่าหนึ่งรุ่น เขารีบปรี่เข้าไปห้ามการทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นหน้าเรือนของนาง

ชาวบ้านที่มุงดูเหตุการณ์ต่างก็ชี้ไม้ชี้มือไปที่หลี่เจียนเจียนผู้เป็นต้นเหตุของเรื่อง

สะใภ้รองที่เข้ามาร่วมชมความสนุก เมื่อเห็นว่าน้องสามีกำลังเสียเปรียบ จึงรีบเข้าไปแสร้งทำทีดึงนางออกมาจากกองไฟ

“พี่สะใภ้รองท่านอย่าห้ามข้า ข้าจะฉีกปากยายเฒ่านั่น นางด่าข้าว่าเป็นคนสารเลวทั้งยังมากล่าวหาว่าข้าเป็นหญิงคณิกาอีก ข้าจะฆ่านาง”

หนี่ม่านม่านบิดปากเล็กน้อยพลางคิดในใจว่า ตัวเจ้าฉุนกลิ่นแป้งชาดเพียงนี้ จะไม่ให้ผู้อื่นคิดได้อย่างไร

แต่ถึงจะคิดเช่นนั้นนางก็มิได้พูดออกมา เพราะหลี่เจียนเจียนในบ้านหลี่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของแม่เฒ่าหม่าผู้เป็นแม่สามียิ่งนัก

ขืนทำให้นางไม่พอใจความเป็นอยู่แลสถานะของตนในตระกูลหลี่คงจะตกต่ำลงยิ่งกว่าที่เป็นอยู่แน่ ยิ่งมีสะใภ้ใหญ่สตรีเจ้าเล่ห์ผู้นั้นที่คอยยุแยงอยู่เบื้องหลัง นางจะทำพลาดก่อเรื่องที่นี่ไม่ได้

“เอาล่ะ พอแล้ว!! พอแล้ว!! เจียนเอ๋อ ชาวบ้านมุงดูเต็มไปหมดเจ้าคงไม่อยากให้เรื่องนี้ถูกแพร่ออกไปจนบ้านว่าที่สามีของเจ้ารู้กระมัง เขาเป็นถึงบัณฑิตซิ่วไฉไหนเลยจะยอมรับสตรีที่มีชื่อเสียงด่างพร้อยแต่งเข้าตระกูล เจ้าไม่คิดเหมือนพี่สะใภ้รองหรือ”

ทั้งที่เป็นเพียงการดูตัวเท่านั้น ทว่าหนี่ม่านม่านกลับฉลาดใช้คำว่าบ้านว่าที่สามีเพื่อเตือนสติน้องสาวคนเล็กของสามี ผู้หลงบุรุษจนหน้ามืดตามัว

เมื่อได้ยินพี่สะใภ้รองเอ่ยถึงบุรุษที่ตนพึงใจนางก็รีบเปลี่ยนสีหน้าโดยพลัน หนี่ม่านม่านรู้ว่ามีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่จะทำให้หลี่เจียนเจียนผู้เย่อหยิ่งสงบลงได้

ไม่กี่เดือนก่อน

นางได้พบกับหลิวซีห่าวที่อำเภอตงผิงโดยบังเอิญ ทันทีที่ได้เห็นหน้าของบัณฑิตหนุ่มหญิงสาวก็ตกหลุมรักเขาทันที

หลังจากกลับมาที่หมู่บ้านมู่โถวนางก็รบเร้าให้มารดาตามหาว่าคนผู้นั้นเป็นใคร จนกระทั่งผ่านไปหลายเดือนถึงได้รู้ว่าชายหนุ่มผู้นั้นเป็นบัณฑิตยากจนจากหมู่บ้านตระกูลหลิวที่อยู่ข้างๆ

หลิวซีห่าวในวัยยี่สิบอาศัยอยู่กับมารดาพี่ชายและพี่สะใภ้ ส่วนบิดาได้ตายจากไปนานหลายปีแล้ว

พี่ชายของหลิวซีห่าวทำนาและเก็บของป่าเพื่อส่งเขาเรียนที่สำนักศึกษาหมิงหลันในอำเภอตงผิง จนกระทั่งปีก่อนชายหนุ่มสอบได้เซิ่งหยวนจึงทำให้ชีวิตการเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น

แม้คราแรกแม่เฒ่าหม่าไม่เห็นด้วยที่จะให้บุตรสาวคนเล็กดูตัวกับคนตระกูลหลิว ด้วยเพราะรังเกียจที่ครอบครัวของเขายากจน ทว่าผู้เฒ่า หลี่ที่ชมชอบบัณฑิตผู้มีความรู้กลับเห็นต่าง ชายชราสนับสนุนบุตรสาวคนเล็กเต็มที่และได้จัดหาแม่สื่อเพื่อส่งไปทาบทามบัณฑิตหลิวด้วยตนเอง ทำให้แม่เฒ่าหม่าจำต้องยอมเห็นด้วยแต่โดยดี

แต่น่าเสียดายที่หลิวซีห่าวมีคู่หมั้นตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้หลี่เจียนเจียนที่ได้รู้อาละวาดอยู่หลายวัน หญิงชราเห็นบุตรสาวคนเล็กที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจมีความทุกข์ นางจึงแอบไปยังหมู่บ้านตระกูลหลิวเพียงลำพังเพื่อเจรจากับมารดาของหลิวซีห่าว

เมื่อรู้ว่าบ้านของคู่หมั้นในวัยเยาว์ของบัณฑิตหนุ่มยากจนแม่เฒ่าหม่าจึงเสนอเงินหนึ่งร้อยตำลึงเพื่อเป็นของหมั้นและจะเพิ่มสินเดิมของบุตรสาวขึ้นอีกหนึ่งเท่า โดยที่ไม่รับเงินสินสอดจากทางตระกูลหลิวแม้แต่เหวินเดียว

มารดาของหลิวซีห่าวเมื่อได้เห็นเงินมากมายมากองตรงหน้า ชั่วขณะนั้นนางก็ตัดสินใจได้ในทันที วันรุ่งขึ้นมารดาของบัณฑิตหลิวจึงได้ส่งหนังสือถอนหมั้นไปยังเรือนของคู่หมั้นวัยเยาว์โดยไม่ปรึกษาคนในบ้าน

เพราะตอนนี้นางรับเงินหนึ่งร้อยตำลึงจากแม่เฒ่าหม่ามาแล้ว

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้าได้ส่งผลมายังเวลาปัจจุบันของหลี่เจียนเจียน นางเตรียมชุดใหม่เอาไว้สำหรับดูตัวแต่หลี่อันหนิงกลับทำขาดทำให้นางโมโหจนตามมายังเรือนของแม่เฒ่าจวง สถานที่หลบภัยของสองพี่น้อง

“พี่สะใภ้รองวันนี้ข้าต้องไปพบพี่ซีห่าว แต่ชุดใหม่ของข้าถูกเด็กสารเลวนั่นทำขาดไปแล้ว จะทำอย่างไรดีข้าอยากจะฆ่านางนัก”

หนี่ม่านม่านคิดว่าถึงเวลาที่ตนต้องทำให้แม่เฒ่าหม่าติดหนี้แล้ว ความจริงคนที่แอบกรีดชุดใหม่ของหลี่เจียนเจียนก็คือนางเอง

แต่ทว่ากลับโยนความผิดทั้งหมดไปให้หลี่อันหนิงที่เป็นคนซักผ้า เพื่อวางแผนแย่งชิงความโปรดปรานมาจากสะใภ้ใหญ่

“ไม่เป็นไร พี่สะใภ้รองได้ชุดใหม่มาจากบ้านเดิมพอดี เจ้าอยากจะดูหรือไม่ พี่สะใภ้รองรับรองว่าในอำเภอตงผิงยังไม่มีวางขายแน่นอน เพราะชุดนี้พี่ชายของข้าได้มาจากเมืองปิ่งโจว”

เมื่อหญิงสาวได้ยินว่าเป็นชุดที่ยังไม่เคยวางขายที่อำเภอตงผิง แถมตนยังได้สวมใส่เป็นคนแรก หลี่เจียนเจียนถึงกับหัวใจพองโตแสดงท่าทางอารมณ์ดีจนเก็บสีหน้าไม่มิด

“เป็นพี่สะใภ้รองที่เข้าใจข้าที่สุด”

หลังจากน้องสามีและพี่สะใภ้บ้านหลี่จากไปโดยไม่สนใจความวุ่นวายที่พวกตนก่อเลยสักนิด แม่เฒ่าจวงผู้เป็นห่วงเด็กน้อยทั้งสองจึงรีบกลับเข้าเรือนเพื่อไปดูพวกเขาที่หลบอยู่ด้านใน และเมื่อเข้ามาภายในห้องกลับพบเพียงความว่างเปล่า

“พวกนางคงแอบออกไปทางด้านหลังเรือนแล้ว เพราะไม่ต้องการให้เราเดือดร้อน”

จวงอี้ซิงเอ่ยกับผู้เป็นย่าเบาๆ

“อืม ถึงจะยังไม่มืดแต่ยังไงเจ้าก็ตามไปดูเด็กสองคนบนเขาสักหน่อยก็ดี”

เด็กหนุ่มพยักหน้าก่อนจะคว้าตะกร้าและมีดพร้าประจำกายเดินออกทางด้านหลังเรือน เพื่อตามรอยเท้าเล็กๆ ของสองพี่น้องไป

“หิวหรือไม่ วันนี้เราสองคนอาจต้องหาที่นอนบนเขาไปก่อน ต้องรอให้หลี่เจียนเจียนอารมณ์เย็นลง ไม่อย่างนั้นนางจะต้องหาเรื่องตีเราอีกแน่”

หลี่ซางเป่าก้มลงมองท้องของตนที่เหี่ยวแห้งแทบติดแผ่นหลังและกำลังส่งเสียงร้องครวญครางออกมา

“ข้าไม่หิว ข้าทนได้”

ยิ่งเห็นน้องสาวแสดงท่าทางราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย หลี่อันหนิงก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ อายุเพียงเท่านี้แต่กลับมีน้ำอดน้ำทนไม่ร้องไห้งอแงเหมือนเด็กคนอื่นในหมู่บ้าน

ทว่านางกลับลืมไปแล้วว่าตนเองก็อายุเพียงสิบเอ็ดปีเท่านั้น

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   บทส่งท้าย

    พานเยียนหลิงและเย่เสวียนจื่อมีบุตรชายหญิงด้วยกันถึงสี่คน พานจื่อหยวนแต่งงานกับหลานสาวแม่ทัพเจิ้งมีบุตรชายหญิงฝาแฝดด้วยกันสองคน ส่วนพานซืออวิ๋นได้แต่งงานกับเย่อิ่งเจินมีบุตรีสองคนและชายหนึ่งคน ชีวิตที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดของสามพี่น้องบัดนี้ดีพร้อมเกินกว่าจิตนาการในทุกฤดูใบไม้ผลิหญิงสาวจะพาครอบครัวและเจ้าเสือดำพี่น้องนั่งเรือกลับไปยังหมู่บ้านมู่โถวเพื่อเยี่ยมเยียนท่านย่าจวงปีต่อมาหลวงจีนอันคงในวัยสี่สิบห้าได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคประหลาด กล่าวคือเขานอนหลับแล้วสิ้นลมไปอย่างเงียบๆ ภายในห้องพัก ไม่สามารถตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตได้สิบห้าปีต่อมาท่านย่าจวงในวัยชราได้จากไปเช่นกัน ถึงกระนั้นพานเยียนหลิงก็ยังกลับไปที่หมู่บ้านมู่โถวเพื่อรำลึกถึงสิ่งที่ย่าจวงเคยมอบให้แก่ตนและน้องทั้งสองนางไม่มีสิ่งใดตอบแทนหญิงชรามีเพียงการดูแลหลานชายของนางให้มีชีวิตที่ดี เพื่อเป็นการกตัญญูต่อนางพานเยียนหลิงได้มอบจวนที่อยู่ในอำเภอตงผิงให้แก่จวงอี้ซิงและครอบครัว ทุกปีนางจะแบ่งเสบียงที่ได้รับจากที่ดินพระราชทานบางส่วนให้แก่พวกเขาณ ถนนเส้นหลักใจกลางเมืองหลวง“ตีมันให้ตาย!!เจ้าขอทานสกปรกตัวเหม็น”เสียงร้องโอดโอยด้

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน    ผลกรรมที่ควรได้รับ

    “เจ้ากลับมาแล้วหรือ ก่อนหน้านี้เกิดอันใดขึ้นกันแน่บอกเจิ้นมาให้หมด”เซี่ยฮ่องเต้มองไปยังเจ้าเสือดำสองพี่น้องที่นอนหมอบอยู่อย่างสงบด้วยท่าทีหวาดๆ ความจริงหลังจากที่ได้รับคำร้องขอเข้าเฝ้าพร้อมเสือดำสองตัวที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วเมืองหลวง พระองค์ก็ทรงอยากเห็นด้วยตาตนเองสักครั้ง ไม่คิดว่าจะมีขนาดใหญ่โตเช่นนี้พานเยียนหลิงเมื่อได้ยินเสียงความคิดของเซี่ยฮ่องเต้นางก็ลอบยิ้มให้กับตนเอง นี่เป็นทางเดียวที่นางจะสามารถนำเสี่ยวเจี่ยและเสี่ยวเกอมาอยู่ที่นี่ได้ คือต้องผ่านความเห็นชอบของเจ้าของแผ่นดิน“ความจริงเสือดำทั้งสองเป็นครอบครัวของหม่อมฉันเองเพคะ เมื่อครั้งยังเยาว์พวกเราเติบโตมาด้วยกัน หม่อมฉันกำพร้าแม่ส่วนแม่ของพวกมันก็ถูกพรากชีวิตไปเช่นกัน”“เจ้า...หมายความว่าอย่างไร”“แม่ของพวกมันถูกองค์ชายใหญ่ระดมคนมากมายตามสังหารเมื่อหลายปีก่อน ในช่วงเวลานั้นหม่อมฉันเองก็อยู่ที่นั่นด้วย”“นั่น!!..”พานเยียนหลิงเข้าใจว่าเซี่ยฮ่องเต้อาจรู้สึกผิดทว่าเรื่องนั้นก็ผ่านมานานแล้ว จึงไม่ควรเอ่ยถึงอีก“พวกมันไม่ถือสาเรื่องในอดีตแล้วเพคะ ทว่าหม่อมฉันยังมีเรื่องต้องกราบทูลพระองค์”หญิงสาวหยุดไปเล็กน้อยก่อนเอ่ยถึงเร

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   เสี่ยวเจี่ยเสี่ยวเกอช่วยเหลือ

    หลังจากที่ได้พบเสือดำสองพี่น้อง ชายหนุ่มก็ได้ติดตามพวกมันไปจนกระทั่งพบร่างของพานเยียนหลิงและฟู่อี้ที่นอนหมดสติอยู่ในหลุมดักสัตว์ คนทั้งสองถูกช่วยเหลือขึ้นมา ส่วนฟู่อี้ที่บาดเจ็บสาหัสถูกมัดติดกับหลังของเสี่ยวเกอวิ่งไปยังโรงหมอที่ใกล้ที่สุดเพื่อช่วยชีวิตเขาผู้ติดตามสองคนใช้วิชาตัวเบาทะยานตามไปมองภาพนั้นด้วยสีหน้าอึ้งงัน ไม่คิดว่าพวกตนที่มีวิชาตัวเบาที่ดีที่สุดกลับไม่สามารถตามเสือดำตัวนั้นได้ทันย้อนกลับมายังปัจจุบันคนของเย่เสวียนจื่อจัดการนักฆ่าที่เหลือที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือต่อให้ปล่อยเอาไว้คนเหล่านั้นก็คงไม่สามารถมีทางรอดชีวิต แต่ละคนไม่แขนขาดก็ขาขาดเพราะถูกเสี่ยวเกอและเสี่ยวเจี่ยจัดการ“เสี่ยวเจี่ยเด็กดี”หญิงสาวดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่มหลังจากที่รู้ว่าตนมิได้กำลังฝันไป แม้จะแต่งงานกับเขาแล้วพานเยียนหลิงก็ยังรู้สึกเขินอายทุกครั้งเมื่อต้องอยู่ในอ้อมแขนของเขาเสี่ยวเจี่ยที่นอนอยู่ด้านข้างใช้หัวดุนดันร่างของนางจนพานเยียนหลิงล้มลง ร่างบางกอดมันเอาไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับหลับตาซึมซับความคิดถึง“มันพาข้ามาพบเจ้าที่นี่”ร่างบางผินไปมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ“จริงหรือ ได้อย่างไรก

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ตกลงไปในหลุมดักสัตว์

    ท่ามกลางหุบเขาลึกพานเยียนหลิงแบกร่างที่แทบหมดสติของชายหนุ่มเอาไว้บนหลัง เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกย่างก้าวของนางมีเลือดของฟู่อี้ไหลหยดเป็นทางท้องฟ้ายามนี้กำลังอัสดง เสียงนกกาที่กำลังบินกลับรังกู่ร้องก้องสะท้านไปทั่วหุบเขา หญิงสาวที่กำลังหมดแรงแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า นางอยากจะภาวนาต่อสวรรค์ของให้ปล่อยพวกตนไปแต่ดูเหมือนคำร้องขอของนางจะถูกปฏิเสธ เมื่อร่างบางก้าวไปด้านหน้า พลันนางสัมผัสได้ถึงความเวิ้งว้างที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า สองร่างร่วงหล่นลงในหลุมขนาดใหญ่ พานเยียนหลิงหวีดร้องจนสุดเสียงฟู่อี้ทับอยู่บนร่างเล็กทว่ามิอาจขยับกายได้ หญิงสาวดิ้นรนอยู่นานกว่าจะนำร่างตนเองออกมาได้เป็นอิสระร่างบางมองขึ้นไปด้านบนด้วยสีหน้าซับซ้อน บัดนี้คนทั้งสองกำลังติดอยู่ในหลุมดักสัตว์ของนายพราน นางไม่คิดว่าในหุบเขาลึกเช่นนี้จะมีคนมาขุดหลุมใหญ่เอาไว้เสียได้ ทั้งนางและฟู่อี้ตอนนี้ถูกขังโดยสมบูรณ์ หากนักฆ่าเหล่านั้นตามมาทันพวกนางไม่มีทางรอดไปได้แน่กว่าสองชั่วยามที่หญิงสาวพยายามปีนป่ายออกจากหลุมลึก ไม่มีน้ำไม่มีอาหารหากต้องติดอยู่ที่นี่ก็ไม่ต่างจากการเฝ้ารอความตาย หญิงสาวมองชายหนุ่มที่บัดนี้นอนหายใจรว

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   วางแผนหลบหนี

    ทหารในเมืองหลวงถูกระดมกำลังพลออกตามหาหญิงสาวอย่างลับๆ รถม้าทุกคันเรือทุกลำต่างถูกตรวจค้นอย่างเข้มงวด ทว่าเรือลำที่พวกเขาโดยสารมีตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์จึงได้ถูกปล่อยผ่านพานเยียนหลิงและฟู่อี้ถูกขังเอาไว้ภายในห้องโดยสารหลายวันแล้ว อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นมากจากการดูแลของหญิงสาว นางฟังความคิดของคนที่เป็นหัวหน้าทำให้รู้ว่าพวกตนกำลังมุ่งหน้าไปที่ใดที่แท้จริงคนมากมายเหล่านี้ที่แต่งกายเลียนแบบทหารต้าเหลียงคือคนของตระกูลโจวที่เลี้ยงดูเอาไว้ และพวกเขายังเป็นพวกเดียวกับโจรป่าที่ถูกกำจัดไปเมื่อปีก่อนพานเยียนหลิงไม่คิดว่าจะยังหลงเหลือมากมายเพียงนี้ เป็นนางที่พลาดเองที่ไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด หรือไม่บางทีคนเหล่านี้ก็ถูกแยกออกจากคนกลุ่มนั้นเพื่อคอยทำงานสกปรกให้กับตระกูลโจว“ฟู่อี้ อีกเพียงไม่นานก็จะถึงจุดหมายแล้ว แม้เจ้าจะยังบาดเจ็บภายในแต่เราคงรอนานกว่านี้ไม่ได้ เจ้าเชื่อใจข้าหรือไม่”ชายหนุ่มมองดวงตาดำขลับเปล่งประกายราวกับดวงดาวยามค่ำคืนของหญิงสาว เขาไม่รู้ว่านางรู้เรื่องทุกอย่างนี้ได้อย่างไร แต่เขาเชื่อใจหญิงสาวตรงหน้าอย่างเต็มเปี่ยมภาพเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อนผุดขึ้นมาในหัว เด็กสาวที่ต่อสู้ดิ้นรนเ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   พานซืออวิ๋นพูดได้แล้ว

    “เร็วเข้า!!รีบไปช่วยพี่สาวของข้า!!”“นี่!...อวิ๋นเอ๋อ!!เจ้าพูดได้แล้วหรือ”ชายหนุ่มตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงของเด็กสาวเป็นครั้งแรก“พี่เสวียนจื่อรีบไปช่วยพี่ใหญ่เร็วเข้า นางกำลังถูกพาตัวมุ่งหน้าไปทางอำเภอตงผิง”“เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร”เด็กน้อยได้รับสารมาเพียงเท่านี้ ยังไม่รู้ว่าพี่สาวถูกพาตัวไปทางบกหรือทางน้ำ ตอนนี้ก็ผ่านไปหลายชั่วยามแล้วพวกเขาจะต้องนำหน้าไปห่างไกล“ไม่ต้องถามแล้ว! แม้แต่พี่ฟู่อี้ตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสท่านต้องรีบไปช่วยพวกเขาโดยด่วน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะสายเกินไป”เย่เสวียนจื่อสงสัยว่าเด็กน้อยรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรในเมื่อนางนอนป่วยไม่ได้สติมาตั้งแต่เมื่อคืน ทว่าเรื่องช่วยพานเยียนหลิงและฟู่อี้นั้นสำคัญยิ่งกว่าจึงมิได้ซักถามให้มากความ ชายหนุ่มรีบพาคนออกจากจวนเพื่อไปช่วยพวกเขาย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วยามก่อนพานเยียนหลิงนั่งรถม้ามุ่งหน้าไปยังตำหนักองค์หญิงใหญ่ที่อยู่นอกเมือง เมื่อถึงช่วงเส้นทางเปลี่ยวร้างไร้ผู้คน มือสังหารมากมายได้พุ่งเข้าปิดล้อมรถม้าของนางภายในเวลาเพียงไม่นานความโกลาหลก็เกิดขึ้น องครักษ์เงาทั้งหกรวมถึงฟู่อี้ได้ช่วยสกัดมือสังหารเหล่านั้น ทว่าคนน้อ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status