ตอนที่28 กำแพงถูกทำลาย
ความใกล้ชิดของทั้งสองทำให้กำแพงกั้นที่ชาร์วีสร้างไว้ตั้งแต่แรกค่อย ๆ พังทลายลงอย่างไม่รู้ตัว การปฏิบัติตัวต่อหญิงสาวที่ต่างจากคนอื่นเป็นเครื่องยืนยันว่าพลอยใสนั้นเป็นคนพิเศษ ทุกคนในบ้านต่างรู้ดีแต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย
“ป้าตั้งโต๊ะเสร็จแล้วนะคะ” ป้าณีเดินเข้าไปบอกธาราที่นั่งทำงานอยู่ห้องทำงานชั้นล่างหลังจากที่จัดอาหารเย็นขึ้นโต๊ะเสร็จเรียบร้อย
“ครับ แล้วพลอยใสล่ะครับ”
“พลอยใสกลับไปบ้านพักแล้วค่ะ คุณธารามีธุระอะไรกับเธอหรือเปล่า” ป้าณีบอกออกไปเพราะหญิงสาวพึ่งขอตัวกลับไปหลังจากที่ช่วยงานในครัวเสร็จ
“เปล่าครับผมลืมบอกเธอให้อยู่รอทานข้าวเย็นที่นี่ก่อน เมื่อตอนเย็นไอ้ชาร์บอกผมไว้แต่ผมลืมบอกพลอยใสน่ะครับ”
“ให้พลอยใสนั่งร่วมโต๊ะมื้อเย็นด้วยอย่างนั้นเหรอคะ” แม่บ้านคนเก่าคนแก่ถามขึ้นอีกครั้งนัยน์ตาเต็มไปด้วยความกังวล
“เห็นไอ้ชาร์บอกแบบนั้นนะครับ”
“คุณธาราคะ ถึงพลอยใสจะเป็นเด็กดีเด็กกตัญญู แต่ป้าไม่เห็นด้วยที่คุณวีจะทำกับเธอแบบนั้นนะคะ เธอเป็นเด็กน่าสงสารมากนะคะ” ป้าณีพูดกับธาราออกไปตรง ๆ และเชื่อว่าคนฉลาดอย่างธาราเข้าใจดีว่าหมายถึงเรื่องอะไร
“ผมเข้าใจที่ป้าณีพูดนะครับ ผมเองก็ไม่ได้สนับสนุนเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าไอ้ชาร์มันจะทำอย่างนั้นจริง ๆ ผมเองก็คงไม่ยอมเหมือนกันครับ แต่!! ถ้ามันรักพลอยใสจริง ๆ ก็คงต้องปล่อยเป็นเรื่องของคนสองคนแหละครับเพราะความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ” ธาราอธิบายให้ป้าณีเข้าใจและวางใจว่าเขาก็จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
“ถ้าคุณธาราบอกกับป้าแบบนี้ป้าก็สบายใจค่ะ มีแต่คุณธาราที่จะห้ามคุณวีได้ ป้าฝากพลอยใสด้วยนะคะ”
“ป้าสบายใจได้ครับ ผมเองก็รักพลอยใสเหมือนน้องสาวผมคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กดีและควรที่จะได้รับความรักดี ๆ ครับ”
หลังบ้าน
“พี่มาหาใครคะ” แก้มใสที่พึ่งกลับจากไปเที่ยวข้างนอกกลับมาเจอบอดี้การ์ดกำลังด้อม ๆ มอง ๆ อยู่บริเวณรั้วบ้านจึงเอ่ยถามขึ้น
“นายให้มาเรียกคุณพลอยใสไปทานข้าวที่บ้านหลังใหญ่ครับ แต่ผมไม่กล้าเข้าไป”
“งั้นเดี๋ยวหนูเข้าไปเรียกให้ค่ะ” แก้มใสอาสาเดินไปเรียกพลอยใสให้ แววตาวาววับดุจสัตว์ร้ายพุ่งตรงไปที่บ้านหลังเล็กที่ตั้งอยู่ด้านหลังติดกับบ้านหลังใหญ่
“เห็นเงียบ ๆ ไม่นึกว่าจะมักใหญ่ใฝ่สูงหวังจะสบายทางลัดแบบนี้นะ” เสียงแก้มใสดังขึ้นเรียกให้พลอยใสที่พึ่งอาบน้ำเสร็จหันไปมอง
“เธอพูดเรื่องอะไรแก้มใส” พลอยใสถามกลับ
“อย่ามาทำใสซื่อ เธอนั่นแหละเดี๋ยวนี้ก้าวหน้าได้ขึ้นเป็นคนโปรดเจ้านาย ได้นั่งร่วมโต๊ะทานข้าว ได้เข้าบ้านใหญ่ทั้งที่ฉันสองคนก็มาอยู่ที่นี่พร้อมกับเธอยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปเหยียบบ้านใหญ่เลยสักครั้ง ขนาดฝึกงานยังถูกส่งไปฝึกที่ไกล ๆ ส่วนเธอได้ฝึกสาขาใหญ่กับคุณวี นี่คงถือโอกาสออเซาะเจ้านายล่ะสิถึงได้สิทธิ์พิเศษขนาดนี้ ระวังนะหวังอะไรสูง ๆ เมื่อไหร่ที่ตกลงมาจะน้ำตาเช็ดหัวเข่า..หาว่าฉันไม่เตือน” น้ำเสียงเกลียดชังของเพื่อนที่โตมาด้วยกัน พลอยใสได้ฟังถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว
“เธอกำลังเข้าใจผิด ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น”
“อย่ามาตอแหลพลอยใส ถ้าไม่อย่างงั้นคุยวีจะให้คนมาตามเธอไปทานข้าวที่บ้านใหญ่ทำไม” หลังจากพูดจาสาดคำร้ายใส่เสร็จก็หันหลังเดินกลับออกไปทันที ปล่อยให้พลอยใสนั่งเสียใจกับข้อความใส่ร้ายพวกนั้นจนต้องร้องไห้ออกมา
{พี่ธาราคะวันนี้พลอยไม่ค่อยหิวเมื่อกี้ทานนมไปแล้วกำลังจะเข้านอน พลอยต้องขอโทษด้วยนะคะ} หญิงสาวส่งข้อความไปบอกบอดี้การ์ดหนุ่มก่อนจะวางโทรศัพท์ลงและล้มตัวลงนอนพร้อมคราบน้ำตาที่อาบแก้มเนียน
“นายครับพลอยใสบอกว่าเธอไม่ค่อยหิว และได้ทานนมไปแล้วตอนนี้เธอเข้านอนแล้วครับ” ธาราเปิดอ่านข้อความแล้วรายงานคนเป็นนายทันที
“เป็นอะไร เมื่อตอนบ่ายก็ได้ทานอะไรรองท้อง ตกเย็นยังบอกว่าไม่หิวอีก”
“ปกติพลอยใสก็ทานน้อยแบบนี้อยู่แล้วครับ นายอย่าคิดมากเลยครับเธอคงไม่หิวจริง ๆ”
พลอยใสเดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของการฝึกงาน หญิงสาวต้องกลับไปเรียนต่อและเคลียร์ธีสิสก่อนทำเรื่องจบการศึกษา และก้าวเข้าสู่ชีวิตวัยทำงานอย่างเต็มตัว
ทำงานวันแรก
พลอยใสเข้าทำงานประจำตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของชาร์วีส่วนแก้มใสและผ้าไหมถูกส่งไปเรียนรู้แผนกการตลาด และมือขวาอย่างธาราก็ช่วยดูแลสาขาที่ต่างประเทศและต้องเดินทางบ่อยขึ้น งานในหน้าที่เลขาของชาร์วีส่วนใหญ่พลอยใสจึงเป็นคนดูแลทั้งหมด
“วันนี้ช่วงบ่ายมีประชุมหรือนัดลูกค้าที่ไหนหรือเปล่า” เสียงทุ้มถามหญิงสาวในขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งอ่านรายละเอียดที่แผนกการตลาดส่งมาให้ก่อนที่จะมีการประชุมในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า
“วันนี่ช่วงบ่ายไม่มีค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นตอนบ่ายออกไปทำธุระกับฉันหน่อย”
“ค่ะ ได้ค่ะ” แม้จะอยากถามว่าธุระอะไรแต่เธอต้องกลืนคำถามนั้นลงคอเมื่อเงยหน้าขึ้นเจอกับสายตาคมคู่นั้นกำลังจ้องมาทางเธอ
การประชุมดำเนินไปได้ด้วยดี พลอยใสที่นั่งข้างชาร์วีก็ทำหน้าที่เลขาได้ไม่ขาดตกบกพร่อง สายตาไม่พอใจของผ้าไหมและแก้มใสที่วันนี้เข้าร่วมประชุมด้วยมองหน้าพลอยใสไม่วางตา
“คุณวีจะรับอาหารกลางวันที่ห้องหรือออกไปทานข้างนอกคะ” หลังจากประชุมเสร็จพลอยใสเอ่ยถามขึ้นเมื่ออีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว
“เธอมีงานอะไรที่ต้องทำด่วนหรือเปล่า” ร่างสูงหยุดยืนอยู่กลางห้องถามกลับ
“ไม่มีแล้วค่ะ” เสียงใสตอบกลับ
“ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปทานข้างนอก”
“ค่ะ” พลอยใสรีบเดินไปเก็บกระเป๋าที่โต๊ะและไม่ลืมหยิบไอแพดสีขาวติดมือมาด้วยเพราะคิดว่าเจ้านายจะพาเธอออกไปพบลูกค้าข้างนอก
วันนี้ชาร์วีขับรถส่วนตัวมาเองโดยมีหญิงสาวนั่งคู่ด้านหน้ามากันแค่สองคน และไม่มีผู้ติดตามมาด้วย
“คุณวีนัดลูกค้าไว้ที่นี่เหรอคะ” สีหน้าแปลกใจถามขึ้นเมื่อรถยนต์คันหรูขับเข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
“เปล่า ฉันมาซื้อของ”
“มื้อกลางวันอยากทานอะไรเลือกเลยนะ ฉันไม่ค่อยถนัดเลือกร้านพวกนี้” เสียงทุ้มอ่อนโยนพูดขึ้นเมื่อทั้งสองเดินเข้ามาภายในห้างที่เป็นชั้นของร้านอาหารต่าง ๆ ให้เลือกทานเยอะแยะเต็มไปหมด
“ทานสเต๊กร้านนั้นไหมคะ เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่คุณวีชอบด้วย” นิ้วเรียวเล็กชี้ไปที่ร้านสเต๊กสไตล์อิตาเลียนที่พึ่งเปิดใหม่และคนด้านในร้านไม่ค่อยเยอะ
“แล้วแต่เธอแล้วกัน” เสียงเรียบตอบสวนทางกับรอยยิ้มมุมปาก มาเฟียหนุ่มเดินนำหญิงสาวเข้าไปด้านใน
ทั้งสองนั่งทานอาหารกันเงียบ ๆ โต๊ะมุมด้านในสุดของร้านที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว
“เนื้อนี่อร่อยกว่าเนื้อหมูธรรมดาที่เธอทานอยู่ทุกวันอีก” เนื้อวากิวนำเข้าจากญี่ปุ่นถูกย่างสุกระดับ Medium Rare หั่นชิ้นเล็กพอดีคำตักวางลงในจานหญิงสาว
“เนื้อมันยังดิบอยู่ หนูไม่ชอบทานเนื้อดิบค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธขึ้นทันควันเมื่อมองชิ้นเนื้อที่ชายหนุ่มวางลงในจานนั้นยังมีส่วนที่ยังดิบอยู่
“วัวตัวนี้ถูกเลี้ยงมาอย่างดี กินเข้าไป” เสียงเข้มดุสั่งออกไป พลอยใสที่ไม่กล้าปฏิเสธเป็นรอบที่สองจำต้องตักชิ้นเนื้อราคาแพงเข้าปาก
“อร่อยนะคะ ถ้ามันสุกกว่านี้ก็คงดี” รสชาติอาหารที่เธอไม่คุ้นชินสัมผัสกับลิ้นและถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด
“ต่อไปก็หัดทานอย่างอื่นนอกจากเนื้อหมูบ้าง”
“ก็หนูไม่ชอบนี่คะ”
“ยังไม่ลองทานแล้วรู้ได้ยังไงว่าไม่ชอบ บางอย่างที่เธอแค่มองมันไม่รู้หรอกนะว่าอร่อยหรือไม่อร่อย”
ทั้งสองนั่งทานอาหารกันจนอิ่มจัดการเช็กบิลและเดินไปยังชั้นสามของห้างเป็นชั้นที่ตั้งของช็อปแบรนด์ดังต่าง ๆ
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายต้องการเสื้อผ้าสไตล์ไหนคะ” พนักงานประจำร้านเดินมาต้อนรับและถามขึ้นเมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านใน
“ขอชุดเที่ยวสบาย ๆ สำหรับผู้หญิงคนนี้ครับ”
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะทางเราจะนำคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดมาให้ลูกค้าเลือกดู” พนักงานเดินกลับไปพร้อมหอบชุดดีไซน์หรูคอลเลคชั่นล่าสุดกลับออกมาเป็นสิบชุด
“คอลเลคชั่นล่าสุดของทางแบรนด์ค่ะ คุณลูกค้าลองดูนะคะว่าชอบชุดไหน”
“เลือกเอาเธอชอบชุดไหน” ชาร์วีหันไปบอกพลอยใสที่มัวแต่ดูป้ายราคาที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าไม่ได้สนใจรายละเอียดเสื้อผ้าตรงหน้าเลย
“หนูว่าชุดพวกนี้ไม่เหมาะกับหนูหรอกนะคะ” พลอยใสรีบปฏิเสธทันทีเมื่อเห็นราคาของเสื้อผ้าแต่ละชุดจนเธอไม่กล้าที่จะหยิบมาดูด้วยซ้ำเพราะกลัวจะทำเสียหายแล้วไม่มีปัญญาชดใช้
“เอาทั้งหมดนี้ ช่วยจัดชุดที่ขนาดพอดีสำหรับเธอมาทั้งหมด”
“คุณวีคะ”
“ฉันบอกให้เธอเลือกแต่เธอไม่เลือก ก็เอามันทั้งหมดนี่แหละ” เหตุผลของมาเฟียหนุ่มพลอยใสได้ฟังถึงกับพูดไม่ออกไม่รู้จะบอกเขาอย่างไรดีว่าเธอไม่ต้องการเสื้อผ้าราคาแพงพวกนี้
“อาทิตย์หน้าเธอต้องบินไปทำงานที่ต่างประเทศกับฉัน เพราะฉะนั้นเธอจำเป็นต้องมีเสื้อผ้าดี ๆ พวกนี้ใส่”
“แต่มันแพงมากเลยนะคะ”
“ฉันมีเงินมากพอที่จะซื้อของพวกนี้ให้เธอ อย่าประหยัดจนเกินไปเงินมีก็หัดซื้อความสุขให้ตัวเองบ้าง แต่ถ้าเธอเสียดายเงินก็หาผัวรวย ๆ ที่เขามีเงินมากมายให้เธอใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้สิ เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายเงินแบบนี้”
ตอนที่29 ครั้งแรกเป็นประจำทุกปีที่ชาร์วีจะบินกลับไปเยี่ยมบ้านหลังเก่าที่พ่อกับแม่เขาเคยอาศัยอยู่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะเสียชีวิต และชาร์วีก็ถือโอกาสกลับไปไหว้หลุมศพของท่านทั้งสองด้วยการเดินทางไปอังกฤษของชาร์วีครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ เพราะครั้งนี้จะมีผู้ร่วมเดินทางไปกับเขาด้วย นั่นคือหญิงสาวเด็กในการปกครองพลอยใสรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกแม้จะเข้าใจว่าเป็นการเดินทางไปทำงานก็ตาม ชีวิตเด็กกำพร้าที่ไม่มีโอกาสแม้กระทั่งไปเที่ยวห้างเหมือนอย่างคนอื่น โอกาสและชีวิตใหม่ที่ชาร์วีมอบให้ตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาอยู่บ้านฮาร์เปอร์ บุญคุณที่เธอต้องตอบแทน“จัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” จากท่าทางตื่นเต้นของพลอยใสตั้งแต่รู้ว่าจะได้ไปต่างประเทศ ชาร์วีจึงเลือกที่จะหยุดงานในวันนี้เพื่อให้หญิงสาวได้มีเวลาเตรียมตัว ความดีใจฉายชัดบนใบหน้าหวานทุกครั้งที่สนทนากับชายหนุ่มตั้งแต่รู้ว่าจะได้เดินทางไกลครั้งแรกในชีวิต“เรียบร้อยแล้วค่ะ”“เอาไปเฉพาะของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น ไม่ต้องขนทุกอย่างที่อยู่ในบ้านไป ที่นั่นมีพร้อมสำหรับเธอทุกอย่าง” เสียงทุ้มเอ่ยย้ำอีกครั้งเพราะกลัวว่าเด็กในการปกครองจะขนข้
ตอนที่30 เลื่อนขั้นด้านใน“คุณปล่อยหนู หนูจะไปหาพี่ธารา” คนตัวเล็กดิ้นพยายามให้หลุดพ้นกับแขนแกร่ง โดยไม่รู้ว่าถ้าตกลงมานั้นจะเจ็บแค่ไหน“หยุดดิ้น ถ้าอยากดื่มก็ดื่มกับฉันนี่”“คุณชอบทำหน้าดุใส่หนู หนูไม่อยากอยู่ใกล้คุณ อีกอย่างหนูไม่กล้าตีตัวเสมอนายหรอกค่ะ”“ไม่กล้าอย่างนั้นเหรอ แล้วที่โวยวายด่าฉันอยู่นี่ ฉันสมควรโดนอย่างนั้นเหรอ”“ใช่ค่ะ ตามาเฟียบ้า ชอบวางอำนาจเหมือนมาเฟีย” คนเมาไม่ค่อยมีสติตอบกลับไปอย่างที่ใจคิด โดยไร้การประมวลสารก่อนจะพูดออกไป“เคยเจอเหรอมาเฟีย ถึงมาว่าฉันว่าเป็นมาเฟียบ้าอำนาจ” พลอยใสเริ่มได้สติขึ้นมา หันมองหน้าคนถาม คิ้วสวยมนขมวดเข้าหากันเล็กน้อย จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เอ่ยถามเสียงนิ่งบวกกับสายตาที่ยากจะอ่านออกคู่นั้น“หนูไม่เคยเจอหรอกค่ะ แต่แค่เคยอ่านในนิยาย”“ในนิยายมาเฟียเป็นแบบไหน”“หล่อค่ะ ตัวสูง ๆ กล้ามแน่น ๆ และรวยมากด้วยค่ะ” พลอยใสถึงกับกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตอบกลับชายหนุ่มออกไป มาเฟียในจินตนาการที่เธอเคยอ่านมาจากนิยายถูกบรรยายลักษณะชัดเจนให้ชายหนุ่มฟัง“แล้วมาเฟียมีเมียไหม” มุมปากหยักกระตุกยิ้ม ขยับใบหน้าคมเข้าใกล้มากขึ้น“มีค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะชอบใช้อำนาจบังคับขู่เข
ตอนที่31 สถานะเปลี่ยนไปปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!“ไอ้ชาร์” เสียงเคาะประตูบวกกับเสียงตะโกนเรียกอยู่หน้าห้องจากมือขวาคนสนิทแอ๊ด…“มึงจะแหกปากอะไรนักหนาไอ้ธารา” ชาร์วีเปิดประตูออกมาหลังจากที่จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวแล้วเสร็จ“พลอยใสอยู่ไหน” ร่างสูงตรงเข้ามาด้านในทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบพลอยใสนอนหลับอยู่บนเตียงในชุดนอนตัวใหม่ที่ชาร์วีเป็นคนจัดการใส่ให้เธอหลังเสร็จภารกิจรัก“มึงทำอะไรพลอยใส” สายตาคมตวัดมองหน้าเจ้านายหนุ่มเอ่ยถามเสียงลอดไรฟัน“อย่ามาถามคำถามโง่ ๆ กับกู ทั้งที่มึงก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว” ชาร์วีไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนแก่ธารา แต่คำพูดที่พูดออกมานั้นอธิบายถึงเหตุการณ์ที่พึ่งจบลงได้เป็นอย่างดี“มึงรู้ใช่ไหมว่าต่อไปเธอต้องเจอกับอะไร ถ้ามึงไม่คิดจะปกป้องดูแลเธอมึงทำทำไม” ถึงตอนนี้ธาราเองก็ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของชาร์วีที่มีต่อหญิงสาว ความกังวลปนสงสารกำลังก่อตัวขึ้นในจิตใจบอดี้การ์ดหนุ่ม ดวงตาคมเข้มถึงกลับน้ำตาคลอด้วยความสงสาร“กูดูแลเธอได้มึงจะกังวลเชี่ยอะไรนักหนา”“ในฐานะอะไรชาร์ มึงดูแลเธอในฐานะอะไร เด็กในการปกครองอย่างนั้นเหรอ” ธาราที่ผิดหวังกับคนตรงหน้าที่โตมาด้วยกัน“พลอย
ตอนที่32 ไหว้พ่อแม่หลังจากเสร็จธุระเรื่องงานที่เมืองหลวงแล้วชาร์วีก็พาหญิงสาวไปบ้านที่ตั้งอยู่ชานเมืองห่างไกลผู้คนเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจากกรุงลอนดอนทะยานสู่เขตนอกเมืองที่โอบล้อมด้วยทะเลและภูเขา คฤหาสน์หลังใจที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่มหญ้าเขียวขจี เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานหญ้าบริเวณหน้าบ้าน“ที่นี่บ้านคุณเหรอคะ” ดวงตากลมโตมองสำรวจบริเวณรอบ ๆ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติไกลสุดลูกหูลูกตา“ใช่ บ้านของแด๊ดกับมัม” ร่างสูงเดินนำเข้าไปด้านในที่มีคนดูแลบ้านมายืนรอต้อนรับตรงประตูทางเข้า“สวัสดีค่ะนาย/นายหญิง” ทั้งหมดก้มหัวให้และกล่าวทักทายชายหนุ่มเมื่อเดินผ่านไป รวมทั้งกล่าวทักทายพลอยใสด้วย“สวัสดีค่ะคุณธารา” อยู่บ้านนี้ธาราจะอยู่ในฐานะลูกชายบุญธรรมของบ้านฮาร์เปอร์เพราะครั้งยังเด็กธาราและชาร์วีเกิดและโตที่นี่ ก่อนที่พ่อของชาร์วีจะวางมือจากธุรกิจที่นี่และย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมืองไทย“ชาร์วีมึงจะให้พลอยใสพักห้องไหน” ธาราถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาหย่อนสะโพกลงนั่งตรงโซฟาห้องรับแขก“นอนกับกู”“ไอ้ชาร์” ทั้งสองฟาดฟันกันด้วยสายตา ต่างไม่มีใครยอมใคร“พลอยใสขึ้นห้อง” พลอยใสจำเป็นต้องเดินตามชาร์วีขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้
ตอนที่33 จัดการการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ของพลอยใสได้สิ้นสุดลงพร้อมกับประสบการณ์มากมายที่เธอได้สัมผัส เครื่องบินลำใหญ่ของฮาร์เปอร์กำลังเทคออฟออกจากสนามบินฮ่องกงมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเมืองไทยร่างบางนอนหลับในอ้อมแขนแกร่งของชาร์วีตั้งแต่ขึ้นรถมายังไม่ถึงสิบนาที ร่างกายเพลียจากการนั่งเครื่องเป็นเวลานานและเวลาที่ต่างกันของแต่ละประเทศจึงทำให้ร่างกายปรับเวลานอนไม่ทันจึงเกิดสภาพอย่างที่เห็น“นายไม่ปลุกเธอเหรอครับ” ธาราหันไปถามคนเป็นนายที่กำลังตั้งท่าจะอุ้มหญิงสาวลงจากรถ“ไม่”“นายจะอุ้มเธอเข้าบ้านไปแบบนี้ บอดี้การ์ดจะพากันเอาไปพูดเอาได้นะครับ” ธาราเอ่ยเตือนเพราะความสัมพันธ์ของเจ้านายกับเด็กในการปกครองที่เปลี่ยนไปทุกคนในบ้านยังไม่มีใครทราบ“ใครมันกล้าเอาไปพูดกูจะไล่ออกให้หมด” เสียงกร้าวบอกออกไปพร้อมกับอุ้มหญิงสาวลงจากรถเดินเข้าบ้านใหญ่ไป ท่ามกลางสายตาของบอดี้การ์ดและแม่บ้านคนเก่าคนแก่อย่างป้าณี“คุณวีพลอยใสเป็นอะไรคะ”“ไม่ได้เป็นอะไรครับ” คำตอบสั้น ๆ ที่ไม่ขยายความให้คนถามเข้าใจ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเดินผ่านหน้าขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของมาเฟียหนุ่ม“คุณธาราพลอยใสเป็นอะไรคะ ทำ
ตอนที่34 คลั่งรักบอดี้การ์ดร่างกำยำนับสิบคนเดินเข้ามาตามเสียงเรียกคนเป็นนาย แก้มใสเห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น หันไปมองหน้าบอดี้การ์ดที่กำลังมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย“แสดงฝีมือลีลาบนเตียงของเธอให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าจะเร้าใจพอที่ฉันจะพาขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า”“คุณวี แต่ว่า..”“ฉันไม่ถือสาเรื่องนี้ เอาสิแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอเก่งมากแค่ไหน”หญิงสาวค่อย ๆ คลานเข่าเข้าไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนรายล้อมรอบตัวเธอ มือบางค่อย ๆ ปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงและควักแท่งเนื้อที่ขยายตัวเต็มที่พร้อมใช้งานออกมา ปากบางค่อย ๆ กลืนกินแท่งเนื้อนั้นราวไอติมแท่งโปรด น้ำลายผสมน้ำหล่อลื่นไหลเปื้อนมุมปาก ขณะที่เธอกำลังใช้ปากอยู่นั้นบอดี้การ์ดคนที่เหลือที่ตอนนี้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าพร้อมภารกิจเสพสวาทครั้งนี้ก็เดินเข้าหาเธอ บั้นท้ายงอนถูกกางออกลิ้นสากส่งเข้าไปสัมผัสทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เต้าอวบทั้งสองข้างถูกดูดกินด้วยบอดี้การ์ดอีกสองคน แก้มใสร้องครางออกมาด้วยความสุขสม เธอกลายเป็นคนติดเซ็กหมู่มาหลายปีตั้งแต่ครั้งเรียนอยู่ปีหนึ่งที่เธอมีโอกาสได้เข้าร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งและเธอก็ติดใจและทำบ่อยทุกครั้งที่คนในกลุ่มจัดขึ้นภาพหญิงสาว
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่ 40 เปลี่ยนบรรยากาศ+ครอบครัว (จบ)“คุณจะให้หนูทำตรงนี้เลยเหรอคะ” พลอยใสถามกลับไม่เต็มเสียงนักเพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนรถ และชาร์วีเองก็ทำหน้าที่เป็นคนขับซึ่งตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็ว“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจะปล่อยให้ผัวเธอลงแดงตายตรงหน้าเลยหรือไง อยากเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ”“มันจะไม่อันตรายแน่นะคะ คุณอดทนอีกหน่อยได้ไหมคะ” พลอยใสพยายามต่อรองกับชาร์วีถึงแม้จะสงสารชายหนุ่มมากก็ตาม“ถ้าอดทนได้ฉันจะขอร้องเธอแบบนี้เหรอ หรือต้องให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วลากเธอไปกระแทกเบาะด้านหลังรถ” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อความอดทนของเขานั้นแทบจะเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์“คุณตั้งใจขับรถดี ๆ นะคะ”“อมมันสักทีพลอยใส ผัวเธอจะใจขาดตายอยู่แล้ว”มือเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงพร้อมกับรูดซิปลง แท่งเนื้อสีแดงก่ำถูกควักออกมาพ้นจากบ็อกเซอร์ราคาแพงมาสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นภายในรถ“อ่าส์ ปากเธอทำให้ฉันคลั่งได้เลยนะ” เสียงร้องครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนหัวที่บานราวดอกเห็ด“คุณต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราแค่จูบกันเองนะ” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียแท่งเนื้อที่ผลิตน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาไม่ขา
ตอนที่ 39 คลั่ง“ชาร์ถ้ามึงจะขับช้าขนาดนี้มึงไม่ต้องซื้อมาให้เปลืองเงินหรอกนะรถคันละสามสิบสี่สิบล้าน” ธาราพูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อวันนี้มาเฟียหนุ่มมาทำหน้าที่คนขับรถด้วยตัวเอง“มึงจะรีบไปไหน ขับรถเร็วมันอันตราย” เป็นคำตอบที่ฟังดูไม่จริงใจเอาซะเลย เพราะความเร็วที่ชาร์วีใช้ประจำเวลาที่จับพวงมาลัยเองต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ“ฟังดูตอแหลนะ ถ้ามึงไม่รีบก็จอดรถแล้วเดินไปกูจะขับไปกับพลอยใสแค่สองคน อีกสิบนาทีไอ้ลุคค์ก็จะขึ้นร้องเพลงแล้วเดี๋ยวพาพลอยใสไปไม่ทัน” ธาราที่หมดความอดทนกับการถ่วงเวลาโง่ ๆ ของเจ้านายด่าออกไปโดยไม่เกรงใจว่าชาร์วีนั้นคือเจ้าของรถ“รถคันนี้ของกู ถ้ามึงรีบก็ลงไปเรียกแท็กซี่”“ถ้างั้นก็จอดรถกูกับพลอยใสจะลงไปเรียกแท็กซี่เอง”“ถ้าหนูไปไม่ทันพี่ลุคค์ร้องเพลงรางวัลที่เราตกลงกันไว้เป็นโมฆะค่ะ”บรึ๊น! บรึ๊น! บรึ๊น!สิ้นเสียงพลอยใสรถยนต์คันหรูก็เร่งความเร็วขึ้นไปแตะที่ระดับปกติที่ควรจะเป็นหรืออาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ ฝีมือการขับรถของชาร์วีที่ชำนาญเรื่องการทำความเร็วก็สามารถพาพลอยใสมาทันเวลาที่ลุคค์ขึ้นร้องเพลงพอดี“ไอ้ธาราทำไมมึงพาเมียกูเดินเบียดผู้คนเข้ามาแบบนี้ ประตูด้านหลังมี
ตอนที่ 38 อำนาจเปลี่ยนมือของขวัญวันแต่งงานที่ชาร์วีมอบให้ภรรยาตัวน้อยของเขาทั้งคืนจนเกือบสว่าง ส่งผลให้หญิงสาวนอนหมดแรงและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของวันใหม่“คุณอื้อ..คุณวี” ดวงตากลมโตกะพริบไล่แสงเพื่อปรับโฟกัสสายตา มาเฟียหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถือไอแพดอยู่ในมือ“ตื่นแล้วเหรอ..หิวน้ำไหม” ชาร์วีวางไอแพดในมือลงรีบพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง“กี่โมงแล้วคะ” หลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นเพราะมองจากแสงที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นช่วงสายหรือไม่ก็ช่วงบ่ายของวัน“บ่ายสองแล้ว หิวข้าวหรือเปล่า”“บ่ายแล้วเหรอคะ ทำไมคุณไม่ปลุกหนูล่ะคะ”“ปลุกทำไม เมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปตั้งเยอะนอนหลับพักผ่อนเอาแรงน่ะดีแล้ว คืนนี้จะได้มีแรงทำต่อ” ชาร์วีพูดขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง“พอเลยค่ะ หนูไม่ไหวแล้วคุณกินจุเกินไป”“ไม่ไหวเหรอ ก็เห็นเรียกร้องเอาอีกหนูต้องการคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”“หยุดพูดเลยนะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กซุกเข้าที่อกแกร่งด้วยความอายเมื่อถูกพูดถึงกิจกรรมรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา“ไปอาบน้ำไปจะได้ลงไปทานข้าว ธารามันขึ้นมาตามหลายรอบแล้ว” น้ำเสียงอ่อนนุ่มที่ชาร์วีใช้พูดกับหญิงสาวเป็นน้ำเสียงท
ตอนที่ 37 คืนเข้าหอคืนเข้าหอ“เหนื่อยไหมหืม..” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยถามขณะที่กำลังช่วยภรรยาตัวน้อยถอดชุดเจ้าสาวหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองค่ำคืนนี้“นิดหน่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า” เสียงหวานตอบกลับไปตามที่รู้สึกรอยยิ้มแห่งความสุขฉายเด่นชัดอยู่บนใบหน้าหญิงสาวตั้งแต่งานเริ่มจนถึงป่านนี้ ความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ วันนี้ชาร์วีเป็นคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เธอขาดทั้งหมด“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเป็นความสุขของหนู” ร่างบางหันหน้ากลับมาสบตากับสามีหมาด ๆ ของเธอ“เธอก็เข้ามาเป็นความสุขของฉันเหมือนกัน ฉันมีของขวัญแต่งงานให้เธอด้วยนะ” แขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าหาตัวและโอบกอดไว้หลวม ๆ ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างใบหู“ของขวัญอะไรคะ” ดวงตากลมโต แพขนตางอนเหลือบขึ้นมองสบตาก่อนจะเอ่ยถามออกไปสีหน้าตื่นเต้น“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาแกะของขวัญของฉัน” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับไป พร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินเข้าห้องน้ำไป“คุณจะอาบน้ำพร้อมหนูเลยเหรอคะ”“อาบพร้อมกันนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา ฉันอยากให้เธอแกะของขวัญจะแย่หรือจะแกะในห้องน้ำเลยก็ได้นะ”“หนูก็อยากเห็นของขวัญที่คุณจะให้หนูแล้วค่ะ” แววตาใสซื่อไม่ทันคนข
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว
ตอนที่34 คลั่งรักบอดี้การ์ดร่างกำยำนับสิบคนเดินเข้ามาตามเสียงเรียกคนเป็นนาย แก้มใสเห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น หันไปมองหน้าบอดี้การ์ดที่กำลังมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย“แสดงฝีมือลีลาบนเตียงของเธอให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าจะเร้าใจพอที่ฉันจะพาขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า”“คุณวี แต่ว่า..”“ฉันไม่ถือสาเรื่องนี้ เอาสิแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอเก่งมากแค่ไหน”หญิงสาวค่อย ๆ คลานเข่าเข้าไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนรายล้อมรอบตัวเธอ มือบางค่อย ๆ ปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงและควักแท่งเนื้อที่ขยายตัวเต็มที่พร้อมใช้งานออกมา ปากบางค่อย ๆ กลืนกินแท่งเนื้อนั้นราวไอติมแท่งโปรด น้ำลายผสมน้ำหล่อลื่นไหลเปื้อนมุมปาก ขณะที่เธอกำลังใช้ปากอยู่นั้นบอดี้การ์ดคนที่เหลือที่ตอนนี้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าพร้อมภารกิจเสพสวาทครั้งนี้ก็เดินเข้าหาเธอ บั้นท้ายงอนถูกกางออกลิ้นสากส่งเข้าไปสัมผัสทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เต้าอวบทั้งสองข้างถูกดูดกินด้วยบอดี้การ์ดอีกสองคน แก้มใสร้องครางออกมาด้วยความสุขสม เธอกลายเป็นคนติดเซ็กหมู่มาหลายปีตั้งแต่ครั้งเรียนอยู่ปีหนึ่งที่เธอมีโอกาสได้เข้าร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งและเธอก็ติดใจและทำบ่อยทุกครั้งที่คนในกลุ่มจัดขึ้นภาพหญิงสาว
ตอนที่33 จัดการการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ของพลอยใสได้สิ้นสุดลงพร้อมกับประสบการณ์มากมายที่เธอได้สัมผัส เครื่องบินลำใหญ่ของฮาร์เปอร์กำลังเทคออฟออกจากสนามบินฮ่องกงมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเมืองไทยร่างบางนอนหลับในอ้อมแขนแกร่งของชาร์วีตั้งแต่ขึ้นรถมายังไม่ถึงสิบนาที ร่างกายเพลียจากการนั่งเครื่องเป็นเวลานานและเวลาที่ต่างกันของแต่ละประเทศจึงทำให้ร่างกายปรับเวลานอนไม่ทันจึงเกิดสภาพอย่างที่เห็น“นายไม่ปลุกเธอเหรอครับ” ธาราหันไปถามคนเป็นนายที่กำลังตั้งท่าจะอุ้มหญิงสาวลงจากรถ“ไม่”“นายจะอุ้มเธอเข้าบ้านไปแบบนี้ บอดี้การ์ดจะพากันเอาไปพูดเอาได้นะครับ” ธาราเอ่ยเตือนเพราะความสัมพันธ์ของเจ้านายกับเด็กในการปกครองที่เปลี่ยนไปทุกคนในบ้านยังไม่มีใครทราบ“ใครมันกล้าเอาไปพูดกูจะไล่ออกให้หมด” เสียงกร้าวบอกออกไปพร้อมกับอุ้มหญิงสาวลงจากรถเดินเข้าบ้านใหญ่ไป ท่ามกลางสายตาของบอดี้การ์ดและแม่บ้านคนเก่าคนแก่อย่างป้าณี“คุณวีพลอยใสเป็นอะไรคะ”“ไม่ได้เป็นอะไรครับ” คำตอบสั้น ๆ ที่ไม่ขยายความให้คนถามเข้าใจ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเดินผ่านหน้าขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของมาเฟียหนุ่ม“คุณธาราพลอยใสเป็นอะไรคะ ทำ
ตอนที่32 ไหว้พ่อแม่หลังจากเสร็จธุระเรื่องงานที่เมืองหลวงแล้วชาร์วีก็พาหญิงสาวไปบ้านที่ตั้งอยู่ชานเมืองห่างไกลผู้คนเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจากกรุงลอนดอนทะยานสู่เขตนอกเมืองที่โอบล้อมด้วยทะเลและภูเขา คฤหาสน์หลังใจที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่มหญ้าเขียวขจี เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานหญ้าบริเวณหน้าบ้าน“ที่นี่บ้านคุณเหรอคะ” ดวงตากลมโตมองสำรวจบริเวณรอบ ๆ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติไกลสุดลูกหูลูกตา“ใช่ บ้านของแด๊ดกับมัม” ร่างสูงเดินนำเข้าไปด้านในที่มีคนดูแลบ้านมายืนรอต้อนรับตรงประตูทางเข้า“สวัสดีค่ะนาย/นายหญิง” ทั้งหมดก้มหัวให้และกล่าวทักทายชายหนุ่มเมื่อเดินผ่านไป รวมทั้งกล่าวทักทายพลอยใสด้วย“สวัสดีค่ะคุณธารา” อยู่บ้านนี้ธาราจะอยู่ในฐานะลูกชายบุญธรรมของบ้านฮาร์เปอร์เพราะครั้งยังเด็กธาราและชาร์วีเกิดและโตที่นี่ ก่อนที่พ่อของชาร์วีจะวางมือจากธุรกิจที่นี่และย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมืองไทย“ชาร์วีมึงจะให้พลอยใสพักห้องไหน” ธาราถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาหย่อนสะโพกลงนั่งตรงโซฟาห้องรับแขก“นอนกับกู”“ไอ้ชาร์” ทั้งสองฟาดฟันกันด้วยสายตา ต่างไม่มีใครยอมใคร“พลอยใสขึ้นห้อง” พลอยใสจำเป็นต้องเดินตามชาร์วีขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้