Home / โรแมนติก / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / บทที่ 12 — ศาสนาแห่งสายลมปลอม

Share

บทที่ 12 — ศาสนาแห่งสายลมปลอม

Author: mafath9
last update Last Updated: 2025-06-11 00:52:24

บทที่ 12 — ศาสนาแห่งสายลมปลอม

“ข้าไม่เคยกลัวดาบของศัตรู

ข้ากลัวเสียงสวดมนต์…ที่ไม่เชื่อแม้แต่คนที่เปล่งมันออกมา”

— อินาริ แห่งยูคิโดะ


บทที่หนึ่ง: คำเทศน์จากปากคนลวง

ในเมืองฮิโนเมะ

ศูนย์กลางการค้าของแคว้นมิกุระ

มีชายผู้หนึ่งแต่งกายเป็นนักบวชเร่ร่อน

นามว่า “อาชิรา” — แท้จริงแล้วคืออดีตจารชนของตระกูลโชคิ

เขาเริ่มตั้ง "สำนักชำระกรรม"

อ้างว่าผู้ที่เคยศรัทธาอินาริจะพบเจอหายนะ

ปลุกระดมชาวบ้านด้วยเรื่องเล่าเกินจริง

อ้างว่าอินาริใช้วิญญาณควบคุมทหาร

และสร้าง “ป่าเซกิ” ให้กลืนคนตาย

อาชิรา: “ศรัทธาที่ขับเคลื่อนด้วยความกลัว

ย่อมไม่ต่างจากบ่วงที่มัดไว้กับคอของตนเอง”


บทที่สอง: พระอินาริใต้เงาเปลวไฟ

ข่าวลือเริ่มแพร่กระจาย

ประชาชนในเมืองเริ่มรื้อยันต์ของนิกายฮมเมียว

แม้แต่เด็ก ๆ ยังกลัวเงาเทียนในศาลเจ้า

หญิงชรา: “ตอนข้าเด็ก อินาริช่วยลูกข้ารอดจากไข้

แต่วันนี้…ข้าเผาภาพของเขาเองด้วยมือข้า”

อินาริได้รับข่าวจากสาย

แต่กลับนิ่งเฉย ไม่ปฏิเสธ ไม่ชี้แจง

อากิระเป็นผู้ที่เริ่มไม่เข้าใจ

อากิระ: “เจ้าไม่คิดอธิบายหรือ?”

อินาริ: “เมื่อสายลมพัด

ข้าจะไม่พูด เพราะข้าคือภูเขา”

อากิระ: “แต่ภูเขาก็ถูกฝนกัดจนกลายเป็นธุลีได้เช่นกัน”


บทที่สาม: กลยุทธ์แห่งข่าวลือ

เบื้องหลังของอาชิรา คือ โชคิ

เขาสนับสนุนเงียบ ๆ ส่งเงิน ส่งคน ไปยังหมู่บ้านที่เปราะบาง

สร้างข่าวปลอมเรื่องอินาริสังเวยเด็กชาย

ใช้คนแต่งชุดทหารยูคิโดะไปข่มขู่ผู้คน

และจงใจเผาศาลเจ้าเล็ก ๆ แล้วปล่อยข่าวว่า "อินาริลงโทษตนเอง"

โชคิ: “ข้าไม่จำเป็นต้องฆ่าอินาริ

ข้าจะทำให้คนในบ้านของเขาจุดไฟเผาเขาเอง”

แผนการเรียกว่า “สาส์นในควัน”

เปลี่ยนศรัทธาให้กลายเป็นความกลัวที่ไร้ทิศ


บทที่สี่: สายลมของชิราโนะ

ในอีกมุมหนึ่ง

"ชิราโนะ" หญิงสาวนักพยากรณ์ ที่เคยเป็นศิษย์เอกของอินาริ

กลับปรากฏตัวขึ้นในตลาดเมือง

เธอถือกระจกทองคำและพูดกับฝูงชนว่า

ชิราโนะ: “ท่านกลัวอินาริ เพราะท่านไม่เคยมองเขาด้วยตาของตัวเอง

ขอเพียงมองผ่านกระจกนี้ แล้วถามใจจริงของเจ้า…”

ผู้คนเริ่มมุงดู

และในกระจกกลับไม่มีภาพอะไร

มีเพียง "เงาตนเอง"

แต่นั่นทำให้คนบางส่วนเริ่มกลับมาครุ่นคิด


บทส่งท้าย: ลมแห่งความคลางแคลง

อินาริขึ้นพูดกับประชาชนเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

แต่ไม่ได้พูดถึงข่าวลือ

เขายืนเงียบหน้าแท่นศาล

แล้วเผาตำราทั้งหมดของนิกายฮมเมียว

อินาริ: “หากศรัทธาของพวกเจ้า

ต้องยึดอยู่กับกระดาษ หมึก และเสียงข้า

ก็จงปล่อยให้มันตายเสียเถิด”

“ผู้ที่ต้องการข้ามแม่น้ำ

ไม่จำเป็นต้องบูชาเรือ

แต่จงเข้าใจว่าตนสามารถว่ายเองได้”


บทที่ 12 จบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 33 — กลิ่นดินปนกลิ่นเลือด

    บทที่ 33 — กลิ่นดินปนกลิ่นเลือดฟ้าก่อนรุ่งบนเนินเขานอกอิคุซะโนะโมริ หนาวจัดราวมีบางสิ่งกำลังรั้งไม่ให้แสงตะวันขึ้นซาโยะยืนอยู่ริมลานฝึกดาบเก่า สายตานางทอดผ่านหมอกที่ยังคลุมแผ่นดินราวอาภรณ์ของศพกลิ่นดินหลังฝนใหม่… ปนกลิ่นเลือดสดที่ยังไม่แห้งดีมีร่างหนึ่งนอนนิ่งอยู่ใต้มะพลับกลางลาน คือ “ยูนากะ” หนึ่งในคนสนิทของฮากุโร่—ผู้เชี่ยวชาญการลอบสังหาร และเคยปกป้องซาโยะไว้ในศึกเพลิงเงา“เขาถูกวางยาและแทงซ้ำ” แพทย์หลวงกล่าวโดยไม่มองนาง “ผู้ลงมือ...รู้จุดตายของคนที่ถูกฝึกให้ฆ่าโดยไม่หายใจ”เสียงของแพทย์แฝงแววหวาดหวั่นฮากุโร่มาถึงโดยไร้เสียงฝีเท้า เขาก้มลงข้างศพ ใช

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 35 — สนธิสัญญาเงา

    บทที่ 35 — สนธิสัญญาเงาภายในหอประชุมไม้เก่าแก่ กลางป่ามิสุโนะยามค่ำคืน โคมเทียนเพียงเจ็ดดวงส่องไหวราวลมหายใจของเหล่าขุนศึกผืนเสื่อกลางห้องว่างเปล่า ไม่มีใครกล้านั่งตรงกลาง ไม่มีใครกล้าเป็น “แกนกลาง” แห่งพันธมิตรนี้ซาโยะนั่งอยู่หลังฮากุโร่ มองผ่านม่านเส้นผมของตนเอง—ทุกถ้อยคำที่กำลังจะเอ่ย คือเชือกที่ร้อยผู้นำสามตระกูลเข้าหากัน หรือผูกพวกเขาให้ตายไปด้วยกัน“เราจะทำข้อตกลงใต้แสงเทียน โดยไม่มีใบหน้า ไม่มีชื่อ และไม่มีความแค้น” ฮากุโร่กล่าวด้วยน้ำเสียงไร้แววอารมณ์อาโอบะยกพัดขึ้นปิดริมฝีปาก “การไม่เอ่ยนาม เป็นธรรมเนียมของพวกเงา... หรือของพวกทรยศ?”อิซึมิหัวเ

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 32 — โลหิตที่ร้องไห้ในแสงเทียน

    บทที่ 32 — โลหิตที่ร้องไห้ในแสงเทียนห้องหนึ่งในคฤหาสน์อิคุซะโนะโมริถูกแสงเทียนไหววูบสะท้อนเงาร่างสองร่างบนฉากญี่ปุ่นเก่าซาโยะนั่งเงียบอยู่ข้างหน้าต่าง ร่างของเธอสวมเสื้อคลุมบาง ขอบผ้าสีเข้มเปรอะไปด้วยฝุ่นเขม่าจากสนามรบเธอไม่ได้ร้องไห้ ไม่แม้แต่หลั่งน้ำตาแต่โลหิตในอกกลับกรีดเสียงเจ็บปวดดั่งมีใครร้องเรียกจากอดีตเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นในห้อง ฮากุโร่ปรากฏตัวโดยไร้ชุดเกราะ มีเพียงผ้าคลุมดำที่เต็มไปด้วยคราบเลือดและเถ้าถ่าน“เจ้ารอดมาได้...” เสียงของเขาราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยความหมายที่ซ่อนอยู่“ทุกคนตายหมด ยกเว้นข้า” ซาโยะพูดช้า ๆ ไม่ใช่คำสารภาพ แต่เหมือนบันทึกของผู้รอดชีวิตเขาไม่ตอบ กลับเดินมาวางดาบของตัวเองลงบนเสื่ออย่างนุ่มนวล แล้วนั่งเคียงข้างเธอ"เจ้ารู้ไหม..." ซาโยะเอ่ยโดยไม่หันมา “ตอนเปลวไฟล้อมข้า ข้าไม่กลัวตายเลยสักนิด”“แต่ข้ากลัวว่า หากข้ารอด... ข้าจะต้องเห็นหน้าเจ้าอีก”คำพูดนั้นเฉือนผ่านห้วงความเงียบอย่างรุนแรงฮากุโร่ไม่ตอบในทันทีเขาหยิบเทียนเล่มหนึ่งขึ้นมาจุดใหม่ ไฟเล็ก ๆ ส่องสว่างเงาสะท้อนของซาโยะในม่านตาของเขา“แล้วเมื่อเจ้ารอดจริง ๆ เจ้ารู้สึกอย่างไร”ซาโยะนิ่ง เงีย

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   ย้อนอดีตของกลยุทธ์ “เพลิงเงา”

    ย้อนอดีตของกลยุทธ์ “เพลิงเงา”🧭 เบื้องหลังกลยุทธ์ “เพลิงเงา”จุดมุ่งหมายหลัก:ดึงกองกำลังศัตรูเข้ามาสู่ กับดักซุ่มโจมตีใช้ “เปลวไฟ” เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและสายตาใช้ “เงาคน” ทำลายระบบข่าวกรองและสัญญาณสื่อสารศัตรูขั้นตอนการเตรียมตัว:สำรวจพื้นที่เลือกเนินสูง 2 จุดทางตะวันตกเฉียงใต้ของ อิคุซะโนะโมริ เพื่อเป็นฐานตั้งกองกำลังหลัก (A และ B)ระหว่างเนินมีลำธารและพุ่มไม้หนาทึบเป็นทางเดินสำหรับการลอบซุ่มจัดเตรียมเพลิงลวงจุดกองไฟพร้อมเปลาะฟางและกิ่งไม้ลุกไวใน 3 จุด (X, Y, Z) ใกล้ทางเข้าจุดไฟพร้อมกันเพื่อสร้าง “วงเพลิงวงแรก” ระหว่างทางเดินเข้าป่าวางทหาร “เงาซุ่ม”กระจายหมวดลอบโจมตีตามแนวธาร และตามช่องว่างของพุ่มไม้สั่งให้เลี่ยงใช้ธงหรือโซนหมายเหตุระบุตัวแผนยกกองปลอมส่งกองทัพปลอม (ธงปลอม) มุ่งตรงไปยังทางทิศเหนือเพื่อเบี่ยงกำลังศัตรูเมื่อศัตรูเคลื่อนพลตาม มาเจอแต่เงาดับหายไร้เป้าหมาย และถูกล่อลวงเข้าสู่วงเพลิงขณะที่เงาซุ่มอยู่📐 แผนผังสนามรบ (มุมมองจากเบื้องบน) ┌───────────────────────────────────┐ │ ทางทิศเหนือ (กองปลอม) │ │

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 31 — เพลิงเงาในอิคุซะโนะโมริ

    บทที่ 31 — เพลิงเงาในอิคุซะโนะโมริลึกเข้าไปในป่าภูเขาทางตะวันตกของซาคาเอะ ดินแดนที่เคยเงียบสงบกลายเป็นสนามซุ่มกลแห่งยุทธศาสตร์ — อิคุซะโนะโมริ ป่าที่ชื่อแปลว่า "ไพรสงคราม"เสียงฝีเท้าทหารของสองแคว้นดังสะท้อนผ่านแนวไผ่ ฮากุโร่สวมผ้าคลุมสีเทาเช่นเคย ใบหน้าถูกบดบังด้วยหน้ากากครึ่งซีก แต่ดวงตาของเขาว่างเปล่าราวคนตายที่ข้างกาย เขามี ทาคุมะ — รองแม่ทัพผู้รู้เพียงเศษเสี้ยวของอดีต และ อาซึกะ หญิงนักสอดแนมที่เคยล่วงรู้ความลับของซาโยะตั้งแต่ต้น“เรากำลังล่อศัตรูให้ตามแสงเทียน... แต่ไฟที่เผาเราอาจเป็นของจริง” อาซึกะเอ่ยเบา ๆ“แผนนี้มีชื่อว่าอะไร?” ทาคุมะถาม“เพลิงเงา” ฮากุโร่ตอบเรียบเย็น “จุดไฟจากในเงา... เผาใจศัตรูให้กลายเป็นควันก่อนจะฟาดดาบใส่”ขณะเดียวกัน ซาโยะถูกทิ้งไว้ที่คฤหาสน์มิสุโนะพร้อมกับกล่องไม้เล็ก ๆ ที่ฮากุโร่ทิ้งไว้ให้ก่อนออกเดินทางนางลังเล ก่อนจะเปิดมันภายในคือ สายสร้อยจากเปลือกหอยโบราณ ที่บิดาของนางเคยสวมใส่ และจดหมายเพียงไม่กี่บรรทัด:“แม้ข้าจะเป็นเงา แต่ข้าขอให้เจ้าจำข้าในยามที่แสงอาทิตย์สิ้นสุด”มือของซาโยะสั่น ดวงตาหนักด้วยหยาดน้ำ และภายในใจ... มีบางอย่างที่เริ่มแตกออก —

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 30 — ดินแดนที่ไม่มีผู้ชนะ

    บทที่ 30 — ดินแดนที่ไม่มีผู้ชนะรุ่งสางปกคลุมคฤหาสน์มิสุโนะด้วยหมอกหนา แสงแรกของวันไม่อาจส่องทะลุม่านสีเทา เหมือนชะตาของแผ่นดินที่ยังไม่รู้ปลายทางซาโยะนั่งอยู่หน้าชานเรือน ใต้ต้นสนโบราณ สวมกิโมโนสีม่วงหม่น ปลายผมยังเปียกจากการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเช้า นางจ้องมองดาบของบิดา — ที่บัดนี้รู้แล้วว่าผู้ปลิดชีพท่าน ไม่ใช่ชายที่นางเกลียดมาเกือบครึ่งชีวิตแล้วจะโทษใคร? จะรักใคร? จะต่อสู้เพื่อใคร?เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากหลังม่านไม้ไผ่ ฮากุโร่ก้าวเข้ามาอย่างไร้เสียง เงาของเขาทาบลงบนแผ่นพื้นไม้เหมือนเงาของสงครามที่ไม่เคยหายไป“เจ้ายังไม่หลับอีกหรือ” เขาถามเสียงแผ่ว“ข้าไม่เคยนอนดีเลยตั้งแต่เข้ามาในบ้านหลังนี้” ซาโยะตอบโดยไม่หันไปเขาเงียบ ไม่ตอบโต้ ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ โดยรักษาระยะห่างพอประมาณ — เหมือนทั้งสองยังเป็นศัตรูในสนามใจ“ข้ารู้ความจริงแล้ว” ซาโยะเอ่ยในที่สุด “เจ้าปิดปากมือสังหาร ไม่ใช่เพราะความยุติธรรม... แต่เพราะเจ้าต้องการอำนาจของตำแหน่งว่าง”ฮากุโร่พยักหน้า“ใช่ — ข้าไม่ได้บริสุทธิ์ แต่ข้าก็ไม่ได้ฆ่าพ่อเจ้าด้วยมือข้า ข้าแค่เดินเข้าไปในช่องว่างที่สงครามเปิดไว้”“นั่นต่างจากฆ่าเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status