หน้าหลัก / โรแมนติก / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / บทที่ 11 — ปราการที่เกิดจากความว่างเปล่า

แชร์

บทที่ 11 — ปราการที่เกิดจากความว่างเปล่า

ผู้เขียน: mafath9
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-11 00:50:42

บทที่ 11 — ปราการที่เกิดจากความว่างเปล่า

“บางทีชัยชนะที่แท้จริง

ไม่ได้อยู่ที่การเหยียบศัตรู

แต่อยู่ที่การเหยียบผ่านความกลัวในใจตน”

— อินาริ แห่งยูคิโดะ


บทที่หนึ่ง: เสียงที่ไม่มีในป่าเซกิ

หลังเดินเข้าสู่ป่าเซกิ ทหารยูคิโดะทั้ง 300 นายต้องเผชิญสภาพแวดล้อมอันแปลกประหลาด — หมอกหนา เสียงสะท้อนจากต้นไม้ และภาพหลอนของตนเองในเงา

อินาริ: “ป่านี้ไม่ใช่ศัตรู

แต่มันจะทำให้เจ้าเป็นศัตรูกับตัวเอง”

ระหว่างพักแรม

นายทหารคนหนึ่งเริ่มเสียสติ

และฟันเพื่อนตัวเองที่เขาเห็นว่าเป็น “วิญญาณศัตรู”

อากิระ: “เราต้องเดินผ่านความตาย...โดยไม่กลายเป็นมัน”

อากิระจึงสั่งให้ทุกคนเดินจับมือกันเป็นวง และสวดบท “ข้ามสะพานไม้เดียว” ของนิกายฮมเมียว

เพื่อรวมจิตใจให้เป็นหนึ่ง


บทที่สอง: เสบียงที่หมดกับความเงียบที่เพิ่มขึ้น

วันที่สามในป่า

เสบียงเริ่มร่อยหรอ

แต่ไม่มีเสียงโวยวาย

ทหารหลายคนเริ่มฝันเห็นครอบครัว คนตาย หรือแม้แต่ตนเองตาย

อินาริจึงตั้ง “แท่นศักดิ์สิทธิ์ชั่วคราว” กลางป่า

ใช้ดินวาดยันต์ซ้ำ ๆ และให้ทุกคนฝังดาบไว้หนึ่งคืน เพื่อ "ฝังความกลัว"

อินาริ: “เมื่อดาบถูกฝัง

สิ่งที่เหลือในมือเจ้าคือมือเปล่า

และมือเปล่าต่างหาก…ที่ข้ามความตายได้”

รุ่งเช้า ดาบของทุกคนมีคราบดินสีแดงติดอยู่

เหมือนผ่าน “พิธีกรรมของความว่างเปล่า”

และนั่นทำให้ทัพยูคิโดะมีจิตใจที่มั่นกว่าเดิม


บทที่สาม: ปราการที่ไม่มีใครเห็น

เมื่อพ้นป่า พวกเขามาถึงเชิงเขาทางตะวันตกของมิกุระ

อากิระไม่สั่งตั้งค่าย

แต่ให้ทุกคน "ขุดหลุม" เป็นฐานชั่วคราว

ปลอมว่าเป็นพื้นที่ร้างสำหรับเกษตรกรรม

กลางคืน ทหารยูคิโดะกลายเป็น “คนในเงา”

ที่ขยับทีละคน ล้อมค่ายพักของโชคิโดยไม่มีเสียง

อากิระ: “พวกเราไม่ต้องการกำแพง

เพราะกำแพงของเรา คือความไม่รู้ของศัตรู”


บทที่สี่: แม่ทัพโชคิและคืนที่ไม่หลับ

โชคิรู้สึกถึงบางอย่างผิดปกติ

จึงสั่งตั้งเวรยาม 4 เท่าของปกติ

แต่ยามกะกลางดึกกลับเริ่มเห็น “เงาเคลื่อนที่ในควันไฟ”

บางคนอ้างว่าเห็นทหารยูคิโดะยืนเงียบ ๆ อยู่ริมป่า แต่พอวิ่งไปกลับไม่มีอะไร

โชคิ: “ข้าเคยสู้กับดาบ

แต่ข้ายังไม่เคยสู้กับความเงียบที่หั่นใจขาดชิ้น”

ในที่สุด โชคิก็สั่งถอยทัพชั่วคราวเพื่อรวบรวมกำลัง

แต่การถอยทัพผ่านป่าในคืนหมอก กลับทำให้ทหารของเขาหายไปเป็นชุด ๆ

โดยไม่มีเสียง มีเพียงรอยเท้าและเศษเลือด


บทส่งท้าย: อากิระนั่งใต้ต้นสน

กลางรุ่งสาง

อากิระนั่งอยู่ใต้ต้นสน

เบื้องหน้าคือศพเล็กน้อยที่ “ศัตรูฆ่าตัวเองด้วยความกลัว”

อินาริ: “เราไม่ต้องรบแล้วหรือ?”

อากิระ: “เรารบเสร็จแล้ว...ตั้งแต่ยังไม่ได้ชักดาบ”

เขาปิดตาแล้วหลับลง

ในใจได้ยินเสียงระฆังของศาลเจ้าที่เขาเคยไปตอนเด็ก


บทที่ 11 จบ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 33 — กลิ่นดินปนกลิ่นเลือด

    บทที่ 33 — กลิ่นดินปนกลิ่นเลือดฟ้าก่อนรุ่งบนเนินเขานอกอิคุซะโนะโมริ หนาวจัดราวมีบางสิ่งกำลังรั้งไม่ให้แสงตะวันขึ้นซาโยะยืนอยู่ริมลานฝึกดาบเก่า สายตานางทอดผ่านหมอกที่ยังคลุมแผ่นดินราวอาภรณ์ของศพกลิ่นดินหลังฝนใหม่… ปนกลิ่นเลือดสดที่ยังไม่แห้งดีมีร่างหนึ่งนอนนิ่งอยู่ใต้มะพลับกลางลาน คือ “ยูนากะ” หนึ่งในคนสนิทของฮากุโร่—ผู้เชี่ยวชาญการลอบสังหาร และเคยปกป้องซาโยะไว้ในศึกเพลิงเงา“เขาถูกวางยาและแทงซ้ำ” แพทย์หลวงกล่าวโดยไม่มองนาง “ผู้ลงมือ...รู้จุดตายของคนที่ถูกฝึกให้ฆ่าโดยไม่หายใจ”เสียงของแพทย์แฝงแววหวาดหวั่นฮากุโร่มาถึงโดยไร้เสียงฝีเท้า เขาก้มลงข้างศพ ใช

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 35 — สนธิสัญญาเงา

    บทที่ 35 — สนธิสัญญาเงาภายในหอประชุมไม้เก่าแก่ กลางป่ามิสุโนะยามค่ำคืน โคมเทียนเพียงเจ็ดดวงส่องไหวราวลมหายใจของเหล่าขุนศึกผืนเสื่อกลางห้องว่างเปล่า ไม่มีใครกล้านั่งตรงกลาง ไม่มีใครกล้าเป็น “แกนกลาง” แห่งพันธมิตรนี้ซาโยะนั่งอยู่หลังฮากุโร่ มองผ่านม่านเส้นผมของตนเอง—ทุกถ้อยคำที่กำลังจะเอ่ย คือเชือกที่ร้อยผู้นำสามตระกูลเข้าหากัน หรือผูกพวกเขาให้ตายไปด้วยกัน“เราจะทำข้อตกลงใต้แสงเทียน โดยไม่มีใบหน้า ไม่มีชื่อ และไม่มีความแค้น” ฮากุโร่กล่าวด้วยน้ำเสียงไร้แววอารมณ์อาโอบะยกพัดขึ้นปิดริมฝีปาก “การไม่เอ่ยนาม เป็นธรรมเนียมของพวกเงา... หรือของพวกทรยศ?”อิซึมิหัวเ

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 32 — โลหิตที่ร้องไห้ในแสงเทียน

    บทที่ 32 — โลหิตที่ร้องไห้ในแสงเทียนห้องหนึ่งในคฤหาสน์อิคุซะโนะโมริถูกแสงเทียนไหววูบสะท้อนเงาร่างสองร่างบนฉากญี่ปุ่นเก่าซาโยะนั่งเงียบอยู่ข้างหน้าต่าง ร่างของเธอสวมเสื้อคลุมบาง ขอบผ้าสีเข้มเปรอะไปด้วยฝุ่นเขม่าจากสนามรบเธอไม่ได้ร้องไห้ ไม่แม้แต่หลั่งน้ำตาแต่โลหิตในอกกลับกรีดเสียงเจ็บปวดดั่งมีใครร้องเรียกจากอดีตเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นในห้อง ฮากุโร่ปรากฏตัวโดยไร้ชุดเกราะ มีเพียงผ้าคลุมดำที่เต็มไปด้วยคราบเลือดและเถ้าถ่าน“เจ้ารอดมาได้...” เสียงของเขาราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยความหมายที่ซ่อนอยู่“ทุกคนตายหมด ยกเว้นข้า” ซาโยะพูดช้า ๆ ไม่ใช่คำสารภาพ แต่เหมือนบันทึกของผู้รอดชีวิตเขาไม่ตอบ กลับเดินมาวางดาบของตัวเองลงบนเสื่ออย่างนุ่มนวล แล้วนั่งเคียงข้างเธอ"เจ้ารู้ไหม..." ซาโยะเอ่ยโดยไม่หันมา “ตอนเปลวไฟล้อมข้า ข้าไม่กลัวตายเลยสักนิด”“แต่ข้ากลัวว่า หากข้ารอด... ข้าจะต้องเห็นหน้าเจ้าอีก”คำพูดนั้นเฉือนผ่านห้วงความเงียบอย่างรุนแรงฮากุโร่ไม่ตอบในทันทีเขาหยิบเทียนเล่มหนึ่งขึ้นมาจุดใหม่ ไฟเล็ก ๆ ส่องสว่างเงาสะท้อนของซาโยะในม่านตาของเขา“แล้วเมื่อเจ้ารอดจริง ๆ เจ้ารู้สึกอย่างไร”ซาโยะนิ่ง เงีย

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   ย้อนอดีตของกลยุทธ์ “เพลิงเงา”

    ย้อนอดีตของกลยุทธ์ “เพลิงเงา”🧭 เบื้องหลังกลยุทธ์ “เพลิงเงา”จุดมุ่งหมายหลัก:ดึงกองกำลังศัตรูเข้ามาสู่ กับดักซุ่มโจมตีใช้ “เปลวไฟ” เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและสายตาใช้ “เงาคน” ทำลายระบบข่าวกรองและสัญญาณสื่อสารศัตรูขั้นตอนการเตรียมตัว:สำรวจพื้นที่เลือกเนินสูง 2 จุดทางตะวันตกเฉียงใต้ของ อิคุซะโนะโมริ เพื่อเป็นฐานตั้งกองกำลังหลัก (A และ B)ระหว่างเนินมีลำธารและพุ่มไม้หนาทึบเป็นทางเดินสำหรับการลอบซุ่มจัดเตรียมเพลิงลวงจุดกองไฟพร้อมเปลาะฟางและกิ่งไม้ลุกไวใน 3 จุด (X, Y, Z) ใกล้ทางเข้าจุดไฟพร้อมกันเพื่อสร้าง “วงเพลิงวงแรก” ระหว่างทางเดินเข้าป่าวางทหาร “เงาซุ่ม”กระจายหมวดลอบโจมตีตามแนวธาร และตามช่องว่างของพุ่มไม้สั่งให้เลี่ยงใช้ธงหรือโซนหมายเหตุระบุตัวแผนยกกองปลอมส่งกองทัพปลอม (ธงปลอม) มุ่งตรงไปยังทางทิศเหนือเพื่อเบี่ยงกำลังศัตรูเมื่อศัตรูเคลื่อนพลตาม มาเจอแต่เงาดับหายไร้เป้าหมาย และถูกล่อลวงเข้าสู่วงเพลิงขณะที่เงาซุ่มอยู่📐 แผนผังสนามรบ (มุมมองจากเบื้องบน) ┌───────────────────────────────────┐ │ ทางทิศเหนือ (กองปลอม) │ │

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 31 — เพลิงเงาในอิคุซะโนะโมริ

    บทที่ 31 — เพลิงเงาในอิคุซะโนะโมริลึกเข้าไปในป่าภูเขาทางตะวันตกของซาคาเอะ ดินแดนที่เคยเงียบสงบกลายเป็นสนามซุ่มกลแห่งยุทธศาสตร์ — อิคุซะโนะโมริ ป่าที่ชื่อแปลว่า "ไพรสงคราม"เสียงฝีเท้าทหารของสองแคว้นดังสะท้อนผ่านแนวไผ่ ฮากุโร่สวมผ้าคลุมสีเทาเช่นเคย ใบหน้าถูกบดบังด้วยหน้ากากครึ่งซีก แต่ดวงตาของเขาว่างเปล่าราวคนตายที่ข้างกาย เขามี ทาคุมะ — รองแม่ทัพผู้รู้เพียงเศษเสี้ยวของอดีต และ อาซึกะ หญิงนักสอดแนมที่เคยล่วงรู้ความลับของซาโยะตั้งแต่ต้น“เรากำลังล่อศัตรูให้ตามแสงเทียน... แต่ไฟที่เผาเราอาจเป็นของจริง” อาซึกะเอ่ยเบา ๆ“แผนนี้มีชื่อว่าอะไร?” ทาคุมะถาม“เพลิงเงา” ฮากุโร่ตอบเรียบเย็น “จุดไฟจากในเงา... เผาใจศัตรูให้กลายเป็นควันก่อนจะฟาดดาบใส่”ขณะเดียวกัน ซาโยะถูกทิ้งไว้ที่คฤหาสน์มิสุโนะพร้อมกับกล่องไม้เล็ก ๆ ที่ฮากุโร่ทิ้งไว้ให้ก่อนออกเดินทางนางลังเล ก่อนจะเปิดมันภายในคือ สายสร้อยจากเปลือกหอยโบราณ ที่บิดาของนางเคยสวมใส่ และจดหมายเพียงไม่กี่บรรทัด:“แม้ข้าจะเป็นเงา แต่ข้าขอให้เจ้าจำข้าในยามที่แสงอาทิตย์สิ้นสุด”มือของซาโยะสั่น ดวงตาหนักด้วยหยาดน้ำ และภายในใจ... มีบางอย่างที่เริ่มแตกออก —

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 30 — ดินแดนที่ไม่มีผู้ชนะ

    บทที่ 30 — ดินแดนที่ไม่มีผู้ชนะรุ่งสางปกคลุมคฤหาสน์มิสุโนะด้วยหมอกหนา แสงแรกของวันไม่อาจส่องทะลุม่านสีเทา เหมือนชะตาของแผ่นดินที่ยังไม่รู้ปลายทางซาโยะนั่งอยู่หน้าชานเรือน ใต้ต้นสนโบราณ สวมกิโมโนสีม่วงหม่น ปลายผมยังเปียกจากการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเช้า นางจ้องมองดาบของบิดา — ที่บัดนี้รู้แล้วว่าผู้ปลิดชีพท่าน ไม่ใช่ชายที่นางเกลียดมาเกือบครึ่งชีวิตแล้วจะโทษใคร? จะรักใคร? จะต่อสู้เพื่อใคร?เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากหลังม่านไม้ไผ่ ฮากุโร่ก้าวเข้ามาอย่างไร้เสียง เงาของเขาทาบลงบนแผ่นพื้นไม้เหมือนเงาของสงครามที่ไม่เคยหายไป“เจ้ายังไม่หลับอีกหรือ” เขาถามเสียงแผ่ว“ข้าไม่เคยนอนดีเลยตั้งแต่เข้ามาในบ้านหลังนี้” ซาโยะตอบโดยไม่หันไปเขาเงียบ ไม่ตอบโต้ ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ โดยรักษาระยะห่างพอประมาณ — เหมือนทั้งสองยังเป็นศัตรูในสนามใจ“ข้ารู้ความจริงแล้ว” ซาโยะเอ่ยในที่สุด “เจ้าปิดปากมือสังหาร ไม่ใช่เพราะความยุติธรรม... แต่เพราะเจ้าต้องการอำนาจของตำแหน่งว่าง”ฮากุโร่พยักหน้า“ใช่ — ข้าไม่ได้บริสุทธิ์ แต่ข้าก็ไม่ได้ฆ่าพ่อเจ้าด้วยมือข้า ข้าแค่เดินเข้าไปในช่องว่างที่สงครามเปิดไว้”“นั่นต่างจากฆ่าเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status