หลวนจิ้นฝานที่เอนหลังพิงเสาเตียงอย่างหอบเหนื่อยทอดสายตามองฮูหยินของตนไปด้วยแววตาหลงใหล
กว่านางจะออกมาจากหลังฉากกั้นอีกครั้งก็พบว่าบุรุษที่นอนอยู่บนเตียงเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว
“ปลดปล่อยแค่ครั้งเดียวก็หมดแรงแล้วหรือ ช่างอ่อนหัดยิ่งนัก” นางพึมพำเสียงเบาพลางทอดสายตามองบุรุษที่ยามนี้เข้าไปนอนตรงที่ของนาง
“หากอยากให้สตรีหลงใหลท่านต้องแข็งแรงกว่านี้ เข้าใจหรือไม่ เพราะถ้าท่านไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสตรีที่ท่านพึงใจได้ นางอาจจะกลายเป็นดอกซิ่งยื่นออกกำแพง[1]” นางต่อว่าคนที่นอนหลับอยู่
“หึ! แต่นั่นมันเ
“จิ้นฝาน แม่จะไม่ว่าลูกแล้ว แม่จะไม่บังคับลูกแล้ว อย่าได้แยกจวนออกไปได้หรือไม่” ที่นางทำไปทั้งหมดก็เป็นเพราะอยากให้บุตรชายได้มีฮูหยินที่ดี หาได้คิดประสงค์ร้ายต่อเขาไม่ “พี่จิ้น... ท่านผู้ตรวจการหลวน ได้โปรดเห็นใจท่านป้า ให้อภัยท่านป้าที่หวังดีกับท่านเถิดนะเจ้าคะ” “ใครก็ได้พาคุณหนูฉู่กับบ่าวสองคนนั้นไปส่งให้กับคนของนายอำเภอฉู่ที่รออยู่ด้านนอก” เป็นท่านโหวที่เอ่ยสั่ง “ขอรับ” หลี่ช่านตอบรับก่อนจะโบกมือให้บ่าวรับใช้เข้าไปพาตัวคุณหนูฉู่ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นออกไปจากห้อง “ข้าไม่ไป ท่านป้าช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ ข้ายังไม่อยากกลับเมืองเพ่ยหลิง” หากกลับไปบิดาต้องลงโทษนางแน่นอนที่ทำเรื่องพลาด ใ
“ไร้ยางอาย ข้ายื่นหัวโด่อยู่ตรงนี้ เจ้ายังกล้าทำเรื่องบัดสีกับบุตรชายข้าอีก” สิ้นเสียงของมารดาทำให้โหวซื่อจื่อถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะยอมปล่อยฮูหยินของตนแต่โดยดี “ท่านแม่กล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูกนะเจ้าคะ ข้ากับท่านพี่กราบไหว้ฟ้าดินกันอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม ทั้งยังมีราชโองการมอบสมรสพระราชทานเป็นหลักฐานว่าข้ากับเขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว และที่นี่ก็เป็นเรือนหอของข้าและเขาที่ท่านเป็นคนจัดเตรียมเอาไว้ให้ ดังนั้นต่อให้พวกข้าจะร่วมรักกันในตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือไร้ยางอายอันใด เป็นท่านต่างหากที่โผล่เข้ามาในห้องหอของผู้อื่นโดยไม่ขออนุญาตก่อน” “พี่สาว ท่านอย่าได้ต่อว่าท่านป้าเลยเจ้าค่ะ ท่านป้าเพียงร้อนใจอยากทวงคืนความยุติธรรมให้ข้า” ฉู่เหลียนฮวาที่มีสีหน้าอิดโรยเดินตามเข้ามา “เจ้าเรียกข้าพี่สาว เจ้าเป็นสตรีของ
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพี่ ท่านพี่ช่างใจดีกับข้า แม้จุดเริ่มต้นของเราจะไม่ดี แต่ยามนี้ข้ารู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ได้แต่งกับท่าน” แหม...เอ่ยวาจาไปก็กระดากปากไป หากไม่ติดว่าคนของเหลียงอ๋องกำลังลอบดูอยู่นางคงไม่เอ่ยวาจาเช่นนี้ “เรื่องในอดีตเจ้าอย่าได้ใส่ใจ ข้าไม่ถือสา หวังแต่เพียงวันหน้าเราจะยังอยู่เคียงข้างกันเช่นนี้” กล่าวจบก็มองนางด้วยแววตาหวานซึ้ง “รีบรับสำรับกันเถิดเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าจะไม่ทันจับจ่ายซื้อของ” เหลียงจิ่วเม่ยรีบตัดบทพลางนึกอยากลูบแขนตัวเองที่ขนลุกชันเพราะวาจาหวานหยดย้อยราวกับคนรักกัน หากไม่เพราะก่อนหน้านี้เขาเสนอว่า เมื่อคนของเหลียงอ๋องเห็นว่านางเป็นที่โปรดปรานของสามี คนพวกนั้นย่อมจะเห็นว่านางมีประโยชน์และสามารถใช้งานจากตระกูลหลวนได้ ชีวิตของนางก็จะยังปลอดภัยได้อีกสักระยะ&nbs
หลวนจิ้นฝานที่เอนหลังพิงเสาเตียงอย่างหอบเหนื่อยทอดสายตามองฮูหยินของตนไปด้วยแววตาหลงใหล กว่านางจะออกมาจากหลังฉากกั้นอีกครั้งก็พบว่าบุรุษที่นอนอยู่บนเตียงเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว “ปลดปล่อยแค่ครั้งเดียวก็หมดแรงแล้วหรือ ช่างอ่อนหัดยิ่งนัก” นางพึมพำเสียงเบาพลางทอดสายตามองบุรุษที่ยามนี้เข้าไปนอนตรงที่ของนาง “หากอยากให้สตรีหลงใหลท่านต้องแข็งแรงกว่านี้ เข้าใจหรือไม่ เพราะถ้าท่านไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสตรีที่ท่านพึงใจได้ นางอาจจะกลายเป็นดอกซิ่งยื่นออกกำแพง[1]” นางต่อว่าคนที่นอนหลับอยู่ “หึ! แต่นั่นมันเ
10 เหนื่อยหน่ายใจเพราะมารดา พรึ่บ! แทนที่บุรุษตรงหน้าจะรับยาถอนพิษไปกินดี ๆ เขากลับพุ่งตัวเข้าหานางก่อนจะจับใบหน้าของนางเอาไว้แล้วกดริมฝีปากลงบนปากนาง ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนุ่มอย่างอุกอาจ กวาดต้อนความหวานจากโพรงปากนุ่มสลับหยอกเย้าเรียวลิ้นเล็กของนางไม่หยุด 
“ผู้ตรวจการหลวน ท่าทางท่านดูไม่ดีเช่นนี้ ข้าจะให้บ่าวช่วยประคองท่านไปส่งนะเจ้าคะ” “อืม” เมื่อบุรุษตอบรับ นัยน์ตาหงส์ก็ฉายแววสมหวังชั่วครู่ก่อนจะเลือนหายไปเหลือเพียงท่าทางห่วงใยแฝงความใส่ซื่อไร้มารยา “พวกเจ้าเขามาช่วยประคองโหวซื่อจื่อ” สิ้นเสียงเรียกบ่าวชายสองคนก็เข้ามาด้านในอย่างรวดเร็ว “ขอรับคุณหนู” แม้บ่าวชายจะช่วยกันประคองหลวนจิ้นฝานถึงสองคนแต่ทว่าด้วยความสูงและรูปร่างที่กำยำทำให้การประคองเป็นไปอย่างทุลักทุเลโดยมีหลานสาวคนงามของหลวนฟูเหรินเดินตาม ใช้เวลาเดินเพียงไม่กี่ก้าว บ่าวชายก็พาโหวซื่อจื่อเข้าไปที่ห้องห้องหนึ่งก่อนจะวางอีกฝ่ายลงบนเตียง&
“เพราะข้าฉลาดสามารถมองคนได้ทะลุปรุโปร่ง” นางยกยอตนเองอย่างภาคภูมิใจ ‘เจ้าคิดได้เช่นนั้นก็ดี’ ในแววตาของโหวซื่อจื่อมีประกายบางอย่างพาดผ่าน ก่อนจะแสร้งกลับไปทำหน้าเคร่งขรึมตามเดิม “แต่หากเจ้าคาดเดาผิด ข้าจะลงโทษเจ้า” “ชะตาชีวิตข้านั้นแสนอาภัพ ทำดีกลับถูกคาดโทษ” นางตีหน้าเศร้าแสร้งคร่ำครวญ “ไม่ต้องห่วง หากสามารถทำให้คุณหนูฉู่ออกจากจวนข้าได้ เจ้าย่อมได้รับความดีความชอบเป็นเงินห้าร้อยตำลึงที่เหลือ” “เช่นนั้นข้าจะสวดมนต์ภาวนาช่วยให้แผนของท่านสำเร็จและราบรื่น” นางยิ้มประจบ “แต่หากไม่ราบรื่น เจ้าต้อ
ร่างเย้ายวนที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย รีบวิ่งหายเข้าไปหลังฉากกั้นโดยมีสามีนั่งมองตามด้วยแววตาขบขัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เพียงสองเค่อ เขาที่แทบจะนอนไม่หลับเพราะถูกกลิ่นกายของสตรีรบกวนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้เขาคิดจะกลั่นแกล้งเอาคืนนาง หลวนจิ้นฝานขยับเข้าไปรั้งตัวแม่นางน้อยที่นอนหลับสนิทจนน่าหมั่นไส้ก่อนจะลากตัวนางให้ย้ายมานอนใกล้เขา มือใหญ่จัดแจงท่าทางให้นางนอนกอดก่ายเขาแล้วจับมือเรียวข้างหนึ่งให้วางกอบกุมอยู่บริเวณก้อนกลมกลึงใกล้แท่งหยก ‘อ่า...’ เขาเกือบจะส่งเสียงร้องออกมาเมื่อนางเคล้นคลึงก้อนกลมกลึงทั้งที่หลับอยู่ก่อนจะนิ่งไป หลังจากนั้นเขาก็เพียงเฝ้ารอที่จะให้ฮูหยินของตนตื่นขึ้นแล้วพบว่านางได้ทำเรื่องน่าอายกับเขาเช่นไรบ้าง&n
‘ทำข้าเมื่อยมือเช่นนี้ ประเดี๋ยวข้าต้องทวงสามสิบตำลึงทองที่บอกจะให้เป็นค่าจ้างเสียแล้ว” นี่ถือเป็นการจ้างงานได้เพราะนางไม่ได้เอาตัวเข้าแลกนี่ เหลียงจิ่วเม่ยเข้ามาหลังฉากกั้นก่อนจะล้างคราบขาวขุ่นที่เปรอะเปื้อนมือก่อนจะใช้มือเปียกน้ำเช็ดอาภรณ์ที่เปรอะเปื้อนเช่นกัน เมื่อจัดการสิ่งนั้นเสร็จแล้ว นางก็รีบปลดเปลื้องอาภรณ์ตัวเดิมออก “กรี๊ด! ท่านเข้ามาด้วยเหตุใด” นางร้องเสียงหลง เท้าสะบัดกระแทกใส่บุรุษที่พรวดพราดเข้ามาอย่างแรง จนอีกฝ่ายต้องถอยห่าง “ขออภัย ข้าเห็นเจ้าเข้ามานาน คิดว่าจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมาผลัดเปลี่ยนอาภรณ์บ้าง” เขากล่าวพลางเบือนหน้าหนีไม่ได้มองสตรีตรงหน้า “ในเมื่อรู้แล้วว่าข้ายังไม่เสร็จ ท่านก็รีบออกไปเสียสิ”&