"เมื่อไหร่มึงกับเมียมึงจะดีกันสักทีว่ะ" สายลมถามสายฟ้าด้วยความหงุดหงิดระหว่างที่กำลังนั่งรถไปรับมุกดากับมีนที่บ้านของพวกเขา"พวกกูไม่ได้ทะเลาะกัน""นี่มึงโง่จริงหรือแกล้งโง่กันแน่ว่ะ มึงดูไม่ออกเหรอว่าพี่มุกดาเขาน้อยใจมึงอยู่ เขารักมึงจะตายเคยยอมห่างมึงง่าย ๆ แบบนี้ที่ไหน คนอย่างมึงนอกจากพี่มุกดาแล้วชีวิตนี้เคยมีเรื่องดี ๆ กับเขาที่ไหนและถ้ามึงไม่อยากเสียพี่เขาไปก็รีบง้อเถอะจะอีโก้ไปทำไม กูดูออกนะว่ามึงเองก็รู้สึกดีกับพี่มุกดามาก ๆ อยู่กันมาตั้ง 3 ปีกว่ากูไม่เชื่อหรอกว่าที่มึงทำไปทั้งหมดเป็นเพราะคำสั่งพ่ออย่างเดียว""มึงเอาตัวมึงเองให้รอดเถอะไอ้ลม ไม่ต้องมาสอนกู" "อย่างน้อยกูก็กล้าเลือกทางของตัวเองไม่ฝืนใจทำอะไรตามคำสั่งพ่อไปหมดทุกอย่างเหมือนมึงหรอก""แล้วที่ต้องไปทะเลกับกูนี่ไม่ใช่ทำตามคำสั่งพ่อเหรอ" สายฟ้ามองเย้ยใส่เขา"ไอ้สัส!" สายลมสบถออกมาเบา ๆ แล้วหันหน้าหนีไปมองด้านนอกแทนรถขับมาจอดที่หน้าบ้านสุขนิรันดร์รอจนประตูใหญ่เปิดออกจึงไปขับต่อเข้ามาถึงตัวบ้าน ทั้งสองคนเดินลงมาจากรถเตรียมจะเดินเข้าไปไหว้ทักทายเจ้าของบ้านแต่ก็เจอกับกับมุกดาและมีนที่เดินออกมาพอดีพร้อมกับแม่บ้านที่ช่วยถือก
ทั้งคู่ต่อกันอีกสองยกจนหมดแรงพากันหลับไปในที่สุดตื่นมาอีกทีฟ้าก็มืดแล้ว สายลมกวาดตามองหาเกรซแต่ก็ไม่เจอเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาแต่เมืือเปิดหน้าจอถึงได้เห็นว่ามีสายเรียกเข้าจากพ่อของเขามากถึง 10 สานเขาเลยตั้งใจจะโทรกลับทันทีแต่ในขณะที่กำลังกดโทรกลับเกรซก็เปิดประตูเดินเช็ดผมเข้ามาในห้องสายลมเลยต้องรีบวางสายไปก่อน"ตื่นแล้วเหรอ""พี่ไปอาบน้ำมาเหรอ""อื้ม~ ไปอาบน้ำสิกับข้าวเสร็จหมดแล้วจะได้ไปกินพร้อมกัน""ครับ" สายลมตอบแล้วลงจากเตียงไปอาบน้ำทันที เกรซมองไปที่โทรศัพท์ของสายลมด้วยความสงสัยเพราะเมื่อกี้เธอเห็นจริง ๆ ว่าสายลมกำลังโทรหาใครบางคนอยู่แต่เมื่อเธอเปิดประตูเข้ามาเขากลับรีบวางสายทำตัวปกติทั้ง ๆ ที่สีหน้าดูมีพิรุธขนาดนั้นทั้งคู่นั่งทานข้าวด้วยกันเกรซก็พยายามเหล่มองเขาอยู่หลายครั้ง อยากจะเปิดประเด็นถามเรื่องเมื่อกี้แต่ก็ไม่กล้ากลัวเขาจะหาว่าเธอระแวงไม่เชื่อใจ "เดี๋ยวผมนี้ผมไปส่งพี่ที่ทำงานนะ""เอาสิ...แล้วจะมารับไหม""คงไม่ได้ไปอ่ะพอดีต้องกลับไปทำงานต่อที่บ้านแล้ว""หยุดพักแค่วันเดียวเองเหรอ" สายลมเห็นสีหน้าผิดหวังของเกรซก็รู้สึกผิดไม่น้อย"ใช่ ไว้วันหลังผมจะมาหาพี่ใหม่นะ""ทำไมฉ
สายลมก้าวช้า ๆ เข้ามาในห้องนอนด้วยจังหวะสม่ำเสมอ แขนแข็งแรงโอบประคองสะโพกกลมกลึงของเกรซไว้มั่น เกรซซบหน้ากับซอกคอของเขาอย่างออดอ้อน แขนเรียวโอบรัดรอบคอสายลม ขาเกี่ยวพันรอบเอวสอบของเขาไว้ราวกับจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของเธอที่คุ้นเคยปลุกเร้าความรู้สึกที่เก็บกดไว้มานานของสายลมได้เป็นอย่างดี ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดต้นคอของสายลมพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบา "คิดถึงจัง"สายลมค่อย ๆ วางเกรซลงบนเตียงอย่างอ่อนโยนก่อนจะช้อนใบหน้าหวานขึ้นมา ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่ฉ่ำปรือด้วยความคิดถึง เขาก้มลงจูบที่หน้าผากขาวทีนึงก่อนจะไล่ลงมายังพวงแก้มและสุดท้ายก็จรดลงที่กลีบปากอิ่มสีระเรื่อ รสจูบอ่อนหวานค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อนที่โหยหาริมฝีปากบดเบียดเข้ากันอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนเกี่ยวพันหยอกล้อ ปลุกเร้าทุกโสตประสาทให้ตื่นขึ้นจนไออุ่นร้อนผ่าวแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กายของทั้งสองคน เกรซเลื่อนมือขึ้นลูบไล้โครงหน้าคมสันอย่างหลงใหลนิ้วเรียวไล้ไปตามสันกรามก่อนจะเกี่ยวรั้งท้ายทอยให้ใบหน้าของสายลมโน้มต่ำลงมาอีกครั้ง มือของสายลมเริ่มลูบไล้แผ่นหลังเนียนอย่างแผ่วเบา ผ่านเนื้อผ้าที่
อ้อมกอดอันแนบแน่นค่อย ๆ คลายลงทั้งสองคนผละออกจากกัน ใบหน้าหวานซึ้งของเกรซยังคงมีร่องรอยของความตกใจอยู่นิดหน่อยแต่ก็เจือด้วยรอยยิ้มอบอุ่น สายลมมองหน้าเกรซด้วยแววตาเปี่ยมสุข"ทำไมวันนี้ถึงว่างมาหาได้ล่ะ" เกรซถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะเมื่อคืนที่คุยโทรศัพท์กันสายลมยังดูยุ่งอยู่เลย"ก็ผมคิดถึงพี่อ่ะ" "หายไปตั้งนานเพิ่งคิดถึงเองเหรอ""ผมคิดถึงตลอดเวลาเลยต่างหาก""พูดอะไรบ้า ๆ " เกรซหัวเราะเบาๆ "ไปกันเถอะ หิวแล้วง่าาา~" เกรซทำหน้าอ้อนสายลมเพราะเธอยังไม่ได้ทานอะไรมาจริง ๆ จนสายลมอดอมยิ้มออกมาไม่ได้"โอเค เดี๋ยววันนี้ผมเลี้ยงพี่เต็มที่เลย" สายลมจอดรถเสร็จเขาก็รีบลงมาเปิดประตูรถให้เกรซทันทีเพราะเธอมัวแต่เติมหน้าอยู่"สวยแล้วครับ""อย่ามาโกหก วันนี้งานฉันเต็มโต๊ะเดินหัวหมุนตั้งแต่เช้า ดูสิหน้าซีดมากเลยเห็นไหม""พี่ไม่แต่งหน้าก็สวยเฮอะ" เกรซลงลิปสีอ่อนไม่ฉูดฉาดจากนั้นก็"เสร็จแล้ว ป่ะ!" เกรซก้าวลงจากรถพร้อมหันหน้าสวย ๆยื่นไปให้สายลมดู"สวยยัง"สวยแล้วครับ" ทุกครั้งที่เธอได้ยินคำชมจากสายลมเธอจะรู้สึกดีมาก ๆ เสมอแม้ว่าเขาจะพูดมันออกมาบ่อยครั้งแต่เธอก็ยังชมที่ได้ฟังทุกครั้งไป บรรยากาศในร้านอบ
ก่อนจบงานเลี้ยงสายลมแอบปลีกตัวออกมาจากพื้นที่จัดงานก่อน เขามุ่งตรงไปยังลานจอดรถเพื่อไปยืนรอครอบครัวที่นั้นอยู่กับคนขับรถแม้จะรู้ดีว่าการกระทำนี้อาจไม่เหมาะสมนักแต่เขาก็อยากหลีกเลี่ยงสถานการณ์อึดอัดให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้และถ้าเขายังขืนอยู่ในนั้นต่อไปก็อาจถูกบีบบังคับให้ต้องหักหน้าทุกคนอีกครั้ง ไม่นานนักพศินก็เดินตามออกมาพร้อมกับกานดาหลังจากกล่าวลากับสุรศักดิ์และมินตราด้วยสีหน้าบึ้งตึงคิ้วขมวดเข้าหากันบ่งบอกถึงความไม่พอใจ "แกทำอะไรลงไป!" พศินเอ่ยเสียงเข้มพยายามกดเสียงให้ต่ำที่สุดเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยินแต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยโทสะ "ทำไมไม่อยู่ลาคุณสุรศักดิ์กับฉันก่อน ที่นี่มันใช่ที่ที่แกจะมาทำตัวแบบนี้ไหม ฮะ!" สายลมนิ่งเงียบ เขาไม่รู้จะตอบอะไรออกให้ในสถานการณ์เช่นนี้มันดีขึ้นจึงทำได้แต่ฟังพ่อของเขาต่อว่าต่อไป"แกรู้ไหมว่าแกกำลังหักหน้าฉัน! หักหน้าคุณสุรศักดิ์! ต่อหน้าทุกคนอยู่และการที่แกทำแบบนี้มันทำให้คุณสุรศักดิ์ไม่พอใจมากแค่ไหนแกเคยรับรู้บ้างไหม" ขณะที่พศินกำลังระบายความโมโหกับลูกชายที่เอาแต่เงียบเหมือนคนไม่รับรู้อะไรกานดาก็รีบเข้ามาห้ามทัพไว้ก่อนโดยเธอจับที่แขนพศินเบา ๆ พร้อมกับส่ายห
ดนตรีบรรเลงในงานเลี้ยงช่วยให้สายลมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้างและว่าแม้กายเขาจะอยู่ในงานแต่ใจกลับล่องลอยไปไกลแสนไกลถึงเกรซที่นอนหลับไหลอยู่ที่คอนโดของเธอ งานเลี้ยงนี้้คือภารกิจที่เขาถูกพศินผู้เป็นพ่อบังคับให้มาเพื่อพบปะพูดคุยกับมีนคู่หมั้นในวัยเยาว์ ความสัมพันธ์ที่ถูกผูกมัดไว้ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ตั้งแต่ทั้งคู่ยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ มีนในวันนี้เติบโตเป็นสาวสะพรั่งเธอพยายามส่งยิ้มและแววตาหวานมาให้เขาตลอดซึ่งสายลมก็ดูออกนะแต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจไปงั้น ขณะที่สายลมกำลังจมดิ่งอยู่กับตัวเองเสียงทุ้มแหบห้าวของสุรศักดิ์พ่อมีนก็ดังขึ้นเหมือนต้องการเรียกดึงเขาให้กลับมาสนใจบทสนทนาตรงหน้า"โตเป็นหนุ่มแล้วสินะเรา" สุรศักดิ์เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม "จำได้ไหม เมื่อก่อนสมัยเด็ก ๆ เราชอบมาเล่นซ่อนแอบกับมีนแล้วก็สายหมอกด้วยกันที่นี่บ่อย ๆ" บทสนทนาเริ่มต้นด้วยเรื่องราวในอดีตที่สดใส ทว่าแววตาของสุรศักดิ์กลับฉายแววบางอย่างที่อ่านได้ยากคล้ายกับกำลังต้องการรือฟื้นความทรงจำในวัยเด็กของพวกเขาเพื่อการบางอย่าง พศินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพยายามส่งสายตาคมกริบมาข่มขู่สายลมตลอดเหมือนต้องการบอกให้เขาตอบคำถามทุกค