Share

5.อีขอทาน

Penulis: inglada
last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-07 04:07:02

หลายวันต่อมา…

มายาวียังคงกลายเป็นคนเร่ร่อน เดินวนเวียนอยู่แถวป้ายรถเมล์ที่เปรียบเสมือนที่พักอาศัยของเธออีกแห่ง เข้าวันที่สามแล้วกับการใช้ชีวิตรอความตายอยู่แบบนี้ ด้วยสภาพที่มอมแมมเธอคิดว่าไปหางานทำก็คงไม่มีใครรับบางวันจึงหาเก็บขวดแถวนั้นไปขายพอได้ค่าน้ำค่ามาม่ากินดำรงชีวิตไปวันๆ

“ป่านนี้ยัยเปรมเป็นห่วงแล้วมั้งเนี่ย” เสียงหวานมีความแหบพร่านิดๆ เอ่ยกับตัวเอง เนื่องจากโทรศัพท์พังจึงทำให้ไม่ได้ติดต่อกับเปมิศาอีกเลยตั้งแต่วันนั้น

และเพราะเธอมาไกลจากที่พักของเปมิศาจะให้เดินไปหาก็คงมีเรี่ยวแรงไม่เพียงพอและตอนนี้ก็มืดแล้ว เธอไม่รู้ว่ากี่โมงหากให้เดาเอาคงจะสามสี่ทุ่มแล้วแหละ

โครกคราก~ เสียงอันน่าเกียจดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด มือเล็กยกขึ้นมาลูบท้องตัวเองเป็นการปลอบใจมันเบาๆ แล้วทิ้งตัวนอนลงบนพื้นที่เธอใช้ผ้าขนหนูผืนเก่าปูเพื่อนอนอยู่ด้านหลังป้ายรถเมล์

ครืดๆ~ เปรี้ยงๆ!! ช่วงหน้าฝนแบบนี้มันก็ตกแทบทุกวัน หากเป็นคนอื่นคงนอนหลับสบายอยู่บนที่นอนนุ่มๆ แต่กับมายาวีมันเป็นสิ่งที่ให้ความทรมานมากที่สุด นอกจากความหนาวเย็นก็ยุงที่มาชุมนุมบนตัวเธอนี่แหละ

“หิวก็หิว ยุงก็ยังจะเยอะอีกนะ” บ่นพลางหยัดกายลุกขึ้นนั่งตบยุงตามตัว “เฮือกกก!!” และเมื่อหันไปทางเก้าอี้ด้านข้างก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อมีคนยืนกอดอกมองเธออยู่ด้วยสายตาเย็นชา

“ทำไมยังอยู่ที่นี่” เสียงทุ้มเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หันหลังให้มายาวีที่ตอนนี้ลุกขึ้นแล้วเดินไปหยุดที่มุมหนึ่งเว้นระยะห่างจากเขาไว้มากกว่าครั้งที่แล้ว

“หนูไม่รู้จะไปที่ไหน”

“…”

“คุณไม่ได้ซื้ออะไรมากินอีกเหรอคะ?”

“ฉันแค่มาหลบฝน”

“อ่อ”

“เงินที่ฉันให้ไปล่ะ?” หรี่ตามองสำรวจเด็กสาวตัวเล็กที่ยิ่งนับวันสภาพเธอจะยิ่งแย่ไปเรื่อยๆ กลิ่นตัวที่เหม็นเหมือนขยะเน่า ใบหน้าและผิวที่เขามองว่ามันขาวก่อนหน้านี้เปรอะเปื้อนไปหมด

“คะ คือหนู…”

“…” เปลวเพลิงชายตาขึ้นไปมองเธอด้วยแววตาเย็นเหยียบเมื่อเห็นท่าทางที่อึกอักของสาวน้อย ท่าทางแบบนี้เขาไม่ชอบมันที่สุด

“มีคนมาแย่งหนูไป แย่งไปหมดเลย…” มายาวีพูดพร้อมหลุบตาต่ำมองพื้น

หลังจากเขากลับไปวันนั้นตอนเช้าเธอก็ตั้งใจจะไปซื้อของกินแต่ยังไม่ทันได้เดินไปถึงไหนก็มีกลุ่มอันธพาลมาแย่งเงินของเธอไปหมด ทำให้เธอได้ดื่มเพียงน้ำเปล่าในวันนั้น

“แล้วทำไมถึงปล่อยให้มันแย่ง?”

“พวกเขาเป็นผู้ชายมีสามสี่คน”

“ผู้ชายกลุ่มนั้น?”

“…” พยักหน้างึกงักให้เขาที่มองเธออยู่

“คุณเป็นคนรวยใช่ไหม คุณมีงานให้หนูทำรึเปล่าคะหนูอยากทำงาน ทำงานอะไรก็ได้ค่ะหนูทำได้หม…” ร่างเล็กพูดไม่จบประโยคร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปขึ้นรถขับออกไปอย่างไม่รอฟังคำขอร้องของเธอเลยสักนิด

“ฮรึก ทำไมไม่ฟังกันบ้าง” ทั้งที่ฮึบมาได้หลายวันแต่พอมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มทนไม่ไหว มายาวีเงยหน้าขึ้นมองหลังคาเพื่อไม่ให้น้ำตามันไหลก่อนจะนั่งลงบนพื้นกอดเข่าตัวเองมองฝนที่ยังคงตกอยู่

….

บรืนนน~ เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง รถสปอร์ตคันหรูที่เพิ่งขับออกไปกลับมาจอดที่เดิม มายาวีที่นั่งกอดเข่าตัวเองหลับอยู่ถูกปลุกด้วยความเย็นที่แตะลงบนแก้มทำให้เธอสะดุ้งตื่น

“คุณ!” เรียกชายหนุ่มร่างสูงด้วยความดีใจที่เห็นเขากลับมา พรึ่บ! เขาไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่โยนขวดน้ำเปล่า น้ำอัดลม และถุงของกินอีกหลายอย่างลงบนพื้นตรงหน้ามายาวีพร้อมเงินสดอีกปึกหนึ่ง

“ฉันหวังว่าพรุ่งนี้จะไม่เจอเธอที่นี่นะ” ทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นี้แล้วก็เดินออกไป

“ขอบคุณนะคะ” มายาวีลุกขึ้นยืนพร้อมตะโกนขอบคุณเขาที่ไม่ได้เหลียวหลังมามองเธอ ได้ขึ้นรถแล้วก็ขับออกไปทันที

มือเล็กรีบเก็บซ่อนเงินไว้ในกระเป๋ากางเกงขาสั้นที่อยู่ด้านใน มีกางเกงขายาวสวมทับอีกตัว เธอหิ้วของกินไปนั่งกินที่นอนของเธอ กินไปด้วยความเอร็ดอร่อยและหิวโหยมาหลายวันจนเมื่อกินอิ่มจึงได้นอนหลับสบายกว่าหลายๆ ที่ผ่านมา

ตอนเช้า…

“วันนี้จะไปไหน” เสียงของปรัชญาเอ่ยถามน้องชายที่เดินลงมาจากชั้นสองในชุดทำงาน เปลวเพลิงไม่ได้ตอบเพียงแต่เดินไปรับแก้วกาแฟจากแม่บ้านนำมานั่งจิบตรงข้ามพี่ชาย

“กูถามครับ”

“มึงก็รู้ว่ากูทำงานทุกวันจะถามหาเหี้ยไร”

“เอ้า! กูถามแค่นี้ต้องใช้คำหยาบเลยเหรอ!?”

“…” ยกกาแฟร้อนๆ มาจิบ ไม่อยากสนใจสายตาที่เกรี้ยวกราดของพี่ชาย พี่ชายที่มีนิสัยเหมือนแม่ไม่มีผิดเพี้ยนจู้จี้จุกจิกยิ่งกว่าใครในบ้าน

“ป๊ากับม๊าจะมาเที่ยวเย็นนี้”

“ไม่ได้อยากรู้”

“อ่า กูบอกแล้วนะ”

“กูก็ได้ยินแล้ว”

“มึงก็รู้ไอ้เพลิงว่าม๊ามาเพราะเรื่องอะไร” หากไม่ใช่เรื่องลูกสะใภ้พวกท่านไม่มีทางมาหาลูกชายจอมเกเรทั้งสองถึงคฤหาสน์สุดหรูนี่อย่างแน่นอน

“วันนี้กูไม่กลับบ้าน”

“ไม่กลับได้ไงกูก็บอกอยู่ว่าป๊ากับม๊าจะมา”

“ก็เพราะพวกเขาจะมาแล้วก็มาบ่นกูแข่งกับมึง ประสาทจะแดก” พูดจบก็กระดกกาแฟดื่มจนหมดแก้ว ตามด้วยน้ำเปล่าที่แม่บ้านนำมาเสิร์ฟแล้วจึงเดินผ่านหน้าพี่ชายไป

“กูมากกว่ามั้งที่ต้องประสาทแดกเพราะมีน้องชายเป็นมนุษย์น้ำแข็งแบบมึงน่ะ!!” ปรัชญาตะโกนตามหลังน้องชายไปด้วยความเอือมระอากับพฤติกรรมชั่วช้าของหมอนี่

….

“ไปที่ไหนครับ” เมื่อเปลวเพลิงเข้ามานั่งในรถแล้วคนขับอย่างรัญช์ก็เอ่ยถามถึงสถานที่ที่นายจะไป

“บริษัท”

“ครับ” จากนั้นรถก็ขับเคลื่อนออกจากตัวคฤหาสน์มุ่งหน้าไปยังบริษัทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ KR.PUS เป็นเครื่องดื่มที่กำลังมาแรงในตอนนี้ นอกจากเพื่อสุขภาพแล้วยังมีรสชาติที่ถูกปากคนไทยทำให้ขายดีตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่ายจนถึงตอนนี้

เปลวเพลิงนั่งมองวิวระหว่างนั่งรถไปเพลินๆ การทำงานที่หนักแทบทุกวันนั้นทำให้เขาเริ่มเหนื่อยล้าแต่เพราะทุกอย่างยังไม่ได้ดั่งเป้าหมายที่วางไว้เขาจึงต้องขยันทำมุ่งมั่นที่จะทำมันต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ

“ให้ตาย!” ชายหนุ่มสบถขึ้นกับตัวเอง เขายกข้อมือขึ้นมาดูเวลาจากนาฬิกาเรือนแพงที่บ่งบอกเวลาอีกสิบนาทีจะแปดโมงเช้า รัญช์ที่ได้ยินเสียงผู้เป็นนายสบถอะไรสักอย่างออกมาก็ไม่ลืมที่จะลอบมองผ่านกระจก

“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

“ถอยกลับไปเข้าซอยเมื่อกี้”

“ครับ อ้อ..” พยักหน้ารับแล้วเลี้ยวรถกลับไปยังซอยที่ผ่านมาเมื่อครู่ รัญช์มองผู้เป็นนายผ่านกระจกหลังเพื่อรอฟังคำสั่งจนมาถึงจุดที่มีกลุ่มผู้ชายสองสามคนยืนล้อมหญิงสาวตัวเล็กอยู่เปลวเพลิงจึงสั่งให้เขาจอดแล้วเดินลงไป

“กล้าดีนะที่วิ่งตามมาถึงถิ่นพวกกู!” หนึ่งในผู้ชายสี่คนที่มีผมส้มสีส้มแจ่มจี๊ดที่สุดดังขึ้น เปลวเพลิงหรี่ตามองเด็กสาวที่เขาคิดว่าไม่น่าจะจำผิดและเมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นเด็กที่ชื่อมายาวีอะไรนั่นจริงๆ

“นะ หนูขอเงินคืนด้วยนะคะ เงินนั่นเป็นของหนู” มือเล็กยื่นไปยังตรงหน้าผู้ชายผมส้ม

“ของมึงก็ต้องอยู่ที่มึงดิวะจะมาอยู่ที่พวกกูได้ไงอีขอทาน!!”

“แต่ว่ามันเงินของหนูและพวกพี่เอามันไปนะคะ”

“ขอทานอย่างมึงจะไปมีปัญญาหาเงินมาจากไหน นอกจากไปขโมยมาน่ะสิ รึอยากให้กูไปแจ้งตำรวจมึงจะได้ติดคุก ฮ่าๆ!”

“ให้เงินพวกกูมาแล้วก็ถือว่าจบ จะได้ไม่โดนลากไปข่มขืนแล้วฆ่าหมกป่า”

“ถ้างั้นหนูขอ ขอสักพันหนึ่งนะจ๊ะ”

“กูไม่ให้!!”

“มันเงินของหนูพวกพี่ไม่ควรจะทำแบบนี้นะ”

“หุบปากแล้วไสหัวออกไปจากที่นี่ก่อนที่พวกกูจะจับมึงรุมโทรม!”

“หุบปากแล้วไสหัวออกไปจากที่นี่ก่อนที่กูจะหมดความอดทน” สุ้มเสียงทุ้มกังวานของเปลวเพลิงดึงความสนใจจากกลุ่มอันธพาลรวมไปถึงมายาวีให้หันมามอง ร่างเล็กรีบวิ่งไปยืนด้านหลังเขาอย่างไม่สนใจว่าเขาจะรังเกียจหรือไม่เพียงแต่อยากให้เขาช่วยนำเงินจากคนพวกนั้นคือให้

“คะ คุณเพลิง!!” ผู้ชายกลุ่มนั้นเรียกชื่อเขาด้วยความตกใจ

“ชอบเหรอกับการรังแกคนที่อ่อนแอกว่า กูก็ชอบเหมือนกันนะ” เปลวเพลิงถามผู้ชายวัยประมาณยี่สิบกลางๆ พร้อมกวักมือเรียกคนสนิทที่ยืนอยู่หน้ารถ รัญช์จึงวิ่งเข้ามารอฟังคำสั่งจากผู้เป็นนาย

“พวกผมไม่ได้รังแกเธอนะครับ จู่ๆ มันก็วิ่งมาจะขอเงินจากพวกผมทั้งที่มันเป็นเงินของพวกผม”

“ไม่ใช่นะคะ เงินนั่นไม่ใช่ของพวกพี่มันเป็นเงินของหนู”

“อีขอทานมึงอย่ามาพูดมั่วๆ นะ!!”

“แต่เท่าที่จำได้ กูเป็นให้เงินขอทานคนนี้เองนะ” สิ้นประโยคที่เรียบเย็นจากเปลวเพลิง ผู้ชายสามสี่คนนั้นก็ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อมองหน้ากันประมาณว่าเอาไงต่อดี

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เพลิงพิศวาส   P/4 The End

    กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ตอนที่ลูกๆ ของมายาวีเติบโตเป็นสาวเป็นหนุ่มแล้ว ณลิลในวัยสิบเจ็ดปีและเป็นหนึ่งในวัยสิบสามปี ส่วนคุณแม่ก็ปาไปสามสิบปลายๆ และคุณพ่อที่จะห้าสิบอยู่ไม่กี่ปีทว่าความรักของพวกเขากลับไม่เคยลดน้อยถอยลงเลยแม้แต่น้อย“คุณพ่อขา คุณแม่ไปไหนเหรอคะ” เสียงหวานใสของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีอย่างณลิลวิ่งเข้ามานั่งบนพื้นพับเพียงข้างผู้เป็นพ่อที่นั่งอ่านข่าวกีฬาจากไอแพดอยู่ เปลวเพลิงวางไอแพดลงยกมือขึ้นมาลูบผมบุตรสาวอย่างอ่อนโยน“คุณแม่ไปตลาดกับน้องครับ”“วันนี้วันเกิดเพื่อนหนูขอไปได้ไหมคะ?”“รอขอแม่ก่อนไหมครับ”“อือ คุณแม่ไม่ให้ไปอยู่แล้ว”“แล้วคิดว่าพ่อจะให้ไปเหรอ”“ก็คุณพ่อใจดีกว่าคุณแม่นี่คะ ณินก็ไปด้วยนะคะหนูไม่ได้ไปคนเดียว”“หนูเพิ่งอายุสิบเจ็ดเองนะ จะหัดเที่ยวกลางคืนแล้วเหรอ” ถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่แข็งหรือว่าอ่อนนุ่มจนเกินไป ณลิลขยับขึ้นไปนั่งบนโซฟายกแขนขึ้นมากอดอกแสดงท่าทาเอาแต่ใจออกมา“ไม่รักหนูแล้วล่ะสิถึงพูดแบบนี้”“ถ้าหนูดื้อพ่อก็ไม่รัก”“คุณพ่ออ่า” ขยับเข้าไปโอบกอดผู้เป็นพ่อที่มีอายุจะห้าสิบแล้วทว่าความหล่อของเขากลับไม่แผ่วลงเลยสักนิด ยิ่งอายุเยอะก็ยิ่งหล่อดึงดูดสาว

  • เพลิงพิศวาส   P/3

    ผ่านไปไม่กี่เดือนคุณแม่มือใหม่อย่างมายาวีก็ได้ให้กำเนินลูกสาว ทุกคนต่างเห่อมาก มาดูและชื่นชมกันไม่หยุดหย่อนแต่เปลวเพลิงคุณพ่อมือใหม่กับเห็นแววดื้อรั้นของลูกสาวตั้งแต่เกิดมาไม่กี่ชั่วโมง ดูจากตอนนี้ที่ร้องไม่หยุดแม้จะมีนมจากเต้าของแม่อุดปากอยู่ก็ตาม…“โอ๋ๆ หนูจะร้องทำไมลูก คุณหมอคะเขาเจ็บหรือเปล่าทำไมร้องไม่หยุดเลย” มายาวีหันไปถามคุณหมอที่กำลังยืนคุยอยู่กับเปลวเพลิงเมื่อลูกสาวตัวน้อยนั้นร้องไม่ยอมหยุด แม้จะอ้าปากคาบนมแต่ก็ยังส่งเสียงร้องออกมาด้วย“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ เด็กร้องน่ะดีแล้ว”“อ่อ เงียบแล้ว” ก้มมองเด็กน้อยในอ้อมอกที่ปิดเปลือกตาลงแล้ว ปากยังคงดูดนมเธออย่างเอร็ดอร่อย มายาวีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อลูกสาวหลับไปแล้วใช้เวลาพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลไม่กี่วันก็กลับมาเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านจนตอนนี้ครบสามเดือนแล้ว คุณแม่มือใหม่กับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นแทบทุกวันจนบางคืนคุณพลับพลึงต้องมานอนที่นี่เพื่อช่วยลูกสะใภ้เลี้ยงหลานสาวตัวน้อยที่อ้อนเก่งเสียเหลือเกิน“ณลิลน้อย ดูดนมเก่งแล้วนะเรา” เสียงหวานใสของคุณแม่ที่นั่งอุ้มเด็กน้อยอยู่ในอกดังขึ้น ดวงตากลมใสจ้องมองลูกสาวตัวน้อยที่ดูดนมจ๊วบจ๊วบหล

  • เพลิงพิศวาส   P/2

    บ้านปรัชญา…ภายในบ้านที่กำลังครึกครื้นเมื่อทุกคนยกเว้นเรมิกับรัญช์ต่างพากันมารวมตัวกันเมื่อพูดคุยสังสรรค์กันเป็นประจำแทบทุกอาทิตย์เลยก็ว่าได้ ตอนนี้ปัณณพรกับเปมิศาย้ายมาอยู่ที่บ้านของปรัชาแล้วเพราะทั้งคู่เพิ่งแต่งงานไปเมื่อเดือนที่แล้วปัณณพรแยกทางกับสามีโดยมีปรัชญาสั่งห้ามไม่ให้พ่อของเปมิศาเข้ามาวุ่นวายที่นี่แต่จะส่งเงินให้รายเดือนเอาซึ่งสองแม่ลูกตกลงเพราะสามีเอาแต่เมาไม่ทำมาหากินตัวปัณณพรจึงไม่ได้ต้องการมาสร้างปัญหาให้ตัวเองสักเท่าไหร่“แล้วทำไมหนูเรมิไม่มาล่ะ” ปัณณพรเอ่ยขณะกำลังล้างผักเพื่อเตรียมอาหารให้เด็กๆ อยู่ในครัวกับลูกสาวคนสวยที่คอยเป็นลูกมือ“ตีกันกับพี่รัญช์มั้งคะ”“ตีกีนจริงไหม?”“ก็ทะเลาะกันปกติแหละค่ะ เถียงกันนิดๆ หน่อย”“เรมิเอาแต่ใจครับ พอถูกรัญช์ตามใจก็เคยตัวแต่ช่วงนี้รัญช์มันเริ่มเอาจริงเรมิก็เลยงอแงน้อยใจ” ปรัชญาที่นั่งหั่นเนื้อสัตว์อยู่บนโต๊ะกลางครัวเอ่ยขึ้นบ้าง เขารู้มาจากเปลวเพลิงว่าช่วงนี้รัญช์ดุขึ้นซึ่งนั่นคือนิสัยที่แท้จริงของหมอนั่นและที่ดุก็คงเพราะภรรยาสาวของตัวเองคงจะดื้อมากจนเกินไป เขาไม่ได้ห้ามหรือเข้าไปยุ่งเพียงแต่แค่กำชับรัญช์ไว้แค่สองอย่างคือเรื่องนอ

  • เพลิงพิศวาส   P/1

    หลายเดือนต่อมา…“พี่เพลิงคะ” เสียงหวานของหญิงสาวร่างเล็กเอ่ยเรียกแฟนหนุ่มที่กำลังปลูกดอกไม้อยู่หน้าบ้าน เขาละมือจากงานตรงหน้าเพื่อหันไปมองแฟนสาวที่กำลังเดินตรงมาทางเขา“ว่าไงครับ?”“พี่เรมิโทรมาชวนไปนั่งเล่นที่คาเฟ่ ขอไปนะคะ”“อืม รอพี่ไปอาบน้ำก่อนนะครับ”“หนูไปคนเดียวไม่ได้เหรอคะ?”“นัดผู้ชายไว้?” ถามเสียงเข้มๆ จ้องหน้าแฟนสาวอย่างจับผิด ร่างเล็กส่ายหัวให้ก่อนจะจูงมือหนาพาเดินเข้าไปในบ้าน“มีผู้ชายให้นัดก็ดีสิคะ”“แล้วทำไมถึงอยากไปคนเดียว”“พี่เรมิอยากมาระบายเรื่องความรักกับพี่รัญช์ พี่เขาบอกว่าไม่อยากให้พี่ไปกลัวพี่จะไปหาเรื่องพี่รัญช์”“มันทำอะไรเรมิ?”“ก็แบบนั้นแหละ”“มีอะไรกันแล้ว?”“อือ”“แล้วทำไมจะต้องมาระบาย แต่งงานแล้วจะมีเซ็กส์กันก็ไม่แปลกอะไรนี่นา เรมินี่ยิ่งนับวันปัญหายิ่งเยอะนะ”“ก็เพราะแบบนี้ไงคะพี่เรมิถึงไม่อยากให้พี่ไปกับหนู”“และพี่ก็ไม่ให้หนูไปด้วยครับ ท้องอยู่เดินทางบ่อยไม่ดีอยู่บ้านนี่แหละ” บอกอย่างเป็นคำสั่งจ้องหน้าแฟนสาวด้วยสายตาแข็งๆ มายาวีจึงซบหน้าลงบนต้นแขนถูใบหน้าไปมาเบาๆ เหมือนแมวตัวน้อยที่กำลังอ้อนเจ้าของ“งื้ออ! แต่หนูอยากไป”“ไม่ครับ ขึ้นไปนอนพักบนห้อง”“พ

  • เพลิงพิศวาส   40.ครอบครัว

    หลายวันต่อมา… สุดท้ายวันที่ได้กลับมาบ้านก็ถึงสักที ร่างเล็กลงจากรถวิ่งตรงเข้าไปในตัวบ้านที่จากลาไปเสียหลายเดือนกว่าจะมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ดวงตากลมโตมองไปรอบตัวบ้านที่ยังคงใหม่สะอาดน่าอยู่เหมือนกับเมื่อก่อน “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ขาเรียวก้าวตรงไปยังรูปภาพพ่อกับแม่ที่ติดอยู่ข้างผนังบ้าน มือเล็กยื่นไปแตะใบหน้าของพวกเขาพร้อมฉีกยิ้มหวานให้ “หนูมาร์กลับมาแล้วนะแม่จ๋าพ่อจ๋า” “กลับมาแล้วก็อย่ามาส่งเสียงดังรบกวนคนอื่น” จิตรดาที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาเอ่ยขึ้น หล่อนเบะปากใส่ลูกเลี้ยงที่หันมามองก่อนจะหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่านแทนการสบตากับหญิงสาวที่เป็นเจ้าของบ้าน “พี่จันตรีล่ะคะ ไหนว่ากลับมาอยู่ที่นี่แล้ว” มายาวีเดินไปจูงมือแฟนหนุ่มแล้วพากันไปนั่งบนโซฟาตรงข้ามแม่เลี้ยงจิตรดา “อยู่ในครัว” “พี่ให้ทำขนมหวานให้เธอน่ะ” เปลวเพลิงบอกพลางโน้มใบหน้าลงมาหอมแก้มแฟนสาว มายาวีพยักหน้ารับแล้วมองแม่เลี้ยง “ไม่ได้ไปทำงานเหรอคะ?” “วันนี้หยุด” “อ่อ พี่จันก็หยุดเหรอคะ” “จะถามอะไรมากมา…” เมื่อหันไปสบกับสายตาคมกริบของเปลวเพลิงจากที่จะใส่อารมณ์กับลูกเลี้ยงจิตรดาก็ต้อง

  • เพลิงพิศวาส   39.เอากันไหม

    สิบห้านาทีต่อมา…“เมียครับ กลับบ้านกันเถอะ” เปลวเพลิงเดินผิวปากเข้ามาในร้านพร้อมเอ่ยเรียกแฟนสาว ด้านหลังเขามีปรัชญาเดินตามมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่“คุณปรัช…” เปมิศาเดินไปสำรวจใบหน้าร่างกายของปรัชญาก็พบว่าทุกอย่างปกติเหมือนตอนเดินออกไป มีเพียงแค่สีหน้าเขาเท่านั้นที่ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “เป็นอะไรเหรอคะ”“ไม่ได้เป็นไร”“แต่สีหน้าคุณดูหงุดหงิดนะคะ”“ก็ไอ้เวรนี่มันให้ฉันจัดการคนพวกนั้นคนเดียวไง!” ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ไม่สบอารมณ์“คุณปรัชจัดการคนเดียวเหรอคะ แล้วพวกนั้นมีกี่คน” มายาวีถามต่อ มองหน้าแฟนหนุ่มที่เอื้อมมือมายีผมเธอพร้อมรอยยิ้ม“ใช่ครับ มันจัดการคนเดียวพวกนั้นก็แค่ห้าคนเอง”“มันน่าภูมิใจมากไหมคะ?”“ก็ประมาณหนึ่งครับ มีพี่ชายเก่ง” ยกหน้ายกตาพูดอย่างกับภูมิใจจริงๆ มายาวีได้แต่ส่ายหน้าให้เขาเบาๆ ก่อนจะยกมือโบกลาเปมิศาแล้วเดินตามเปลวเพลิงออกไป“จันตรีล่ะคะ?”“วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนไปแล้ว”“แล้วผู้ชายพวกนั้น…”“โดนไอ้ปรัชกับไอ้รัญช์จัดการแล้ว เธออยากไปไหนไหมเดี๋ยวพี่พาไป” เปลวเพลิงหยุดเดินเมื่อมาถึงรถ เขายื่นมือไปแตะแก้มนุ่มของแฟนสาวเบาๆ ระหว่างรอคำตอบจากเธอ“อยากกลับบ้านค่ะ แต่ว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status