แชร์

บทที่23

ผู้เขียน: ต้นไม้แห้ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-09 01:58:45

[ก็ดีสิ ได้นอนหลับสนิทแบบนี้] เสี่ยวเปาเอ่ยถามออกมา

“ก็ดีน่ะซี่ แต่ว่า… ข้าว่าข้าลุกไปอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่นสักหน่อยดีกว่า” เมิ่งฮวานางเอ่ย พร้อมกับลุกขึ้นจากที่นอนแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปทันที

……

หลังจากที่เมิ่งฮวาอาบน้ำแต่งตัวใหม่เรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าห้องครัวเพื่อที่จะทำแซนด์วิชง่ายๆ กินรองท้องเพราะอาหารเช้าเมิ่งฮวานางไม่ค่อยจะชอบกินอะไรที่มันหนักท้องจนเกินไปนัก ซึ่งเมิ่งฮวานางก็คิดว่าจะทำแซนด์วิชทูน่านั่นเอง คิดได้ก็ลงมือทำทันที… นางจัดการตั้งกระทะเทฟลอนโดยที่ใช้ไฟอ่อน วางขนมปังโฮลวีทลงไปปิ้งพอกรอบ ตักใส่จานพักไว้ จากนั้นนางก็หันมาทำสลัดทูน่า โดยที่ใช้ทูน่าในน้ำแร่ผสมกับแครอทและแตงกวาญี่ปุ่นหั่นเต๋าเล็ก ๆ บีบมะนาวลงไปนิดหน่อย ก่อนที่จะคลุกเคล้าเบา ๆ ให้เข้ากัน จากนั้นตักโรยลงบนขนมปังที่เตรียมไว้ จากนั้นก็นำขนมปังกระกบกันแล้วก็จัดการใช้มีดผ่าครึ่งเป็นสามเหลี่ยมจัดใส่จานให้เรียบร้อย

เมื่อทำแซนด์วิชเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จัดการเทน้ำส้มคั้นใส่แก้ว กับน้ำเปล่าอีกหนึ่งแก้ว แล้ววางจัดแก้วน้ำกับจานแซนด์วิชใส่ถาดแล้วจึงถือถาดไปนั่งกินที่โต๊ะอาหาร

“อื้ม… อร่อยจริงๆ เล๊ย งั่มๆ …ข้าล่ะอยากให้เจ้าได้ลองชิมฝีมือข้าจริงๆ เลยนะเสี่ยวเปา” เมิ่งฮวาที่กำลังกัดขนมปังอยู่ก็เอ่ยพูดออกมา

[แล้วเจ้าไม่ถามข้าหน่อยรึ ว่าข้าอยากจะชิมฝีมือเจ้าหรือไม่?]

“ฮึ้ย! เจ้านี่นะ… ชอบพูดจาขัดคอข้าเสียจริงเลย ข้าไม่อยากคุยกับเจ้าแล้ว!” เมิ่งฮวานางทำท่าทีฉุนเฉียว พร้อมกับอ้าปากกัดขนมปังด้วยความโมโห

[ข้าก็พูดเล่น เจ้าจะโมโหไปใยเล่า] เสี่ยวเปาเอ่ยอย่างเสียงอ่อนๆ

“เชอะ! ข้าไม่คุยแล้วข้าจะกินอาหารเช้า!” เมิ่งฮวาเอ่ยออกมาด้วยความแง่งอน

[ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เจ้าโกรธนะ]

“หึ… ก็ได้!”

[ถ้าเจ้าหายโกรธแล้ว ข้าก็มีของให้เพื่อที่จะไถ่โทษเจ้า…] เสี่ยวเปาเอ่ยออกมา

“หืม? ของไถ่โทษอันใดรึ” เมิ่งฮวาเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย พร้อมกับเคี้ยวขนมปังจนแก้มตุ่ย

[เอาไว้เจ้ากลับมาจากไปหมู่บ้านหนีหรู่แล้วข้าค่อยบอกเจ้าก็แล้วกัน]

เมิ่งฮวานิ่งเงียบอยู่พักนึง ก่อนที่จะเอ่ยตอบออกมา

“อืม… โอเค! ได้” เมิ่งฮวาที่เอ่ยจบแล้ว ก็หันมาสนใจกับการกินแซนด์วิชต่อ

หลังจากที่เมิ่งฮวากินแซนด์วิชจนอิ่มแล้ว นางก็ถือจานกับแก้วน้ำเข้าครัวเพื่อไปล้าง แล้วเก็บคว่ำไว้จนเป็นระเบียบ ก่อนที่เดินกลับไปในห้องนอนแล้วหยิบหนังสือการ์ตูนมานอนอ่านฆ่าเวลา เมื่ออ่านไปได้สักพักก็หันมาเอ่ยถามกับเสี่ยวเปา

“เสี่ยวเปา เอกสารสัญญาที่ข้าให้เจ้าทำให้ข้าเล่าอยู่ที่ใด? ”

[อยู่ในลิ้นชักตรงหัวเตียงเจ้านี้อย่างไรเล่า ลองเปิดแล้วอ่านดูสิ]

เมิ่งฮวาไม่ได้เอ่ยตอบอะไรเสี่ยวเปา แต่วางหนังสือการ์ตูนลงบนเตียงแล้วหันมาที่หัวเตียงเปิดลิ้นชักออกก็เห็นซองเอกสารสีน้ำตาลอยู่ จึงหยิบออกมาจากลิ้นชักก่อนที่จะเปิดอ่านดูเพื่อตรวจสอบ… แต่พออ่านดูทั้งหมดแล้วก็พยักหน้าออกมาเพราะเสี่ยวเปาทำออกมาได้ดีมากๆ ครบถ้วนดีทุกอย่าง จึงเก็บกระดาษเอกสารใส่ซองเอกสารไว้อย่างเดิมแล้ววางเอกสารสัญญาไว้บนโต๊ะตรงหัวเตียง

[เป็นอย่างไร? เอกสารสัญญาที่เจ้าให้ข้าทำถูกต้องดีหรือไม่] เสี่ยวเปาเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ แต่มันก็เชื่อมั่นในระบบแห่งโลกอนาคตของตนเองเช่นเดียวกันว่าจะไม่มีผิดพลาดอย่างแน่นอน

“เจ้าทำดีมาก ขอบใจเจ้านะเสี่ยวเปา… ถ้าไม่มีเจ้าข้าคงต้องแย่แน่ๆ ” เมิ่งฮวาเอ่ยขอบคุณเสี่ยวเปาออกมา พร้อมกับพูด

[เจ้าอย่ามาดึงข้าดราม่าด้วยจะได้หรือไม่] เสี่ยวเปาที่รู้สึกดีกับคำพูดของเมิ่งฮวา แต่ก็ไม่วายที่กล่าวค่อนแคะเมิ่งฮวากลับเหมือนดั่งเช่นเคย

“เจ้านี่มันชอบขัดข้าตลอดเลยจริงๆ …อีกอย่างนะข้าไม่ได้จะดึงเจ้าดราม่าด้วยสักหน่อย เจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้าสิ” เมิ่งฮวากอดอกพร้อมกับแสร้งเชิดหน้าขึ้นด้วยความโมโห ก่อนจะเอ่ยตำหนิเสี่ยวเปา

[มีข้าให้คอยเถียงเจ้าจะได้ไม่รู้สึกเหงาไง เจ้าไม่ดีใจหรือไง?] เสี่ยวเปาเอ่ยถามกลับมา

“แต่เจ้ากับข้าก็ไม่ต้องตีกันตลอดก็ได้กระมัง? เห้อ ข้าไม่เถียงกับเจ้าละ”

[ได้ได้ ไม่เถียงก็ไม่เถียง แล้วเจ้าจะไปหมู่บ้านหนีหรู่ยามใดเล่า?]

“อืม… ไปยามเฉิน (07:00-08:59 น.) ก็แล้วกัน อากาศไม่ร้อนเกินไป” เมิ่งฮวาทำท่าครุ่นคิด ก่อนที่จะเอ่ย

[ก็ดี เจ้าขี่ม้าเองด้วยหากไปสายกว่านี้อาจจะร้อนเอาได้]

“จริงอย่างที่เจ้าว่า” เมิ่งฮวาพยักหน้าออกมาอย่างเห็นด้วย เสี่ยวเปาก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาอีก

หลังจากนั้นเมิ่งฮวาก็หันกลับมาทิ้งกายนอนลงบนเตียงแล้วหยิบหนังสือการ์ตูนที่วางทิ้งไว้มาอ่านต่อ

……

ยามเฉิน (07:00-08:59 น.)

ตอนนี้เมิ่งฮวาได้ขี่ม้าออกมาจากหมู่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กำลังมุ่งไปยังหมู่บ้านหนีหรู่ที่อยู่ห่างไปอีก3หมู่บ้าน ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณ1ชั่วยามเห็นจะได้

.

.

หลังจากที่เมิ่งฮวาขี่ม้ามาได้พักใหญ่นางก็มาถึงหมู่บ้านหนีหรู่แล้วเรียบร้อย นางจอดม้าถามชาวบ้านเป็นระยะๆ จนกระทั่งก็มาหยุดอยู่บ้านบ้านหลังหนึ่งที่มีขนาดไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่ แต่ดูเก่าคร่ำครึไปเสียหน่อย แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเค เพราะต่อให้จะดูเก่าแต่ก็ถูกดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดี…

เมื่อกวาดตาสำรวจไปจนทั่วแล้วนางก็กระโดดลงจากหลังม้า แล้วนำม้าไปผูกตรงต้นไม้ใหญ่ที่ร่มเงาก่อนที่จะนำน้ำวารีสวรรค์ในกระบอกมาเทป้อนม้า แล้วเดินกลับมายังประตูบ้านหลังเดิม

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่63

    หลังผ่านเหตุการณ์สั่นคลอนชะตาทั้งหลายที่ปราสาทอู่หวัง และผ่านช่วงเวลาพักรักษาตัวอยู่ในจวนใหญ่ของโจวจางเหว่ย ในที่สุดนางก็สามารถฟื้นตัวคืนกำลังได้เกือบเต็มร้อย พลังลี้ลับจากเลือดมังกรในกายไม่ปรากฏอาการร้อนผ่าวอีกแล้ว เธอสัมผัสได้ว่าบัดนี้ตนไม่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งเช่นเดิมอีกต่อไปในเช้าวันแดดจัดที่มีเมฆลอยเรียงกันประปราย โจวจางเหว่ยได้จัดเตรียมรถม้าอย่างเรียบง่าย พาเมิ่งฮวาออกเดินทางกลับหมู่บ้านซานซี อันเป็นดินแดนเล็กๆที่เธอเคยใช้ชีวิตเรียบง่ายร่วมกับ ท่านลุงลี่คุน และท่านป้าลี่จูเสมอมาเมิ่งฮวามองเห็นทิวเขาคุ้นตาแต่ไกล ยิ่งใกล้ซานซีเท่าไรเธอยิ่งรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ นึกถึงวันที่ยังใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ไม่ต้องพัวพันกับเลือดมังกรหรือการเมืองใดๆ เมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้านเธอเห็นรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของโจวจางเหว่ย และสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นๆที่พัดมาเหมือนยินดีต้อนรับการกลับมาของเธอเมื่อรถม้าวิ่งเข้าเขตบ้านลุงลี่คุน ท่านป้าลี่จูก็ปราดออกมาต้อนรับทันทีด้วยรอยยิ้มที่แสดงถึงความห่วงใย“อาเมิ่ง! เจ้าไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?” ท่านป้าลี่จูรีบเข้ามาจับมือเมิ่งฮวา ตรวจดูกันตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับหล

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่62

    เสียงก้องสะท้อนในห้องมังกรใหญ่ยังคงโหมกระพือ เสาหินรอบข้างสั่นไหวราวกับจะถล่มลงทุกเมื่อ อานุภาพมหาศาลจากแกนมังกรแผ่กระจายเป็นวงกว้าง ทำให้อากาศสั่นระริกจนทุกคนที่อยู่ในห้องรู้สึกหายใจลำบากเมิ่งฮวายืนอยู่ตรงกลางวงแสงสีทองที่ปะทุจากจุดศูนย์กลางของแท่นบูชา เหงื่อและเลือดไหลอาบบนใบหน้าที่เธอไม่อาจรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้อีก ในจิตใจเธอมีเสียงสองกระแสคอยก้องสลับไปมา‘หลอมรวม… เพื่อเป็นผู้ครองพลัง! หรือทำลาย… เพื่อยุติความวุ่นวาย!’เบื้องหน้าเธอคือรูปสลักมังกรที่ดูเหมือนมีชีวิต แผ่นโลหะหนาทึบบนอกรูปสลักเริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆเผยให้เห็นแกนมังกรคล้ายลูกแก้วสีทองสะท้อนแสงในมือเมิ่งฮวา อำนาจโบราณจากยุคสมัยราชวงศ์เก่ากำลังตื่นขึ้นพร้อมแรงกดดันอันเกรี้ยวกราดขณะที่คลื่นพลังปกคลุมห้องมังกรอย่างหนักหน่วง เหล่ามือสังหารที่ยังมีสติอยู่ก็ต้องคุกเข่าหรือหมอบกับพื้น องครักษ์ของโจวจางเหว่ยที่ยังยืนก็แทบจะทรงตัวไม่อยู่ บางคนถูกแรงอัดดีดกระเด็นไปยังซอกกำแพงโจวจางเหว่ยตะเกียกตะกายลุกขึ้น มือกำกระบี่ที่สั่นระริก พยายามฝ่าคลื่นพลังเข้ามาหาเมิ่งฮวา“ฮวาเออร์!” เขาเรียกสุดเสียง แต่ถูกแรงอัดบีบจนขยับได้ยากเต็มที

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่61

    แสงสีทองแห่งแกนมังกรที่ซ่อนอยู่ภายในร่างโลหะของมังกรส่องสว่างออกมาจากกลางแท่นบูชาอย่างน่าพิศวง บรรยากาศในห้องใต้ดินอันกว้างใหญ่ชวนให้รู้สึกถึงความเก่าแก่และพลังลี้ลับที่สั่งสมมานับศตวรรษเมิ่งฮวายืนนิ่งหัวใจเต้นระรัวเมื่อตระหนักว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ‘หัวใจ’ของอู่หวังที่แท้จริง ต้นกำเนิดแห่งอำนาจซึ่งเหล่ากบฏกำลังตามหามาโดยตลอดขณะที่เมิ่งฮวากำลังไล่สายตาสำรวจรูปสลักมังกรขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะมีชิ้นส่วนโลหะพิเศษครอบอยู่เป็นเกล็ด การเต้นของเลือดในร่างกายเธอก็เร่งจังหวะไม่หยุดราวกับสายเลือดตอบสนองต่อบางสิ่งที่เปล่งพลังงานอยู่เบื้องหน้า“ฮวาเออร์…” โจวจางเหว่ยเรียกเธอเสียงเบา มือกำกระบี่ข้างกายแน่น เขามองสถานการณ์ด้วยความระแวดระวังเพราะอาจมีศัตรูโผล่มาได้ทุกเมื่อ “เจ้ารู้สึกไหมว่าพลังนี้กำลังเรียกหาเจ้า?”เมิ่งฮวาพยักหน้าเล็กน้อยสีหน้าสับสนแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นางไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ก้าวเข้าใกล้แท่นบูชามากขึ้นทีละนิดโดยมีโจวจางเหว่ยตามมาคุ้มกันไม่ห่างบริเวณโดยรอบแท่นบูชามีร่องรอยภาพสลักเก่าแก่บนกำแพงหินและพื้น บ้างเป็นรูปมนุษย์แต่งกายหรูหรายืนล้อมมังกร บ้างเป็นรูปผู้คนคุกเข่าบูชา

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่60

    การต่อสู้ในโถงมังกรยังคงดุเดือด ดาบกระทบกันเสียงดังสนั่น เสียงเหล็กเสียดสีกันดังไปทั่วทุกมุมโถง บางครั้งสายตาของเมิ่งฮวาก็เหลือบไปเห็นบันไดลับที่เปิดลงไปยังส่วนลึกของปราสาท อาการบาดเจ็บจากการต่อสู้รุนแรงทำให้ความคิดของเธอพร่าเบลอ แต่เธอรู้ดีว่าถ้าไม่รีบตัดสินใจตอนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้พวกเขาพลาดโอกาสสำคัญไปท่ามกลางการต่อสู้ที่รุนแรงนักฆ่าหลายคนเริ่มแยกตัวออกไป โดยมีท่าทางเหมือนจะเริ่มมีกลยุทธ์บางอย่าง การโจมตีของพวกมันแม่นยำและรวดเร็ว หลายครั้งที่เมิ่งฮวากับโจวจางเหว่ยต้องใช้กลยุทธ์หลบหลีกและโจมตีสวนกลับ หากพวกเขายังไม่สามารถหยุดยั้งพวกมันได้ กลุ่มของพวกเขาจะต้องถูกต้อนให้มุมในไม่ช้า“พวกมันกำลังพยายามล่อเราไปที่มุม!” เมิ่งฮวาตะโกนเตือน โจวจางเหว่ยหันไปมองเธอด้วยความเป็นห่วงแต่เขาก็ไม่มีเวลาพูดอะไร เพราะมือสังหารอีกคนพุ่งมาที่เขา โจวจางเหว่ยต้องหลบการโจมตีและสวนกลับด้วยกระบี่ในมือ“ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าหลบหนีไปได้แน่!” เขาตะโกนสั่งองครักษ์ที่ยืนข้างๆ พลางฟันกระบี่ของตนอย่างแม่นยำเสียงของดาบกระทบกันดังตึงตังจนหลายคนสะดุ้ง แต่ท่ามกลางความยุ่งเหยิงนั้น เมิ่งฮวามองเห็นช่องว่างระห

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่59

    ความเงียบงันที่ปกคลุมอุโมงค์หินถูกแทนที่ด้วยเสียง ครืด… ครืด… ที่ดังสะท้อนก้องจนเสียดหู เมิ่งฮวาและโจวจางเหว่ย ยืนประจันหน้ากับเงาดำขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ตรงส่วนปลายทางเดิน โดยมีองครักษ์อีกสองนายจับอาวุธเตรียมพร้อมในท่าทีตื่นตัวพอแสงคบไฟสาดส่องไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆก็ปรากฏให้เห็นเงาร่างเหมือน “รูปสลักมังกร” ขนาดใหญ่หินแกะสลักที่ลำตัวยาวเลื้อยไปตามผนัง มีส่วนหัวโผล่พ้นขึ้นจากพื้นหินชนิดที่เห็นฟันแหลมคมรางๆ ดวงตาของมันเป็นอัญมณีสีเขียวเข้มสะท้อนแสงไฟพราวระยับ จนดูราวกับมันกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่จริงๆเมิ่งฮวารู้สึกถึงเลือดในกายสูบฉีดเร็วขึ้น สัญชาตญาณบางอย่างร้องเตือนว่าสิ่งนี้มิใช่เพียงรูปสลักธรรมดา เหมือนมีพลังลี้ลับแผ่ออกมาจากตัวมัน“นายท่าน… นี่มัน… เคลื่อนไหวได้หรือขอรับ?” องครักษ์คนหนึ่งถามเสียงเบาหวิว มือกำกระบี่ไว้จนข้อขาวโจวจางเหว่ยไม่ตอบ เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวโดยที่ยังไม่ลดกระบี่ เสียงหินเสียดสีกันดังครืดอีกครั้ง ขณะเดียวกันรูปสลักมังกรก็ขยับคอไปด้านข้างช้าๆก่อให้เกิดความรู้สึกขนลุกพิลึก“รูปสลักนี้มีกลไกด้านใน… หรืออาจเป็นกับดักที่ใช้แรงคนหมุน?” เขาพึมพำ แต่ความสงสัยกลับเร้าใจขึ

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่58

    ท่ามกลางกลิ่นอับชื้นและความเยียบเย็นของห้องหิน ขบวนของเมิ่งฮวาและโจวจางเหว่ยตัดสินใจหยุดพักชั่วคราวเพื่อฟื้นแรงและประเมินสถานการณ์ โดยมีองครักษ์สองนายผลัดกันออกไปยืนเฝ้าที่ปากอุโมงค์เพื่อป้องกันมือสังหารศัตรูที่อาจกลับมาได้ทุกเมื่อเมิ่งฮวานั่งพิงกำแพงที่ขรุขระ หายใจผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยหลังจากผ่านการต่อสู้อันบีบคั้น เหลือบมองสมาชิกในขบวนที่ได้รับบาดเจ็บก็กำลังนั่งพักผ่อนเช่นกัน บางคนก็หลับตาปลดปล่อยความตรึงเครียดโดยมีอาวุธวางข้างตัวไม่ห่าง“ทุกคนเหนื่อยกันมาก…” โจวจางเหว่ยเอ่ยเสียงเบา ดวงตาเข้มทอแววห่วงใย “แต่เรายังต้องก้าวต่อไป หากพ้นคืนนี้แล้วเดินไปอีกไม่ไกลก็อาจถึงใจกลางอู่หวัง”เมิ่งฮวาพยักหน้ารับ เธอเองก็รับรู้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่ลึกลงไปในภูเขานี้ คล้ายกับว่ามันรอให้เธอมาค้นพบมานานแสนนาน“นายท่าน!” องครักษ์คนหนึ่งที่เดินตรวจลึกเข้าไปในอุโมงค์ร้องเรียกเบาๆ สะท้อนเสียงมาไกล ราวกับค้นพบอะไรบางอย่างโจวจางเหว่ยและเมิ่งฮวาลุกขึ้นทันที นำองครักษ์บางส่วนถือคบไฟตามเข้าไปยังโพรงแคบภายในห้องต่อไปในโพรงนั้น… พื้นหินเรียบแต่ผนังสองข้างกลับคดเคี้ยวด้วยลวดลายสลักเป็นรูปคนและสัตว์ในท่าทางแป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status