Share

อาจารย์ใหม่

last update Last Updated: 2025-09-30 13:58:20

....เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดอ่อนส่องลงมาที่ลานฝึกกลางสำนัก เสียงลมพัดพริ้วผ่านต้นไม้ใหญ่ ผิวใบไม้สะท้อนแสงเป็นประกายเหล่าศิษย์ถูกเรียกให้มารวมตัวโดยผู้อาวุโสของสำนัก ใบหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัยและตื่นเต้น

หลินเซียนมายืนร่วมกับศิษย์คนอื่นด้วยใบหน้าเรียบเฉย มีรอยช้ำเล็กน้อยที่ใบหน้า และแขนที่โผล่ออกมาจากเสื้อ สวมใส่ชุดสีขาวเก่าๆ แต่เขาก็ยังดูมีเสน่ห์และมีประกายเก่นกว่าคนอื่นๆอยู่ดี

หลิวเซี่ยงชำเลืองมองเขาด้วยสายตาเยาะเย้ย และถ่มนำลายรดพื้น เหตุการณ์คืนที่ผ่านมา แม้นมีบางคนรู้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะพูดถึง หรือออกมาปกป้องหลินเซียนเลยแม้แต่คนเดียว ด้วยความหวั่นเกรงอิทธิพลตระกูลหลิวที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง

“วันนี้ท่านอาจารย์เฉิงเสินและจื่อหยง ได้กลับมาจากการฝึกฝนกับสำนักเซียนขั้นสูง พวกท่านบรรลุขั้นสร้างแกนปราณขั้นต้นได้แล้ว ตั้งแต่นี้ไปพวกเจ้าจะได้ร่ำเรียนวิชาชั้นสูงจากพวกท่าน”

ผู้อาวุโสประกาศ เสียงดังชัดเจนทำให้ทุกคู่ตาหันมามอง

อาจารย์เฉิงเสินปรากฏตัวขึ้น ร่างสูงโปร่ง ผิวขาวราวกับหยก หน้าตาหล่อเหลาเรียบสง่า ดวงตาเป็นประกายสว่างและแฝงความอบอุ่น รอยยิ้มบางเบาแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทำให้หัวใจของศิษย์หลายคนเต้นไม่เป็นจังหวะ

ด้านอาจารย์จื่อหยง ผิวแทนเข้ม ขนาดร่างสูงใหญ่คล้ายลิงยักษ์ ฟันหน้าเหยินเล็กน้อยและหลังค่อมเล็กๆ ทำให้เขาดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดวงตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและความมั่นคง

สองอาจารย์ยืนเคียงกันอย่างสง่างาม แต่ละท่าทางแสดงถึงพลังปราณขั้นสูง 

เหล่าศิษย์เงียบไปชั่วครู่ ทุกคนรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างสองอาจารย์ ทั้งเสน่ห์เย้ายวนของคนหนึ่ง และความหนักแน่นมั่นคงของอีกคน

เสียงลมพัดผ่าน ใบไม้ไหวเบาๆ แต่บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยความเคารพและความตื่นเต้น ทุกสายตาจับจ้องที่อาจารย์ทั้งสองนี้ 

อาจารย์เฉิงเสินชำเลืองตามามองหลินเซียนแล้วยิ้มให้ หลินเซียนยิ้มที่มุมปากนิดๆแล้วก้มศรีษะเล็กน้อยแสดงความเคารพตอบ

หลังเลิกแถว มีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาหาหลินเซียนบอกว่าให้ไปหาท่านอาจารย์เฉิงเสินที่ห้องพักอาจารย์ด้วย หลินเซียนพยักหน้าและค่อยๆเดินไปห้องพักอาจารย์

.....แสงอ่อนจากหน้าต่างไม้สาดเข้ามาในห้องพักของอาจารย์เฉิงเสิน โต๊ะไม้เรียบวางกาน้ำชาและถ้วยชาอย่างเป็นระเบียบ

เขานั่งสงบบนเก้าอี้ จับถ้วยชาในมือดื่มช้าๆ ชิมรสชาติด้วยรอยยิ้มบางเบา ดวงตาเย็นเยียบแต่เต็มไปด้วยความสงบภายใน

เสียงลมพัดผ่านหน้าต่าง ใบไม้ไหวเบาๆ ผสมกับไอหอมจากชา ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูเหมือนหยุดเวลาไว้

อาจารย์เฉิงเสินวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ ชะโงกหน้ามองหลินเซียนด้วยรอยยิ้มอ่อน

เมื่อเขาเห็นหลินเซียนเคาะประตูและเดินเข้ามาในห้อง

“หลินเซียน…อาจารย์ได้ยินมาว่าเจ้าคือศิษย์ที่เก่งที่สุดในรุ่นนี้ ไม่สิ! เก่งกว่าศิษย์พี่หลายๆคนด้วยซ้ำ” เสียงเขาอ่อนโยนแต่หนักแน่น

หลินเซียนก้มหัวนิดๆ ยิ้มเขิน “ข้าเพียงทำเต็มที่ตามที่อาจารย์ทุกท่านสอนขอครับ”

อาจารย์เฉิงเสินหัวเราะเบาๆ “เจ้าช่างถ่อมตัว ข้าชอบ แต่ความสามารถเจ้า…เด่นชัดเกินใครจริงๆ”

เขามองไปที่ชุดเซียนสีขาวพับเรียบร้อย

“นี่…ชุดเซียนใหม่ ให้เจ้าแทนชุดเก่าที่ใส่อยู่ ชุดตอนนี้มันไม่เหมาะกับหน้าตาหล่อเหลาของเจ้าเลยนะ”

หลินเซียนแสดงความตกใจเล็กน้อย “ท่านอาจารย์…ข้าไม่สมควรเลยขอครับ”

“สมควรสิ! คนเก่งต้องคู่กับสิ่งที่คู่ควร” เสียงอาจารย์อบอุ่นเหมือนแสงอาทิตย์

เขายังหยิบขวดยาทาแผลขึ้นมา วางไว้บนมือหลินเซียน

“เห็นหน้าและแขนเจ้ามีรอยช้ำ ข้าจะให้ยานี้ เป็นยาสมานแผลชั้นดีที่ข้าได้มาจากสำนักเซียนขั้นสูง”

หลินเซียนค่อยๆ รับ ก้มศรีษะคำนับ ยิ้มบางเบา “ขอบ...ขอบคุณขอครับท่านอาจารย์”

อาจารย์เฉิงเสินเอียงศีรษะเล็กน้อย มองลึกเข้าไปในตาหลินเซียน

“ข้าชอบคนเก่ง…และข้าอยากเห็นเจ้าเก่งขึ้นยิ่งกว่านี้”

หลินเซียนรู้สึกถึงความอบอุ่น ความห่วงใยซ่อนอยู่ในทุกคำพูด

“ข้าจะตั้งใจฝึกให้มากกว่านี้ขอรับท่านอาจารย์”

“ดีมาก…อย่าลืมว่าความสามารถไม่ใช่แค่แรงกาย แต่ใจต้องแน่วแน่ด้วย”

อาจารย์ยิ้มเบาอีกครั้ง “ชุดใหม่นี้…ถ้าเจ้าใส่แล้วคงจะดูสง่างามขึ้นอีกหลายเท่า”

หลินเซียนยกมือแตะชุดด้วยความตื้นตันใจ

“ข้า…จะไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังขอครับ”

“เชื่อข้าเถอะ…เธอมีทั้งพรสวรรค์และความตั้งใจแล้ว”

...หลินเซียนเดินยิ้มกว้างจนตาเป็นประกาย เขากอดชุดเซียนสีขาวใหม่แน่นอก ราวกับเก็บสมบัติล้ำค่าไว้กับตัว

ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความสุข ใจเต้นรัวราวกับดนตรีบรรเลงเบาๆ

เขาเดินกลับไปยังห้องพักข้างคอกม้า แสงแดดยามบ่ายสาดลงบนร่างเขาอย่างอบอุ่น

ลมพัดเอื่อยๆ ทำชายชุดเซียนปลิวไหวอย่างนุ่มนวล

ทุกสิ่งรอบตัวเหมือนฉากในความฝัน สงบ แต่เต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจของหลินเซียน...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   ตามความสามารถ

    (3 เดือนผ่านไป).....บัดนี้ศิษย์ทั้ง 6 คนบรรลุระดับรวบรวมปราณขั้นต้นได้หมดแล้ว หลินเซียนเริ่มให้แต่ละคนฝึกฝนต่างกัน - หลี่เทียนอวิ๋น แม้เขาจะเป็นคนก้าวร้าวแต่เขาเป็นลูกขุนนางจึงมีการศึกษาดีกว่าทุกคน หลินเซียนเริ่มสอนทักษะพื้นฐานการสร้าวงค่ายกลให้แก่เขา- เซียวฉิง นางฝึกฝนวิชากระบี่มาจากแม่แล้วหลินเซียนจึงสอนการบรรจุพลังปราณลงในกระบี่ให้- หวังต้า หลินเซียนสอนปราณธาตุไฟให้เขา หวังต้าชอบมากเพราะเขาคิดว่าอนาคตย่อมมีประโยชน์กับงานร้านตีเหล็กของเขาได้- จางซาน หลินเซียนสอนวิชาการปรุงยา และความรู้เรื่องสมุนไพรเซียนให้เขา เผื่อวันหน้าเขาจะหลอมยาไว้บำรุงร่างกายตัวเอง- หานซิ่วเรียนรู้พลังปราณธาตุน้ำตาหลินเซียน- หลิงเออร์แม้จะเป็นเด็กแต่รากวิญญาณเซียนเธอดีพิเศษ หลินเซียนจึงให้เธอฝึกปราณธาตุน้ำ, ไม้ และดิน ซึ่งปราณธาตุไม้นั้นหลินเซียนให้เสี่ยวหมิงออกมาช่วยด้วย เธอจึงทั้งสนุกที่ได้เล่นหมีแพนด้าและสัมผัสปราณธาตุไม้การสอนศิษย์ทุกคนหลายเดือนนี้หลินเซียนก็เหมือนได้ทบทวนวิชาต่างๆที่ตัวเองเคยร่ำเรียนมาให้ความรู้แน่นขึ้น เก็บตกเศษชิ้นส่วนเล็กๆในแต่ละวิชามาเติมเต็มปัญญาตนเอง บางครั้งกลางดึกเขาเองก็ไป

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   สัมผัสปราณ

    ....ข่าวการไล่ตะเพิดอันธพาลทำให้ไม่มีีอาจารย์สถาบันติวอื่นกล้ามาคบหากับหลินเซียน แต่ก็ทำให้มีชื่อเสียงในกลุ่มเด็กๆเยาวชนที่อยากผ่านการทดสอบเป็นเซียนบางคน ทำให้สถาบันของหลินเซียนคึกคักขึ้น ห้องเรียนเล็กๆบัดนี้มีคนหนุ่มสาวทั้งชายหญิงรวมถึงเด็กน้อยครั้งก่อนมาเรียนด้วย 6 คนแล้วคนแรก คือเด็กหญิงตัวน้อยที่มาช่วยหลินเซียนครั้งที่แล้ว เธอชื่อหลิงเออร์ เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่อยู่กับคุณปู่ที่เปิดร้านขายน้ำหมึกและพู่กันข้างๆบ้านหลินเซียนนี่เอง เนื่องจากหลินเซียนบอกจะสอนให้ฟรี ปู่เธอจึงอนุญาตให้มาเรียนด้วยคนที่ 2 ชื่อหลี่อวิ๋นเทียน อายุ 14-15 ปีแล้ว เขาเป็นคุณชายสกุลขุนนางปลายแถว เนื่องด้วยเป็นเด็กมั่นใจตัวเองสูงพ่อแม่สอนไม่ฟัง จึงเอามาฝากให้หลินเซียนช่วยอบรมให้คนที่ 3 ชื่อหวังต้า เป็นลูกชายคนโตของร้านช่างตีเหล็กในตลาดคนที่ 4 ชื่อหานซิ่ว เป็นลูกชาวนายากจนจากชนบท แต่เป็นคนเรียบร้อยถ่อมตน หลินเซียนให้เขาพักที่สถาบัน โดยให้ทำงานทำความสะอาดเรือนแลกกับการให้ที่พักคนที่ 5 ชื่อเซียวฉิง เธอเป็นลูกสาวจอมยุทธหญิง ชำนาญวิชาดาบ แต่เมื่อตรวจพบว่ามีรากวิญญาณเซียน แม่เธอจึงพาเข้าเมืองหลวง และได้ยินชื่อเสียงหล

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   อาจารย์หลิน

    ....แคว้นจูตั้งอยู่ทางเหนือสุดของทวีป ถูกขนาบด้วยเทือกเขาหิมะที่สูงเสียดฟ้าปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี และในหุบเขามีทะเลสาบน้ำแข็งนิรันดร์ที่เล่ากันว่าซ่อนสมบัติเซียนและกระบี่โบราณไว้อยู่ด้วยส่วนพื้นที่ราบเป็นทุ่งน้ำแข็งและทะเลสาบที่ถูกแช่แข็งเกือบทั้งปี แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนสั้นๆจะมีทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่มให้สัตว์เลี้ยงและกวางป่าออกหากินมีลมเหนือหนาวเย็นพัดลงมาที่เมืองทั้งปี ดวงอาทิตย์ส่องแสงน้อยจึงเป็นแคว้นที่กลางวันสั้นส่วนกลางคืนยาว ทำให้ผู้คนที่นี่แข็งแกร่งและอดทนณ เมืองหลวงขอแคว้นชื่อไป๋ซวง(น้ำค้างขาว) มีกำแพงเมืองที่ถูกสร้างด้วยหินแข็งแรงและไม้สนดำ ทนทานต่อพายุหิมะผู้คนแคว้นนี้มีผิวซีดขาว แก้มแดงจากอากาศหนาว มักสวมเสื้อคลุมหนังสัตว์ซ้อนหลายชั้นอาชีพหลักคือ ล่าสัตว์, ทำหนังสัตว์, ค้าขนสัตว์, และหลอมเหล็กจากแร่ในภูเขา จึงมีตลาดแลกเปลี่ยนที่คึกคัก แม้จะเป็นแคว้นห่างไกลที่นี่ยังเป็นแคว้นที่ผู้คนมีรากวิญญาณเซียนหลายคน นั่นจึงทำให้มีสำนักเซียนมากมายในแคว้น ซึ่งการทดสอบเข้าเป็นศิษยืแต่ละสำนักก็มีทั้งการสอบมาตรฐานที่ราชสำนักกำหนด และการทดสอบเฉพาะแต่ละสำนักด้วยและด้วยทางการสนับสนุนอย่างด

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   สิบปีสุดท้ายนี้ลูกจะอยู่กับแม่ไม่ไปไหน

    A : ไง?หลินเซียน : ท่านเป็นใคร ทำไมข้าไม่เห็นหน้าท่าน? แล้วที่นี่ที่ไหน?B : สำคัญด้วยรึ?หลินเซียน : พวกท่านเป็นใคร? ข้าอยู่ที่ไหน?B : เจ้าหนู ที่นี่มันเป็นสถานที่ๆอธิบายยากอยู่นะ เจ้าอย่าสนใจเลยA : เจ้าช่วยตอบคำถามพวกเราสัก 2 ข้อได้ไหม? แล้วเราจะปล่อยเจ้าไปหลินเซียน : ท่านจะถามอะไรขอรับ?A : ข้าจะถามว่า.......B : ส่วนข้าอยากถามเจ้าว่า.....A+B : แล้ววันหลังพวกเราจะมาขอคำตอบหลินเซียนลืมตาเบิกโพลง เขามองรอบๆตัว ตอนนี้เขานอนอยู่บนเตียง มีผ้าห่ม และผ้าพันแผลพันกายนิดหน่อย"เจ้าฟื้นแล้วรึ?" ไม่ใช่ใครที่ไหน คือนางปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนั่นเอง นางนั่งเฝ้าเขาอยู่ไม่ไปไหน แถมมีเสี่ยวหมิงแพนด้าตัวน้อยอยู่ข้าง ๆ พอมันเห็นว่าหลินเซียนฟื้นแล้วมันดีใจรีบเดินเข้าไปออดอ้อนทันที"ขอบใจเจ้ามากที่มาช่วยพวกเรา" หลินเซียนเอื้อมไปจับมือนางจิ้งจอก ทำเอานางเขินแก้มแดง"ม....ไม่มีอะไรนี่ การตอบแทนบุญคุณเป็นเรื่องธรรมดา" หางนางโผล่ออกและบิดไปมา หลินเซียนยิ้มใความเขินอายของสาวแก่อายุตั้งพันปี"อาจารย์ท่านตื่นแล้ว!" องค์ชายดีใจพูดเสียงดัง อาการบาดเจ็บเขาดีขึ้นมากเพราะน้ำวิเศษในน้ำเต้าที่หลินเซียนให้เขาดื่ม

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   ดั่งคำสัญญา....

    .....หลินเซียนใช้ม่านวารีพิทักษ์ป้องกันครบไปแล้ว 3 ครั้ง ดังนั้นลูกไฟสีน้ำเงินและสีเขียวที่ลอยพุ่งมานี้เขาไม่สามารถใช้วิธีเดิมป้องกันได้อีกแล้วหลินเซียนรีบชูแหวนธาราสวรรค์ขึ้นมา เขาเสี่ยงดวงดูว่าแหวนธาราสวรรค์จะสามารถดูดพลังไฟประหลาดทั้งสองนี้เก็บไว้ได้ไหม ปรากฏว่าแหวนธาราสวรรค์ดูไฟทั้งสองสีเข้าไปได้ แต่หากถอดจิตเข้าไปดูด้านในไฟนั้นลุกท่วมไปทั่วทำเอาปราณน้ำที่สะสมไว้ระเหยปั่นป่วนไปหมดหลินเซียนคิดว่าคงไม่อาจเก็บไว้ประหลาดแบบนี้ได้อีกแล้ว ฝ่ายเซียนหยวนอิงประหลาดใจไม่น้อย ไม่คิดว่าหลินเซียนจะมีแหวนธาราสวรรค์ของหายาก เขารู้สึกเจ็บแผลที่ถูกดาบวารีแทงเมื่อสักครู่"โทษที่เจ้าทำให้ข้าเจ็บ งั้นข้าจะเผาเจ้าด้วยสุดยอดไฟของข้า!"เขาปล่อยพลังออกมามากมายจะเศษซากอาคารถล่ม แผ่นดินสั่นไหว เขาใช้สิงมือกุมกันจนมีลูกไฟสีทองแดงโผล่ขึ้นมามันไม่ใ่ชไฟธรรมดา เพียงคนทั่วไปมองก็ตาบอดทันที พวกเซียนระดับต่ำก็มองแล้วจะรู้สึกเหมือนถูกโดนแผดเผาทั้งร่างส่วนหลินเซียนมั้นมองได้แค่แผบเดียวแล้วต้องรีบเอามือมาปิดบัง "นี่คือไฟจากแกนพิภพ!"เซียนชุดแดงหยิบสมบัติเซียนออกมาขว้างไปที่หลินเซียนกลายเป็นกรงแสงที่ไม่มีทางหนีห

  • เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)   ไฟ...ปะทะ...น้ำ

    ....กลางสมรภูมิ แผ่นฟ้าสีเลือดฉาบด้วยแสงอัคคีแดงฉาน บัดนี้กองทัพขององค์ชายจ้าวหานเฟิง ที่มีทั้งทหารกล้าและเหล่าเซียนแคว้นจ้าวกำลังถลำลึกสู่ขอบเหวแห่งความพ่ายแพ้เสียงโครมครามของอาวุธชนกับอาวุธปะปนกับเสียงโหยหวน สายลมพัดกลิ่นคาวเลือดโชยอวลจนแทบหายใจไม่ออก ร่างทหารผู้กล้าและเซียนถูกเปลวเพลิงนรกกลืนกิน ร่างพวกเขากรีดร้องเพียงครู่ก่อนจะแหลกสลายกลายเป็นเถ้าธุลีเหนือสนามรบ บนฟากฟ้าสีแดงฉานปรากฏเงาร่าง เซียนหยวนอิงฝ่ายศัตรูเพียงหนึ่งเดียว ชายชราผมขาวหนวดขาวในชุดสีแดง นัยน์ตาเขาราวกับแผดเผาด้วยเพลิงโลกันต์ ปราณของเขาเป็น "ไฟนรก" ที่ไม่ดับสิ้นแม้เมื่อดวงวิญญาณหลุดร่าง เปลวไฟนี้กัดกร่อนทั้งเนื้อหนังและวิญญาณ ผู้ที่ถูกเผาแม้ตายแล้วก็ยังได้ยินเสียงกรีดร้องของตนเองก้องสะท้อนอยู่ในห้วงว่างเหล่าเซียนแคว้นจ้าวพยายามค้ำยันค่ายกลถึงที่สุด เพื่อป้องกันไฟนรก แต่เส้นลายยันต์บนฟ้าและพื้นดินแตกร้าวอย่างน่าสยดสยอง ราวกับมังกรที่ใกล้ขาดลมหายใจ เซียนหนุ่มสาวและชายชรามากมายผู้รับหน้าที่เป็นเสาหลักของค่ายกล เลือดไหลจากเจ็ดทวาร ร่างสั่นสะท้านจนแทบจะยืนไม่อยู่ หากค่ายกลแตกพังเมื่อใด กองทัพแคว้นจ้าวทั้งหมดจะถูกไฟ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status